แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: คุณชายชุดหิมะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 14:01:19
สีหน้าของกู้ว่างจือเย็นชาอย่างยิ่ง “ข้าปรารถนาที่จะอภิเษกกับหลิงฮว่า นั่นคือความตั้งใจของข้า หลิงฮว่าเสียสละช่วงเวลาสำคัญในชีวิตเพื่อไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์ และเพิ่งได้กลับมา บัดนี้นางยินยอมที่จะมอบตนให้ข้าแล้ว เช่นนั้นมีสิ่งใดผิด? เจ้าดีที่สุดอย่าได้พยายามกระทำสิ่งไร้ประโยชน์ หากมิใช่เพราะเจ้ากล่าวใส่ร้ายต่อหน้าพระสนมกุ้ยเฟย ฝ่าบาทคงมิได้เลื่อนการพระราชทานสมรสโดยไร้เหตุผล!”

“เจ้าควรอยู่ในกรอบให้ดี อย่าก่อเรื่องวุ่นวายอีก ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้ามีบุตรเพื่อเป็นที่พึ่งพิงในบั้นปลายชีวิต เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”

อวิ๋นหลิงคล้ายได้ยินเรื่องตลกขบขัน นางคลายมือจากผ้าม่าน กำหมัดแน่น ไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่มเติมก่อนสั่งเบาๆ “หรูเยว่ เรากลับจวนเถอะ”

แต่เสียงอ่อนโยนของซุนหลิงฮว่าก็ดังขึ้น “พี่หญิงอวิ๋น โปรดรอก่อน ข้ามีเรื่องอยากพูดด้วย”

หรูเยว่สะบัดหน้าอย่างไม่พอใจ “คุณหนู ไม่ต้องสนใจนาง เราไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

อวิ๋นหลิงรู้ดีว่ามีสายตามากมายจับจ้องอยู่ ซุนหลิงฮว่าเป็นถึงองค์หญิง นางไม่อาจเสียมารยาท นางจึงลงจากรถม้า

หรูเยว่พยุงนางลงจากรถม้า นางโค้งคำนับอย่างเรียบร้อย “องค์หญิงมีเรื่องใดจะรับสั่งหรือ?”

ซุนหลิงฮว่าเดินเข้ามาใกล้ประคองอวิ๋นหลิงให้ลุกขึ้น “พี่หญิง ข้าปรารถนาให้เราปรองดองกันจริงๆ ข้ารู้ว่าการที่ข้าจะเป็นภรรยาเอกอาจทำให้พี่หญิงเสียใจ แต่ข้ามิได้มีเจตนาแย่งชิงสิ่งใด เพียงแค่อยากใช้ชีวิตร่วมกับว่างจือเท่านั้น พี่หญิง ท่านบอกว่าจะไม่ขัดขวางเรา เป็นความจริงใช่หรือไม่?”

อวิ๋นหลิงจ้องมองอีกฝ่ายก่อนย้อนถาม “องค์หญิงมีคุณูปการต่อแคว้นต้าฉี ข้าย่อมเคารพนับถือยิ่ง การให้องค์หญิงมาเป็นภรรยาเอก นับเป็นการลดตัวลงมาแล้ว ตัวข้าเป็นเพียงสตรีในเรือนหลัง มีคุณธรรมอันใดถึงจะกล้าขัดขวางการสมรสของท่าน?”

สีหน้าของซุนหลิงฮว่าอ่อนลงหลายส่วน “พี่หญิง หมายความว่าท่านไม่มีทางเลือกใช่หรือไม่? จริงๆ แล้วท่านยอมเพราะฝ่าบาทมีพระราชโองการให้พระราชทานสมรสใช่หรือไม่?”

อวิ๋นหลิงถอยหลังสองก้าว หัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทตรัสว่าแค่เลื่อนออกไป มิใช่ยกเลิก และข้าก็ไม่เคยคิดจะขัดขวางพวกท่านด้วย”

แม้จะยังไม่ได้รับราชโองการอนุญาตให้หย่าร้าง แต่นางไม่ยอมแพ้แน่นอน

ไทเฮามีสายสัมพันธ์กับตระกูลของนาง นางจะหาโอกาสเข้าเฝ้าในวันรุ่งขึ้นเพื่อขอพระราชทานหย่าอีกครั้ง

อย่างไรก็ต้องหย่าอยู่ดี นางไม่มีเหตุผลที่จะขัดขวางความรักใคร่ของคนสองคน

ทว่านางซุนหลิงฮว่ากลับไม่ยอมจบง่ายๆ นางจ้องมองอวิ๋นหลิงแน่วนิ่ง “พี่หญิง ท่านไม่ได้ยุยงพระสนมกุ้ยเฟยจริงหรือ? ข้าได้ยินมาว่าฉินอ๋องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ชายท่านบนสนามรบ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ฉินอ๋องจะช่วยทูลฝ่าบาทให้เลื่อนการประทานสมรสออกไป?”

ซุนหลิงฮว่า ช่างกล้านัก นางถึงกับกล้าปล่อยข่าวลือระหว่างท่านพี่กับฉินอ๋อง!

อวิ๋นหลิงโกรธจัดที่อีกฝ่ายบังอาจกล่าวหาเช่นนี้ นางกล่าวเสียงเย็น “องค์หญิง โปรดระวังคำพูดด้วย ฉินอ๋องและพระสนมกุ้ยเฟยไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะพูดถึงพล่อยๆ ได้!”

ซุนหลิงฮว่าอึ้งไปทันที

อวิ๋นหลิงที่เคยดูอ่อนโยนกลับมีแววตาเย็นชา “แม้องค์หญิงจะกลับมาจากการสมรสเชื่อมสัมพันธ์และร่วมรบเพื่อบ้านเมือง ทว่าก็ไม่ควรพูดจาอย่างไร้ความยั้งคิด!”

นางหันไปจ้องกู้ว่างจือด้วยสายตาเยือกเย็น กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงความอ่อนน้อมหรือหยิ่งผยอง “กู้ว่างจือ ท่านผิดที่ผิดคำสัญญา เลือกที่จะไปแต่งกับผู้อื่น อย่ามาทำท่าเหมือนลำบากใจต่อหน้าข้า มันน่ารังเกียจนัก!”

ซุนหลิงฮว่าร้องไห้ด้วยความเสียใจ “พี่หญิง ขอท่านอย่าโกรธว่างจือเลย ข้าเป็นส่วนเกินเอง ข้าต่างหากที่ทำให้พวกท่านไม่สงบสุข”

กู้ว่างจือดูเหมือนจะสะเทือนใจอย่างมาก เขาดึงซุนหลิงฮว่าไปอยู่ข้างหลัง และกล่าวด้วยความโกรธที่เพิ่มขึ้น “เจ้าอย่าพูดเกินไป หลิงฮว่าเพียงแค่พูดถึงเรื่องจริง มิได้มีเจตนาให้ร้ายเจ้าถึงเพียงนั้น! ตั้งแต่ต้นจนจบ หลิงฮว่าไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้า นางเป็นถึงองค์หญิง แต่ก็เรียกเจ้าว่าพี่หญิงด้วยความเคารพ เจ้าอย่ากังวลไปเลย สิทธิในการดูแลจวน รวมถึงตำแหน่งของเจ้า หลิงฮว่าจะไม่แย่งชิงทั้งนั้น อีกอย่าง ข้าบอกแล้วว่าบุตรของหลิงฮว่าจะให้เจ้าเลี้ยงดูแลด้วย”

อวิ๋นหลิงหัวเราะเย็นชา “องค์หญิง ท่านจะมอบบุตรของท่านให้ข้าหรือ? และตำแหน่งในจวนที่ท่านบอกว่าจะไม่แย่งชิงนั้น ท่านยินยอมจริงหรือ?”

ซุนหลิงฮว่าปาดน้ำตาอย่างอ่อนโยน กล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวล “พี่หญิง สิ่งที่ว่างจือพูด ข้าล้วนยินยอม บุตรของข้าย่อมเป็นบุตรของพี่หญิง ข้าเป็นเพียงคนต่ำต้อย ไม่มีความสามารถดูแลจวนได้ วันข้างหน้า ยังต้องพึ่งพาพี่หญิงช่วยจัดการ อีกทั้ง หากพี่หญิงอยากมีบุตรกับว่างจือ ข้าก็ยินดี”

นางกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเหมือนไร้ที่ติ แต่กลับสร้างความลำบากใจให้อวิ๋นหลิงอย่างมาก

กู้ว่างจือยิ่งรู้สึกสงสารซุนหลิงฮว่ามากขึ้น เขาคิดว่าหลิงฮว่าของตนป็นสตรีที่ใจกว้างและน่าสงสารที่สุดในโลก “หลิงฮว่า หากอวิ๋นหลิงไม่สามารถมีบุตรได้ ข้าก็จะมีเจ้าเพียงผู้เดียวตลอดชีวิตนี้”

“ว่างจือ อย่าพูดเช่นนั้นเลย พี่หญิงจะเสียใจ” ซุนหลิงฮว่ากล่าวด้วยท่าทีสุภาพและนอบน้อม ทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกว่านางเป็นสตรีที่มีความใจกว้างและอ่อนโยน

อวิ๋นหลิงเห็นภาพของคนทั้งสองที่ร่วมกันพูดจาในลักษณะเช่นนี้จนแทบทนไม่ไหว แต่ถึงกระนั้น นางก็จะไม่ปล่อยให้คนทั้งคู่ได้สมหวังไปง่ายๆ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความเย็นชา “องค์หญิง ท่านเป็นผู้ที่เคยไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์ ย่อมรู้ดีถึงความยากลำบากของสตรี เช่นนั้นท่านจึงรู้สึกสงสารข้าใช่หรือไม่? ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ต้องการบุตรของท่าน การพรากบุตรจากแม่เป็นเรื่องที่โหดร้ายที่สุด ข้าจะไม่ทำสิ่งที่ผิดธรรมเช่นนั้น ข้าอาจเป็นเพียงสตรีในเรือนหลัง แต่ข้าก็มีชีวิตของข้าที่ต้องดำเนินไป ข้าขอย้ำอีกครั้ง ข้ามิได้คิดจะขัดขวางความรักของพวกท่าน”

ซุนหลิงฮว่ากล่าวเสียงแผ่วเบา “พี่หญิง ท่านยังโกรธอยู่ใช่หรือไม่?”

โกรธสิ ต้องโกรธอยู่ ซ้ำยังรู้สึกขยะแขยงยิ่งนัก!

อวิ๋นหลิงจ้องมองกู้ว่างจือก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เช่นนี้แล้วกัน หย่าเถอะ เช่นนี้พวกท่านจะได้ไม่ต้องกังวลว่าข้าจะโกรธหรือคอยขัดขวางอีก”

“หย่า? พี่หญิง ท่านกล่าวเช่นนี้เพราะโกรธหรือ?” ซุนหลิงฮว่าจับมืออวิ๋นหลิง “ท่านไม่ควรทำลายชื่อเสียงของตนเพราะความโกรธเลยนะพี่หญิง”

ในแคว้นต้าฉี ชื่อเสียงของสตรีสำคัญยิ่งกว่าชีวิต

กู้ว่างจือขมวดคิ้ว “หลิงเอ๋อร์ ข้าไม่เคยคิดจะหย่ากับเจ้า หลิงฮว่าและข้าต่างก็มีที่ว่างให้เจ้าเสมอ”

อวิ๋นหลิงหัวเราะเยาะ “พวกท่านไม่จำเป็นต้องทำตัวลำบากเพื่อข้า ให้คนทั้งโลกด่าข้าว่าเป็นหญิงขี้อิจฉางั้นหรือ?”

กู้ว่างจือรีบกล่าวด้วยความร้อนรน “ไม่ใช่ เราไม่ได้ลำบากใจ เจ้าคิดมากไปเอง”

ซุนหลิงฮว่าทำท่าทีเศร้าสร้อย “พี่หญิง ท่านคงไม่พอใจที่ข้าเข้ามาในจวนจวิ้นอ๋องใช่หรือไม่? หากหย่ากับว่างจือ ท่านจะถูกผู้คนกล่าวหาว่าเป็นหญิงที่ถูกทอดทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้แม่ทัพอวิ๋นก็เสียชีวิตในสนามรบไปแล้ว หากท่านกลับไปยังตระกูลอวิ๋น ชีวิตคงยิ่งลำบากมากขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะข้าที่ไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์กลับมา และหน้าด้านมารักว่างจือ หากจะโกรธ ก็โกรธข้าเถอะ อย่าทำเช่นนี้กับว่างจือเลย ข้าสงสารเขา”

อวิ๋นหลิงส่ายศีรษะเบาๆ นางเข้าใจแล้วว่า การพูดคุยกับคนที่ไม่ยอมรับฟังก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง

สิ่งที่นางพูดไปล้วนไร้ประโยชน์

“ช่างเถอะ ข้าควรกลับจวนได้แล้ว พวกท่านอยากทำอะไรก็เชิญเถิด ข้าไม่เกี่ยวข้องด้วย”

นางเป็นบุตรสาวของจวนอันหยางโหว ได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เยาว์วัย พี่ชายเป็นแม่ทัพ พี่สาวเป็นพระชายา นางเติบโตมาพร้อมกับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ

นางไม่อยากฉีกหน้า กล่าวถ้อยคำที่ไม่ดีเหล่านั้น

“พี่หญิง…”

“หรูเยว่ ไปกันเถอะ”

ซุนหลิงฮว่าพยายามจะดึงมืออวิ๋นหลิงไว้ แต่หรูเยว่ที่มีวิชาการต่อสู้กลับผลักนางออกไปด้วยความโกรธ “องค์หญิง โปรดอย่าดึงคุณหนูของเราอีก คุณหนูเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จำเป็นต้องกลับจวนเพื่อพักผ่อน โปรดหลีกทางให้ด้วยเพคะ”

ซุนหลิงฮว่าไม่ได้ระวังตัวจนเสียหลัก โชคดีที่มีสาวใช้คอยประคองไว้

“หยาบคาย!” สาวใช้ที่อยู่ข้างกายซุนหลิงฮว่าตะโกนตำหนิ “เจ้ามันแค่สาวใช้ต่ำต้อย กล้าลบหลู่องค์หญิงหมิงหยาง เจ้าคิดว่าควรได้รับโทษสถานใด?”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 7

    หรูเยว่ที่มีนิสัยตรงไปตรงมา เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงถูกสองบุรุษสตรีคู่นี้รังแก นางไม่อาจระงับความโกรธในใจได้ จึงเข้ามาขวางไว้โดยไม่ลังเลนางไม่รู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังเชิดหน้าชูคอ น้ำเสียงของนางหนักแน่น “แม้ข้าจะเป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อย แต่ก็รู้ดีถึงหลักการเป็นคน ข้าไม่มีวันลบหลู่อื่นโดยไร้เหตุผล แต่ท่านในฐานะองค์หญิงที่ไปสมรสเชื่อมสัมพันธ์ กลับมาพัวพันกับแม่ทัพที่มีภรรยาแล้ว การที่ท่านแม่ทัพกู้ปรากฏตัวในรถม้าของท่านเช่นนี้ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าท่านสมรสกันแล้วกระมัง…”ยังไม่ทันที่หรูเยว่จะพูดจบ เสียงตบดังสนั่นก็ดังขึ้นกู้ว่างจือตบเข้าที่ใบหน้าของหรูเยว่จนมุมปากของนางมีเลือดซึมออกมา เขามองอวิ๋นหลิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าปล่อยให้สาวใช้หยาบคายเช่นนี้ นี่หรือคือการอบรมของเจ้า?”อวิ๋นหลิงไม่สนใจที่จะต่อว่า แต่รีบเข้าไปเช็ดเลือดบนใบหน้าของหรูเยว่ด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของนางบวมแดงมือที่เคยถือดาบฟันศัตรู บัดนี้กลับกลายเป็นมือที่ทำร้ายสตรี!ความโกรธ ความเสียใจ ทุกสิ่งประดังเข้ามา อวิ๋นหลิงเต็มไปด้วยความผิดหวัง นางตบหน้ากู้ว่างจือกลับอย่างแรง“กู้ว่างจือ คนของข้า ข้าจะสั่งสอนเอง! เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 8

    “เงินไม่พอจริงๆ พ่อบ้านหวัง นายท่านรองเอาเงินค่าชดเชยของแม่ทัพอวิ๋นไปหมดแล้ว”“ใช่ ไม่ใช่เพราะพวกเราทำงานช้า แต่เพราะขาดแคลนกำลังคนและขาดเงินต่างหาก”อวิ๋นหลิงรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา นางเตรียมตัวจะออกไปช่วยแก้ปัญหา แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น“ขาดเงินเท่าไร ขาดคนเท่าไร? ข้าจ่ายเอง”เซียวอวี้?อวิ๋นหลิงชะงักไป ไม่กล้าขยับตัว ได้ยินเสียงพ่อบ้านหวังนำคนทั้งหมดคุกเข่าลงพร้อมกล่าวคำถวายพระพรเซียวอวี้ออกคำสั่งเสียงเรียบ “พวกเจ้าช่วยกันจัดพิธีศพให้เสร็จโดยเร็ว อย่าให้ล่าช้า”ดูเหมือนเขาจะพาคนมาด้วย เพราะภายนอกเริ่มมีเสียงคึกคักขึ้นอวิ๋นหลิงคุกเข่าอยู่บนเบาะ ไม่กล้าขยับ ในห้องศพมีประตูเพียงบานเดียว หากนางออกไปตอนนี้อาจดูไม่เหมาะสม นางตั้งใจมาเงียบๆ ไม่อยากให้ใครรู้พ่อบ้านหวังทำความเคารพเซียวอวี้ด้วยท่าทีสุภาพ “ฉินอ๋อง เชิญเสด็จไปที่ห้องรับรอง มีน้ำชาร้อนๆ เตรียมไว้ให้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง พวกเจ้าไปทำธุระต่อเถอะ ข้าอยากไปดูแม่ทัพอวิ๋นเสียหน่อย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นหลิงก็รีบคุกเข่าลงอีกครั้ง คอยอย่างเรียบร้อย ไม่นานนัก นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้นางลุกขึ้นยืนและกำลังจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 9

    อวิ๋นหลิงก้าวเดินอย่างสงบนิ่ง พลางเดินพลางกล่าวปลอบหรูเมิ่งว่า “อย่าตื่นตระหนกไป สิ่งที่ควรมาย่อมมา ไม่ช้าก็เร็ว ปล่อยใจให้สบายเถิด”หรูเมิ่งยังคงตื่นตระหนก นางตามอยู่ด้านหลังอวิ๋นหลิง สีหน้าซีดเซียว กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “คุณหนูใหญ่ป่วยหนักจนลุกจากเตียงไม่ได้อีกแล้ว พระชายาจวิ้นอ๋องก็โกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟ...”“อืม หยุดยาไปสามวันแล้ว พวกเขาก็ควรจะร้อนรนได้แล้ว”เมื่อกลับถึงจวนจวิ้นอ๋อง อวิ๋นหลิงยังคงสวมชุดไว้ทุกข์ ไม่ได้เปลี่ยน นางรู้ดีว่าภารกิจครั้งนี้มาเพื่อสิ่งใด จึงเดินตรงไปยังเรือนของชายาจวิ้นอ๋อง หวังฉิงทันทีทันทีที่ก้าวเข้าสู่ลานเรือน อวิ๋นหลิงก็เห็นชายาจวิ้นอ๋อง หวังฉิงนั่งอยู่ในห้องโถง สีหน้าเคร่งขรึมเมื่อหวังฉิงเห็นอวิ๋นหลิงเข้ามา ความไม่พอใจก็ฉายชัดบนใบหน้า นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “ว่างจือเพิ่งได้รับชัยชนะกลับมาจากสนามรบ และกำลังจะอภิเษกกับองค์หญิงหมิงหยาง นี่เป็นเรื่องน่ายินดี แต่เจ้าใส่ชุดไว้ทุกข์เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?”อวิ๋นหลิงเผชิญหน้ากับคำถามของชายาจวิ้นอ๋องอย่างสงบนิ่ง นางทำความเคารพก่อนจะตอบกลับ “ท่านแม่ วันนี้เป็นวันส่งศพพี่ชายที่เสียช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 10

    กู้ว่างจือกำลังดื่มด่ำอยู่กับความหวานชื่นระหว่างเขาและซุนหลิงฮว่า แต่กลับถูกขัดจังหวะ สาวใช้เข้ามารายงานว่าชายาจวิ้นอ๋องให้กู้ว่างจือรีบกลับจวนโดยด่วนซุนหลิงฮว่าแสดงความไม่พอใจทันที นางออดอ้อนว่า “ว่างจือ ต้องเป็นพี่หญิงอวิ๋นส่งคนมาเรียกท่านแน่ๆ นางไม่ยอมรับข้าเลย เมื่อวานนางยังขู่ท่านด้วยการพูดเรื่องหย่าอีก จะทำอย่างไรดี?”กู้ว่างจือลูบหลังมือนางเบาๆ กล่าวปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นางเพียงโศกเศร้าจากการสูญเสียพี่ชาย ไม่ได้มีเจตนาต่อต้านเจ้า ข้าต้องกลับจวน เพราะท่านแม่เรียกหา อาจมีเรื่องด่วนก็เป็นได้”ซุนหลิงฮว่าไม่ยอมปล่อยมือจากเขา “แต่…เรื่องสมรสของเราจะทำอย่างไรดี? ไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าไรจึงจะได้สมรสกัน ฉินอ๋องเป็นเสด็จอาของท่านไม่ใช่หรือ? ตามหลักแล้วควรอยู่ข้างท่าน แต่เหตุใดเมื่อวานเขาถึงปกป้องพี่หญิงอวิ๋นล่ะ?”กู้ว่างจือถอนหายใจ “เจ้าอย่าคิดมาก ฉินอ๋องปกป้องอวิ๋นหลิงเพราะเขาเคยร่วมรบกับพี่ชายของนาง เขาเพียงรู้สึกผิดที่พี่ชายของนางต้องสละชีวิต อย่ากังวลไปเลย”ทว่ากู้ว่างจือยังไม่ได้กลับจวน นางรับใช้ก็มาเร่งอีกครั้ง เขาจึงต้องรีบจากไปเมื่อกลับถึงจวน กู้ว่างจือเห็นกู้หยิงห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 11

    “ใช่ เข้าวัง”อวิ๋นหลิงยื่นจดหมายขอเข้าเฝ้าด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวล นางเองก็ไม่มั่นใจนัก สิ่งที่ทำไปล้วนเป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าอาจจะมีโอกาสไทเฮาจะยังระลึกถึงบุญคุณในอดีต และเต็มใจจะพบหน้านางหรือไม่ อวิ๋นหลิงไม่อาจแน่ใจได้เลยท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลอวิ๋นในตอนนี้เหลือคนอยู่น้อยเต็มที ทั้งยังตกอยู่ในสภาพไร้ที่พึ่งพิง ท่ามกลางสายตาผู้คนภายนอกที่ล้วนจับจ้อง บางคนถึงกับคอยดูความล่มสลายของตระกูลด้วยความสะใจขณะที่รถม้าแล่นผ่านตลาดที่คึกคัก อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะเปิดม่านขึ้นเล็กน้อย นางมองดูผู้คนที่เดินขวักไขว่ และสินค้าที่วางขายอย่างละลานตา ภาพความครึกครื้นภายนอกทำให้หัวใจของนางรู้สึกแปลกแยกและห่างเหินนางเผลอยิ้มบางๆ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ พร้อมครุ่นคิดในใจ (หลายปีที่ผ่านมาตนมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องต่างๆ จนลืมที่จะใช้ชีวิต ไม่รู้เลยว่าได้พลาดสิ่งสวยงามในชีวิตไปมากมายเพียงใด)ตลอดสามปีที่อยู่ในจวนหนานหยางจวิ้นอ๋อง อวิ๋นหลิงรู้สึกประหนึ่งผ่านพ้นความทุกข์ทรมานทั้งชีวิต ยามนี้เมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น ก็คล้ายกับเป็นเหตุการณ์ในอดีตชาติหรูเยว่หันไปมองอวิ๋นหลิงด้วยความสงสั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 12

    วังหลังมิใช่สถานที่ที่จะอยู่ได้นานนักอวิ๋นหลิงเดินออกจากตำหนักอี๋หวาด้วยแววตาอาลัยของพี่หญิงอวิ๋นหรงที่มองตามหลังนางขณะเดินกลับจวน นางบังเอิญได้ยินเสียงพูดคุยของบ่าวรับใช้สองคน“เจ้าได้ยินหรือไม่? ฉินอ๋องของพวกเรานอกจากจะรูปงามแล้วยังมีความเมตตาอีกด้วย” สาวใช้คนหนึ่งพูดเสียงเบา“แน่นอน เขาคือเทพสงครามของแคว้นต้าฉี เขาขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยหยวนจนพ่ายแพ้ ไม่ใช่หรือ?” อีกคนเสริมขึ้น“ข้ายังได้ยินอีกว่าไม่กี่วันก่อน มีภรรยาของแม่ทัพคนหนึ่งถูกสามีขับไล่ แต่ภรรยาผู้นั้นกลับไปขอความช่วยเหลือจากฉินอ๋อง…”“หา? ฉินอ๋องจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? แล้วเรื่องจบลงอย่างไร?”“หลังจากที่ฉินอ๋องสืบสวนความจริง ก็พบว่าแม่ทัพคนนั้นต่างหากที่นอกใจ ฉินอ๋องจึงช่วยให้ทั้งสองหย่าร้างกัน และภรรยาผู้นั้นยังนำสินเดิมไปสมรสใหม่ด้วย”อวิ๋นหลิงได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ นางรู้สึกขำขันในใจนางส่ายศีรษะ และตั้งใจเร่งฝีเท้าเดินต่อ แต่หรูเยว่ที่เดินข้างๆ เอ่ยขึ้น “คุณหนู หรือว่าท่านก็ลองไปขอความช่วยเหลือจากฉินอ๋องดูบ้างดีหรือไม่? สามีของท่านก็เป็นแม่ทัพของเขานะ”อวิ๋นหลิงได้ยินคำนี้ นางนิ่งคิดอยู่ครู่หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 13

    กู้ว่างจือก้าวเข้าไปประชิดตัวอวิ๋นหลิง ก่อนจะยกมือขึ้นบีบลำคออันบอบบางของนางอย่างแรง ดวงตาของเขาฉายแววโหดเหี้ยม "หากข้าหย่าเจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นหญิงต้องทิ้ง ไร้ที่พึ่งพิง! บิดาและพี่ชายของเจ้าล้วนสิ้นไปแล้ว ตระกูลอวิ๋นก็ไม่มีวันยอมรับเจ้าอีก เจ้าคิดให้ดีเสียก่อน!"ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วลำคอของอวิ๋นหลิง น้ำตาเอ่อคลออยู่ในดวงตาแต่นางไม่ได้ดิ้นรนใดๆ เพียงจ้องมองกู้ว่างจือด้วยความสงบ รอคอยอย่างอดทน นางอยากรู้ว่าเขาจะกล้าฆ่านางหรือไม่!ในเสี้ยววินาทีนั้น กู้ว่างจือมองเห็นความมุ่งมั่นและความเศร้าโศกที่ลึกจนไม่อาจปิดบังได้ของนาง ความรู้สึกผิดอันแปลกประหลาดแทรกซึมเข้าสู่หัวใจของเขาเขาปล่อยมือออกจากลำคอของนางอย่างฉับพลัน อวิ๋นหลิงทรงตัวไม่ทัน จึงล้มลงไปนั่งกับพื้นอย่างแรง มือของนางเผลอไปกดลงบนเศษกระเบื้องแตก ทำให้เลือดไหลซึมออกมาทันทีนางเพิกเฉยต่อแววรู้สึกผิดที่แวบผ่านในดวงตาของเขา ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ข้าคิดดีแล้ว หย่าข้าเถอะ กู้ว่างจือ และขอให้ท่านทำตามที่พูดไว้ อย่าได้กลับคำอีก"กู้ว่างจือมองดูฝ่ามือของอวิ๋นหลิงที่มีเลือดไหลอาบ ใจของเขากระตุกแน่น แต่ดวงตากลับเย็นชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 14

    เช้าตรู่ หวังฉิงก็ส่งคนไปเอารายการสินเดิมของอวิ๋นหลิง กระบวนการทั้งหมดราบรื่นอย่างน่าแปลกใจ"ว่าอย่างไรนะ? นางออกไป โดยไม่พูดอะไรเลยนั้นหรือ เพียงแค่ให้สาวใช้หยิบรายการสินเดิมจากโต๊ะมาให้?" หวังฉิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแฝงความสงสัย"ใช่เจ้าค่ะ พระชายาจวิ้นอ๋อง ฮูหยินให้สาวใช้คนสนิทหยิบเอกสารจากบนโต๊ะ แม้บ่าวจะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ดูจากลายมือแล้ว เขียนไว้อย่างประณีตเรียบร้อยเจ้าค่ะ" คนรับใช้ที่ถูกส่งไปตอบอย่างเคารพหวังฉิงเปิดดูรายการสินเดิมทีละหน้า สิ่งของบางอย่างที่บันทึกไว้ในเอกสารนั้น นางเคยเห็นในห้องเก็บสมบัติของจวนมาก่อน"ถือว่ารู้จักวางตัวดี!"ในขณะนั้น กู้หยิงหยิงแต่งตัวสวยสดงดงาม นางเดินเข้ามากอดแขนของหวังฉิง พลางถามด้วยความตื่นเต้น "ท่านแม่ ฮองเฮาตกลงจะพบพวกเราหรือไม่เจ้าคะ?"หวังฉิงมองดูบุตรสาวด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ "เตรียมรถม้าไว้พร้อมแล้ว เราจะเข้าวังเดี๋ยวนี้เลย"กู้หยิงหยิงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ "ข้ารู้อยู่แล้วว่าฮองเฮาต้องยอมพบพวกเราแน่! ท่านแม่ก็เป็นอาของฮองเฮานี่นา"ในขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่ง ภายในรถม้าอีกคันหนึ่ง อวิ๋นหลิงนั่งเงียบๆ ไม่พูดสิ่งใด หรูเยว่ที่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14

บทล่าสุด

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 40

    อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตานิ่งสงบแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ “พูดเช่นนี้ แปลว่าพวกท่านยอมรับเรื่องการลักพาตัวพี่สะใภ้และหลานชายของข้าแล้วสินะ? การลักพาตัวถือเป็นความผิดร้ายแรง โทษขั้นต่ำคือต้องติดคุกสิบปี ข้ามองว่าเรายังเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงตั้งใจจะให้เรื่องจบแค่การทะเลาะวิวาท แต่ดูเหมือนข้าจะใจกว้างเกินไป”จูซื่อถึงกับพูดไม่ออก สีหน้าปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมา ก่อนจะพยายามแก้ตัว “ยังไงเสียเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า เขายังเด็ก ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ทำผิดไปเพราะความหุนหันพลันแล่น อีกทั้งพวกเจ้าก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? เจ้าก็ไปทันเวลา เขาแค่ขู่ ไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงๆ เสียหน่อย”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นหลิงก็ไม่อาจระงับโทสะในใจได้อีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเตะเก้าอี้ล้มลงกับพื้น “ทำผิดแล้วยังกล้าพูดอย่างหน้าชื่นตาบานอีกหรือ? ท่านเลี้ยงลูกไม่ดี ปล่อยให้คนอื่นต้องมารับกรรมแทน ท่านควรขอบคุณที่พี่สะใภ้และอาหลินไม่เป็นอะไร มิฉะนั้น ข้าจะไม่ปล่อยพวกท่านไปง่ายๆ แน่! พวกท่านได้อยู่อย่างสุขสบายเพราะบุญของบรรพบุรุษ แต่กลับไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่มี ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”จูซื่อถึงกับพูดอะไรไ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 39

    อวิ๋นหลิงรู้สึกตกตะลึงชั่วครู่ แต่ในใจกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอันใดอวิ๋นฟ่งจะเป็นหรือตายเกี่ยวข้องอันใดกับนาง?แต่ต่อหน้าผู้คน นางต้องแสร้งทำเป็นใส่ใจเล็กน้อย “ขอบพระทัยที่ท่านอ๋องที่เตือน ข้าจะไปที่จวนจิงเจ้าเดี๋ยวนี้”เซียวอวี้ไม่ได้ขัดขวาง เว่ยเฉินคารวะเสร็จแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วคนที่นินทาก็ไม่ทราบว่าถูกจับด้วยข้อหาใด เป็นเพียงพวกอันธพาลลูกหลานขุนนางระดับล่าง การลงโทษก็เพียงเพื่อขู่เท่านั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมไม่กล้าตำหนิฉินอ๋อง ห้องรับรองพังเสียหายไปหนึ่งห้อง เขายังต้องควักเงินจ่ายเองทว่าฉินอ๋องกลับให้ลู่หงวางเงินหนึ่งวงไว้เป็นค่าชดเชยฉินอ๋องแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ซึ่งปกติแล้วเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้ามากนักลู่หงเองก็ไม่รู้จะปลอบโยนอย่างไร จึงกล่าวว่า “ท่านอ๋อง แม่นางอวิ๋นเป็นญาติฝ่ายมารดาของตระกูลไป๋จริงๆ”ฉินอ๋องไม่ได้ตอบอะไรลู่หงจึงพูดต่อ “แม่นางอวิ๋นช่างใจเย็นนัก เมื่อวานมีเรื่องวิวาทกัน วันนี้ก็มากินข้าวกับบุรุษภายนอก และก่อนหน้านี้เพียงชั่วยามยังพูดคุยกับอดีตสามีในโรงน้ำชาอีก”“วันนี้พวกเรามาที่นี่ก็เปล่าประโยชน์ ในเมื่อมีคุณชายน้อยแห่งตระกูลเว่ยอยู่

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 38

    เว่ยเฉินได้เตรียมทุกอย่างไว้สำหรับอวิ๋นหลิงอย่างรอบคอบ เขากล่าวเสียงเบา “แม่นางอวิ๋น ข้าเข้าใจในความกังวลของท่านดี แต่ภรรยาของข้าเป็นบุตรีโดยชอบธรรมของตระกูลไป๋ ซึ่งมีความเกี่ยวพันเป็นญาติกับท่าน การที่ท่านไปเยี่ยมเยือนนางถือเป็นเรื่องที่สมควร ไม่มีผู้ใดกล้าวิจารณ์ อีกทั้งภรรยาของข้าป่วยหนักและต้องการความช่วยเหลือจากท่านอย่างเร่งด่วน ขอให้แม่นางอวิ๋นโปรดเมตตา...”เมื่อคิดถึงพี่สาวลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้พบกันมาหลายปี ในที่สุดอวิ๋นหลิงก็พยักหน้าตอบรับ“ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้...”“ขอบพระคุณแม่นาง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปรับท่านที่จวน”บนโต๊ะอาหารมีอาหารแปดจานจัดวางอย่างประณีต เว่ยเฉินดูแลอวิ๋นหลิงอย่างใส่ใจ ให้ลองชิมอาหารแต่ละจานแม้ไม่ทราบว่าโรงเตี๊ยมฉีอวิ๋นจวีนี้เป็นของผู้ใด แต่ชื่อเสียงด้านอาหารของที่นี่ก็ไม่เกินจริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา อวิ๋นหลิงใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในตระกูลกู้ นางไม่ค่อยออกไปไหน ยกเว้นแต่เรื่องธุรกิจ นางเคยมาที่นี่บ้างเพื่อรับประทานอาหารระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากห้องข้างเคียง“ได้ยินหรือไม่? บุตรีคนรองของจวนอันหยางโหว

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 37

    หรูเมิ่งที่เอ่ยถึงคุณชายน้อยด้วยความชื่นชมยกย่อง คนผู้นั้นก็คือบุตรชายคนโตของเว่ยกั๋วกง ผู้เป็นทายาทโดยชอบธรรม ชื่อว่าเว่ยเฉินเขาสมรสมาแล้วสามปี แต่ภรรยากลับล้มป่วยเรื้อรังอยู่บนเตียง ทั้งสองยังไม่มีบุตรและเขาเองก็ไม่ได้รับอนุภรรยาเพิ่มในหมู่ชนต่างเล่าลือกันว่าคุณชายน้อยผู้นี้รักภรรยายิ่งนัก ถึงกับเดินทางไปทั่วแผ่นดินเพื่อตามหาหมอชื่อดังมารักษานางอีกทั้งยังมีข่าวลือว่า เขาปรารถนาจะอยู่เคียงข้างภรรยาชื่อไป๋หนานเพียงผู้เดียวในชั่วชีวิตนี้ โดยไม่คิดมองหาสตรีอื่นหรูเยว่ถอนหายใจเบาๆ “คุณชายน้อยผู้เพียบพร้อมถึงเพียงนี้ แต่กลับต้องอยู่ดูแลภรรยาที่อ่อนแอ เมื่อปีที่แล้วเขายังสอบติดจอหงวนอีกด้วย ช่างน่าเสียดายนัก”“ยังได้ยินมาอีกว่า มีสตรีบางคนยินดีมาหาถึงบ้าน ยอมเป็นอนุภรรยา เพียงเพื่อได้อยู่ใกล้ชิดเขา…”แม้อวิ๋นหลิงเคยเห็นเว่ยเฉินจากที่ไกลๆ มาก่อน แต่ตอนนั้นนางไม่ได้ใส่ใจนัก ทว่าตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป ก็ได้แต่จำภาพรางเลือนในความทรงจำนางครุ่นคิดพลางเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางนั้น ก็พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่มีท่วงท่าสง่างามปรากฏในสายตาเขาสวมอาภรณ์สีขาวดุจหิมะ คลุมเสื้อคลุมตัวยาว ดูสง่า

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 36

    อย่างไรก็ตาม ซุนหลิงฮว่ากลับสังเกตเห็นนางได้อย่างรวดเร็ว นางเอ่ยทักทายด้วยความกระตือรือร้นว่า “พี่หญิงอวิ๋น ช่างบังเอิญนัก ไม่คิดเลยว่าจะได้พบท่านที่นี่”อวิ๋นหลิงไม่มีทางเลือกจึงต้องหยุดเดิน แล้วหันกลับไปคารวะทั้งสองคน “ขอคารวะองค์หญิง แม่ทัพกู้” น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆซุนหลิงฮว่าเหมือนไม่รับรู้ถึงความเย็นชาของอวิ๋นหลิง นางยังคงยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้บาน “พี่หญิงอวิ๋น สบายดีหรือไม่? ข้าได้ยินว่าว่างจือบอกว่าท่านเก่งเรื่องการค้าขาย พอดีข้ามีโอกาสทางการค้าอยากจะร่วมมือกับท่าน ไม่ทราบว่าท่านสนใจหรือไม่?”โอกาสทางการค้า? อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ นางไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง อีกทั้งยังไม่อยากข้องเกี่ยวกับกู้ว่างจือและซุนหลิงฮว่ามากนักนางปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล “ขอบพระทัยในความเมตตาขององค์หญิง แต่ข้าพึ่งกลับมาตระกูลอวิ๋น งานการมากมาย ข้ายังไม่มีเวลาว่างเลย...”คำพูดยังไม่ทันจบ กู้ว่างจือกลับแสดงสีหน้าเย็นชาและตวาดเสียงดังว่า “อวิ๋นหลิง เจ้าหมายความว่าอะไรกัน? องค์หญิงมีน้ำใจเชิญเจ้าให้ร่วมมือ เจ้ายังกล้าปฏิเสธหรือ?”อวิ๋นหลิงตกใจกับการตวาดของเขา ก่อนจะ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 35

    "หลิงฮว่า เรื่องมันเป็นเช่นนี้..." กู้ว่างจือขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหนักใจราวกับไม่อยากพูดซุนหลิงฮว่ากระพริบตาใสซื่อ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ว่างจือ มีอะไรรึ? หรือเป็นเรื่องพระราชโองการสมรส? ข้าได้ยินมาว่าคงจะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ข้าไม่กังวล ท่านก็อย่ากังวลไปเลย"กู้ว่างจือสูดลมหายใจลึก ก่อนตัดสินใจพูดความจริงออกมา "เป็นเรื่องของอวิ๋นหลิง...นางไม่ได้ถูกข้าหย่า แต่เป็น... เป็นการขอหย่าด้วยตัวนางเอง"ซุนหลิงฮว่าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ "ขอหย่า? ท่านหมายความว่า...นางเป็นฝ่ายขอพระราชโองการหย่าเองอย่างนั้นหรือ?"กู้ว่างจือพยักหน้า สีหน้าหม่นหมองลง "ใช่ นางไม่เคยคิดจะขัดขวางเรื่องสมรสนี้เลย และไม่เคยคิดจะยอมรับเจ้าตั้งแต่แรก”สีหน้าของซุนหลิงฮว่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่นานนักนางก็ปรับอารมณ์ได้ นางก้มหน้าลงก่อนเอ่ยเสียงเบา "ที่แท้...พี่หญิงไม่เคยยินดีจะอยู่ร่วมจวนกับข้าเลย ข้าเคยคิดว่านางจะยอมรับข้าจริงๆ เสียอีก..."เมื่อเห็นนางทำหน้าเศร้าสร้อย กู้ว่างจืออดรู้สึกสงสารไม่ได้ เขายื่นมือไปจับมือนาง "หลิงฮว่า อย่าเสียใจไปเลย อวิ๋นห

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 34

    คำพูดเย็นชาของมารดาและน้องสาว กู้ว่างจือที่ยืนอยู่ตรงประตูได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน“ท่านแม่” กู้ว่างจือสูดหายใจเข้า แววตาแน่วแน่ “ข้าขอย้ำอีกครั้งว่า ของทุกสิ่งที่เป็นของนาง ข้าจะไม่แตะต้องแม้แต่น้อย สิ่งที่พวกท่านต้องการ ข้าจะพยายามหามาให้เอง”เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ “ส่วนเรื่องที่ว่านางจะเสียใจหรือไม่ ข้าจะสนใจไปทำไม? คนที่จากไปแล้ว พวกท่านยังพูดถึงกันอยู่ทุกวัน มันมีประโยชน์อะไรนักหรือ?”คำพูดนี้ทำให้หวังฉิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ความไม่พอใจในใจก็ยังคุกรุ่น นางรีบหาข้ออ้างอื่นมาพูดต่อ “แต่นางเกือบทำให้ซูซูตายจากไปนะ นางเป็นคนหยุดให้ยาไม่ใช่หรือ?”กู้ว่างจือรีบจะเอ่ยแย้ง แต่เหลียนซื่อกลับชิงกล่าวขึ้นก่อน "พี่สะใภ้ใหญ่ คำพูดนั้นอย่าได้กล่าวลอยๆ ยานั้นหาใช่อวิ๋นหลิงที่ไม่ส่งยา ในความเป็นจริง หลังจากยาขององค์หญิงหมดลง อวิ๋นหลิงก็ได้นำยาห้าสิบเม็ดที่นางมีทั้งหมดมอบให้ซูซู เม็ดหนึ่งราคาหนึ่งตำลึงเงินเชียวนะ นางยกให้ทั้งหมดเลยทีเดียว"กู้ว่างจือเบิกตากว้าง มองเหลียนซื่อด้วยความตกตะลึง ถามด้วยเสียงไม่อยากเชื่อ "อาสะใภ้รอง ที่ท่านกล่าวเป็นความจริงหรือ นางมอบยาให้ซูซูทั้งหมดจริงหรือ"เหลี

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 33

    ยามค่ำคืนผ่านพ้นไปจนดึกดื่น อวิ๋นหลิงแทบข่มตานอนหลับไม่ได้เลยหลายสิ่งหลายอย่างวนเวียนอยู่ในหัว จนนางไม่อาจพักผ่อนได้อย่างสงบเช้าตรู่ หรูเยว่ยกสำรับอาหารเช้าเข้ามาในห้อง ก็พบว่าคุณหนูของตนดูเหนื่อยล้าและไร้เรี่ยวแรง“คุณหนู หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ท่านนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะนะเจ้าคะ”อวิ๋นหลิงส่ายศีรษะเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา “เมื่อคืนข้าเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหาคนไปส่งที่จวนจิงเจ้าแทนข้าด้วย”“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”...วันแรกหลังจากการหย่า ตระกูลอวิ๋นวุ่นวายตลอดทั้งคืน ตระกูลกู้เองก็วุ่นวายไม่แพ้กันชายาของจวิ้นอ๋อง หวังฉิง นั่งอยู่หน้าสำรับอาหารเช้าด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า นางมองอาหารบนโต๊ะด้วยแววตาไม่พอใจ“ครัวนี้ทำอะไรออกมาให้กินกัน? ช่างน่าขยะแขยง!” นางโยนตะเกียบลงอย่างแรงกู้หยิงหยิงเห็นมารดาไม่พอใจ จึงเอ่ยเสริมทันที “ท่านแม่ ต้องเป็นพวกบ่าวขี้เกียจแน่ๆ อาหารโปรดของลูกอย่างหอยอบน้ำส้มขิงก็ไม่มีเลย”กู้หยวนจือหาได้ใส่ใจคำพูดของมารดาไม่ ยังคงคีบอาหารเข้าปากพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ "ข้าว่าอาหารมื้อนี้ก็ดีอยู่แล้ว ท่านแม่อย่าคิ

  • แต่งใหม่กับเสด็จอา ข้าดันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น   บทที่ 32

    อวิ๋นหลิงหันไปมองหรูเยว่ด้วยแววตาตำหนิเล็กน้อย เป็นเชิงบอกให้เงียบนางเปลี่ยนเรื่องสนทนาอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ ขอข้าดื่มซุปเถิด ข้าหิวแล้ว”“ได้สิๆ…” เฉินซูฉินรีบตอบรับอย่างอ่อนโยน พร้อมยกถ้วยซุปส่งให้อวิ๋นหลิงอวิ๋นหลิงดื่มซุปอย่างรวดเร็ว แทบจะหมดในรวดเดียว เฉินซูฉินส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ดื่มช้าๆ หน่อยสิ ยังมีอีกนะ ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก”เมื่ออวิ๋นหลิงดื่มซุปจนหมด เฉินซูฉินหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดคราบซุปที่มุมปากให้นาง แววตาเปี่ยมด้วยความรักใคร่ “โตจนป่านนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กน้อยอยู่เลย”อวิ๋นหลิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “พี่สะใภ้ ข้าเช็ดเองก็ได้…”เฉินซูฉินส่ายหัว พร้อมกับกล่าวอย่างจริงจัง “ไม่ได้หรอก หากพี่เจ้ารู้ว่าข้าไม่ดูแลเจ้าดีๆ เขาคงต้องตำหนิข้าแน่”เมื่อพูดถึงพี่ชาย ดวงตาของอวิ๋นหลิงพลันแดงก่ำขึ้น “พี่สะใภ้…”เฉินซูฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ก่อนที่พี่เจ้าจะออกเดินทาง เขากำชับข้าไว้หลายครั้งว่าให้ดูแลเจ้า หากเจ้าถูกใครรังแก ข้าต้องเป็นคนออกหน้าแทนเจ้า…แต่ข้าก็ทำไม่ได้เลย หลิงเอ๋อร์ คืนนี้เจ้าถึงกับเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยข้าและอาหลิน ข้ารู้สึกผิด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status