แชร์

12

ครั้นพอเข้าไปดูใกล้ๆ ที่มือถือซึ่งปรากฏมีเบอร์โทร.เข้ามา และในขณะที่หล่อนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อที่จะออกไปข้างนอกอีกครั้ง  ก็มีมือถือดังขึ้นอีกครั้ง

        ด้วยอารามดีใจ ก็ทำให้เธอรีบคว้าเข้ามาแนบหูเอ่ยถามทันที 

“มณีรัชดาพูดค่ะ จากไหนคะ”

        หากว่าเสียงนุ่มทุ้มตอบด้วยอารมณ์ดีใจ

ที่หล่อนยอมรับสาย และโดยไม่ทำให้เขานั้นหน้าหงิกหน้างอหงุดหงิดอย่างเมื่อครู่

        “ผม วิภัส ครับ คนที่คุณพบเจอเมื่อตอนกลางวันที่สวนลุม  สักสามวันได้แล้วครับ เอ้อ โทร.มาสอบถามว่า คุณสนใจที่จะทำงานตามนามบัตรที่ผมระบุไว้มั๊ยครับ”

        เสียงนุ่มทุ้มที่เคยคุ้น  อ๋อหล่อนจำได้แล้ว

ใจหล่อนแฟบลง นึกว่าฝ่ายบุคคลของบริษัทที่หล่อนสมัครงานทิ้งไว้โทร.มาตาม      

เมื่อรู้ว่าเป็นเขา แล้วหล่อนก็ถอนใจ พยายามนึกถึงชายหนุ่มรูปร่างสูงใบหน้าคมคาย ที่มณีรัชดานึกคิดว่า ท่าทางเขาแปลกๆยังไงก็ไม่รู้  เป็นเพราะหล่อนไม่ไว้ใจนะสิ 

แต่ก็ยอมเอ่ยพูดด้วย  เหตุผลเพราะเขาพูดกับหล่อนดี 

        และน้ำใจของมณีรัชดาคือ หากใครพูดตอบหล่อนมาดี หล่อนก็จะตอบด้วยสิ่งที่ดี อันบ่งบอกถึงมารยาทจากใจ

        “ค่ะ ดิฉันจำได้ ว่าไงนะคะ จะให้ดิฉันเข้าไปสมัครงานตามที่คุณบอกงั้นหรือ”

        เมื่อรับฟังเขาแล้วจึงเอ่ยตอบ

หากสาวสวยก็ยังนึกลังเล   เพราะเขาเองก็เป็นชายหนุ่มแปลกหน้า ที่หล่อนก็ไม่ควรไว้ใจด้วยซ้ำ  

หล่อนเลยตอบไปว่า  

        “ขอโทษค่ะ นามบัตรของคุณ ฉันฉีกทิ้งไปแล้ว”

        มณีรัชดาตอบไม่แยแส

เมื่อรู้ว่าเขาจะมาแบบมีไม้เหลี่ยมเล่ห์ลูกเล่นกับหล่อน ที่สำคัญนั้นสำหรับคนแปลกหน้า

มณีรัชดาก็ยิ่งไว้ใจไม่ได้เลย หล่อนมักจะเตือนตัวเองแบบนี้เสมอ 

        มันก็เลยทำให้อีกฝ่ายนั้นอึ้งและกรามทั้งสองข้างของเขาก็ขบบดเข้าหากันอย่างเงียบกริบ

หากในใจนั้นเดือดพล่านราวกับน้ำเดือดไม่ปาน ที่หล่อนทำกับเขาอย่างนี้ ด้วยการฉีกนามบัตรทิ้งเหรอ

 เธอเป็นใคร บังอาจนัก นี่แสดงว่าท้าทายเขามากไปแล้ว แต่ชายหนุ่มก็พยายามระงับสติไว้  ไม่อยากให้แผนเสีย  เพราะยังไงเขายังไม่อยากให้เหยื่อไหวตัวก่อน ที่ทุกอย่างจะลงมือสำเร็จ

        จึงกลบเกลื่อนแสร้งอำพรางเพื่อพูดดีตอบหล่อน  

        “แหม..คุณนี่ใจร้ายจังครับ ก็ผมอุตส่าห์หวังดีต่อคุณแท้ๆ”

        “ค่ะ แหม..จะหาคนแปลกหน้าแล้วหวังดีมันก็คงจะยากหน่อยล่ะค่ะคุณ เพราะโลกนี้มันมีแต่สิบแปดมงกุฎ”

มณีรัชดาตอบอย่างนั้นตามที่สมองหล่อนคิด  นับว่าหล่อนฉลาดทีเดียวและไม่ขาดเฉลียว

เพราะเหตุผลเดียวสำหรับมณีรัชดาคือ คนสมัยนี้ไว้ใจยาก  ถึงแม้รู้หน้า แต่ก็ไม่อาจรู้ใจ

ดังนั้นหล่อนควรป้องกันเอาไว้ก่อน

        “แต่คุณ ก็ไม่น่าที่จะตัดรอนผมถึงขนาดนั้น เอ้อ ช่วยไว้ใจผมหน่อยสิครับคุณ”

        เขาเหมือนออดอ้อน

และเอ่ยคุยกับหล่อนเหมือนอ้อนวอน ด้วยน้ำเสียงหวานนุ่มปราศจากสิ่งเคลือบแคลงเจือปน  

พอเจอคำพูดเช่นนี้เข้า  มณีรัชดาก็ใจอ่อนลงไปเหมือนกัน 

แต่มันก็เป็นจริงอีกล่ะ  ที่หล่อนไม่เคยคิดจะยอมไว้ใจใครง่ายๆหรอก  

        “เอ้อ ครับ แต่ยังไงเราก็น่าจะคบหากันดูก่อน นี่ผมก็หวังดีต่อคุณมากเลยนะครับ คุณนี แม้ว่าเราจะเพิ่งพบเจอกันเพียงครั้งแรกก็ตาม เพราะพอคุณบอกว่า ตกงาน ผมก็รับอาสาช่วยเหลือคุณด้วยความเอ้อ เห็นใจครับ เพราะรู้ดีว่าคนตกงานนั้นทุกข์ทรมานมากแค่ไหน ก็รู้อยู่ว่า งานในกรุงเทพมันหายากพอสมควร”

เขาพยายามเอ่ยให้หล่อนเห็นใจ แล้วก็ใช้ลูกออดลูกอ้อนคารม

        เลยทำให้มณีรัชดาอึ้งอีกครา 

นั่นเขามีเหตุผลของเขา ที่น่าฟัง ถ้าเขาเห็นใจคนตกทุกข์ยากอย่างหล่อน และหล่อนจะสรรเสริญบูชาด้วยว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ

ซึ่งคนประเภทนี้ในโลกนี้ขาดแคลน และหายากอย่างมาก 

นี่ มณีรัชดาไม่คิดว่า หล่อนจะได้พบเจอเข้าที่นี่

        “ก็ขอบคุณ ในความมีน้ำใจของคุณนะคะ”

        “งั้นก็ช่วยรับปากกับผมสิครับ” 

        เสียงหวานของเขาพยายามกล่อมและอ่อยเหยื่อเพื่อให้ตกหลุมพราง รวมทั้งลีลาออดอ้อนเอาใจสาวๆ 

นี่จอมภูคิดว่าเขาทำได้ และทำได้ดีที่สุดแน่นอน

ปากเขาหวาน หากคิดจะออดอ้อนกับสาวๆคนไหน หล่อนเสร็จทุกรายล่ะ 

แต่เขาไม่ค่อยจะใช้วิธีแบบนี้กับใครง่ายๆ เพราะไม่มีความจำเป็น

        แต่นี่คือความจำเป็น ที่เขาจะต้องพิสูจน์เนื้อในของสาวสวยให้ได้ ว่าที่แท้จริงเนื้อตัวของหล่อน มีแต่หน้ากากอำพรางแล้วก็ความเน่าเหม็น

ทะเยอทะยานเพื่อให้ตัวเองได้ไปสู่ความร่ำรวยทางลัด 

หากดูแล้วท่าทางลังเลของหล่อน ก็เหมือนพยายามเบนเข้าไปในทิศทางที่เขาต้องการ  

        “นะครับ รับปากผมสิ เพราะผมหวังดีต่อคุณมากนะ อยากจะให้ได้งานทำ กับบริษัทที่ผมรู้จักไง สามารถฝากเอาคุณเข้าทำงานได้..และเขากำลังขาดคนพอดีเลย”

เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาเอ่ยต่อเพื่อกล่อมเหยื่อให้หลงคล้อยตาม

        เห็นอาการลังเลของมณีรัชดาแล้ว เขาเลยคิดว่าค่อนข้างได้ผล  เนื่องจากเสียงนุ่มทุ้มสุภาพทำให้สาวหลงมาทุกราย 

แล้วหล่อนเป็นใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่ง  ก็ต้องเสร็จเขาอยู่ดี

        “ครับ ถ้าคุณไม่รู้เส้นทางไป  ไปกับผมก็ได้ ผมเองกำลังจะไปที่นั่นพอดี”

        เมื่อรู้ว่าเขาใจกล้าขนาดจะขับรถมารับหล่อน 

มณีรัชดาปฏิเสธบอกทันทีว่า 

“ขอโทษค่ะ ถ้าฉันจะไปล่ะก็ ฉันจะขอไปของฉันเองได้ค่ะ และฉันไม่ต้องการมีสารถี เอารถมารับมาส่ง ที่สำคัญค่ะ รถเมล์ค่ะเพราะฉันต้องการนั่งรถเมล์ มากกว่ารถคันหรูที่ติดแอร์” 

        หล่อนเหมือนจะระมัดระวังตัวตลอดเวลา

ทำให้จอมภูขบกรามอีกครั้ง  อย่างนึกหมั่นไส้ แต่แผนของเขาก็สำเร็จ ในเมื่อหล่อนคล้อยตามและตกลง ถึงแม้ไม่ให้เขามารับ แต่ก็ต้องเจอกันอยู่วันยังค่ำ

เขาจึงบอกเส้นทางอีกครั้ง และมณีรัชดาอดที่จะรับปากไม่ได้ เอาล่ะ ก็ต้องลองดูสักครั้งเถอะ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status