โชคชะตานำพาให้ทั้งคู่มาพบกัน จากคนแปลกหน้าแปลเปลี่ยนมาเป็นคนรัก ความเป็นความตายที่ทั้งคู่ประสบมาด้วยกันยิ่งสมานหัวใจทั้งสองดวงให้แนบแน่นจนไม่สามารถแยกจากกันได้อีกเลย
더 보기“ใจเย็นๆ อาการเธอดูแปลกๆนะ”“อือ ดีนฉันร้อน” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงกระเส่า ก่อนที่ฉันจะล้มลงไปนั่งอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันยิ่งทำให้หัวใจของฉันแทบหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว“ตั้งสติ” เขาเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ แต่คำพูดของเขาไม่สามารถทำให้ฉันมีสติได้เลยจริงๆ ความร้อนในกายของฉันมันยิ่งเดือดพลานมากขึ้นไปอีก“ระ ร้อน” ฉันพยายมดึงมือตัวเองออกจากการจับกุมของร่างสูงตรงหน้า แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยแรงฉันสู้แรงของเขาไม่ได้“มีใครเอาอะไรให้เธอกินรึป่าว” ร่างสูงเอ่ยถามฉันเสียงเครียด“มะ ไม่มี” ฉันสายหัวแรงๆ ฉันรู้ทุกอย่างว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่เหมือนกับว่าฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย“แล้วเธอกินอะไรเข้าไปบ้าง”“อื้อ นายอย่าถามมากได้ไหม...ฉันร้อน” ฉันตะคอกร่างสูงตรงหน้าเสียงดัง“ดะ ดีน” ฉันครางเรียกชื่อเขาเบาๆ พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขา“อย่ามามองฉันแบบนี้” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง“ดีน มองฉันหน่อยน้า” ฉันอ้อนร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน ตอนนี้สติของฉันแทบจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ความยับยั้งช่างใจเองก็เช่นเดียวกัน ฉันดึงมือของตัวเอ
3 วันต่อมา...8.00 น.“เอากระเป๋ามาเดี๋ยวฉันสะพายเอง” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ พร้อมกับมือหนาของเขาหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของฉันไปสะพายไว้ วันนี้เราสองคนมีภารกิจตามล่าหาสัญญาณโทรศัพท์“ขอบใจนะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้า ก่อนจะเดินนำเขาออกไปด้านนอก ฉันเลือกอ้อมไปทางด้านหลังของหมู่บ้านมันอาจจะไกลกว่าทางปกติอยู่บ้างแต่มันก็เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยสำหรับเขาที่สุดสองสามวันมานี้ร่างกายของเขาเริ่มกลับมาแข็งแรงแล้วอาจจะยังหลงเหลือรอยช้ำอยู่บ้างก็ตาม ฉันนับถือใจเขามากเลยถ้าเป็นคนอื่นโดนมาหนักขนาดนี้อาจจะไม่รอดแล้วก็ได้“อุ๊ย!!” ในขณะที่ฉันคิดอะไรไปเรื่อยๆ ด้วยความเหม่อลอยทำให้ฉันไม่ทันได้สังเกตุเห็นก้อนหินตรงหน้าทำให้ฉันสะดุดมันแต่...“ระวัง” ร่างสูงเอ็ดฉันเบาๆ พร้อมกับมือหนาโอบเข้าที่เอวบางของฉันไว้แน่น ถ้าไม่ได้เขาจับฉันไว้ป่านี้ฉันคงได้ไปจับกบอยู่ที่พื้นแล้วล่ะ“ขอบใจนะ”“อืม...”“…/…”“นะ นายช่วยเอามือออกจากเอวฉันก่อนได้ไหม” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงด้านหลังเบาๆ หลังจากที่เราเงียบใส่กันไปแป๊บนึง ร่างสูงจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดออกไปอย่างช้าๆ“เดินระวังด้วย” เขาเอ่ยตามหลังฉันมาเสียงเรียบ“อืม”ติ้ง
“พังหมดเลย” ฉันร้องออกมาเบาๆ ทันทีที่เห็นฝายน้ำล้นตรงหน้าของฉัน น้ำป่ายังคงไหลหลากอยู่เลยสังเกตจากสีของน้ำที่ยังคงขุ่นมัว กระแสน้ำยังไหลเชี่ยวเป็นอย่างที่ฉันคิดว่าเรายังไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ในตอนนี้“นายนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะเดินไปดูรอบๆนี้ก่อน” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าหลังจากที่ฉันปูเสื่อที่พกมาด้วยเรียบร้อยแล้ว“เธอจะไปไหน” เขาเอ่ยถามฉันเสียงเรียบ“เดี๋ยวฉันจะไปเดินดูรอบๆไง หูนายมีปัญหาปะ”“เธอก็ดูอยู่นี่ไงไม่เห็นต้องเดินไปไหน” เขาเอ่ยบอกกับฉันหน้าตาเฉย พร้อมกับมองมายังฉันอย่างไม่เข้าใจ“นายกลัวรึไง” ฉันยืนเท้าเอวพร้อมกับมองไปยังร่างสูงอย่างไม่เข้าใจเขาเช่นกัน ฉันจะมาที่นี่คนเดียวก็จะตามมาด้วย พอฉันจะเดินไปดูรอบๆคนเดียวก็พูดเหมือนจะไม่ให้ฉันไปอีก ‘หัวจะปวดนะกับผู้ชายคนนี้’“…”“ฉันไม่ไปไกลหรอกเดี๋ยวฉันกลับมา นายนั่งพักอยู่นี่แหละ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงใส ก่อนจะเดินออกไปทันทีไม่รอให้เขาคัดค้านอะไรอีก“บัว” ร่างสูงตะโกนเรียกตามหลังฉันมา“ไม่ฟังแล้ว” ฉันก็ตะโกนตอบกลับเขาไปทันทีเช่นกัน“ทำไมเธอดื้อจังวะ”“เรื่องของฉัน แบร่!” ฉันหยุดเดินก่อนจะหันไปหลอกเค้าจ
แอ๊ดดดดดดด! !!“ฉันต้มน้ำใบบัวบกไว้ให้นายด้วย” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าที่ยังคงมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ฉันสังเกตุเห็นว่าวันนี้ใบหน้าของเขาบวมช้ำกว่าเมื่อคืนนี้ซะอีก“น้ำใบบัวบกมีสรรพคุณแก้อาการช้ำใน ลดการอักเสบนายต้องดื่มให้หมดนะเข้าใจไหม” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะยื่นแก้วในมือให้เขา“...” เขาพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นการตอบคำถามของฉัน“ดีมาก รอให้มันเย็นกว่านี้ก็ได้ดื่มตอนนี้เดี๋ยวมันจะลวกปากนาย”“…” ฉันวางแก้วใบบัวบกไว้ข้างๆ ก่อนที่มือบางของฉันจะวางลงที่หน้าผากของเขา พร้อมกับมืออีกข้างของฉันวางลงที่หน้าผากของตัวเองเพื่อเป็นการเช็คอุณหภูมิร่างกายของร่างสูงตรงหน้า“เหมือนนายจะมีไข้”“ยะ อย่า บะ บอก คะ ใคร”ฉันพยายามจับใจความสิ่งที่ร่างสูงพยายามจะบอกกับฉัน ก่อนจะสรุปได้ว่าเขาพูดอะไรกับฉัน ‘อย่าบอกใคร’ ยิ่งเขาย้ำฉันแบบนี้มันยิ่งทำให้ฉันอยากรู้เรื่องราวเข้าไปใหญ่เลย คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของฉัน ‘เขาเป็นใคร?’ ‘ใครทำร้ายเขา?’ ‘แล้วทำไมต้องปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ใครรู้ด้วยล่ะ?’“ฉันเข้าใจแล้ว นายอย่าพึ่งพูดมากเลย” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปด้ว
แค่ก! แค่ก! แค่ก! “พ่อจ้าแม่จ้าช่วยลูกด้วย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์“ไม่สิ! อยู่นี่มาตั้งนานไม่เคยเจอเลย” ฉันค่อยลืมตาขึ้นพร้อมกับส่องไฟฉายไปรอบๆ บริเวณที่ฉันอยู่เพื่อให้แน่ใจบางทีฉันอาจจะหูฝาดไปเองก็ได้นี่นา “ผีจะมีได้ไง” ฉันเอ่ยบอกกับตัวเองก่อนที่สายตาของฉันจะไปสะดุดเข้ากลับอะไรบางอย่างที่ขยับอยู่ใกล้กับโขดหิน ลักษณะมันเหมือนกับมือของคนกำลังจับกิ่งไม่อยู่ยังไงยังงั้น“ถ้าเป็นผีก็คงขึ้นมาหลอกเราแล้วล่ะ น้ำไหลแรงขนาดนี้ผีก็ผีเถอะ” ฉันเอ่ยบอกกับตัวเองก่อนจะเดินไปเรือนนอนของตัวเอง ไวกว่าความคิดมือบางของฉันก็หันไฟฉายไปยังบริเวณที่มีสิ่งผิดปกติอีกครั้งเพื่อให้มั่นว่าฉันตาฝาดไปจริงๆ แต่แล้ว...“ฮึ่ย! คนนี่หว่า” ด้วยความตกใจฉันจึงรีบวิ่งไปยังลำห้วยด้านล่างทันที ฉันไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ เค้าต้องเป็นคนอย่างแน่นอนและที่สำคัญมือหนาที่จับกิ่งไม้อยู่นั้นแทบจะหมดแรงลงไปทุกทีแล้ว“นายๆ ได้ยินฉันไหม” ฉันตะโกนเรียกร่างสูงตรงหน้าเสียงดัง ในขณะที่ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้งสายฟ้าที่พาดผ่านลงมาเป็นแสงวูบวาบ ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ
พายุฝนฟ้าคะนองในฤดูฝนช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดฝนตกอย่างหนักพร้อมกับลมกระโชกแรงทำให้บ้านเรือนหลายหลังพังเสียหายไปตามๆกัน ไม่ต่างอะไรกับหมู่บ้านหนองไม้หวายที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ด้วยเช่นกัน กินเวลากว่าหลายชั่วโมงแล้วที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตลอดทั้งวันจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนถึงบ่ายสามกว่าๆ แล้วก็ตาม บนถนนที่เงียบเหงาไร้ผู้คนสัญจรไปมาเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยให้ออกมาทำกิจวัตรอย่างเช่นที่เคยทำบนท้องถนนในยามนี้จึงมีเพียงรถตู้คันใหญ่ที่ขับมาด้วยความเร็วลัดเลอะไปตามถนนสายหลักที่คดโค้งไปตามแนวของสันเขาอย่างชำนาญ ก่อนจะหักเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกใหญ่ สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นป่ารกทึบยิ่งขับเข้ามาลึกเท่าไหร่จากถนนสองเลนก็เหลือเพียงเลนเดียวจากถนนคอนกรีตก็เปลี่ยนเป็นถนนลูกรังลำห้วยขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนหัวใจของหมู่บ้านหนองไม้หวาย ห้วยแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปีทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ทำการเกษตรของเกษตรกร หรือแม้แต่เป็นแห่งรวมความสนุกสนานเสียงหัวเราะของชาวบ้านหลายช่วงวัยที่ได้มาคลายร้อน
พายุฝนฟ้าคะนองในฤดูฝนช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดฝนตกอย่างหนักพร้อมกับลมกระโชกแรงทำให้บ้านเรือนหลายหลังพังเสียหายไปตามๆกัน ไม่ต่างอะไรกับหมู่บ้านหนองไม้หวายที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ด้วยเช่นกัน กินเวลากว่าหลายชั่วโมงแล้วที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตลอดทั้งวันจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนถึงบ่ายสามกว่าๆ แล้วก็ตาม บนถนนที่เงียบเหงาไร้ผู้คนสัญจรไปมาเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยให้ออกมาทำกิจวัตรอย่างเช่นที่เคยทำบนท้องถนนในยามนี้จึงมีเพียงรถตู้คันใหญ่ที่ขับมาด้วยความเร็วลัดเลอะไปตามถนนสายหลักที่คดโค้งไปตามแนวของสันเขาอย่างชำนาญ ก่อนจะหักเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกใหญ่ สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นป่ารกทึบยิ่งขับเข้ามาลึกเท่าไหร่จากถนนสองเลนก็เหลือเพียงเลนเดียวจากถนนคอนกรีตก็เปลี่ยนเป็นถนนลูกรังลำห้วยขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนหัวใจของหมู่บ้านหนองไม้หวาย ห้วยแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปีทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ทำการเกษตรของเกษตรกร หรือแม้แต่เป็นแห่งรวมความสนุกสนานเสียงหัวเราะของชาวบ้านหลายช่วงวัยที่ได้มาคลายร้อน...
댓글