เมื่อใกล้เลิกงาน เพื่อนร่วมงานเสียวหย่ามาหาฉันและอยากให้ฉันทํางานกะกลางคืนแทนเธอ ฉันปฏิเสธเพราะมีธุระหลังเลิกงาน คืนนั้น ระหว่างเข้าเวรเธอก็ถูกไล่ออกจากหน่วยงานเพราะออกจากหน้าที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยเหตุนี้ จางเมิ่งหย่าจึงเกลียดฉันและผลักฉันลงบันไดเมื่อฉันท้องใกล้คลอด “หน่วยงานที่ฉันสอบเข้าได้อย่างยากลําบาก ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันก็คงไม่ถูกไล่ออก” “ถ้าฉันต้องมีชีวิตที่ยากลําบาก แกก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีเหมือนกัน” สุดท้ายฉันตกเลือดจนตาย หนึ่งศพสองชีวิต พอลืมตาอีกครั้ง ฉันกลัยกลับไปในวันที่จางเมิ่งหย่าหาฉันขอเปลี่ยนกะ ที่แท้คนที่เธอทิ้งหน้าที่ไปรนัดส่วนตัวโดยพลการด้วยก็คือสามีของฉัน
View Moreฉันเปิดไลน์ของจางเมิ่งหย่าขึ้นมา "เมิ่งหย่า มีเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องบอกเธอ ฉันกลัวว่าเฉิงจื้อจะโกหกเธอ ก่อนหย่าเราสองคนเคยไปตรวจร่างกายด้วยกัน วันนี้ฉันเพิ่งได้ผลการตรวจร่างกายกลับมา เฉิงจื้ออาจจะติดเชื้อ HIV แล้ว"จางเมิ่งหย่าตะโกนใส่ฉันในไลน์ว่า"หยางลู่ เธอบ้าไปแล้วหรือ สาปแช่งเฉิงจื้อเป็น HIV..." 56 วินาที"เฉิงจื้อไม่ออกไปหาผู้หญิงตามอําเภอใจหรอก ผู้หญิงบ้าอย่างเธอทนเห็นฉันกับเฉินจื้อดีไม่ได้......" 57 วินาที"ถ้าเฉิงจื้อได้ เธอก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน..."52 วินาทีจนถึงข้อสุดท้าย "หยางลู่ จริงไหม เธอตรวจออกมาแล้วใช่ไหม เธอก็ติดเชื้อด้วยใช่ไหม...”ฉันตอบแค่ประโยคเดียวว่า"ผลการตรวจของฉันคือฉันไม่ได้ติด แนะนําให้เธอตรวจสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พบเจอเร็วจะได้รักษาเร็ว"ไม่กี่วันต่อมา ฉันก็ได้รับจดหมายจากฟางเยว่“หยางลู่ เธอรู้ได้ยังไงว่าเฉิงจื้อติดเชื้อ HIV ผลการตรวจของโรงพยาบาลออกมาแล้ว เฉิงจื้อติดเชื้อจริงๆ ส่วนจางเมิ่งหย่าไม่ได้ติดเชื้อ”“ตอนนี้เฉิงจื้อยืมเงินอย่างบ้าคลั่งเพื่อรักษาโรค เดิมทีญาติของเขาก็มีไม่มากอยู่แล้ว คนที่สามารถยืมเงินเพื่อรักษาโรคให้เขายิ่งไม่มีเข้
หลังจากหย่าแล้ว ฉันรู้สึกสดชื่นมาก แม้แต่ดูสุนัขในชุมชนก็ดูถูกใจไม่น้อย แต่ว่า ทางด้านเฉิงจื้อและจางเมิ่งหย่าคงไม่ได้มีเวลาว่างอย่างฉันแล้วล่ะได้ยินมาว่าหมาที่ซื้อสัตย์อย่างโจวปินก็แข็งใจขึ้นมาครั้งหนึ่ง หย่ากับจางเมิ่งหย่าแล้ว และจางเมิ่งหย่าก็ออกจากบ้านไปตัวเปล่าแต่จางเมิ่งหย่าก็ไม่สนใจ รีบย้ายไปอยู่กับเฉิงจื้อทันที“พี่ลู่ เจอกันที่ร้านอาหารซิงเสวียนตอนหกโมงเย็น ขอเชิญคุณดูละครดีๆสักเรื่อง” เมื่อดูไลน์ที่สวีเวยเวยส่งมา ฉันรีบเตรียมตัวทันที หลังเลิกงานก็ตรงไปที่ร้านอาหารซิงเสวียนทันทีแม่เจ้า นี่คือสิ่งที่ฉันสามารถดูได้หรือ เฉิงจื้อ สวีเวยเวย จางเมิ่งหย่า นี่มันสนามอาชูร่าหญิงประเภทไหนกันฉันยืนอยู่ที่ชั้นสองของร้านอาหาร มองสามคนนี้ที่อยู่ตรงกลางของชั้นล่างจางเมิ่งหย่าในเวลานี้ดูบอบบางไร้เสียงสา "เฉิงจื้อ เราอย่าเลิกกันได้ไหม ฉันหย่าแล้ว ต่อไปเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยแล้ว"สวีเวยเวยมองเฉิงจื้ออย่างโกรธๆ "ที่รัก เขาเป็นใคร วันนี้คุณบอกฉันให้ชัดเจนนะ ไม่งั้น วันนี้เราเลิกกัน"เฉิงจื้อมองไปที่สวีเวยเวยที่ทั้งสวยทั้งรวย ในเวลานี้เขาอยากจะฆ่าจางเมิ่งหย่าที่ทําลายเรื่องดีๆ
บ่ายวันนั้น ฉันมอบหมายให้ฟางเยว่ส่งใบสมัครหย่าให้เฉิงจื้อ และเปลี่ยนกุญแจที่บ้านด้วยฉันมาที่บ้านของพ่อแม่โดยไม่หยุดพักเพื่ออธิบายสถานการณ์ของเฉิงจื้อ แค่บอกว่าเฉิงจื้อนอกใจ ไม่กล้าพูดว่าเฉิงจื้อเคยทําร้ายฉันจนตาย กลัวว่าพ่อแม่จะทนไม่ไหวแต่พ่อก็ยังแก่และแข็งแรง เฉันยึดอํานาจของเฉิงจื้อในบริษัทอย่างรวดเร็ว และไล่คนที่ถูกเฉิงจื้อดึงมาเป็นพวกส่วนเฉิงจื้อ ฉันล่ะนับถือเขาจริงๆ ตอนนี้หายตัวไปแล้ว นี่ไม่ใช่เวลาชักดาบในฝักกันหรือไงแต่ฉันคาดไม่ถึงว่า อีกสองวันเฉิงจื้อจะมาคุกเข่าที่หน้าประตูบ้านฉัน ขอร้องให้ฉันให้อภัย“ลู่ลู่ ผมผิดไปแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะจางเมิ่งหย่ายั่วยวนผม เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณ ผมถึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้ เขาถึงได้โอกา ทั้งหมดเป็นเพราะเขานะ” เขาคุกเข่าและเคาะประตูพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา“ลู่ลู่ ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่หลงกลผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว ในชาตินี้ผมจะรักคุณเท่านั้น ลู่ลู่ ลูกของเรากำลังจะเกิดนะ อย่าปล่อยให้เขาไม่มีพ่อเลย ลู่ลู่”บางทีในสายตาของเขาฉันอาจจะหลอกง่ายขนาดนี้ก็ได้ เขาแค่ทําผิดพลาดที่ผู้ชายทั้งโลกก็ทําได้ ขอแค่เขากลับใจอย่างจริงใจ ฉันรักเขามา
ในคลิปจางเมิ่งหย่าก็ไปหาโทรศัพท์ที่บ้านฉัน“ที่รัก รีบหาโทรศัพท์สิ รีบลบทิ้งก่อนที่เขาจะเห็นโทรศัพท์”“เฉิงจื้อ เห็นแล้วก็เห็น กลัวอะไร ฉันไม่อยากแบ่งปันคุณกับเขาอีกแล้ว พอฉันนึกถึงความใกล้ชิดระหว่างคุณกับเขา ฉันก็สะอิดสะเอียนและไม่สบายใจ”“เมิ่งหย่า ผมก็ไม่อยากสนิทกับเขาเหมือนกัน คุณวางใจเถอะ ตอนนี้พ่อของหยางลู่ได้ฝากเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ของบริษัทไว้กับผมแล้ว ตอนนี้ในบริษัทผมเป็นคนตัดสินใจเอง”พูดพลางลูบไปที่หน้าอกของจางเมิ่งหย่า “คุณอดทนอีกหน่อย รอจนกว่าหยางลู่จะคลอดออกมา ให้เขาตายหนึ่งศพสองชาติ ถึงตอนนั้นผมจะแต่งงานกับคุณอย่างสง่าผ่าเผย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา จะมีคนบอกว่าคุณเป็นเมียน้อยเอาได้ ผมจะทนได้ยังไง”“เฉิงจื้อ คุณดีจริงๆ ด้วยคําพูดของคุณ ฉันยินดีที่จะรอ ฉันจะรักนวลสงวนตัวเพื่อคุณและไม่ให้โจวปินแตะต้องฉัน” จางเมิ่งหย่าทําท่าทางเหมือนสาวน้อยที่ดื่มด่ำกับความสุขเฉิงจื้อมีฝีมือจริงๆ พริบตาเดียวก็ปลอบจางเมิ่งหย่าให้สงบได้จะพูดอะไรต่อ ฉันไม่มีกะจิตกะใจที่จะฟังแล้ว มองโจวปินที่อยู่ในออฟฟิศ บนหัวมีขาวควายอันเบ้อเริ่มเทิ่มสวมอยู่ไม่น่าแปลกใจที่โจวปินไม่ชอบฉัน ที่แท้เขาก็เป็นสา
ชาติที่แล้วฉันถูกจางเมิ่งหย่าหลอกไปที่บันได และถูกจางเมิ่งหย่าผลักลงบันได เฉิงจื้อใช้เวลาเจ็ดแปดชั่วโมงกว่าจะกลับถึงบ้านและพบฉัน วันนั้นเขาควรจะกลับมาหลังเลิกงาน ถ้าเขากลับมาส่งฉันที่โรงพยาบาลตามปกติ ฉันก็จะได้รับการช่วยเหลือเป็นแบบนี้เอง เป็นแบบนี้นี่เองฉันโง่จริงๆ เฉิงจื้อเป็นหมาป่าที่ชั่วร้าย ในชาติที่แล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันถูกเขาหลอกโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสวรรค์มีตาจริงๆ สวรรค์ปล่อยฉันกลับมาเพื่อให้ฉันรู้ว่าฉันโง่แค่ไหนใช่ไหมฉันเช็ดน้ำตาและโยนใบถอนเงินของธนาคารลงในชักโครกเพื่อทำลายฉันเข้าใจเฉิงจื้อทันที ฉันมาจากครอบครัวที่ดีตั้งแต่เด็ก แม่เป็นฉันราชการ พ่อทําธุรกิจเล็กๆ ตอนที่ฉันแต่งงานกับเฉิงจื้อ บริษัทของพ่อก็เป็นธุรกิจชั้นนําในเมืองแล้ว หลังจากแต่งงานพ่อก็ให้เฉิงจื้อทํางานกับเขาเฉิงจื้อก็ไม่ทําให้พ่อแม่ผิดหวัง ขยันเรียนทําธุรกิจ พ่อเคยแสดงออกมาหลายครั้งแล้วว่าท่านเห็นแววในตัวเฉิงจื้อ พอฉันคลอดลูกแล้วก็จะมอบบริษัทให้เฉิงจื้อ ส่วนตัวเองจะตั้งใจดูแลหลานให้ฉันแต่เฉิงจื้อนั้นเป็นหมาป่าที่ชั่วร้าย ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในการคํานวณของเฉิงจื้อ เพียงแต่ไม่รู้ว่าหลังจากฉันตายอ
จางเมิ่งหย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและเลิกร้องไห้ "ผู้อำนวยการหลิว อย่าลืมว่าการเจรจาและแผนการร่วมมือกับบริษัทอสังหาซินเต๋อล้วนเป็นงานของฉัน ถ้าไม่มีฉัน พวกคุณก็จะไม่มีอะไร"โอ้ ใช่แล้ว ยังมีเรื่องนี้อีก ฉันวิ่งเหยาะๆ ไปข้างหน้าผู้อำนวยการหลิว "ผู้อำนวยการหลิวคะ หัวหน้าหวังให้ฉันและจางเมิ่งหย่าจัดทําแผนการตั้งถิ่นฐานใหม่สําหรับซินเต๋อ แผนการชุดนี้ของฉันเพิ่งเสร็จสิ้น คุณดูสิคะ..."จางเมิ่งหย่าจ้องมองฉันด้วยความโกรธแค้น ฉันกะพริบตาโตๆ มองเธออย่างไร้เดียงสา “อ้อ เมิ่งหย่า ได้ยินพวกเธอพูดเรื่องแผนอยู่ฉันจึงรีบมา มีอะไรหรือ?”"เธอ... เธอ......"“จางเมิ่งหย่า คุณรีบไปเถอะ ถ้ามีอะไรไม่พอใจก็ไปคุยกับในเทศบาลเมืองละกัน” ผู้อำนวยการหลิวออกปากไล่จางเมิ่งหย่าภาพลักษณ์ของผู้กํากับหลิวในสายตาของฉันดูยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นมาทันที สมกับเป็นผู้กํากับหลิวจริงๆ โยนปัญหาเป็นที่หนึ่ง" แยกย้าย แยกย้าย กลับไปที่หน่วยงานซะ" ผู้อำนวยการหลิวตะโกนด้วยความโกรธเหตุการณ์ยังคงพัฒนาไปในทิศทางนี้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน คราวนี้จางเมิ่งหย่าไม่มีเหตุผลที่จะตําหนิฉันอีกแล้วตอนเช้าหลังจากที่จางเมิ่งหย่าถูกไล่อ
ฉันมองทุกอย่างรอบตัว รู้สึกทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย แล้วเดินมาถึงหน้าที่ทำงานอย่างใจลอย ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันย้อนเวลากลับใหม่มาอีกครั้งอาการจุกเสียดของมดลูกเตือนฉันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และตรงหน้าฉันไม่ใช่คราบเลือดที่หนาทึบอีกต่อไป แต่เป็นสถานที่ที่ฉันทํางานทุกวันฉันยังคงจมอยู่กับความตายที่น่าสังเวชของตัวเองในชาติที่แล้ว ทันใดนั้น เพื่อนร่วมงานของฉันจางเมิ่งหย่าก็เดินมาหาฉันฉันมองเวลาในโทรศัพท์ ฉันก็รู้ว่าเธอจะพูดอะไรแล้วเนื่องจากฤดูร้อนเป็นฤดูน้ำท่วม ทางเทศบาลเมืองจึงกําหนดให้ทุกหน่วยงานเข้าเวรตลอด 24 ชั่วโมง หน่วยงานของเราก็ไม่มีข้อยกเว้นแต่คืนนั้น ทีมตรวจสอบของเทศบาลเมืองกลับลงมาตรวจสอบคืนนั้นจางเมิ่งหย่าไม่ได้อยู่ที่ทํางานเพราะกําลังอินเลิฟอยู่ จึงถูกจับได้คาหนังคาเขา วันรุ่งขึ้นก็ถูกไล่ออกนี่เป็นครั้งเดียวที่ทีมตรวจสอบของเทศบาลเมืองลงมาตรวจสอบในตอนกลางคืน ดังนั้นฉันจึงจําวันที่ 25 กรกฎาคมได้อย่างชัดเจนหลังจากจางเมิ่งหย่าถูกไล่ออก เธอรู้สึกเกลียดชังฉันและคิดว่ามันเป็นเพราะฉันไม่ยอมเปลี่ยนกะกับเธอเธอจงใจมาบ้านฉันตอนที่ฉันท้องใกล้คลอด ล่อฉันไปที่บันได ก่อนจะ
ฉันมองทุกอย่างรอบตัว รู้สึกทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย แล้วเดินมาถึงหน้าที่ทำงานอย่างใจลอย ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันย้อนเวลากลับใหม่มาอีกครั้งอาการจุกเสียดของมดลูกเตือนฉันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และตรงหน้าฉันไม่ใช่คราบเลือดที่หนาทึบอีกต่อไป แต่เป็นสถานที่ที่ฉันทํางานทุกวันฉันยังคงจมอยู่กับความตายที่น่าสังเวชของตัวเองในชาติที่แล้ว ทันใดนั้น เพื่อนร่วมงานของฉันจางเมิ่งหย่าก็เดินมาหาฉันฉันมองเวลาในโทรศัพท์ ฉันก็รู้ว่าเธอจะพูดอะไรแล้วเนื่องจากฤดูร้อนเป็นฤดูน้ำท่วม ทางเทศบาลเมืองจึงกําหนดให้ทุกหน่วยงานเข้าเวรตลอด 24 ชั่วโมง หน่วยงานของเราก็ไม่มีข้อยกเว้นแต่คืนนั้น ทีมตรวจสอบของเทศบาลเมืองกลับลงมาตรวจสอบคืนนั้นจางเมิ่งหย่าไม่ได้อยู่ที่ทํางานเพราะกําลังอินเลิฟอยู่ จึงถูกจับได้คาหนังคาเขา วันรุ่งขึ้นก็ถูกไล่ออกนี่เป็นครั้งเดียวที่ทีมตรวจสอบของเทศบาลเมืองลงมาตรวจสอบในตอนกลางคืน ดังนั้นฉันจึงจําวันที่ 25 กรกฎาคมได้อย่างชัดเจนหลังจากจางเมิ่งหย่าถูกไล่ออก เธอรู้สึกเกลียดชังฉันและคิดว่ามันเป็นเพราะฉันไม่ยอมเปลี่ยนกะกับเธอเธอจงใจมาบ้านฉันตอนที่ฉันท้องใกล้คลอด ล่อฉันไปที่บันได ก่อนจะ
Comments