เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของสามีติดอยู่ในช่องลิฟต์นานกว่าครึ่งชั่วโมง เขาจึงระเบิดโทสะอย่างรุนแรง แล้วจับฉันยัดใส่กระเป๋าเดินทาง ก่อนจะรูดซิปล็อกอย่างแน่นหนา “ความทรมานที่เอินเอินต้องเผชิญ เธอจะต้องชดใช้เป็นสองเท่า” ฉันนั่งขดตัว หายใจลำบาก น้ำตาไหลพรากพลางยอมรับผิด แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงคำตำหนิที่เย็นชาจากสามี “รับโทษเสียให้สาสม พอเรียนรู้บทเรียนนี้แล้ว เธอจะได้รู้จักเชื่อฟัง” เขาเอากระเป๋าเดินทางที่มีฉันอยู่ข้างในไปล็อกเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ฉันกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง ดิ้นรนอย่างหนัก เลือดค่อย ๆ ไหลซึมออกจากกระเป๋า จนเปียกชุ่มทั่วพื้น ห้าวันต่อมา เขาเกิดใจอ่อนขึ้นมาชั่วครู่ จึงตัดสินใจยุติการลงโทษ “ลงโทษเล็กน้อยเพื่อเตือนใจ ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน” แต่เขาไม่รู้เลยว่า ร่างของฉันได้เน่าเปื่อยจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว
View Moreครึ่งเดือนต่อมา กลิ่นของศพเริ่มไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป ตำรวจเข้ามาตรวจสอบและพบว่าฟู่สิงโจว ประธานบริษัท กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้างศพด้วยสายตาเหม่อลอยไร้ชีวิตชีวาหลังจากการสืบสวนชัดเจนแล้ว ฟู่สิงโจวถูกจับกุมตามกฎหมาย ขณะที่ถูกควบคุมตัวออกจากอาคารบริษัท เขาดิ้นรนขัดขืนไม่หยุดและตะโกนว่า“ไม่มีใครจะพรากฉันกับจื่อฉิงออกจากกันได้”แม้จะถูกลากขึ้นรถตำรวจ แต่เสียงตะโกนของเขาก็ยังคงดังไม่ขาดสายที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่นำหลักฐานความรักครั้งก่อนที่เคยมีต่อเขามาวางตรงหน้าเขาทีละนิด ๆในฐานะดวงวิญญาณ นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันทำได้เขาเห็นที่ตรวจครรภ์นั้นเมื่อสัปดาห์ก่อนเมื่อหลินซ่างเอินเห็นว่าเขายังคงจมปลักอยู่ในความทุกข์ เธอก็หมดความอดทนและตัดสินใจตัดขาดจากเขา โดยนำข้อมูลภายในบริษัทของเขาไปใช้จนสามารถเข้าทำงานกับบริษัทคู่แข่งได้สำเร็จฟู่สิงโจวโกรธจัด แต่ความหยิ่งทะนงในตัวเองทำให้เขาไม่ยอมก้มศีรษะลงฉันทรมานเขาไม่หยุดจนเขาทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งที่ตรวจครรภ์นั้นหล่นลงไปในแก้วน้ำบ้วนปากของเขาในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว เขาวิ่งเข้าไปในห้องกักขัง ตะโกนลั่นพร้อมกอดศพขอ
ถ้าไม่ได้สืบก็คงไม่รู้ แต่พอได้สืบแล้วถึงกับสะดุ้งตกใจผลการสืบสวนทั้งหมดล้วนทำให้ฟู่สิงโจวรู้สึกไม่พอใจนักในวันที่หลินซ่างเอินกลับประเทศ ฉันแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปวางไว้ในห้องน้ำ แล้วโพสต์ข้อความในบัญชีลับบนเฟซบุ๊กว่า“ช่วยดูแลปรับสมดุลร่างกายให้โจวโจวมาครึ่งปี ในที่สุดก็เห็นผล! ในที่สุดฉันกับเขากำลังจะมีพยานรักร่วมกันแล้ว!”ภาพของฟู่สิงโจวและหลินซ่างเอินที่ถ่ายคู่กันถูกโพสต์บนโลกออนไลน์ ฉันได้แต่บ่นอย่างน้อยใจในบัญชีลับของฉันว่า[อย่าลืมฉันสิ!]ในยามที่เขาช่วยหลินซ่างเอินจัดการเรื่องราวที่ต่างประเทศ ฉันได้แต่พูดออกไปว่า[ฉันแต่งงานกับคนที่เป็นคนดีโดยเนื้อแท้ เขาเป็นคนที่แสนดีจริง ๆ ไม่อาจทนเห็นใครต้องเผชิญความทุกข์ใจ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำเพื่อฉันในวันนั้น]ข้อความบ่นพร่ำทั้งหมดกว่าสี่พันข้อความ ล้วนเป็นผลจากการที่ฉันล้างสมองตัวเองด้วยการหลอกตัวเองซ้ำ ๆขณะเดียวกัน นักสืบเอกชนที่เขาจ้างสืบพบว่า หลังจากหลินซ่างเอินกลับประเทศมา เธอยังคงติดต่อกับอดีตสามีที่อยู่ต่างประเทศ ความสัมพันธ์ไม่เคยขาดตอน แถมเธอยังเป็นฝ่ายติดต่อไปหลายครั้ง เนื้อหาการสนทนาก็โจ่งแจ้งอย่างยิ่งแม้แต่เหตุการณ
ภายใต้แสงสลัว กระเป๋าเดินทางกลางห้องที่มีคราบเลือดสีแดงเข้มซึมออกมา ดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างน่าหวาดหวั่นบรรยากาศช่างน่าขนลุกจนฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วก็คิดได้ว่า ฉันควรจะเป็นผีที่มีความแค้นมากที่สุดในที่นี่ แล้วจะมีอะไรให้ฉันต้องกลัวอีกล่ะ?ช่วยไม่ได้ เพราะฉันเป็นคนขี้ขลาดมาโดยตลอด พอเห็นว่าตัวเองตายไม่สวยเท่าไหร่ ฉันก็กลัวศพของตัวเองโดยไม่รู้ตัวฟู่สิงโจวเดินมาที่กลางห้อง และหยุดอยู่ตรงหน้ากระเป๋าเดินทางของฉันฉันลอยวนอยู่รอบตัวเขา และสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าขาของเขากำลังสั่นเล็กน้อยไม่รู้ทำไม จู่ ๆ ฉันก็อยากจะแกล้งเขาขึ้นมาฉันจึงเป่าลมเบา ๆ ที่คอของเขาเขาทรุดลงกับพื้นในพริบตา ขาอ่อนจนล้มลงไปอย่างจัง และบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อว่าเขาได้ล้มทับลงบนกระเป๋าเดินทางใบนั้นฉันเริ่มรู้สึกเสียใจ เพราะเขานั่งทับลงบนศพของฉัน ฉันกลัวเหลือเกินว่าร่างกายของฉันจะยิ่งดูน่าเกลียดมากกว่าเดิมฟู่สิงโจวผละออกทันที เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะตั้งสติได้ในที่สุด“ถ้าฉันรู้ว่าเธอแกล้งเล่นตลกกับฉัน ฉันจะถลกหนังเธอแน่!”ฉันส่ายหัวเบา ๆฉันใกล้จะบวมพองเหมือนศพยักษ์ที่เน
ช่วงไม่กี่วันมานี้ฟู่สิงโจวดูเหมือนจะลืมฉันไปเลยเพื่อเตรียมงานวันเกิดของหลินซ่างเอิน เขายุ่งอยู่กับการจัดงานเป็นเวลานาน ทั้งหาคอนเน็กชันเชิญวงดนตรีชื่อดัง และพานักร้องคนโปรดของเธอมาร่วมงาน ทุ่มเงินมหาศาลเพียงเพื่อให้เธอยิ้มสักครั้งช่างน่าขัน เงินทั้งหมดที่เขาใช้ไปนั้นล้วนรีดไถมาจากฉันทั้งสิ้นเมื่อครั้งที่เขาแต่งงานกับฉัน บริษัทเกมของเขากำลังจะล้มละลาย ฉันเป็นคนช่วยเขาอย่างเต็มที่ ทุ่มเททุกอย่างที่มี แม้กระทั่งเอาบ้านเก่าของตัวเองไปจำนองด้วยเงินที่ได้มา เขาจึงสามารถมุ่งมั่นพัฒนาเกมได้จนบริษัทฟื้นตัว และเกมที่เปิดตัวก็กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วเขากลายเป็นนักธุรกิจดาวรุ่งที่ใคร ๆ ต่างจับตามอง และฉันก็ดีใจกับเขาจากใจจริงแต่ตอนนี้ความสำเร็จทั้งหมดนั้นกลับกลายเป็นมีดคมที่ทิ่มแทงฉันหลังจากหลินซ่างเอินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอก็ได้คบหากับลูกเศรษฐีต่างชาติอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อสามเดือนก่อน ความสัมพันธ์ของเธอมีปัญหา เธอจึงกลับประเทศมาด้วยความเศร้าหมองฟู่สิงโจวกลับเสียสติไปเขาถึงขนาดไปคอยเธอที่สนามบินล่วงหน้าถึงสามชั่วโมง ฉันรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก
“ใครเอาของน่าสยดสยองแบบนี้มาวางไว้ตรงนี้! ซูจื่อฉิงอยู่ไหน? หาเธอให้เจอ คิดว่าเอาหุ่นปลอม ๆ มาวางไว้แล้วฉันจะเชื่อว่าเธอหนีไปได้อย่างปลอดภัยหรือไง? ฉันฟู่สิงโจวไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ รีบหาเธอให้เจอเดี๋ยวนี้!”ฉันหัวเราะจนน้ำตาไหลอาบแก้มนี่คิดจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรืออย่างไร? ฉันนอนอยู่ตรงนี้ชัด ๆ แถมร่างของฉันก็ยังเน่าเหม็นอีกคุณยังจะไปหาฉันจากที่ไหนอีกล่ะ?“ท่านประธานฟู่ครับ...คุณผู้หญิงเธอ... เธอเสียชีวิตแล้วครับ ร่างของเธอก็เน่าแล้วด้วย!”ฟู่สิงโจวจ้องเขม็งใส่ผู้ช่วยอย่างดุดัน“แกโกหก! แกก็ร่วมมือกับหล่อนมาหลอกฉันด้วยเหรอ? คิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยหรือไง? กับอีแค่หุ่นปลอมเหม็นเน่าตัวเดียว แล้วฉันจะเชื่อว่าเธอตายแล้วอย่างนั้นเหรอ? ต่อให้ต้องขุดหาทั่วทุกซอกทุกมุม ฉันก็จะต้องหาเธอให้เจอให้ได้!”เขาเดินออกไปโดยไม่สนใจสิ่งใด สั่งให้คนล็อกประตูห้องไว้อย่างแน่นหนา แล้วไปสืบหาตามรอยของฉันจากข้างนอกหลินซ่างเอินเห็นสีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด ก็เลยรีบวิ่งเข้ามาหาเขา แล้วยืนเขย่งกอดคอเขาไว้“พี่สิงโจว เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? พี่ซูทำให้พี่โกรธอีกแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องกลัวนะ เอินเอินอยู่เคียงข้างพี
นี่คือคนที่ฉันรักมาเป็นเวลาสิบปีสามปีในช่วงมัธยมปลาย สี่ปีในมหาวิทยาลัย และหลังจากเรียนจบก็คบหาและแต่งงานกันอีกสามปีแต่สิ่งที่ฉันไม่รู้ก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาแค่เห็นฉันเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของเขาเท่านั้นฉันตามติดเขาเหมือนเงาตามตัวมาตลอดเจ็ดปีเต็ม คิดว่าความจริงใจของฉันจะสามารถละลายภูเขาน้ำแข็งในใจเขาได้วันที่เขาตอบรับคำสารภาพรักของฉัน ฉันดีใจจนไม่ได้นอนทั้งคืนแต่สิ่งที่ฉันไม่รู้ก็คือ เขาแต่งงานกับฉันเพียงเพราะบริษัทของเขาประสบปัญหาทางการเงิน และต้องการเงินสนับสนุนจากฉันตลอดสองปีที่แต่งงานกับเขา ฉันทุ่มเททุกอย่างเพื่อสนับสนุนธุรกิจของเขา ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อดูแลและเอาใจเขาเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละนิด รอฉันกลับบ้าน ทำอาหารเช้าให้ฉัน และในวันที่ฉันปวดท้องก็จะนวดให้ฉันอย่างอ่อนโยนฉันเกือบเชื่อไปแล้วว่าฉันชนะใจเขาและคว้าความรักของเขามาได้วันที่ฉันรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ฉันตื่นเต้นจนวิ่งวนรอบตัวเขาเป็นวงกลมแต่เขากลับเย็นชาจนน่าเหลือเชื่อ“ซูจื่อฉิง เธอบอกว่าเธอท้องเหรอ?”ฉันไม่ได้ยินความเคลือบแคลงในคำพูดของเขา จึงพยักหน้าตอบไปอย่างใสซื่อ“หึ แต่ฉันมีปัญหาน้ำเชื้
“ปล่อยซูจื่อฉิงออกมา ให้เธอทำความสะอาดตัวเองให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาแก้ตัว อย่าให้เธอมาพร้อมกลิ่นเหม็นของอุจจาระและปัสสาวะ มันจะทำให้เอินเอินรังเกียจ”ฟู่สิงโจวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้ช่วยตอบรับอย่างอึดอัดหลินซ่างเอินมองฟู่สิงโจวด้วยดวงตาเป็นประกาย พลางวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เขา“พี่ฟู่ รอพี่จื่อฉิงออกมาแล้ว พี่ต้องปลอบเธอให้ดีนะ อย่าทำให้เธอโกรธอีกเลย ยังไงพวกพี่ก็เป็นสามีภรรยากัน ไม่ควรทะเลาะกันจนเรื่องมันดูแย่ขนาดนี้นะคะ”แววตาของฟู่สิงโจวฉายแววรำคาญเล็กน้อย แต่เขากลับนวดนิ้วของหลินซ่างเอินอย่างอ่อนโยน“หล่อนกล้าอย่างนั้นเหรอ? เพราะความผิดพลาดของเธอ ทำให้เธอต้องติดอยู่ในช่องลิฟต์ตั้งครึ่งชั่วโมง ฉันไม่กล้าคิดเลยว่าเธอจะกลัวและสิ้นหวังแค่ไหนในตอนนั้น เอินเอิน เธอสวยแบบนี้อยู่เสมอ มันถึงทำให้ซูจื่อฉิงได้ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ”ฟู่สิงโจวพยายามกดกลั้นความโกรธในน้ำเสียง ราวกับกลัวว่าจะทำให้หลินซ่างเอินตกใจแต่คำพูดเหล่านั้น เมื่อมาถึงหูของฉัน กลับกลายเป็นคำเสียดสีและเย้ยหยันทั้งหมดหนึ่งสัปดาห์ก่อน หลินซ่างเอินฉวยโอกาสตอนที่ฟู่สิงโจวกำลังประชุม มาหาเรื่องฉันถึงบ้าน“ท้องแล้วยังไง? คลอ
“ช่วงนี้แม่คนขี้อิจฉาไม่มาป่วนเลยนี่? หรือว่าจะเชื่อฟังแล้ว? เริ่มรู้จักกฎระเบียบมากขึ้นแล้วใช่ไหม?”“ยังไงก็ต้องให้บทเรียนสักหน่อย หล่อนถึงจะรู้จักเชื่อฟัง”ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา สีหน้าชะงักไปทันที“ท่านประธาน...ดูเหมือนว่าคุณซู...เธอยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาเลยครับ”สายตาของฟู่สิงโจวสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขารีบเก็บอารมณ์ทันที“ให้หล่อนคิดทบทวนอยู่ในนั้นอีกสักสองสามวันก็ไม่เป็นไรหรอก”ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างเขาทำท่าจะพูดอยู่หลายครั้งแต่ก็ชะงักไป สุดท้ายจึงเอ่ยปากอย่างลังเล“ท่านประธาน ห้องที่ขังคุณซูไว้เริ่มมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา ท่าน...ท่านจะเข้าไปตรวจดูหน่อยไหมครับ?”เสียงของฟู่สิงโจวเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที“เหม็นงั้นเหรอ? มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ผู้หญิงแบบนี้ที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อให้ร่างกายยังทำงานได้ แน่นอนว่าหล่อนไม่ปล่อยให้แม้แต่อุจจาระและปัสสาวะถูกขับถ่ายหรอก คงปล่อยให้ย่อยซ้ำใหม่จนหมด จะไม่เหม็นได้ยังไง?”ผู้ช่วยยังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกฟู่สิงโจวขัดขึ้นมาก่อนเขาขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด“พอเถอะ อย่าพูดอะไรอีกเลย พรุ่งนี้ฉั
“ช่วงนี้แม่คนขี้อิจฉาไม่มาป่วนเลยนี่? หรือว่าจะเชื่อฟังแล้ว? เริ่มรู้จักกฎระเบียบมากขึ้นแล้วใช่ไหม?”“ยังไงก็ต้องให้บทเรียนสักหน่อย หล่อนถึงจะรู้จักเชื่อฟัง”ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา สีหน้าชะงักไปทันที“ท่านประธาน...ดูเหมือนว่าคุณซู...เธอยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาเลยครับ”สายตาของฟู่สิงโจวสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขารีบเก็บอารมณ์ทันที“ให้หล่อนคิดทบทวนอยู่ในนั้นอีกสักสองสามวันก็ไม่เป็นไรหรอก”ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างเขาทำท่าจะพูดอยู่หลายครั้งแต่ก็ชะงักไป สุดท้ายจึงเอ่ยปากอย่างลังเล“ท่านประธาน ห้องที่ขังคุณซูไว้เริ่มมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา ท่าน...ท่านจะเข้าไปตรวจดูหน่อยไหมครับ?”เสียงของฟู่สิงโจวเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที“เหม็นงั้นเหรอ? มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ผู้หญิงแบบนี้ที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อให้ร่างกายยังทำงานได้ แน่นอนว่าหล่อนไม่ปล่อยให้แม้แต่อุจจาระและปัสสาวะถูกขับถ่ายหรอก คงปล่อยให้ย่อยซ้ำใหม่จนหมด จะไม่เหม็นได้ยังไง?”ผู้ช่วยยังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกฟู่สิงโจวขัดขึ้นมาก่อนเขาขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด“พอเถอะ อย่าพูดอะไรอีกเลย พรุ่งนี้ฉั...
Comments