วินาทีที่คนร้ายทรมานและกำลังจะฆ่าฉัน พ่อที่เป็นหัวหน้าสายสืบและแม่ที่เป็นผู้อำนวยการแพทย์นิติเวช ก็อยู่กับหลินเสวี่ย น้องสาวของฉันซึ่งกำลังเข้าร่วมการแข่งขันพอดี เพื่อเป็นการแก้แค้นของคนร้ายซึ่งเคยถูกพ่อจับตัวไป หลังจากตัดลิ้นของฉัน เขาก็ใช้โทรศัพท์ของฉันโทรหาพ่อ แต่พ่อกลับพูดสั้น ๆ แค่คำเดียวแล้วตัดสายไป “ไม่ว่าวันนี้แกจะมีเรื่องอะไร การแข่งขันในวันนี้ของหลินเสวี่ยน้องสาวแกสำคัญที่สุด!” คนร้ายหัวเราะเยาะ “ดูเหมือนว่าฉันจะจับตัวมาผิดคนแล้ว ฉันอุตส่าห์คิดว่าพวกมันจะรักลูกในไส้มากกว่าซะอีก!” เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พ่อและแม่ต่างตกใจกับสภาพศพอันน่าเวทนา จึงก่นด่าต่อความเหี้ยมโหดของคนร้าย แต่พวกเขากลับดูไม่ออกว่าเจ้าของร่างศพในสภาพอันน่าเวทนานี้ คือลูกสาวแท้ ๆ ของพวกเขานั่นเอง
View Moreตอนหลินเสวี่ยเห็นพ่อกับแม่กับและพี่ชายของฉันท่ามกลางผู้คน มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มลำพองใจฉันรู้ดีว่า หลินเสวี่ยรู้สึกว่าหากไม่มีฉันแล้ว เธอจะกลายเป็นคนที่ครอบครัวนี้รักและตามใจมากที่สุดระหว่างช่วงพักครึ่ง หลินเสวี่ยกอดแขนของพ่ออย่างออดอ้อน“พ่อคะ แม่คะ พี่คะ หนูดีใจมากที่สุดเลยที่มากันได้”บนแท่นรับรางวัล หลินเสวี่ยยิ้มกว้างพร้อมกับชูเหรียญรางวัลเมื่อเผชิญหน้ากับการสัมภาษณ์ของนักข่าว เธอก็ยิ้มหวาน “ที่ฉันมีวันนี้ได้เพราะการเลี้ยงดูของครอบครัวค่ะ ฉันหวังว่าฉันจะเป็นความภูมิใจของพ่อกับแม่ตลอดไป และเป็นน้องสาวที่พี่ชายรักมากที่สุดค่ะ!”ฉันมองท่าทางภาคภูมิใจของหลินเสวี่ยด้วยความรู้สึกคลื่นไส้ความสุขของเธอสร้างขึ้นบนความทุกข์ของฉันทำไมหลินเสวี่ยที่ผลักฉันลงเหวลึกของปีศาจชั่ว แต่ตัวเองกลับดื่มด่ำกับดอกไม้และเสียงปรบมือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นในหมู่คนดู “พี่สาวของเธอตายเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ น่าสงสารแต่ก็ยังเก่งมาก”“พี่สาวของหลินเสวี่ยเป็นเด็กเกเรที่ไม่เอาไหน ได้ยินว่าคบซ้อนหลายคนก็เลยถูกคนรักฆ่า”หลินเสวี่ยเองก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้รอยยิ้มบนใบหน้าหลินเสวี่ยสดใสขึ้น คล้ายกำลัง
หลังจากพี่ชายทราบข่าวการตายของฉัน เขาก็ทิ้งงานที่ยังสะสางไม่เสร็จแล้วรีบเดินทางกลับมาทันทีตอนพี่ชายกลับมาถึงบ้าน สีหน้าของพ่อกับแม่หม่นหมอง นั่งน้ำตาคลออยู่บนโซฟาด้วยความเจ็บปวดหลินเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ร้องไห้น้ำตานองหน้า ร้องไห้จนตาบวมเป่ง จมูกแดงไปหมด“พี่คะ ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว พี่เหยียนซวงถูกคนฆ่าตายค่ะ!”“ตอนนี้ยังไม่เจอตัวคนร้าย พี่เหยียนซวงมีปัญหากับคนไปทั่ว ไม่รู้ว่าครั้งนี้เป็นเพราะ...”เสียงพ่อตะคอกดังขึ้นกะทันหัน “พอได้แล้ว! รู้ตัวผู้ต้องสงสัยของคดีนี้แล้ว ทางตำรวจส่งคนไปจับแล้ว! พี่สาวของลูกกับมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”ขณะพูด พ่อกับแม่สบตากันครู่หนึ่ง แววตาเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวดตอนรู้ว่าคนร้ายทำเพื่อแก้แค้นที่พวกเขาเคยจับตัวน้องชายคนร้ายไป พ่อกับแม่ไม่อาจทนรับเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นพร้อมกันสองเรื่องได้จึงเป็นลมไปลูกสาวที่พวกท่านไม่รักที่สุด เสียชีวิตเพราะพวกเขาเมื่อหลินเสวี่ยได้ยินแบบนั้น ในดวงตาฉายความกังวลทันทีเธอบีบชายกระโปรงตนเองแน่น เหงื่อเย็นผุดเต็มหน้าผาก “เจอตัวคนร้ายเร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ แล้วทำไมคนร้ายต้องฆ่าพี่เหยียนซวงด้วย?”ขอบตาของแม่
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอดไม่ได้ที่จะพูดทั้งน้ำตา “พี่หลิน พี่กับพี่จางกลับไปสถานีตำรวจก่อนเถอะครับ มีอะไรคืบหน้าผมกับรองหัวหน้าทีมจะติดต่อพวกพี่เอง”แม่ของฉันราวกับไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น มือที่สวมถุงมือของแม่จับคราบเลือดบนพื้น “เสี่ยวซวงต้องเจ็บขนาดไหนเนี่ย”เจ้าหน้าที่ตำรวจในทีมที่เป็นคนอ่อนไหวเริ่มสะอื้นเสียงเบาพ่อกับแม่ขึ้นรถด้วยสภาพจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมองพวกท่านที่จิตใจเหม่อลอย ฉันก็รู้สึกหัวใจกระตุกอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ฉันถูกพากลับมาที่บ้านกระทั่งก่อนตาย ฉันไม่เคยได้ยินพ่อกับแม่เรียกฉันว่าเสี่ยวซวงเลยสักครั้งกระทั่งเสี่ยวหลี่ในแผนกชันสูตรนำผลชันสูตรยื่นให้พ่อ เธอมองแม่ของฉันที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวด้วยแววตาสงสาร“พี่หลิน เสียใจด้วยนะคะ”รูม่านตาของพ่อหดเล็ก เขาพลิกดูรายงานอย่างละเอียด ตรวจสอบตัวอักษรบนรายงานซ้ำแล้วซ้ำเล่านานพักใหญ่กว่าพ่อจะพูดเล็ดรอดไรฟัน “เป็นไปได้อย่างไร?”สีหน้าของเสี่ยวหลี่ฉายความปวดใจ เขาถอนหายใจแล้วตบไหล่พ่อของฉันเบา ๆ “พี่หลินคะ เราไปถึงสถานที่เกิดเหตุมาแล้ว ศพอยู่ในห้องผ่าชันสูตร ทั้งหมดนี้ไม่สามารถปลอมแปลงได้ค่ะ”แม่ของฉันพุ
เหมือนว่าแม่จะมีลางสังหรณ์บางอย่าง ท่านบีบแขนของพ่อแน่น โดยเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของพ่อ“ผู้ตายคือเหยียนซวงลูกสาวของคุณค่ะ”แม่ล้มทรุดลงบนพื้น พูดวนซ้ำหลายรอบด้วยความไม่อยากเชื่อ “เหยียนซวง? เป็นเหยียนซวงได้ยังไง?”พ่อพยุงแม่เอาไว้ ให้แม่นั่งอยู่กับพื้นตำรวจในทีมพูดกระซิบเสียงเบา “พี่หลินครับ เจอสถานที่ก่อเหตุแล้วครับ เป็นบ้านปลูกเองที่อยู่ใกล้เคียงกับตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังนี้ครับ”พ่อของฉันพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ไปสถานที่เกิดเหตุก่อน ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานต้องทำอะไรผิดพลาดแน่นอน”บนรถตำรวจ แม่โทรหาฉันครั้งแล้วครั้งเล่าพ่อตั้งหน้าตั้งตาขับรถพร้อมกับพูดปลอบ “อย่ากลัวไปเลยนะคุณ ไม่แน่ว่าเหยียนซวงอาจจะไปที่สำนักงาน ร่วมมือกับฝ่ายชันสูตรแล้วมาหลอกพวกเราก็ได้”ทว่าทั้งที่จริงแล้วเขาน่าจะรู้ดีแก่ใจ เรื่องแบบนี้ไม่มีทางปลอมแปลงได้ไม่อาจอธิบายได้ว่าเป็นความรู้สึกอย่างไร ฉันรู้สึกคล้ายถูกงูพิษรัดแน่นจนหายใจไม่ออกบ้านปลูกเองแถบนั้น มีคนอาศัยอยู่ปะปนคลาคล่ำเต็มไปหมดบางคนแม้กระทั่งบัตรประชาชนก็ยังเป็นของปลอม ย่อมไม่กลัวการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนพ่อกับแม่ไปถึง หน้าบ้านมีเ
แม่ยื่นกระดาษที่ถูกกรดในกระเพาะกัดจนเสียหายให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแม่ทุบหลังที่ปวดเมื่อยเล็กน้อย บอกกับพ่อด้วยความเหนื่อยใจว่า “หวังว่ากระดาษใบนี้จะมีประโยชน์นะ คุณบอกเสี่ยวเสวี่ยล็อกบ้านให้ดีแล้วหรือยัง?”พ่อพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะพูดอย่างลังลังเล็กน้อย “ที่รัก คุณว่าที่เหยียนซวงไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบข้อความของเสี่ยวเลี่ยด้วย จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกจริง ๆ หรือเปล่า? ผมให้คนไปลองสืบ...”แม่พูดขัดด้วยความหงุดหงิด “พอได้แล้วค่ะ คุณยังไม่รู้จักหล่อนดีอีกเหรอ? หล่อนซ่อนตัวรอพวกเราไปตามหาน่ะสิ! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหยียนซวงทำเรื่องแบบนี้นะ”“หล่อนแค่ไม่อยากไปดูเสี่ยวเสวี่ยแข่งเทนนิส อย่างช้าที่สุดวันพรุ่งนี้ หล่อนต้องร้องไห้โทรมาขอโทษพวกเราแน่นอน”ครั้งที่แล้วที่ฉันหายตัวไปเป็นตอนปิดเทอมฤดูร้อน ฉันถูกหลินเสวี่ยขังไว้ในห้องน้ำของโรงเรียนช่วงปิดเทอมในโรงเรียนไม่มีใครอยู่ จึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของฉันฉันใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีปีนออกมา สกปรกไปหมดทั้งตัว เดินเท้ากระเผลกกลับบ้านแต่สิ่งที่รอฉันกลับเป็นฝ่ามือของพ่อและเสียงดุด่าของแม่“เสี่ยวเสว
หลังจากพูดน้ำเสียงอ่อนโยนบอกให้หลินเสวี่ยรีบพักผ่อน แม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งปลายสายคือพี่ชายของฉันเอง“หลินเลี่ย ลูกจะเสร็จงานที่ต่างเมืองวันไหน? น้องรอลูกไปดูการแข่งขันของน้องนะ!” พี่ชายยังไม่ทันได้พูด แม่ก็รีบถามทันทีวันที่ฉันถูกรับกลับบ้าน พ่อกับแม่อยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนน้องหลินเสวี่ยซึ่งกำลังร้องไห้ มีแค่พี่ชายเท่านั้นที่เดินจับมือพาฉันกลับมาที่บ้าน และบอกฉันว่าไม่ต้องกลัวความอบอุ่นเดียวที่ฉันได้รับในครอบครัวมาจากพี่ชายพี่ชายที่อยู่ปลายสายชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “การแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกของเสี่ยวซวงเหรอครับ? ไม่ใช่เดือนหน้าเหรอครับ...”แม่พูดแทรกด้วยความโมโห “เสี่ยวซวง เสี่ยวซวง เสี่ยวเสวี่ยต่างหากคือน้องสาวที่อยู่กับลูกมาหลายปี! แม่บอกลูกกี่ครั้งแล้ว เหยียนซวงถูกเลี้ยงข้างนอกจนเสียคนหมดแล้ว เธอไม่เหมาะเป็นคนตระกูลเหยียนของพวกเรา”พี่ชายถอนหายใจ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจความใจร้ายของแม่ที่มีต่อฉัน “แม่ครับ บางครั้งแม่ก็ไม่ควรฟังเสี่ยวเสวี่ยทุกอย่างนะครับ เสี่ยวซวงจิตใจดีและขยันขันแข็ง ถ้าแม่ลองให้ความสำคัญกับน้องบ้าง แม่ก็จะเห็นครับ”“เมื
ในการประชุมคดี หลังจากฟังรายงานผลชันสูตรศพจากแม่จบ เจ้าหน้าที่ทุกคนในที่ประชุมต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะสภาพการตายของฉันน่ากลัวมาก จึงไม่อาจเปรียบเทียบใบหน้าได้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุฆาตกรรมและทิ้งศพในตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังนี้ ความยากในการไขคดีเพิ่มมากขึ้นพ่อสั่งให้ตำรวจใต้บังคับบัญชาการตรวจดูสถานที่ถูกพบศพรอบ ๆ ว่ามีเบาะแสคนน่าสงสัยหรือไม่“รบกวนแพทย์นิติเวชชันสูตรศพอีกครั้ง เพื่อดูว่าพบข้อมูลอะไรใหม่ๆ หรือไม่ จะได้นำดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์โดยเร็ว”พ่อทิ้งท้ายไว้ให้แม่หนึ่งประโยค แล้วรีบตามเพื่อนร่วมงานออกไปความเป็นห่วงของพ่อกับแม่ที่มีต่อศพ มากกว่ามีให้ฉันเสียอีกครั้งหนึ่งแม่เคยลูบผมหลินเสวี่ย แล้วบอกว่าสำหรับคนตาย แพทย์ชันสูตรศพสามารถเป็นกระบอกเสียงให้เขาได้ อาชีพนี้จึงเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ฉันมองดูหลินเสวี่ยพยักหน้าเห็นด้วย แต่ตอนที่แม่หันหลังไปนั้น เธอกลับเช็ดผมของตนเองด้วยความรังเกียจครั้งนั้น ฉันตบหลินเสวี่ยฉาดหนึ่ง แต่กลับถูกพ่อลงโทษให้โกนผมเวลานี้ แม่ลูบศพของฉันด้วยความปวดใจ พูดเสียงเบา “ตายได้น่าสงสารแบบนี้ คนในครอบครัวต้องเสียใจมากแน่เลย”ฉันยกมุมปากขึ
ศพของฉันถูกพบในตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จกรรมกรอ้วกไม่หยุดขณะเดียวกันก็โทรแจ้งตำรวจพ่อกับแม่รีบมาสถานที่เกิดเหตุทันทีหลังเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองของหลินเสวี่ยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานขมวดคิ้วเป็นปม ส่งสัญญาณบอกให้พวกเขาสวมหน้ากากพ่อเป็นสายสืบมืออาชีพที่ได้รับการว่าจ้างจากกองตำรวจ ส่วนแม่เป็นแพทย์นิติเวชอันดับหนึ่งของเมืองเจียงแม้พวกเขาจะเคยเห็นจุดเกิดเหตุคดีฆาตกรรมมามากมาย ทว่าตอนเห็นศพก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาด้วยอากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน ทำให้สภาพศพบวมขึ้นอืด ใบหน้าถูกทำร้ายจนยุบกลายเป็นก้อนเลือดเละ ชั่วขณะหนึ่งไม่อาจมองเห็นอวัยะทั้งห้าบนใบหน้าได้ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ศีรษะเหลือผิวหนังเพียงเล็กน้อยที่เชื่อมติดกับส่วนคอสภาพศพที่เน่าเละอย่างยิ่งทำให้เกิดกลิ่นเหม็นฉุนจมูกแม่หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สวมถุงมือ แล้วเริ่มชันสูตรศพในขั้นต้นดวงตาของแม่ตอนดูร่างศพของฉันฉายแววความสงสารทว่าตอนที่ฉันยังมีชีวิต ฉันไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนแบบนี้จากคนเป็นแม่มาก่อนเลยฉันดูแม่ถอดแหวนที่เปื้อนเลือดในมือด้วยความตึงเครียดแหวนวงนี้ฉันทำมาแบบเดียวกันหลายวงเพื่อให้คนในบ้าน แ
ศพของฉันถูกพบในตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จกรรมกรอ้วกไม่หยุดขณะเดียวกันก็โทรแจ้งตำรวจพ่อกับแม่รีบมาสถานที่เกิดเหตุทันทีหลังเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองของหลินเสวี่ยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานขมวดคิ้วเป็นปม ส่งสัญญาณบอกให้พวกเขาสวมหน้ากากพ่อเป็นสายสืบมืออาชีพที่ได้รับการว่าจ้างจากกองตำรวจ ส่วนแม่เป็นแพทย์นิติเวชอันดับหนึ่งของเมืองเจียงแม้พวกเขาจะเคยเห็นจุดเกิดเหตุคดีฆาตกรรมมามากมาย ทว่าตอนเห็นศพก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาด้วยอากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน ทำให้สภาพศพบวมขึ้นอืด ใบหน้าถูกทำร้ายจนยุบกลายเป็นก้อนเลือดเละ ชั่วขณะหนึ่งไม่อาจมองเห็นอวัยะทั้งห้าบนใบหน้าได้ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ศีรษะเหลือผิวหนังเพียงเล็กน้อยที่เชื่อมติดกับส่วนคอสภาพศพที่เน่าเละอย่างยิ่งทำให้เกิดกลิ่นเหม็นฉุนจมูกแม่หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สวมถุงมือ แล้วเริ่มชันสูตรศพในขั้นต้นดวงตาของแม่ตอนดูร่างศพของฉันฉายแววความสงสารทว่าตอนที่ฉันยังมีชีวิต ฉันไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนแบบนี้จากคนเป็นแม่มาก่อนเลยฉันดูแม่ถอดแหวนที่เปื้อนเลือดในมือด้วยความตึงเครียดแหวนวงนี้ฉันทำมาแบบเดียวกันหลายวงเพื่อให้คนในบ้าน แ...
Comments