ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ตึกเฟิ่งหมิง ภายในห้องห้องทำงานส่วนตัวของฉาวซวนเฟย“คุณลู่คะ ขอบคุณมากสําหรับการปกป้องฉัน นี่เป็นหญ้าใจมังกรที่คุณต้องการ โปรดตรวจดูเลยค่ะ”ฉาวซวนเฟยวางกล่องไม้ที่ประณีตไว้บนโต๊ะและผลักไปข้างหน้า“อืม?”ลู่เฉินเปิดดูเขาเห็นว่าในกล่องไม้มีสมุนไพรที่มีสีแดงเหมือนสีเลือดวางอยู่สมุนไพรนั้นโค้งงอเหมือนมังกรที่แยกเขี้ยวยิงฟันตัวหนึ่ง ดูแปลกมากพอดมเบาๆ จะมีกลิ่นหอมแปลกๆด้วย“เป็นหญ้าใจมังกรจริงๆ ขอบคุณคุณฉาวนะครับ!”ลู่เฉินดีใจมากหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาแสวงหายาวิเศษที่หายากต่างๆมาตลอดปัจจุบันนี้ เขาได้หาเจอต้นหนึ่งอีกในที่สุดยังเหลืออีก5ต้น แค่มองหา5ต้นสุดท้ายก็ช่วยได้แล้ว!“ไม่ต้องเกรงใจหรอก นี่เป็นสิ่งที่คุณควรได้รับ และฉันต่างหากที่จะต้องขอบคุณคุณ" ฉาวซวนเฟยยิ้ม“คุณฉาวครับ ผมอยากขอร้องว่าต่อไปนี้ถ้ามีสมุนไพรหายากแบบนี้อีก คุณติดต่อผมทันทีได้ไหมครับ ผมยินดีที่จะใช้เงินจํานวนมากเพื่อซื้อมัน!" ลู่เฉินดูจริงจังมาก“ก็ได้ แต่ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย คุณลู่ต้องการของพวกนี้ไปทําอะไรคะ" ฉาวซวนเฟยถามอย่างลองใจ“ช่วยชีวิตคน”ลู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและใ
ตอนเที่ยง ภายในห้องทำงานประธานชิงเฉิงกรุ๊ปหลี่ชิงเหยาอ่านเอกสารอย่างใจลอย ใจเธอเต็มไปด้วยเรื่องของลู่เฉินเธอกังวลเล็กน้อย ถ้าอีกฝ่ายถูกคุณหู่จับไว้ งั้นเขาจะต้องทรมานมากแน่ๆ“เลขาจาง!”หลังจากหลี่ชิงเหยาคิดฟุ้งซ่านอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว“คุณหลี่คะ มีคําสั่งอะไรหรอคะ”เลขาจางเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา“ช่วยฉันไปเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ ฉันจะไปต้าฟากรุ๊ป" หลี่ชิงเหยากล่าว“ต้าฟากรุ๊ป? นั่นเป็นถิ่นของคุณหู่ไม่ใช่เหรอ?" เลขาจางตกใจ“ใช่ ฉันจะไปคุยกับคุณหู่" หลี่ชิงเหยาพยักหน้า“คุยเรื่องอะไรล่ะ? เพราะเรื่องของลู่เฉินเหรอ?”เลขาจางใจร้อนไปหน่อย "คุณหลี่คะ คุณอย่าวู่วามนะ คุณหู่กําลังโกรธอยู่ ที่คุณไปตอนนี้ จะทำให้เขาโกรธมากขึ้นนะ”“ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องลองดูหน่อย!" หลี่ชิงเหยาแน่วแน่มาก“เดี๋ยว ยังมีคุณหยางอยู่ไม่ใช่หรือ? เขาบอกว่าเขาจะช่วย ไม่งั้นเรารออีกสักครู่ดีไหม?" เลขาจางเกลี้ย“เรารอมาทั้งคืนแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีข่าวใดๆ หยางเหว่ยคงจะช่วยไม่ได้ ฉันต้องออกหน้าเอง" หลี่ชิงเหยาส่ายหัว“คุณหลี่คะ ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ? เราคิดใหม่ได้ไหมคะ?" เลขาจางเป็นห่วง
ภายในโรงพยาบาลผิงอันลู่เฉินกําลังดื่มเหล้ากับชายชราตาเดียวในเวลานี้ จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น“ฮัลโหล ลู่เฉิน คุณหลี่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว คุณรีบมาช่วยเธอเถอะ!" พอเขารับสายเลขาจางก็ตะโกน“ตกอยู่ในอันตรายเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?" ลู่เฉินขมวดคิ้ว“เป็นเพราะคุณสิ คุณหลี่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ เธฮจึงไปเจรจากับคุณหู่ด้วยเธอเอง ตอนนี้เธอยังไม่ออกมา เธออาจจะตกอยู่ในอันตรายแล้ว" น้ำเสียงของเลขาจางผลุนผลันมาก“ไร้สาระ ผมบอกแล้วว่าเป็นเรื่องของผม เธอไปกวนอะไร?" ลู่เฉินหน้ามืด“ลู่เฉิน คุณมีมโนธรรมหรือไม่? ที่คุณหลี่ทำแบบนี้เพื่อช่วยคุณนะ" เลขาจางพูดด้วยความโกรธ“เธออยู่ที่ไหน?“ต้าฟากรุ๊ป”“ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”ลู่เฉินไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระมาก หลังจากเขาวางสายไป เขาก็ตรงไปยังจุดหมายปลายทาง......อีกด้านหนึ่ง ภายในต้าฟากรุ๊ปหลี่ชิงเหยาพิงบนโซฟาอย่างเวียนหัว ผมจอนที่ขมับของเธอเปียกด้วยเหงื่อฤทธิ์เดชของเหล้าขวดนั้นทําให้ตอนนี้แขนขาของเธออ่อนแอและเริ่มยืนไม่มั่นคงสิ่งที่สําคัญที่สุดคือก่อนที่เธอเข้าประตู กระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอต่างก็ถูกเอาไปหมดและเธอไม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้จะทำไง
“คุณแม่งยังตกตะลึงทําไม? รีบปล่อยคนไป!" หวางป่ายโซ่ตะคอกอีกครั้งปากของจ้าวหู่กระตุก และสีหน้าของเขาก็ดูแย่เล็กน้อยถ้าอีกฝ่ายพูดดีๆ เขาก็จะไว้หน้าให้แต่พอหวางป่ายโซ่มาเขาก็ตะโกนและตบหน้าเขาด้วยถ้าเขาปล่อยคนไป ต่อไปนี้เขาจะมีหน้าที่ให้ลูกน้องเขาเชื่อฟังเขาได้อย่างไร?“นายกสมาคมหวาง ผู้ชายคนนี้ทำร้ายลูกชายผม แถมยังบุกเข้ามาในถิ่นของผมด้วย ถ้าวันนี้ผมปล่อยเขาไป ผมจะมีหน้าอะไร?" จ้าวหู่กล่าวด้วยเสียงต่ำ“ที่ลูกชายของคุณถูกทำร้าย นั่นมันก็สมควรเเล้ว”หวางป่ายโซ่พูดอย่างเย็นชาว่า "ถ้าวันนี้คุณไม่ปล่อยเขาไป ผมจะให้ต้าฟากรุ๊ปของคุณ หายไปจากโลกนี้!“นายกสมาคมหวาง คุณมีอำนาจมาก ผมไม่สามารถล่วงเกินได้ แต่คุณอย่าลืมไปแล้วว่าผมก็มีคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย" จ้าวหู่พูดอย่างเฉียบขาด“คุณหมายถึงหม่าเทียนหาวเหรอ?”หวางป่ายโซ่ยิ้มอย่างเย็นชา "ผมบอกความจริงกับคุณเถอะ แม้ว่าวันนี้หม่าเทียนหาวจะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องปล่อยคนด้วย!”พอคําพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนลงทันทีเขาไม่คิดว่าหวางป่ายโซ่จะแข็งแกร่งขนาดนี้เพื่อคนแปลกหน้าสองคน แม้แต่คุณหม่าเขาก็ไม่ให้เกียรติเลย“ได้! ดีม
“ฉันรู้แล้ว ต้องเป็นฝีมือของคุณหยางแน่ๆ”เลขาจางดูเหมือนจะคิดถึงอะไรและจู่ๆเธอก็พูดว่า "หลังจากที่ฉันเรียกตํารวจแล้ว ฉันก็โทรหาคุณหยางอีก ต้องเป็นเพราะเขาเชิญนายกสมาคมหวางมาแน่นอน!”“หยางเหว่ย?”หลี่ชิงเหยายักคิ้วและสงสัยเล็กน้อย“ใช่สิ คนที่สามารถริเริ่มมาช่วยเหลือเรา และมีความสามารถที่จะเชิญนายกสมาคมหวางมาได้ มีแต่คุณหยางแล้ว" เลขาจางวิเคราะห์อย่างเข้าข้างเอง“คุณพูดแบบนี้ ก็มีเหตุผลนะ" หลี่ชิงเหยาเห็นด้วยขณะที่สองคนกำลังพูดคุยกันอยู่รถเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งจู่ๆก็จอดที่ข้างถนนประตูรถเปิดออก หยางเหว่ยที่แต่งตัวหวือหวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว“ชิงเหยา คุณเป็นอะไรไหม? พอผมรับสาบ ผมก็รีบมาทันที" หยางเหว่ยแสดงสีหน้าที่ห่วงใย“คุณหยางคะ โชคดีที่คุณได้ช่วยเหลือเรา ไม่งั้นคุณหลี่จะต้องเป็นอันตรายแล้ว" เลขาจางขอบคุณอย่างรวดเร็ว“ช่วยเหลือ?”หยางเหว่ยตกตะลึง เขางงเล็กน้อย“ใช่นะ เมื่อกี้นายกสมาคมหวางมาแล้ว เขามาช่วยคุณหลี่ออกมาด้วยเขาเองเลย" เลขาจางกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ห๊ะ?”หยางเหว่ยรู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้น“คุณหยางคะ คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ ขนาดนายกสมาคมหวางก็เชิญมาได้ ฉันน
“ดังนั้น นี่ก็คือสิ่งที่คุณอยากจะพูดกับฉันเหรอ?”หลี่ชิงเหยายืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึง เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อยเมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลู่เฉิน เธอรู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในลึกๆของใจเธอ ยิ่งเต็มไปด้วยความขมขื่นและความคับข้องใจ“ใช่! นี่ก็คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด!”ลู่เฉินพูดอย่างไร้ความประณี "โปรดจําไว้ว่าเรื่องของผม ไม่ต้องการให้คุณกังวล ชีวิตของผมก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ เราสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแล้ว คุณ...เข้าใจหรือไม่?”คําพูดที่สมเหตุสมผลนี้ทําให้หลี่ชิงเหยาแข็งทื่อแล้วเธอคิดไม่ถึงว่าความหวังดีของเธอไม่ได้แลกกับความกตัญญูและขอบคุณ แต่เป็นการตําหนิและบ่นเขาสองคนกลายเป็นไม่มีทางเข้ากันแบบนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่?“เฮ้ ลู่เฉิน คุณยังเป็นคนมนุษย์อยู่ไหม?”เลขาจางที่อยู่ข้างๆทนฟังไม่ไหวแล้ว เธอด่าว่า "คุณหลี่ช่วยคุณด้วยความจริงใจแต่คุณกลับเแสดงท่าทีแบบนี้เหรอ? มโนธรรมของคุณถูกสุนัขกินไปแล้วหรือ?”“แล้วคุณต้องการแสดงท่าทีแบบไหนล่ะ? บุกรุกเข้ารังหมาป่าด้วยคนเดียว ผมยังต้องชมเธอด้วยว่ากล้าหาญหรือ?" ลู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา“คุณ...คุณมันเนรคุณจริงๆ"
ตั้งแต่เขาเข้าประตู เขาก็สู้ขึ้นมาทีละขั้น ทีละขั้นอย่างโหดเหี้ยมตลอดกระบวนการ ไม่มีใครสู้กับเขาได้เลย“แกจะแก้แค้นฉัน แต่ไม่รู้ว่าฉันเป็นใครหรอ?”ลู่เฉินเริ่มเข้ามาใกล้จ้าวหู่อย่างช้าๆ สายตาเขาเย็นชาเป็นพิเศษ“เชี่ย! แกแม่งอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นกูจะยิงคุณตาย!”จู่ๆจ้าวหู่ก็หยิบปืนออกมาจากลิ้นชักแต่ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้น ลู่เฉินก็กระโดดไปข้างหน้าและคว้าปากกระบอกปืนไว้จากนั้นเขาก็บีบอย่างแรง“เอี๊ยดอ๊าด!”ด้วยเสียงเสียดสีของโลหะจ้าวหู่พบด้วยความหวาดกลัวว่าปืนพกของเขาถูกอีกฝ่ายบีบจนแตกไปนั่นมันทำด้วยเหล็กนะคนแบบไหนถึงจะสามารถเล่นปืนเหมือนโคลนและนวดตามอําเภอใจได้?!“น้อง...น้องลู่ เรื่องก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด ตราบใดที่คุณจากไปตอนนี้ ผมสัญญาได้ว่า ต่อไปผมจะไม่หาเรื่องคุณอีกแล้ว”จ้าวหู่กลัวจนเหงื่อออก เขาเลือกที่จะยอมแพ้อย่างเด็ดขาดพลังยุทธ์แบบนี้ได้เกินขอบเขตของคนทั่วไปโดยสิ้นเชิงแล้วไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างหวางป่ายโซ่ก็ยังเคารพต่อหน้าลู่เฉินขนาดนั้นเลย“แกไม่หาเรื่องฉัน แต่ฉันจะหาเรื่องคุณแก”ระหว่าง ลู่เฉินพูด จู่ๆเขาก็จับไหล่ของจ้าวหู่และดึ
“เขาเป็นพ่อผม”คําไม่กี่คำของผู้ชายคนนั้นทําให้ลู่เฉินตกตะลึงเล็กน้อยเขาคิดว่าผู้ชายเป็นแค่คนที่วางใจของจ้าวหู่ แต่เขาไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์นี้อีก“ผมได้ยินมาว่าลูกชายของจ้าวหู่ชื่อจ้าวเทียนหลง แล้วคุณเป็นใคร?" ลู่เฉินถามอย่างลองใจ“ผมชื่อจ้าวหมั่ง เป็นลูกนอกสมรสของจ้าวหู่”ผู้ชายอธิบายด้วยก้มหน้าว่า "ในตอนนั้น จ้าวหู่ข่มขืนแม่ผม แล้วให้กําเนิดผม เพื่อซ่อนเรื่องอื้อฉาวของเขา เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผม แต่บอกว่าผมเป็นบุตรบุญธรรมของเขา”“ดังนั้น คุณเกลียดเขาเหรอ?”ลู่เฉินถามอย่างมีความหมายแฝงอยู่“เกลียดแน่นอนเลย!”จ้าวหมั่งกัดฟันแล้วพูดด้วยสีหน้าที่โกรธว่า "ตอนนั้นเขาทิ้งภรรยาและลูกไป ทําให้แม่กับผมยากจน ตอนนี้เขาก็แค่ใช้ผมเป็นคนที่ช่วยเหลือจ้าวเทียนหลง ผมไม่เต็มใจที่ถูกคนเหยียบใต้เท้ามาตลอด ผมต้องเอาสิ่งที่เป็นของตัวเองคืนมา”“ดีมาก”ลู่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ "ในเมื่อคุณมีความทะเยอทะยาน งั้นผมจะช่วยคุณ ตราบใดที่คุณเชื่อฟัง ผมไม่เพียงแต่จะสนับสนุนให้คุณขึ้นครองต้าฟากรุ๊ปเท่านั้น ผมจะทำให้คุณเป็นกษัตริย์ของทั้งเจียงหลิงด้วย”“ขอบคุณผู้มีพระคุณครับ!”เขาเป็นคนฉลาด