ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณหนูเจ้าขา ตื่นหรือยังเจ้าคะ บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ"เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นปลุกฮูหยินคนใหม่ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของตนเองให้ลืมตาตื่นขึ้นมา เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงด้วยดวงตาที่เหม่อลอยตั้งแต่ยามเช้าแล้ว นางหันไปมองที่หน้าประตูห้องก่อนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่าจนเปียกชุ่มแก้มสวยทั้งสองข้าง เมื่อคืนถึงแม้จะบอกว่านางเข้านอนแล้ว ทว่าก็ไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับลงได้ นางหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ทั้งคืน ในใจหวังอยากให้ผู้เป็นสามีกลับเข้ามาหานาง นางนั่งรอเขาจนถึงยามเช้าก็ไร้เงาร่างของบุรุษผู้นั้นบุรุษที่เย็นชากับนาง!
"อืม ข้าตื่นแล้ว เจ้าเข้ามาเถอะ" เสียงหวานเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบายามเฉิน (07.00 - 08.59 น.) เสี่ยวเจียงสาวใช้คนสนิทของเสิ่นชิงเยียนเข้ามาปรนนิบัติเจ้านายของตนเอง เสี่ยวเจียงเป็นสาวใช้ที่ตามเสิ่นชิงเยียนมาจากตระกูลเสิ่น นางดูแลรับใช้คุณหนูของนางมาตั้งแต่เด็กย่อมมีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
เมื่อนางเดินมาถึงเตียงนอนที่เรียบร้อยเหมือนกับว่ายังไม่เคยมีผู้ใดใช้งาน เสี่ยวเจียงก็รับรู้ได้ทันทีว่า เมื่อคืนคุณหนูของนางไม่ได้ร่วมหลับนอนกับผู้เป็นสามีเลยแม้แต่น้อยดูจากที่คุณหนูของนางหน้าตาหมองเศร้า ไม่เหมือนกับเจ้าสาวที่ควรจะมีความสุขกับการแต่งงานที่เฝ้ารอเลยสักนิด
"คุณหนู...เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ เหตุใดคุณชายใหญ่ถึงไม่อยู่ในห้องหอเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงถามออกมาอย่างร้อนใจ เหตุใดคุณหนูของนางจึงหน้าเศร้าหมองเช่นนี้ แล้วคุณชายหานสวี่เล่าเหตุใดจึงไม่อยู่ด้วยกัน ในหัวของเสี่ยวเจียงมีแต่คำว่าทำไมเต็มไปหมด
นางเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูแต่กลับไม่เห็นว่าคุณชายใหญ่ออกจากห้องหอไปเมื่อใด คงจะเป็นตอนที่นางเผลองีบหลับกระมัง
"ข้าออกเรือนแล้วเหตุใดยังเรียกคุณหนูอยู่เล่า เจ้าควรจะหัดเรียกข้าว่าฮูหยินให้ชินเสีย หากใครมาได้ยินเข้า เขาจะหาว่าตระกูลเสิ่นไม่ได้อบรมสั่งสอนบ่าวไพร่ให้ดี ถึงได้เบาปัญญาเช่นนี้"เสิ่นชิงเยียนตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเจ็บปวด เสี่ยวเจียงก้มหน้าลงทันที ทว่าก็ไม่ได้โกรธเคืองเลยสักนิด
"บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ บ่าวจะจำเอาไว้ คะ...คุณ...เอ่อ...ฮูหยินรอบ่าวสักครู่นะเจ้าคะ เดี๋ยวบ่าวจะเตรียมน้ำให้ล้างหน้าล้างตา แล้วคุณชายใหญ่ออกไปแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวไม่เห็น..."
"เสี่ยวเจียงข้าอยากอาบน้ำ เจ้าไปเตรียมน้ำเถอะ เดี๋ยวข้าจะต้องไปยกน้ำชาให้ท่านพ่อกับท่านแม่"เสิ่นชิงเยียนตัดบทไม่อยากจะสนทนาเรื่องนี้อีกต่อไป นางไม่มีอะไรจะพูด จะให้บอกได้อย่างไรเล่าว่าเจ้าบ่าวไม่ได้นอนร่วมหอกับนางทั้งคืน ส่งตัวเสร็จเขาก็หายไปเลย
"เจ้าค่ะ"
เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนเองไม่อยากพูดถึง นางจึงหลบออกมาเตรียมน้ำอุ่นให้ เสิ่นชิงเยียนใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย นางเดินออกไปที่เรือนใหญ่ ทันทีที่ก้าวเข้าไปนางก็พบกับสายตาเย็นชาของบุรุษรูปงามที่เป็นสามีของนาง เขายืนมองนางด้วยแววตาที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"ที่นี่หาใช่ตระกูลเสิ่นไม่ เจ้าควรจะรู้จักมารยาทที่พึงกระทำ ปล่อยให้บิดามารดาของข้ารอเช่นนี้สมควรแล้วหรือ หรือว่าที่บ้านเจ้าไม่ได้สั่งสอนมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ"
หานสวี่กล่าวเสียงเข้มออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาจะต้องรีบไปทำงานจะมัวมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระอยู่เช่นนี้ไม่ได้ หากไม่ติดว่าเป็นเพราะคำสั่งของบิดามารดา เขาไม่มีวันจะมายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่
หานสวี่เป็นอาจารย์สอนเหล่าบัณฑิตอยู่ที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี๋ยน ตระกูลหานทำงานรับราชการมาหลายชั่วอายุคน บิดาของเขาหานจี้กง ก็ดำรงตำแหน่งเสนาบดีเลขานุการอยู่ในวังหลวง ผู้คนนับหน้าถือตาไม่น้อย ด้วยเพราะคอยรับใช้ใกล้ชิดฝ่าบาท
เขารู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมามัวเสียเวลารอหญิงสาวนางนี้ การเดินเหินก็ชักช้า ขัดใจเขายิ่งนักหานสวี่สะบัดหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ เสิ่นชิงเยียนได้แต่ก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย
"ข้าขออภัยเจ้าค่ะ คราวหน้าข้าจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนพยายามบังคับเสียงของตนเองไม่ให้สั่นเครือ นี่แค่ย่างก้าวเข้ามาในจวนวันแรกนางก็ต้องพบเจอสายตาเย็นชาของผู้เป็นสามีเสียแล้ว และคงจะต้องเป็นเช่นนี้อยู่ทุกวันจนกว่าจะครบกำหนดที่เขาตั้งไว้อย่างนั้นหรือ แค่นึกถึงนางก็เจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจดวงน้อยจนแทบทนไม่ไหว
"เอาล่ะสวี่เอ๋อร์เจ้าก็อย่าไปดุน้องนักเลย น้องเพิ่งแต่งเข้าบ้านเราคงยังไม่คุ้นชิน มาเถอะเยียนเอ๋อร์ มายกน้ำชาให้ท่านพ่อกับแม่เถอะ"ฮูหยินเถาฮวามารดาของหานสวี่กล่าวอย่างปลอบโยน นางเดินไปกุมมือลูกสะใภ้ที่หน้าตาหมองเศร้าด้วยความสงสาร บุตรชายนางช่างตาบอดยิ่งนัก เสิ่นชิงเยียนทั้งเรียบร้อยและอ่อนหวาน เป็นสตรีที่ดีงามไม่ด้อยไปกว่าสตรีจวนอื่นๆเลยแม้แต่น้อย ครอบครัวนางถึงแม้จะเป็นพ่อค้า ทว่าก็เป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยมหาศาลขุนนางบางคนยังต้องเกรงใจบิดาของนางอยู่หลายส่วน เหตุใดบุตรชายนางถึงได้โง่เขลาเบาปัญญามองข้ามสตรีที่แสนดีอย่างเสิ่นชิงเยียนไปได้
บรรยากาศในการยกน้ำชาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความกดดัน เสิ่นชิงเยียนมือไม้สั่นไปหมด เมื่อเสร็จพิธีการ หานสวี่ก็หุนหันออกจากจวนไปโดยที่ไม่แม้แต่จะสนทนากับฮูหยินคนใหม่ผู้เป็นภรรยาของเขาแม้แต่คำเดียว นางมองตามร่างสามีที่หายไปบนรถม้าอย่างอาลัยอาวรณ์
"ฮูหยินเจ้าคะ เข้าข้างในเถอะเจ้าค่ะ" เสี่ยวเจียงเข้ามาประคองคุณหนูของตนด้วยความสงสาร
"เยียนเอ๋อร์มานี่สิลูก แม่มีเรื่องจะคุยกับเจ้า" เถาฮวาพาลูกสะใภ้ไปนั่งพูดคุยยังศาลาริมสระบัวภายในจวน
"ท่านแม่มีอะไรจะชี้แนะเยียนเอ๋อร์หรือเจ้าคะ"
"เยียนเอ๋อร์เจ้าแต่งเข้าสกุลหานแล้ว จะดีจะชั่วอย่างไรก็เป็นคนของสกุลหาน เจ้าเป็นฮูหยินของจวนนี้ เรื่องงานบ่าวไพร่เจ้าสามารถจัดการได้อย่างเต็มที่ เรื่องหานสวี่ก็เช่นกัน เขาเป็นสามีเจ้าแล้วเข้าใจหรือไม่ แม่ว่าเจ้าลองพยายามดูสักหน่อยเถิด หากมีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรง เจ้าสามารถมาแจ้งแก่แม่ได้ทุกเมื่อเข้าใจหรือไม่เยียนเอ๋อร์" เถาฮวารู้ดีถึงแม้ว่าทั้งคู่แต่งงานกันโดยที่มิได้มีใจเสน่หาให้แก่กัน บุตรชายของนางผูกใจรักใคร่กับไป่อ้ายเหม่ย ทว่าแม่นางไป่ผู้นั้น เถาฮวาไม่ยินดีที่จะรับเข้ามาอยู่ร่วมตระกูลหาน ไม่ว่าจะฐานะใดก็ตาม สิ่งที่พอจะทำได้คือการสั่งสอนให้ลูกสะใภ้คนนี้ พยายามเอาใจบุตรชายของตน เผื่อว่าวันหนึ่งหานสวี่จะตาสว่างมองเห็นความจริงเสียที
"ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ที่เอ็นดูเยียนเอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์จะทำตามที่ท่านแม่สอนทุกอย่างให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ"
ตอนที่ 3ลองดูสักครั้งเสิ่นชิงเยียนแต่งเข้าสกุลหานมานานร่วมเดือนแล้ว ตามธรรมเนียมนางจะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมหลังแต่งงาน แต่ทว่าเมื่อใดที่นางเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับถูกหานสวี่เอ่ยต่อว่านางด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเสียทุกครั้ง"...ท่านพี่เจ้าคะ"เมื่อหลายวันก่อน หานสวี่กำลังนั่งทบทวนตำราที่จะนำไปสอนเหล่านักเรียนที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี้ยน หานสวี่เป็นคนรักในการอ่านตำราและบทกลอนเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิตทั่วๆ ไป หนังสือทุกเล่มย่อมเคยผ่านตาเขาทั้งหมด หากลองได้อ่านแม้เพียงครั้ง เขาก็จำมันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักเสียงหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา ถึงแม้เสียงนั้นจะหวานหยาดเยิ้มชวนฟังเพียงใด แต่หานสวี่ก็เห็นเป็นเพียงเสียงหวานที่อาบไปด้วยยาพิษหาได้น่าฟังให้รื่นหูไม่ ซ้ำร้ายยิ่งได้ฟังยิ่งบาดหูเขาจนน่ารำคาญ"อย่าเรียกข้าเช่นนั้นอีก เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าเช่นนั้น" เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ คำว่าท่านพี่คงจะมีแค่ไป่อ้ายเหม่ยคนเดียวเท่านั้น ที่เขายอมให้นางได้เรียกหาตามใจปรารถนาได้"แต่ว่า...ข้าเป็นฮูหยินของท่าน หากไม่ให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่ แล้วข้าจะเรียกท่านว่าอย่างไรเล่าเจ้าคะ" เสิ่นชิงเ
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ