ในขณะนี้ โถงงานเลี้ยงครึกครื้นเป็นพิเศษบนเวที มีกลุ่มสตรีที่สง่างามกำลังเต้นรำแบบดั้งเดิมของสมัยฮั่นถังอยู่ทุกรอยยิ้มและทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความงดงามเป็นพิเศษทำให้คนหลงใหลหน้าเวทีมีกลุ่มคนมีชื่อเสียงที่แต่งตัวอย่างสง่างามกำลังนั่งอยู่บางคนดื่มไวน์กันและพูดคุยกัน บางคนเพลิดเพลินกับการแสดงอย่างเงียบๆลู่เฉินหาที่นั่งแล้วนั่งดื่มน้ำผลไม้และดูการแสดง" เฮ้! ลู่เฉิน! ไม่คิดว่าคุณกล้าจะแอบเข้ามาจริงๆ?"ในขณะที่ลู่เฉินดูการแสดงอย่างมีความสนใจ เสียงที่ทำลายบรรยากาศก็ดังขึ้นจากข้างๆกายเขาลู่เฉินเหลือบมองอย่างสบายๆ และเห็นหยางเหว่ย หลี่ชิงเหยาและเลขาจางพอดี“ฮึ่ม! ช่างโชคร้ายจริงๆ ทำไมไปทุกที่ก็จะได้เจอคุณล่ะ!” เลขาจางดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากหลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไร หลังจากเหลือบมองอย่างเย็นชา เธอก็ไปนั่งที่นั่งว่างบริเวณแถวหน้า“ลู่เฉิน อีกเดี๋ยวจะจัดการประมูลเพื่อการกุศลแล้ว คุณมีเงินหรอ? ไม่คิดว่าคุณจะกล้ามานั่งตรงนี้?” หยางเหว่ยพูดจาถากถาง“ถ้าไม่มีเงินก็จะนั่งไม่ได้หรอ” ลู่เฉินถาม“เฮ้! คุณพูดถูกแล้ว ถ้าคุณไม่มีเงินก็นั่งไม่ได้จริงๆนั่นแหละ!
"คู่ร่วมมือ?"เมื่อหลี่ชิงเหยาได้ยินสิ่งนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงหรือว่า เธอไม่อยากจะเชื่อเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไม่ใช่รายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ตัดสินใจให้เธอเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวโดยตรง!แม้แต่การประเมินขั้นสุดท้ายก็ข้ามไปแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น? !“คำที่คุณเพิ่งบอกไป เป็นความจริงไหมคะ?” หลี่ชิงเหยาถาม“จะเป็นของปลอมได้ยังไงล่ะ? ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นพรุ่งนี้คุณมาที่บริษัทเพื่อเซ็นสัญญา โอเคนะ ผมยังมีธุระต้องจัดการ ผมขอวางสายก่อนนะ”หลังจากพูดเพียงไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้วหลี่ชิงเหยาในขณะนี้รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขมากเธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะคืบหน้าได้อย่างราบรื่นขนาดนี้เธอเพิ่งจะถูกคัดออกจากรายชื่อคัดเลือกล่วงหน้า แต่ในพริบตาเธอก็กลายเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวทันทีความสุขถาโถมมาแบบกะทันหันเกินไปแน่นอนว่าที่เธอถูกเลือกเป็นคู่ร่วมมือของตระกูลฉาวนั้น น่าจะเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของหยางเหว่ย แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าตระกูลหยางจะมีพลังขนาดนี้ เพียงการโทรสายหนึ่ง ก็เปลี่ยนการตัดสินใจของตระกูลฉาวไปแล้วเป็นเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงจริงๆ!“คุณหลี
ลู่เฉินคาดไม่ถึงจริงๆว่าหลี่ชิงเหยาจะไม่เชื่อใจเขาเลยแม้แต่น้อยพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมาสามปี สุดท้ายเขาก็สู้คนนอกไม่ได้เลยหรอ?“ใช่... ผมมันก็แค่ไอ้ตัวร้าย หยางเหว่ยเป็นสุภาพบุรุษ ผมเป็นคนที่ใส่ร้ายเขาเอง ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?” ลู่เฉินพูดอย่างเย้ยหยันตัวเองเมื่อสูญเสียความเชื่อใจไป ไม่ว่าจะอธิบายเยอะแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์“คุณพูดแบบนี้ทำไม? ฉันเข้าใจคุณผิดหรอ?” หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว“คุณไม่ได้เข้าใจผิดหรอก เป็นเพราะผมเองที่ปากร้าย สมแล้ว” ลู่เฉินพูดอย่างเย็นชา“คุณมันช่างดื้อรั้น!” หลี่ชิงเหยาเริ่มโกรธเล็กน้อยเธอไม่คาดคิดเลยว่าลู่เฉินจะเป็นคนเช่นนี้เพราะความหึงหวง เขาถึงขั้นจงใจใส่ร้ายคนอื่น แทนที่จะสำนึกผิดและแก้ตัวใหม่หรือว่าหลังจากการหย่าร้าง เขาก็ฉีกหน้ากากตัวเองออก แล้วเลิกปลอมต่อแล้วงั้นหรอ?“เอาล่ะๆ ชิงเหยา คุณอย่าโกรธเกินไปเลย”ในเวลานี้ หยางเหว่ยทำเป็นคนมีน้ำใจ "ลู่เฉินเห็นว่าผมสนิทกับคุณอย่างนี้ แน่นอนว่าเขาคงรู้สึกรังเกียจผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่โทษเขาหรอก คนเราทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดกันได้อยู่แล้วน่ะ"“ดู ดูคุณหยางสิ เขาตอบแทนการใส่ร้ายของคุณด้วย
“ทําไมพาคนมาเยอะขนาดนี้”หยางเหว่ยตากระตุกและรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้เชี่ย ตกลงกันว่าตัวต่อตัว แต่แกกลับพาคนเยอะอย่างนี้มา ไม่เป็นไปตามกฎจริงๆเลยนะไอ้หนุ่มหยางเหว่ยด่าในใจ แต่ในขณะนี้ เขาก็ทําได้แค่กัดฟันไปสู้ยังไงก็เสียหน้าต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักไม่ได้“ก็คือพวกเขากี่คนแหละ ล้อมพวกเขาไว้!”ทันทีที่จ้าวเทียนหลงโบกมือ บอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งก็ร่วมกันไปล้อมรอบหยางเหว่ยไว้ทั้งสามคน“ทําอะไรล่ะ? กูจะเตือนพวกแกนะ พ่อกูป็นหยางอ้าว เป็นประธานของเภสัชกรรมตระกูลหยางนะ”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี เขาก็รีบบอกตัวตนของเขาทันทีเขาตั้งใจที่จะใช้ชื่อเสียงของพ่อเขามาขู่คนกลุ่มนี้“เชี่ย! หยางอ้าวเป็นอะไรวะ?”บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนว่า "แกรู้ไหมว่าคนที่อยู่ข้างๆกูนี่เป็นใคร? เขาเป็นลูกชายของคุณหู่นะ นายน้อยของต้าฟากรุ๊ป!”พอคําพูดเหล่านี้พูดออกมา ทุกคนก็โกลาหล“คุณหู่? หรือว่าเป็นจ้าวหู่ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อของเขตตงเฉิงคนนั้นหรอ?”“นอกจากคนใจร้ายคนนั้นแล้ว จะมีใครกล้าเรียกว่าเป็นคุณหู่ได้อีก?”“ไอ้หนุ่มนี้น่าสงสารจริงๆ ไปยุ่งกับลูกชายของคุณหู่ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะซวยแ
“ถ้าไม่ปล่อย งั้นคุณก็ต้องตาย!”ลู่เฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์แต่แววตาของเขานั้น เย็นชาจนน่ากลัว“ตายหรอ?”พอจ้าวเทียนหลงได้ยินคําพูดนี้ เขาก็หัวเราะเสียงดังทันทีแม้แต่กลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาก็หัวเราะด้วยพวกเขามองดูลู่เฉินด้วยสายตาที่เหมือนมองคนโง่“ไอ้หนุ่ม แกรู้หรือไม่ว่ากูเป็นใคร? กล้าพูดแบบนี้กับกูเหรอ?" จ้าวเทียนหลงพูดอย่างหยอกล้อ“ฉันไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร ฉันให้เวลาคุณสามวินาที ปล่อยเธอทันที มิฉะนั้นผลที่ตามมาคุณจะต้องรับผิดชอบเอง" ลู่เฉินพูดอย่างสงบพอคําพูดนี้พูดออกมา ผู้ชมก็โกลาหลแม้แต่หลี่ชิงเหยากี่คนก็ประหลาดใจไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉินจะมาช่วยหลี่ชิงเหยาในช่วงเวลาเช่นนี้เมื่อเทียบกับหยางเหว่ยที่เงียบแล้ว เขามีความกล้าหาญที่น่ายกย่องจริงๆแต่ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย“ไอ้คนที่ไม่รู้จักชั่วดี เดี๋ยวฉันจะดูสิว่าคุณจะตายยังไง!" หยางเหว่ยทําหน้าดุร้ายเพราะการออกมาช่วยของลู่เฉิน ได้แสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาดของเขาไอ้ขยะคนหนึ่งจะกล้าหาญกว่าเขา เขาจะไม่พอใจโดยธรรมชาติและจะโกรธแค้นด้วยซ้ำ“เชี่ย! แกแม่งเย่อหยิ่งจัง”จ้าวเทียนหลงมองไปที่ลู่เฉิน แล้วเข
“คุณยังยืนนิ่งทําไม? รีบไปไหว้ขอโทษคุณจ้าวสิ!”เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าลู่เฉินพบกับอุปสรรค เขากลับเกิดความดีอกดีใจที่คนอื่นเกิดความโชคร้ายก่อนหน้านี้อีกฝ่ายได้ทำตัวเด่น ทําให้เขาอิจฉามากตอนนี้ เขาถึงเวลาที่ต้องชดใช้แล้วคุกเข่าลง? หรือว่าไม่?ถ้าคุกเข่าลงแล้ว เขาจะเสียหน้าไปหมดถ้าไม่คุกเข่า เมื่อจ้าวเทียนหลงแก้แค้น ถ้าไม่ตายก็ต้องพิการ“ไอ้หรุ่ม อย่าหาว่ากูไม่ได้ให้โอกาสแกนะ ถ้าวันนี้แกคุกเข่าและไหว้กู กูจะไว้ชีวิตแก มิฉะนั้นอย่าหาว่ากูใจร้าย!”จ้าวเทียนหลงใช้มือจ้ำไปที่หน้าอกของลู่เฉิน และเขาดูมั่นใจมากลู่เฉินไม่มีสิทธิและอำนาจ ที่เขาสู้เก่งจะทำอะไรได้ล่ะ?เขาเป็นแค่คนหยาบคายเท่านั้น ไม่ควรค่าแก่การนำออกมาแสดงเลย“คุณรู้ไหมว่าคุณกําลังเล่นกับไฟอยู่?" ลู่เฉินมองไปที่นิ้วของอีกฝ่าย“เล่นกับไฟหรอ?”จ้าวเทียนหลงหัวเราะเสียงดัง "กูไม่เพียงแต่จะเล่นกับไฟเท่านั้น กูยังต้องเล่นกับผู้หญิงของแกด้วยแกเชื่อหรือไม่ พรุ่งนี้กูจะจัดการผู้หญิงของแกต่อหน้าแกไม่ใช่แค่กูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกน้องของกูด้วย พวกเขาจะเหยียบเธอคนละครั้งด้วยกูจะให้แกมองด้วยตาของแกเอง โดยไม่สามารถทำอะไรได
เนื่องจากพฤติกรรมของลู่เฉิน ในห้องโถงได้ระเบิดแล้วคนที่ขี้ขลาดบางคนได้จากไปล่วงหน้าแล้ว โดยกลัวว่าจะถูกพัวพันส่วนจ้าวเทียนหลงที่บาดเจ็บสาหัสที่หมดสติ ถูกบอดี้การ์ดเขานําตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว“ตอนนี้ยุ่งยากมากแล้ว”หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้วและสีหน้าของเธอดูเคร่งขรึมมากคุณหู่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจร้ายมาก ที่ลูกชายเขาโดนซ้อมจนแบบนี้ เขาคงไม่ยอมยุติกรณีพิพาทลงด้วยดีแน่นอนลู่เฉิน คงจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว“เลขาจาง คุณรีบไปติดต่อ ดูว่าเรื่องนี้จะสงบลงได้หรือไม่" หลี่ชิงเหยากล่าวอย่างกะทันหัน“คุณหลี่คะ คนที่ตีคนเป็นลู่เฉินนะ มันเกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ? ทําไมเราต้องเปลืองแรงกายแรงใจเพื่อเขาด้วย" เลขาจางงงเล็กน้อย”“เมื่อกี้เขาได้ช่วยฉันไว้ หรือว่าคุณจะให้ฉันรู้ว่าเขาจะตายแต่ไม่ช่วยหรอ?" สีหน้าของหลี่ชิงเหยาเปลี่ยนเป็นเย็นชา“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่รู้สึกว่ามันไม่ฉลาดที่จะไปรุกรานคุณหู่ในเวลานี้อีกอย่าง ไม่มีใครอยากยุ่งเข้ากับเรื่องนี้หรอก" เลขาจางอธิบาย“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลองดูสิ" แววตาของหลี่ชิงเหยามั่นคงมาก“เอ่อ... โอเคค่ะ”เลขาจางจำใจมาก เธอได้แต่ประนีประนอมแล้วเธอรีบหย
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ตึกเฟิ่งหมิง ภายในห้องห้องทำงานส่วนตัวของฉาวซวนเฟย“คุณลู่คะ ขอบคุณมากสําหรับการปกป้องฉัน นี่เป็นหญ้าใจมังกรที่คุณต้องการ โปรดตรวจดูเลยค่ะ”ฉาวซวนเฟยวางกล่องไม้ที่ประณีตไว้บนโต๊ะและผลักไปข้างหน้า“อืม?”ลู่เฉินเปิดดูเขาเห็นว่าในกล่องไม้มีสมุนไพรที่มีสีแดงเหมือนสีเลือดวางอยู่สมุนไพรนั้นโค้งงอเหมือนมังกรที่แยกเขี้ยวยิงฟันตัวหนึ่ง ดูแปลกมากพอดมเบาๆ จะมีกลิ่นหอมแปลกๆด้วย“เป็นหญ้าใจมังกรจริงๆ ขอบคุณคุณฉาวนะครับ!”ลู่เฉินดีใจมากหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาแสวงหายาวิเศษที่หายากต่างๆมาตลอดปัจจุบันนี้ เขาได้หาเจอต้นหนึ่งอีกในที่สุดยังเหลืออีก5ต้น แค่มองหา5ต้นสุดท้ายก็ช่วยได้แล้ว!“ไม่ต้องเกรงใจหรอก นี่เป็นสิ่งที่คุณควรได้รับ และฉันต่างหากที่จะต้องขอบคุณคุณ" ฉาวซวนเฟยยิ้ม“คุณฉาวครับ ผมอยากขอร้องว่าต่อไปนี้ถ้ามีสมุนไพรหายากแบบนี้อีก คุณติดต่อผมทันทีได้ไหมครับ ผมยินดีที่จะใช้เงินจํานวนมากเพื่อซื้อมัน!" ลู่เฉินดูจริงจังมาก“ก็ได้ แต่ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย คุณลู่ต้องการของพวกนี้ไปทําอะไรคะ" ฉาวซวนเฟยถามอย่างลองใจ“ช่วยชีวิตคน”ลู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและใ