Share

บทที่ 4

“แม่คะ แม่กับหลี่ห้าวไปโรงพยาบาลก่อน เรื่องนี้หนูจะจัดการเอง”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหลี่ชิงเหยาก็ได้ทำการตัดสินใจ

“ชิงเหยา ลูกต้องแก้แค้นแทนน้องชายของหนูนะ ห้ามปล่อยไอ้สัตว์นั้นไปเด็ดขาด!” จางชุ่ยฮัวพูดอย่างโมโห

“แม่วางใจเถอะค่ะ หนูมีวิจารณญาณของตัวเอง” หลี่ชิงเหยาพยักหน้า

แล้วเธอก็ส่งสัญญาณให้รปภ.สองคนส่งจางชุ่ยฮัวและหลี่ห้าวไปโรงพยาบาล

“เลขาจาง คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?” หลี่ชิงเหยานวดขมับ เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

“คุณหลี่ เรื่องนี้มันชัดเจนมากอยู่แล้ว ลู่เฉินเป็นคนที่เริ่มลงมือลงไม้ อีกอย่างพวกรปภ.ก็เห็น มันไม่ต้องสงสัยอะไรเลย” เลขาจางกล่าว

“แต่ว่า คนอย่างแม่ฉัน…” หลี่ชิงเหยาลังเลที่จะพูด

เธอรู้ดีถึงความแสบของแม่และความโหดเหี้ยมของน้องชายตัวเอง

“ไม่ว่ายังไง การต่อยตีคนมันก็เป็นเรื่องที่ผิด!”

เลขาจางพูดตามความชอบธรรม "ถึงจะบอกว่ามีการเข้าใจผิดกันจริงๆ มันนั่งลงคุยกันดีๆไม่ได้เลยงั้นเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ห้าวเป็นน้องชายแท้ๆของคุณ ที่เขาต่อยตีหลี่ห้าวถึงขั้นนั้น แสดงว่าเขาไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคุณเลยสิ แค่จุดนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าคุณสมบัติในตัวของเขานั้นมันย่ำแย่มาก!”

หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว ในใจเธอรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก

ใช่สิ แม้ว่าแม่และน้องชายของเธอจะก้าวร้าวและเอาแต่ใจไปบ้าง แต่เขาก็ไม่สามารถลงไม้ลงมือต่อยตีคนอื่นได้

แถมยังลงมืออย่างหนักขนาดนี้

ก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการหย่าร้างจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดและถูกต้องแล้ว

“คุณหลี่ เรื่องนี้ เราจะปล่อยไปเฉยๆไม่ได้ ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด! ในเมื่อเขากล้าที่จะลงไม้ลงมือ เขาก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป!” เลขาจางพูดอย่างเย็นชา

หลี่ชิงเหยาที่จิตใจสับสนวุ่นวายอยู่แล้ว พอได้ยินอย่างนี้ เธอก็โกรธมากขึ้น

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดเบอร์โทรหาลู่เฉินทันที...

ขณะนั้นเอง ในรถเบนท์ลี่สีเงินที่กำลังวิ่งอยู่คันหนึ่ง

ลู่เฉินมองดูชื่อคนโทรเข้าบนโทรศัพท์ของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะรับสาย

“ลู่เฉิน ฉันต้องการคำอธิบายที่สมเหตุสมผล!” พอหลี่ชิงเหยาเอ่ยปากเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่ง

“อธิบายอะไร?”

“ฉันถามคุณนะ เมื่อกี้คุณต่อยน้องชายฉันหรือเปล่า?”

"ใช่ ผมทำเอง แต่..."

ลู่เฉินยังไม่ทันพูดจบ เขาก็ถูกหลี่ชิงเหยาขัดจังหวะ "เป็นคุณจริงๆด้วย! ฉันไม่คิดเลยว่า

คุณเป็นคนแบบนี้จริงๆ!ทำไม เพียงเพราะฉันหย่ากับคุณ คุณถึงต้องการแก้แค้นครอบครัวฉันงั้นหรอ?!"

ทันทีที่เธอพูดคำนี้ออกมา ลู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปเลย

เขาไม่คิดเลยว่าทันทีที่เธอเอ่ยปาก เธอจะก้าวร้าว ไม่ฟังความได้ขนาดนี้

และเธอไม่แม้แต่จะถามเหตุผล

สามปีในสถานะสามีภรรยา เธอไม่มีความเชื่อใจในตัวเขาแม้แต่น้อยเลยเหรอ?

แม้จะเป็นคนแปลกหน้าก็คงไม่เป็นแบบนี้มั้ง?

“หลี่ชิงเหยา หรือว่าในใจของคุณ ผมมันชั่วร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณรู้แค่ว่าผมลงไม้ลงมือ ต่อยตีคนอื่น แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่ามันเพราะอะไร?” ลู่เฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม

"ไม่ว่าจะเพราะอะไร มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะต่อยตีคนอื่นได้!" หลี่ชิงเหยาไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่เฉินก็ยิ้มอย่างเยาะเย้ยตัวเอง

ในใจเขาผิดหวังอย่างที่สุดไปแล้ว

จะถูกหรือจะผิด ตอนนี้ มันไม่สำคัญแล้ว

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญน้องชายตัวเองมากกว่า

“ลู่เฉิน เห็นแก่การที่เคยเป็นคู่สามีภรรยากัน ฉันจะให้โอกาสคุณแก้ไข คุณไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย ไปขอโทษหลี่ห้าว ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้น... ”

“ไม่เช่นนั้นคุณจะทำอะไรล่ะ? คุณจะแจ้งตำรวจจับผมหรือจะหาคนมาจัดการผม?” ลู่เฉินโต้กลับ

“ลู่เฉิน! คุณไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของเราบ้างเลยจริงๆ คุณต้องการให้แตกคอกันไปข้างนึงเลยใช่ไหม?” หลี่ชิงเหยาตะโกน

“ความรู้สึกเหรอ? ฮ่าๆ... ระหว่างเรา มันยังมีความรู้สึกอยู่หรอ? ยังไงซะ ผมเป็นคนต่อยเขาเอง คุณหลี่จะแก้แค้นผมยังไง ก็แล้วแต่เลย”

"คุณ--"

หลี่ชิงเหยากำลังจะระเบิดใส่ แต่ลู่เฉินก็วางสายไปก่อน

เธอโกรธมากจนเกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้ว

ที่เธอสามารถดำรงตำแหน่งในตอนนี้ได้ การจัดการอารมณ์ของตัวเธอเอง เธอทำได้เป็นอย่างดีมาตลอด

แต่ตอนนี้ เธอแอบควบคุมไม่ค่อยอยู่แล้ว

“คุณหลี่ ลู่เฉินมันช่างเนรคุณจริงๆ ให้ฉันหาคนไปสั่งสอนเขาหน่อยไหม?” เลขาจางกล่าว

“ไม่ต้อง ก่อนหน้านี้ที่ฉันเป็นหนี้เขา ตอนนี้ก็นับว่าฉันได้ชดใช้ไปหมดแล้วกัน”

หลี่ชิงเหยาหายใจเข้าลึกๆ และระงับความโกรธของเธอไว้

"แต่ว่า......"

เลขาจางยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ถูกห้ามไว้ด้วยการยกมือขึ้นของหลี่ชิงเหยา "เอาล่ะ เรื่องนี้หยุดพูดถึงได้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คืองานกาล่าดินเนอร์การกุศลของตระกูลฉาว"

“งานกาล่าดินเนอร์การกุศลหรอ? หรือว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้ร่วมลงทุนงั้นหรือ?”

“ใช่ ฉันเพิ่งได้รับข่าวว่าตระกูลฉาวได้รวมชิงเฉิงกรุ๊ปของเราไว้ในรายการคัดเลือกล่วงหน้า ตราบใดที่เราทำงานดี เราก็อาจจะกลายเป็นผู้ร่วมลงทุน หุ้นส่วนคนใหม่ของตระกูลฉาว!”

“เยี่ยมมากเลย ฉันไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้แหละ!”

...

ในอีกด้านหนึ่ง

ลู่เฉินที่วางสายไป เขาได้นั่งรถของฉาวซวนเฟยไปที่โรงพยาบาลใหญ่ของเมืองเจียงหลิง

หลังจากลงจากรถแล้ว ทั้งสองคนก็รีบเดิน และสุดท้ายก็เข้าไปในวอร์ดวีไอพี

ขณะนี้ มีชายชราคนหนึ่งที่ผมเป็นสีขาวและผอมบางกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

หน้าของชายชราคนนั้นซีดเซียวมาก และริมฝีปากเป็นสีม่วง เขาดูไม่มีชีวิตชีวาเลย ลมหายใจของเขาอ่อนแอมาก เสมือนว่าเขาสามารถตายตอนไหนก็ได้ซะอย่างนั้น

รอบตัวเขามีแพทย์ไม่กี่คนยืนอยู่

จะเห็นได้จากการแสดงออกที่เคร่งขรึมของพวกเขาว่าสภาพของผู้ป่วยนั้นแย่มาก

“พี่! พี่กลับมาแล้วเหรอ? หมอพวกนี้เป็นพวกสวะทั้งหมด ไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง!”

ขณะนั้น มีสาวสวยที่มัดผมหางม้าเดินเข้ามาหาพวกเขา

เธอก็คือลูกสาวคนที่สองของตระกูลฉาว ชื่อว่า ฉาวอานอาน

“คุณฉาว เราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งการล้างกระเพาะ การฟอกเลือด การปั้มเลือดให้ไหลเวียนมากขึ้น รวมถึงการใช้ยาต่างๆด้วย เราได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่เราก็ยังคงรักษาให้หายไม่ได้” แพทย์คนหนึ่งพูดอย่างจำใจ

“ในเมื่อพวกคุณทำไม่ได้ งั้นก็เปลี่ยนคน ให้คุณลู่คนนี้มาทำแทน” ฉาวซวนเฟยพูดอย่างเย็นชา

“คุณลู่?”

ทุกคนตกตะลึงและมองไปที่ลู่เฉินที่อยู่ข้าง ๆ ฉาวซวนเฟย สีหน้าของพวกเขาดูแปลกไปเล็กน้อย

เพราะคนตรงหน้านี้ยังเด็กเกินไปและดูไม่เหมือนเป็นหมอที่มีความสามารถเลย

“พี่! พี่ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม? เขาคือคุณลู่คนนั้นงั้นเหรอ?”

ฉาวอานอานพูดด้วยความประหลาดใจ "เขาดูอายุใกล้เคียงกับฉัน เขาทำได้จริงๆหรือ?"

“เราไม่ควรตัดสินคนอื่นจากรูปร่างหน้าตาของเขา ในเมื่อเขาเป็นคนที่นายกสมาคมหวางแนะนำให้ เขาจะต้องมีความสามารถนั้นแน่นอน” ฉาวซวนเฟยกล่าว

พูดตามตรง เธอก็ไม่ได้มั่นใจมาก แต่คนที่สามารถทำให้หวางป่ายโซ่แนะนำได้ขนาดนี้ เขาคงต้องมีความสามารถที่พิเศษมากกว่าคนอื่นแน่ๆ

“นายกสมาคมหวางถูกหลอกแล้วมั้ง?”

ฉาวอานอานยังคงสงสัยมาก"เฮ้ คุณอะไรนั่นอ่ะ คุณรู้วิธีการรักษาจริงๆเหรอ?"

“รู้นิดหน่อยครับ” ลู่เฉินกล่าว

“รู้แค่นิดหน่อยงั้นหรอ?”

ฉาวอานอานเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม "คุณรู้ไหมว่าแพทย์ที่สามารถเข้ามาในวอร์ดนี้ได้ ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงหลิงทั้งนั้น แม้แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ คุณที่รู้วิธีการรักษาเพียงนิดหน่อยยังจะกล้ามาที่นี่งั้นหรอ?"

“อานอาน! อย่าไร้มารยาท!” ฉาวซวนเฟยดุเธอ

“พี่! ผู้ชายคนนี้ดูไม่น่าเชื่อถือเอาสะเลย ฉันแค่กังวล ถ้าเขารักษาคุณปู่แต่กลับทำให้ท่านตาย เราจะทำไงดีล่ะ?” ฉาวอานอานกล่าว

“เจ้าเด็กนี่ พูดอะไรไร้สาระน่ะ” ฉาวซวนเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ เว้นแต่เขาจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น!” ฉาวอานอานเชิดหน้าขึ้น

“คุณต้องการให้ผมพิสูจน์อย่างไง?” ลู่เฉินกล่าวอย่างใจเย็น

“งั้นคุณลองดูก่อนว่าฉันเป็นโรคอะไร ถ้าคุณพูดถูก ฉันก็จะเชื่อคุณ!”

“คุณจะให้ผมพูดจริงๆเหรอ?”

“ทำไม? คุณกลัวแล้วงั้นหรือ? หากคุณไม่มีความสามารถ งั้นกรุณากลับไป อย่าเสียเวลาที่นี่!” ฉาวอานอานหัวเราะเยาะ

“แลบลิ้นออกมา” ลู่เฉินยกมือขึ้น

“อา——” ฉาวอานอานอ้าปากและแลบลิ้นออกมาอย่างเชื่อฟัง

หลังจากดูเสร็จแล้ว ลู่เฉินก็พูดตรง ๆ ว่า "คุณมีอาการไฟสุมตับ ต่อมไร้ท่อและประจำเดือนของคุณผิดปกติ และคุณมักจะมีอาการปวดหัว"

“อีกอย่าง วันนี้คุณยังกินอะไรที่ไม่ดีซึ่งทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ คุณท้องเสียอย่างน้อยหกครั้งในครึ่งวัน!”

“เอ้อ อีกอย่าง คุณยังเป็นโรคริดสีดวงทวารด้วย…”

ทันทีที่คำพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของฉาวอานอานก็แข็งทื่อทันที

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status