แชร์

บทที่ 11

“คนสวย! คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? คนนี้มันเป็นคนหลอกลวงนะ! คุณจะไม่ได้อะไรจากการอยู่กับเขาหรอก!”

เมื่อหยางเหว่ยเห็นว่าการยั่วยุของเขาไม่มีผล เขาก็ใจร้อนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

เขาทนไม่ไหวที่คนสวยขนาดนี้จะถูกทำลายโดยลู่เฉิน

“เฮ้! คุณน่ารำคาญมาก ฉันจะคบกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ!” เห็นได้ชัดว่าฉาวซวนเฟยหมดความอดทนแล้ว

"คุณ--"

หยางเหว่ยโกรธมาก

เขาไม่คาดคิดว่าคนตรงหน้านี้จะดื้อรั้นขนาดนี้

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอโดนหลอก แต่เธอก็ยังเต็มใจ

ไอ้หนุ่มคนนี้มีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?

“คุณหยางคะ คนแบบนี้สมควรที่จะถูกหลอกแล้ว คุณเตือนเธอด้วยความมีน้ำใจ ถ้าเธอจะไม่รับน้ำใจของคุณก็ช่างเถอะ แต่การที่เธอยังจะมาพูดจาหยาบคายอย่างนี้ ช่างไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ!“ เลขาจางพูดอย่างประชดประชันอยู่ด้านข้าง

“ฮึ่ม! จนถึงตอนนี้ เป็นคนดียังไม่ได้เลย!” หยางเหว่ยรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

แน่นอนว่าสาเหตุหลักคือความอิจฉา

“พวกคุณคงจะรู้จักกันมานานแล้วใช่มั้ย?”

หลี่ชิงเหยาถามอย่างกะทันหัน

พฤติกรรมของฉาวซวนเฟย ทำให้เธอสงสัยว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมานานแล้ว

ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะเชื่อใจเขาขนาดนี้ได้อย่างไร?

“รู้จักกันนานแค่ไหนมันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือเรารักกัน”

ฉาวซวนเฟยยิ้มให้

ในขณะที่พูด เธอยังใช้หน้าอกของเธอบีบแขนของลู่เฉิน ราวกับเธอกำลังแสดงความเป็นเจ้าของ

เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของหลี่ชิงเหยาก็เย็นชายิ่งขึ้น

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฉาวซวนเฟยจงใจมากระตุ้นเธอ แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจมาก

ราวกับว่ามีบางอย่างถูกแย่งชิงไป

“ลู่เฉิน ฉันไม่คิดว่าคุณจะปิดบังไว้ขนาดนี้ เรายังไม่ได้หย่าร้าง คุณก็ได้หาเส้นทางใหม่ไว้ล่วงหน้าแล้วเหรอ ฉันมองคุณผิดไปจริงๆ!”

หลี่ชิงเหยาพยายามอย่างเต็มที่ที่ระงับอารมณ์ของเธอ

เพราะว่าเรื่องหย่าร้าง เธอรู้สึกผิดและรู้สึกว่าเธอติดหนี้อีกฝ่ายมาตลอด

แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อตอนที่เธอคิดที่จะชดเชยเขาอย่างไรดี อีกฝ่ายก็ได้มีความรักใหม่ไปเสียแล้ว

จริงๆแล้ว เธอต่างหากที่เป็นตัวตลกที่ถูกล้อเล่น!

“ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด” ลู่เฉินขี้เกียจที่จะอธิบาย

“ดี ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกว่าฉันเป็นหนี้คุณ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะไม่ติดค้างอะไรกันแล้ว!” ใบหน้าของหลี่ชิงเหยาเย็นชาขึ้นมาเรื่อยๆ

สาวตาของเธอนั้น เหมือนกับการมองคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

"เป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้ว"

ลู่เฉินไร้ซึ่งการแสดงออกใดๆ

แต่หัวใจของเขากระตุกอย่างอธิบายไม่ได้

"คุณหลี่......"

ในขณะนี้ ฉาวซวนเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า "แม้ว่าทางเลือกของคุณจะไม่ค่อยฉลาดนัก แต่ฉันก็ต้องขอบคุณคุณด้วยนะ"

“ขอบคุณเรื่องอะไร” หลี่ชิงเหยาเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ

“ขอบคุณที่มอบลู่เฉินให้ฉัน ไม่เช่นนั้น ฉันคงไม่ได้ค้นพบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้” ฉาวซวนเฟยยิ้มอย่างมีเลศนัย

คำพูดเหล่านี้ช่างรุนแรงและน่าสะเทือนใจจริงๆ!

"เฮ้! ยัยจิ้งจอกเธอนี่..."

เลขาจางกำลังจะโจมตี แต่หลี่ชิงเหยายกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ แล้วหลี่ชิงเหยาพูดอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ว่า "สมบัติล้ำค่าในสายตาของคุณเป็นเพียงคนธรรมดาในความคิดของฉัน"

"ธรรมดา?"

ฉาวซวนเฟยยักคิ้วที่สวยงาม "คุณจะบอกว่าคนที่ครบเครื่องทั้งด้านบู๊และบุ๋นเป็นคนธรรมดาหรอ? คุณหลี่มีมาตรฐานที่สูงจริงๆ แต่ฉันเห็นว่าคนที่อยู่ข้างๆคุณก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก"

“ยังไงเขาก็ดีกว่าลู่เฉิน” หลี่ชิงเหยาโต้แย้ง

“ใช่เหรอ? งั้นเรามาพนันกันเอาไหม?” ฉาวซวนเฟยพูดหยอกล้อ

“พนันเรื่องอะไร?”

“พนันว่าระหว่างเขาสองคน คนไหนยอดเยี่ยมกว่ากัน และใครประสบความสำเร็จมากกว่ากัน เส้นตายคือหนึ่งเดือน เป็นไงล่ะ?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา ทั้งสามคนก็ตกตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดเช่นนี้

“ฮ่าฮ่า... คนสวย คุณกินยาผิดหรือเปล่า? คุณให้ไอ้ขยะนี่แข่งกับผมงั้นเหรอ? เขาคู่ควรหรือเปล่า?!”

หยางเหว่ยเยาะเย้ย ราวกับว่าเขากำลังมองคนงี่เง่า

“นั่นน่ะสิ! คุณหยางเป็นทายาทของเภสัชกรรมตระกูลหยาง เขามีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านบาท ลู่เฉินคือใคร? เขาเทียบกับคุณหยางได้อย่างไร?!” เลขาจางเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม

“คุณแน่ใจว่าจะพนันเรื่องนี้หรอ?” หลี่ชิงเหยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ในความคิดของเธอ ลู่เฉินแทบจะไม่มีความสามารถอะไรนอกจากความหล่อ

แต่หยางเหว่ย ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังทางครอบครัว หรือความสามารถส่วนตัวของเขา ต่างก็เก่งกว่าลู่เฉิน

ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย

ไม่ต้องพูดถึงภายในเวลาหนึ่งเดือน แม้จะเป็นเวลาสามปี ห้าปี ลู่เฉินก็ไม่สามารถตาม หยางเหว่ยทันได้

“แน่ใจสิ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณกล้าพนันหรือไม่” ฉาวซวนเฟยยกคางขึ้น

“แล้วการลงโทษคืออะไร?”

“ถ้าใครแพ้ งั้นคนนั้นก็ต้องยอมขอโทษอีกฝ่ายและยอมรับว่าตัวเองมีตาหามีแววไม่”

“ได้ ไม่มีปัญหา” หลี่ชิงเหยาพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงกันแล้วนะ ฉันหวังว่าคุณจะไม่เสียใจ!” ฉาวซวนเฟยหัวเราะ

ทั้งสองคนมีหน้าตาที่น่าทึ่งเช่นกัน แต่เป็นคนสวยคนละสไตล์กัน ตอนนี้พวกเธอกำลังแข่งขันกันอย่างลับๆกัน

“ถึงตอนนั้นก็จะรู้เอง”

หลี่ชิงเหยาไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากมองดูฉาวซวนเฟยอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งแล้ว เธอก็หันหลังกลับและเข้าไปในตึกเฟิ่งหมิง

“ฮึ่ม! ช่างหาเรื่องทำให้ตัวเองขายหน้าจริงๆ!”

หยางเหว่ยหัวเราะเยาะ และก็เดินตามพวกเธอเข้าไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ ในสายตาของพวกเขาไม่ได้มีลู่เฉินเลย

“คุณลู่คะ เป็นไงบ้าง? คุณพอใจกับการแสดงของเมื่อกี้ไหมคะ?”

ฉาวซวนเฟยลูบผมที่ข้างหู

แม้จะเป็นเพียงการกระทำที่ง่ายๆ แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่มาก

“มันเกินไปหน่อย”

ลู่เฉินพูดอย่างจำใจ "ด้วยสถานะของคุณ หากแพ้ มันจะทำให้คุณเสียหน้านะ"

“แพ้หรอ? คุณล้อเล่นกับฉันหรอ? หรือว่าคุณลู่ไม่สามารถเอาชนะชายผู้หยาบโลนคนนั้นได้หรอ?” ฉาวซวนเฟยเริ่มยั่วยุเขา

“ผมที่เป็นคนธรรมดาจะเปรียบเทียบกับลูกของคนรวยได้อย่างไร” ลู่เฉินยักไหล่

“คนธรรมดาเหรอ? คุณลู่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว แค่หน้าคุณก็ไม่ธรรมดาแล้ว!”

ฉาวซวนเฟยขยิบตา โปรยเสน่ห์

ลู่เฉินรู้สึกจำใจ เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้เห็น

แต่เขาต้องยอมรับว่าการกระทำของฉาวซวนเฟยในเมื่อกี้นั้นไร้ที่ติจริงๆ ช่วยรักษาภาพพจน์ของเขาไว้ได้

เพราะคงจะมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่สามารถสู้กับออร่าของหลี่ชิงเหยาได้

และฉาวซวนเฟยคือหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status