นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง

นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
โดย:  Lovedee  อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
6บท
11views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
แสดงความคิดเห็นของคุณในแอพพลิเคชัน

เจ้าเหม่ยอิงอดีตคุณหนูคหบดีใหญ่ที่ครอบครัวถูกเนรเทศเหลือเพียงนางที่ถูกขายให้กับหอคณิกา แต่โชคร้ายหรือดีก็ไม่รู้ได้ หอคณิกาแห่งนั้นเจ้าของคือคุณชายหยางตงเหวินที่เคยเป็นอดีตคู่หมั้นที่ถูกเหม่ยอิงปฏิเสธการแต่งงานเพราะครอบครัวของเขาตกอับ บิดาที่เป็นแม่ทัพพ่ายศึกจึงถูกริบทรัพย์สินและจวนทั้งหมดให้เป็นของทางการ ส่วนบริวารคนรับใช้ถูกขายออกไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงมารดาของเขาและตัวเขาเองที่ถูกยกเว้นโทษ แต่ก็มิเหลืออะไรเลย บิดาก็ตายในสนามรบ เมื่อมารดาบากหน้าไปทวงถามเรื่องการหมั้นหมายกับสหายของบิดาที่เป็นคหบดี แต่เขากลับได้ยินกับหูว่าบุตรสาวของคหบดีที่เป็นคู่หมั้นของเขามาตั้งแต่เด็กปฏิเสธการแต่งงานเพราะครอบครัวของเขาตกยาก ไร้สิ้นทรัพย์สมบัติและอำนาจใดๆ นางมิอาจแต่งงานกับชายที่มิมีอนาคตเช่นเขาได้ เมื่อได้ยินคำพูดนี้กับหูตนเอง เขาจึงได้รีบพามารดาเดินออกมาจากจวนคหบดีกู้เผยอี้ที่เป็นอดีตสหายของบิดา หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีคุณชายหยางตงเหวินก็กอบกู้ฐานะของตนขึ้นมาได้ด้วยการค้านอกกฏหมายหลายอย่างเขามีแรงผลักดันจากถ้อยคำของอดีตคู่หมั้นผู้งดงามที่เขาเองก็แอบหลงรักนางและแอบเฝ้ามองนางข้างเดียวมาหลายปี และก็ถึงเวลาสำหรับการแก้แค้นที่หอมอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก

ดูเพิ่มเติม

บทล่าสุด

การดูตัวอย่างฟรี

บทที่ 1 ซื้อตัวนางมาแก้แค้น

“ นายท่านเจ้าคะ หญิงที่ให้ไปซื้อตัวมาตอนนี้มาถึงเจ้าค่ะ จะให้นางพักที่เรือนแถวด้านหลังร้านเลยหรือไม่เจ้าคะ ” เสียงแม่เล้าที่ดูแลกิจการหอคณิกาแห่งนี้ให้เขาเอ่ยถามขึ้น บุรุษในชุดสีเทารูปร่างงามสูงใหญ่ ท่านทางผึ่งผายองอาจยิ่งนัก เขายืนอยู่ตรงริมหน้าต่างบานกว้างที่มองลงไปเห็นด้านหน้าของหอคณิกาแห่งนี้ชัดเจน เขายืนอยู่ตรงนี้ได้พักใหญ่แล้วเพื่อเฝ้ามองมาอย่างที่เขารอคอยมานานหลายปีเมื่อเห็นหญิงสาวผู้นั้นถูกมัดมือไว้ทั้งสองเสื้อผ้าที่เคยงดงามยามสวมใส่ในร่างอวบอิ่มของนางนั้นมันขะมุกขะมอมยิ่งนัก แต่ให้นางอยู่ในสภาพโทรมแค่ไหนเขาก็จดจำนางได้ จ้าวเหม่ยอิง หญิงที่เป็นทั้งอดีตหญิงที่เขาเคยหลงรักหัวปักหัวปำกับหญิงที่เขาแค้นเคืองนางจนแทบกระอักคือหญิงผู้เดียวกันนี้ เขายืนเฝ้ามองตั้งแต่นางก้าวลงมาจากรถม้าและลงมายืนหน้าอาคารของหอคณิกาและถูกคนของเขาฉุดลากเข้าไปในอาคารจนลับสายตาของเขา ริมฝีปากหนายกขึ้นน้อย จนกระทั่งได้ยินเสียงของฟางเซียนแม่เล้าที่เขาไว้วางใจให้ดูแลหอคณิกาแห่งนี้ เขาช่วยนางไว้จากซ่องนางโลมแห่งหนึ่งเพราะนางถูกทรมานและกดขี่ แต่เมื่อเขาได้ช่วยซื้อตัวนางมาและให้นางมาดูแลกิจการหอคณิกาเริงสำราญแห่

หนังสือน่าสนใจจากยุคเดียวกัน

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
6

บทที่ 1 ซื้อตัวนางมาแก้แค้น

“ นายท่านเจ้าคะ หญิงที่ให้ไปซื้อตัวมาตอนนี้มาถึงเจ้าค่ะ จะให้นางพักที่เรือนแถวด้านหลังร้านเลยหรือไม่เจ้าคะ ” เสียงแม่เล้าที่ดูแลกิจการหอคณิกาแห่งนี้ให้เขาเอ่ยถามขึ้น บุรุษในชุดสีเทารูปร่างงามสูงใหญ่ ท่านทางผึ่งผายองอาจยิ่งนัก เขายืนอยู่ตรงริมหน้าต่างบานกว้างที่มองลงไปเห็นด้านหน้าของหอคณิกาแห่งนี้ชัดเจน เขายืนอยู่ตรงนี้ได้พักใหญ่แล้วเพื่อเฝ้ามองมาอย่างที่เขารอคอยมานานหลายปีเมื่อเห็นหญิงสาวผู้นั้นถูกมัดมือไว้ทั้งสองเสื้อผ้าที่เคยงดงามยามสวมใส่ในร่างอวบอิ่มของนางนั้นมันขะมุกขะมอมยิ่งนัก แต่ให้นางอยู่ในสภาพโทรมแค่ไหนเขาก็จดจำนางได้ จ้าวเหม่ยอิง หญิงที่เป็นทั้งอดีตหญิงที่เขาเคยหลงรักหัวปักหัวปำกับหญิงที่เขาแค้นเคืองนางจนแทบกระอักคือหญิงผู้เดียวกันนี้ เขายืนเฝ้ามองตั้งแต่นางก้าวลงมาจากรถม้าและลงมายืนหน้าอาคารของหอคณิกาและถูกคนของเขาฉุดลากเข้าไปในอาคารจนลับสายตาของเขา ริมฝีปากหนายกขึ้นน้อย จนกระทั่งได้ยินเสียงของฟางเซียนแม่เล้าที่เขาไว้วางใจให้ดูแลหอคณิกาแห่งนี้ เขาช่วยนางไว้จากซ่องนางโลมแห่งหนึ่งเพราะนางถูกทรมานและกดขี่ แต่เมื่อเขาได้ช่วยซื้อตัวนางมาและให้นางมาดูแลกิจการหอคณิกาเริงสำราญแห่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 2 ชีวิตนางทาส

เหม่ยอิงนั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วก็กลับซึมออกมาอีก แต่นางก็ยกมือบางขึ้นบาดมันจนหมดเพราะมิมีประโยชน์ที่จะคร่ำครวญอีกแล้ว นางร้องไห้คร่ำครวญมาพอแล้ว แต่ความจริงที่ต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ นางคงต้องยอมรับความจริง ว่าชีวิตคนเรานั้นมันไม่เที่ยงแท้ แม้อยู่สูงสุดก็อาจจะตกต่ำลงมาได้ในชั่วพริบตา ดังที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนางในครั้งนี้ เหม่ยหันไปมองรอบๆกายแล้วก็เห็นโถเคลือบสีน้ำตาลวางอยู่มันมีจอกสองสามใบวางอยู่ในถาดดินเผาหยาบๆ อยู่ข้างๆ เหม่ยอิงที่กระหายน้ำอยู่ไม่น้อย จึงได้ลุกขึ้นไปเทน้ำในโถเคลือบนั้นแล้วยกดืื่มไปหลายจอกจึงได้รู้สึกดีขึ้นมา ยามยากนี้แม้น้ำเย็นที่มิมีราคาใดๆมันก็ยังให้ความชุ่มชื่นได้มากมาย เพราะตั้งแต่ถูกจับนางแทบจะไม่ได้กินอาหารและดื่มน้ำเลยขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วก็เปิดออกทันที สาวใช้ที่มาส่งนางเมื่อตอนแรกยกถาดอาหารที่มีควันลอยกรุ่นเดินเข้ามา แล้ววางมันลงตรงโต๊ะตัวเล็กในห้องนั้น “ กินข้าวเสียนะ แล้วหากอยากจะไปอาบน้ำก็ไปก่อนมืด เพราะเจ้ายังไม่คุ้นชินกับที่นี่ อาภรณ์ข้าเอาวางไว้ที่บนชั้นนั่นลองค้นดูก็แล้วกัน หากข
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 3 จูบแรกกับนายท่าน

เหม่ยอิงเดินไปที่โรงครัวเพื่อกินอาหารเช้าที่มีเพียงข้าวต้มหนึ่งชามและเสี่ยวหลงเปาหนึ่งลูก เมื่ออิ่มแล้วจึงได้เดินขึ้นไปยังบันไดด้านหลังของหอคณิกา เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็ถามสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดพื้น “ จะไปพบมาม่าฟางเซียนได้ที่ไหน ” สาวใช้ผู้นั้นหันมาแล้วชี้มือไปด้านบนของหอคณิกา เหม่ยอิงแหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน หอคณิกานี้มีห้าชั้นด้วยกัน เป็นอาคารที่สร้างจากไม้หลังใหญ่มาก แต่เป็นอาคารเดี่ยว ด้านหลังสร้างเป็นเรือนหลังเล็กๆหลายหลังด้วยกันเรียงรายกันอยู่ในหมู่แมกไม้น่าจะเป็นเรือนของพวกบริวารของเจ้าของสถานที่แห่งนี้ และมีเรือนไม้หลังใหญ่ที่สุดเยื้องไปด้านขวาสุดหนึ่งหลังแต่เรือนหลังนี้สร้างอย่างงดงามและมีสวนเล็กๆด้านหน้าแต่ก็ปิดไว้เงียบๆเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่เรือนพักที่เหม่ยอิงนอนเมื่อคืนนี้เป็นของเหล่าสาวใช้ที่มาทำงานที่หอคณิกาแห่งนี้ ส่วนหญิงคณิกานั้นก็มีเรือนพักที่ดูดีกว่าเรือนพักของสาวใช้ ด้านหน้าของเรือนพักของเหล่าหญิงคณิกานั้นมีสวนอยู่ด้านหน้าและห้องแต่ละห้องดูเป็นสัดส่วนและกว้างกว่าของสาวใช้ เหม่ยอิงเดินขึ้นบันไดตรงไปชั้นบนตามที่สาวใช้ผู้นั้นบอกเมื่อมาถึงชั้นสองมองไปรอบๆก็ยังไม่พบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 3 ฝึกหัดเป็นนางรำ

ชายผู้นั้นมิได้ตอบคำถามนาง แต่หันไปบอกมาม่าฟางเซียนว่า “ เจ้าพานางออกไป แล้วทำตามที่ข้าสั่ง เมื่อนางร่ายรำได้ดีแล้ว ก็แต่งตัวให้นางแล้วพามาร่ายรำให้ข้าดูก่อน ว่าสินค้าเช่นนางจะขายได้ราคาหรือไม่ ” แล้วเขาก็หันหลังเดินกลับไปยืนที่ริมหน้าต่างบานกว้าง แล้วมองออกไปที่ทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างไม่ได้สนใจหญิงทั้งสองอีก “ เจ้าเดินตามข้ามา อย่าพูดมาก ควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ ว่าทาสเช่นเจ้ามิควรมีปากเสียงให้มากนัก มิเช่นนั้นถ้าหากนายท่านรำคาญเจ้าขึ้นมา จะส่งเจ้าไปเป็นนางโลมชั้นต่ำไว้บำเรอพวกกุลีที่ท่าเรือก็ได้นะ หรือเจ้าอยากจะมีชะตากรรมเช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ” คำพูดนี้ปิดปากของอดีตคุณหนูตกอับไว้ได้ชะงัดนัก นางคิดไม่ออกเลยว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร หากถูกนายท่านผู้นี้ส่งไปบำเรอกุลีพวกนั้น เหม่ยอิงร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่ นางแค่เดินเข้าไปโดยไม่รู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องของเจ้าของที่นี่ แล้วเขาเองที่เป็นฝ่ายมาจูบนางก่อนแท้ๆ นางมิได้เชิญชวนเขาเสียหน่อย แต่กลับมาด่าว่านางเหยียดหยามนางด้วยถ้อยคำรุนแรงยิ่งนัก มิเคยมีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับนางมาก่อนเลย เหม่ยอิงครุ่นคิดด้วยความโมโห แต่แล้วก็ชะงักไปตอนนี้นาง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5 นางรำที่เย้ายวนที่สุด

เมื่อเรียนร่ายรำกับชุ่ยหลินจนคล่องแคล่ว จนชุ่ยหลินออกปากว่า “ เหม่ยอิงเจ้ามีความสามารถทางด้านนี้จริง ๆ เจ้าร่ายรำได้งดงามยิ่งนัก แล้วสตรีที่งดงามปานจะล่มเมืองเช่นเจ้าแถมยังมีรูปร่างอวบอิ่มขาวผ่องเป็นยองใยเช่นนี้ หนุ่มๆเห็นเข้าคงจะตะลึงไม่น้อย อีกไม่นานหากเจ้าได้ทำการแสดง เจ้าต้องม่ีแขกมาติดพันเจ้าอย่างแน่นอน และอีกไม่นานหากเจ้าได้รางวัลจากแขกแล้วสะสมเอาไว้จนพอที่จะไถ่ตัวเองออกไปจากหอคณิกาแห่งนี้ด้วยตนเอง หรือหากเจ้าโชคดีมีคุณชายที่ร่ำรวยมาไถ่ตัวเจ้าไปเป็นภรรยา เจ้าก็จะมีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมาทำงานเช่นนี้อีกแล้ว เจ้ามีรูปเป็นทรัพย์โชคดีกว่าหญิงหลายๆคนในนี้นะ เจ้ารู้ตัวหรือไม่ “ เหม่ยอิงมองหน้าของชุ่ยหลินนิ่งแล้วเอ่ยว่า ” ชุ่ยหลิน หากเป็นจริงอย่างที่เจ้าพูดมาก็ดีนะสิ ข้าจะได้หลุดพ้นไปจากที่นี่ ได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที “ ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันในห้องแต่งตัวของนางรำนั้น ร่างสูงล่ำสันที่ยืนฟังพวกนางคุยกันอยู่ที่หน้าประตูห้องแต่งตัวนั้น ได้ยินทุกคำพูดชัดเจน กรามแกร่งของเขาขบเข้าหากันแน่น และมือหนากำแน่นอยู่ข้างตัว ดวงตาของเขาเหมือนมีไฟลุกอยู่ในนั้น “ เจ้าคิดว่าจะหลีกหนีข้าไปง่ายๆเช่นนั้น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6 เชยชมทาสสาวอย่างเร่าร้อน nc

ร่างล่ำสันทรุดนั่งลงที่เดิมที่เขานั่งอยู่เมื่อครู่ และเขาดึงร่างอวบอิ่มของนางนั่งบนตักแกร่งของเขาด้วย “ นายท่านเจ้าคะ อย่าเจ้าคะ เหม่ยอิงไม่ ” เหม่ยอิงอ้าปากจะทัดทานเขาด้วยนางรู้สึกว่านางไม่ปลอดภัย ยิ่งสบตาคมที่จ้องมองนางแทบจะกลืนกินนั้น “ อย่าอะไรกัน ไหนลองบอกข้าสิ ฮึ ” เจ้าของหอคณิกาหนุ่มเอ่ยถามนางเบาๆ ที่ข้างใบหูน้อยๆ ของเหม่ยอิงที่กำลังจนถ้อยคำ ด้วยรู้สึกเสียวซ่านไม่น้อยยามที่เขาเป่าลมหายใจที่ข้างหูของนาง แล้วลิ้นสากที่เปียกชื้นก็ไล้เลียใบหูน้อยๆของนางช้าๆละเลียดชิมมันทีละนิด“ อ๊าย อย่านะ นายท่าน อย่านะ ” เหม่ยอิงพยายามเบือนหน้าหนีเขา แต่กลับกลายเป็นว่าริมฝีปากหนานั้นเปลี่ยนมาโจมตีริมฝีปากจิ้มลิ้มของนางแทน ลิ้นสากนั้นสอดเข้ามาในปากจิ้มลิ้มอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยให้เหม่ยอิงตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อเข้ามาได้ก็ควานชิมความหวานในปากน้อยของนาง แล้วก็ตรงเข้าเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กของนางอย่างดูดดื่ม เขาดูดลิ้นเล็กและพัวพันมันอย่างเร่าร้อนจนร่างอวบของเหม่ยอิงอ่อนระทวยพิงอกแกร่งของเขา ในที่สุดลิ้นเล็กของนางก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยอมเกี่ยวพันกับลิ้นสากของเขาอย่างดูดดื่ม เร่าร้อนยิ่งนัก เหม่ยอิงเคลิบเ
อ่านเพิ่มเติม
DMCA.com Protection Status