Share

บทที่ 5

Author: ดื่มน้ำให้เยอะ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“คุณ คุณรู้ได้ยังไง?”

ฉาวอานอานเบิกตากว้างและใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

นอกจากความเขินอายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้สึกตกใจมากกว่า

เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างแม่นยำได้ถึงขนาดนี้

อาการไมเกรน ประจำเดือนผิดปกติ แม้กระทั่งท้องเสียเขาก็มองออกได้

เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?

อย่าบอกนะว่าเดาเอา?

“การแพทย์แผนจีนเน้นการดู การฟัง การดม การซักถาม และการจับชีพจร แค่คำว่า 'การดู' ก็เพียงพอที่จะเห็นปัญหาออกมาได้แล้ว" ลู่เฉินดูใจเย็นมาก

“อานอาน เป็นไงล่ะ? ตอนนี้คุณคงเชื่อแล้วใช่ไหม?” ฉาวซวนเฟยยิ้มเล็กน้อย

ขณะเดียวกันในใจเธอก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย นี่แสดงว่าอีกฝ่ายมีความสามารถจริงๆ

“ฮึ่ม! มันก็แค่บังเอิญ มีอะไรน่าทึ่งขนาดนั้น!” ฉาวอานอานยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้

“คุณลู่ เธอแค่ปากแข็งเท่านั้น คุณอย่าถือสาเธอเลยนะ” ฉาวซวนเฟยกล่าวด้วยความรู้สึกขอโทษแทนน้องของตัวเอง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ รักษาโรคกันก่อนเถอะ” ลู่เฉินไม่สนใจแม้แต่น้อย

เขาเดินไปข้างหน้าชายชราและหลังจากตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว เขาก็มีความคิดบางอย่างในใจ

เห็นได้ชัดว่าชายชราถูกวางยาพิษ และมันไม่ใช่ยาพิษธรรมดา

โชคดีที่เขาถูกค้นพบทันเวลาและยังมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตได้ หากล่าช้าไปอีกสองวัน ชายชราท่านนี้ไม่รอดแน่นอน!

“คุณฉาว โปรดช่วยซื้อเข็มชุดหนึ่งให้ผมด้วย” ลู่เฉินกล่าว

"ไม่มีปัญหา"

ฉาวซวนเฟยโบกมือ แล้วบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที เขาก็นำเข็มชุดหนึ่งกลับมา

"ขอบคุณครับ"

ลู่เฉินพยักหน้า จากนั้นเขาก็แก้เสื้อผ้าของชายชราทันที

เขาเหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางออกแล้วแตะที่หน้าท้องของชายชรา หลังจากยืนยันว่าการตัดสินใจของเขาไม่ได้ผิด

จากนั้นเขาถึงจะหยิบเข็มออกมาและเริ่มฝังทีละอัน

เขาใช้แรงเบามาก แต่กลับฝังเข้าไปอย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งนัก

ราวกับแมลงปอแตะน้ำแล้วรีบถอยกลับไปแบบนั้น

คนธรรมดาจะไม่สามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆได้เลย

“ช่างเป็นฝีมือการใช้เข็มที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ฉาวซวนเฟยก็แอบประหลาดใจ

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ แต่เธอรู้จักหมอที่มีฝีมือรักษายอดเยี่ยมอย่างปฎิหาริย์ที่มีชื่อเสียงหลายคนในประเทศ

เธอมองว่า แม้แต่นักวิชาการหัวโบราณเหล่านั้นก็ยังมีทักษะและความแม่นยำน้อยกว่าลู่เฉินมากในด้านทักษะการฝังเข็ม

นี่จะไม่เพียงแต่ต้องใช้ความสามารถเท่านั้น แต่ยังต้องฝึกฝนอย่างหนักอยู่หลายปีด้วย

ครู่นั้น เธออดไม่ได้ที่จะอยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของลู่เฉิน

"เฮ้อ......"

เมื่อเข็มทั้งสิบหกเล่มถูกฝังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะหายใจออกมายาวๆ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้เข็มมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังใช้มันได้ค่อนข้างดี

“เฮ้! แค่นี้ก็จบแล้วเหรอ? ทำไมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย?” ฉาวอานอานสงสัยมาก

“มีแหล่งต้นตอของพิษอยู่ในร่างกายของคุณปู่คุณ มันไม่ง่ายที่จะระบายออก ผลคือจะเห็นได้ชัดหลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ดังนั้น ภายในสองชั่วโมงนี้ห้ามดึงเข็มออกมา ไม่เช่นนั้นปัญหาที่ตามมาจะไม่มีจุดสิ้นสุด!” ลู่เฉินเตือน

“เชอะ! ใครจะรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกกันล่ะ?” ฉาวอานอานเบ้ปาก

“อานอาน!” ฉาวซวนเฟยขึงตาใส่เธอ

“ผมจะไปห้องน้ำสักครู่ พวกคุณเฝ้าดูอยู่ที่นี่นะ”

หลังจากกำชับแล้ว ลู่เฉินก็ออกจากวอร์ดไป

แต่ทันทีที่เขาจากไป แพทย์กลุ่มหนึ่งในชุดเครื่องแบบสีขาวก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว

คนเหล่านี้คือแกนนำของโรงพยาบาล

ผู้นำเป็นชายวัยกลางคนหนึ่งที่หัวโล้นๆ

“เฮ้! พวกคุณเป็นใครกัน?” ฉาวอานอานกอดอก

“ผมแซ่จาง ผมเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลและเป็นศาสตราจารย์พาร์ทไทม์ของคณะแพทยศาสตร์ ครั้งนี้ผมมาที่นี่เพื่อรักษาผู้เฒ่าฉาวตามคำสั่งของผู้บริหารโรงพยาบาล” ชายวัยกลางคนที่หัวโล้นแนะนำตัวเอง

“อุ๊ย! คุณก็คือศาสตราจารย์จางผู้โด่งดังคนนั้นหรอ? ผู้นำอันดับหนึ่งด้านทักษะทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในเมืองเจียงหลิง?” ฉาวอานอานดูประหลาดใจ

“อันดับหนึ่ง ผมไม่กล้ายอมรับมัน แต่ถ้าบอกว่าสามอันดับแรกก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอะไร” ศาสตราจารย์จางพูดอย่างค่อนข้างภาคภูมิใจในตัวเอง

“ศาสตราจารย์จางคะ! คุณมาได้พอดีเลยค่ะ โปรดช่วยตรวจว่าปู่ฉันเป็นอะไรหน่อยได้ไหมคะ” ฉาวอานอานหลีกทางให้ทันทีแล้วพูดขึ้น

เมื่อเทียบกับลู่เฉินที่ยังเด็กมาก เธอเชื่อใจผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมากกว่าโดยธรรมชาติ

“อืม ให้ผมตรวจดูก่อนนะครับ”

ศาสตราจารย์จางพยักหน้า เขาเดินไปที่หน้าเตียงแล้วตรวจดู และเขาขมวดคิ้วทันที "ใครเป็นคนที่ฝังเข็มนี้กัน? มันไร้สาระเอามากๆ!"

พูดเสร็จแล้วเขาก็พร้อมที่จะดึงเข็มออกมา

"เดี๋ยว!"

พอฉาวซวนเฟยเห็น เธอก็ยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเขาในทันที

"มีอะไรหรอ?"

ศาสตราจารย์จางค่อนข้างไม่พอใจ

“ศาสตราจารย์จางคะ ฉันได้เชิญคนมารักษาไว้แล้ว หมอคนนั้นบอกว่าปู่ฉันถูกวางยาพิษ และเข็มนี้ไม่สามารถดึงออกได้ในขณะนี้ ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นอันตราย” ฉาวซวนเฟยกล่าว

"เพ้อเจ้อ!"

ศาสตราจารย์จางตะคอกอย่างเย็นชา "ถ้าเข็มเงินสองสามเล่มก็สามารถรักษาโรคและล้างพิษได้ แล้วเราจะต้องการแพทย์แผนปัจจุบันมาทำอะไรล่ะ"

"นั่นน่ะสิ!"

ฉาวอานอานก็ร่วมด้วย "พี่ ผู้ชายคนนั้นอายุแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น เขาจะมีความสามารถอะไรกัน? พี่จะเชื่อเขาจริงๆหรอ?"

“แล้วเธอจะอธิบายยังไงเรื่องที่ว่าเพียงแวบเดียวเขาก็รู้ว่าเธอปวดหัวและท้องร่วง” ฉาวซวนเฟยถาม

“เขา เขาแค่หลอกทายมั่ว ๆ ไปก็เท่านั้น!” ฉาวอานอานยังคงปากแข็งต่อไป

“คุณฉาว แพทย์ที่ดีที่สุดในเมืองเจียงหลิงต่างก็อยู่ในโรงพยาบาลของเรากันหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าเมื่อกี้คุณได้เชิญใครมารักษา แต่ผมว่าเขาแค่แสร้งทำอยู่ก็เท่านั้น”

“หรือพี่จะบอกว่าทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลเรายังสู้หมอนอกคอกไม่ได้งั้นหรอ?”

"ผมรู้ว่าคุณกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้เฒ่าฉาว แต่โปรดอย่าไปหาแพทย์มั่ว ๆ ซั่ว ๆ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาก็เป็นได้นะครับ!"

ศาสตราจารย์จางพูดอย่างมีเหตุผล

“ถูกต้อง! ศาสตราจารย์จางของเราได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ป่วยหนักมานับไม่ถ้วน มีเขาอยู่ เรามั่นใจได้ว่าผู้เฒ่าฉาวจะปลอดภัย!”

กลุ่มแพทย์ที่อยู่ข้างหลังเขาต่างก็พูดคล้อยตาม

เมื่อฉาวซวนเฟยเห็นว่าอีกฝ่ายมีความมั่นใจขนาดนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวเล็กน้อย

แต่เธอยังคงยืนกรานอยู่ "รอให้คุณลู่กลับมาก่อนค่อยว่ากันเถอะ"

“พี่! ยังรออะไรอยู่ล่ะ? ตอนนี้เขาอาจจะหนีไปแล้วก็ได้มั้ง!” ฉาวอานอานกล่าว

“คุณฉาว ผมยุ่งมากและไม่มีเวลาที่จะรออยู่ที่นี่ ผมจะรับรองว่า หากผู้เฒ่าฉาวเกิดอะไรขึ้น ผมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด!”

หลังจากที่ศาสตราจารย์จางพูดจบ เขาก็ดึงเข็มออกมาทั้งหมด

แต่ทันทีที่เข็มเงินถูกดึงออกจากร่างกาย การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็เกิดขึ้น!

ผู้เฒ่าฉาวซึ่งเดิมนอนเงียบอยู่ จู่ๆร่างกายเขาก็เริ่มกระตุก

ใบหน้าของเขามืดลงอย่างรวดเร็ว และมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกของเขา

เครื่องที่อยู่ทั้งสองด้านของเตียงผู้ป่วยส่งเสียงสัญญาณเตือนดังก้อง

“หือ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”

ศาสตราจารย์จางตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้

“ศาสตราจารย์จางคะ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” ฉาวซวนเฟยขมวดคิ้ว

“แปลกจัง เมื่อกี้ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี…” ศาสตราจารย์จางรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่รู้สาเหตุ

“หมอครับ! อาการคนไข้อยู่ในอันตราย ต้องได้รับการช่วยเหลือทันที!” แพทย์คนหนึ่ง กล่าวอย่างเร่งรีบ

“รีบจัดการการรักษาคนไข้ฉุกเฉิน! เร็วเข้า!”

ศาสตราจารย์จางไม่กล้าพูดอะไรเยอะ เขารีบเรียกให้ผู้คนเริ่มการปฐมพยาบาล

แต่หลังจากการทำงานหนัก ผู้เฒ่าฉาวไม่เพียงแต่ไม่ได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่สัญญาณชีพของเขาเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถควบคุมได้

ตอนนี้ศาสตราจารย์จางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยและเขาเช็ดเหงื่ออย่างต่อเนื่อง

“คุณฉาว...ท่าน...ผู้เฒ่าฉาวดูเหมือนจะรอดไม่ได้แล้ว…”

"อะไรนะ?!"

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา พี่น้องสองคนก็งงไปหมด

Comments (1)
goodnovel comment avatar
Lutchman Jaisarie
new storytelling her alpha mates
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 6

    “ไอ้ขยะแกนี่!”ฉาวซวนเฟยโกรธทันที เธอดึงศาสตราจารย์จางขึ้นแล้วตะโกนว่า "ฉันบอกว่าไม่ให้ดึงเข็มออกมา แต่คุณก็ยังจะดึงมันออก ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว คุณแม่งกลับตอบฉันมาแบบนี้งั้นหรอ?!"“ไม่...ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว”ศาสตราจารย์จางส่ายหัวเรื่อยๆ และเขาเริ่มบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ "โอ้ มันเป็นปัญหาของหมอคนนั้นแน่ๆ เป็นเพราะเขาฝังเข็มแบบสุ่มๆนั่นแหละ ถึงจะฆ่าตาเฒ่าฉาว!""ปัง!"ฉาวซวนเฟยตบหน้าศาสตราจารย์จางอย่างแรง "ไอ้สารเลว! คุณเองที่โง่เขลาแต่ยังจะไปโทษคนอื่นเขาอีกงั้นเหรอ? ฉันเตือนคุณเลยนะ ถ้าคุณปู่ของฉันไม่รอด ฉันก็จะฆ่าคุณอย่างอนาถเอง!"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา ใบหน้าของศาสตราจารย์จางก็ซีดลงด้วยพลังของตระกูลฉาว ที่ทำให้เขาหายไปจากโลกนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก"เกิดอะไรขึ้น?"ในเวลานี้ ลู่เฉินเดินเข้ามาอีกครั้งแต่เมื่อลู่เฉินเห็นตาเฒ่าฉาวที่สีหน้าเป็นสีดำและมีเลือดออกจากปากและจมูกเขา ลู่เฉินก็ขมวดคิ้วทันที“ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามดึงเข็มออกน่ะ? ทำไมพวกคุณไม่ฟัง?” ลู่เฉินดูไม่พอใจมาก"คุณลู่คะ เมื่อกี้..."ก่อนที่ฉาวซวนเฟยจะอธิบาย ศาสตราจารย์จางก็

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 7

    “ตือ-ตื่นแล้วเหรอ?!”เมื่อทุกคนเห็นตาเฒ่าฉาวที่ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทุกคนก็ตกใจอีกครั้งโดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาเห็นว่าเครื่องมือการแพทย์ที่บ่งชี้ทั้งหมดกลับมาเป็นปกติ พวกเขาถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียวไม่มีใครคาดคิดได้ว่าโรคประหลาดที่แม้แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของพวกเขาก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ จะถูกชายหนุ่มคนหนึ่งรักษาให้หายมันช่างแปลกประหลาดมากจริงๆ!"เยี่ยมมาก! ในที่สุดคุณปู่ก็ปลอดภัยแล้ว!"เมื่อฉาวอานอานเห็นว่าสีหน้าของตาเฒ่าฉาวกลับมาเป็นปกติ ฉาวอานอานก็ดีใจจนร้องไห้ และในที่สุด ฉาวซวนเฟยก็โล่งใจสักที“คุณลู่คะ ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงให้พอกับความมีน้ำใจมากๆครั้งนี้ของคุณได้ จากนี้ไป คุณจะเป็นแขกที่สูงส่งของตระกูลฉาวของเรา!” เธอโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง“ไม่ต้องเกรงใจหรอกคุณฉาว มันเป็นแค่ความพยายามเล็กๆน้อยๆเท่านั้น” ลู่เฉินยิ้มเบาๆเดิมทีก็ไอ้แค่คำพูดถ่อมตัวทั่วๆไป แต่พอศาสตราจารย์จางได้ฟังแล้ว เขารู้สึกว่ามันแสบหูมากโรคที่พวกเขาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ก็ไม่สามารถรักษาได้ แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าเป็นความพยายามเพียงเล็กน้อย?นี่มันตบหน้าพวกเขาชัดๆเลย? !“เฮ้ คุณอะไร

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 8

    "คุณลู่คะ ขอบคุณที่ช่วยเหลือชีวิตปู่ของฉันนะคะ นี่คือบัตรมังกรฟ้าของตระกูลฉาวโปรดรับมันไปด้วยค่ะ"ฉาวซวนเฟยหยิบบัตรสีดำขอบทองใบหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เขา "ถ้ามีบัตรใบนี้ คุณจะเป็นวีไอพีของตระกูลฉาวนับจากนี้ไป คุณสามารถเพลิดเพลินกับบริการที่ดีที่สุดในบริษัททั้งหมดที่เป็นของตระกูลฉาวได้ "“คุณฉาวครับ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการหรอก” ลู่เฉินส่ายหัว“ไม่ต้องกังวลนะคะคุณลู่ นี่เป็นเพียงค่าตอบแทนของฉันที่ให้คุณเอง สำหรับหญ้าใจมังกรที่นายกสมาคมหวางพูดถึงนั้น พรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปส่งที่บ้านของคุณค่ะ” ฉาวซวนเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม“คุณฉาวเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงๆ งั้นผมขอขอบคุณนะครับ”ลู่เฉินยิ้มเบาๆแล้วรับบัตรมังกรฟ้ามาสิ่งที่ฉาวซวนเฟยมอบให้ มันจะไม่เลวแน่นอน"เอี๊ยดดด--!"ขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ คนขับก็เบรกกะทันหันและจอดรถที่อยู่ข้างถนน“บอส ผมขอโทษ ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาบังคับให้ผมทำ!”หลังจากพูดคำที่แปลกๆอย่างนี้ คนขับก็วิ่งหายตัวไปอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน มีรถตู้สีดำสองคันวิ่งมาคันหนึ่งจอดข้างรถเบนท์ลีย์ อีกคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหลังรถเบนท์ลีย์แล้วพอประตูรถเปิดออก พวกอันธพาลหลายสิ

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 9

    "ห๊ะ?"ลู่เฉินแข็งทื่อเขาไม่ได้คาดคิดว่าฉาวซวนเฟยจะพูดออกมาเช่นนั้นความงามของคนตรงหน้าเขาแตกต่างจากความเย็นชาของหลี่ชิงเหยายิ่งนักเป็นความงามที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความยั่วยวนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาเธอยิ้ม มันช่างมีเสน่ห์มากมายนักพูดง่ายๆเลยก็คือเธอเป็นนางจิ้งจอกที่ผู้ชายไม่กี่คนจะต้านทานได้"ห้าๆๆๆ...แค่ล้อเล่นน่ะ คุณตกใจขนาดนี้เลยหรอ"ฉาวซวนเฟยยิ้มใหญ่ หน้าอกที่ขาวๆของเธอสั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความดึงดูดอย่างมากดวงตาของลู่เฉินกระตุกและเขาก็รีบมองไปทางอื่นผู้หญิงคนนี้ยั่วยวนใจเขามากเกินไปแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งติดใจเธอมากยิ่งขึ้น“คุณลู่คะ ฉันคงต้องรบกวนคุณอีกครั้ง” รอยยิ้มของฉาวซวนเฟยค่อยๆจางลง“เรื่องอะไรล่ะ?” ลู่เฉินผงะ"อย่างที่คุณทราบ บอดี้การ์ดของฉันกำลังเฝ้าอยู่ในโรงพยาบาล ฉันไม่มีคนคอยคุ้มกันอยู่รอบตัวเลย แล้วตอนนี้ฉันยังตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นอีกด้วย มันยากมากที่จะรับประกันความปลอดภัยของตัวฉันเอง ดังนั้นฉันหวังว่าคุณลู่จะปกป้องฉันตลอด24ชั่วโมงได้” ฉาวซวนเฟยร้องขอ"ปกป้อง?"ลู่เฉินยักคิ้ว "คุณฉาวครับ คุณหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยจะไม่ดีกว่าหรอ?"“คุณลู่ไม่ร

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 10

    “คุณหลี่? คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”เมื่อลู่เฉินเห็นหลี่ชิงเหยาเดินมา สายตาของลู่เฉินก็หยุดชะงักในตอนแรก แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับทำเป็นไม่แยแส“บังเอิญเจอพอดี เลยมาทักทาย”หลี่ชิงเหยากลืนคำพูดที่เธอเตรียมมาเพื่อที่จะอธิบายต่อเธอเคยได้ยินจากแม่ของเธอมาก่อนว่าลู่เฉินมีความรักครั้งใหม่แล้ว แต่เดิมเธอยังไม่ค่อยเชื่อนักแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริงแม้ว่าทั้งสองจะหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นว่าสามีเก่าของเธอมีผู้หญิงคนใหม่ในไม่ช้ามันเป็นความรู้สึกที่ต่อต้านที่อธิบายได้ยาก“คุณลู่คะ นี่คือเพื่อนของคุณหรอ” ฉาวซวนเฟยมองดูหลี่ชิงเหยาด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอรู้สึกถึงความเกลียดชังเล็กน้อยที่อีกฝ่ายแสดงออกมา“อดีตภรรยาของผม” ลู่เฉินตอบ"อ๋อ?"ฉาวซวนเฟยยักคิ้วและยกมุมปากขึ้น“สวัสดีค่ะ ฉันแซ่ฉาวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”เธอยิ้มและยื่นมือออกมาอย่างสง่างามแต่คางที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเธอนั้น กลับทำให้รู้สึกถึงการกดขี่ลึกๆ"สวัสดีค่ะ"หลี่ชิงเหยาตอบอย่างสุภาพแม้ว่าเธอจะมั่นใจมากมาตลอด แต่เธอต้องยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้านี้สวยเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 11

    “คนสวย! คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? คนนี้มันเป็นคนหลอกลวงนะ! คุณจะไม่ได้อะไรจากการอยู่กับเขาหรอก!”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าการยั่วยุของเขาไม่มีผล เขาก็ใจร้อนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดเขาทนไม่ไหวที่คนสวยขนาดนี้จะถูกทำลายโดยลู่เฉิน “เฮ้! คุณน่ารำคาญมาก ฉันจะคบกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ!” เห็นได้ชัดว่าฉาวซวนเฟยหมดความอดทนแล้ว"คุณ--"หยางเหว่ยโกรธมากเขาไม่คาดคิดว่าคนตรงหน้านี้จะดื้อรั้นขนาดนี้แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอโดนหลอก แต่เธอก็ยังเต็มใจไอ้หนุ่มคนนี้มีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?“คุณหยางคะ คนแบบนี้สมควรที่จะถูกหลอกแล้ว คุณเตือนเธอด้วยความมีน้ำใจ ถ้าเธอจะไม่รับน้ำใจของคุณก็ช่างเถอะ แต่การที่เธอยังจะมาพูดจาหยาบคายอย่างนี้ ช่างไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ!“ เลขาจางพูดอย่างประชดประชันอยู่ด้านข้าง“ฮึ่ม! จนถึงตอนนี้ เป็นคนดียังไม่ได้เลย!” หยางเหว่ยรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยแน่นอนว่าสาเหตุหลักคือความอิจฉา“พวกคุณคงจะรู้จักกันมานานแล้วใช่มั้ย?”หลี่ชิงเหยาถามอย่างกะทันหันพฤติกรรมของฉาวซวนเฟย ทำให้เธอสงสัยว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะเชื่อใจเขาขนาดนี้ได้อย่างไร?

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 12

    หลังจากเดินเข้าไปในตึกเฟิ่งหมิงเลขาจางยังคงรู้สึกโกรธเครืองอยู่เล็กน้อย“ฮึ่ม! ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะตาบอดหรือเปล่าที่ตกหลุมรักลู่เฉิน ไอ้ขยะคนนั้น”“ใช่สิ มันเหมือนกับดอกไม้กับหมาวัดจริงๆ!” หยางเหว่ยก็ถอนหายใจเช่นกันเขาทั้งหล่อและรวย ทำไมเขาถึงหาคนสวยขนาดนั้นไม่ได้ล่ะ?“พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย วันนี้เรามาทำธุรกิจกัน”หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "เลขาจาง คุณไปค้นหาว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในคืนนี้ แล้วถ้าแนะนำให้รู้จักกันได้มันจะดีที่สุด"“พอดีเพื่อนของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันจะโทรหาเธอทันที”ขณะที่เลขาจางพูด เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีแล้วกดโทรออกหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบว่า "คุณหลี่คะ ฉันได้ถามอย่างชัดเจนแล้วค่ะ งานกาล่าดินเนอร์การกุศลในวันนี้จัดโดยคุณฉาวเอง ส่วนเธอจะเลือกคนไหนเป็นคู่ร่วมมือ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเธอ"“คุณฉาว? หมายถึงราชินีธุรกิจคนนั้นหรือ?”ดวงตาของหลี่ชิงเหยาเป็นประกาย และเธอมีพลังขึ้นมาทันทีชื่อเสียงของราชินีฉาวซวนเฟยเธอได้ยินมานานแล้วผู้หญิงคนหนึ่ง บดขยี้ผู้ชายเกือบทั้งหมดในเมืองเจียงหลิงด้วยตัวเธอเอง

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 13

    ในขณะนี้ โถงงานเลี้ยงครึกครื้นเป็นพิเศษบนเวที มีกลุ่มสตรีที่สง่างามกำลังเต้นรำแบบดั้งเดิมของสมัยฮั่นถังอยู่ทุกรอยยิ้มและทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความงดงามเป็นพิเศษทำให้คนหลงใหลหน้าเวทีมีกลุ่มคนมีชื่อเสียงที่แต่งตัวอย่างสง่างามกำลังนั่งอยู่บางคนดื่มไวน์กันและพูดคุยกัน บางคนเพลิดเพลินกับการแสดงอย่างเงียบๆลู่เฉินหาที่นั่งแล้วนั่งดื่มน้ำผลไม้และดูการแสดง" เฮ้! ลู่เฉิน! ไม่คิดว่าคุณกล้าจะแอบเข้ามาจริงๆ?"ในขณะที่ลู่เฉินดูการแสดงอย่างมีความสนใจ เสียงที่ทำลายบรรยากาศก็ดังขึ้นจากข้างๆกายเขาลู่เฉินเหลือบมองอย่างสบายๆ และเห็นหยางเหว่ย หลี่ชิงเหยาและเลขาจางพอดี“ฮึ่ม! ช่างโชคร้ายจริงๆ ทำไมไปทุกที่ก็จะได้เจอคุณล่ะ!” เลขาจางดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากหลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไร หลังจากเหลือบมองอย่างเย็นชา เธอก็ไปนั่งที่นั่งว่างบริเวณแถวหน้า“ลู่เฉิน อีกเดี๋ยวจะจัดการประมูลเพื่อการกุศลแล้ว คุณมีเงินหรอ? ไม่คิดว่าคุณจะกล้ามานั่งตรงนี้?” หยางเหว่ยพูดจาถากถาง“ถ้าไม่มีเงินก็จะนั่งไม่ได้หรอ” ลู่เฉินถาม“เฮ้! คุณพูดถูกแล้ว ถ้าคุณไม่มีเงินก็นั่งไม่ได้จริงๆนั่นแหละ!

Latest chapter

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1200

    กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ แล้วก็หยุดกะทันหันแสงแดดส่องลงมา เสื้อเกราะสีทองของเหลยว่านจุนส่องแสงประกาย และสะดุดตาเป็นพิเศษ"ดาบนี้เรียกว่าโพ่หยวีนกวน ผมเคยเก็บตัวมาสามปี ถึงจะเรียนรู้เทคนิคนี้ให้ได้""จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยแสดงต่อหน้าคนนอกเลย""วันนี้ จะเป็นเกียรติในชีวิตของคุณที่สามารถตายด้วยดาบนี้ของผม!""ดูดาบผมสิ!"พูดจบ ดาบทองของเหลยว่านจุนก็สั่นอย่างกะทันหัน ตัวเขาก็กลายเป็นแสงสีทองที่แสบตา พุ่งลงมาอย่างรวดเร็วโมเมนตัมของมันยิ่งใหญ่เหมือนแม่น้ำไหลลง ไม่สามารถหยุดยั้งได้และอยู่ยงคงกระพัน"ดาบที่เร็วมาก ลมดาบที่น่ากลัวมาก""โอ้พระเจ้า นี่คือการลงโทษจากพระเจ้าหรือ น่ากลัวเกินไป!"“เมื่อดาบนี้ใช้ออกมา จะไม่มีใครหยุดยั้งได้ การฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่ม ถึงตายก็ยังได้รับเกียรติ”ดาบที่น่าตกใจของเหลยว่านจุนทําให้เกิดความโกลาหลเหล่านักสู้ต่างสะเทือนใจแสงสีทองนั้นพราวเหมือนดวงอาทิตย์ ทําให้คนไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อยดาบนั้นตกลงมาเหมือนวันสิ้นโลกมาถึงมากพอที่จะทำลายทุกอย่าง!"ชางฉง!"ในขณะที่เหลยว่านจุนออกดาบ ลู่เฉินก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเห็นเพียงว่าเขาตบเบาๆ ดาบสีดำท

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1199

    เมื่อที่เกิดเหตุสงบเหล่านักสู้ที่อยู่ด้านล่างเวที รู้สึกแต่หลังเย็นและหวาดกลัวคลื่นกระทบของการโจมตีเมื่อกี้นั้นน่ากลัวเกินไปหากไม่ได้เตรียมการมานานและหลบได้ทัน เกรงว่าจะถูกประแทกจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีถึงกระนั้น พลังทําลายล้างที่น่ากลัวนั้นยังคงทําให้คนกลัวในใจ"ไม่เลว ความแข็งแกร่งของคุณแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในป่าดำเลย"เหลยว่านจุนแบกมือข้างเดียวไว้ด้านหลัง และยิ้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าชัยชนะอยู่ในมือแล้ว "น่าเสียดายที่คุณยังคงต้องตายในวันนี้""เหลยว่านจุน มีความสามารถจริง ๆ อะไร ก็ใช้ออกมาเลย มิฉะนั้นคุณจะไม่มีโอกาสแล้ว"ลู่เฉินยืนตัวตรงอย่างช้า ๆ สายตายังคงเย็นชาการโจมตีเมื่อกี้นั้น ทำให้เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเหลยว่านจุนเป็นยังไงถ้าไม่มีอะไรที่เกินความคาดคิด อีกฝ่ายใกล้จะมาถึงการฝึกร่างขั้นจงซือใหญ่แล้วโชคดีที่ยังไม่ได้ทะลุไปอย่างเต็มที่เพราะเวลา ไม่งั้นจะรับมืออย่างลำบาก"ฮึ่ม! คุณไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ"เหลยว่านจุนหรี่ตาเล็กน้อย โมเมนตัมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เสื้อคลุมทั้งตัวไม่มีลมพัดแต่ปลิวอยู่ และส่งเสียงด้วย "คุณต้องดูความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผมไม่ใช่

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1198

    การฝึกร่างขั้นจงซือก็มีคนที่แข็งแกร่งกว่าหรืออ่อนแอกว่า ช่องว่างของดินแดนเล็ก ๆ แต่ละระดับจะยากที่จะข้ามได้"หัวหน้าอู๋ประเมินคนนี้สูงเกินไปแล้ว"เจี่ยงซิวเจินส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม "ถ้าผมมองไม่ผิด หลังจากหัวหน้าเหลยเก็บตัวครั้งนี้ ความแข็งแกร่งได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง จัดการกับลู่เฉิน ใช้สามท่าก็สามารถจัดการได้แล้ว""อ้อ เหรอ"อู๋หงต๋ายักคิ้ว ค่อนข้างประหลาดใจเหลยว่านจุนได้ประสบความสําเร็จอย่างมากในการฝึกร่างขั้นจงซือเมื่อหลายปีก่อน หากมีความก้าวหน้าอีก เขาจะใกล้มาถึงการฝึกร่างขั้นจงซือใหญ่แล้สไม่ใช่หรือถ้าเป็นเช่นนั้น สำนักงานเจิ้นอู่ก็ต้องประเมินมูลค่าของเขาใหม่แล้ว"ลู่เฉิน คุณไม่ควรมาท้าทายผม ตอนอยู่ในป่าดำ ผมเคยให้โอกาสคุณแล้ว ไม่คิดว่าคุณจะยังเอาไข่มากระทบหินอีก วันนี้ ไม่มีใครช่วยคุณได้แล้ว"เหลยว่านจุนยังคงเข้าใกล้ต่อไป โมเมนตัมที่น่ากลัวในตอนแรกก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งราวกับคลื่นสึนามิกวาดมา"แกร็บ แกร็บ...” ภายใต้การบีบอัดอย่างรุนแรง ออร่าที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ลู่เฉินก็เริ่มมีรอยแตกทีละรอยเกิดขึ้นเหมือนกระจกขนาดใหญ่ที่กําลังจะแตกรอยแตกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และหนาแน่นขึ้นเรื

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1197

    ภายใต้เสียงตะโกนของเหลยว่านจุน ใบไม่ต้องรับผิดชอบก็ส่งมาทั้งสองคนไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ เซ็นชื่อบนใบไม่ต้องรับผิดชอบและพิมพ์ลายนิ้วมือติดต่อกันการดวลกันสังเวียน จะเป็นหรือจะตายนั้นกำหนดโดยโชคชะตามาตลอด แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าไม่มีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้ง ฝ่ายชนะจะออมมือ นี่เป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้แต่หลังจากเซ็นใบไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว กฎนี้ก็ถูกทําลายแล้วไม่ได้ออมมือ ไม่มีทางถอย มีแค่สู้ชีวิตจะอยู่หรือตาย ไม่มีทางเลือกอื่น"ลู่เฉิน นี่เป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุดในชีวิตของคุณ"หลังจากเซ็นชื่อเสร็จแล้ว โมเมนตัมของเหลยว่านจุนก็เปลี่ยนไปแล้วจากการสง่างามกลายเป็นคนเฉียบคม และมีบารมีแรงกดดันที่เหมือนภูเขาถูกปล่อยออกจากร่างกายเขา และปกคลุมทั้งที่เกิดเหตุทันทีหลังจากนั้น เหล่านักสู้ที่อยู่ด้านล่างเวทีรู้สึกเพียงว่าร่างกายหนักขึ้น เหมือนมีก้อนหินที่มองไม่เห็นก้อนหนึ่งกดลงบนไหล่ของพวกเขา แม้แต่การหายใจก็เริ่มถี่ขึ้นคนที่อ่อนแอ ยิ่งหอบและเหงื่อออกเต็มหัว"แรงกดดันจากการฝึกร่างขั้นจงซือที่น่ากลัว หรือว่านี่ก็คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้หรือ"ทุกคนสั่นใ

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1196

    นี่อะไรกันเนี่ยไม่ใช่เพื่อตำแหน่งและอำนาจ เพื่อสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ถึงมาท้าทายหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้หรือทำไมจะฟังดูเหมือนเป็นการแก้แค้นระหว่างทั้งสองคน มีความแค้นอะไรหรือ"พวกบ้าที่ใจกล้า คุณกล้าดูถูกหัวหน้าพันธมิตรอย่างโจ่งแจ้ง เป็นบาปชั่วร้ายที่ให้อภัยไม่ได้จริง ๆ"เหลยเชียนฉงลุกขึ้นและตําหนิเสียงดังสมาชิกของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองในใจและตะโกนไม่หยุดเหลยว่านจุน เป็นหน้าเป็นตาของทั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ถูกใส่ร้ายในที่สาธารณะ ย่อมจะทนไม่ได้"ได้แล้ว เงียบหน่อย"เหลยว่านจุนยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ หยุดเสียงอึกทึกครึกโครมของสมาชิกพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ แล้วก็พูดอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า "ลู่เฉิน ความยุติธรรมอยู่ในใจคน ที่ผมทําสิ่งต่าง ๆ จะเปิดเผยเสมอ คุณคิดว่าการพูดพล่อย ๆ ไม่กี่คําจะทําให้ชื่อเสียงของผมเสื่อมเสียได้หรือ""ใส่ร้ายเหรอ ฮึ่ม..."ลู่เฉินส่งเสียงฮื่มอย่างเย็นชา "คุณเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า กระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของอาจารย์และศีลของบรรพบุรุษ สู้สัตว์ไม่ได้ด้วยซ้ำ คนหน้าซื่อใจคดอย่างคุณ ต้องถูกทุกคนลงโทษเลย""กําเริบเสิบสาน!"

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1195

    "ถึงแล้วหรือ?"เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลายคนก็มองตามสายตาของเจี่ยงซิวเจินไปทันทีได้เห็นว่าหลังคาของสํานักงานใหญ่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ มีเงาสีขาวหนึ่งกระโดดลงมาอย่างกะทันหันเงามนุษย์แกว่งไปแกว่งมาตามลม เบาเหมือนไม่มีอะไร เหมือนขนนกสีขาว"มาแล้ว หัวหน้าเหลยมาแล้ว"เมื่อมองดูเงามนุษย์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ทั้งสนามสู้ก็ฮือฮาขึ้นมาทันทีเหลยว่านจุน หัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ได้ปรากฏตัวในที่สุดท่ามกลางสายตาของทุกคน เหลยว่านจุนในชุดขาว แบกมือทั้งสองข้างไว้ข้างหลัง เสื้อผ้าปลิว เท้าเหยียบบนลม ราวกับเป็นเทพเจ้าตกลงมาบนโลกลอยละลิ่วลงมาด้วยอารมณ์ที่ลึกลับและสูงส่งไม่มีบารมีที่บีบบังคับ ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่ง มีแค่ความศักดิ์สิทธิ์ที่ทําให้คนไม่กล้ามองตรง ๆ และไม่สามารถดูหมิ่นได้ในขณะนี้ เหลยว่านจุนเป็นเหมือนแสงที่สว่างที่สุดในโลกนี้ส่องบนแผ่นดิน สลายความมืดทำให้คนเคารพจากใจ"ขอต้อนรับหัวหน้าเหลยเก็บตัวออกมา"ในเวลานี้ เหลยเชียนฉงลุกขึ้นก่อน และทําความเคารพ"ขอต้อนรับหัวหน้าเหลยเก็บตัวออกมา"เหล่าสาวกพันธมิตรศิลปะการต่อสู้จํานวนมากที่อยู่ข้างหลังเขาก็พากันลุกขึ้น และตะโกนพร้

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1194

    "น้อง ตราบใดที่คุณเข้าร่วมสำนักงานเจิ้นอู่ ผมสามารถตัดสินใจได้ อนุญาตให้คุณขึ้นตำแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้า!" อู๋หงต๋าเสนอเงื่อนไขที่ดีในสำนักงานเจิ้นอู่ ตำแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้า อยู่เหนือผู้จัดการด้วยซ้ำเพิ่งเข้าร่วมก็ขึ้นสองระดับติดต่อกัน นี่เป็นการเลื่อนตําแหน่งเกินมาตรฐานแล้ว"ขอโทษครับ ผมยังคงไม่สนใจ"ลู่เฉินส่ายหัวอีกครั้งการปฏิเสธซ้ำๆทําให้อู๋หงต๋าขมวดคิ้วเขาไว้หน้ามากพอแล้ว ไม่คิดว่าเด็กตรงหน้านี้จะไม่รู้จักชั่วดีขนาดนี้"ไม่ใช่มั้ง ขนาดตําแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้าของสำนักงานเจิ้นอู่ก็ไม่เอา เด็กคนนี้คิดอะไรอยู่?""มันเป็นเรื่องดีมากที่ได้รับความสำคัญจากสำนักงานเจิ้นอู่ เด็กคนนี้ไม่ซาบซึ้งเลยเหรอ ไม่รู้จักชั่วดีจริง ๆ""ฮึ่ม! การฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่มอะไร ต่อหน้าสำนักงานเจิ้นอู่ เป็นไก่อ่อนทั้งนั้น"นักสู้ที่อิจฉาบางคน ต่างวิจารณ์ขึ้นการชักชวนของสำนักงานเจิ้นอู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดจากนักสู้มากมายแต่ลู่เฉินกลับปฏิเสธหลายครั้ง ไม่ได้เห็นสำนักงานเจิ้นอู่ในสายตาเลย หยิ่งผยองจริง ๆ"น้อง ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปจะไม่มาอีก คุณแน่ใจนะว่าจะไม่

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1193

    "คุ้นตา?"เฉินหยวนเวยสงสัยเล็กน้อย "หรือว่าหัวหน้าอู๋เคยเห็นการฝึกร่างขั้นจงซือลู่มาก่อน""ผมอาจจะดูผิดแล้วมั้ง"อู๋หงต๋าสัมผัสเคราของตัวเอง ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แต่ก็จําไม่ได้ด้วยความทรงจําของเขา ตราบใดที่เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยม แทบจะเห็นแวบหนึ่งก็ลืมไม่ได้เลยอีกฝ่ายอายุยังน้อย ก็สามารถเป็นการฝึกร่างขั้นจงซือได้ ในทั่วประเทศหลง จะเป็นคนที่หายากอัจฉริยะแบบนี้ ตามเหตุผลแล้ว ตราบใดที่เขาเคยเห็น ก็ไม่สามารถลืมได้แต่ตอนนี้ที่เขาจำไม่ได้ ก็พิสูจน์ว่าทั้งสองฝ่ายไม่รู้จักกัน"หัวหน้าอู๋ ท่านเดินทางมาไกล คงเหนื่อยแล้วแน่นอน กรุณาไปนั่งพักผ่อนด้วยครับ" เฉินหยวนเวยทำท่าเชิญด้วยมือเดียว"ไม่ต้องรีบ ผมจะไปพบการฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่มคนนี้หน่อย"หลังจากบอกประโยคนี้ไป อู๋หงต๋าก็เดินตรงขึ้นสังเวียนเมื่อเห็นฉากนี้ เฉินหยวนเวยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติเหตุผลที่สําคัญที่สุดที่สำนักงานเจิ้นอู่แข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนพูดถึงก็จะเปลี่ยนสีหน้า ก็คือรับสมัครผู้มีความสามารถมากมายไม่ว่าจะเป็นคนชั่ยหรือคนดี ตราบใดที่มีความสามารถ ตราบใดที่มีทักษะที่โดดเด่น ตราบใดที่แข็ง

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1192

    "ลู่เฉิน คุณต้องสู้อย่างยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ให้ผู้คนเห็นว่าอะไรเรียกว่าไม่มีใครเทียบได้ อยู่ยงคงกระพัน!"มองดูด้านหลังที่ตั้งตรงนั้น จั่วซินเยว่พึมพํากับตัวเอง ในดวงตาที่สวยงามเต็มไปด้วยความรักและความนับถือผู้ชายตัวโต ก็ควรจะถือดาบยาว ทำคุณงามความดีชั่วนิรันดร์ แม้ข้างหน้าจะลำบาก ก็ยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและไม่เกรงกลัวนี่แหละ ถึงจะเป็นผู้ชายจริงๆ"กล้าท้าทายหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ วันนี้ก็คือวันตายของคุณ!"หยางเจี๋ยมีสีหน้ามืดมน และแอบสาปแช่งเขาแค่หวังว่าทันทีที่ลู่เฉินขึ้นไปบนเวที ก็ถูกเหลยว่านจุนต่อยจนตาย"ฮึ่ม! จะตายไม่ช้าก็เร็ว แค่มีชีวิตอยู่อีกกี่นาทีเท่านั้น"เหลยเชียนฉงยิ้มอย่างดุเดือด สายตาดุร้ายมาก"ศิษย์พี่ลู่ ต้องปลอดภัยเลยนะ"หลินหรง พนมมือไหว้ แอบสวดมนต์"แม่งเอ้ย เด็กคนนี้กล้าขึ้นไปจริง ๆ เขาคงไม่คิดว่าตัวเองทําได้จริง ๆ เหรอ"เถาหยางขมวดคิ้ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและความเกลียดชังเขาไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เป็นเพื่อนวัยเดียวกัน ทําไมลู่เฉินถึงกลายเป็นการฝึกร่างขั้นจงซือ แต่เขาไม่ได้ฝ่าฟันไปถึงการฝึกร่างขั้นเซียนเทียนด้วยซ้ำทำไมล่

DMCA.com Protection Status