Share

บทที่ 2

ในการประชุมคดี หลังจากฟังรายงานผลชันสูตรศพจากแม่จบ เจ้าหน้าที่ทุกคนในที่ประชุมต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด

เพราะสภาพการตายของฉันน่ากลัวมาก จึงไม่อาจเปรียบเทียบใบหน้าได้

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุฆาตกรรมและทิ้งศพในตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังนี้ ความยากในการไขคดีเพิ่มมากขึ้น

พ่อสั่งให้ตำรวจใต้บังคับบัญชาการตรวจดูสถานที่ถูกพบศพรอบ ๆ ว่ามีเบาะแสคนน่าสงสัยหรือไม่

“รบกวนแพทย์นิติเวชชันสูตรศพอีกครั้ง เพื่อดูว่าพบข้อมูลอะไรใหม่ๆ หรือไม่ จะได้นำดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์โดยเร็ว”

พ่อทิ้งท้ายไว้ให้แม่หนึ่งประโยค แล้วรีบตามเพื่อนร่วมงานออกไป

ความเป็นห่วงของพ่อกับแม่ที่มีต่อศพ มากกว่ามีให้ฉันเสียอีก

ครั้งหนึ่งแม่เคยลูบผมหลินเสวี่ย แล้วบอกว่าสำหรับคนตาย แพทย์ชันสูตรศพสามารถเป็นกระบอกเสียงให้เขาได้ อาชีพนี้จึงเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่

ฉันมองดูหลินเสวี่ยพยักหน้าเห็นด้วย แต่ตอนที่แม่หันหลังไปนั้น เธอกลับเช็ดผมของตนเองด้วยความรังเกียจ

ครั้งนั้น ฉันตบหลินเสวี่ยฉาดหนึ่ง แต่กลับถูกพ่อลงโทษให้โกนผม

เวลานี้ แม่ลูบศพของฉันด้วยความปวดใจ พูดเสียงเบา “ตายได้น่าสงสารแบบนี้ คนในครอบครัวต้องเสียใจมากแน่เลย”

ฉันยกมุมปากขึ้นหัวเราะเยาะตัวเอง คนในครอบครัวของฉันน่าจะมีความสุขกับการตายของฉันต่างหาก บางทีอาจจะมีแค่พี่ชายที่เสียใจครู่หนึ่ง

มือที่สวมถุงมือของแม่เลื่อนผ่านแผ่นหลังของฉัน

แผ่นหลังส่วนนั้นของฉันมีรอยถูกน้ำร้อนลวกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรอยที่เกิดขึ้นหลังจากฉันถูกจับตัวไป

ในปีที่ถูกรับกลับบ้าน ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า น้ำเสียงตกใจของแม่เคล้าไปด้วยความไม่พอใจ “หลังของลูกไปโดนอะไรมา? น่าขยะแขยงมาก อย่าทำให้เสี่ยวเสวี่ยตกใจนะ”

หรือว่า แม่จะจำฉันได้จากรอยแผลเป็นที่หลัง?

ฉันอดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากแน่น เหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากด้วยความกังวล

ทันใดนั้นเองเสียงร้องด้วยความตกใจของผู้ช่วยก็ดังขึ้น “พี่จางคะ มีกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในกระเพาะของผู้ตายค่ะ!”

แม่ของฉันเบิกตากว้างแล้วรับกระดาษแผ่นนั้นไป ถอนหายใจแล้วพูดเสียงเบา “ถูกกรดในกระเพาะกัดแล้ว ต้องลองดูว่าฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจะวิเคราะห์อะไรได้ไหม”

จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นเพลงที่หลินเสวี่ยชอบที่สุด

แม่ถอดถุงมือ รีบวิ่งไปโถงทางเดิน และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก

“ลูกรัก มีะไรรึเปล่าลูก? แม่กำลังทำงานอยู่”

“พรุ่งนี้เหรอ?” แม่ชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “พ่อกับแม่จะไปให้กำลังใจลูกถึงขอบสนามแน่นอน ช่วงนี้พี่ของลูกไปทำงานต่างจังหวัดยังกลับมาไม่ได้จ้ะ”

เสียงออดอ้อนของหลินเสวี่ยดังเข้ามาในหูของฉัน “รักแม่ที่สุดเลยค่ะ! หนูอยากให้พี่เหยียนซวงมาดูการแข่งขันของหนูด้วยค่ะ ได้กำลังใจจากพี่เหยียนซวงแล้วหนูต้องชนะแน่นอนค่ะ”

“พี่ไม่อยากมาก็ไม่เป็นไรนะคะ การที่พี่ไม่ชอบหนูเป็นเรื่องปกติ เพราะหนูก็แย่งความรักของแม่และพ่อมาตั้งหลายปีแน่ะ”

ทั้งที่ไม่ชอบฉัน ตั้งแต่วันที่ฉันกลับบ้าน หลินเสวี่ยแอบทำร้ายฉันลับหลังมาโดยตลอด

ทว่าตอนอยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่กลับทำตัวเป็นพี่น้องที่รักกันมาก

ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉัน เวลานี้แม่ต้องด่าฉันอีกแล้วแน่ ๆ

เป็นจริงตามคาด เสียงของแม่เอ็ดดังขึ้นทันที “เสี่ยวเสวี่ยเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อกับแม่ เหยียนซวงเป็นใคร? ทั้งขโมยเงิน ทั้งแอบรังแกลูกลับหลัง ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกสาวของแม่หรอก”

“เสี่ยวเสวี่ยวางใจนะลูก ต่อให้หล่อนขาหัก แม่ก็จะให้หล่อนนั่งรถเข็นไปดูการแข่งขันของลูก!”

หลินเสวี่ยหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดเสียงหวาน “วันนี้คุณพ่อโทรหาหนูบอกให้ระวังตัว ถ้าแม่มีเวลาอย่าลืมบอกพี่ด้วยนะคะ”

“ลูกดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ เหยียนซวงน่ะอย่าตายต่อหน้าแม่ก็พอ ใครจะสนใจว่าหล่อนจะไปเถลไถลที่ไหน” ทุกครั้งที่แม่พูดถึงฉันล้วนเกลียดชังเป็นพิเศษ

อาจจะเป็นเพราะลูกสาวที่รับกลับมา ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี จึงไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้กระมัง

หลังจากที่ฉันกลับมา แม้กระทั่งนามสกุลก็ยังไม่เปลี่ยนให้ฉัน

ในใจของพ่อกับแม่ ลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเขาคือหลินเสวี่ย

ขณะที่พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของหลินเสวี่ย ไม่มีใครที่คิดว่า ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพวกเขา

ถ้ารู้สาเหตุการตายของฉัน ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะมีปฏิกิริยาอย่างไร

เพราะถึงอย่างไรการตายของฉัน ก็เป็นฝีมือของหลินเสวี่ย และยังเกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status