Share

ไม่รู้ตัว

‘ อ้อ!..นึกออกแล้ว มิน่าล่ะ ถึงหลุดคำพูดออกมาตอนที่ก้าวเข้ามาบนเครื่องในตอนแรก ว่าสามารถเหมาเครื่องบินทั้งลำได้เลยหากว่าใครไปขัดเขา เฮอะ...คงนึกอยากลองทำตัวจนดูบ้างล่ะสิ พวกคนรวยที่เบื่อความโก้หรู เบื่อความสะดวกสบาย อยากได้อะไรก็ได้มาง่าย ๆ จนรู้สึกเซ็ง เลยลองเปลี่ยนบรรยากาศล่ะสิท่า’

 

  แวบหนึ่ง หญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เครื่องลงจอดสนิทยังสนามบิน ในขณะที่หล่อนกำลังเตรียมตัวจะออกจากที่นั่ง อยู่ดี ๆ เขาก็หันมาจ้องหน้า มองหล่อนด้วยสายตาหมายมาด ก่อนจะเอ่ยเนิบ ๆกับเธอ ‘แล้วเจอกันนะ แม่แมวน้อยขี้เซา’ จากนั้นเขาก็หันหลังเดินห่างออกไป ทุกที ทุกที จนลับสายตา ทิ้งให้น้ำรินยืนนิ่งไม่ไหวติงไปชั่วขณะ มารู้ตัวอีกทีเมื่อได้ยินแอร์สาวใจดี ช่วยปลุกให้หล่อนตื่นจากภวังค์ แมวน้อยขี้เซาอย่างนั้นหรือ เขามีสิทธิ์อะไรมาเรียกหล่อนว่าแมวน้อย หรือว่า ตอนที่อยู่บนเครื่อง หล่อนเผลอหลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว แอบซุกไซ้ หาความอบอุ่นเอากับอกกว้างของเขาจะนับว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะที่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาถึงแม้จะไม่กี่ประโยคก็เถอะ หญิงสาวรู้สึกลึก ๆ ในใจว่า ผู้ชายคนนี้อันตราย ไม่สมควรเข้าใกล้ รู้สึกถึงอำนาจบางอย่าง ซึ่งบ่งบอกถึงลางร้าย แววตาหมายมาดที่ส่งมา มันสามารถตรึงหล่อนให้อยู่นิ่งโดยไม่ต้องใช้คำพูดได้เลยด้วยซ้ำ

 

น้ำรินอ่านรายละเอียดในข่าว ทำให้พอจะทราบว่า นายฮิโรยูกิ จะมาจัดแสดงเครื่องเพชรที่ประเมินมูลค่าไม่ได้อะไรนั่น ที่โรงแรมนี้ และตัวเขาเองก็ได้เข้ามาพักที่นี่ บนชั้นสูงสุด นั่นคือชั้นที่สิบสอง เครื่องเพชรของเขาจะถูกนำไปจัดแสดงที่ห้องรอยัลรูมบนชั้นลอย และจะมีการเปิดให้แขกรับเชิญ ในระดับต่าง ๆ ซึ่งคงจะเป็นผู้มีชื่อเสียงจากหลายวงการเข้ามาชมในวันนี้ งานจะเริ่มประมาณหนึ่งทุ่มตรง ส่วนคนทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้ในวันถัดไป

 

 

มื้อเช้าของน้ำรินคือ กาแฟหนึ่งถ้วย กับขนมปัง หรือไม่ก็แซนวิช แค่นี้ก็ทำให้หล่อนทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสบาย วันนี้หล่อนคาดไว้ว่าจะเช่าจักรยานที่ร้านข้างโรงแรม ปั่นเล่นแถวนี้สักพัก หลังจากนั้น กะว่าจะไปนั่งรับลมเย็นริมทะเลให้ฉ่ำปอดไปเลย เท่านี้สินะการมาเที่ยวคนเดียว มันไม่สนุกเอาเสียเลย น้ำรินรู้สึกเสียดายบรรยากาศ ถ้าหากมีเพื่อน ๆ มาด้วยก็คงจะดี ก่อนมาหล่อนชวนเพื่อนมาด้วยกัน แต่ทุกคนไม่ว่างเลยสักคน เฮ้อ! ในช่วงสามสี่วันนี้ก็คงต้องไปตามโปรแกรมทัวร์ของทางโรงแรมคงสนุกแหละนะ ขากลับเข้ามาค่อยสอบถามรายละเอียดอีกทีก็แล้วกัน

 

          น้ำรินรู้สึกแปลกใจยังไงพิกล ตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากห้องพักแล้ว เหมือนมีใครคอยจับตามองอยู่ตลอด จากที่ไหนสักแห่ง หญิงสาวมีลางสังหรณ์ว่า ชีวิตที่เป็นอิสระของหล่อนจะไม่เป็นอย่างนี้อีกต่อไป เหมือนมีอะไรมาครอบงำ พลางหันมองหน้ามองหลัง เหลียวซ้ายแลขวา ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา..หรือว่าจะคิดไปเอง เรานี่ท่าจะบ้า ตั้งแต่เจอผู้ชายคนนั้น การเจอกันระหว่างเขากับหล่อน ทำเอาประสาทหลอนขนาดนั้นเลยหรือนี่ ไม่เอา ๆ ไม่คิด น้ำรินส่ายหัวไปมาเบาๆ เพื่อสลัดความวิตกกังวลที่มีอยู่ในใจออกไป ก่อนจะเริ่มปั่นจักรยานที่เพิ่งเช่ามาได้ ออกสู่ถนนสายเล็ก ๆเบื้องหน้า

 

        แสงแดดยามเช้า ลมเย็น พัดเอื่อย ๆ อย่างนี้ช่างรื่นรมย์นักส่งบรรยากาศให้เช้าวันนี้ เป็นวันที่เหมาะแก่การพักผ่อนเหลือเกิน แน่ล่ะ..หญิงสาวจะไม่มีวันรู้หรอกว่า วันพรุ่งนี้ของหล่อนจะเปลี่ยนไปอย่างไร ลางสังหรณ์จะช่วยเตือนให้ระวังตัวมากน้อยแค่ไหน จะมีอะไรไหมที่จะบอกให้รู้ว่า อนาคตอันใกล้นี้จะเป็นเช่นไร ไม่มีทางรู้เลย..

 

        เงาสะท้อนจากเลนส์กล้องส่องทางไกล ที่ทอดลงจากห้องสุดหรูบนชั้นสิบสองของโรงแรม กำลังฉายภาพเบื้องล่าง บนถนนสายเล็กด้านล่างนั่น มีหญิงสาวร่างเล็ก แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวสะอาดตา ขนาดพอดีตัว กับกางเกงวอร์มผ้าร่ม รองเท้าผ้าใบแบบนักกีฬา หึ..เสื้อผ้าราคาถูกทั้งนั้น ไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่เรียกความน่าสนใจมากกว่านั้น ก็คือ..สร้อยคอของหล่อน หากเดาราคาก็พอจะดูออกว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่มีคลาสในการแต่งตัวเอาเสียเลย แหวนเพชรวงเล็ก ๆ ที่ถูกคล้องด้วยสร้อยคอไม่มีค่านั่นต่างหาก ที่ดูมีค่า มีราคามากกว่า

 

     หล่อนไปได้แหวนเพชรนั่นมาจากไหน ไม่น่าเชื่อว่าการมาเมืองไทยในครั้งนี้ของเขา จะไม่สูญเปล่าเหมือนทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา อีกต่อไปแล้ว เขาเดินทางเข้าออกเมืองไทย นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อหาแหวนเพชรวงนั้น แค่แวบเดียวที่ได้เห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นวงเดียวกับที่ตามหาอยู่ 

 

       ท่านปู่คงดีใจ ที่จะได้แหวนวงนั้นกลับคืนมา พร้อม ๆ กับอาจจะหาเจ้าของตัวจริงได้ในเร็ววัน ไม่แน่อาการป่วยของท่านคงจะทุเลาลงบ้าง หรืออาจจะหายไปได้เลยทีเดียว เพื่อของสิ่งนี้เขาต้องเดินทางหาจนแทบพลิกแผ่นดิน ตัวเขาเองไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากมายนัก เมื่อครั้งที่ยังเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส เขาได้รับคำสั่งให้เรียนภาษาไทยไปด้วย แรก ๆ นั้นเขายังงุนงงสงสัย หากไม่ได้ถามออกไป แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งท่าน โดยได้เรียนภาษาไทยควบคู่ไปด้วย จนกระทั่งจบการศึกษาและกลับมาที่ญี่ปุ่นเพื่อสืบสานธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีเพชรพลอย

 

      หลังจากนั้นไม่นาน ปู่ของเขาก็ล้มป่วยลง กลายเป็นคนเงียบขรึมไม่พูด ไม่จากับใครแม้กระทั่งหลานรักอย่างเขา ก่อนที่จะป่วยผู้สูงวัยเคยบอกให้เขาค้นหาแหวนเพชรวงหนึ่ง ซึ่งท่านบอกว่ามันสำคัญสำหรับท่านมาก  มันเป็นความทรงจำเมื่อสมัยยังวัยรุ่น ท่านได้มอบแหวนเพชรวงนั้นกับสาวชาวไทย หวังให้เป็นสิ่งยืนยันความรักระหว่างทั้งสอง แต่หนทางความรัก ระหว่างท่านปู่กับสาวไทยผู้นั้นเป็นอันต้องสิ้นสุดลง เพราะตระกูลเคร่งครัดประเพณีเก่าแก่ยิ่งนัก ไม่ให้แต่งงานกับคนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา อย่างเด็ดขาด แม้จะถูกกีดกันแต่ท่านทั้งสองก็พยายามฝ่าฟัน 

 

        แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงก็ยอมพ่ายแพ้ หนีกลับมาเมืองไทย ขาดการติดต่อนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ท่านปู่ยังออกตามหาหญิงไทยคนนั้นจนแทบพลิกแผ่นดิน ทำทุกวิถีทางเพื่อหาหล่อนให้เจอ แต่ด้วยกฎเกณฑ์ทางกฎหมายบังคับให้ท่านทำอะไรไม่ได้มาก กระนั้นท่านก็ยังไม่ลดละ ยังคงตามหาหล่อนตลอดมา กระทั่งปัจจุบันนี้ ท่านก็ยังอยากให้เขาค้นหาตัวผู้หญิงไทยคนนั้นพร้อมกับแหวนเพชรให้พบ  ไม่ว่าจะกลับมาในสภาพใดก็ตาม ไม่อย่างนั้น ท่านจะไม่มีวันพูดกับใครเด็ดขาด

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status