“คุณเนี่ยนะ มาเดินเล่นที่สวนลุม”
มณีรัชดาเริ่มสีหน้าไม่พอใจบ้างนี่มันเรื่องของหล่อน แล้วแววตาของหล่อนบึ้ง ทำไมล่ะเขามากักกันสิทธิ์ของหล่อนหรือยังไง จึงย้อนถาม
“ทำไมคะผู้หญิงเข้ามาเดินสวนลุมเป็นยังไงหรือ ผิดด้วยหรือคะ”
“มันดูไม่ดี เขาจะกล่าวหาว่ามาอ่อยเหยื่อล่อเอ้อ ดักผู้ชายแถวนี้ไงครับ”
เขาต้องหนีบความสุภาพเอาไว้ก่อนวาจาร้ายแดกดันคอยเอาไว้ใช้เฉพาะยามที่ต้องการแค่นี้ ต้องการให้นางสมันน้อยตายใจก่อน
มณีรัชดาแปลกใจกับผู้ชายคนนี้ เหมือนเขาประชดหล่อน หากแต่หล่อนไม่สนใจหรอก แค่คนแปลกหน้าที่เผอิญมาพบเจอกันครั้งที่สอง
“คุณคงทำงานอยู่แถวนี้ แต่มีเวลาเหลือเฟือมาเดินเล่นหรือคะ”
“เป็นเพราะผมนัดลูกค้าเอาไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลานัดครับ”
เขาจำใจปดหล่อน
มณีรัชดาก็มีสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อนักหรอก หากแต่ก็พยักหน้า
“ค่ะคุณเลยมีเวลาว่างถมเถ”
วาจาหล่อนย้อนเหน็บก็ไม่เบานี่
“แล้วคุณล่ะ ทำงานที่ไหนครับ”
“เอ้อฉันตกงานอยู่ค่ะ”มณีรัชดาหันมาตอบเขา“
“ยังหางานทำไม่ได้”ตอบแล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น
ชายหนุ่มทราบแต่เขาก็เอ่ย
“สนใจไหมครับถ้าผมจะช่วยหางานให้คุณทำ”
ย่อมทำให้มณีรัชดาแปลกใจและตาโตอย่างแน่นอน ด้วยเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่หล่อนจะเจอลูกฟลุ้กอย่างนี้ แต่หล่อนก็ต้องชั่งใจก่อน ไม่ผลีผลามเพราะกลัวเหลี่ยมเล่ห์อีกฝ่าย
ก็หล่อนรู้นี่ว่าผู้ชายยุคนี้อันตรายจะตายยิ่งหล่อรวยสง่างามอย่าคิดว่าหล่อนไม่รู้ทันแววตาที่พราวกริ่มของเขา
ถ้ามณีรัชดาโง่ หล่อนคงถูกผู้ชายหลอกไปตั้งนานแล้วละ แต่นี่หล่อนไม่โง่
“ว่าแต่งานอะไรล่ะคะฉันยังไม่รู้ว่างานที่ทำเกี่ยวกับอะไร” หากชายหนุ่มยิ้มให้เมื่อหล่อนสนใจอีกครั้งดวงตาของเขาพราวยิบหยีเมื่อเอ่ย
“อ๋อ มีแน่ครับ เรื่องงาน เอ แต่ว่าผมขอเบอร์โทร.ของคุณเอาไว้ก่อน แล้วผมจะให้นามบัตรของเพื่อนผมนี่ไป”
เขาขอข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งมณีรัชดาชั่งใจ หากว่าใจอยากได้งานก็อยากได้.. อีกใจหนึ่ง ก็แค่ลองให้เบอร์โทร.คงไม่เป็นไรมั้ง คงไม่มีอะไรเสื่อมเสียนี่ จึงพยักหน้า
“ได้ค่ะ” คิดว่าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ถ้ารู้แล้วหล่อนยังเฉลียวใจทันว่าจะอยากเดินเข้าไปในหลุมกับดักที่เขาพยายามจะขุดหรือเปล่า
เพราะมณีรัชดาไม่ใช่คนโง่ที่หล่อนพอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่คนดีนัก หากแต่หน้าตาเขาดีเท่านั้น หล่อนคิดว่าเขามีเล่ห์เลศนัยซ่อนอยู่
เมื่อเขายิ้มรับ
“นี่ครับนามบัตรของเพื่อนผม”
เพราะว่าเขาฉลาดพอไม่เอาเบอร์ของตัวเอง เพราะว่าน้องชายของเขาต้องสงสัย เพราะเขาตั้งใจจะโทร.หาหล่อนด้วยเบอร์สาธารณะ ซึ่งยากแก่การสืบทราบ
และถือว่าหล่อนพลาดไปแล้วไม่ใช่เรื่องอื่นแค่ให้เบอร์มือถือเขาไป ทั้งที่มณีรัชดาคิดแล้วว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขอบคุณที่เขาตั้งใจดิบดีหยิบยื่นไมตรีที่จะหางานทำให้แก่หล่อน
ในแง่นี้มณีรัชดาย่อมคิดว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง แง่มีน้ำใจให้หล่อน คนที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่ครั้งสองครั้ง
แล้วโชคชะตาก็ซัดเหวี่ยงให้หล่อนได้เจอกับเขาอีกครั้ง กำนามบัตรของเขาติดมา เหลือบมองดูข้อความที่ตัดสินใจพลิกดูข้อความช้าๆ
“จราดลแอนด์แซคโปรโมชั่น”
ข้อความระบุถัดไปบอกว่าเขารับจัดงานอีเว้นท์เป็นออแกไนเซอร์ระดับอาชีพ จัดเตรียมศิลปินดาราและเป็นโมเดลลิ่งที่ค้นคว้าปั้นดาวเข้าสู่วงการบันเทิง..
แค่นี้ความรู้สึกของหล่อนก็เพ้อเคลิ้มไปว่า มันคงสวยสดงดงามอย่างที่คิดเอาไว้ แต่เปล่าหรอก หล่อนชะงักเอาไว้ ไม่ใช่หลุมเล่ห์อำพรางด้วยหรือไง งานการพวกนี้
หล่อนคิดว่าน่าจะต้องเอาอะไรบางสิ่งเข้าแลกด้วยต่างหาก เคยอ่านข่าวซุบซิบในวงการบันเทิง หญิงสาวใจกล้าเหล่านั้นมีเปอร์เซ็นต์ส่วนมากที่จะได้อวดโฉมบทบาทในวงการบันเทิง
คงเป็นเพราะหล่อนคงทั้งกล้าได้กล้าเสียกระมัง
ถึงมณีรัชดาเป็นคนสวยแต่หล่อนไม่เลือกความเสื่อมเสียเป็นของรางวัลให้แก่ตัวเองหรอก เก็บหย่อนนามบัตรใส่กระเป๋าตามเดิม
ในเวลานั้น ใครว่าชายหนุ่มรีบกลับ เขาซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้นั่นนานพอ ที่จะเห็นความพึงพอใจจากดวงตาของหล่อน
ถึงกับดีดนิ้วเปาะ งั้นแสดงว่าหล่อนเริ่มเดินเข้ามาหลงเป็นเหยื่อในกับดักที่เขาพยายามวางต้อนให้เต็มที่
ต่อมา มณีรัชดาได้นั่งรถเมล์เพื่อกลับไปบ้านอีกครั้ง ไม่อยากให้ค่ำมืด กลับก่อนเวลาที่ผู้คนส่วนมากจะเลิกงานด้วย เพราะหล่อนกลัวรถติด
หลังจากเสร็จธุระในสวน
หากเขานั้น เมื่อได้พบเจอหล่อนเสร็จเรียบร้อย กับแผนการขั้นที่หนึ่งจากนั้นจอมภูก็โผล่หน้าเข้าไปในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้ามของเพื่อน
“เฮ้ย ไอ้เสือ บอกว่าจะเข้ามาตั้งนาน แกไม่โผล่มาซักที โทร.มาบอกแค่ครั้งเดียวแล้วหายต๋อม”
เพื่อนรักบ่น
คำทักของสหายเพื่อนสนิทที่มีออฟฟิศอยู่ย่านสุรวงศ์พระรามสี่ชื่อจตุทิศเขามีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัทอีกคนชื่อสถากรไม่ได้ไปหา
แต่ตั้งใจมาหาจตุทิศมากกว่า เขายิ้มเพื่อน
“เผอิญฉันเจอผู้หญิงที่น่าติดตามคนเดิมว่ะ ถือว่าหล่อนก็สวยนะ แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ กับการที่มาคบกับน้องชายของฉัน”
เขาคิดว่าผู้หญิงประเภทนี้ ฐานะก็ดูออก หล่อนอาจจะเห็นเงินแล้วรีบกระโดดใส่
เพราะมณีรัชดาตั้งหวังในการมองครั้งแรกสำหรับเขา ถึงยังไงหล่อนก็ดูไม่สวยโสภาอยู่แล้ว ในแง่มุมของจอมภู
เห็นเพื่อนสีหน้าตึงอย่างนี้ จตุทิศเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้ว “งั้น ก็เท่ากับหล่อนจะกลายเป็นว่าที่น้องสะใภ้ของนายล่ะสิ” เลยทำให้อีกฝ่ายกลับเหยียดริมฝีปากบิดเบ้ใต้กรอบดวงหน้าคมคายหล่อเหลา จนเพื่อนรับรู้เมื่อเขาย้อนคำเหยียด “เป็นน้องสะใภ้นะหรือ เฮอะ ฝันไปไกลแล้วมั้ง ไม่มีทาง ฉันนี่ละ จะกีดกันผู้หญิงคนนี้ทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เข้าใกล้น้องชายฉัน” และจอมภูก็เผลอเสียงเข้มประกาศออกมาให้เพื่อนช่วยรับรู้ ครั้นเมื่อจตุทิศรู้ว่าอารมณ์ที่ฮึดฮัดของเพื่อนรักในยามนี้นั้นมันประจุด้วยไฟแค้นที่โชนลึกในดวงตายามแสดงออกมาแววตาเขาแดงก่ำและ ถมึงทึง “หล่อนชื่ออะไร” “มณีรัชดา” “ชื่อเพราะนี่”เพื่อนรักนึกชม “ชื่อเพราะ แต่จิตใจไม่เพราะเหมือนชื่อก็ได้..พอเห็นน้องชายฉันมีเงินก็เอาตัวเองมาหว่านเสน่ห์ใกล้ๆแต่นายรู้มั๊ยฉันมีแผนแล้ว” หันมาตอบเพื่อนแล้วมุมฝีปากขยับยิ้มเหยียด ก่อนหรี่ดวงตาหันมามองเพื่อนอีกครั้ง “ฉันจะให้เจ้าดลช่วย” ทำให้เพื่อนสนิทเลยอุทานออกมา “เฮ้ยไอ้ดล นั่นถนัดภาพนู้ดนะเว้ยจอม” จอมภูยังเอ่ยตอบสีหน้าเ
ฮึ ทำให้หนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่นั้นเดือดจัด ด้วยดวงตาที่วาวเข้มที่น้องชายคนเดียวนั้นก็ไม่เชื่อฟัง หลงมืดมัวถลำบอดไปกับความรักของมัน ฮึ ความรักที่กัดก้อนเกลือกินของทั้งคู่นะสิ หากแต่จอมภูกลั้นใจทนฟังต่อ และกายไม่เคลื่อนไหวใดอันจะทำให้น้องชายจับผิดได้เพราะเขาก็ซุ่มตัวอยู่เงียบๆในเวลานี้ “พลแทบจะคิดถึงณีมากนี่ คิดถึงจนลมหายใจเข้าออกเลยนะเอ้อนี่ถามณีหน่อยเรื่องสมัครงาน เขาโทร.มาตามอีกบ้างหรือเปล่า” เมื่อภูวพลเอ่ยถามเรื่องนี้ มณีรัชดาเงียบไปครู่และหม่นลงด้วยสีหน้าที่ผิดหวังขึ้นมา “ยังจ้ะ ไม่เห็นเรียกตัวเลยสักที่” คำตอบของแฟนสาวทำให้เขาเงียบไปครู่ก่อนจะให้กำลังใจ “ก็พลบอกณีแล้วว่า จะช่วยหาให้ บริษัทเพื่อนของพ่อ ณีก็ไม่เอา เห็นไหม อวดเก่งกับความสามารถของตัวเองนัก สุดท้ายก็ไม่ได้งาน” เขาบ่นที่มณีรัชดายึดมั่นถือมั่นในตัวเองมากเกินไปจนชวดงาน EP 6เพราะหล่อนอยากหาด้วยตัวเอง หญิงสาวคิดเช่นนั้น “พลเคยบอกแล้วให้เชื่อพลแล้วก็ใจอ่อนเสีย บริษัทเพื่อนของพ่อพลมี แต่ณีก็ใจแข็ง” ใช่หล่อนยอมรับว่าหล่อนดื้อในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากพึ่งเขา
จอมภูก็ยังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวอีกครั้ง แม้น้องชายจะเอ่ยธุระจบ สีหน้ายิ้มแย้มเหมือนสุขใจ หากแต่เขาผู้เป็นพี่ชายกลับหน้าตึง หรี่ดวงตาเงยมองน้องชาย “นี่แกจะออกไปไหนอีก.. ออกไปข้างนอกหรือเปล่า” จอมภูเอ่ยเสียงเข้มแววตาหมิ่นเยาะไปยังน้องชาย ภูวพลสะบัดเหมือนจะไม่แคร์สนใจในสิ่งที่พี่ชายเอ่ย เขายังทำตัวผ่าเผยยักไหล่แบบไม่แคร์ ก้าวเดินหนีอีก “นี่ ฉันถามแกดี..แกจะออกไปไหนอีก แล้วเมื่อกี้ใครโทร.มาหาแก” “ธุระของผม มันเป็นเรื่องส่วนตัว จะออกไปไหนหรือไม่ออก ผมเคยบอกแล้วว่า พี่ใหญ่อย่ามายุ่งกับชีวิตของผม”เขาก็เสียงเข้มเอ่ยโต้กลับไปทันควัน แสยะใบหน้าใส่อย่างไม่พอใจ จนจอมภูนึกเดือดดาลยิ่งนักกับท่าทีแข็งกระด้างของน้องชาย ทั้งที่เขาแอบฟังคนทั้งสองสนทนา แต่ก็อยากจะรู้ลึกลงไปกว่านั้น “ฮึ นี่นะ ถ้าแม่กับพ่อไม่ฝากให้ฉันดูแลแกล่ะก็ จ้างให้ฉันก็ไม่แยแสเลย ว่าแกนั้นจะตกนรกหมกไหม้ยังไงก็เชิญ เพราะแกมันดื้อ ไม่เคยเชื่อฉัน” นับว่าเป็นคำพูดที่ร้ายกาจทิ้งขว้างและไม่ไยดีพอสมควรสำหรับคนเป็นพี่ชาย เมื่อเขาเอ่ยถึงน้องชาย หากคนฟังนั้นใจเจ็บแปลบ
ครั้นพอเข้าไปดูใกล้ๆ ที่มือถือซึ่งปรากฏมีเบอร์โทร.เข้ามา และในขณะที่หล่อนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะออกไปข้างนอกอีกครั้ง ก็มีมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ด้วยอารามดีใจ ก็ทำให้เธอรีบคว้าเข้ามาแนบหูเอ่ยถามทันที “มณีรัชดาพูดค่ะ จากไหนคะ” หากว่าเสียงนุ่มทุ้มตอบด้วยอารมณ์ดีใจที่หล่อนยอมรับสาย และโดยไม่ทำให้เขานั้นหน้าหงิกหน้างอหงุดหงิดอย่างเมื่อครู่ “ผม วิภัส ครับ คนที่คุณพบเจอเมื่อตอนกลางวันที่สวนลุม สักสามวันได้แล้วครับ เอ้อ โทร.มาสอบถามว่า คุณสนใจที่จะทำงานตามนามบัตรที่ผมระบุไว้มั๊ยครับ” เสียงนุ่มทุ้มที่เคยคุ้น อ๋อหล่อนจำได้แล้วใจหล่อนแฟบลง นึกว่าฝ่ายบุคคลของบริษัทที่หล่อนสมัครงานทิ้งไว้โทร.มาตาม เมื่อรู้ว่าเป็นเขา แล้วหล่อนก็ถอนใจ พยายามนึกถึงชายหนุ่มรูปร่างสูงใบหน้าคมคาย ที่มณีรัชดานึกคิดว่า ท่าทางเขาแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ เป็นเพราะหล่อนไม่ไว้ใจนะสิ แต่ก็ยอมเอ่ยพูดด้วย เหตุผลเพราะเขาพูดกับหล่อนดี และน้ำใจของมณีรัชดาคือ หากใครพูดตอบหล่อนมาดี หล่อนก็จะตอบด้วยสิ่งที่ดี อันบ่งบอกถึงมารยาทจากใจ “ค่ะ ดิฉันจำได้ ว่าไงนะคะ จะให้ดิฉันเข้
“คุณมณีรัชดา”สุ้มเสียงนั้นเอ่ยชื่อหล่อนเมื่อหล่อนมาถึงที่นัดหมายด้วยความกล้ากึ่งกลัวในหัวใจ.. แต่มณีรัชดาพยายามจะสลัดอารมณ์เหล่านี้ทิ้ง ถ้าหล่อนมัวแต่กลัว ก็คงไม่ได้งานนะสิ เพราะอยากทำงานมากกว่า ตกงาน “ค่ะ” “ผมจราดลนะครับ ไอ้ภัสเพื่อนผม คงแนะนำแล้วว่า มันบอกผมว่าคุณเต็มใจจะร่วมงานกับเรา งั้นเชิญมาทางนี้ครับ” เขาผายมือเชื้อเชิญมณีรัชดาแต่หล่อนอึ้ง ยังไม่กล้าลุกก้าวตามไป อะไรกันเขาเรียกให้ลุก นี่ หล่อนก็จะลุกแล้วหรือ เนื่องจากหล่อนกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ไม่ดี และกลัวนัก แล้วนี่ ปล่อยให้หล่อนอยู่ตามลำพังกับเขาทั้งสองต่อสองหรือ แล้วผู้หญิง ผู้ชายคนอื่นหายไปไหนหมด หล่อนยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจ เดินตามเขาไปหรอกนะ ยังอึกอักและลังเลใจ “อ้าว ตามผมมาสิครับ.. มัวนั่งอยู่ทำไม” หล่อนอึ้ง จะตอบเขาอย่างไรดี จราดลเลยบอก “ผมต้องเทสต์งาน คุณอย่ากลัวเลยครับ ถ้ากลัวคงไม่ต้องทำงานนี้หรอก ข้างในยังมีช่างภาพ ช่างไฟ อยู่อีกสามสี่คน ช่างแต่งหน้าด้วย เขาเป็นผู้หญิงเหมือนคุณ”แบบนี้มณีรัชดาค่อยถอนใจอย่างโล่งอก ยอมเดินตามเขาไป “
จอมภูคิดในใจเพราะหล่อนใจร้อนจริงๆถ้าไม่สบใจหล่อนและความพึงพอใจของหล่อนก็จากไปทันที..แต่ยังหรอกแผนของเขายังไม่สัมฤทธิ์ และจะไม่ยอมให้หล่อนหลุดจากตรงนี้ไปได้ง่ายหรอก อีกอย่างเพราะเขาทราบมาว่าน้องชายของเขากำลังจะหางานทำให้หล่อนโดยฝากญาติ และคนรู้จักเขาไม่ต้องการให้คนอย่างมณีรัชดาเหยียบเข้าไปทำงานกับเครือญาติของเขา และงานที่นี่ดูจะเหมาะกับเธอ เป็นงานด้านบัญชี หรือเป็นผู้ช่วยพี่สาวของจราดลก็ได้ และอีกอย่างฝ่ายคอสตูมดูแลเสื้อผ้าของนักแสดงหรือเลือกเฟ้นนักแสดงกับปันณชาหากเพราะในเวลานี้ มณีรัชดาไม่อยากจะรอเพราะหล่อนไม่มีความอดทนมากถึงขนาดนั้นยิ่งด้วยเขาทำให้หล่อนอารมณ์เสียและรู้สึกว่ามาเก้อ และถูกหลอกยิ่งได้มาเจอหน้าวิภัสชายหนุ่มที่หล่อนจำหน้าเขาได้ชายหนุ่มหล่อเงยหน้ามองอีกครั้ง เขาพยายามใจเย็นให้มากที่สุดขณะที่สาวสวยตรงหน้า เห็นชัดว่าหล่อนกำลังอึดอัดอย่างที่สุด “เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณเองครับ แต่ขอรับปากว่า คุณได้งานทำแน่ ถ้าหากไม่เลือกมาก” หญิงสาวเงยหน้าหวานคม จ้องเขา ที่ดวงตาของหล่อนนั้นระยับวับวาว “งานอะไรกัน..งานสกปรกที่คุณกับเพื่อนคุณกำลังจะหลอ
จราดลเอ่ยใส่หน้าเพื่อนเขาแทบจะหัวเราะเยาะใส่จราดลในทันที “บ้า ไอ้ดล ตลกแค่คำขู่ผู้หญิงคนนี้ นายก็กลัวแล้วหรือไงสำหรับคนอย่างไอ้จอมภู นะ ไม่โว้ย..ฉันมีวิธีของตัวเอง” “หมายความว่าวะ ที่อยากจะตอแย หาเรื่องหล่อนอีกว่างั้นเหอะ” จอมภูหรี่ดวงตาคม ไปทางเพื่อน เอ่ยเยาะ “ไม่ใช่กงการอะไรของนาย..ฮึหรือว่านายเกิดสนใจ” “แน่นอนล่ะ สวยขนาดนี้ นี่ถ้าไม่มีป้ายแขวนคอติดไว้จากน้องชายของนาย ฉันกระโดดเข้าไปตะครุบแล้ว.. แต่ท่าทางต่อยหนักฤทธิ์เยอะ..แต่ฉันก็ชอบเธอน่าคบหาด้วย”แล้วเอ่ยอีก “นายไปเจอที่ไหนวะ ถึงรู้ว่าเป็นเอ้อ แฟนของน้องชายนาย” “เจอกันครั้งสุดท้ายที่สวนลุม แต่ว่าก่อนหน้านั้น ฉันแอบติดตามสะกดรอยมาสักระยะแล้วเพิ่งรู้ว่าหล่อนตกงาน หางานทำไม่ได้” “อ้าว งั้น เข้าทางพอดีล่ะ ไอ้เสือที่อยากกินลูกแกะอย่างนาย มันก็เข้ามาสวมรอยเสียเลยใช่ไหมวะเพื่อน” “ก็ใช่สิวะ”จอมภูตอบอย่างไม่เห็นมีปัญหาอะไร เขาขมุบขมิบปากยังเข่นเขี้ยวไปถึงสาวสวยที่เพิ่งจากไป หมั่นไส้ด้วยกับท่าทางหยิ่งจองหอง ทั้งที่ฐานะไม่มีอะไรจะเทียบชั้นเขาได้ “หล่อนเป็นประเภท
ท่านจะได้รับทราบว่าเขาเป็นคนที่ไม่ถือตัว และคิดอย่างไรกับมณีรัชดาคนรักลูกหลานของท่าน อีกอย่างครอบครัวของหล่อนจะได้เปิดโอกาสให้เขาและหล่อนคบหากันอย่างเปิดเผยมากกว่าเดิมฃ ในสิ่งที่ภูวพลต้องการ คือไปไหนมาไหนกับหล่อนโดยไม่มีใครกีดกันและขัดขวาง และเขาจะสบายใจอย่างมากถ้าพ่อแม่ของหล่อนเปิดไฟเขียวให้อีกทีนั่นคือความรักของเขา ที่จะขยับไปใกล้กับความสมหวังเข้าถึงทุกขณะซึ่งอยากจะพูดกับมณีรัชดาอีกครั้งว่า เขาอยากจะแต่งงานกับหล่อนให้เร็วอย่างที่สุด คิดว่าจะออกจากบ้านแล้วก็เช่าที่พักอยู่กันตามลำพังสองคน เขาก็สามารถทำได้ ทำเพื่อความรักของเขาและหล่อน ภูวพลฝันเพ้ออีกครั้ง เมื่อมณีรัชดากลับเข้ามาถึงบ้านแล้วนั้น มารดาจึงเอ่ยทัก“อ้าวกลับมาแล้วยัยณี ได้ความว่ายังไงบ้างลูกเรื่องงาน” มณีรัชดายิ้มให้กับผู้เป็นมารดา “ได้จ้ะแม่ คราวนี้ ณีได้งานทำแล้วค่ะ” “เหรอลูก” นางรัชนีกับไพจิตรน้าสาวพลอยตื่นเต้นไปด้วยพร้อมกับละมือที่กำลังคลุกถั่วเหลืองนึ่งใส่แป้งเพื่อทำถั่วแปบ “เอ้อ แม่กับน้าจะได้หายห่วงซะที” “จ้ะแม่ เขาให้ทำวันพฤหัส” ตอบมารดาอย่างอาร