“คุณหลี่? คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”เมื่อลู่เฉินเห็นหลี่ชิงเหยาเดินมา สายตาของลู่เฉินก็หยุดชะงักในตอนแรก แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับทำเป็นไม่แยแส“บังเอิญเจอพอดี เลยมาทักทาย”หลี่ชิงเหยากลืนคำพูดที่เธอเตรียมมาเพื่อที่จะอธิบายต่อเธอเคยได้ยินจากแม่ของเธอมาก่อนว่าลู่เฉินมีความรักครั้งใหม่แล้ว แต่เดิมเธอยังไม่ค่อยเชื่อนักแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริงแม้ว่าทั้งสองจะหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นว่าสามีเก่าของเธอมีผู้หญิงคนใหม่ในไม่ช้ามันเป็นความรู้สึกที่ต่อต้านที่อธิบายได้ยาก“คุณลู่คะ นี่คือเพื่อนของคุณหรอ” ฉาวซวนเฟยมองดูหลี่ชิงเหยาด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอรู้สึกถึงความเกลียดชังเล็กน้อยที่อีกฝ่ายแสดงออกมา“อดีตภรรยาของผม” ลู่เฉินตอบ"อ๋อ?"ฉาวซวนเฟยยักคิ้วและยกมุมปากขึ้น“สวัสดีค่ะ ฉันแซ่ฉาวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”เธอยิ้มและยื่นมือออกมาอย่างสง่างามแต่คางที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเธอนั้น กลับทำให้รู้สึกถึงการกดขี่ลึกๆ"สวัสดีค่ะ"หลี่ชิงเหยาตอบอย่างสุภาพแม้ว่าเธอจะมั่นใจมากมาตลอด แต่เธอต้องยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้านี้สวยเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน
“คนสวย! คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? คนนี้มันเป็นคนหลอกลวงนะ! คุณจะไม่ได้อะไรจากการอยู่กับเขาหรอก!”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าการยั่วยุของเขาไม่มีผล เขาก็ใจร้อนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดเขาทนไม่ไหวที่คนสวยขนาดนี้จะถูกทำลายโดยลู่เฉิน “เฮ้! คุณน่ารำคาญมาก ฉันจะคบกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ!” เห็นได้ชัดว่าฉาวซวนเฟยหมดความอดทนแล้ว"คุณ--"หยางเหว่ยโกรธมากเขาไม่คาดคิดว่าคนตรงหน้านี้จะดื้อรั้นขนาดนี้แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอโดนหลอก แต่เธอก็ยังเต็มใจไอ้หนุ่มคนนี้มีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?“คุณหยางคะ คนแบบนี้สมควรที่จะถูกหลอกแล้ว คุณเตือนเธอด้วยความมีน้ำใจ ถ้าเธอจะไม่รับน้ำใจของคุณก็ช่างเถอะ แต่การที่เธอยังจะมาพูดจาหยาบคายอย่างนี้ ช่างไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ!“ เลขาจางพูดอย่างประชดประชันอยู่ด้านข้าง“ฮึ่ม! จนถึงตอนนี้ เป็นคนดียังไม่ได้เลย!” หยางเหว่ยรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยแน่นอนว่าสาเหตุหลักคือความอิจฉา“พวกคุณคงจะรู้จักกันมานานแล้วใช่มั้ย?”หลี่ชิงเหยาถามอย่างกะทันหันพฤติกรรมของฉาวซวนเฟย ทำให้เธอสงสัยว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะเชื่อใจเขาขนาดนี้ได้อย่างไร?
หลังจากเดินเข้าไปในตึกเฟิ่งหมิงเลขาจางยังคงรู้สึกโกรธเครืองอยู่เล็กน้อย“ฮึ่ม! ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะตาบอดหรือเปล่าที่ตกหลุมรักลู่เฉิน ไอ้ขยะคนนั้น”“ใช่สิ มันเหมือนกับดอกไม้กับหมาวัดจริงๆ!” หยางเหว่ยก็ถอนหายใจเช่นกันเขาทั้งหล่อและรวย ทำไมเขาถึงหาคนสวยขนาดนั้นไม่ได้ล่ะ?“พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย วันนี้เรามาทำธุรกิจกัน”หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "เลขาจาง คุณไปค้นหาว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในคืนนี้ แล้วถ้าแนะนำให้รู้จักกันได้มันจะดีที่สุด"“พอดีเพื่อนของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันจะโทรหาเธอทันที”ขณะที่เลขาจางพูด เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีแล้วกดโทรออกหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบว่า "คุณหลี่คะ ฉันได้ถามอย่างชัดเจนแล้วค่ะ งานกาล่าดินเนอร์การกุศลในวันนี้จัดโดยคุณฉาวเอง ส่วนเธอจะเลือกคนไหนเป็นคู่ร่วมมือ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเธอ"“คุณฉาว? หมายถึงราชินีธุรกิจคนนั้นหรือ?”ดวงตาของหลี่ชิงเหยาเป็นประกาย และเธอมีพลังขึ้นมาทันทีชื่อเสียงของราชินีฉาวซวนเฟยเธอได้ยินมานานแล้วผู้หญิงคนหนึ่ง บดขยี้ผู้ชายเกือบทั้งหมดในเมืองเจียงหลิงด้วยตัวเธอเอง
ในขณะนี้ โถงงานเลี้ยงครึกครื้นเป็นพิเศษบนเวที มีกลุ่มสตรีที่สง่างามกำลังเต้นรำแบบดั้งเดิมของสมัยฮั่นถังอยู่ทุกรอยยิ้มและทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความงดงามเป็นพิเศษทำให้คนหลงใหลหน้าเวทีมีกลุ่มคนมีชื่อเสียงที่แต่งตัวอย่างสง่างามกำลังนั่งอยู่บางคนดื่มไวน์กันและพูดคุยกัน บางคนเพลิดเพลินกับการแสดงอย่างเงียบๆลู่เฉินหาที่นั่งแล้วนั่งดื่มน้ำผลไม้และดูการแสดง" เฮ้! ลู่เฉิน! ไม่คิดว่าคุณกล้าจะแอบเข้ามาจริงๆ?"ในขณะที่ลู่เฉินดูการแสดงอย่างมีความสนใจ เสียงที่ทำลายบรรยากาศก็ดังขึ้นจากข้างๆกายเขาลู่เฉินเหลือบมองอย่างสบายๆ และเห็นหยางเหว่ย หลี่ชิงเหยาและเลขาจางพอดี“ฮึ่ม! ช่างโชคร้ายจริงๆ ทำไมไปทุกที่ก็จะได้เจอคุณล่ะ!” เลขาจางดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากหลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไร หลังจากเหลือบมองอย่างเย็นชา เธอก็ไปนั่งที่นั่งว่างบริเวณแถวหน้า“ลู่เฉิน อีกเดี๋ยวจะจัดการประมูลเพื่อการกุศลแล้ว คุณมีเงินหรอ? ไม่คิดว่าคุณจะกล้ามานั่งตรงนี้?” หยางเหว่ยพูดจาถากถาง“ถ้าไม่มีเงินก็จะนั่งไม่ได้หรอ” ลู่เฉินถาม“เฮ้! คุณพูดถูกแล้ว ถ้าคุณไม่มีเงินก็นั่งไม่ได้จริงๆนั่นแหละ!
"คู่ร่วมมือ?"เมื่อหลี่ชิงเหยาได้ยินสิ่งนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงหรือว่า เธอไม่อยากจะเชื่อเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไม่ใช่รายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ตัดสินใจให้เธอเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวโดยตรง!แม้แต่การประเมินขั้นสุดท้ายก็ข้ามไปแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น? !“คำที่คุณเพิ่งบอกไป เป็นความจริงไหมคะ?” หลี่ชิงเหยาถาม“จะเป็นของปลอมได้ยังไงล่ะ? ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นพรุ่งนี้คุณมาที่บริษัทเพื่อเซ็นสัญญา โอเคนะ ผมยังมีธุระต้องจัดการ ผมขอวางสายก่อนนะ”หลังจากพูดเพียงไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้วหลี่ชิงเหยาในขณะนี้รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขมากเธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะคืบหน้าได้อย่างราบรื่นขนาดนี้เธอเพิ่งจะถูกคัดออกจากรายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ในพริบตาเธอก็กลายเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวทันทีความสุขถาโถมมาแบบกะทันหันเกินไปแน่นอนว่าที่เธอถูกเลือกเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวนั้น น่าจะเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของหยางเหว่ย แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าตระกูลหยางจะมีพลังขนาดนี้ เพียงการโทรสายหนึ่ง ก็เปลี่ยนการตัดสินใจของตระกูลฉาวไปแล้วเป็นเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงจริงๆ!“คุณหลี
ลู่เฉินคาดไม่ถึงจริงๆว่าหลี่ชิงเหยาจะไม่เชื่อใจเขาเลยแม้แต่น้อยพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมาสามปี สุดท้ายเขาก็สู้คนนอกไม่ได้เลยหรอ?“ใช่... ผมมันก็แค่ไอ้ตัวร้าย หยางเหว่ยเป็นสุภาพบุรุษ ผมเป็นคนที่ใส่ร้ายเขาเอง ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?” ลู่เฉินพูดอย่างเย้ยหยันตัวเองเมื่อสูญเสียความเชื่อใจไป ไม่ว่าจะอธิบายเยอะแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์“คุณพูดแบบนี้ทำไม? ฉันเข้าใจคุณผิดหรอ?” หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว“คุณไม่ได้เข้าใจผิดหรอก เป็นเพราะผมเองที่ปากร้าย สมแล้ว” ลู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“คุณมันช่างดื้อรั้น!” หลี่ชิงเหยาเริ่มโกรธเล็กน้อยเธอไม่คาดคิดเลยว่าลู่เฉินจะเป็นคนเช่นนี้เพราะความหึงหวง เขาถึงขั้นจงใจใส่ร้ายคนอื่น แทนที่จะสำนึกผิดและแก้ตัวใหม่หรือว่าหลังจากการหย่าร้าง เขาก็ฉีกหน้ากากตัวเองออก แล้วเลิกปลอมต่อแล้วงั้นหรอ?“เอาล่ะๆ ชิงเหยา คุณอย่าโกรธเกินไปเลย”ในเวลานี้ หยางเหว่ยทำเป็นคนมีน้ำใจ "ลู่เฉินเห็นว่าผมสนิทกับคุณอย่างนี้ แน่นอนว่าเขาคงรู้สึกรังเกียจผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่โทษเขาหรอก คนเราทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดกันได้อยู่แล้วน่ะ"“ดู ดูคุณหยางสิ เขาตอบแทนการใส่ร้ายของคุณด้วย
“ทําไมพาคนมาเยอะขนาดนี้”หยางเหว่ยตากระตุกและรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้เชี่ย ตกลงกันว่าตัวต่อตัว แต่แกกลับพาคนเยอะอย่างนี้มา ไม่เป็นไปตามกฎจริงๆเลยนะไอ้หนุ่มหยางเหว่ยด่าในใจ แต่ในขณะนี้ เขาก็ทําได้แค่กัดฟันไปสู้ยังไงก็เสียหน้าต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักไม่ได้“ก็คือพวกเขากี่คนแหละ ล้อมพวกเขาไว้!”ทันทีที่จ้าวเทียนหลงโบกมือ บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งก็ร่วมกันไปล้อมรอบหยางเหว่ยไว้ทั้งสามคน“ทําอะไรล่ะ? กูจะเตือนพวกแกนะ พ่อกูป็นหยางอ้าว เป็นประธานของเภสัชกรรมตระกูลหยางนะ”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี เขาก็รีบบอกตัวตนของเขาทันทีเขาตั้งใจที่จะใช้ชื่อเสียงของพ่อเขามาขู่คนกลุ่มนี้“เชี่ย! หยางอ้าวเป็นอะไรวะ?”บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนว่า "แกรู้ไหมว่าคนที่อยู่ข้างๆกูนี่เป็นใคร? เขาเป็นลูกชายของคุณหู่นะ นายน้อยของต้าฟากรุ๊ป!”พอคําพูดเหล่านี้พูดออกมา ทุกคนก็โกลาหล“คุณหู่? หรือว่าเป็นจ้าวหู่ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อของเขตตงเฉิงคนนั้นหรอ?”“นอกจากคนใจร้ายคนนั้นแล้ว จะมีใครกล้าเรียกว่าเป็นคุณหู่ได้อีก?”“ไอ้หนุ่มนี้น่าสงสารจริงๆ ไปยุ่งกับลูกชายของคุณหู่ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะซวยแ
“ถ้าไม่ปล่อย งั้นคุณก็ต้องตาย!”ลู่เฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์แต่แววตาของเขานั้น เย็นชาจนน่ากลัว“ตายหรอ?”พอจ้าวเทียนหลงได้ยินคําพูดนี้ เขาก็หัวเราะเสียงดังทันทีแม้แต่กลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาก็หัวเราะด้วยพวกเขามองดูลู่เฉินด้วยสายตาที่เหมือนมองคนโง่“ไอ้หนุ่ม แกรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร? กล้าพูดแบบนี้กับกูเหรอ?" จ้าวเทียนหลงพูดอย่างหยอกล้อ“ฉันไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร ฉันให้เวลาคุณสามวินาที ปล่อยเธอทันที มิฉะนั้นผลที่ตามมาคุณจะต้องรับผิดชอบเอง" ลู่เฉินพูดอย่างสงบพอคําพูดนี้พูดออกมา ผู้ชมก็โกลาหลแม้แต่หลี่ชิงเหยากี่คนก็ประหลาดใจไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉินจะมาช่วยหลี่ชิงเหยาในช่วงเวลาเช่นนี้เมื่อเทียบกับหยางเหว่ยที่เงียบแล้ว เขามีความกล้าหาญที่น่ายกย่องจริงๆแต่ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย“ไอ้คนที่ไม่รู้จักชั่วดี เดี๋ยวฉันจะดูสิว่าคุณจะตายยังไง!" หยางเหว่ยทําหน้าดุร้ายเพราะการออกมาช่วยของลู่เฉิน ได้แสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาดของเขาไอ้ขยะคนหนึ่งจะกล้าหาญกว่าเขา เขาจะไม่พอใจโดยธรรมชาติและจะโกรธแค้นด้วยซ้ำ“เชี่ย! แกแม่งเย่อหยิ่งจัง”จ้าวเทียนหลงมองไปที่ลู่เฉิน แล้วเข