"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย
"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม
"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่
ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า
"ที่นี่คือจวนของข้า ข้ามีสิทธิ์จะโบยใครก็ได้ตามใจของข้า" หานสวี่หันไปตวาดเสิ่นชิงเยียนเสียงดังนางรู้สึกหวาดหวั่นกับสีหน้าและท่าทางของคนตรงหน้า ทว่าก็ยังทำใจกล้าสู้หน้าเขา ทั้ง ๆ ที่ขานางสั่นจวนเจียนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
"หากท่านไม่แจ้งแก่ข้า ว่าสาวใช้ข้าทำเรื่องใดที่ผิดต่อท่าน ข้าที่เป็นเจ้านายคงจะปล่อยให้ท่านลากคนของข้าออกไปโบยโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้เจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนจ้องหน้าหานสวี่กลับไปอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน
"ได้!! เสิ่นชิงเยียนหากเจ้ารนหาที่ก็ย่อมได้ ดี!! พ่อบ้านลากตัวนางออกไปโบยพร้อมกับสาวใช้ของนาง" เสิ่นชิงเยียนเบิกตากว้างอย่างตกใจ นางไม่เคยคิดเลยว่าหานสวี่จะเป็นบุรุษที่ไร้เหตุผลและจิตใจหยาบกระด้างถึงเพียงนี้
"อย่ามาแตะต้องตัวข้า ท่านมีเหตุผลอะไรถึงมาสั่งโบยพวกข้า ข้ามีสิทธิ์จะรู้ความผิดของตนเอง" นางเชิดหน้าขึ้นมองด้วยสายตาที่ปวดร้าว
"สาวใช้ของเจ้าแข็งข้อไม่ฟังคำสั่งของข้า เหตุผลข้อนี้ข้าสั่งโบยได้หรือไม่ ที่นี่คือจวนของข้า หากไม่เชื่อฟังข้าจะอยู่ร่วมกับข้าได้อย่างไร ส่วนเจ้าเสิ่นชิงเยียน เจ้าสั่งสอนให้สาวใช้แข็งข้อกับข้า และที่สำคัญเจ้ามีสิทธิ์อันใดไปหาเรื่องคนรักของข้า นางหาใช่คนที่เจ้าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้" หานสวี่จ้องหน้านางเหมือนอยากเข้ามาบีบคอบางให้หักคามือเมื่อช่วงบ่าย สาวใช้ของไป่อ้ายเหม่ยนำความมาบอกแก่เขาที่สำนักศึกษาหลวง เรื่องที่เสิ่นชิงเยียนประกาศกร้าวว่านางจะไม่ยอมให้ไป่อ้ายเหม่ยได้แต่งเข้ามาเป็นภรรยาเอกของหานสวี่ และยังบอกอีกว่าเสิ่นชิงเยียนด่าไป่อ้ายเหม่ยให้ได้รับความอับอาย หาว่าไป่อ้ายเหม่ยจะสวมหมวกเขียวให้นาง ผู้คนต่างก็ได้ยินกันทั่วร้านมู่ต๋านฮวา สร้างความอับอายให้ไป่อ้ายเหม่ยเป็นอย่างมาก
เมื่อหานสวี่ได้ฟังดังนั้นใจก็ร้อนเป็นไฟ ชายหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เขาเดินทางไปปลอบไป่อ้ายเหม่ยที่จวนอยู่เป็นนานสองนาน พร้อมกับรับปากว่าจะคืนความยุติธรรมให้แก่นางอย่างแน่นอน
"หึ...นางกล่าวเช่นนั้นท่านก็เชื่อเสียแล้ว ทำไมท่านไม่ถามข้าบ้างเล่า ว่านางกับข้าพูดจาอันใดกัน" เสิ่นชิงเยียนแสยะยิ้มออกมาใบหน้าหวานบูดเบี้ยว ใจร้าวระทมกับความใจดำของคนที่ได้ชื่อว่าสามี หากเขาจะถามนางสักครึ่งคำ หาใช่มาปรักปรำกันเช่นนี้
"ข้าต้องถามด้วยหรือ เหตุใดข้าต้องถามเจ้ากันเล่า เจ้าไม่ได้มีความสำคัญอันใดต่อข้าเลยแม้แต่น้อย มันก็แจ้งแก่ใจอยู่แล้วว่าเจ้ามันไร้ยางอายถึงเพียงใด พ่อบ้านยังไม่มาลากนางออกไปโบยอีก หรือว่าจะให้ข้าสั่งโบยเจ้าด้วยอีกคน"
พ่อบ้านชรารีบเข้ามาในห้อง สีหน้าของพ่อบ้านดูไม่ดีเอาเสียเลย เขาทำความเคารพเสิ่นชิงเยียนด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน ทว่าไม่กล้าที่จะยื่นมือออกไปโดนตัวของนาง
หานสวี่เห็นเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป เสียงทรงอำนาจของเถาฮวาก็ดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง
"ใครกล้าถูกตัวลูกสะใภ้ข้า ข้าจะขายมันออกไป บ่าวที่เลี้ยงไม่เชื่องโง่เขลาเบาปัญญา ก็หาได้มีความจำเป็นต้องอยู่ในจวนของข้าไม่ บ่าวชั่วเช่นนี้ข้าจะเลี้ยงไว้ทำประโยชน์อันใดกัน"เถาฮวาเข้ามาในห้อง นางกวาดสายตามองผู้คนในห้อง พ่อบ้านชรารีบก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว หากจะพูดตามความเป็นจริงแล้ว คนที่มีอำนาจอย่างแท้จริงก็หนีไม่พ้นฮูหยินใหญ่เถาฮวาคนนี้ ขนาดหานจี้กงยังต้องเกรงใจนางอยู่หลายส่วน
"ข้าไม่กล้าขอครับฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยไม่กล้า"พ่อบ้านชราได้โอกาสรีบหลบออกมาทันที เรื่องของนายหาใช่เป็นสิ่งที่บ่าวอย่างเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ไม่
"ช่างดีเหลือเกินบุตรชายข้า เจ้าเก่งกล้ามากสินะหานสวี่ เชื่อนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไป่อ้ายเหม่ยอย่างไม่ลืมหูลืมตา ช่างโง่เขลาเบาปัญญาเสียจริง ๆ "ฮูหยินเถาฮวาปรบมือเสียงดัง นางหันไปมองหน้าบุตรชายตนเองใบหน้าของนางที่จ้องมองบุตรชายนั้นบูดบึ้ง สองแม่ลูกยืนมองหน้ากัน ก่อนที่หานสวี่จะก้มหน้าลง
"นางพูดอันใดเจ้าก็เชื่อนางไปเสียหมด หากวันใดนางมาบอกเจ้าว่าแม่ไปหาเรื่องนาง เจ้าก็คงจะสั่งคนมาโบยแม่สินะ" หานสวี่เงยหน้าขึ้นมองมารดาตนเองอย่างตกใจ
"ท่านแม่ข้าไม่บังอาจ ข้าจะกล้าทำอย่างนั้นได้เช่นไรกันขอรับ" หานสวี่เอ่ยตอบมารดาตนเองทันที
"ไม่กล้าหรือ แล้วเหตุใดจึงกล้าสั่งโบยฮูหยินของเจ้า นางผิดอันใด เจ้ารู้แจ้งแล้วหรือ ข้ายังไม่ได้ยินเจ้าถามนางสักครึ่งคำ ก็จะสั่งโบยคนต่อไปภายภาคหน้าเจ้าจะปกครองบ่าวไพร่ในจวนได้เยี่ยงไร หากหูเบาเช่นนี้"เถาฮวาได้โอกาสสั่งสอนบุตรชายตนเอง ที่นับวันจะโง่เขลาเบาปัญญามองมารยาของสตรีเช่นไป่อ้ายเหม่ยไม่ออก
"ข้าผิดไปแล้วขอรับ แต่เสิ่นชิงเยียนก็มิควรไปหาเรื่องเหม่ยเอ๋อร์ นางบอบบาง คุณหนูเช่นนางคงจะสู้ปากลูกสาวพ่อค้าอย่างนางไม่ได้ ท่านแม่ไม่ชอบนางก็แล้วไป หากไม่ให้ความเป็นธรรมกับนางบ้าง ผู้อื่นจะมองว่าตระกูลหานรังแกผู้คนเอาได้นะขอรับ" หานสวี่หันไปมองเสิ่นชิงเยียนที่ยืนหลบอยู่หลังมารดาของตนอย่างเกลียดชัง ท่านแม่ต่างหากเล่าที่มองมารยาของสตรีนางนี้ไม่ออก หาใช่เขาไม่
"เจ้าไปหาเรื่องไป่อ้ายเหม่ยหรือเยียนเอ๋อร์" เถาฮวาหันไปถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงเบาลงไปหลายส่วน
"เปล่าเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเพียงบอกนางว่าข้าโชคดีที่มีแม่สามีรักใคร่ หากนางได้แต่งเข้าจวนใดก็ขอให้มีแม่สามีที่ดีเช่นข้า เพียงเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"
"เจ้าบอกว่าจะให้นางมาเป็นอนุของข้า เจ้าดูถูกนางที่เป็นบุตรสาวท่านกงซุนถึงเพียงนี้ เจ้าจะว่าอย่างไร" หานสวี่พูดแทรกขึ้นมาเสียงดัง เสิ่นชิงเยียนขมวดคิ้วเรียวเข้าด้วยกัน
"ข้าหาได้พูดเช่นนั้นไม่เจ้าค่ะ ข้าเพียงบอกว่า วันนี้ข้าไม่มีเวลาสนทนาด้วย หากเจ้าแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรอง เราอาจจะมีเวลาสนทนากันมากขึ้น ก็เพียงเท่านี้ ข้าหาได้ให้นางมาเป็นอนุท่านไม่" ไม่คิดว่าบุตรสาวเจ้านายเช่นไป่อ้ายเหม่ยจะปั้นน้ำเป็นตัวเก่งถึงเพียงนี้ ในใจเสิ่นชิงเยียนอดจะนับถือในการสร้างเรื่องสร้างราวของอีกฝ่ายไม่ได้เลยจริง ๆ
"เจ้าโกหก" หานสวี่ตวาดออกไป
"พอได้แล้ว เยียนเอ๋อร์บอกว่าไม่ได้พูด เหตุใดเจ้าจึงไม่เชื่อนาง เจ้าไปหาหลักฐานมาหานสวี่ หากจะมาปรักปรำคนในจวนของข้า ก็ต้องหาหลักฐานมาให้ข้า ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ แล้วไป่อ้ายเหม่ยคือผู้ใดจึงกล้ามากล่าวหาลูกสะใภ้ของข้าเช่นนี้"
หานสวี่ไม่พูดสิ่งใดอีก ใบหน้าหล่อเหลาเขียวคล้ำไปด้วยโทสะ เขาก้มศีรษะคำนับมารดาตนเองก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 1งานมงคลอันยิ่งใหญ่ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวที่ประดับประดาด้วยผ้าสีแดงสด กำลังเคลื่อนขบวนทอดยาวไปตามท้องถนนอย่างยิ่งใหญ่ สินเดิมมากมายนับไม่ถ้วนที่ทางจวนตระกูลเสิ่นจัดเตรียมให้แก่บุตรสาวมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองหลวงแห่งนี้เจ้าบ่าวหน้าตาหล่อเหลาแต่ทว่ากลับไร้รอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนใบหน้า เขาขี่อาชาสีนิลนำอยู่ด้านหน้าขบวน เหล่าบรรดาชาวบ้านต่างออกมามุงดูมากกว่าจะออกมาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว เพราะทุกคนต่างรู้ว่างานมงคลอันยิ่งใหญ่ของสกุลหานกับสกุลเสิ่นนั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ทุกคนรู้อยู่เต็มอกว่าหานสวี่บัณฑิตหนุ่มรูปงามผู้เลื่องชื่อ มีหญิงงามในดวงใจอยู่ก่อนแล้ว ทว่าทั้งสองไม่อาจเคียงคู่กันได้ เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่สองตระกูลที่มีต่อกัน ท่านพ่อเอ่ยเพียงว่าตระกูลหานกับตระกูลเสิ่นมีสัญญาใจที่ติดค้างต่อกัน คนเป็นลูกเช่นเขาจะทำอย่างไรได้เล่า สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่ก้มหน้ารับชะตากรรมเท่านั้นหานสวี่ยื่นมือไปรับเจ้าสาวลงจากเกี้ยว ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้าไปในจวนตระกูลหาน เสิ่นชิงเยียนก้มหน้ามองพื้นเดินตามร่างหนาเข้าไปด้วยหัวใจสั่นไหว ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยชาดสีชมพูหวานขับผิวนางให้สวยง
ตอนที่ 12 ไหน้ำส้มแตก"พี่เทียนอี้เชิญดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ"เสิ่นชิงเยียนรับขนมกับน้ำชาจากสาวใช้คนสนิท แล้วจึงวางเอาไว้ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่ม"อืม!! ชาหลงจิ่งใช่หรือไม่ รสชาติดียิ่งนัก จำได้ว่าพี่เคยนำชาหลงจิ่งจากท่านน้าซุนฟากลับไปที่ชายแดนด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ไม่เคยได้ดื่มอีกเลย" จ้าวเทียนอี้ค่อย ๆ ลิ้มรสชาติชาชั้นดีจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างมีความสุขชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ใช้เฉพาะจวนตระกูลเสิ่นเพียงเท่านั้น ที่อื่นหาได้มีไม่ ทว่าที่จวนตระกูลหานมีชาชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าเสิ่นชิงเยียนต้องนำของดีจากจวนตนเองมาใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกไม่ ในเมื่อนางแต่งเข้ามาในสกุลหานแล้ว นางก็คงจะอยากเอาใจผู้คนสกุลหานเช่นนั้นกระมั้ง"เจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์แบ่งเอามาไว้ชงให้ท่านพ่อกับท่านแม่สามีเยียนเอ๋อร์ได้ดื่มเจ้าค่ะพี่เทียนอี้จะกลับชายแดนวันไหนหรือเจ้าคะ"เสิ่นชิงเยียนเห็นแม่ทัพหนุ่มดื่มชาหมดจอกนางก็เป็นคนเติมลงไปให้ ใบหน้าหวานยิ้มกว้างอย่างพอใจ ที่เห็นพี่ชายคนสนิททั้งดื่มชาและกินขนมที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นชิงเยียนนึกไปถึงสมัยเมื่อครั้งยังเยาว์ นางติดจ้าวเทียนอี้ยิ่งนักไม่ว่าพี่ชายคนนี
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ