"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า
"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง
"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"
เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิงเยียนเห็นว่าสาวใช้มีความกระตือรือร้นก็ไม่อยากจะขัดให้เสียน้ำใจ อย่างไรอีกฝ่ายก็รักและหวังดีกับตน
"อืม...ก็ดีนะข้าจะได้ตัดชุดใหม่ ๆ ให้ท่านพี่หานด้วย"ดูเอาเถิดขนาดว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ใส่ใจคุณหนูของนาง แต่เสิ่นชิงเยียนกลับคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออกเช่นนี้ เสี่ยวเจียงไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ทว่าก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นใบหน้างามดูมีความสุขที่ได้ทำเพื่อสามีเช่นนี้
"เจ้าค่ะฮูหยิน ถ้าอย่างนั้นบ่าวไปสั่งพ่อบ้านให้เตรียมรถม้านะเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนพยักหน้าให้เสี่ยวเจียงไปจัดการเรื่องเตรียมรถม้า ส่วนนางก็หันไปสั่งธุระกับเสี่ยวอวี้ สาวใช้ของตระกูลหานที่ฮูหยินเถาฮวามอบให้นางไว้ใช้งาน ความจริงเสิ่นชิงเยียนไม่ได้ต้องการรับสาวใช้เพิ่ม หากไม่เป็นเพราะความต้องการของแม่สามีนางก็คงจะปฏิเสธออกไป ในจวนแห่งนี้คงมีเพียงเถาฮวาเท่านั้นที่หวังดีกับนางอย่างแท้จริง
"เสี่ยวอวี้เจ้าไปเอาอาภรณ์ของท่านพี่หานมาให้ข้าที่ห้องได้หรือไม่ ข้าจะนำมาเป็นตัวอย่างตัดอาภรณ์ให้ท่านพี่หานได้ใส่น่ะ"
"ได้เจ้าค่ะบ่าวจะไปนำมาให้ฮูหยินนะเจ้าคะ" เสี่ยวอวี้พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ตอนนี้นางคือสาวใช้ของเสิ่นชิงเยียนแล้ว นางก็ต้องเคารพต่อเสิ่นชิงเยียนด้วยความจริงใจ
"ขอบใจเจ้ามาก"ใบหน้างามส่งยิ้มให้กับสาวใช้อย่างเป็นมิตรครั้นสั่งงานกับเสี่ยวอวี้เสร็จ เสิ่นชิงเยียนก็เดินออกไปรอรถม้าที่หน้าประตูจวน ทั้งสองคนตรงไปยังร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวาเป็นอันดับแรก
เสิ่นชิงเยียนเลือกผ้าอย่างดีสำหรับตัดอาภรณ์ของบุรุษมาหลายผืน นางค่อย ๆ เลือกแต่ละอย่างด้วยความประณีต ใส่ใจแม้กระทั่งเส้นด้ายที่จะเอาไว้เย็บชุดนางก็เลือกแล้วเลือกอีกจนถูกใจจริงๆ
ในขณะที่เสิ่นชิงเยียนกำลังยื่นมือไปหยิบผ้าฝ้ายชั้นดีของทางร้านนั้น ก็มีมือเรียวของหญิงสาวอีกคนยื่นมาจับที่ผ้าผืนเดียวกับนางอย่างพอดี ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน เสิ่นชิงเยียนรีบปล่อยมือและหันไปนางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อย
"อ้าวคุณหนูเสิ่น ช่างบังเอิญเสียจริง มาเลือกผ้าเช่นกันหรือ ข้าเองก็มาเลือกผ้าเช่นกันพี่สวี่เปรย ๆ ว่าอยากได้อาภรณ์ชุดใหม่ ปกติแล้วข้าเองก็ตัดเย็บชุดให้เขาเป็นประจำ พี่สวี่ชอบนักล่ะอาภรณ์ที่ข้าทำให้เขา อีกทั้งยังเอ่ยว่าไม่มีสตรีใดทำอาภรณ์ได้ถูกใจเขาเท่ากับข้าอีกแล้ว"
ไป่อ้ายเหม่ยยกมือคลี่พัดปิดหน้าพร้อมกับแสร้งทำท่าทีเขินอาย เสียงหัวเราะแหลมเล็กยิ่งได้ฟังแล้วก็ยิ่งบาดลงไปที่ดวงใจของเสิ่นชิงเยียน เจตนาของหญิงสาวอีกคนมีหรือที่นางจะดูไม่ออก
"คุณหนูไป่ เรียกข้าเช่นนั้นเห็นทีว่าจะไม่เหมาะสม ตอนนี้ข้าออกเรือนแล้ว หากจะให้ถูกต้องและเหมาะสม โปรดเรียกข้าว่าฮูหยินน้อยหานเถอะ"เสิ่นชิงเยียนมีใจรักใคร่หานสวี่ก็จริง หากแต่นางไม่จำเป็นต้องนอบน้อมกับคนที่ตั้งใจจะหาเรื่องนางเช่นนี้ หานสวี่รักไป่อ้ายเหม่ยแล้วอย่างไร นางจำเป็นต้องก้มหัวให้หรือ หาจำเป็นไม่นางเชิดใบหน้าขึ้นดูเย่อหยิ่งทว่ากลับงดงามราวกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์
ด้านไป่อ้ายเหม่ยเมื่อได้ฟังสิ่งที่หญิงสาวอีกคนพูด ใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที ริมฝีปากสวยเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน เป็นฮูหยินที่ไม่ต้องการ แล้วยังจะกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ หากนางไม่สั่งสอนเสียหน่อยคงจะเป็นการเสียน้ำใจกับอีกฝ่ายเสียแล้วกระมัง
"เอ่อ...ข้าต้องขออภัยเจ้านะเสิ่นชิงเยียน ข้าเองก็อยากจะเรียกเช่นนั้น หากแต่ข้าเคยเรียกไปแล้วพี่สวี่คงจะไม่พอใจเป็นอย่างมากตำแหน่งฮูหยินน้อยของพี่สวี่ ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่ามีไว้เพื่อผู้ใด" ไป่อ้ายเหม่ยทำสีหน้าเหมือนเห็นอกเห็นใจหญิงสาวตรงหน้าเสียเหลือเกิน
เสิ่นชิงเยียนหน้าชาขึ้นมาทันที เหล่าสตรีน้อยใหญ่ที่อยู่ในร้านต่างก็หันมามองเรื่องสนุกของสตรีทั้งสองที่กำลังถกเถียงสงครามอารมณ์กันอย่างนึกสนุก
"ฮูหยินเจ้าคะ เรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวเราต้องไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำขนมเซาปิ่งอีกนะเจ้าคะ"เสี่ยวเจียงเห็นท่าไม่ดี นางจึงรีบหาทางลงให้กับคุณหนูของตน เพราะตอนนี้ผู้คนก็สนใจใคร่รู้เรื่องของพวกนางทั้งสองอยู่มาก เรื่องถกเถียงของผู้อื่น ย่อมเป็นเรื่องสนุกสนานไม่น้อย
"นั่นน่ะสิ ข้าต้องขอตัวก่อนนะคุณหนูไป่ ข้าช่างโชคดียิ่งนักที่ได้แม่สามีที่รักใคร่ในตัวข้าเสมือนบุตรสาวแท้ ๆเพราะสตรีบางคนที่แต่งเข้ามาแล้วแม่สามีรังเกียจ ก็อยู่อย่างลำบากยิ่ง ข้าพูดถูกหรือไม่คุณหนูไป่ ข้าหวังว่าเจ้าจะแต่งเข้าจวนที่มีแม่สามีที่ดีเช่นเดียวกับข้านะ เอาล่ะข้าขอตัวก่อน เอาไว้โอกาสหน้าเราค่อยมาสนทนากันใหม่นะ เผื่อวันข้างหน้าเจ้าแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรองของข้า เราคงได้มีโอกาสสนทนากันมากขึ้น"
เสิ่นชิงเยียนส่งยิ้มเย้ยหยันให้กับไป่อ้ายเหม่ย ที่ยืนจ้องมองนางด้วยแววตาเกลียดชังอยู่ตรงนั้น สายตาของไป่อ้ายเหม่ยมองเห็นว่า เสิ่นชิงเยียนหยิบผ้าผืนที่นางต้องตาไปด้วย แววตาก็แสดงออกถึงความเคียดแค้น นางจึงหยิบผ้าที่เหมือนกันกับที่เสิ่นชิงเยียนถือติดมือไปด้วย
แล้วนำมันไปจ่ายเงินและออกจากร้านไปเช่นกันหึ!! คิดจะตัดชุดให้หานสวี่หรือ แล้วมาลองดูกันสิว่าหานสวี่จะเลือกใส่ของใคร ไป่อ้ายเหม่ยยกริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา
"หึ!!ฮูหยินรองหรือ คนอย่างข้าต้องได้เป็นฮูหยินเพียงคนเดียวเท่านั้น คอยดูเถอะเสิ่นชิงเยียน ข้าจะจัดการเจ้าออกไปให้พ้นทางให้ได้คอยดูเถิด"
...
"ดูก็รู้ว่าคุณหนูไป่ตั้งใจจะหาเรื่องฮูหยิน เมื่อสักครู่บ่าวน่าจะตบสักสอนนางสักฉาด" เสี่ยวเจียงพูดออกมาอย่างมีโทสะแต่เสิ่นชิงเยียนกลับยิ้มอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
"เจ้าจะไปตบคุณหนูไป่ได้อย่างไร นางเป็นถึงบุตรสาวท่านกงซุน หากเจ้าลองแตะต้องนางเรื่องคงบานปลายไปกันใหญ่ ไปเถอะอย่ามัวพูดมากอยู่เลย ข้าจะรีบกลับจวนแล้ว"
เสิ่นชิงเยียนและเสี่ยวเจียงเดินไปซื้อของสำหรับทำขนม นางพลางคิดอยู่ในใจ หากเรื่องวันนี้ไป่อ้ายเหม่ยนำไปฟ้องหานสวี่ เขาต้องไม่พอใจที่นางพูดจาเสียดสีคนรักของเขาเป็นแน่ นางถอนหายใจออกมาอย่างปลงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ