แชร์

13

“คุณมณีรัชดา”

สุ้มเสียงนั้นเอ่ยชื่อหล่อน

เมื่อหล่อนมาถึงที่นัดหมายด้วยความกล้ากึ่งกลัวในหัวใจ.. 

แต่มณีรัชดาพยายามจะสลัดอารมณ์เหล่านี้ทิ้ง  ถ้าหล่อนมัวแต่กลัว ก็คงไม่ได้งานนะสิ เพราะอยากทำงานมากกว่า ตกงาน               “ค่ะ”

        “ผมจราดลนะครับ ไอ้ภัสเพื่อนผม คงแนะนำแล้วว่า มันบอกผมว่าคุณเต็มใจจะร่วมงานกับเรา งั้นเชิญมาทางนี้ครับ”      

เขาผายมือเชื้อเชิญมณีรัชดา

แต่หล่อนอึ้ง ยังไม่กล้าลุกก้าวตามไป   อะไรกัน

เขาเรียกให้ลุก นี่ หล่อนก็จะลุกแล้วหรือ   

เนื่องจากหล่อนกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ไม่ดี และกลัวนัก  

แล้วนี่ ปล่อยให้หล่อนอยู่ตามลำพังกับเขาทั้งสองต่อสองหรือ 

แล้วผู้หญิง ผู้ชายคนอื่นหายไปไหนหมด

        หล่อนยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจ เดินตามเขาไปหรอกนะ ยังอึกอักและลังเลใจ

        “อ้าว  ตามผมมาสิครับ.. มัวนั่งอยู่ทำไม” 

        หล่อนอึ้ง จะตอบเขาอย่างไรดี 

จราดลเลยบอก

        “ผมต้องเทสต์งาน คุณอย่ากลัวเลยครับ ถ้ากลัวคงไม่ต้องทำงานนี้หรอก ข้างในยังมีช่างภาพ ช่างไฟ อยู่อีกสามสี่คน ช่างแต่งหน้าด้วย เขาเป็นผู้หญิงเหมือนคุณ”

แบบนี้มณีรัชดาค่อยถอนใจอย่างโล่งอก ยอมเดินตามเขาไป

        “นี่มันงานเกี่ยวกับอะไรคะ งานที่ว่า” 

        เสียงของมณีรัชดาออกสุ้มเสียงสูงแบบคนตกใจอย่างมาก

และเมื่อกวาดตามองดูแล้ว แต่ละคนรวมทั้งบรรยากาศการทำงานในภาพที่ตัดแปะรูปภาพนางแบบประเภทวาบหวิว เป็นที่สนใจของประเภทเฒ่าหัวงู  ปลุกใจเสือป่า

        ชวนให้หล่อนเนื้อตัวสั่นขนแขนลุก

และมณีรัชดาก็โวยวายขึ้นทันที  

        “บ้า จะให้ฉันมาถ่ายรูปโป๊ เป็นนางแบบนู้ดนี่หรือ  ไม่ ฉันไม่เอาหรอก ไม่ได้สิ้นคิดถึงขนาดนั้น”

        เสียงของหล่อนสร้างความโกลาหลให้แก่ผู้ที่ทำงานด้วยเช่นกัน ต่างหยุดทำงาน

แล้วหันมาจ้องมองหล่อนเหมือนตัวประหลาด

และมณีรัชดาไม่หยุดเพียงแค่นั้น สีหน้าของหล่อนบึ้งตึง ตาคมวาว หันหน้าไปหาเรื่องคนที่ชักชวนหล่อนมาก..

        “ไหน เพื่อนคุณ ..ไอ้นายที่ชื่อ วิภัสนั่น”

        หล่อนจำชื่อเขาได้ดี 

เห็นหล่อนออกฤทธิ์หนักอย่างนี้

จราดล จำยอมสงบนิ่ง พยักหน้า

        “รออีกห้านาที นายภัส  เพิ่งออกไปข้างนอก เดี๋ยวกลับมา”

        “ดี ฉันอยากจะเจอหน้าเขาเหมือนกัน จะได้ด่าว่าให้สมอยาก สกปรกสิ้นดี” 

มณีรัชดาไม่หยุด หล่อนบริภาษต่ออย่างทนไม่ได้และเหลืออด

        “เห็นฉันเป็นผู้หญิงต่ำๆพวกนั้นหรือไง ถึงฉันจะอดจะอยากไม่มีกิน แต่ฉันก็ไม่ขายศักดิ์ศรีตัวเองด้วยการประจานถ่ายรูปแบบนี้ลงหนังสือให้ญาติพี่น้อง คนรู้จักฉันหัวเราะเยาะเอาหรอก”    

        มณีรัชดาฟิวส์ขาด เพราะหล่อนโกรธจัดนี่เอง

        “ไหนคุณบอก ฉันว่าไม่ใช่งานแบบนั้น”

มณีรัชดาหันมาเล่นงานจราดล

หญิงสาวมีแววตาไม่พอใจอย่างมาก นี่เหมือนกับหลอกต้มหล่อน เพราะหล่อนไม่ยอมเสียรู้อย่างเด็ดขาด

        “เพื่อนของคุณล่ะเขาหลอกฉันมาใช่ไหม..นี่หรืองานที่แนะนำให้ฉัน ฮึ ฉันว่ายอมเป็นงานแม่บ้านเช็ดถูลำบากยังดีกว่าเอาเนื้อเข้าปากเสืออย่างที่พวกคุณกระทำ..แค่นี้ล่ะ ฉันไปล่ะ ไม่ต้องอยู่พบหน้านายวิภัส เพื่อนของคุณหรอก จบกันที สตูดิโอเฮงซวย”   

        มณีรัชดาด่าตามหลังแล้วยังบ่นกะปอดกะแปดอีก หลายคำ

พอหญิงสาวขยับจะเปิดประตูเท่านั้น 

        หากแต่ประตูก็ถูกผลักเข้ามาก่อน

โดยคนร่างสูง ที่มณีรัชดามองจ้อง 

แล้วหญิงสาวแทบจะกินเลือดกินเนื้อทีเดียว 

ขณะที่วิภัสหรือจอมภูชะงักกึก พอจะอ่านรู้เรื่องแล้ว

ยิ้มให้หล่อน เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่สนใจกับแววตาที่เอาเรื่องบึ้งตึงของหล่อน 

ที่เหมือนโกรธเขาสุดขีดสุดเหวี่ยง แต่เขาพยายามทำใจดีใจเย็น ในเวลานี้ ไม่ใช่ตอนที่เขาอยากจะหักคอหล่อน หรือก่อเรื่องร้ายๆสำหรับหล่อน

 เวลามันยังมีอีกเยอะมาก ที่จะเล่นเหลี่ยมหญิงสาวคนนี้เพื่อให้หล่อนตายใจ

“อ้าว คุณ ณี มาถึงนานแล้วหรือครับ เข้าไปข้างในก่อนสิ ผมเพิ่งมาถึง ขอโทษด้วย”

        เขาทำท่ายืนขวางหล่อน เหมือนบังคับด้วยสายตา

ทำให้มณีรัชดาเงยหน้ามองตรงเอ่ยเสียงเข้ม

        “หลีกหลีกเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้”

        หากเขาพยายามใจเย็นสุขุมอีกครั้งและถอนใจ

เพราะอ่านแววตาดื้อรั้นของหล่อน   

        “มีอะไรไม่พอใจคุณหรือครับ งานการที่ผมเสนอให้ไม่พอใจคุณหรือไง”

        “ใช่สิ งานต่ำๆแบบนั้น ใครจะทำ” 

หล่อนโวยวาย

หากแต่เขานั้นขมวดคิ้วเรียวเข้ม พร้อมกับหรี่ดวงตาคมมองหล่อน

        “ผมว่าเราคงเข้าใจผิดอะไรสักอย่างแล้วล่ะครับ.. เข้าไปข้างในก่อนเถอะ ไปคุยกัน แล้วผมจะบอกคุณเอง” 

        เพราะน้ำเสียงนุ่มของเขา

เลยทำให้มณีรัชดายังอิดเอื้อน  แม้หล่อนจะไม่เชื่อก็ตาม 

        “ฉันไม่เชื่อหรอก”

        “อย่าดื้อสิครับ คุณอยากได้งานหรือเปล่า..เพราะผมคิดว่างานการสำหรับคุณมันหายาก แล้วถ้าหากทางโน้นปฏิเสธอีก ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำไหวมั้ย งานที่ผมว่านี้ ไม่งั้น คุณคงจะต้องเดินหางานจนรองเท้าสึกอีกคู่แน่”

        และคำพูดของเขาก็มีเหตุผล แต่หวังดีกับหล่อนเพื่ออะไร

“คุณหวังดีกับดิฉันหรือหรือคะ”

        เมื่อหล่อนหรี่ดวงตาคมตอบ แล้วเอ่ยต่อ 

        “ฮึ แต่ว่า ขออย่าให้หวังดีแต่คิดประสงค์ร้ายก็แล้วกัน ไม่งั้นฉันจะร้ายให้ถึงที่สุด เอาล่ะ ฉันจะยอมเชื่อ”

หล่อนยินยอมเดินกลับเข้าไปข้างใน

        “งั้นคุณลองพูดถึงข้อเสนอของคุณออกมาค่ะ เพราะฉันใจร้อนไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก”

        “เดี๋ยวก่อนสิครับคุณ ค่อยๆพูดกัน จะรีบใจร้อนไปไหน”

เขาพยายามเอ่ยกับหล่อนด้วยน้ำเสียงที่ดีเอาใจรอมชอม และทุ้มนุ่ม

จนสะกดร่างของมณีรัชดาได้ชะงัด เพราะหล่อนยอมนิ่งรับฟัง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status