ภายในโรงพยาบาลผิงอันลู่เฉินกําลังดื่มเหล้ากับชายชราตาเดียวในเวลานี้ จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น“ฮัลโหล ลู่เฉิน คุณหลี่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว คุณรีบมาช่วยเธอเถอะ!" พอเขารับสายเลขาจางก็ตะโกน“ตกอยู่ในอันตรายเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?" ลู่เฉินขมวดคิ้ว“เป็นเพราะคุณสิ คุณหลี่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณ เธฮจึงไปเจรจากับคุณหู่ด้วยเธอเอง ตอนนี้เธอยังไม่ออกมา เธออาจจะตกอยู่ในอันตรายแล้ว" น้ำเสียงของเลขาจางผลุนผลันมาก“ไร้สาระ ผมบอกแล้วว่าเป็นเรื่องของผม เธอไปกวนอะไร?" ลู่เฉินหน้ามืด“ลู่เฉิน คุณมีมโนธรรมหรือไม่? ที่คุณหลี่ทำแบบนี้เพื่อช่วยคุณนะ" เลขาจางพูดด้วยความโกรธ“เธออยู่ที่ไหน?“ต้าฟากรุ๊ป”“ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”ลู่เฉินไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระมาก หลังจากเขาวางสายไป เขาก็ตรงไปยังจุดหมายปลายทาง......อีกด้านหนึ่ง ภายในต้าฟากรุ๊ปหลี่ชิงเหยาพิงบนโซฟาอย่างเวียนหัว ผมจอนที่ขมับของเธอเปียกด้วยเหงื่อฤทธิ์เดชของเหล้าขวดนั้นทําให้ตอนนี้แขนขาของเธออ่อนแอและเริ่มยืนไม่มั่นคงสิ่งที่สําคัญที่สุดคือก่อนที่เธอเข้าประตู กระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอต่างก็ถูกเอาไปหมดและเธอไม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้จะทำไง
“คุณแม่งยังตกตะลึงทําไม? รีบปล่อยคนไป!" หวางป่ายโซ่ตะคอกอีกครั้งปากของจ้าวหู่กระตุก และสีหน้าของเขาก็ดูแย่เล็กน้อยถ้าอีกฝ่ายพูดดีๆ เขาก็จะไว้หน้าให้แต่พอหวางป่ายโซ่มาเขาก็ตะโกนและตบหน้าเขาด้วยถ้าเขาปล่อยคนไป ต่อไปนี้เขาจะมีหน้าที่ให้ลูกน้องเขาเชื่อฟังเขาได้อย่างไร?“นายกสมาคมหวาง ผู้ชายคนนี้ทำร้ายลูกชายผม แถมยังบุกเข้ามาในถิ่นของผมด้วย ถ้าวันนี้ผมปล่อยเขาไป ผมจะมีหน้าอะไร?" จ้าวหู่กล่าวด้วยเสียงต่ำ“ที่ลูกชายของคุณถูกทำร้าย นั่นมันก็สมควรเเล้ว”หวางป่ายโซ่พูดอย่างเย็นชาว่า "ถ้าวันนี้คุณไม่ปล่อยเขาไป ผมจะให้ต้าฟากรุ๊ปของคุณ หายไปจากโลกนี้!“นายกสมาคมหวาง คุณมีอำนาจมาก ผมไม่สามารถล่วงเกินได้ แต่คุณอย่าลืมไปแล้วว่าผมก็มีคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย" จ้าวหู่พูดอย่างเฉียบขาด“คุณหมายถึงหม่าเทียนหาวเหรอ?”หวางป่ายโซ่ยิ้มอย่างเย็นชา "ผมบอกความจริงกับคุณเถอะ แม้ว่าวันนี้หม่าเทียนหาวจะอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องปล่อยคนด้วย!”พอคําพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของจ้าวหู่ก็มืดมนลงทันทีเขาไม่คิดว่าหวางป่ายโซ่จะแข็งแกร่งขนาดนี้เพื่อคนแปลกหน้าสองคน แม้แต่คุณหม่าเขาก็ไม่ให้เกียรติเลย“ได้! ดีม
“ฉันรู้แล้ว ต้องเป็นฝีมือของคุณหยางแน่ๆ”เลขาจางดูเหมือนจะคิดถึงอะไรและจู่ๆเธอก็พูดว่า "หลังจากที่ฉันเรียกตํารวจแล้ว ฉันก็โทรหาคุณหยางอีก ต้องเป็นเพราะเขาเชิญนายกสมาคมหวางมาแน่นอน!”“หยางเหว่ย?”หลี่ชิงเหยายักคิ้วและสงสัยเล็กน้อย“ใช่สิ คนที่สามารถริเริ่มมาช่วยเหลือเรา และมีความสามารถที่จะเชิญนายกสมาคมหวางมาได้ มีแต่คุณหยางแล้ว" เลขาจางวิเคราะห์อย่างเข้าข้างเอง“คุณพูดแบบนี้ ก็มีเหตุผลนะ" หลี่ชิงเหยาเห็นด้วยขณะที่สองคนกำลังพูดคุยกันอยู่รถเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งจู่ๆก็จอดที่ข้างถนนประตูรถเปิดออก หยางเหว่ยที่แต่งตัวหวือหวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว“ชิงเหยา คุณเป็นอะไรไหม? พอผมรับสาบ ผมก็รีบมาทันที" หยางเหว่ยแสดงสีหน้าที่ห่วงใย“คุณหยางคะ โชคดีที่คุณได้ช่วยเหลือเรา ไม่งั้นคุณหลี่จะต้องเป็นอันตรายแล้ว" เลขาจางขอบคุณอย่างรวดเร็ว“ช่วยเหลือ?”หยางเหว่ยตกตะลึง เขางงเล็กน้อย“ใช่นะ เมื่อกี้นายกสมาคมหวางมาแล้ว เขามาช่วยคุณหลี่ออกมาด้วยเขาเองเลย" เลขาจางกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ห๊ะ?”หยางเหว่ยรู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้น“คุณหยางคะ คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ ขนาดนายกสมาคมหวางก็เชิญมาได้ ฉันน
“ดังนั้น นี่ก็คือสิ่งที่คุณอยากจะพูดกับฉันเหรอ?”หลี่ชิงเหยายืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึง เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อยเมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลู่เฉิน เธอรู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในลึกๆของใจเธอ ยิ่งเต็มไปด้วยความขมขื่นและความคับข้องใจ“ใช่! นี่ก็คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด!”ลู่เฉินพูดอย่างไร้ความประณี "โปรดจําไว้ว่าเรื่องของผม ไม่ต้องการให้คุณกังวล ชีวิตของผมก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ เราสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแล้ว คุณ...เข้าใจหรือไม่?”คําพูดที่สมเหตุสมผลนี้ทําให้หลี่ชิงเหยาแข็งทื่อแล้วเธอคิดไม่ถึงว่าความหวังดีของเธอไม่ได้แลกกับความกตัญญูและขอบคุณ แต่เป็นการตําหนิและบ่นเขาสองคนกลายเป็นไม่มีทางเข้ากันแบบนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่?“เฮ้ ลู่เฉิน คุณยังเป็นคนมนุษย์อยู่ไหม?”เลขาจางที่อยู่ข้างๆทนฟังไม่ไหวแล้ว เธอด่าว่า "คุณหลี่ช่วยคุณด้วยความจริงใจแต่คุณกลับเแสดงท่าทีแบบนี้เหรอ? มโนธรรมของคุณถูกสุนัขกินไปแล้วหรือ?”“แล้วคุณต้องการแสดงท่าทีแบบไหนล่ะ? บุกรุกเข้ารังหมาป่าด้วยคนเดียว ผมยังต้องชมเธอด้วยว่ากล้าหาญหรือ?" ลู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา“คุณ...คุณมันเนรคุณจริงๆ"
ตั้งแต่เขาเข้าประตู เขาก็สู้ขึ้นมาทีละขั้น ทีละขั้นอย่างโหดเหี้ยมตลอดกระบวนการ ไม่มีใครสู้กับเขาได้เลย“แกจะแก้แค้นฉัน แต่ไม่รู้ว่าฉันเป็นใครหรอ?”ลู่เฉินเริ่มเข้ามาใกล้จ้าวหู่อย่างช้าๆ สายตาเขาเย็นชาเป็นพิเศษ“เชี่ย! แกแม่งอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นกูจะยิงคุณตาย!”จู่ๆจ้าวหู่ก็หยิบปืนออกมาจากลิ้นชักแต่ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้น ลู่เฉินก็กระโดดไปข้างหน้าและคว้าปากกระบอกปืนไว้จากนั้นเขาก็บีบอย่างแรง“เอี๊ยดอ๊าด!”ด้วยเสียงเสียดสีของโลหะจ้าวหู่พบด้วยความหวาดกลัวว่าปืนพกของเขาถูกอีกฝ่ายบีบจนแตกไปนั่นมันทำด้วยเหล็กนะคนแบบไหนถึงจะสามารถเล่นปืนเหมือนโคลนและนวดตามอําเภอใจได้?!“น้อง...น้องลู่ เรื่องก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด ตราบใดที่คุณจากไปตอนนี้ ผมสัญญาได้ว่า ต่อไปผมจะไม่หาเรื่องคุณอีกแล้ว”จ้าวหู่กลัวจนเหงื่อออก เขาเลือกที่จะยอมแพ้อย่างเด็ดขาดพลังยุทธ์แบบนี้ได้เกินขอบเขตของคนทั่วไปโดยสิ้นเชิงแล้วไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างหวางป่ายโซ่ก็ยังเคารพต่อหน้าลู่เฉินขนาดนั้นเลย“แกไม่หาเรื่องฉัน แต่ฉันจะหาเรื่องคุณแก”ระหว่าง ลู่เฉินพูด จู่ๆเขาก็จับไหล่ของจ้าวหู่และดึ
“เขาเป็นพ่อผม”คําไม่กี่คำของผู้ชายคนนั้นทําให้ลู่เฉินตกตะลึงเล็กน้อยเขาคิดว่าผู้ชายเป็นแค่คนที่วางใจของจ้าวหู่ แต่เขาไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์นี้อีก“ผมได้ยินมาว่าลูกชายของจ้าวหู่ชื่อจ้าวเทียนหลง แล้วคุณเป็นใคร?" ลู่เฉินถามอย่างลองใจ“ผมชื่อจ้าวหมั่ง เป็นลูกนอกสมรสของจ้าวหู่”ผู้ชายอธิบายด้วยก้มหน้าว่า "ในตอนนั้น จ้าวหู่ข่มขืนแม่ผม แล้วให้กําเนิดผม เพื่อซ่อนเรื่องอื้อฉาวของเขา เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผม แต่บอกว่าผมเป็นบุตรบุญธรรมของเขา”“ดังนั้น คุณเกลียดเขาเหรอ?”ลู่เฉินถามอย่างมีความหมายแฝงอยู่“เกลียดแน่นอนเลย!”จ้าวหมั่งกัดฟันแล้วพูดด้วยสีหน้าที่โกรธว่า "ตอนนั้นเขาทิ้งภรรยาและลูกไป ทําให้แม่กับผมยากจน ตอนนี้เขาก็แค่ใช้ผมเป็นคนที่ช่วยเหลือจ้าวเทียนหลง ผมไม่เต็มใจที่ถูกคนเหยียบใต้เท้ามาตลอด ผมต้องเอาสิ่งที่เป็นของตัวเองคืนมา”“ดีมาก”ลู่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ "ในเมื่อคุณมีความทะเยอทะยาน งั้นผมจะช่วยคุณ ตราบใดที่คุณเชื่อฟัง ผมไม่เพียงแต่จะสนับสนุนให้คุณขึ้นครองต้าฟากรุ๊ปเท่านั้น ผมจะทำให้คุณเป็นกษัตริย์ของทั้งเจียงหลิงด้วย”“ขอบคุณผู้มีพระคุณครับ!”เขาเป็นคนฉลาด
หน้าตาเธอเป็นแบบที่พอผู้ชายมองแวบเดียวก็ตกหลุมรักแต่ผู้ชายคนนี้ เพียงผ่านไปแค่คืนเดียวก็ลืมเธอไปแล้วหรือว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่แบบนี้เหรอ?“เอ่อ...คุ้นหูคุ้นตาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเราเคยเจอกัน" ลู่เฉินลองนึกย้อนดู“เมื่อวาน! ที่โรงพยาบาล! คุณรักษาคุณปู่ของฉัน! จําได้ไหม?" เด็กหญิงพูดทีละคําด้วยกัดฟัน“อ๋อ? นึกออกแล้ว คุณเป็นน้องสาวของฉาวซวนเฟย ฉาวหนานหนานใช่ไหม?" ลู่เฉินนึกขึ้นอย่างรวดเร็ว“ฉาวหนานหนานอะวะ? ฉันชื่อฉาวอานอาน ฉาวอานอานนะ!" เด็กหญิงระเบิดทันทีเธอแทบอยากจะเหยียบคันเร่งและชนคนตรงหน้าเธอให้ตายตั้งแต่เด็ก เธอยังไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนเลยช่างมากเกินไป!“ขอโทษครับ คุณฉาวอานอาน ที่คุณหาผม มีเรื่องไหมครับ?" ลู่เฉินเปลี่ยนเรื่องไป“แน่นอนดิ ไม่งั้นฉันมาทำไม?”ฉาวอานอานบองบนใส่เขา "รีบขึ้นรถเร็ว พี่ฉันเป็นโรคประหลาด เธอบอกว่าต้องพบคุณ!”“อึน? เกิดอะไรขึ้นกับคุณฉาวหรือ?" ลู่เฉินถาม“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร? คุณเป็นหมอ คุณจะต้องเป็นคนที่ตรวจสอบเหตุผลสิ ขึ้นรถ!" ฉาวอานอานพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีลู่เฉินจำใจมาก เขาได้แต่ขึ้นรถจากนั้น รถก็วิ่งไปท่ามกลางสายตาที่อิจฉาริษย
“ขอโทษที ผมไม่ได้ตั้งใจ”ลู่เฉินตอบสนองทันทีและรีบผลักฉาวซวนเฟยออกไปใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดใจอุบัติเหตุนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเขาไม่ทันที่จะคิดเลย“ไม่มีอะไร เป็นปัญหาของฉันเอง อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาแรงเกินไป เมื่อกี้ฉันทนไม่ไหวจริงๆ" ฉาวซวนเฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานขณะที่เธอพูด เธอยังขึงตาใส่ฉาวอานอานอีกมันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะมีโอกาสที่มีความรัก ทําไมเธอถึงไม่รู้กาลเทศะขนาดนี้เลย?ถ้าเห็นแล้วเธดอก็ออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆไม่ดีเหรอ? ต้องตะโกนโหวกเหวกอย่างนี้ฉันจะหักเงินค่าขนมของเธอเดือนนึง“ฉาวอานอาน มาช่วยพยุงพี่สาวคุณไปนอนบนเตียงก่อน" ลู่เฉินกล่าว“ฮึ่ม! แน่นอนว่าฉันต้องไปพยุง หรือว่าคุณยังอยากจะลวนลามพี่ฉันหรือ?”ฉาวอานอานมองบนใส่แล้วพยุงฉาวซวนเฟยที่สีหน้าไม่ดีกลับไปที่เตียง“คุณฉาวครับ คุณถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนคว่ำบนเตียงครับ" ลู่เฉินพูดอีกครั้ง“ถอดเสื้อผ้าเหรอ? ถุยไอ้บ้ากาม ยังไม่ยอมแพ้เลยเหรอคุณ?”พอฉาวอานอานได้ยินอย่างนี้ เธอก็กระโดดขึ้นทันที“อย่าเข้าใจผิดนะ ผมต้องฝังเข็มเพื่อบีบสารพิษออกจากร่างกายของพี่สาวคุณ มิฉะนั้นเธอจะอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนควบ