แชร์

บทที่ 10

ผู้แต่ง: ดื่มน้ำให้เยอะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“คุณหลี่? คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

เมื่อลู่เฉินเห็นหลี่ชิงเหยาเดินมา สายตาของลู่เฉินก็หยุดชะงักในตอนแรก แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับทำเป็นไม่แยแส

“บังเอิญเจอพอดี เลยมาทักทาย”

หลี่ชิงเหยากลืนคำพูดที่เธอเตรียมมาเพื่อที่จะอธิบายต่อ

เธอเคยได้ยินจากแม่ของเธอมาก่อนว่าลู่เฉินมีความรักครั้งใหม่แล้ว แต่เดิมเธอยังไม่ค่อยเชื่อนัก

แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง

แม้ว่าทั้งสองจะหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นว่าสามีเก่าของเธอมีผู้หญิงคนใหม่ในไม่ช้า

มันเป็นความรู้สึกที่ต่อต้านที่อธิบายได้ยาก

“คุณลู่คะ นี่คือเพื่อนของคุณหรอ” ฉาวซวนเฟยมองดูหลี่ชิงเหยา

ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอรู้สึกถึงความเกลียดชังเล็กน้อยที่อีกฝ่ายแสดงออกมา

“อดีตภรรยาของผม” ลู่เฉินตอบ

"อ๋อ?"

ฉาวซวนเฟยยักคิ้วและยกมุมปากขึ้น

“สวัสดีค่ะ ฉันแซ่ฉาวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

เธอยิ้มและยื่นมือออกมาอย่างสง่างาม

แต่คางที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเธอนั้น กลับทำให้รู้สึกถึงการกดขี่ลึกๆ

"สวัสดีค่ะ"

หลี่ชิงเหยาตอบอย่างสุภาพ

แม้ว่าเธอจะมั่นใจมากมาตลอด แต่เธอต้องยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้านี้สวยเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หรืออุปนิสัยประจำตัวของเธอ มันก็ไม่ได้ด้อยกว่าเธอแม้แต่น้อยเลย

และในบางมุมเธอก็ยังดียิ่งกว่า!

ผู้ชายน่าจะชอบแบบนี้ใช่ไหม?

“ลู่เฉิน ทำไมฉันไม่เคยเห็นเพื่อนของคุณคนนี้มาก่อน?” หลี่ชิงเหยาอดสงสัยไม่ได้

“เมื่อก่อน คุณเคยสนใจเรื่องเหล่านี้ด้วยหรือ?” ลู่เฉินพูดอย่างสงบ

ประโยคนี้ทำให้หลี่ชิงเหยาพูดอะไรไม่ออก

เธอไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดออกมาตรงๆอย่างนี้ แม้มันจะรุนแรงเพียงเล็กน้อย

บรรยากาศอึดอัดในชั่วขณะหนึ่ง

“ลู่เฉิน ฉันแค่อยากจะคุยกับคุณ”

หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที หลี่ชิงเหยาก็พูดอีกครั้ง

“จะคุยเรื่องอะไรล่ะ?”

ลู่เฉินไม่มีการแสดงออกใดๆ

“ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวก คุณตามมาสิ”

ขณะที่หลี่ชิงเหยาพูด เธอก็เดินไปที่ตรงมุมนึง

เมื่อเธอพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตามมา เธอก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน และขมวดคิ้วเล็กน้อย

“หากคุณมีอะไรจะพูด ก็พูดอยู่ตรงนี้สิ คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิด” ลู่เฉินกล่าว

“ต้องขนาดนี้เลยหรอ” หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้วอีกครั้ง

เธอพร้อมที่จะคืนดีกับเขาแล้ว แต่ทำไมคนตรงหน้าไม่ไว้หน้าเธอเลย?

และเขายังต่อต้านขนาดนี้ด้วยซ้ำ ราวกับว่าเขาไม่ได้แคร์เธอแม้แต่น้อยเลย

“คุณหลี่ครับ เราหย่ากันแล้วนะครับ คุณมีสถานะที่สูงส่ง คุณอย่ามาคบกับคนอย่างผมดีกว่า เพื่อไม่ให้คุณเสียหน้า” ลู่เฉินกล่าว

“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมจะต้องทำถึงขนาดนี้?” สีหน้าของหลี่ชิงเหยาดูแย่เล็กน้อย

"คุณถามผมหรอ?"

ลู่เฉินค่อยๆเงยหน้าขึ้น "นี่คือสิ่งที่คุณเลือกไม่ใช่เหรอ?"

"ฉัน......"

หลี่ชิงเหยาพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง

ใช่ เธอเป็นคนริเริ่มที่จะหย่าร้าง

ตอนนี้มาพูดเรื่องนี้ มันจะไปมีความหมายอะไร?

แต่ความไม่สบายใจของเธอมันมาจากไหนล่ะ?

โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นลู่เฉินอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ทำไมเธอถึงรู้สึกโกรธ?

และความรู้สึกนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ลู่เฉิน ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉัน แต่ฉันไม่ได้คิดว่าฉันได้ทำอะไรผิด และฉันได้ให้โอกาสคุณแล้ว!”

น้ำเสียงของหลี่ชิงเหยาค่อยๆเย็นลง

นิสัยของเธอหยิ่งผยองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันไม่ง่ายที่เธอจะวางทิฐิลงแล้วเข้ามาทักทาย

แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับไม่รับน้ำใจเธอเลย

“แล้วผมเป็นคนผิดหรอ?”

ลู่เฉินแค่รู้สึกว่ามันตลกนิดหน่อย

“ฉันไม่อยากทะเลาะเรื่องนี้กับคุณ เพราะมันไม่มีความหมาย แต่ถ้าคุณเคารพฉัน คุณก็ไม่ควรควงผู้หญิงคนอื่นมาต่อหน้าฉัน!” หลี่ชิงเหยากล่าวอย่างเคร่งขรึม

"เคารพ?"

จู่ๆลู่เฉินก็หัวเราะ "แล้วหยางเหว่ยล่ะ? คุณสองคนพัวพันกันก่อนที่เราจะหย่าร้าง และตอนนี้คุณบอกว่าเคารพหรอ?"

“ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ยังไงฉันก็ไม่เคยทำอะไรที่ละอายแก่ใจตนเอง” หลี่ชิงเหยาเงยหน้าขึ้นสูง

"ใช่หรอ?"

ลู่เฉินยิ้มอย่างประชด เขาชี้ไปที่หยางเหว่ยและเลขาจางที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ "นี่คือสิ่งที่คุณเรียกว่าไม่ละอายแก่ใจตนเองหรือ ห้าๆๆๆ... วันนี้ผมได้เรียนรู้แล้ว!"

เห็นได้ชัดว่าเขาสองคนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด แถมยังเข้าร่วมงานด้วยกันด้วย

แต่สุดท้ายเธอกลับบอกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรที่ละอายใจ

ช่างตลกสิ้นดี!

“อืม?”

หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้อธิบาย

เพราะมันไม่จำเป็น และอีกอย่าง อีกฝ่ายก็ไม่ได้จะเชื่อ

“ชิงเหยา เมื่อกี้เราคุยกันอยู่ดีๆ ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?”

หยางเหว่ยเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม

แต่เมื่อสายตาเขามองเห็นถึงฉาวซวนเฟยที่สวยแบบไม่มีใครเทียบเทียม เขาก็ตกตะลึงทันที

ในดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาอันละโมบ

และการหายใจของเขาก็เร็วขึ้น

สวย!

สวยมากจริงๆ!

เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน

หากบอกว่าหลี่ชิงเหยาเป็นเหมือนน้ำที่เย็นยะเยือก งั้นฉาวซวนเฟยก็เป็นเหมือนกับไฟที่ร้อนแรง

เธอแค่ยืนเฉยๆโดยไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไร เธอก็มีเสน่ห์ น่าหลงใหลและยั่วยวนใจมาก

เธอเป็นนางจิ้งจอกโดยกำเนิดจริงๆ!

พอหยางเหว่ยมองอีกสักสองสามครั้ง เขาก็ละสายตาไป

เขารู้ดีว่า ถ้าอยู่ต่อหน้าสาวงามเช่นนี้ ห้ามแสดงออกมากเกินไป

ความประทับใจแรกนั้นสำคัญมาก

“ลู่เฉิน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ด้วย?”

สายตาของหยางเหว่ยเลื่อนไปทางอื่น ในไม่ช้าเขาก็ขมวดคิ้ว

โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นพฤติกรรมที่ใกล้ชิดระหว่างฉาวซวนเฟยและลู่เฉิน เขาก็อิจฉาเป็นอย่างมาก

เชี่ย!

ไอ้หนุ่มนี้มันทำบุญด้วยอะไรมา? เพึ่งได้เหย่ากับหลี่ชิงเหยา แต่กลับได้พบนางฟ้าชั้นยอดเช่นนี้อีก

มันโชคดีขนาดนี้เลยหรอ? !

“ทำไมผมถึงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้” ลู่เฉินถาม

“ผมได้ยินจากชิงเหยาว่าคุณเป็นเพียงช่างซ่อมบำรุงในชิงเฉิงกรุ๊ป ด้วยสถานะของคุณ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าสู่ตึกเฟิ่งหมิงได้ คุณอยากเนียนแอบเข้างานหรอ?” หยางเหว่ยหรี่ตา

“ผมจะมีคุณสมบัติหรือไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ” ลู่เฉินกล่าวอย่างสงบ

“ฮึ่ม ดูเหมือนว่าผมเดาถูกแล้ว”

หยางเหว่ยยิ้มอย่างเย็นชาและเขาหันไปหาฉาวซวนเฟย "สาวงามคนนี้ คุณคงถูกหลอกแล้ว คนที่อยู่ข้างๆคุณไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แต่เป็นคนต่ำต้อยจากก้นบึ้งของสังคม เขาไม่คู่ควรกับความงามของคุณหรอก"

ในความคิดของเขา ลู่เฉินคงได้หลอกลวงคนอื่นแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาจะมีผู้หญิงที่สวยงามขนาดนี้มาอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไร?

“แล้วไงล่ะ? ตราบใดที่ฉันชอบเขาก็พอแล้ว” ฉาวซวนเฟยยิ้มอย่างไม่เต็มใจ

“คนสวยครับ ด้วยรูปร่างหน้าตาของคุณ คุณสามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยได้อย่างแน่นอน ทำไมคุณต้องทนทุกข์ทรมานกับผู้ชายคนนี้ด้วย” หยางเหว่ยรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“ครอบครัวที่ร่ำรวยแล้วยังไงล่ะ? ในสายตาของฉัน ลู่เฉินเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด” ฉาวซวนเฟยฉวยโอกาสเดินมาคว้าแขนของลู่เฉิน

"ยอดเยี่ยม?"

หยางเหว่ยหัวเราะเยาะ "เขาไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ และไม่มีความสามารถด้วย เขาจะยอดเยี่ยมตรงไหน?"

“อย่างน้อย เขาหล่อกว่าคุณ” ฉาวซวนเฟยพูดอย่างไร้ความปรานี

“ฮึ่ม! ความหล่อมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? ยังไงซะ เขาก็เป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถ!”

สีหน้าของหยางเหว่ยเคร่งขรึมและเขาเตือนว่า "คนสวย อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณเลยนะ หากคุณยังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงตอนนั้นโดนหลอกหมดเนื้อหมดตัวแล้ว จะมานั่งเสียใจทีหลังคงไม่ทันล่ะ"

“โดนหลอกหมดเนื้อหมดตัว?”

ฉาวซวนเฟยหัวเราะ "ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ แต่ฉันกลัวว่าเขาจะไม่ยินยอมน่ะสิ"

คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้หลี่ชิงเหยาและอีกสองคนขมวดคิ้วเท่านั้น

แม้แต่ลู่เฉินก็ทนไม่ไหวเล็กน้อย

ที่ผู้หญิงคนนี้พูดจาอย่างยียวน คนส่วนใหญ่จะทนไม่ไหวจริงๆ

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
พัชรา ไชยสอน
ฉันอยากอ่านต่อแต่ฉันไม่มีเงิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 11

    “คนสวย! คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? คนนี้มันเป็นคนหลอกลวงนะ! คุณจะไม่ได้อะไรจากการอยู่กับเขาหรอก!”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าการยั่วยุของเขาไม่มีผล เขาก็ใจร้อนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดเขาทนไม่ไหวที่คนสวยขนาดนี้จะถูกทำลายโดยลู่เฉิน “เฮ้! คุณน่ารำคาญมาก ฉันจะคบกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ!” เห็นได้ชัดว่าฉาวซวนเฟยหมดความอดทนแล้ว"คุณ--"หยางเหว่ยโกรธมากเขาไม่คาดคิดว่าคนตรงหน้านี้จะดื้อรั้นขนาดนี้แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอโดนหลอก แต่เธอก็ยังเต็มใจไอ้หนุ่มคนนี้มีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?“คุณหยางคะ คนแบบนี้สมควรที่จะถูกหลอกแล้ว คุณเตือนเธอด้วยความมีน้ำใจ ถ้าเธอจะไม่รับน้ำใจของคุณก็ช่างเถอะ แต่การที่เธอยังจะมาพูดจาหยาบคายอย่างนี้ ช่างไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ!“ เลขาจางพูดอย่างประชดประชันอยู่ด้านข้าง“ฮึ่ม! จนถึงตอนนี้ เป็นคนดียังไม่ได้เลย!” หยางเหว่ยรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยแน่นอนว่าสาเหตุหลักคือความอิจฉา“พวกคุณคงจะรู้จักกันมานานแล้วใช่มั้ย?”หลี่ชิงเหยาถามอย่างกะทันหันพฤติกรรมของฉาวซวนเฟย ทำให้เธอสงสัยว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะเชื่อใจเขาขนาดนี้ได้อย่างไร?

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 12

    หลังจากเดินเข้าไปในตึกเฟิ่งหมิงเลขาจางยังคงรู้สึกโกรธเครืองอยู่เล็กน้อย“ฮึ่ม! ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะตาบอดหรือเปล่าที่ตกหลุมรักลู่เฉิน ไอ้ขยะคนนั้น”“ใช่สิ มันเหมือนกับดอกไม้กับหมาวัดจริงๆ!” หยางเหว่ยก็ถอนหายใจเช่นกันเขาทั้งหล่อและรวย ทำไมเขาถึงหาคนสวยขนาดนั้นไม่ได้ล่ะ?“พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย วันนี้เรามาทำธุรกิจกัน”หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "เลขาจาง คุณไปค้นหาว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในคืนนี้ แล้วถ้าแนะนำให้รู้จักกันได้มันจะดีที่สุด"“พอดีเพื่อนของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันจะโทรหาเธอทันที”ขณะที่เลขาจางพูด เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีแล้วกดโทรออกหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบว่า "คุณหลี่คะ ฉันได้ถามอย่างชัดเจนแล้วค่ะ งานกาล่าดินเนอร์การกุศลในวันนี้จัดโดยคุณฉาวเอง ส่วนเธอจะเลือกคนไหนเป็นคู่ร่วมมือ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเธอ"“คุณฉาว? หมายถึงราชินีธุรกิจคนนั้นหรือ?”ดวงตาของหลี่ชิงเหยาเป็นประกาย และเธอมีพลังขึ้นมาทันทีชื่อเสียงของราชินีฉาวซวนเฟยเธอได้ยินมานานแล้วผู้หญิงคนหนึ่ง บดขยี้ผู้ชายเกือบทั้งหมดในเมืองเจียงหลิงด้วยตัวเธอเอง

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 13

    ในขณะนี้ โถงงานเลี้ยงครึกครื้นเป็นพิเศษบนเวที มีกลุ่มสตรีที่สง่างามกำลังเต้นรำแบบดั้งเดิมของสมัยฮั่นถังอยู่ทุกรอยยิ้มและทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความงดงามเป็นพิเศษทำให้คนหลงใหลหน้าเวทีมีกลุ่มคนมีชื่อเสียงที่แต่งตัวอย่างสง่างามกำลังนั่งอยู่บางคนดื่มไวน์กันและพูดคุยกัน บางคนเพลิดเพลินกับการแสดงอย่างเงียบๆลู่เฉินหาที่นั่งแล้วนั่งดื่มน้ำผลไม้และดูการแสดง" เฮ้! ลู่เฉิน! ไม่คิดว่าคุณกล้าจะแอบเข้ามาจริงๆ?"ในขณะที่ลู่เฉินดูการแสดงอย่างมีความสนใจ เสียงที่ทำลายบรรยากาศก็ดังขึ้นจากข้างๆกายเขาลู่เฉินเหลือบมองอย่างสบายๆ และเห็นหยางเหว่ย หลี่ชิงเหยาและเลขาจางพอดี“ฮึ่ม! ช่างโชคร้ายจริงๆ ทำไมไปทุกที่ก็จะได้เจอคุณล่ะ!” เลขาจางดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากหลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไร หลังจากเหลือบมองอย่างเย็นชา เธอก็ไปนั่งที่นั่งว่างบริเวณแถวหน้า“ลู่เฉิน อีกเดี๋ยวจะจัดการประมูลเพื่อการกุศลแล้ว คุณมีเงินหรอ? ไม่คิดว่าคุณจะกล้ามานั่งตรงนี้?” หยางเหว่ยพูดจาถากถาง“ถ้าไม่มีเงินก็จะนั่งไม่ได้หรอ” ลู่เฉินถาม“เฮ้! คุณพูดถูกแล้ว ถ้าคุณไม่มีเงินก็นั่งไม่ได้จริงๆนั่นแหละ!

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 14

    "คู่ร่วมมือ?"เมื่อหลี่ชิงเหยาได้ยินสิ่งนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงหรือว่า เธอไม่อยากจะเชื่อเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไม่ใช่รายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ตัดสินใจให้เธอเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวโดยตรง!แม้แต่การประเมินขั้นสุดท้ายก็ข้ามไปแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น? !“คำที่คุณเพิ่งบอกไป เป็นความจริงไหมคะ?” หลี่ชิงเหยาถาม“จะเป็นของปลอมได้ยังไงล่ะ? ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นพรุ่งนี้คุณมาที่บริษัทเพื่อเซ็นสัญญา โอเคนะ ผมยังมีธุระต้องจัดการ ผมขอวางสายก่อนนะ”หลังจากพูดเพียงไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้วหลี่ชิงเหยาในขณะนี้รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขมากเธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะคืบหน้าได้อย่างราบรื่นขนาดนี้เธอเพิ่งจะถูกคัดออกจากรายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ในพริบตาเธอก็กลายเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวทันทีความสุขถาโถมมาแบบกะทันหันเกินไปแน่นอนว่าที่เธอถูกเลือกเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวนั้น น่าจะเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของหยางเหว่ย แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าตระกูลหยางจะมีพลังขนาดนี้ เพียงการโทรสายหนึ่ง ก็เปลี่ยนการตัดสินใจของตระกูลฉาวไปแล้วเป็นเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงจริงๆ!“คุณหลี

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่15

    ลู่เฉินคาดไม่ถึงจริงๆว่าหลี่ชิงเหยาจะไม่เชื่อใจเขาเลยแม้แต่น้อยพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมาสามปี สุดท้ายเขาก็สู้คนนอกไม่ได้เลยหรอ?“ใช่... ผมมันก็แค่ไอ้ตัวร้าย หยางเหว่ยเป็นสุภาพบุรุษ ผมเป็นคนที่ใส่ร้ายเขาเอง ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?” ลู่เฉินพูดอย่างเย้ยหยันตัวเองเมื่อสูญเสียความเชื่อใจไป ไม่ว่าจะอธิบายเยอะแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์“คุณพูดแบบนี้ทำไม? ฉันเข้าใจคุณผิดหรอ?” หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว“คุณไม่ได้เข้าใจผิดหรอก เป็นเพราะผมเองที่ปากร้าย สมแล้ว” ลู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“คุณมันช่างดื้อรั้น!” หลี่ชิงเหยาเริ่มโกรธเล็กน้อยเธอไม่คาดคิดเลยว่าลู่เฉินจะเป็นคนเช่นนี้เพราะความหึงหวง เขาถึงขั้นจงใจใส่ร้ายคนอื่น แทนที่จะสำนึกผิดและแก้ตัวใหม่หรือว่าหลังจากการหย่าร้าง เขาก็ฉีกหน้ากากตัวเองออก แล้วเลิกปลอมต่อแล้วงั้นหรอ?“เอาล่ะๆ ชิงเหยา คุณอย่าโกรธเกินไปเลย”ในเวลานี้ หยางเหว่ยทำเป็นคนมีน้ำใจ "ลู่เฉินเห็นว่าผมสนิทกับคุณอย่างนี้ แน่นอนว่าเขาคงรู้สึกรังเกียจผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่โทษเขาหรอก คนเราทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดกันได้อยู่แล้วน่ะ"“ดู ดูคุณหยางสิ เขาตอบแทนการใส่ร้ายของคุณด้วย

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่ 16

    “ทําไมพาคนมาเยอะขนาดนี้”หยางเหว่ยตากระตุกและรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้เชี่ย ตกลงกันว่าตัวต่อตัว แต่แกกลับพาคนเยอะอย่างนี้มา ไม่เป็นไปตามกฎจริงๆเลยนะไอ้หนุ่มหยางเหว่ยด่าในใจ แต่ในขณะนี้ เขาก็ทําได้แค่กัดฟันไปสู้ยังไงก็เสียหน้าต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักไม่ได้“ก็คือพวกเขากี่คนแหละ ล้อมพวกเขาไว้!”ทันทีที่จ้าวเทียนหลงโบกมือ บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งก็ร่วมกันไปล้อมรอบหยางเหว่ยไว้ทั้งสามคน“ทําอะไรล่ะ? กูจะเตือนพวกแกนะ พ่อกูป็นหยางอ้าว เป็นประธานของเภสัชกรรมตระกูลหยางนะ”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี เขาก็รีบบอกตัวตนของเขาทันทีเขาตั้งใจที่จะใช้ชื่อเสียงของพ่อเขามาขู่คนกลุ่มนี้“เชี่ย! หยางอ้าวเป็นอะไรวะ?”บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนว่า "แกรู้ไหมว่าคนที่อยู่ข้างๆกูนี่เป็นใคร? เขาเป็นลูกชายของคุณหู่นะ นายน้อยของต้าฟากรุ๊ป!”พอคําพูดเหล่านี้พูดออกมา ทุกคนก็โกลาหล“คุณหู่? หรือว่าเป็นจ้าวหู่ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อของเขตตงเฉิงคนนั้นหรอ?”“นอกจากคนใจร้ายคนนั้นแล้ว จะมีใครกล้าเรียกว่าเป็นคุณหู่ได้อีก?”“ไอ้หนุ่มนี้น่าสงสารจริงๆ ไปยุ่งกับลูกชายของคุณหู่ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะซวยแ

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่17

    “ถ้าไม่ปล่อย งั้นคุณก็ต้องตาย!”ลู่เฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์แต่แววตาของเขานั้น เย็นชาจนน่ากลัว“ตายหรอ?”พอจ้าวเทียนหลงได้ยินคําพูดนี้ เขาก็หัวเราะเสียงดังทันทีแม้แต่กลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาก็หัวเราะด้วยพวกเขามองดูลู่เฉินด้วยสายตาที่เหมือนมองคนโง่“ไอ้หนุ่ม แกรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร? กล้าพูดแบบนี้กับกูเหรอ?" จ้าวเทียนหลงพูดอย่างหยอกล้อ“ฉันไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร ฉันให้เวลาคุณสามวินาที ปล่อยเธอทันที มิฉะนั้นผลที่ตามมาคุณจะต้องรับผิดชอบเอง" ลู่เฉินพูดอย่างสงบพอคําพูดนี้พูดออกมา ผู้ชมก็โกลาหลแม้แต่หลี่ชิงเหยากี่คนก็ประหลาดใจไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉินจะมาช่วยหลี่ชิงเหยาในช่วงเวลาเช่นนี้เมื่อเทียบกับหยางเหว่ยที่เงียบแล้ว เขามีความกล้าหาญที่น่ายกย่องจริงๆแต่ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย“ไอ้คนที่ไม่รู้จักชั่วดี เดี๋ยวฉันจะดูสิว่าคุณจะตายยังไง!" หยางเหว่ยทําหน้าดุร้ายเพราะการออกมาช่วยของลู่เฉิน ได้แสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาดของเขาไอ้ขยะคนหนึ่งจะกล้าหาญกว่าเขา เขาจะไม่พอใจโดยธรรมชาติและจะโกรธแค้นด้วยซ้ำ“เชี่ย! แกแม่งเย่อหยิ่งจัง”จ้าวเทียนหลงมองไปที่ลู่เฉิน แล้วเข

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่18

    “คุณยังยืนนิ่งทําไม? รีบไปไหว้ขอโทษคุณจ้าวสิ!”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าลู่เฉินพบกับอุปสรรค เขากลับเกิดความดีอกดีใจที่คนอื่นเกิดความโชคร้ายก่อนหน้านี้อีกฝ่ายได้ทำตัวเด่น ทําให้เขาอิจฉามากตอนนี้ เขาถึงเวลาที่ต้องชดใช้แล้วคุกเข่าลง? หรือว่าไม่?ถ้าคุกเข่าลงแล้ว เขาจะเสียหน้าไปหมดถ้าไม่คุกเข่า เมื่อจ้าวเทียนหลงแก้แค้น ถ้าไม่ตายก็ต้องพิการ“ไอ้หรุ่ม อย่าหาว่ากูไม่ได้ให้โอกาสแกนะ ถ้าวันนี้แกคุกเข่าและไหว้กู กูจะไว้ชีวิตแก มิฉะนั้นอย่าหาว่ากูใจร้าย!”จ้าวเทียนหลงใช้มือจ้ำไปที่หน้าอกของลู่เฉิน และเขาดูมั่นใจมากลู่เฉินไม่มีสิทธิและอำนาจ ที่เขาสู้เก่งจะทำอะไรได้ล่ะ?เขาเป็นแค่คนหยาบคายเท่านั้น ไม่ควรค่าแก่การนำออกมาแสดงเลย“คุณรู้ไหมว่าคุณกําลังเล่นกับไฟอยู่?" ลู่เฉินมองไปที่นิ้วของอีกฝ่าย“เล่นกับไฟหรอ?”จ้าวเทียนหลงหัวเราะเสียงดัง "กูไม่เพียงแต่จะเล่นกับไฟเท่านั้น กูยังต้องเล่นกับผู้หญิงของแกด้วยแกเชื่อหรือไม่ พรุ่งนี้กูจะจัดการผู้หญิงของแกต่อหน้าแกไม่ใช่แค่กูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกน้องของกูด้วย พวกเขาจะเหยียบเธอคนละครั้งด้วยกูจะให้แกมองด้วยตาของแกเอง โดยไม่สามารถทำอะไรได

บทล่าสุด

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1200

    กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ แล้วก็หยุดกะทันหันแสงแดดส่องลงมา เสื้อเกราะสีทองของเหลยว่านจุนส่องแสงประกาย และสะดุดตาเป็นพิเศษ"ดาบนี้เรียกว่าโพ่หยวีนกวน ผมเคยเก็บตัวมาสามปี ถึงจะเรียนรู้เทคนิคนี้ให้ได้""จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยแสดงต่อหน้าคนนอกเลย""วันนี้ จะเป็นเกียรติในชีวิตของคุณที่สามารถตายด้วยดาบนี้ของผม!""ดูดาบผมสิ!"พูดจบ ดาบทองของเหลยว่านจุนก็สั่นอย่างกะทันหัน ตัวเขาก็กลายเป็นแสงสีทองที่แสบตา พุ่งลงมาอย่างรวดเร็วโมเมนตัมของมันยิ่งใหญ่เหมือนแม่น้ำไหลลง ไม่สามารถหยุดยั้งได้และอยู่ยงคงกระพัน"ดาบที่เร็วมาก ลมดาบที่น่ากลัวมาก""โอ้พระเจ้า นี่คือการลงโทษจากพระเจ้าหรือ น่ากลัวเกินไป!"“เมื่อดาบนี้ใช้ออกมา จะไม่มีใครหยุดยั้งได้ การฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่ม ถึงตายก็ยังได้รับเกียรติ”ดาบที่น่าตกใจของเหลยว่านจุนทําให้เกิดความโกลาหลเหล่านักสู้ต่างสะเทือนใจแสงสีทองนั้นพราวเหมือนดวงอาทิตย์ ทําให้คนไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อยดาบนั้นตกลงมาเหมือนวันสิ้นโลกมาถึงมากพอที่จะทำลายทุกอย่าง!"ชางฉง!"ในขณะที่เหลยว่านจุนออกดาบ ลู่เฉินก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเห็นเพียงว่าเขาตบเบาๆ ดาบสีดำท

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1199

    เมื่อที่เกิดเหตุสงบเหล่านักสู้ที่อยู่ด้านล่างเวที รู้สึกแต่หลังเย็นและหวาดกลัวคลื่นกระทบของการโจมตีเมื่อกี้นั้นน่ากลัวเกินไปหากไม่ได้เตรียมการมานานและหลบได้ทัน เกรงว่าจะถูกประแทกจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีถึงกระนั้น พลังทําลายล้างที่น่ากลัวนั้นยังคงทําให้คนกลัวในใจ"ไม่เลว ความแข็งแกร่งของคุณแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในป่าดำเลย"เหลยว่านจุนแบกมือข้างเดียวไว้ด้านหลัง และยิ้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าชัยชนะอยู่ในมือแล้ว "น่าเสียดายที่คุณยังคงต้องตายในวันนี้""เหลยว่านจุน มีความสามารถจริง ๆ อะไร ก็ใช้ออกมาเลย มิฉะนั้นคุณจะไม่มีโอกาสแล้ว"ลู่เฉินยืนตัวตรงอย่างช้า ๆ สายตายังคงเย็นชาการโจมตีเมื่อกี้นั้น ทำให้เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเหลยว่านจุนเป็นยังไงถ้าไม่มีอะไรที่เกินความคาดคิด อีกฝ่ายใกล้จะมาถึงการฝึกร่างขั้นจงซือใหญ่แล้วโชคดีที่ยังไม่ได้ทะลุไปอย่างเต็มที่เพราะเวลา ไม่งั้นจะรับมืออย่างลำบาก"ฮึ่ม! คุณไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ"เหลยว่านจุนหรี่ตาเล็กน้อย โมเมนตัมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เสื้อคลุมทั้งตัวไม่มีลมพัดแต่ปลิวอยู่ และส่งเสียงด้วย "คุณต้องดูความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผมไม่ใช่

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1198

    การฝึกร่างขั้นจงซือก็มีคนที่แข็งแกร่งกว่าหรืออ่อนแอกว่า ช่องว่างของดินแดนเล็ก ๆ แต่ละระดับจะยากที่จะข้ามได้"หัวหน้าอู๋ประเมินคนนี้สูงเกินไปแล้ว"เจี่ยงซิวเจินส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม "ถ้าผมมองไม่ผิด หลังจากหัวหน้าเหลยเก็บตัวครั้งนี้ ความแข็งแกร่งได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง จัดการกับลู่เฉิน ใช้สามท่าก็สามารถจัดการได้แล้ว""อ้อ เหรอ"อู๋หงต๋ายักคิ้ว ค่อนข้างประหลาดใจเหลยว่านจุนได้ประสบความสําเร็จอย่างมากในการฝึกร่างขั้นจงซือเมื่อหลายปีก่อน หากมีความก้าวหน้าอีก เขาจะใกล้มาถึงการฝึกร่างขั้นจงซือใหญ่แล้สไม่ใช่หรือถ้าเป็นเช่นนั้น สำนักงานเจิ้นอู่ก็ต้องประเมินมูลค่าของเขาใหม่แล้ว"ลู่เฉิน คุณไม่ควรมาท้าทายผม ตอนอยู่ในป่าดำ ผมเคยให้โอกาสคุณแล้ว ไม่คิดว่าคุณจะยังเอาไข่มากระทบหินอีก วันนี้ ไม่มีใครช่วยคุณได้แล้ว"เหลยว่านจุนยังคงเข้าใกล้ต่อไป โมเมนตัมที่น่ากลัวในตอนแรกก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งราวกับคลื่นสึนามิกวาดมา"แกร็บ แกร็บ...” ภายใต้การบีบอัดอย่างรุนแรง ออร่าที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ลู่เฉินก็เริ่มมีรอยแตกทีละรอยเกิดขึ้นเหมือนกระจกขนาดใหญ่ที่กําลังจะแตกรอยแตกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และหนาแน่นขึ้นเรื

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1197

    ภายใต้เสียงตะโกนของเหลยว่านจุน ใบไม่ต้องรับผิดชอบก็ส่งมาทั้งสองคนไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ เซ็นชื่อบนใบไม่ต้องรับผิดชอบและพิมพ์ลายนิ้วมือติดต่อกันการดวลกันสังเวียน จะเป็นหรือจะตายนั้นกำหนดโดยโชคชะตามาตลอด แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าไม่มีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้ง ฝ่ายชนะจะออมมือ นี่เป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้แต่หลังจากเซ็นใบไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว กฎนี้ก็ถูกทําลายแล้วไม่ได้ออมมือ ไม่มีทางถอย มีแค่สู้ชีวิตจะอยู่หรือตาย ไม่มีทางเลือกอื่น"ลู่เฉิน นี่เป็นการตัดสินใจที่โง่ที่สุดในชีวิตของคุณ"หลังจากเซ็นชื่อเสร็จแล้ว โมเมนตัมของเหลยว่านจุนก็เปลี่ยนไปแล้วจากการสง่างามกลายเป็นคนเฉียบคม และมีบารมีแรงกดดันที่เหมือนภูเขาถูกปล่อยออกจากร่างกายเขา และปกคลุมทั้งที่เกิดเหตุทันทีหลังจากนั้น เหล่านักสู้ที่อยู่ด้านล่างเวทีรู้สึกเพียงว่าร่างกายหนักขึ้น เหมือนมีก้อนหินที่มองไม่เห็นก้อนหนึ่งกดลงบนไหล่ของพวกเขา แม้แต่การหายใจก็เริ่มถี่ขึ้นคนที่อ่อนแอ ยิ่งหอบและเหงื่อออกเต็มหัว"แรงกดดันจากการฝึกร่างขั้นจงซือที่น่ากลัว หรือว่านี่ก็คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้หรือ"ทุกคนสั่นใ

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1196

    นี่อะไรกันเนี่ยไม่ใช่เพื่อตำแหน่งและอำนาจ เพื่อสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ถึงมาท้าทายหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้หรือทำไมจะฟังดูเหมือนเป็นการแก้แค้นระหว่างทั้งสองคน มีความแค้นอะไรหรือ"พวกบ้าที่ใจกล้า คุณกล้าดูถูกหัวหน้าพันธมิตรอย่างโจ่งแจ้ง เป็นบาปชั่วร้ายที่ให้อภัยไม่ได้จริง ๆ"เหลยเชียนฉงลุกขึ้นและตําหนิเสียงดังสมาชิกของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองในใจและตะโกนไม่หยุดเหลยว่านจุน เป็นหน้าเป็นตาของทั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ถูกใส่ร้ายในที่สาธารณะ ย่อมจะทนไม่ได้"ได้แล้ว เงียบหน่อย"เหลยว่านจุนยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ หยุดเสียงอึกทึกครึกโครมของสมาชิกพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ แล้วก็พูดอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า "ลู่เฉิน ความยุติธรรมอยู่ในใจคน ที่ผมทําสิ่งต่าง ๆ จะเปิดเผยเสมอ คุณคิดว่าการพูดพล่อย ๆ ไม่กี่คําจะทําให้ชื่อเสียงของผมเสื่อมเสียได้หรือ""ใส่ร้ายเหรอ ฮึ่ม..."ลู่เฉินส่งเสียงฮื่มอย่างเย็นชา "คุณเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า กระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของอาจารย์และศีลของบรรพบุรุษ สู้สัตว์ไม่ได้ด้วยซ้ำ คนหน้าซื่อใจคดอย่างคุณ ต้องถูกทุกคนลงโทษเลย""กําเริบเสิบสาน!"

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1195

    "ถึงแล้วหรือ?"เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลายคนก็มองตามสายตาของเจี่ยงซิวเจินไปทันทีได้เห็นว่าหลังคาของสํานักงานใหญ่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ มีเงาสีขาวหนึ่งกระโดดลงมาอย่างกะทันหันเงามนุษย์แกว่งไปแกว่งมาตามลม เบาเหมือนไม่มีอะไร เหมือนขนนกสีขาว"มาแล้ว หัวหน้าเหลยมาแล้ว"เมื่อมองดูเงามนุษย์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ทั้งสนามสู้ก็ฮือฮาขึ้นมาทันทีเหลยว่านจุน หัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ได้ปรากฏตัวในที่สุดท่ามกลางสายตาของทุกคน เหลยว่านจุนในชุดขาว แบกมือทั้งสองข้างไว้ข้างหลัง เสื้อผ้าปลิว เท้าเหยียบบนลม ราวกับเป็นเทพเจ้าตกลงมาบนโลกลอยละลิ่วลงมาด้วยอารมณ์ที่ลึกลับและสูงส่งไม่มีบารมีที่บีบบังคับ ไม่มีออร่าที่แข็งแกร่ง มีแค่ความศักดิ์สิทธิ์ที่ทําให้คนไม่กล้ามองตรง ๆ และไม่สามารถดูหมิ่นได้ในขณะนี้ เหลยว่านจุนเป็นเหมือนแสงที่สว่างที่สุดในโลกนี้ส่องบนแผ่นดิน สลายความมืดทำให้คนเคารพจากใจ"ขอต้อนรับหัวหน้าเหลยเก็บตัวออกมา"ในเวลานี้ เหลยเชียนฉงลุกขึ้นก่อน และทําความเคารพ"ขอต้อนรับหัวหน้าเหลยเก็บตัวออกมา"เหล่าสาวกพันธมิตรศิลปะการต่อสู้จํานวนมากที่อยู่ข้างหลังเขาก็พากันลุกขึ้น และตะโกนพร้

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1194

    "น้อง ตราบใดที่คุณเข้าร่วมสำนักงานเจิ้นอู่ ผมสามารถตัดสินใจได้ อนุญาตให้คุณขึ้นตำแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้า!" อู๋หงต๋าเสนอเงื่อนไขที่ดีในสำนักงานเจิ้นอู่ ตำแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้า อยู่เหนือผู้จัดการด้วยซ้ำเพิ่งเข้าร่วมก็ขึ้นสองระดับติดต่อกัน นี่เป็นการเลื่อนตําแหน่งเกินมาตรฐานแล้ว"ขอโทษครับ ผมยังคงไม่สนใจ"ลู่เฉินส่ายหัวอีกครั้งการปฏิเสธซ้ำๆทําให้อู๋หงต๋าขมวดคิ้วเขาไว้หน้ามากพอแล้ว ไม่คิดว่าเด็กตรงหน้านี้จะไม่รู้จักชั่วดีขนาดนี้"ไม่ใช่มั้ง ขนาดตําแหน่งผู้ที่คอยปรนนิบัติหัวหน้าของสำนักงานเจิ้นอู่ก็ไม่เอา เด็กคนนี้คิดอะไรอยู่?""มันเป็นเรื่องดีมากที่ได้รับความสำคัญจากสำนักงานเจิ้นอู่ เด็กคนนี้ไม่ซาบซึ้งเลยเหรอ ไม่รู้จักชั่วดีจริง ๆ""ฮึ่ม! การฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่มอะไร ต่อหน้าสำนักงานเจิ้นอู่ เป็นไก่อ่อนทั้งนั้น"นักสู้ที่อิจฉาบางคน ต่างวิจารณ์ขึ้นการชักชวนของสำนักงานเจิ้นอู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดจากนักสู้มากมายแต่ลู่เฉินกลับปฏิเสธหลายครั้ง ไม่ได้เห็นสำนักงานเจิ้นอู่ในสายตาเลย หยิ่งผยองจริง ๆ"น้อง ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปจะไม่มาอีก คุณแน่ใจนะว่าจะไม่

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1193

    "คุ้นตา?"เฉินหยวนเวยสงสัยเล็กน้อย "หรือว่าหัวหน้าอู๋เคยเห็นการฝึกร่างขั้นจงซือลู่มาก่อน""ผมอาจจะดูผิดแล้วมั้ง"อู๋หงต๋าสัมผัสเคราของตัวเอง ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แต่ก็จําไม่ได้ด้วยความทรงจําของเขา ตราบใดที่เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยม แทบจะเห็นแวบหนึ่งก็ลืมไม่ได้เลยอีกฝ่ายอายุยังน้อย ก็สามารถเป็นการฝึกร่างขั้นจงซือได้ ในทั่วประเทศหลง จะเป็นคนที่หายากอัจฉริยะแบบนี้ ตามเหตุผลแล้ว ตราบใดที่เขาเคยเห็น ก็ไม่สามารถลืมได้แต่ตอนนี้ที่เขาจำไม่ได้ ก็พิสูจน์ว่าทั้งสองฝ่ายไม่รู้จักกัน"หัวหน้าอู๋ ท่านเดินทางมาไกล คงเหนื่อยแล้วแน่นอน กรุณาไปนั่งพักผ่อนด้วยครับ" เฉินหยวนเวยทำท่าเชิญด้วยมือเดียว"ไม่ต้องรีบ ผมจะไปพบการฝึกร่างขั้นจงซือหนุ่มคนนี้หน่อย"หลังจากบอกประโยคนี้ไป อู๋หงต๋าก็เดินตรงขึ้นสังเวียนเมื่อเห็นฉากนี้ เฉินหยวนเวยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติเหตุผลที่สําคัญที่สุดที่สำนักงานเจิ้นอู่แข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนพูดถึงก็จะเปลี่ยนสีหน้า ก็คือรับสมัครผู้มีความสามารถมากมายไม่ว่าจะเป็นคนชั่ยหรือคนดี ตราบใดที่มีความสามารถ ตราบใดที่มีทักษะที่โดดเด่น ตราบใดที่แข็ง

  • หลังจากหย่าร้าง ประธานหญิงที่เย็นชาเสียใจแล้ว   บทที่1192

    "ลู่เฉิน คุณต้องสู้อย่างยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ให้ผู้คนเห็นว่าอะไรเรียกว่าไม่มีใครเทียบได้ อยู่ยงคงกระพัน!"มองดูด้านหลังที่ตั้งตรงนั้น จั่วซินเยว่พึมพํากับตัวเอง ในดวงตาที่สวยงามเต็มไปด้วยความรักและความนับถือผู้ชายตัวโต ก็ควรจะถือดาบยาว ทำคุณงามความดีชั่วนิรันดร์ แม้ข้างหน้าจะลำบาก ก็ยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและไม่เกรงกลัวนี่แหละ ถึงจะเป็นผู้ชายจริงๆ"กล้าท้าทายหัวหน้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ วันนี้ก็คือวันตายของคุณ!"หยางเจี๋ยมีสีหน้ามืดมน และแอบสาปแช่งเขาแค่หวังว่าทันทีที่ลู่เฉินขึ้นไปบนเวที ก็ถูกเหลยว่านจุนต่อยจนตาย"ฮึ่ม! จะตายไม่ช้าก็เร็ว แค่มีชีวิตอยู่อีกกี่นาทีเท่านั้น"เหลยเชียนฉงยิ้มอย่างดุเดือด สายตาดุร้ายมาก"ศิษย์พี่ลู่ ต้องปลอดภัยเลยนะ"หลินหรง พนมมือไหว้ แอบสวดมนต์"แม่งเอ้ย เด็กคนนี้กล้าขึ้นไปจริง ๆ เขาคงไม่คิดว่าตัวเองทําได้จริง ๆ เหรอ"เถาหยางขมวดคิ้ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและความเกลียดชังเขาไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เป็นเพื่อนวัยเดียวกัน ทําไมลู่เฉินถึงกลายเป็นการฝึกร่างขั้นจงซือ แต่เขาไม่ได้ฝ่าฟันไปถึงการฝึกร่างขั้นเซียนเทียนด้วยซ้ำทำไมล่

DMCA.com Protection Status