หวนคืนสู่อดีตในฐานะทรราช

หวนคืนสู่อดีตในฐานะทรราช

By:   เข็มทิศการใช้ชีวิตไปวันๆ  Ongoing
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
40Chapters
324views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scan code to read on App

ข้ามเวลาไปยุคโบราณ เป็นฮ่องเต้ สังหารขุนนางคดโกง กำจัดกบฏ ปราบปรามแผ่นดินให้สุขสงบ โอบกอดสาวงามทั่วใต้หล้า ครอบครองแผ่นดินและผืนน้ำ ดื่มด่ำกับความมั่งคั่งบนโลกมนุษย์ ถามสวรรค์สู่ความเป็นอมตะ

View More

Latest chapter

Free Preview

บทที่ 1

ที่นี่มันที่ไหนกันอวิ๋นฝานค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีทองอร่าม เมื่อสังเกตดีๆ พบว่ามีการแกะสลักลวดลายมังกรและหงส์ที่หรูหราอย่างยิ่งเมื่อขยับตัว เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างทับอยู่ พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องอุทานออกมาเสียงดัง "อะไรเนี่ย!"เขาเห็นเตียงหรูหราขนาดใหญ่พร้อมกับหญิงสาวอีกนับสิบคนในสภาพเปลือยเปล่า ส่วนอวิ๋นฝานอยู่ท่ามกลางของพวกเธอ ขาขาวราวหยกและเอวบางราวจะกอบด้วยมือเดียว ทำให้ประสาทของเขาตื่นตัวขึ้นในทันที"นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ทำไมถึงมีผู้หญิงสวยๆ มากมายขนาดนี้!"อวิ๋นฝานตบหน้าตัวเองอย่างแรง เจ็บมาก…นี่ไม่ใช่ความฝันหนิ!"ฝ่าบาท…ตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ?" เสียงหวานๆ ดังขึ้นข้างหู ทำให้หัวใจอวิ๋นฝานสั่นไหว เขาแทบอยากจะดึงคนพูดเข้ามากอดเล่นเสียตอนนี้…เดี๋ยวนะ! ฝ่าบาท?!ทันใดนั้น ความทรงจำหลากหลายก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของอวิ๋นฝาน ทำให้เขารู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด…"ฮ่องเต้…อวิ๋นฝาน…เสพติดกามอารมณ์…""นี่ฉันข้ามเวลามาเป็นจักรพรรดิอย่างนั้นเหรอ!"เมื่ออวิ๋นฝานลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง แววตาที่เคยความสับสนและตกใจก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยความจริงจังแผ่นดินจิ่วโจวนี่คือยุคส...

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
40 Chapters
บทที่ 1
ที่นี่มันที่ไหนกันอวิ๋นฝานค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีทองอร่าม เมื่อสังเกตดีๆ พบว่ามีการแกะสลักลวดลายมังกรและหงส์ที่หรูหราอย่างยิ่งเมื่อขยับตัว เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างทับอยู่ พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องอุทานออกมาเสียงดัง "อะไรเนี่ย!"เขาเห็นเตียงหรูหราขนาดใหญ่พร้อมกับหญิงสาวอีกนับสิบคนในสภาพเปลือยเปล่า ส่วนอวิ๋นฝานอยู่ท่ามกลางของพวกเธอ ขาขาวราวหยกและเอวบางราวจะกอบด้วยมือเดียว ทำให้ประสาทของเขาตื่นตัวขึ้นในทันที"นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ทำไมถึงมีผู้หญิงสวยๆ มากมายขนาดนี้!"อวิ๋นฝานตบหน้าตัวเองอย่างแรง เจ็บมาก…นี่ไม่ใช่ความฝันหนิ!"ฝ่าบาท…ตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ?" เสียงหวานๆ ดังขึ้นข้างหู ทำให้หัวใจอวิ๋นฝานสั่นไหว เขาแทบอยากจะดึงคนพูดเข้ามากอดเล่นเสียตอนนี้…เดี๋ยวนะ! ฝ่าบาท?!ทันใดนั้น ความทรงจำหลากหลายก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของอวิ๋นฝาน ทำให้เขารู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด…"ฮ่องเต้…อวิ๋นฝาน…เสพติดกามอารมณ์…""นี่ฉันข้ามเวลามาเป็นจักรพรรดิอย่างนั้นเหรอ!"เมื่ออวิ๋นฝานลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง แววตาที่เคยความสับสนและตกใจก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยความจริงจังแผ่นดินจิ่วโจวนี่คือยุคส
Read more
บทที่ 2
ตกใจ!ในท้องพระโรงไม่มีใครกล้าขยับตัว เหตุผลไม่ใช่อื่นใด เพราะอำนาจของอ๋องอู่เวยนั้นยิ่งใหญ่มาก!เขามีอำนาจในการควบคุมกองทัพทั่วอาณาจักร!และถึงแม้ว่าอวิ๋นฝานจะโง่เขลา แต่เขาก็เป็นถึงฮ่องเต้ ทำให้ขุนนางในท้องพระโรงต่างไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรดีไปชั่วขณะ!"อวิ๋นฝาน ไอ้คนเสียสติ!"เมื่ออวิ๋นเผิงรู้ว่าความลับแตกแล้ว เขาจึงเลิกปิดบัง ยิ้มเย็นพลางลุกขึ้นยืน เผชิญหน้ากับอวิ๋นฝานและเริ่มเยาะเย้ยอย่างไม่เกรงกลัว"ขึ้นครองราชย์มาแค่สิบสามปี ก็ทำให้ประชาชนทั้งอาณาจักรต้าหมิงต้องทุกข์ยากลำบาก ข้าในฐานะอ๋องอู่เวย รู้สึกเสียใจยิ่ง จึงตัดสินใจปลดฮ่องเต้แต่งตั้งองค์ใหม่!""ทหาร เอาตัวน้องชายของข้าลงจากบัลลังก์เดี๋ยวนี้!""ใครกล้า!" อวิ๋นฝานทุบเก้าอี้มังกรอย่างแรงแล้วลุกขึ้นยืนประจวบเหมาะกับที่ ขันทีน้อยถือดาบหมิงตี้วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ อวิ๋นฝานคิดในใจว่าสวรรค์ช่วยข้าแล้ว เขารับดาบมาและชี้ไปที่อวิ๋นเผิงทันที!"อ๋องอู่เวย หากเจ้ากล้าก้าวเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียว ข้าก็ไม่สนว่าจะถูกตราหน้าว่าฆ่าพี่ชายหรอกนะ!""ดาบหมิงตี้!" อวิ๋นเผิงตกใจจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นดาบนี้ก็เหมือนกับเห็นฮ่องเต้องค์ก่
Read more
บทที่ 3
มู่ซือหลิงมองหน้าอวิ๋นฝานอย่างตกตะลึง พูดจาติดขัด "แต่…แต่…แต่เช่นนี้อาจทำให้ตระกูลผู้สนับสนุน…""ไม่มีแต่!"อวิ๋นฝานตบเก้าอี้มังกรอย่างแรง เสียงตวาดของเขาทำให้มู่ซือหลิงถึงกับตัวสั่น!เขารีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "พ่ะ…พ่ะย่ะค่ะ!"มู่ซือหลิงพูดจบก็รีบออกจากท้องพระโรง เพื่อสั่งการให้ทหารยึดทรัพย์สินของกบฏและจับกุมทุกคนในตระกูลของพวกเขา"นี่…" ทหารที่ได้รับคำสั่งต่างมองหน้ากัน เพราะคำสั่งนี้อาจทำให้คนหลายหมื่นคนต้องเสียหัวแถมทั้งหมดยังเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของอาณาจักรต้าหมิงอีกด้วย!"ยังไม่รีบไปอีก! หรือพวกเจ้าก็อยากเสียหัวเหมือนกัน?" มู่ซือหลิงขมวดคิ้วตะคอกด้วยเสียงเย็นชาทหารจึงเริ่มปฏิบัติการ และวันนั้นก็กลายเป็นหัวข้อที่ทั้งราชสำนักต้าหมิงไม่มีใครกล้าพูดถึงอีก…ทั้งท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเละเทะขุนนางฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้ที่รอดชีวิตถูกบารมีของอวิ๋นฝานกดดันจนต้องคุกเข่ากับพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียงส่วนขุนนางฝ่ายอ๋องอู่เวยถึงกับนั่งทรุดลงกับพื้น น้ำเลือดน้ำหนองไหลเปรอะไปทั่วพื้นและบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ ในที่สุดก็ถูกทำลายลงด้วยคำสั่งของอวิ๋นฝาน "สังหารเดี๋ยวนี้!"เพี
Read more
บทที่ 4
หลิงหงเซวียนชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คาดคิดว่าอวิ๋นฝานจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้อวิ๋นฝานแอบหัวเราะเย็นในใจ ตระกูลหลิงเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรต้าหมิง และหลิงหงเซวียนก็เป็นหัวหน้าตระกูล การมาเยือนในยามวิกาลเช่นนี้จึงมีจุดประสงค์ที่เห็นชัดเจนหลิงหงเซวียนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนกล่าวเตือนด้วยเสียงหนักแน่น"ฝ่าบาท กระหม่อมมาที่นี่เพื่อเรื่องของตระกูลขุนนางจริงพ่ะย่ะค่ะ…""ถ้าเช่นนั้นก็กลับไปพักผ่อนได้แล้ว"อวิ๋นฝานยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆ "เสี่ยวลิ่วจื่อ ไปส่งใต้เท้าหลิงออกจากวังซะ!""เจ้า!"หลิงหงเซวียนมองอวิ๋นฝานอย่างไม่อยากเชื่อ ดวงตาของเขาปรากฏแววอาฆาตขึ้นเล็กน้อย"ฝ่าบาท…ตอนที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ตระกูลหลิงได้ช่วยเหลือพระองค์ไว้ไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ…"หลิงหงเซวียนยกมือคำนับ พยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายบรรพบุรุษตระกูลหลิงคือหลิงป้าเทียน แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในยุคก่อตั้งอาณาจักรต้าหมิง หลิงป้าถียนเป็นบุคคลระดับตำนานที่รับใช้ฮ่องเต้มาถึงห้ารัชกาลและด้วยเหตุนี้ ตระกูลหลิงจึงแผ่ขยายอำนาจในอาณาจักรต้าหมิงมาได้นานถึงสามร้อยปีแม้แต่ในทุกการแย่งชิงราชบัลลังก์ในแต่ละสมัย ก็สามาร
Read more
บทที่ 5
เก้ามณฑลทางตอนเหนือถูกตระกูลขุนนางหลายตระกูลควบคุม พื้นที่กว่าเก้าส่วนตกอยู่ในมือของนายทุน เกษตรกรจำนวนมากต้องกลายเป็นชาวนาเช่าที่แม้แต่ในปีที่เก็บเกี่ยวได้ผลผลิตได้ดี ก็ยังมีคนอดตายตามท้องถนนนับไม่ถ้วน!ที่สำคัญกว่านั้น ตระกูลขุนนางเหล่านี้ยังไม่จ่ายภาษีด้วย!แต่ราชสำนักกลับต้องจัดสรรเงินให้เก้ามณฑลทางเหนือทุกปี"นี่มันคือเนื้อร้ายชัดๆ!"เมื่ออวิ๋นฝานอ่านฎีกาจบ เขากำหมัดแน่นก่อนทุบลงบนโต๊ะเคลือบทองอย่างแรง"เพราะไอ้พวกแมลงกินแผ่นดินพวกนี้แหละ ที่ทำให้อาณาจักรต้าหมิงเราตกต่ำถึงเพียงนี้!"เสี่ยวลิ่วจื่อที่ยืนอยู่ด้านหลังอวิ๋นฝานไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เทชาให้อวิ๋นฝานเรื่อยๆ"เสี่ยวลิ่วจื่อ ไปเรียกอ๋องเซียวเหยามาพบข้า!"…จวนอ๋องเซียวเหยาอ๋องเซียวเหยา อวิ๋นซวิ้น หนึ่งในสามเชื้อพระวงศ์อ๋องผู้ทรงอิทธิพล"ท่านอ๋อง เชิญลองชิมชาหลงหลิงที่กระหม่อมนำมาฝากดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ"หากมีคนนอกอยู่ที่นี่ คงจะตกตะลึงจนอ้าปากค้างแน่หัวหน้าตระกูลหลิงผู้ยิ่งใหญ่ ที่มีอำนาจสูงรองจากฮ่องเต้ กลับแสดงท่าทีเคารพต่ออ๋องเซียวเหยาผู้ที่ถูกคนมองว่าไร้ประโยชน์ที่สุดในบรรดาเชื้อพระวงศ์อ๋องทั้งสาม!"อืม หอมด
Read more
บทที่ 6
มู่ซือหลิงค้อมตัวเล็กน้อยก่อนตอบ "กราบทูลฝ่าบาท กองทัพหนึ่งแสนห้าหมื่นนายได้โอนย้ายไปอยู่ใต้การบังคับบัญชาของตู้จื่อหมิงทั้งหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ทำได้ไม่เลว!"อวิ๋นฝานพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนหันกลับไปมองที่ตู้จื่อหมิงอีกครั้ง"ข้าขอถามเจ้า เจ้า จงรักภักดีต่อข้าหรือไม่?"ชั่วขณะนั้น ดวงตาของอวิ๋นฝานดุดันอย่างยิ่ง ราวกับสามารถมองทะลุจิตใจและล่วงรู้สิ่งที่คิด!"กระหม่อมยินดีพลีชีพเพื่อฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!"แม้หลังของตู้จื่อหมิงจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น แต่ดวงตาของเขากลับซื่อตรง ไม่เห็นถึงความหวั่นเกรงใดๆ"ดี!"แววตาของอวิ๋นฝานฉายแววชื่นชม "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็จงรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แทนมู่ซือหลิงและบังคับบัญชากองทัพหนึ่งแสนห้าหมื่นนายเถิด!""ฝ่ะ…ฝ่าบาท เช่นนี้คงไม่เหมาะสมกระมังพ่ะย่ะค่ะ"ตู้จื่อหมิงแสดงท่าทางลังเล พลางแอบมองมู่ซือหลิงที่อยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ"ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม"อวิ๋นฝานพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "ตกลงตามนี้ เจ้าออกไปก่อนเถิด""พ่ะย่ะค่ะ"ตู้จื่อหมิงไม่กล้าขัดคำสั่ง ถอยหลังสามก้าวก่อนจะเดินออกจากตำหนักบรรทม"ฝ่าบาท กระหม่อมทำอะไรผิดพลาดไปหรือพ่ะย่ะค่ะ?"มู่ซือหลิ
Read more
บทที่ 7
ซูหว่านซินกัดฟันแน่น พูดพลางนางก็ถอดเสื้อชั้นในชิ้นสุดท้ายออก"เจ้ากำลังขู่ข้าหรือ?!"อวิ๋นฝานเริ่มโมโห เขาเกลียดการถูกข่มขู่เป็นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่ขู่เขาเป็นผู้หญิงด้วย!"ในเมื่อเจ้าเร่งเร้าเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว!"อวิ๋นฝานก้าวยาวๆ ไปอุ้มซูหว่านซินที่คุกเข่าอยู่ขึ้นมาแล้วโยนลงบนเตียงซูหว่านซินร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่ไม่นานก็หลับตาเหมือนจะยอมจำนนต่อชะตากรรมเมื่อสามปีก่อน นางถูกส่งเข้าวังเพราะความขัดแย้งระหว่างตระกูลซูและตระกูลหลิง แต่เนื่องจากตระกูลซูพ่ายแพ้ นางจึงไม่ได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิเลย จนกระทั่งวันนี้ความปรารถนาของนางก็เป็นจริงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ร่างเดิมของอวิ๋นฝานแม้จะเคยเสเพลมาก่อน แต่หลังจากพักฟื้นไม่กี่วัน เขาก็มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะออกศึกอีกได้อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะจัดการกับหญิงสาววัยสิบแปดปีที่กำลังอยู่ในช่วงเบ่งบานได้"ฟู่"อวิ๋นฝานใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว มองดูซูหว่านซินที่ยังนอนอยู่บนเตียงหยกทอง อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาว่านางช่างเป็นหญิงงามที่แท้จริงแม้ว่าซูหว่านซินจะอายุเพียงสิบแปดปี แต
Read more
บทที่ 8
เช้าวันถัดมา อวิ๋นฝานซึ่งในสายตาของผู้อื่นคือฮ่องเต้ผู้โง่เขลา ได้เรียกประชุมขุนนางช่วงเช้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี…"เมื่อเทียบกับหลายวันก่อน วันนี้จำนวนขุนนางที่มาประชุมลดลงถึงสองในสามที่เหลือส่วนใหญ่เป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อตระกูลหลิง หรือไม่ก็เป็นขุนนางทั่วไปที่ไม่มีความสำคัญอะไร"หากมีฎีกาก็กราบทูล หากไม่มีก็ให้เลิกประชุม!"เสี่ยวลิ่วจื่อดูตื่นเต้นแต่ก็กังวลเล็กน้อยขณะตะโกนเสียงดังในท้องพระโรงนี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวลิ่วจื่อตะโกนประกาศและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ขุนนางหลายคนถูกอวิ๋นฝานเรียกตัวมาประชุมในช่วงเช้าเช่นกันตามปกติ อาณาจักรต้าหมิงจะจัดประชุมขุนนางทุกสิบวันหลังรออยู่นานแต่ไม่มีขุนนางคนใดกล่าวอะไร อวิ๋นฝานจึงเริ่มพูดเอง"ในเมื่อขุนนางทั้งหลายไม่มีเรื่องจะรายงาน เช่นนั้นข้าจะประกาศบางเรื่องเอง!"เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊เบื้องล่างหน้าถอดสี หรือนี่จะเกี่ยวกับการกบฏของอ๋องอู่เวยหรือไม่?"เมื่อหลายวันก่อน พี่ชายแท้ๆ ของข้า อ๋องอู่เวย อวิ๋นเผิง ได้ก่อกบฏอย่างโจ่งแจ้งท่ามกลางการประชุมขุนนาง!""แม้การกบฏ
Read more
บทที่ 9
..."มู่ซือหลิง ทำได้ดีมาก ข้าพอใจยิ่งนัก!"อวิ๋นฝานคลุมผ้าขาวกลับไปบนศีรษะของพระสนมจาง หันกลับมามองมู่ซือหลิงด้วยรอยยิ้ม "มู่ซือหลิง เจ้าจงจำไว้ ข้าสนแค่ผลการทำงานขององครักษ์เงา ส่วนเรื่องวิธีการและกระบวนการ ข้าไม่สนใจ""เข้าใจหรือไม่?"มู่ซือหลิงรีบก้มศีรษะคำนับตอบทันที "กระหม่อมจะจำไว้พ่ะย่ะค่ะ!"อวิ๋นฝานพยักหน้าพอใจ ก่อนเดินออกจากตำหนักพระสนมจางต่อจากนี้ ก็ถึงตาเขาแสดงแล้ว!เช้าวันต่อมา มู่ซือหลิงประกาศว่าพระสนมจางสมคบคิดกับกบฏอ๋องอู่เวย พร้อมนำ "หลักฐาน" ออกมาแสดง ขุนนางเฒ่าจางวิ่งเอาหัวชนเสาหินในท้องพระโรงจนเสียชีวิตด้วยความคับแค้นใจ!บ่ายวันเดียวกัน มู่ซือหลิงได้นำกองทหารอวี้หลินสามพันนายล้อมจวนตระกูลจางและกิจการทั้งหมดของเขาในเมืองหลวงไว้!แต่ยังไม่ทันที่อวิ๋นฝานจะสั่งยึดทรัพย์ พระสนมฉวี่ ผู้ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับพระสนมจาง ก็เสียชีวิตลงอย่างปริศนาในยามค่ำคืน!"มู่ซือหลิง เจ้ากระทำการรีบร้อนเกินไปหน่อยหรือไม่?"อวิ๋นฝานนั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย มองมู่ซือหลิงที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นมู่ซือหลิงมีสีหน้าเคร่งเครียด ตอบว่า "ฝ่าบาท การลอบสังหารครั้งนี
Read more
บทที่ 10
"เตรียมก่อกบฏงั้นหรือ?"อวิ๋นฝานหัวเราะ "เป็นไปตามที่ข้าต้องการพอดีเลย!"มู่ซือหลิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนถามออกมาตามสัญชาตญาณ "หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ""มู่ซือหลิง เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าแค่การใส่ร้ายป้ายสีจะสามารถกวาดล้างเหล่าตระกูลขุนนางทั้งหมดได้?"อวิ๋นฝานลงจากเตียง เดินออกไปยังลานด้านนอก มู่ซือหลิงรีบเดินตามไป "โปรดประทานอภัยที่กระหม่อมสมองทึบ กระหม่อมไม่สามารถคิดหาวิธีที่สองได้เลยพ่ะย่ะค่ะ""ไม่มีวิธีที่สองอะไรหรอก"เขายืนอยู่กลางลาน สายลมอ่อนๆ พัดชุดนอนของอวิ๋นฝานปลิวไสว "ถ้าจะพูดว่ามี ก็คงมีแค่ใช้กำลังอย่างเดียว!""นี่..."มู่ซือหลิงอึ้งไป ก่อนพูดออกมาอย่างลำบากใจ "ฝ่าบาท...นี่อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก"อวิ๋นฝานหัวเราะเบาๆ "มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือ?""กระหม่อมคิดว่าอาณาจักรต้าหมิงของเราตอนนี้ก็เต็มไปด้วยปัญหาทั้งภายในและภายนอกอยู่แล้ว หากมีสงครามกลางเมืองขึ้นอีก เกรงว่า...""เกรงว่าอะไร?"อวิ๋นฝานจ้องมองมู่ซือหลิงที่โค้งตัวลงต่ำด้วยดวงตาคมกริบ มู่ซือหลิงกลืนน้ำลาย "เกรงว่า...เกรงว่าอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้พ่ะย่ะค่ะ..."มู่ซือหลิงตั้งใจจะพูดถึ
Read more
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status