ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวที่ประดับประดาด้วยผ้าสีแดงสด กำลังเคลื่อนขบวนทอดยาวไปตามท้องถนนอย่างยิ่งใหญ่ สินเดิมมากมายนับไม่ถ้วนที่ทางจวนตระกูลเสิ่นจัดเตรียมให้แก่บุตรสาวมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองหลวงแห่งนี้
เจ้าบ่าวหน้าตาหล่อเหลาแต่ทว่ากลับไร้รอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนใบหน้า เขาขี่อาชาสีนิลนำอยู่ด้านหน้าขบวน เหล่าบรรดาชาวบ้านต่างออกมามุงดูมากกว่าจะออกมาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว เพราะทุกคนต่างรู้ว่างานมงคลอันยิ่งใหญ่ของสกุลหานกับสกุลเสิ่นนั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ทุกคนรู้อยู่เต็มอกว่าหานสวี่บัณฑิตหนุ่มรูปงามผู้เลื่องชื่อ มีหญิงงามในดวงใจอยู่ก่อนแล้ว ทว่าทั้งสองไม่อาจเคียงคู่กันได้ เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่สองตระกูลที่มีต่อกัน ท่านพ่อเอ่ยเพียงว่าตระกูลหานกับตระกูลเสิ่นมีสัญญาใจที่ติดค้างต่อกัน คนเป็นลูกเช่นเขาจะทำอย่างไรได้เล่า สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่ก้มหน้ารับชะตากรรมเท่านั้น
หานสวี่ยื่นมือไปรับเจ้าสาวลงจากเกี้ยว ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้าไปในจวนตระกูลหาน เสิ่นชิงเยียนก้มหน้ามองพื้นเดินตามร่างหนาเข้าไปด้วยหัวใจสั่นไหว ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยชาดสีชมพูหวานขับผิวนางให้สวยงามน่ามอง ปากกระจับสีแดงระเรื่อเหมือนผลอิงเถา (ลูกเชอร์รี) แอบยิ้มออกมาอย่างเอียงอายใต้ผ้าปิดหน้าสีแดง
พิธีแต่งงานดำเนินไปตามขนบธรรมเนียมจวบจนถึงเวลาส่งเจ้าสาวเข้าห้องหอ เสิ่นชิงเยียนนั่งรออยู่บนเตียงด้วยใจที่สั่นไหว นางเฝ้ารอเวลานี้มาเนิ่นนาน ตั้งแต่บิดานางบอกว่า นางจะต้องแต่งเข้าสกุลหาน ทว่าตอนแรกนางไม่ได้คิดอันใดบิดาบอกเช่นไร บุตรที่ดีก็ย่อมทำตามเช่นนั้น ทว่าวันครบรอบปักปิ่นของนางเมื่อครั้งอายุครบสิบห้าหนาว หัวใจของนางก็ได้มอบให้หานสวี่ตั้งแต่พบหน้ รักแรกพบเป็นเช่นนี้เองหรือ เหมือนมีผีเสื้อนับพันบินอยู่กลางหัวใจ นับแต่วันนั้นเสิ่นชิงเยียนก็เฝ้ารอที่จะได้ครองคู่กับหานสวี่รักแรกของนางมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีเหล่าแม่สื่อพยายามจะมาสู่ขอนางให้กับสกุลอื่น ๆ แต่นางก็ได้ให้บิดาปฏิเสธไปจนหมดสิ้น
เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหงื่อนางไหลชื้นจนเปียกชุ่มไปทั้งมือ เสิ่นชิงเยียนใจเต้นแรงและเฝ้ารอหานสวี่ แต่ทว่ากลับไร้การดูแลใส่ใจที่สามีพึงมีต่อภรรยาในคืนเข้าหอ เจ้าบ่าวนางมิได้ร่วมหลับนอนกับนางผู้เป็นภรรยา มีเพียงความเงียบปกคลุมในคืนเข้าหอเพียงเท่านั้น
"เจ้าปลดผ้าเองเถอะ ข้าไม่อาจปลดให้ได้" เสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา เสมือนสายฟ้าฟาด ทำให้ร่างบางมือไม้สั่นอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ นางไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
"แต่ว่าตามธรรมเนียม..." เสิ่นชิงเยียนส่งเสียงเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่กระอักกระอ่วนและสงสัยใคร่รู้
"ธรรมเนียมหรือ ช่างหัวธรรมเนียมเสียเถอะ เสิ่นชิงเยียนสตรีเช่นเจ้าจิตใจทำด้วยอะไร เจ้าอยากได้ข้าเป็นสามีอย่างนั้นหรือ หึ ได้!! เช่นนั้นเจ้าจงจำไว้ เจ้าอยากแต่งข้าก็จะแต่ง แต่อย่าฝันว่าจะได้เป็นฮูหยินที่ข้ารัก หัวใจของข้ามีเพียงไป่อ้ายเหม่ยเป็นสตรีในดวงใจเพียงผู้เดียวเท่านั้น"
เมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของตนไม่ยอมปลดผ้าคลุมหน้าออกเสียที หานสวี่จึงเดินไปกระชากผ้าบางอย่างเต็มแรง จนนางเซถลาไปด้านหน้าแต่ทว่ายังทรงตัวได้ มิเช่นนั้นนางอาจจะล้มใบหน้ากระแทกพื้นไปแล้ว เสิ่นชิงเยียนเงยหน้ามองบุรุษชุดแดงผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางด้วยแววตาตกตะลึง ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา "เช่นนั้นท่านมาแต่งกับข้าด้วยเหตุใดกันเจ้าคะ? ทำไมท่านไม่ไปแต่งกับแม่นางไป่เล่า" เสิ่นชิงเยียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางเคยถามบิดาถึงเรื่องนี้ แต่บิดานางก็บอกเพียงว่างานแต่งเกิดขึ้นด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย
"เพราะเจ้าอย่างไรเล่า!! เสิ่นชิงเยียนสตรีหน้าหนาไร้ยางอาย เจ้าอยากได้ข้าเป็นสามีจนตัวสั่น จึงได้ให้บิดาของเจ้ามาบังคับขู่เข็ญบิดาของข้าเช่นนี้ หน้าไม่อาย หึ สตรีหน้าหนาเช่นเจ้าคงหาบุรุษแต่งด้วยยากสินะถึงได้เป็นข้าคนนี้" หานสวี่กระชากแขนเรียวงามอย่างรุนแรง จนใบหน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
"ไม่จริง...ท่านพ่อไม่ได้ทำเช่นนั้น" เสิ่นชิงเยียนเอ่ยออกไปด้วยความไม่เชื่อ นางไม่เชื่อ!!! บิดานางไม่มีทางทำเช่นนั้นเป็นแน่ ถึงแม้ท่านพ่อจะรักนางมากเพียงใด แต่การบังคับจิตใจผู้อื่นก็หาใช่สิ่งสมควรไม่
"ข้าไม่สนใจเจ้าสองพ่อลูกหรอกนะ ฟังไว้ให้ดีเสิ่นชิงเยียนเจ้าจะมีชีวิตอยู่ในจวนของข้าเพียงแค่สามปีเท่านั้น เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะโยนใบหย่าใส่หน้าเจ้า"
พูดจบหานสวี่ก็เดินออกไปจากห้องหอ ทิ้งให้เจ้าสาวอย่างนางนั่งร่ำไห้น้ำตานองหน้า นางร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร วันแต่งงานที่นางรอคอย กลับกลายเป็นวันที่นางเสียใจที่สุด เสิ่นชิงเยียนรู้แล้วว่าสามีของนางคงจะไม่กลับเข้ามาอีกแล้วเป็นแน่ นางจึงพยุงตัวเองลุกขึ้นไปปลดเปลื้องชุดเจ้าสาวออกจากร่างกายตนเอง และเข้านอนด้วยหัวใจอันบอบช้ำ
ตอนที่ 2 ฮูหยินก๊อก ก๊อก ก๊อก"คุณหนูเจ้าขา ตื่นหรือยังเจ้าคะ บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ"เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นปลุกฮูหยินคนใหม่ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของตนเองให้ลืมตาตื่นขึ้นมา เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงด้วยดวงตาที่เหม่อลอยตั้งแต่ยามเช้าแล้ว นางหันไปมองที่หน้าประตูห้องก่อนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่าจนเปียกชุ่มแก้มสวยทั้งสองข้าง เมื่อคืนถึงแม้จะบอกว่านางเข้านอนแล้ว ทว่าก็ไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับลงได้ นางหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ทั้งคืน ในใจหวังอยากให้ผู้เป็นสามีกลับเข้ามาหานาง นางนั่งรอเขาจนถึงยามเช้าก็ไร้เงาร่างของบุรุษผู้นั้นบุรุษที่เย็นชากับนาง!"อืม ข้าตื่นแล้ว เจ้าเข้ามาเถอะ" เสียงหวานเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบายามเฉิน (07.00 - 08.59 น.) เสี่ยวเจียงสาวใช้คนสนิทของเสิ่นชิงเยียนเข้ามาปรนนิบัติเจ้านายของตนเอง เสี่ยวเจียงเป็นสาวใช้ที่ตามเสิ่นชิงเยียนมาจากตระกูลเสิ่น นางดูแลรับใช้คุณหนูของนางมาตั้งแต่เด็กย่อมมีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นเมื่อนางเดินมาถึงเตียงนอนที่เรียบร้อยเหมือนกับว่ายังไม่เคยมีผู้ใดใช้งาน เสี่ยวเจียงก็รับรู้ได้ทันทีว่า เมื่อคืนคุณหนูของนางไม่
ตอนที่ 3ลองดูสักครั้งเสิ่นชิงเยียนแต่งเข้าสกุลหานมานานร่วมเดือนแล้ว ตามธรรมเนียมนางจะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมหลังแต่งงาน แต่ทว่าเมื่อใดที่นางเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับถูกหานสวี่เอ่ยต่อว่านางด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเสียทุกครั้ง"...ท่านพี่เจ้าคะ"เมื่อหลายวันก่อน หานสวี่กำลังนั่งทบทวนตำราที่จะนำไปสอนเหล่านักเรียนที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี้ยน หานสวี่เป็นคนรักในการอ่านตำราและบทกลอนเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิตทั่วๆ ไป หนังสือทุกเล่มย่อมเคยผ่านตาเขาทั้งหมด หากลองได้อ่านแม้เพียงครั้ง เขาก็จำมันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักเสียงหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา ถึงแม้เสียงนั้นจะหวานหยาดเยิ้มชวนฟังเพียงใด แต่หานสวี่ก็เห็นเป็นเพียงเสียงหวานที่อาบไปด้วยยาพิษหาได้น่าฟังให้รื่นหูไม่ ซ้ำร้ายยิ่งได้ฟังยิ่งบาดหูเขาจนน่ารำคาญ"อย่าเรียกข้าเช่นนั้นอีก เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าเช่นนั้น" เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ คำว่าท่านพี่คงจะมีแค่ไป่อ้ายเหม่ยคนเดียวเท่านั้น ที่เขายอมให้นางได้เรียกหาตามใจปรารถนาได้"แต่ว่า...ข้าเป็นฮูหยินของท่าน หากไม่ให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่ แล้วข้าจะเรียกท่านว่าอย่างไรเล่าเจ้าคะ" เสิ่นชิงเ
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ