Share

บทที่ 2

Author: คุณชายชุดหิมะ
last update Last Updated: 2025-01-14 14:01:19
การตรวจสอบสินเดิมใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็ม

หรูเยว่ปิดประตูห้อง ก่อนเปิดบัญชีแล้วกล่าวว่า “ฮูหยิน โฉนดที่ดินและร้านค้าพร้อมสมุดบัญชีอยู่ที่นี่แล้วเจ้าค่ะ ส่วนเงินในคลังของพวกเราก็ฝากไว้กับร้านเงินเรียบร้อยแล้ว”

สินเดิมของนางนั้นล้ำค่ามาก เป็นที่ล่ำลือกันไปทั่วในปีนั้น ทั้งบิดา มารดา และพี่ชายต่างพยายามมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้นาง กลัวเหลือเกินว่านางจะขาดแคลนอะไร เมื่อแต่งเข้าสู่จวนจวิ้นอ๋อง

อวิ๋นหลิงปิดบัญชีในมือแล้วกล่าวว่า “ต่อไปเรียกข้าว่าคุณหนูก็พอ”

หรูเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คุณหนู ท่านตั้งใจจะกลับไปบ้านเก่าจริงหรือเจ้าคะ?”

อวิ๋นหลิงถอนหายใจ เมื่อนึกถึงร่างไร้วิญญาณของพี่ชาย น้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด “ที่นั่นเป็นบ้านของข้า ข้าควรกลับไป”

“แต่บ่าวเห็นว่า ท่านไม่ควรปล่อยให้พวกเขาสมหวังง่ายๆ ท่านจากไปเช่นนี้จะยิ่งสมปรารถนาพวกเขา”

อวิ๋นหลิงยิ้มจางๆ “ข้าไม่อยากเห็นพวกเขารักใคร่กัน แล้วต้องเจ็บปวดจนเสียสติ ข้าจะกลับไปเพื่อฟื้นฟูตระกูลอวิ๋น และใช้ชีวิตในแบบที่ข้าต้องการ”

หรูเยว่กล่าวด้วยความกังวล “แต่คุณหนู การจะออกไปนั้นคงไม่ง่ายนัก!”

อวิ๋นหลิง “ในงานเลี้ยงฉลอง ข้าจะลองขอความช่วยเหลือจากพี่หญิง…”

“จริงด้วย! บ่าวลืมไปเสียสนิท พระสนมกุ้ยเฟยทรงเป็นพระสนมผู้โปรดปราน ต่อหน้าฝ่าบาทคงช่วยพูดอะไรได้บ้าง”

“แต่ข้าต้องการหย่า ข้าไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปได้หรือไม่” อวิ๋นหลิงกล่าวอย่างกังวล

หรูเยว่ตกตะลึงทันที “หย่า?”

ใช่ หย่า นางต้องการจากไปจากกู้ว่างจือผู้ไร้หัวใจผู้นั้น

นางจะกลับไปฟื้นฟูตระกูลอวิ๋น ดูแลหลานชายให้เติบโต และรักษาตำแหน่งขุนนางของจวนอันหยางโหว

นางที่แต่งเข้ามาอย่างถูกต้องสมเกียรติ ก็สมควรกลับออกไปอย่างสมเกียรติเช่นกัน

สามปีที่อดทน สามปีที่รอคอย ถึงเวลาที่ต้องจบสิ้นเสียที

การได้กลับไปเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนอันหยางโหวนั้นไม่ดีหรือ?

“ฮูหยิน ชายาจวิ้นอ๋องขอให้ท่านไปพบเจ้าค่ะ” เสียงรายงานดังขึ้นจากด้านนอก

หรูเยว่มองไปยังนายหญิงด้วยความตระหนก “คุณหนู นี่คงไม่ได้จะบังคับให้ท่านตอบตกลงใช่หรือไม่?”

“อย่ากลัวเลย สิ่งที่ต้องเผชิญยังไงก็ต้องเผชิญ”

นางทำทุกอย่างด้วยใจบริสุทธิ์ ชอบธรรม ย่อมไม่กลัวสิ่งใด

ยามรัตติกาลปกคลุม ท้องฟ้าสลัวด้วยสายลมเย็นเฉียบของต้นฤดูหนาว

จวนหนานหยางจวิ้นอ๋องเคยเป็นที่พักของปู่ของกู้ว่างจือ และองค์หญิงหนานหยางสองสามีภรรยา

ในอดีต ตอนที่ปู่อภิเษกกับองค์หญิงหนานหยาง จวนจวิ้นอ๋องนั้นรุ่งเรืองถึงขีดสุด

กู้หย่ง บิดาของกู้ว่างจือ สร้างผลงานมากมายในสนามรบจนได้รับตำแหน่งหนานหยางจวิ้นอ๋องในที่สุด

แต่ปัจจุบัน องค์หญิงใหญ่ได้สิ้นพระชนม์ กูหย่งจวิ้นอ๋องเองก็สละชีพในสนามรบ จวนจวิ้นอ๋องจึงตกอยู่ในสภาพอ้างว้างและร่วงโรย

กู้ว่างจือในตอนนี้ยังคงเป็นเพียงแม่ทัพ ยังไม่ได้รับตำแหน่งทายาทจวนจวิ้นอ๋อง ตำแหน่งนี้อาจไม่ได้ตกทอดมาถึงเขาก็เป็นได้

อวิ๋นหลิงเดินมายังห้องหลักของเรือนจิ้งซิน ชายาจวิ้นอ๋องหวังฉิงนั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุด เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงเดินเข้ามา นางยิ้มอบอุ่นกล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ เข้ามาเร็ว ข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก”

ในห้องยังมีเซียวหยวนจือผู้เป็นน้องชายของกู้ว่างจือ และน้องสาวคนเล็กกู้หยิงหยิงวัยสิบหกปี

ส่วนกู้ซูซูผู้ป่วยเรื้อรังนั้น ถึงอยากมาก็ไม่สามารถมาได้

“ท่านแม่ น้องรอง น้องหญิงรอง!” อวิ๋นหลิงกล่าวคำทักทายด้วยความเคารพ

“มานั่งเร็ว เตาผิงมือเย็นแล้วใช่หรือไม่? ให้ข้าเปลี่ยนเตาผิงมือให้ใหม่เถอะ” ชายาจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างอ่อนโยนและใส่ใจ

“ตอนนี้ว่างจือกลับมาแล้ว เจ้าก็วางใจได้เสียที สามปีมานี้ เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว จวนอันหยางโหวกำลังจัดงานศพ ข้าสั่งให้พ่อบ้านไปแสดงความเสียใจแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล แม้ว่าบิดาและพี่ชายของเจ้าจะจากไปแล้ว แต่พวกเรายังคงเป็นครอบครัวของเจ้า”

แม่ทัพใหญ่ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ตระกูลกู้กลับส่งเพียงพ่อบ้านไป นี่มันน่าขันยิ่งนัก! อวิ๋นหลิงที่เพิ่งได้รับเตาผิงมืออันอบอุ่นมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาในชั่วพริบตา

นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ขอบพระคุณท่านแม่ แต่ท่านแม่เองก็ทราบแล้วว่าว่างจือกำลังจะแต่งภรรยาเอกใช่หรือไม่?”

หวังฉิงนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ท่าทางเหมือนมีความอัดอั้นอยู่ในใจ “อืม รู้แล้ว เป็นการสมรสเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ฮ่องเต้ทรงบังคับ ข้าเองก็ไม่อาจทำอะไรได้”

อวิ๋นหลิงมองหวังฉิงด้วยสายตาแน่วนิ่ง ก่อนกระพริบตาแล้วกล่าว “ข้ารู้ว่าท่านแม่ทรงรอบรู้ ทรงมีเมตตา และเอ็นดูข้าเสมอ”

หวังฉิงยิ้มฝืดเฝื่อน “แน่นอนอยู่แล้ว ว่างจือให้ความเคารพและนับถือเจ้ายิ่งกว่าใคร”

“ก็จริง” อวิ๋นหลิงหัวเราะเยาะในใจ ก่อนถามต่อ “พระราชโองการยังมาไม่ถึงหรือเจ้าคะ?”

หวังฉิงเริ่มแสดงอาการหมดความอดทน “หลิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นเด็กดี หลิงฮว่าแต่งเข้ามาในตระกูลกู้ จะช่วยเกื้อหนุนทั้งตระกูลและเส้นทางขุนนางของว่างจือ เจ้าดูแลกิจการในบ้านดีอยู่แล้ว สามีภรรยาทั้งสามสามัคคีกัน จวนจวิ้นอ๋องจะต้องกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งเหมือนยุคของปู่ของเขาแน่นอน”

อวิ๋นหลิงรู้สึกเย็นเยียบในใจ นางกล่าวอย่างสงบ “ท่านแม่เคยเหนื่อยยากกับการดูแลกิจการในจวนเพียงลำพังมานาน ซูซูเองก็ป่วยหนักตลอด ข้าจึงช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านั้น แต่ตอนนี้ว่างจือจะแต่งภรรยาเอกใหม่ อีกทั้งอาสะใภ้ก็ยังแข็งแรง หลังจากงานเลี้ยงฉลอง ข้าคิดว่าจะคืนสิทธิ์การดูแลกิจการในจวนให้ท่านแม่ หรือไม่ก็มอบหมายให้ผู้อื่นดูแล”

หวังฉิงได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าวด้วยความร้อนรน “หลิงเอ๋อร์ เจ้าทำได้ดีอยู่แล้ว ดูแลต่อไปเถิด ข้ายังต้องดูแลกู้ซูซู คงไม่สามารถแบ่งเวลาได้ ส่วนอาสะใภ้ของเจ้าก็อาจไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบ อีกอย่างชายาใหม่เป็นถึงองค์หญิง ย่อมไม่ควรให้มายุ่งกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป”

ในดวงตาของอวิ๋นหลิงมีแววเย้ยหยันปรากฏขึ้น

ที่นางทำได้ดี เพราะนางยอมเป็นคนโง่ที่หลงทุ่มเทเงินของตนเอง เพื่อเกื้อหนุนจวนจวิ้นอ๋องไม่ใช่หรือ

ไม่ยอมให้อาสะใภ้ดูแล เพราะกลัวว่าสิทธิ์ในจวนจะแบ่งไปยังสายรองไม่ใช่หรือ?

ไม่ยอมให้องค์หญิงรับผิดชอบ เพราะกลัวว่าหน้ากากของจวนจวิ้นอ๋องจะถูกกระชากออกไม่ใช่หรือ?

อดีตกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ในอดีต นางยินดีทำ เพราะหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับกู้ว่างจืออย่างมีความสุข

แต่ตอนนี้ กู้ว่างจือทรยศต่อนาง นางจะไม่เสียเงินแม้แต่น้อยให้จวนจวิ้นอ๋องอีกต่อไป

หวังฉิงหน้าตึงขึ้นทันที น้ำเสียงเย็นชา “หลิงเอ๋อร์ เจ้าคงไม่ได้โกรธที่ว่างจือสมรสกับองค์หญิง เลยตั้งใจจะปล่อยภาระนี้ใช่หรือไม่? ผู้ชายมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องปกติธรรมดา”

อวิ๋นหลิงหัวเราะบางเบา แต่สีหน้ายังคงสงบ “ข้าไม่ได้โกรธ เพียงแค่ไม่อยากรับผิดชอบต่อไปเท่านั้น ท่านแม่รักข้าขนาดนี้ เรื่องเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ ย่อมไม่ทำให้ท่านแม่ลำบากใจ ใช่หรือไม่?”

หวังฉิงจับหน้าอก ราวกับหายใจไม่ออก

อวิ๋นหลิงรู้ว่านางแกล้งทำ จึงยืนนิ่งมองด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่แสดงอาการใดๆ

กู้หยิงหยิงรีบเข้ามาประคองหวังฉิง พลางมองอวิ๋นหลิงด้วยความโกรธ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? ตระกูลอวิ๋นของท่านไม่มีใครแล้ว ท่านมีสิทธิ์อะไรมาทำตัวมั่นใจขนาดนี้? หากท่านทำให้พวกเราขุ่นเคือง เราจะให้พี่รองหย่ากับท่านซะ ดูซิว่าท่านจะไปที่ไหนได้!”

อวิ๋นหลิงจ้องมองกู้หยิงหยิงด้วยสายตาเย็นเยียบ “ก่อนพูดคำเหล่านั้น ลองคิดดูเถิดว่าของที่เจ้ากิน ใช้ และใส่ทุกวันนี้เป็นเงินของใคร!”

กู้หยิงหยิงหน้าแดงด้วยความอับอาย “ของเหล่านั้นท่านยกให้ข้าเอง ใครอยากได้กันเล่า! เมื่อวานพี่สะใภ้ใหม่เพิ่งมาถึง ยังส่งผ้าไหมอย่างดีให้ข้ามากมาย ของของท่าน ข้าคืนให้ท่านเป็นพอ!”

“เช่นนั้นก็ดี คืนมาให้หมดล่ะ”

เมื่อกล่าวจบ อวิ๋นหลิงสะบัดชายเสื้อแล้วเดินออกไปทันที โดยไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของคนในห้อง

แม่ลูกทั้งสามคนคิดว่า เมื่อได้รับพระราชโองการอภิเษกสมรสแล้ว อวิ๋นหลิงก็จะยอมรับทุกสิ่ง ไม่อย่างนั้นนางจะทำอะไรได้? ตระกูลอวิ๋นยังมีใครที่มีอำนาจช่วยเหลือนางอีกหรือ?

รุ่งเช้าวันถัดมา

กู้ว่างจือยืนรออวิ๋นหลิง เพื่อจะออกไปร่วมงานเลี้ยงฉลองด้วยกัน

อวิ๋นหลิงในชุดกระโปรงยาวสีอ่อนสะอาดตา โอบล้อมร่างอันงดงามของนางเอาไว้ กระโปรงที่ปลายลากพื้นเล็กน้อยดูพลิ้วไหวสง่างาม ทรงผมรวบสูงด้วยปิ่นหยกประณีตเพียงชิ้นเดียว เรียบหรูทรงเกียรตินัก

นางมองกู้ว่างจือที่เดินไปเดินมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วกล่าว “แม่ทัพ รอนานแล้วหรือ?”

Related chapters

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 3

    กู้ว่างจือหยุดเดิน หันกลับมามองอวิ๋นหลิง ดวงตาจับจ้องไปยังนาง “เปล่า ข้าเพิ่งมาถึง”ที่จริงแล้วเขารออยู่ถึงสองถ้วยชาแล้วต้องยอมรับว่า อวิ๋นหลิงมีท่าทางสง่างาม หน้าตางดงามประณีต การพานางไปงานเลี้ยงวันนี้ ช่างเพิ่มภูมิฐานให้เขาไม่น้อยหากนางยอมรับซุนหลิงฮว่าได้ และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ก็คงจะยิ่งดี…รถม้าสั่นไหว มุ่งหน้าสู่ประตูพระราชวังคำสัตย์ปฏิญาณในอดีตเลือนหาย ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยวันนี้ฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้กับเหล่าแม่ทัพนายกองที่กลับมาจากชายแดนผู้เข้าร่วมงานมีไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นขุนนางชั้นสูง เชื้อพระวงศ์ และนายทหารผู้มีผลงาน รวมถึงสาวงามวัยกำดัดที่ยังไม่ได้ออกเรือนการจัดงานลักษณะนี้ดูชัดเจนว่าวันนี้จะต้องมีการพระราชทานสมรสหลายคู่ เพราะนี่เป็นหนึ่งในความชื่นชอบของฮ่องเต้ในขณะนี้ งานเลี้ยงยังคงดำเนินไป ฮ่องเต้และฮองเฮายังไม่มาถึงหลายคนเริ่มเบื่อหน่าย บางกลุ่มจึงจับกลุ่มพูดคุยกันตามมุมต่างๆ“ได้ยินมาหรือไม่? องค์หญิงหมิงหยางกำลังจะสมรสกับกู้ว่างจือในฐานะภรรยาเอก”“นางเคยสมรสมาแล้วไม่ใช่หรือ? จะสมรสอีกได้อย่างไร?”“สมรสแล้วจะเป็นอย่างไร? ไ

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 4

    อวิ๋นหรงตกใจมาก ยกมือประคองใบหน้าน้องสาว “หย่า? พี่หญิงไม่เคยคิดมาก่อนเลย แม้ว่าคำว่าพักภรรยาจะฟังดูดีกว่า แต่เจ้าคงหนีไม่พ้นคำครหาของผู้คน และอาจถูกสังคมไม่ยอมรับได้”อวิ๋นหลิงจับมือนางแน่น ดวงตาเปี่ยมด้วยความแน่วแน่ “พี่หญิง แต่สิ่งนั้นก็ดีกว่าการถูกหักหลังและดูหมิ่นไม่ใช่หรือ? ข้าคือคนตระกูลอวิ๋น คนตระกูลเราไม่เคยมีเหตุผลต้องยอมถูกกดขี่ ท่านว่าจริงหรือไม่?”อวิ๋นหรงพยักหน้า “ดี เจ้าตัดสินใจแล้วก็ดี พี่หญิงจะไม่ปล่อยให้หลิงเอ๋อร์ต้องทนทุกข์ใจแน่นอน”“พระสนม น้ำชาและขนมมาแล้วเพคะ”“อืม นำไปวางไว้ที่ห้องโถงเถิด”หลังจากดื่มชาสองสามอึก และกินขนมไปสองชิ้น อวิ๋นหลิงก็ขอตัวออกมาก่อน ขณะที่อวิ๋นหรงต้องรอฮองเฮาเพื่อออกไปพร้อมกันระหว่างที่อวิ๋นหลิงเดินผ่านหุบเขาจำลอง นางได้ยินเสียงสนทนาของนางกำนัลสองคนที่กำลังทำความสะอาดอยู่“ลานนี้กวาดไม่กวาดก็ได้กระมัง ฝ่าบาทไม่มาค้างคืนที่ตำหนักอี๋หวานานแค่ไหนแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หัวใจของอวิ๋นหลิงบีบรัดขึ้นมาทันที“ตั้งแต่พระสนมกุ้ยเฟยแท้งบุตร คงจะประมาณสามเดือนแล้วกระมัง”อะไรนะ? พี่หญิงเคยแท้งบุตร?“ผ้าไหมใหม่ๆ แต่ละตำหนักก็ได้รับกันหมด

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 5

    ฮ่องเต้เซียวเย่ทรงแย้มพระสรวลด้วยความยินดี ตรัสเสียงดังว่า “เรารู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ศัตรูจากแคว้นเป่ยหยวนถอยร่นไปไกลถึงร้อยลี้ เมืองหลวงต้าฉีของเราจึงปลอดภัยไร้กังวล เราตระหนักดีว่าชัยชนะครั้งนี้ ฉินอ๋องมีความดีความชอบไม่น้อย ทรงนำทัพแม่ทัพนายกองต่อสู้อย่างกล้าหาญ จนได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ เราขอแสดงความเคารพและขอบคุณจากใจจริงต่อเหล่าแม่ทัพนายกองทุกคน พวกท่านล้วนเป็นเสาหลักของชาติ วันนี้เราขอดื่มอวยพรแด่พวกท่านทุกคน เพื่อแสดงความขอบคุณและให้เกียรติ”สิ้นเสียงตรัส ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญหลังจากการแสดงร่ายรำอันอ่อนช้อยสิ้นสุดลง ฮ่องเต้เซียวเย่ตรัสต่อด้วยน้ำเสียงสดใส “วันนี้ เราไม่ได้เพียงเฉลิมฉลองชัยชนะ แต่ยังมีเรื่องมงคลหลายประการที่จะประกาศ น้องชายของเราฉินอ๋อง ทรงกล้าหาญและองอาจ ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว ทว่ายังมิได้อภิเษกสมรส เราจึงตัดสินใจประทานสมรสแก่พระอนุชาของเราในวันนี้ ไม่ทราบว่าพระอนุชามีความเห็นว่าอย่างไร?” สายพระเนตรของฮ่องเต้หันไปยังเซียวอวี้ รอคอยคำตอบสายตาของเซียวอวี้ลึกล้ำ ราวมหาสมุทร สีหน้านิ่งสงบ ไม่มีวี่แววแห่งความยินดีหรือไม่พอ

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 6

    สีหน้าของกู้ว่างจือเย็นชาอย่างยิ่ง “ข้าปรารถนาที่จะอภิเษกกับหลิงฮว่า นั่นคือความตั้งใจของข้า หลิงฮว่าเสียสละช่วงเวลาสำคัญในชีวิตเพื่อไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์ และเพิ่งได้กลับมา บัดนี้นางยินยอมที่จะมอบตนให้ข้าแล้ว เช่นนั้นมีสิ่งใดผิด? เจ้าดีที่สุดอย่าได้พยายามกระทำสิ่งไร้ประโยชน์ หากมิใช่เพราะเจ้ากล่าวใส่ร้ายต่อหน้าพระสนมกุ้ยเฟย ฝ่าบาทคงมิได้เลื่อนการพระราชทานสมรสโดยไร้เหตุผล!”“เจ้าควรอยู่ในกรอบให้ดี อย่าก่อเรื่องวุ่นวายอีก ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้ามีบุตรเพื่อเป็นที่พึ่งพิงในบั้นปลายชีวิต เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”อวิ๋นหลิงคล้ายได้ยินเรื่องตลกขบขัน นางคลายมือจากผ้าม่าน กำหมัดแน่น ไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่มเติมก่อนสั่งเบาๆ “หรูเยว่ เรากลับจวนเถอะ”แต่เสียงอ่อนโยนของซุนหลิงฮว่าก็ดังขึ้น “พี่หญิงอวิ๋น โปรดรอก่อน ข้ามีเรื่องอยากพูดด้วย”หรูเยว่สะบัดหน้าอย่างไม่พอใจ “คุณหนู ไม่ต้องสนใจนาง เราไปกันเถอะเจ้าค่ะ”อวิ๋นหลิงรู้ดีว่ามีสายตามากมายจับจ้องอยู่ ซุนหลิงฮว่าเป็นถึงองค์หญิง นางไม่อาจเสียมารยาท นางจึงลงจากรถม้าหรูเยว่พยุงนางลงจากรถม้า นางโค้งคำนับอย่างเรียบร้อย “องค์หญิงมีเรื่องใดจะรับสั่งหรือ?”ซุ

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 7

    หรูเยว่ที่มีนิสัยตรงไปตรงมา เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงถูกสองบุรุษสตรีคู่นี้รังแก นางไม่อาจระงับความโกรธในใจได้ จึงเข้ามาขวางไว้โดยไม่ลังเลนางไม่รู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังเชิดหน้าชูคอ น้ำเสียงของนางหนักแน่น “แม้ข้าจะเป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อย แต่ก็รู้ดีถึงหลักการเป็นคน ข้าไม่มีวันลบหลู่อื่นโดยไร้เหตุผล แต่ท่านในฐานะองค์หญิงที่ไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์ กลับมาพัวพันกับแม่ทัพที่มีภรรยาแล้ว การที่ท่านแม่ทัพกู้ปรากฏตัวในรถม้าของท่านเช่นนี้ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าท่านสมรสกันแล้วกระมัง…”ยังไม่ทันที่หรูเยว่จะพูดจบ เสียงตบดังสนั่นก็ดังขึ้นกู้ว่างจือตบเข้าที่ใบหน้าของหรูเยว่จนมุมปากของนางมีเลือดซึมออกมา เขามองอวิ๋นหลิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าปล่อยให้สาวใช้หยาบคายเช่นนี้ นี่หรือคือการอบรมของเจ้า?”อวิ๋นหลิงไม่สนใจที่จะต่อว่า แต่รีบเข้าไปเช็ดเลือดบนใบหน้าของหรูเยว่ด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของนางบวมแดงมือที่เคยถือดาบฟันศัตรู บัดนี้กลับกลายเป็นมือที่ทำร้ายสตรี!ความโกรธ ความเสียใจ ทุกสิ่งประดังเข้ามา อวิ๋นหลิงเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางตบหน้ากู้ว่างจือกลับอย่างแรง“กู้ว่างจือ คนของข้า ข้าจะสั่งสอนเอง! เจ้

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 8

    “เงินไม่พอจริงๆ พ่อบ้านหวัง นายท่านรองเอาเงินค่าชดเชยของแม่ทัพอวิ๋นไปหมดแล้ว”“ใช่ ไม่ใช่เพราะพวกเราทำงานช้า แต่เพราะขาดแคลนกำลังคนและขาดเงินต่างหาก”อวิ๋นหลิงรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา นางเตรียมตัวจะออกไปช่วยแก้ปัญหา แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น“ขาดเงินเท่าไร ขาดคนเท่าไร? ข้าจ่ายเอง”เซียวอวี้?อวิ๋นหลิงชะงักไป ไม่กล้าขยับตัว ได้ยินเสียงพ่อบ้านหวังนำคนทั้งหมดคุกเข่าลงพร้อมกล่าวคำถวายพระพรเซียวอวี้ออกคำสั่งเสียงเรียบ “พวกเจ้าช่วยกันจัดพิธีศพให้เสร็จโดยเร็ว อย่าให้ล่าช้า”ดูเหมือนเขาจะพาคนมาด้วย เพราะภายนอกเริ่มมีเสียงคึกคักขึ้นอวิ๋นหลิงคุกเข่าอยู่บนเบาะ ไม่กล้าขยับ ในห้องศพมีประตูเพียงบานเดียว หากนางออกไปตอนนี้อาจดูไม่เหมาะสม นางตั้งใจมาเงียบๆ ไม่อยากให้ใครรู้พ่อบ้านหวังทำความเคารพเซียวอวี้ด้วยท่าทีสุภาพ “ฉินอ๋อง เชิญเสด็จไปที่ห้องรับรอง มีน้ำชาร้อนๆ เตรียมไว้ให้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง พวกเจ้าไปทำธุระต่อเถอะ ข้าอยากไปดูแม่ทัพอวิ๋นเสียหน่อย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นหลิงก็รีบคุกเข่าลงอีกครั้ง คอยอย่างเรียบร้อย ไม่นานนัก นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้นางลุกขึ้นยืนและกำลังจ

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 9

    อวิ๋นหลิงก้าวเดินอย่างสงบนิ่ง พลางเดินพลางกล่าวปลอบหรูเมิ่งว่า “อย่าตื่นตระหนกไป สิ่งที่ควรมาย่อมมา ไม่ช้าก็เร็ว ปล่อยใจให้สบายเถิด”หรูเมิ่งยังคงตื่นตระหนก นางตามอยู่ด้านหลังอวิ๋นหลิง สีหน้าซีดเซียว กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “คุณหนูใหญ่ป่วยหนักจนลุกจากเตียงไม่ได้อีกแล้ว พระชายาจวิ้นอ๋องก็โกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟ...”“อืม หยุดยาไปสามวันแล้ว พวกเขาก็ควรจะร้อนรนได้แล้ว”เมื่อกลับถึงจวนจวิ้นอ๋อง อวิ๋นหลิงยังคงสวมชุดไว้ทุกข์ ไม่ได้เปลี่ยน นางรู้ดีว่าภารกิจครั้งนี้มาเพื่อสิ่งใด จึงเดินตรงไปยังเรือนของชายาจวิ้นอ๋อง หวังฉิงทันทีทันทีที่ก้าวเข้าสู่ลานเรือน อวิ๋นหลิงก็เห็นชายาจวิ้นอ๋อง หวังฉิงนั่งอยู่ในห้องโถง สีหน้าเคร่งขรึมเมื่อหวังฉิงเห็นอวิ๋นหลิงเข้ามา ความไม่พอใจก็ฉายชัดบนใบหน้า นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “ว่างจือเพิ่งได้รับชัยชนะกลับมาจากสนามรบ และกำลังจะอภิเษกกับองค์หญิงหมิงหยาง นี่เป็นเรื่องน่ายินดี แต่เจ้าใส่ชุดไว้ทุกข์เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?”อวิ๋นหลิงเผชิญหน้ากับคำถามของชายาจวิ้นอ๋องอย่างสงบนิ่ง นางทำความเคารพก่อนจะตอบกลับ “ท่านแม่ วันนี้เป็นวันส่งศพพี่ชายที่เสียช

    Last Updated : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 10

    กู้ว่างจือกำลังดื่มด่ำอยู่กับความหวานชื่นระหว่างเขาและซุนหลิงฮว่า แต่กลับถูกขัดจังหวะ สาวใช้เข้ามารายงานว่าชายาจวิ้นอ๋องให้กู้ว่างจือรีบกลับจวนโดยด่วนซุนหลิงฮว่าแสดงความไม่พอใจทันที นางออดอ้อนว่า “ว่างจือ ต้องเป็นพี่หญิงอวิ๋นส่งคนมาเรียกท่านแน่ๆ นางไม่ยอมรับข้าเลย เมื่อวานนางยังขู่ท่านด้วยการพูดเรื่องหย่าอีก จะทำอย่างไรดี?”กู้ว่างจือลูบหลังมือนางเบาๆ กล่าวปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นางเพียงโศกเศร้าจากการสูญเสียพี่ชาย ไม่ได้มีเจตนาต่อต้านเจ้า ข้าต้องกลับจวน เพราะท่านแม่เรียกหา อาจมีเรื่องด่วนก็เป็นได้”ซุนหลิงฮว่าไม่ยอมปล่อยมือจากเขา “แต่…เรื่องสมรสของเราจะทำอย่างไรดี? ไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าไรจึงจะได้สมรสกัน ฉินอ๋องเป็นเสด็จอาของท่านไม่ใช่หรือ? ตามหลักแล้วควรอยู่ข้างท่าน แต่เหตุใดเมื่อวานเขาถึงปกป้องพี่หญิงอวิ๋นล่ะ?”กู้ว่างจือถอนหายใจ “เจ้าอย่าคิดมาก ฉินอ๋องปกป้องอวิ๋นหลิงเพราะเขาเคยร่วมรบกับพี่ชายของนาง เขาเพียงรู้สึกผิดที่พี่ชายของนางต้องสละชีวิต อย่ากังวลไปเลย”ทว่ากู้ว่างจือยังไม่ได้กลับจวน นางรับใช้ก็มาเร่งอีกครั้ง เขาจึงต้องรีบจากไปเมื่อกลับถึงจวน กู้ว่างจือเห็นกู้หยิงห

    Last Updated : 2025-01-14

Latest chapter

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 40

    อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตานิ่งสงบแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ “พูดเช่นนี้ แปลว่าพวกท่านยอมรับเรื่องการลักพาตัวพี่สะใภ้และหลานชายของข้าแล้วสินะ? การลักพาตัวถือเป็นความผิดร้ายแรง โทษขั้นต่ำคือต้องติดคุกสิบปี ข้ามองว่าเรายังเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงตั้งใจจะให้เรื่องจบแค่การทะเลาะวิวาท แต่ดูเหมือนข้าจะใจกว้างเกินไป”จูซื่อถึงกับพูดไม่ออก สีหน้าปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมา ก่อนจะพยายามแก้ตัว “ยังไงเสียเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า เขายังเด็ก ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ทำผิดไปเพราะความหุนหันพลันแล่น อีกทั้งพวกเจ้าก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? เจ้าก็ไปทันเวลา เขาแค่ขู่ ไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงๆ เสียหน่อย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นหลิงก็ไม่อาจระงับโทสะในใจได้อีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเตะเก้าอี้ล้มลงกับพื้น “ทำผิดแล้วยังกล้าพูดอย่างหน้าชื่นตาบานอีกหรือ? ท่านเลี้ยงลูกไม่ดี ปล่อยให้คนอื่นต้องมารับกรรมแทน ท่านควรขอบคุณที่พี่สะใภ้และอาหลินไม่เป็นอะไร มิฉะนั้น ข้าจะไม่ปล่อยพวกท่านไปง่ายๆ แน่! พวกท่านได้อยู่อย่างสุขสบายเพราะบุญของบรรพบุรุษ แต่กลับไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่มี ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”จูซื่อถึงกับพูดอะไรไ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 39

    อวิ๋นหลิงรู้สึกตกตะลึงชั่วครู่ แต่ในใจกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอันใดอวิ๋นฟ่งจะเป็นหรือตายเกี่ยวข้องอันใดกับนาง?แต่ต่อหน้าผู้คน นางต้องแสร้งทำเป็นใส่ใจเล็กน้อย “ขอบพระทัยที่ท่านอ๋องที่เตือน ข้าจะไปที่จวนจิงเจ้าเดี๋ยวนี้”เซียวอวี้ไม่ได้ขัดขวาง เว่ยเฉินคารวะเสร็จแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วคนที่นินทาก็ไม่ทราบว่าถูกจับด้วยข้อหาใด เป็นเพียงพวกอันธพาลลูกหลานขุนนางระดับล่าง การลงโทษก็เพียงเพื่อขู่เท่านั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมไม่กล้าตำหนิฉินอ๋อง ห้องรับรองพังเสียหายไปหนึ่งห้อง เขายังต้องควักเงินจ่ายเองทว่าฉินอ๋องกลับให้ลู่หงวางเงินหนึ่งวงไว้เป็นค่าชดเชยฉินอ๋องแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ซึ่งปกติแล้วเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้ามากนักลู่หงเองก็ไม่รู้จะปลอบโยนอย่างไร จึงกล่าวว่า “ท่านอ๋อง แม่นางอวิ๋นเป็นญาติฝ่ายมารดาของตระกูลไป๋จริงๆ”ฉินอ๋องไม่ได้ตอบอะไรลู่หงจึงพูดต่อ “แม่นางอวิ๋นช่างใจเย็นนัก เมื่อวานมีเรื่องวิวาทกัน วันนี้ก็มากินข้าวกับบุรุษภายนอก และก่อนหน้านี้เพียงชั่วยามยังพูดคุยกับอดีตสามีในโรงน้ำชาอีก”“วันนี้พวกเรามาที่นี่ก็เปล่าประโยชน์ ในเมื่อมีคุณชายน้อยแห่งตระกูลเว่ยอยู่

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 38

    เว่ยเฉินได้เตรียมทุกอย่างไว้สำหรับอวิ๋นหลิงอย่างรอบคอบ เขากล่าวเสียงเบา “แม่นางอวิ๋น ข้าเข้าใจในความกังวลของท่านดี แต่ภรรยาของข้าเป็นบุตรีโดยชอบธรรมของตระกูลไป๋ ซึ่งมีความเกี่ยวพันเป็นญาติกับท่าน การที่ท่านไปเยี่ยมเยือนนางถือเป็นเรื่องที่สมควร ไม่มีผู้ใดกล้าวิจารณ์ อีกทั้งภรรยาของข้าป่วยหนักและต้องการความช่วยเหลือจากท่านอย่างเร่งด่วน ขอให้แม่นางอวิ๋นโปรดเมตตา...”เมื่อคิดถึงพี่สาวลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้พบกันมาหลายปี ในที่สุดอวิ๋นหลิงก็พยักหน้าตอบรับ“ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้...”“ขอบพระคุณแม่นาง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปรับท่านที่จวน”บนโต๊ะอาหารมีอาหารแปดจานจัดวางอย่างประณีต เว่ยเฉินดูแลอวิ๋นหลิงอย่างใส่ใจ ให้ลองชิมอาหารแต่ละจานแม้ไม่ทราบว่าโรงเตี๊ยมฉีอวิ๋นจวีนี้เป็นของผู้ใด แต่ชื่อเสียงด้านอาหารของที่นี่ก็ไม่เกินจริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา อวิ๋นหลิงใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในตระกูลกู้ นางไม่ค่อยออกไปไหน ยกเว้นแต่เรื่องธุรกิจ นางเคยมาที่นี่บ้างเพื่อรับประทานอาหารระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากห้องข้างเคียง“ได้ยินหรือไม่? บุตรีคนรองของจวนอันหยางโหว

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 37

    หรูเมิ่งที่เอ่ยถึงคุณชายน้อยด้วยความชื่นชมยกย่อง คนผู้นั้นก็คือบุตรชายคนโตของเว่ยกั๋วกง ผู้เป็นทายาทโดยชอบธรรม ชื่อว่าเว่ยเฉินเขาสมรสมาแล้วสามปี แต่ภรรยากลับล้มป่วยเรื้อรังอยู่บนเตียง ทั้งสองยังไม่มีบุตรและเขาเองก็ไม่ได้รับอนุภรรยาเพิ่มในหมู่ชนต่างเล่าลือกันว่าคุณชายน้อยผู้นี้รักภรรยายิ่งนัก ถึงกับเดินทางไปทั่วแผ่นดินเพื่อตามหาหมอชื่อดังมารักษานางอีกทั้งยังมีข่าวลือว่า เขาปรารถนาจะอยู่เคียงข้างภรรยาชื่อไป๋หนานเพียงผู้เดียวในชั่วชีวิตนี้ โดยไม่คิดมองหาสตรีอื่นหรูเยว่ถอนหายใจเบาๆ “คุณชายน้อยผู้เพียบพร้อมถึงเพียงนี้ แต่กลับต้องอยู่ดูแลภรรยาที่อ่อนแอ เมื่อปีที่แล้วเขายังสอบติดจอหงวนอีกด้วย ช่างน่าเสียดายนัก”“ยังได้ยินมาอีกว่า มีสตรีบางคนยินดีมาหาถึงบ้าน ยอมเป็นอนุภรรยา เพียงเพื่อได้อยู่ใกล้ชิดเขา…”แม้อวิ๋นหลิงเคยเห็นเว่ยเฉินจากที่ไกลๆ มาก่อน แต่ตอนนั้นนางไม่ได้ใส่ใจนัก ทว่าตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป ก็ได้แต่จำภาพรางเลือนในความทรงจำนางครุ่นคิดพลางเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางนั้น ก็พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่มีท่วงท่าสง่างามปรากฏในสายตาเขาสวมอาภรณ์สีขาวดุจหิมะ คลุมเสื้อคลุมตัวยาว ดูสง่า

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 36

    อย่างไรก็ตาม ซุนหลิงฮว่ากลับสังเกตเห็นนางได้อย่างรวดเร็ว นางเอ่ยทักทายด้วยความกระตือรือร้นว่า “พี่หญิงอวิ๋น ช่างบังเอิญนัก ไม่คิดเลยว่าจะได้พบท่านที่นี่”อวิ๋นหลิงไม่มีทางเลือกจึงต้องหยุดเดิน แล้วหันกลับไปคารวะทั้งสองคน “ขอคารวะองค์หญิง แม่ทัพกู้” น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆซุนหลิงฮว่าเหมือนไม่รับรู้ถึงความเย็นชาของอวิ๋นหลิง นางยังคงยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้บาน “พี่หญิงอวิ๋น สบายดีหรือไม่? ข้าได้ยินว่าว่างจือบอกว่าท่านเก่งเรื่องการค้าขาย พอดีข้ามีโอกาสทางการค้าอยากจะร่วมมือกับท่าน ไม่ทราบว่าท่านสนใจหรือไม่?”โอกาสทางการค้า? อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ นางไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง อีกทั้งยังไม่อยากข้องเกี่ยวกับกู้ว่างจือและซุนหลิงฮว่ามากนักนางปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล “ขอบพระทัยในความเมตตาขององค์หญิง แต่ข้าพึ่งกลับมาตระกูลอวิ๋น งานการมากมาย ข้ายังไม่มีเวลาว่างเลย...”คำพูดยังไม่ทันจบ กู้ว่างจือกลับแสดงสีหน้าเย็นชาและตวาดเสียงดังว่า “อวิ๋นหลิง เจ้าหมายความว่าอะไรกัน? องค์หญิงมีน้ำใจเชิญเจ้าให้ร่วมมือ เจ้ายังกล้าปฏิเสธหรือ?”อวิ๋นหลิงตกใจกับการตวาดของเขา ก่อนจะ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 35

    "หลิงฮว่า เรื่องมันเป็นเช่นนี้..." กู้ว่างจือขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหนักใจราวกับไม่อยากพูดซุนหลิงฮว่ากระพริบตาใสซื่อ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ว่างจือ มีอะไรรึ? หรือเป็นเรื่องพระราชโองการสมรส? ข้าได้ยินมาว่าคงจะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ข้าไม่กังวล ท่านก็อย่ากังวลไปเลย"กู้ว่างจือสูดลมหายใจลึก ก่อนตัดสินใจพูดความจริงออกมา "เป็นเรื่องของอวิ๋นหลิง...นางไม่ได้ถูกข้าหย่า แต่เป็น... เป็นการขอหย่าด้วยตัวนางเอง"ซุนหลิงฮว่าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ "ขอหย่า? ท่านหมายความว่า...นางเป็นฝ่ายขอพระราชโองการหย่าเองอย่างนั้นหรือ?"กู้ว่างจือพยักหน้า สีหน้าหม่นหมองลง "ใช่ นางไม่เคยคิดจะขัดขวางเรื่องสมรสนี้เลย และไม่เคยคิดจะยอมรับเจ้าตั้งแต่แรก”สีหน้าของซุนหลิงฮว่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่นานนักนางก็ปรับอารมณ์ได้ นางก้มหน้าลงก่อนเอ่ยเสียงเบา "ที่แท้...พี่หญิงไม่เคยยินดีจะอยู่ร่วมจวนกับข้าเลย ข้าเคยคิดว่านางจะยอมรับข้าจริงๆ เสียอีก..."เมื่อเห็นนางทำหน้าเศร้าสร้อย กู้ว่างจืออดรู้สึกสงสารไม่ได้ เขายื่นมือไปจับมือนาง "หลิงฮว่า อย่าเสียใจไปเลย อวิ๋นห

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 34

    คำพูดเย็นชาของมารดาและน้องสาว กู้ว่างจือที่ยืนอยู่ตรงประตูได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน“ท่านแม่” กู้ว่างจือสูดหายใจเข้า แววตาแน่วแน่ “ข้าขอย้ำอีกครั้งว่า ของทุกสิ่งที่เป็นของนาง ข้าจะไม่แตะต้องแม้แต่น้อย สิ่งที่พวกท่านต้องการ ข้าจะพยายามหามาให้เอง”เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ “ส่วนเรื่องที่ว่านางจะเสียใจหรือไม่ ข้าจะสนใจไปทำไม? คนที่จากไปแล้ว พวกท่านยังพูดถึงกันอยู่ทุกวัน มันมีประโยชน์อะไรนักหรือ?”คำพูดนี้ทำให้หวังฉิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ความไม่พอใจในใจก็ยังคุกรุ่น นางรีบหาข้ออ้างอื่นมาพูดต่อ “แต่นางเกือบทำให้ซูซูตายจากไปนะ นางเป็นคนหยุดให้ยาไม่ใช่หรือ?”กู้ว่างจือรีบจะเอ่ยแย้ง แต่เหลียนซื่อกลับชิงกล่าวขึ้นก่อน "พี่สะใภ้ใหญ่ คำพูดนั้นอย่าได้กล่าวลอยๆ ยานั้นหาใช่อวิ๋นหลิงที่ไม่ส่งยา ในความเป็นจริง หลังจากยาขององค์หญิงหมดลง อวิ๋นหลิงก็ได้นำยาห้าสิบเม็ดที่นางมีทั้งหมดมอบให้ซูซู เม็ดหนึ่งราคาหนึ่งตำลึงเงินเชียวนะ นางยกให้ทั้งหมดเลยทีเดียว"กู้ว่างจือเบิกตากว้าง มองเหลียนซื่อด้วยความตกตะลึง ถามด้วยเสียงไม่อยากเชื่อ "อาสะใภ้รอง ที่ท่านกล่าวเป็นความจริงหรือ นางมอบยาให้ซูซูทั้งหมดจริงหรือ"เหลี

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 33

    ยามค่ำคืนผ่านพ้นไปจนดึกดื่น อวิ๋นหลิงแทบข่มตานอนหลับไม่ได้เลยหลายสิ่งหลายอย่างวนเวียนอยู่ในหัว จนนางไม่อาจพักผ่อนได้อย่างสงบเช้าตรู่ หรูเยว่ยกสำรับอาหารเช้าเข้ามาในห้อง ก็พบว่าคุณหนูของตนดูเหนื่อยล้าและไร้เรี่ยวแรง“คุณหนู หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ท่านนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะนะเจ้าคะ”อวิ๋นหลิงส่ายศีรษะเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา “เมื่อคืนข้าเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหาคนไปส่งที่จวนจิงเจ้าแทนข้าด้วย”“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”...วันแรกหลังจากการหย่า ตระกูลอวิ๋นวุ่นวายตลอดทั้งคืน ตระกูลกู้เองก็วุ่นวายไม่แพ้กันชายาของจวิ้นอ๋อง หวังฉิง นั่งอยู่หน้าสำรับอาหารเช้าด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า นางมองอาหารบนโต๊ะด้วยแววตาไม่พอใจ“ครัวนี้ทำอะไรออกมาให้กินกัน? ช่างน่าขยะแขยง!” นางโยนตะเกียบลงอย่างแรงกู้หยิงหยิงเห็นมารดาไม่พอใจ จึงเอ่ยเสริมทันที “ท่านแม่ ต้องเป็นพวกบ่าวขี้เกียจแน่ๆ อาหารโปรดของลูกอย่างหอยอบน้ำส้มขิงก็ไม่มีเลย”กู้หยวนจือหาได้ใส่ใจคำพูดของมารดาไม่ ยังคงคีบอาหารเข้าปากพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ "ข้าว่าอาหารมื้อนี้ก็ดีอยู่แล้ว ท่านแม่อย่าคิ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 32

    อวิ๋นหลิงหันไปมองหรูเยว่ด้วยแววตาตำหนิเล็กน้อย เป็นเชิงบอกให้เงียบนางเปลี่ยนเรื่องสนทนาอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ ขอข้าดื่มซุปเถิด ข้าหิวแล้ว”“ได้สิๆ…” เฉินซูฉินรีบตอบรับอย่างอ่อนโยน พร้อมยกถ้วยซุปส่งให้อวิ๋นหลิงอวิ๋นหลิงดื่มซุปอย่างรวดเร็ว แทบจะหมดในรวดเดียว เฉินซูฉินส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ดื่มช้าๆ หน่อยสิ ยังมีอีกนะ ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก”เมื่ออวิ๋นหลิงดื่มซุปจนหมด เฉินซูฉินหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดคราบซุปที่มุมปากให้นาง แววตาเปี่ยมด้วยความรักใคร่ “โตจนป่านนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กน้อยอยู่เลย”อวิ๋นหลิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “พี่สะใภ้ ข้าเช็ดเองก็ได้…”เฉินซูฉินส่ายหัว พร้อมกับกล่าวอย่างจริงจัง “ไม่ได้หรอก หากพี่เจ้ารู้ว่าข้าไม่ดูแลเจ้าดีๆ เขาคงต้องตำหนิข้าแน่”เมื่อพูดถึงพี่ชาย ดวงตาของอวิ๋นหลิงพลันแดงก่ำขึ้น “พี่สะใภ้…”เฉินซูฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ก่อนที่พี่เจ้าจะออกเดินทาง เขากำชับข้าไว้หลายครั้งว่าให้ดูแลเจ้า หากเจ้าถูกใครรังแก ข้าต้องเป็นคนออกหน้าแทนเจ้า…แต่ข้าก็ทำไม่ได้เลย หลิงเอ๋อร์ คืนนี้เจ้าถึงกับเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยข้าและอาหลิน ข้ารู้สึกผิด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status