บทที่10
รสรักบำบัดความเครียด
อาหารมือเย็น มื้อแรกของที่นี่ เป็นกับข้าวทางเหนือ ที่ทั้งคู่ซื้อมาจากตลาดนัดที่อยู่ใกล้ๆ ระเบียงหน้าห้องมีตะสำหรับนั่งกินอาหาร บรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน สวยงามมากกว่าทุกวันที่ทั้งสองเคยพบเจอ
“อยากให้พ่อหายเป็นปกติ นานแล้วที่ท่านไม่เคยได้ออกไปไหน” ติณห์คิดถึงภาพเมื่อครั้งที่เขากับพ่อมาเที่ยวด้วยกัน
“หมอบอกว่ามีโอกาสไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความมารู้ถึงอาการ
“มีโอกาสกลับมาลุก นั่งได้ แต่เดินคงยาก เพราะพ่อเอาแต่นอน เหมือนไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ร่างกายส่วนล่างก็ลีบลงเรื่อยๆ” เสียงของคนพูดหมดหวัง
“คุณเป็นลูกย่อมเข้าใจดี ว่าทำอย่างไรพ่อของคุณถึงจะกำลังใจ ในการมีชีวิตอยู่มากขึ้น ถ้ามีอะไรให้ลิลช่วยก็บอกนะคะ อย่างน้อยมันคงช่วยลดกรรมที่พ่อลิลทำไว้กับพ่อของคุณ”
“กินข้าวกันเถอะ ผมทำเสียบรรยากาศหมด มีแต่อาหารเหนือทั้งนั้นเลย น้ำพริกหนุ่มลองกินสิลิล คุณน่าจะชอบ”
ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูดสำเร็จแต่เขาเปลี่ยนสีหน้าแววตาที่เก็บงำความเครียดไว้ไม่สำเร็จ ลลิลสัมผัสมันได้ตลอดเวลา เขาคุยกับเธอแค่เพียงร่างกาย แต่หัวใจของเขากำลังมีทุกข์อยู่
มืดแล้วทั้งคู่ต่างพากันเข้าห้องเพื่ออาบน้ำ หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างในห้องครัว ปล่อยให้ชายหนุ่มอาบน้ำก่อน
“หอมเชียวนะคะ” หญิงสาวเดินมากอดจากข้างหลัง
“เป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ มันยังไงกันนะ....” ชายหนุ่มในชุดที่เปลือยเปล่าท่อนบน หันตัวกลับมากอดเอวหญิงสาวที่ยืนกอดเขาจากด้านหลัง
“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ ก็แค่กลัวเจ้าหนี้จะเบื่อ แล้วจะเปลี่ยนใจ ส่งตัวลิลคืน แล้วเปลี่ยนเป็นคิดดอกเบี้ยแทนก็เท่านั้น” หญิงสาวพูดเล่น
“ถ้าเก่งแบบเมื่อคืน รับรองไม่ส่งคืนแถมจะลดต้นให้ด้วย ไปอาบน้ำก่อนไป ตัวเหม็นกับข้าวเชียว” ชายหนุ่มบีบจมูกทำท่าเหม็นคนในอ้อมกอด
“ค่ะ เจ้าหนี้”
แค่หญิงสาวหันหลังและเดินเข้าห้องน้ำไป ติณห์ก็กลับมาคิดเรื่องเดิมๆ เขาแค่หวังให้พวกนั้นได้รับความอับอาย ไม่ได้หวังให้มีใครตายกับเหตุการณ์นั้นเลย
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีหลายสายที่ไม่ได้รับ หนึ่งในนั้นมีเบอร์ของฤทธิ์ลูกน้องคนสนิทของเขา แต่ติณห์ยังไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรตอนนี้ เขาเลือกที่จะโทรกลับหาป้าช่วย เพื่อถามถึงพ่อ และบอกให้ท่านรู้ว่าเขาเดินทางถึงแล้วอย่างปลอดภัย
“ไหนมาขอหอมหน่อยสิ ว่าตัวหอมหรือยัง” ชายหนุ่มพยายามสะบัดความเครียดออกจากความรู้สึก โดยการให้ความสนใจกับผู้หญิงตรงหน้ามากกว่า
“ปิดไฟดีกว่าจะได้ดมได้ถนัดๆ”
ลลิลในสภาพที่ร่างบางฃองเธอถูกปกปิดไว้เพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กผืนเดียว เดินไปปิดไฟทุกดวงในห้อง เหลือแค่เพียงดวงสุดท้าย ที่ติณห์ห้ามเธอไว้ไม่ให้ปิด
“เปิดไว้ สักดวง อยากเห็นคนเก่งเมื่อคืนชัดๆ”
มือหนาสะกิดผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก หลุดลงไปกองบนพื้น แสงไฟจากหัวเตียง ยังส่องสว่าง ชายหนุ่มมองเรื่อนร่างที่ได้รูป น่าอกที่อวบอิ่ม สะโพกกลม ส่วนโหนกนูนเบื้องล่างที่สร้างความสุขให้กับเขามาหลายต่อหลายครั้ง
“หลับตาสอคะ ลิลอาย” หญิงสาวพาร่างเปลือยเปล่าอรชร มาคร่อมคนตัวใหญ่ที่ยังนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอยู่ ด้วยท่าทางที่แสนจะปลุกใจเสือป่ายิ่งนัก
“ลิล คุณมันร้ายจริงๆ” ชายหนุ่มยอมหลับตาตามคำสั่งของลูกหนี้อย่างว่านอนสอนง่าย
การเป็นผู้นำอีกครั้ง สำหรับกิจกรรมบนเตียง ลลิลทำมันได้ดีขึ้น ถึงแม้เธอจะรู้สึกขัดๆ เขินอายไปบ้าง แต่ถ้ามันจะช่วยให้ ชายหนุ่มที่กำลังรู้สึกผูกพันด้วยมีความสุข เธอก็พร้อมจะทำมัน
“ขย่มช้าๆ ดีมาก” ชายหนุ่มจับสะโพกหญิงสาวให้ขยับขึ้นลงตามจัวหวะ ไม่นานทั้งคู่ก็ถึงจุดสุดท้ายของอารมณ์รักที่ทะยานขึ้นสู่สวรรค์พร้อมกัน
“เหนื่อยล่ะสิ ทำเป็นเก่ง” ชายหนุ่มคว้าตัวลลิลที่นอนเหนื่อยหอบอยู่ข้างๆตัวเขามากอดไว้อย่างมีความสุข
“ก็คุณเล่นไม่ให้หยุดเลย” มือบางตีลงมาที่แผ่นอกกว้างอย่างหมั่นไส้
“ก็มันเสียว ใครจะอยากให้หยุด เดี๋ยวคืนนี้จะให้เอาคืน” ชายหนุ่มก็มหน้าลงไปทาบปากหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“ไม่ไหวแล้ว....” สิ้นเสียงคนตัวเล็กก็หลับลงภายใต้อ้อมกอดของติณห์อย่างสนิท
หลังจากเสร็จจากกิจกรรมบนเตียง ชายหนุ่มก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยและฮอร์โมนส์แห่งความสุข ที่ถูกหลั่งออกมาในสมอง แต่ไม่นานเขาก็สะดุ้งตื่นอีกครั้ง เมื่อเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น ตามไปหลอกหลอนเขาในรูปความฝัน เขาพยายามที่จะลืมเรื่องนี้ แต่ทำไมมันถึงยิ่งคิดถึงก็ไม่รู้
“นอนไม่หลับเหรอคะ” ลลิลลืมตาขึ้นมาเห็นชายหนุ่มที่นอนดอดเธอยังคงลืมตาอยู่
“หลับไปแล้ว ฝันร้ายก็เลยตื่น” ชายหนุ่มหันมาจูบหน้าผากคนถาม
“ไปนั่งเล่นข้างนอกกันไหมคะ อากาศดี ไว้คุณง่วงเราค่อยกลับเข้ามานอน” ทั้งสองลุกขึ้นจัดการกับตัวเองจนเรียบร้อย พากันไปนั่งเล่นที่ระเบียงหน้าห้อง
“อยากเอาอากาศแบบนี้กลับไปจังเลยค่ะ” หญิงสาวชอบอากาศที่นี่
แสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ส่องแสงสว่าง มองเห็นแปลงผักของชาวบ้าน ที่ยามนี้ไร้ผู้คน ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆ ถึงไม่มีผ้าห่ม แต่อกอุ่นของชายหนุ่มที่กอดเธอไว้ก็สุขยิ่งกว่าสิ่งใด
“ง่วงก็หลับเลยนะ” ติณห์บอกคนในอ้อมกอด ทั้งคู่นอนซ้อนกันอยู่บนเก็าอี้หวายแบบที่ใช่นอน
ไม่นานทั้งคู่ก็ต่างหลับ ไม่มีใครลุกขึ้นมาปลุกใคร รู้สึกตัวกันอีกที ก็เพราะได้ยินเสียง ชาวบ้านมาเก็บผักที่อยู่ห่างไปจากห้องไม่เท่าไหร่ กำลังพุดคุยกัน
“ไปนอนต่อข้างในกันเถอะ” ติณห์ปลุกลลิลให้เข้าไปนอนข้างใน เพราะตอนนี้ก็ยังเช้ามากอยู่ ทั้งคู่จึงเลือกที่จะนอนต่อ
เสียงดังจากโทรศัพท์ปลุกคนทั้งคู่ให้ตื่น ทัตเทพ เขาโทรหาลูกสาวหลังจากที่หายเงียบไปตั้งแต่ลลิลถูกพามาอยู่ในการดูแลของติณห์
“ใครโทรมาแต่เช้า” ชายหนุ่มถาม เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของหญิงสาว
“พ่อค่ะ” ลลิลยังไม่กล้ากดรับ
ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์จากมือของหญิงมากดรับและกดลำโพง เพื่อที่เขาจะได้ยิน ในสิ่งที่ทัตเทพพูดกับลูกสาว เพราะเขารู้สึกว่าการโทรมาครั้งนี้คงไม่ใช่เพราะคิดถึงลูกแน่นอน
“สวัสดีค่ะพ่อ”
“ลิลพ่อคิดถึงและเป็นห่วงลูกมาก แต่พ่อก็ไม่กล้าจะติดต่อมา พ่อระอายใจ” คนปลายสายทำเสียงเศร้า
“ลิลสบายดีค่ะ แล้วพ่อล่ะคะ เป็นอย่างไรบ้าง” หญิงสาวถามทั้งที่รู้คำตอบว่าพ่อของเธอสบายดี
“จะให้พ่อสบายใจได้อย่างไรล่ะ แม่ก็มาทิ้งพ่อไป ลุกก็ต้องมายอมเอาตัวเข้าแรกเพื่อพ่อ นอนกินน้ำตาทุกวัน อยากหาทางช่วยลูก ตอนนี้สินค้าเรากำลังไปได้ดี ขาดก็แต่ทุนที่จะต้องไปซื้อวัตถุดิบ ”
“ก็ดีแล้วค่ะ ลิลเห็นพ่อมีรายได้ลิลก็ดีใจ ม่นานพ่อคงหาเงินมาใช้เขาได้” หญิงสาวพุดตัดบทไม่อยากฟังคำดกหกจากบิดา
“พ่ออยากจะรบกวน เผื่อลูกพอมีเงินที่ได้จากแม่หลงเหลือให้พ่อยืมสักแสนสองแสนไหม พ่อจะได้เอาไปทำทุน จะได้มีเงินมาไถ่ตัวลูกคืน”
น้ำตาของลูกที่รู้สึกว่าพ่อไม่เคยรักตัวเธอเลย เก็บกลั้นไว้ไม่อยู่ ลลิลไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้แล้ว นอกจากพ่อจะไม่เคยเป็นห่วงเธอ กลับยังโทรมาเพื่อขอเงินจากเธออีก
“ต้องการเท่าไหร่” ติณห์แย่งโทรศัพท์กดปิดลำโพงและเดินออกไปคุยข้างนอก
“เอ่อ...คุณติณห์เหรอครับ” ทัตเทพตกใจ
“ใช่ คุณต้องการเงินเท่าไหร่ เพื่อแลกกับการที่คุณไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับลลิลอีก ไหนๆก็ขายลูกกินแล้ว ขายแบบครั้งเดียวจบเลยนะ”
“ผมไม่ได้จะขายลูก ผมแค่โทรมาขอความช่วยเหลือ” ทัตเทพพยายามอธิบาย
“อย่าทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลย ต้องการเท่าไหร่ สองแสนกับหนี้ทั้งหมดยกให้พอไหม” เจ้าหนี้เสนอ
“พอครับๆ ” ปลายสายตอบรับด้วยความดีใจ
“แล้วอย่ามายุ่งกับ ลลิลอีก ไม่ว่าคุณจะเดือดร้อนแค่ไหน จำไว้ ว่าคุณรับเงินจากผมไปแล้ว อย่าให้ต้องถึงขั้นเอาชีวิตกัน คุณก็รู้ว่าผมทำจริง” ติณห์ยิ่งได้รับรู้ยิ่งสงสารหญิงสาวจับใจ
“ครับๆๆ ไม่ต้องกลัว ผมจะเดินออกไปจากชีวิตลูกสาวผมไปแบบไม่กลับมาเลย ผมสบายใจหายห่วง เพราะรู้ว่าคุณติณห์ต้องดูแลลูกสาวผมอย่างดี” ทัตเทพพยายามพูดให้ตัวเองดุยังมีความเป็นพ่อ
“แล้วถ้าผมบอก ผมทั้งตบ ทั้งตีเธอ คนเป็นพ่ออย่างคุณจะเปลี่ยนใจไหม” เจ้าหนี้เริ่มขึ้นเสียง
“ผมไม่เชื่อหรอกครับ เอาเป็นว่าสองแสน พร้อมสัญญาจำนองบ้านรับคืนที่บ่อนเลยใช่ไหมครับ ” ทัตเทพพยายามตัดบท
“ใช่” ชายหนุ่มวางหูทันที
“คุณคุยอะไรกับพ่อ” ลลิลถามเมื่อติณห์เปิดประตูเข้ามาในห้อง
“ผมจะให้เงินพ่อคุณสองแสน ”
“เพื่ออะไรคะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนเดินมายังชายหนุ่ม
“เพื่อให้เขา เลิกมาสร้างความเดือดร้อนให้คุณ” ชายหนุ่มคว้ามือหญิงสาวมากุมไว้
“แต่เขาเป็นพ่อของลิล” หญิงสาวน้ำตาคลอ
“ผมให้เขาเลิกมาสร้างความเดือดร้อน ผมไม่ได้ให้เขาเลิกเป็นพ่อคุณ มองหน้าผม คนที่คุณควรรักที่สุดตอนนี้คือตัวเอง พ่อของคุณเขามีคนรักเขารออยู่ที่บ้านแล้ว ลลิลแล้วเธอล่ะ เธอเหลืออะไรบ้าง”
ถึงแม้สิ่งที่เขาพูดจะเจ็บเข้าไปถึงหัวใจ แต่มันก็คือความจริง บ้านที่เคยเป็นของครอบครัว ตอนนี้พ่อก็คงพาครอบครัวใหม่เข้ามาอยู่ ธุรกิจที่ทำอยู่เธอก็โอนให้เป็นชื่อของพ่อไปแล้ว
“ใช่ ลิลไม่เหลืออะไร แล้วก็ไม่เหลือใคร” หญิงสาวทรุดตัวลงนั่ง ค่อยปล่อยมือตัวเองจากชายหนุ่มที่จับเธอไว้อย่างหลวมๆ
ได้แต่ยืนมองทั้งที่หัวใจ มันอยากเดินเข้าไปกอด และบอกว่าคุณยังเหลือผม แต่ทำไมร่างกายมันกับยืนอยู่ตรงนี้ ติณห์ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ว่าเขากำลังหลงหรือกำลังรักกันแน
บทที่11เผชิญหน้ากับปัญหา ปัญหาชีวิตของลลิล ทำให้ติณห์ชายหนุ่มที่มีความพร้อมกว่าทุกอย่าง อย่างน้อยเขาก็ยังเหลือพ่อ เขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาได้ก่อไว้ เขาตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาฤทธิ์ลูกน้องคนสนิท ที่เฝ้าโทรหาเขาไม่รู้กี่ร้อยสาย ป่านนี้คงตื่นแล้ว เพราะก็ใกล้เวลาไปจัดการเรื่องเอาเงินเข้าธนาคาร ซึ่งตอนนี้ ลูกน้องคนนี้ต้องทำหน้าที่แทนลูกพี่ทุกอย่าง “ฤทธิ์ มีอะไร โทษที ใจยังแย่เลยไม่อยากรับสายใคร” ชายหนุ่มออกมาคุยด้านนอก เพราะไม่อยากให้ลลิลรับรู้ด้านมืดของเขา “ผมจะโทรมาบอกคุณติณห์ว่า สองคนนั้นเขาฆ่าตัวตาย เพราะป่วยเป็นเอดส์ และจากที่เราเอาคลิปลงคนเป็นเมียเลยจับผัวไปตรวจเลือด และเมื่อรู้ผล ก็ตรวจของตัวเอง จนรู้ว่าทั้งคู่ติดเชื้อ” ลูกน้องรีบอธิบาย “แกไม่ได้โกหกใช่ไหม” ติณห์ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่สาเหตุ “แต่มันยังมีบางอย่างมากกว่านั้น แต่ผมไม่รู้ ทางตำรวจและทนายความส่วนตัวของบ้านนู้น ติดต่อมาต้องการพบคุณโดยด่วน ผมจึงพยายามติดต่อคุณ” ฤทธิ์รายงานแบบคนลืมหายใจ “ในเมื่อฉันไม่ใช่สาเหตุแล้วทำไมต้องอยากเจอ
บทที่12คุณพ่อคุณแม่จำเป็น “ขากลับทำไมของเยอะกว่าขามาเยอะเลยนะ” ชายหนุ่มยืนมองท้ายรถของตัวเอง ที่ไม่มีที่วางเหลือเหมือนตอนมา ท้ายรถเต็มไปด้วยของฝากที่หญิงสาวซื้อไปฝากคนที่บ้าน “ทำเป็นบ่น ขึ้นรถเถอะค่ะ เดี่ยวจะถึงมืด” ลลิลไม่อยากยืนเถียงด้วย เพราะข้างหลังมีแต่ของเธอจริงๆ “ผมจัดการเรื่องเงินให้พ่อคุรเรียบร้อยแล้วนะ” ติณห์จัดการทุกอย่างตั้งแต่วันที่พ่อหญิงสาวโทรศัพท์มาแล้ว แต่เขายังไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลลิล เพราะไม่อยากทำให้เธอเครียดขึ้นมาอีก โชคดีที่รถไม่ติดมาก ทั้งคู่จึงมาถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ ลลิลรีบหยิบของฝากที่เธอซื้อมฝากป้าช่วย และบิดาของติณห์ “ทำไมกลับกันมาเร็ว กว่าที่บอกพ่อไว้” กิตต์ขจรคิดว่าลูกชายคงไปนานกว่านี้ “มีงานด่วนนิดหน่อยครับพ่อ” ติณห์ยังไม่อยากเล่าให้บิดาฟัง เขาอยากรอให้เรื่องราวที่จะเปิดพินัยกรรมพรุ่งนี้เสร็จสิ้นไปก่อน “คุณพ่อคะ ลิลซื้อเสื้อหล่อๆ มาฝากคุรพ่อหลายชุดเลยค่ะ เดี๋ยวให้ป้าช่วยเอาไปซักก่อนนะคะ พรุ่งนี้คุณพ่อจะเป็นหนุ่มเหนือ” หญิงสาวหยิบเสื้อออกจากถุง มากางให้คนนอนป่วยดู
บทที่13โซ่น้อยคล้องใจ ผ่านไปแค่เพียงสองวัน ทางทนายก็โทรมาแจ้งให้ติณห์ไปรับนาเดียร์มาดูแลได้เลย เขาจัดการเรื่องกฎหมายเรียบร้อยแล้ว “เราไปรับเย็นนี้เลยไหมคะ คุณมีเบอร์ติดต่อแม่บ้านที่ดูแลไหม” ลลิลตื่นเต้น “ผมว่าจะจ้างแม่บ้านคนที่เลี้ยงนาเดียร์ ให้มาอยู่ที่นี่ด้วย ผมได้เบอร์จากทนายก็เลยโทรคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เธอขอกลับไปดูแลบ้านของเจ้ายายเธอเดือนละครั้ง” ติณห์จัดการก่อนที่หญิงสาวจะบอกเสียอีก “แล้วเราจะให้ลูกนอนที่ไหนคะ” หญิงสาวเรียกลูกอย่างเผลอตัว “ลูก...อ๋อ เราจะเป็นพ่อแม่กันแล้วเนาะ นอนบ้านใหญ่ยังมีห้องว่างอยู่ ผมจะให้นอนกับแม่บ้านที่เลี้ยงเขามานั่นแหละ” ติณห์วางแผนไว้เรียบร้อย โดยผ่านการปรึกษาบิดาและป้าช่วยก่อน “ลลิลคิดว่าตื่นเต้นอยู่คนเดียว ที่แท้คุณแอบจัดการทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนลลิลจะคิดอีกนะคะ” หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขให้กับคุณพ่อคนใหม่ที่ดูตื่นเต้นกว่าเธอแต่เก็บอาการไว้ ได้เวลาไปรับลูกสาวคนใหม่ของบ้าน นอกจากคุณพ่อคุณแม่จำเป็น แล้วยังมีคุณปู่อีกคน ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน กิตต์ขจรอยากให้บ้านนี้มี
บทที่1หัวใจที่แตกสลาย “ผมยังไม่มีจริงๆ ครับ ถ้าหาได้เมื่อไหร่ ผมจะรีบเอามาใช้ให้เลย” ชายวัยกลางคนพนมมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นลูก “ก็พูดแบบนี้ทุกราย ไม่มีปัญญาใช้หนี้ แต่! เสือกมีปัญญาลงขันจ้างมือปืนมายิงพ่อกู” คนพูดชี้หน้า จ้องตาแบบหมายจะเอาถึงชีวิต “ผมไม่เกี่ยว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย ท่านมีพระคุณ เมตตาผมมาตั้งหลายครั้ง ผมจะทำกับผู้มีพระคุณแบบนั้นได้อย่างไรกัน” คนพูดมือไม้สั่นรนราน “ก็ถ้ามึงไม่เกี่ยว แล้วใครเกี่ยว พ่อกูใจดีกับพวกมึง ไม่มีเงิน ก็ให้กู้ แต่พวกมึงเสือกไปเล่นเสียกันเอง ยืมแล้วมันก็ต้องใช้ พอทวงพวกมึงก็หาว่าใจร้าย มึงอย่านึกว่ากูโง่นะ” เท้าใหญ่ถีบเก็าอี้ที่อยู่ใกล้ๆชายที่ยืนพนมมือด้วยความกลัว กลิ้งระเนะนาด เสียงดังโครมคราม คนข้างนอกห้องที่กำลังมุ่งมั่นกับการพนันต่างพากันหันมาดู “ถ้าภายในหนึ่งเดือนมึงหาต้นมาคืนกูไม่ได้ มึงก็เอาลูกสาวคนสวยของมึง มาเป็นนางบำเรอขัดดอกกูแล้วกัน ” รอยยิ้มแบบสะใจปรากฏบนใบหน้าที่ดุร้ายของคนพูด “เอ่อ....” ลูกหนี้รุ่นพ่อพูดไม่ออก “ถ้าทำไม่ได้ มึงก็บอกลูกสาวคนส
ก่อนกลับบ้าน เขาก็เพิ่งโดนเล่นงานจนหมดศักดิ์ศรี หวังจะได้มาพัก คิดหาทางออกที่บ้าน กลับต้องมาโดนเมียด่า เพราะรู้ความจริง ที่เขามีเมียอีกคนและอยู่ด้วยกันมานานเป็นสิบปี จนมีลุก ทัตเทพทนไม่ไหวแล้ว เขาขับรถออกมา คืนนี้คงต้องหาโรงแรมนอนพักใจสักคืน “แม่คะ ลลิลกลับมาแล้ว ทำแม่ไม่เปิดไฟเลย ” กัณต์ชนิตลูกสาวคนเดียวของเกสรา กลับจากทำงานวันแรกของเธอ “แม่คะ แม่ได้ยอนลิลไหมคะ” บ้านทั้งหลังเงียบสนิท ไม่มีไฟสักดวงในบ้านถูกเปิด หญิงสาวสัมผัสได้ ว่ามีอะไรบ้างอย่างเกิดขึ้นที่บ้านแน่ๆ เธอรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของมารดาทันที ภาพที่เธอเห็น โดยที่ไม่ต้องเปิดประตูเสียด้วยซ้ำ ลลิลขาอ่อนทรุดตัวลงอย่างหมดแรง “แม่......” หญิงสาวตะโกนสุดเสียง ภาพเกสราน้ำลายฟูมปาก นอนตาค้างอยู่ข้างเตียงนอน ลลิลเขย่าตัวมารดา แนบหูกับหน้าอกด้วยความหมายว่าหัวใจของแม่เธอจะยังเต้นอยู่ แต่มันไร้วี่แวว มารดาของเธอจากไปแล้ว หญิงสาวตั้งสติโทรหาตำรวจ และโทรหาทัตเทพผู้เป็นบิดา เวลานี้ เธอไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่านี้ได้ จึงได้แต่นอนกอดศพมารดา ร้องไห้ รอจนกว่าทุกคนจะมาถึงบ้านขอ
เขาต้องทุกข์ที่เห็นกิตต์ขจร พ่อของเขาต้องทุกข์ทรมาน ดังนันเขาก็อยากเห็นคนที่เป็นต้นเหตุตายทั้งเป็น ถ้าทัตเทพยอมให้ลูกสาวของเขามาเป็นนางบำเรอเขา คนเป็นพ่อมันคงเหมือนถูกย่ำยีหัวใจ แค่คิดเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความสะใจที่เป็นฝ่ายได้แก็แค้น“ผมไม่ลืมหรอก สบายใจได้” สีหน้ากับคำตอบสวนทางกันสิ้นดีเขาคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เงินตั้งสิบล้าน เขาจะไปหาจากที่ไหนมาได้ จากตอนแรกมีเงินที่ได้จาการตายของเกสราก็เพียงแค่ล้านเดียว และตอนนี้มันก็เหลือแค่ไม่กี่หมื่นกริ๊งๆสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ ช่วยดึงชายกลางคน ให้เดินออกมาจากวงของการพนัน เพื่อมารับโทรศัพท์ภรรยาของเขาอีกคน“พี่เทพ พี่หายไปเลยตั้งแต่เมียพี่ตาย” เสียงหญิงสาวที่อายุมากกว่าลลิลเพียงไม่กี่ปี ต่อว่าดังมาจากปลายสาย“จะให้พี่ไปหาเรากับลูก ให้ความแตกเหรอ ถ้าลลิลเกิดรู้เรื่องนี้ขึ้นมา พี่จะไม่ได้อะไรเลยนะ เพราะพี่กับเกสราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน บ้านก็เป็นชื่อของเขา เงินในบัญชีอีก”“แต่ตอนนี้ยายหนู เข้าโรงพยาบาล ” เสียงปลายสายดูอ่อนลง“ลูกเป็นอะไร” ทัตเทพตกใจ เพราะเขามีลูกแค่เพียงคนเดียว“ก็โรคหัวใจที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดนั่นแหละ หมอบอกค่าใช้จ่ายอาจจะถึงแส
บทที่2ทวงบุญคุณ “คุณพ่อทำไมกลับดึกจังคะ ลลิลโทรไปคุณพ่อก็ไม่ยอมรับสาย ” ลูกสาวคนสวยนั่งรอกินข้าวกับพ่อจนดึก “งานที่บริษัทกำลังยุ่ง สินค้าหาให้ลูกค้าไม่ได้ตามกำหนด พ่อโดนค่าปรับหลายแสนเลย แต่ก่อนพ่อเคยมีเงินของแม่คอยช่วยอยู่ ตอนนี้เป็นชื่อของลลิล พ่อก็ไม่อยากรบกวน” เลี้ยงมากับมือ ทำไมทัตเทพจะไม่รู้จักนิสัยลูกสาวนอกสายเลือดคนนี้ ถ้าเขาขอตรงๆก็ได้ แต่ถ้าใช้ลูกเกรงใจแบบนี้ มีเท่าไหร่ให้หมด “พ่อเอาบัตรเอทีเอ็มของคุณแม่ที่อยู่กับลลิลไปใช้เลยค่ะ ในนั้นมีอยู่หลายแสน น่าจะพอช่วยค่าปรับที่ต้องจ่ายให้กับลูกค้าได้” เป็นอย่างที่ทัตเทพคิด “มันจะดีเหรอ พ่อไม่อยากเอาของลูกเลย แต่ตอนนี้เราแย่จริงๆ และ.....”คนพูดลากเสียงให้ดูน่าสงสัย “และอะไรคะพ่อ ยังมีอะไรที่พ่อยังไม่ได้บอก บอกมาเถอะค่ะ ลลิลยินดีช่วยพ่อทุกอย่าง เราเหลือกันแค่สองคนแล้ว ถ้าลลิลไม่ช่วยพ่อ ก็ไม่รู้จะไปช่วยใครแล้วค่ะ” หญิงสาวเอื้อมือมาจับมือหนาที่เริ่มเหี่ยวย่นด้วยอายุที่มากขึ้น มองตาคนตรงหน้าอย่างทั้งรัก เคารพ และเทิดทูน ลลิลยังจำทุกเรื่องที่มาเล่าว่าพ่อร
“ติณห์ พ่ออยากให้ลูกล้มเลิกความคิดที่จะแก็แค้น แค้นกันไปแค้นกันมา มันไม่ทางจบ” กิตต์ขจรพูดกับลูกชาย ที่มานั่งคุยกับเขาข้างเตียง “ผมว่าพ่อปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่า พ่อไม่ต้องไปคิดถึง รักษาร่างกายให้กับมาเป็นเหมือนเดิมดีกว่าครับพ่อ” ชายหนุ่มไม่สนใจในสิ่งที่บิดาพูดด้วยความกังวล “ร่างกายคงต้องใช้เวลาอีกนาน แต่มันก็ดีเหมือนกันนะ ทำร้ายคนอื่นเขามามาก ก็จะได้ชดใช้คืนก็ครั้งนี้แหละ” ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างมองโลกในแง่ดี “เวลามาอ้อนวอนอยากได้เงินจากเรา ก็พูดได้สารพัด พอถึงเวลาใช้คืน กลับบ่ายเบี่ยง พ่อให้โอกาสทุกคน พวกมันต่างหาก แทนที่จะคิดถึงบุญคุณที่พ่อช่วย มันกลับแว้งกัดเป็นงูเห่า คนพวกนี้ต่างหาก ที่จะต้องรับเวรกรรมของมัน” ทุกวันที่ติณห์ มานั่งคุยกับกิตต์ขจร ที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ความจริงแล้วหมอบอกว่าร่างกายส่วนบนของเขายังคงใช้การได้ปกติ แต่ยิ่งนานวันคนแก่ที่หมดกำลังใจ ก็เอาแต่นอน จนร่างกายส่วนบนเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แขนขารีบลงทุกวัน โชคดี ที่มีพยาบาลพิเศษหมุนเวียนกันมาดูแล เขาถึงได้ไม่เป็นแผลเตียง “พ่อคงเปลี่ยนความคิดลูกไม
บทที่13โซ่น้อยคล้องใจ ผ่านไปแค่เพียงสองวัน ทางทนายก็โทรมาแจ้งให้ติณห์ไปรับนาเดียร์มาดูแลได้เลย เขาจัดการเรื่องกฎหมายเรียบร้อยแล้ว “เราไปรับเย็นนี้เลยไหมคะ คุณมีเบอร์ติดต่อแม่บ้านที่ดูแลไหม” ลลิลตื่นเต้น “ผมว่าจะจ้างแม่บ้านคนที่เลี้ยงนาเดียร์ ให้มาอยู่ที่นี่ด้วย ผมได้เบอร์จากทนายก็เลยโทรคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เธอขอกลับไปดูแลบ้านของเจ้ายายเธอเดือนละครั้ง” ติณห์จัดการก่อนที่หญิงสาวจะบอกเสียอีก “แล้วเราจะให้ลูกนอนที่ไหนคะ” หญิงสาวเรียกลูกอย่างเผลอตัว “ลูก...อ๋อ เราจะเป็นพ่อแม่กันแล้วเนาะ นอนบ้านใหญ่ยังมีห้องว่างอยู่ ผมจะให้นอนกับแม่บ้านที่เลี้ยงเขามานั่นแหละ” ติณห์วางแผนไว้เรียบร้อย โดยผ่านการปรึกษาบิดาและป้าช่วยก่อน “ลลิลคิดว่าตื่นเต้นอยู่คนเดียว ที่แท้คุณแอบจัดการทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนลลิลจะคิดอีกนะคะ” หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขให้กับคุณพ่อคนใหม่ที่ดูตื่นเต้นกว่าเธอแต่เก็บอาการไว้ ได้เวลาไปรับลูกสาวคนใหม่ของบ้าน นอกจากคุณพ่อคุณแม่จำเป็น แล้วยังมีคุณปู่อีกคน ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน กิตต์ขจรอยากให้บ้านนี้มี
บทที่12คุณพ่อคุณแม่จำเป็น “ขากลับทำไมของเยอะกว่าขามาเยอะเลยนะ” ชายหนุ่มยืนมองท้ายรถของตัวเอง ที่ไม่มีที่วางเหลือเหมือนตอนมา ท้ายรถเต็มไปด้วยของฝากที่หญิงสาวซื้อไปฝากคนที่บ้าน “ทำเป็นบ่น ขึ้นรถเถอะค่ะ เดี่ยวจะถึงมืด” ลลิลไม่อยากยืนเถียงด้วย เพราะข้างหลังมีแต่ของเธอจริงๆ “ผมจัดการเรื่องเงินให้พ่อคุรเรียบร้อยแล้วนะ” ติณห์จัดการทุกอย่างตั้งแต่วันที่พ่อหญิงสาวโทรศัพท์มาแล้ว แต่เขายังไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลลิล เพราะไม่อยากทำให้เธอเครียดขึ้นมาอีก โชคดีที่รถไม่ติดมาก ทั้งคู่จึงมาถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ ลลิลรีบหยิบของฝากที่เธอซื้อมฝากป้าช่วย และบิดาของติณห์ “ทำไมกลับกันมาเร็ว กว่าที่บอกพ่อไว้” กิตต์ขจรคิดว่าลูกชายคงไปนานกว่านี้ “มีงานด่วนนิดหน่อยครับพ่อ” ติณห์ยังไม่อยากเล่าให้บิดาฟัง เขาอยากรอให้เรื่องราวที่จะเปิดพินัยกรรมพรุ่งนี้เสร็จสิ้นไปก่อน “คุณพ่อคะ ลิลซื้อเสื้อหล่อๆ มาฝากคุรพ่อหลายชุดเลยค่ะ เดี๋ยวให้ป้าช่วยเอาไปซักก่อนนะคะ พรุ่งนี้คุณพ่อจะเป็นหนุ่มเหนือ” หญิงสาวหยิบเสื้อออกจากถุง มากางให้คนนอนป่วยดู
บทที่11เผชิญหน้ากับปัญหา ปัญหาชีวิตของลลิล ทำให้ติณห์ชายหนุ่มที่มีความพร้อมกว่าทุกอย่าง อย่างน้อยเขาก็ยังเหลือพ่อ เขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาได้ก่อไว้ เขาตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาฤทธิ์ลูกน้องคนสนิท ที่เฝ้าโทรหาเขาไม่รู้กี่ร้อยสาย ป่านนี้คงตื่นแล้ว เพราะก็ใกล้เวลาไปจัดการเรื่องเอาเงินเข้าธนาคาร ซึ่งตอนนี้ ลูกน้องคนนี้ต้องทำหน้าที่แทนลูกพี่ทุกอย่าง “ฤทธิ์ มีอะไร โทษที ใจยังแย่เลยไม่อยากรับสายใคร” ชายหนุ่มออกมาคุยด้านนอก เพราะไม่อยากให้ลลิลรับรู้ด้านมืดของเขา “ผมจะโทรมาบอกคุณติณห์ว่า สองคนนั้นเขาฆ่าตัวตาย เพราะป่วยเป็นเอดส์ และจากที่เราเอาคลิปลงคนเป็นเมียเลยจับผัวไปตรวจเลือด และเมื่อรู้ผล ก็ตรวจของตัวเอง จนรู้ว่าทั้งคู่ติดเชื้อ” ลูกน้องรีบอธิบาย “แกไม่ได้โกหกใช่ไหม” ติณห์ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่สาเหตุ “แต่มันยังมีบางอย่างมากกว่านั้น แต่ผมไม่รู้ ทางตำรวจและทนายความส่วนตัวของบ้านนู้น ติดต่อมาต้องการพบคุณโดยด่วน ผมจึงพยายามติดต่อคุณ” ฤทธิ์รายงานแบบคนลืมหายใจ “ในเมื่อฉันไม่ใช่สาเหตุแล้วทำไมต้องอยากเจอ
บทที่10รสรักบำบัดความเครียด อาหารมือเย็น มื้อแรกของที่นี่ เป็นกับข้าวทางเหนือ ที่ทั้งคู่ซื้อมาจากตลาดนัดที่อยู่ใกล้ๆ ระเบียงหน้าห้องมีตะสำหรับนั่งกินอาหาร บรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน สวยงามมากกว่าทุกวันที่ทั้งสองเคยพบเจอ “อยากให้พ่อหายเป็นปกติ นานแล้วที่ท่านไม่เคยได้ออกไปไหน” ติณห์คิดถึงภาพเมื่อครั้งที่เขากับพ่อมาเที่ยวด้วยกัน “หมอบอกว่ามีโอกาสไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความมารู้ถึงอาการ “มีโอกาสกลับมาลุก นั่งได้ แต่เดินคงยาก เพราะพ่อเอาแต่นอน เหมือนไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ร่างกายส่วนล่างก็ลีบลงเรื่อยๆ” เสียงของคนพูดหมดหวัง “คุณเป็นลูกย่อมเข้าใจดี ว่าทำอย่างไรพ่อของคุณถึงจะกำลังใจ ในการมีชีวิตอยู่มากขึ้น ถ้ามีอะไรให้ลิลช่วยก็บอกนะคะ อย่างน้อยมันคงช่วยลดกรรมที่พ่อลิลทำไว้กับพ่อของคุณ”“กินข้าวกันเถอะ ผมทำเสียบรรยากาศหมด มีแต่อาหารเหนือทั้งนั้นเลย น้ำพริกหนุ่มลองกินสิลิล คุณน่าจะชอบ”ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูดสำเร็จแต่เขาเปลี่ยนสีหน้าแววตาที่เก็บงำความเครียดไว้ไม่สำเร็จ ลลิลสัมผัสมันได้ตลอดเวลา เขาคุยกับเธอแค่เพียงร่างกาย แต่
บทที่9การเดินทางของความรู้สึก จากวันแรกที่ลลิลได้รับหน้าที่ดูแลกิตต์ขจร มาถึงวันนี้ก็เกือบจะครบหนึ่งเดือนแล้ว ทั้งสองคนสนิทกันมาก ความสดใส น่ารัก และเป็นเด็กที่กตัญญู ทำให้คนป่วยอยากได้ลลิลเป็นลูกอีกคน ไม่ว่าจะในฐานะลูกสะใภ้หรือลูกสาวก็ได้ทั้งสองอย่าง “ติณห์พ่อรักและเอ็นดูหนูลลิลมาก ถ้าลูกไม่คิดจะจริงจังกับเธอ ก็ปล่อยเธอจาสถานะที่เธอเป็นอยู่เสีย และรับเธอเข้ามาเป็นน้องสาวของลูกซะ” ผู้เป็นพ่อทั้งรักทั้งสงสาร “จริงจังไหม คงไม่มั้งครับ เพราะพ่อก็รู้ว่าเธอเข้ามาอยู่ที่นี่เพราะอะไร ส่วนที่พ่อจะให้ผมรับเธอมาเป็นน้องสาว คงไม่ได้ ผมนอนกับเธอแล้วนะ อยุ่ดีจะให้มาเป็นพี่น้องกัน” “ถ้าเป็นพี่น้องมันยาก ลูกก็ให้เธอเป็นเมียเสียสิ พ่ออยากมีหลาน พ่อจะอยู่อีกสักกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ก็ยังไม่รู้ ลูกไม่คิดจะมีครอบครัวมีหลานให้พ่อสักคนเหรอ” ก่อนหน้านี้กิตต์ขจรไม่คิดจะพูดเรื่องการมีครอบครัวกับลูกชาย เพราะเขามองไม่เห็นทาง แต่ตอนนี้ ติณห์มีผู้หญิงข้างกาย และเธอก็แสนจะน่ารัก ผู้เป็นพ่ออยากมีหลานเต็มที่แล้ว “เรื่องนี้มันก็ไม่ได้อยู่ที่ผมค
บทที่8ผิดหรือที่แค้น คืนนี้เป็นอีกคืน ทีทั้งคู่หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน โดยที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวเกิดขึ้น มันมีแต่ความห่วงใย และความอบอุ่นที่มอบให้กัน เมื่อวานติณห์เองก็หมดเรี่ยวแรงไปกับการตามแก้แค้นแทนบิดา เขาไล่รายชื่อลูกหนี้ที่คิดว่า มีส่วนในการจ้างมือปืนมายิงพ่อของเขา นอกจากทัตเทพแล้ว ยังนักธุรกิจ และชาวบ้านฐานะปานกลาง อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งวิธีการแก็แค้นก็ถูกเลือกวิธีที่ต่างกันไป สองคนที่โดนจัดการไปเมื่อวาน ชายหนุ่มรู้ว่าทั้งสองมีหน้ามีตาในสังคม และก็ต่างก็ภรรยามากด้วยกันทั้งคู่ เพราะอาศัยบารมีของครอบครัวฝ่ายหญิงอยู่ ติณห์ได้ทำการปล่อยคลิปวิดีโอ ที่ทั้งสองคนมาขอยืมเงินของเขา โดยชายหนุ่มไม่ลืมที่จะกันตัวเอง เขาให้คนทั้งสองพูดว่า จะยืมไปเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงดูบรรดาเมียเด็กๆ ระเบิดครอบครัวก้อนใหญ่ ถูกส่งผ่านโลกโซเชี่ยลเพียงไม่ถึงชั่วโมง เรื่องราวก็ถูกแชร์ออกไป บรรดาเมียทั้งหลายต่างพากันหัวร้อน จัดการสามีของตัวเองแบบจัดหนัก เมื่อเรื่องราวความอื้อฉาวของประธานบริษัทถูกพูดถึง อย่างสนุกปาก ลูกค้าต่างไม่ให้กา
บทที่7น้ำตาที่ไร้ค่า เช้านี้หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าเขายังนอนหลับอยู่ข้างๆเธอ สาวตัวเล็กร่างบาง ค่อยขยับตัวออกจาก มือหนาที่โอบกอดเธอไว้ เพราะไม่อยากทำให้เขาตื่น “ตื่นแล้วเหรอ” คนตัวใหญ่ถามตามหลังเมื่อเห็นคนนอนข้างๆกับลุกไปเข้าห้องน้ำ “ลลิลขอโทษที่ทำให้คุณตื่นเลย” หญิงสาวเดินกลับมานั่งข้างเขาบนเตียง “ไม่หรอก ผมตื่นนานแล้ว แต่ไม่อยากลุก เพราะกลัวจะทำให้คุณตื่น เห็นกำลังนอนกรนสบายเลย” ลลิลเผลอตัวยกฝ่ามือขึ้นมาตีแขน คนที่หาว่าเธอนอนกรน จนคนถูกตีร้อง เพราะทั้งเจ็บและตกใจ ที่ถูกคนตัวเล็กแต่มือหนักตีเข้าเต็มแรง “เรื่องอะไรมาตีแบบนี้นี่ ไปเลยไปอาบน้ำแต่งตัว ทำกับข้าวให้กินด้วย” ชายหนุ่มออกคำสั่ง ระหว่างที่หญิงสาวกำลังอาบน้ำ เธอก็คิดถึงคำพูดของติณห์ เขาเปลี่ยนคำแทนตัวเองจากฉัน เป็นผม มันทำให้หญิงสาวรู้สึกสนิทสนมกับเขามากขึ้น ในเมื่อไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ บิดาของเธอจะหาเงินหลายล้านมาไถ่เธอได้ เธอก็เลือกที่จะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขที่สุดดีกว่า ตั้งแต่วันที่พ่อของเธอ มาส่งเธอที่บ่อน เขาก็ไม
บทที่6นางบำเรอในกรงทอง “ทำไมจะต้องไปนอนห่างฉันแบบนั้น” ติณห์ถามเมื่อหันไปเห็นอีกฝ่าย นอนอยู่ห่างจากเขาจนเกือบล่วงลงไปข้างเตียง “คุณติณห์จะได้นอนสบายไงคะ” หญิงสาวตอบโดยไม่ยอมหันหน้ามามองคนถาม “อย่าทำเหมือนไม่เคย เมื่อคืนเธอก็รู้ ว่าหน้าที่ของเธอมันคืออะไร จะขยับตัวมาเอง หรือให้ไปอุ้มมา” คนพูดทำเสียงขู่ ลลิลพาร่างบางของเธอ ค่อยๆเข้ามานอนใกล้กับชายหนุ่มร่างใหญ่ ที่เมื่อคืนเขาได้สร้างความเสียวซ่านแต่มันแฝงไปด้วยความเจ็บด้วย “ไม่ชอบเหรอเมื่อคืน” คนตัวหนาถามตรง “ลิลเจ็บค่ะ” ถึงจะอายแต่หญิงสาวอยากให้เขารู้ว่าเธอเจ็บ “มันเป็นครั้งแรก มันก็ไม่แปลกจะเจ็บแบบนี้ เดี๋ยวผ่านไปหลายๆครั้ง เธอก็จะไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว แต่จะรู้สึกเสียวซ่านอย่างเดียว” สิ้นคำพูดมือหนาก็เอื้อมือไปปิดโคมไฟบนหัวเตียงให้ดับลง ปากหนาหยักก็ซุกไซ้ลงบนคอยาวระหง มือหนาบีบเคล้นเล่นยอดประทุม ที่ชี้ตัวชูช่อรอสัมผัส ชายหนุ่มคว้ามือของหญิงสาวให้จับสัมผัส กับท่อนความเป็นชายของเขา ก่อนที่ติณห์จะประกบลงบนปากบาง พาชิวหาไล่วนเวียนตวั
บทที่5คืนแรกของการเสียสาว “อย่าเอาความเป็นตัวคุณ มาวัดว่าคนอื่นจะเป็นแบบคุณนะ” หญิงสาวจ้องตา “อะไรนะ! เธอพูดว่าอะไร” ชายหนุ่มถามกลับด้วยแววตาคล้ายเสือที่จเองจะกินเหยื่อ ลลิลนึกอยากจะพูดอีกสักหนึ่งรอบ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะติณห์อาศัยจังหวะที่เธอเผลอ จู่โจมจนกายสาว สั่นสะท้านและอ่อนระทวย สมองพร่าเบลอว่างเปล่า มีเสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาจากปากอิ่ม “คุณติณห์” ลลิลเผลอเรียกชื่อเขาเสียงหลง ขณะที่มือน้อยก็เริ่มลูบไล้ตามแผ่นหลังแกร่งใต้เสื้อกร้ามสีขาว ดวงหน้าหวานเชิดสูง ยามใบหน้าคมซุกไซ้ต่ำลงมาดูดเม้มที่ไหปลาร้า จนเป้นรอยแดงช้ำ จากนั้นมือหนาก็จัดการถอดชุดนอนของเธอออกอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสื้อในตัวสวย จนกายสาวหวาบหวิวสะท้าน ชายหนุ่มไม่รอให้เธอมีสติกลับคืน เขาเร่งรุกเร้าฝ่ามือร้อน เคล้นคลึงความอวบใหญ่ของเนินอกหญิงสาวที่เปลือยเปล่านั้นอย่างหมั่นเขี้ยว “อยากร้อง ก็ร้อง ฉันชอบให้เธอส่งเสียง” ติณห์กระซิบชิดทรวงอกงาม ปลายลิ้นสัมผัสแผ่วๆบนยอดอกที่ชูช่อ เพื่อให้คนตัวเล็กสะดุ้งเสียว ก่อนจะพลิ้วสะบัดรัวเร็วจนกายบางแอ่นอก