เสิ่นชิงเยียนแต่งเข้าสกุลหานมานานร่วมเดือนแล้ว ตามธรรมเนียมนางจะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมหลังแต่งงาน แต่ทว่าเมื่อใดที่นางเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับถูกหานสวี่เอ่ยต่อว่านางด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเสียทุกครั้ง
"...ท่านพี่เจ้าคะ"
เมื่อหลายวันก่อน หานสวี่กำลังนั่งทบทวนตำราที่จะนำไปสอนเหล่านักเรียนที่สำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี้ยน หานสวี่เป็นคนรักในการอ่านตำราและบทกลอนเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิตทั่วๆ ไป หนังสือทุกเล่มย่อมเคยผ่านตาเขาทั้งหมด หากลองได้อ่านแม้เพียงครั้ง เขาก็จำมันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานนักเสียงหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา ถึงแม้เสียงนั้นจะหวานหยาดเยิ้มชวนฟังเพียงใด แต่หานสวี่ก็เห็นเป็นเพียงเสียงหวานที่อาบไปด้วยยาพิษหาได้น่าฟังให้รื่นหูไม่ ซ้ำร้ายยิ่งได้ฟังยิ่งบาดหูเขาจนน่ารำคาญ
"อย่าเรียกข้าเช่นนั้นอีก เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าเช่นนั้น" เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ คำว่าท่านพี่คงจะมีแค่ไป่อ้ายเหม่ยคนเดียวเท่านั้น ที่เขายอมให้นางได้เรียกหาตามใจปรารถนาได้
"แต่ว่า...ข้าเป็นฮูหยินของท่าน หากไม่ให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพี่ แล้วข้าจะเรียกท่านว่าอย่างไรเล่าเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนเอ่ยถามขึ้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ดวงตาที่ใสซื่อไร้พิษสงเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำตาช่างดูน่าสงสารและน่าเวทนายิ่งนัก เพียงแค่คำเรียกขานเพียงคำเดียวเท่านั้น นางก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกเขาเลยหรือ เหตุใดจึงได้ใจร้ายกับนางเช่นนี้เล่า เสิ่นชิงเยียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดร้าวไปทั้งกายใจ
"ฮูหยินหรือ หึ!! อย่ามาพูดให้ข้ารู้สึกขบขันเจ้าเสียดีกว่า สตรีที่กล้าใช้อำนาจพันธสัญญาเก่าดึกดำบรรพ์ที่ควรจะจบสิ้นไปพร้อมวิญญาณของท่านปู่ข้ามาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานด้วยน่ะหรือ ช่างหน้าไม่อายเกินสตรีใดในใต้หล้า!!!"
คนฉลาดย่อมไม่กระตุกหนวดเสือ นางรู้ดีว่าหากยังดึงดันถามเซ้าซี้ก็คงจะไม่มีผลดีอันใดเกิดขึ้น นอกเสียจากจะสร้างความรำคาญให้กับเขามากขึ้นไปอีกเท่านั้น
"ข้าอยากกลับไปเยี่ยมบ้าน ตามธรรมเนียม..."
"หุบปาก!! อย่ามาพูดเรื่องธรรมเนียมกับข้า เจ้าแต่งเข้ามาในจวนตระกูลหานโดยที่ข้าไม่ต้องการ เจ้ายังจะกล้าพูดเรื่องธรรมเนียมถึงสองครั้งสองครากับข้า เจ้านี่ช่างไม่ละอายเสียจริง หน้าด้านหน้าทน ข้าไม่ไป...ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับข้า หากเจ้าอยากไป ข้าก็ไม่ห้าม และจะดีมากหากเจ้าจะไปแล้วไม่กลับมาที่จวนของข้าอีก คราวหน้าอย่าเอาเรื่องไร้สาระเช่นนี้มาพูดกับข้าอีก ออกจากห้องหนังสือของข้าไปเสีย หากไม่จำเป็นอย่าได้เสนอหน้าเข้ามาอีก..."
หานสวี่ก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อโดยที่ไม่ได้สนใจภรรยาที่น่าชิงชังของตนเองอีก นางจะรู้สึกเช่นใดหาใช่เรื่องที่เขาจะต้องไปใส่ใจ เขาไม่จำเป็นต้องสงสารหรือใส่ใจสตรีไร้ยางอายเช่นนางจริงหรือไม่...
เสิ่นชิงเยียนนั่งเหม่อลอยอยู่ในโรงครัว นางกำลังเด็ดผักสำหรับทำสำรับมื้อเย็น โดยปกติแล้วเสิ่นชิงเยียนก็จะออกจากเรือนนอนมาช่วยสาวใช้ทำสิ่งต่าง ๆ ในจวน นางไม่ได้วางตัวสูงส่งเหมือนดังฮูหยินในจวนอื่นๆ นางเป็นเพียงบุตรสาวพ่อค้าธรรมดาก็เพียงเท่านั้น หากแต่ท่านพ่อของนางเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยมหาศาลนางจึงมีชีวิตที่สุขสบายกว่าผู้อื่นบ้าง
"เข้าครัวเองเลยหรือเยียนเอ๋อร์" เถาฮวาเดินเข้ามาในโรงครัว นางยืนมองลูกสะใภ้ที่นั่งใบหน้าเศร้าหมองก่อนจะทอดถอนใจ เถาฮวาสงสารเสิ่นชิงเยียนเป็นอย่างมาก ครั้นนางจะไปก้าวก่ายชีวิตครอบครัวของทั้งคู่มากก็คงไม่เหมาะเท่าใดนัก หากไม่หนักหนาจริง ๆ นางก็อยากให้ทั้งคู่ได้จัดการกันเอง เพียงแค่นางคอยบอกคอยสอนกลยุทธ์นิด ๆ หน่อย ๆ ก็เพียงเท่านั้น
"เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่อยากกินอันใดเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ เยียนเอ๋อร์จะจัดทำให้เจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นคำนับแม่สามี นางเดินเข้าไปประคองฮูหยินใหญ่เถาฮวามานั่งลงที่เก้าอี้ที่นางนั่งเมื่อสักครู่
"อืม...ถ้าเช่นนั้นเจ้าทำน้ำแกงไก่เถอะ สามีเจ้าก็ชอบนักล่ะ แม่ไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าทำอาหารเป็นด้วย ช่างดีจริงเชียว" เถาฮวาหยิบถ้วยผักที่นางทำค้างไว้มาช่วยเด็ดต่อ เหล่าบรรดาคนรับใช้ต่างก็ทำตัวไม่ถูกรู้สึกร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก เพราะเวลานี้ฮูหยินทั้งสองท่าน ได้เข้ามาแย่งงานพวกนางทำจนหมดสิ้นแล้ว
"ทำเป็นเจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์หัดเข้าครัวตั้งแต่เล็ก ๆ แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่บอกกับเยียนเอ๋อร์ว่า วันข้างหน้าเยียนเอ๋อร์จะต้องแต่งเข้าสกุลหาน เยียนเอ๋อร์จึงหัดเรียนรู้ทุกอย่างให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ เยียนเอ๋อร์จะไม่ทำให้สกุลหานต้องขายหน้าอย่างเด็ดขาดเจ้าค่ะ"
ย้อนนึกถึงวันวานสมัยนางยังเป็นดรุณีน้อยแรกแย้ม ครั้นได้ฟังบิดาแจ้งว่านางได้หมั้นหมายกับหานสวี่แล้ว นางก็ตั้งใจเล่าเรียนการเป็นภรรยาที่ดีมาตลอด อาหารการกิน งานฝีมือต่าง ๆ นางเองก็ไม่เป็นสองรองใคร ครั้นเถาฮวาได้ฟังก็ยิ่งเอ็นดูลูกสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก สวรรค์มีตาส่งลูกสะใภ้คนนี้มาให้สกุลหาน หากเพียงท่านจะส่งสติปัญญาในการดูสตรีให้บุตรชายนางบ้างสักนิดก็คงจะดี
"เสิ่นฮูหยินสอนบุตรได้ดียิ่งนัก แม่ดีใจที่ได้เจ้ามาเป็นสะใภ้ เอาล่ะมาเถอะแม่จะช่วยทำเอง หากเจ้าอยากเอาใจสามีเจ้า แม่จะบอกเจ้าเองว่าสามีเจ้าชอบหรือไม่ชอบอันใดดีหรือไม่" เถาฮวายกมือขึ้นไปลูบศีรษะของสะใภ้อย่างเอ็นดูรักใคร่
"เจ้าค่ะ"
เสิ่นชิงเยียนยิ้มออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อย ๆ นางเองก็ดีกว่าสหายนางที่แต่งเข้าบ้านสามี แล้วแม่สามีชิงชัง ฮูหยินใหญ่ช่างดีต่อนางนัก
สำรับอาหารมื้อเย็นถูกจัดสรรอย่างประณีตด้วยฝีมือของสองฮูหยินในจวน เถาฮวาบอกหลายสิ่งหลายอย่างที่หานสวี่ชอบ หรือสิ่งใดที่เขาไม่ชอบ เสิ่นชิงเยียนจดทุกอย่างลงในสมุด นางหมายมั่นเอาไว้ อาหารการกินทุกมื้อของสามีนางจะเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง เสิ่นชิงเยียนตัดสินใจแล้วว่า นางจะลองพยายามดูสักครั้ง ความจริงใจของนางอาจจะไปถึงสามีนางบ้างในสักวัน
ตอนที่ 4คนที่ไม่อยากเจอ"ฮูหยินเจ้าคะ ร้านขายผ้ามู่ต๋านฮวากำลังเป็นที่นิยมในหมู่สตรี บ่าวได้ยินมาว่าผ้าของร้านนี้เนื้อผ้าดียิ่งนัก หากเรานำมาตัดเป็นอาภรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ในงานโคมไฟที่จะถึงในอีกไม่ช้านี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ" เสี่ยวเจียงเห็นคุณหนูของตนนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาริมน้ำเป็นนานตั้งแต่แต่งเข้าสกุลหานมา จากคุณหนูที่มีใบหน้าสดใสร่าเริงราวกับดอกไม้แรกแย้มก็มลายหายไป บัดนี้นางเห็นแต่เพียงหญิงสาวที่ใบหน้าโศกเศร้าทุกข์ระทม เสี่ยวเจียงคิดในใจหากมีรักแล้วต้องทุกข์ นางไม่ขอมีคู่ไปตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า"งานโคมไฟหรือ"แววตาของเสิ่นชิงเยียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสาวใช้พูดถึงเทศกาลที่เหล่าคู่รัก มักจะนิยมออกไปลอยโคมขอพรที่ริมแม่น้ำกันเป็นคู่ ๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยใฝ่ฝันที่จะได้ลอยคู่กับชายคนรัก แต่มาบัดนี้ความหวังนั้นช่างเลือนรางไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาที่เป็นประกายเมื่อสักครู่ก็หม่นแสงลงอีกครั้ง"เจ้าค่ะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เองเราไปหาซื้อผ้ามาไว้ตัดอาภรณ์กันดีหรือไม่เจ้าคะ"เสี่ยวเจียงไม่ทันสังเกตแววตาของเจ้านายตนเอง นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงกังวานใสไม่หยุด เสิ่นชิ
ตอนที่ 5 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า"ที่นี่คือจวนของข้า ข้า
ตอนที่ 6 ภาพบาดตา"อืมลูกว่าจะถามท่านแม่หลายวันแล้ว ท่านแม่เปลี่ยนแม่ครัวมาใหม่หรือขอรับ อาหารถูกปากลูกยิ่งนัก ยิ่งหมาผัวโต้วฟู (เต้าหู้มาโฝ) นี่ยิ่งรสเลิศ น้ำซอสเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่หวานไม่เค็ม พรุ่งนี้ท่านแม่บอกแม่ครัวทำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ"หานสวี่รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างเจริญอาหารมากกว่าแต่ก่อน เขาคิดว่าจะต้องตกรางวัลให้กับแม่ครัวผู้มาใหม่บ้างเสียแล้ว อาหารแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารที่เขาชอบ เมื่อก่อนหานสวี่จะไม่กินของหวานเลย เพราะไม่ชอบรสชาติที่หวานมากจนแสบคอ ทว่าตอนนี้หานสวี่กลับรู้สึกว่า หลังรับอาหารหนักๆแล้ว เขามักจะต้องตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำฮูหยินเถาฮวามองใบหน้าบุตรชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารรสเลิศก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ นางหันไปมองหน้าลูกสะใภ้ เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย ก็พลันรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองบอกและสั่งสอนลูกสะใภ้น่าจะเห็นผลขึ้นมาบ้างเสียแล้ว"นั่นสิข้าก็เจริญอาหารยิ่งนัก ฮูหยินรับแม่ครัวมาจากที่ใดกันหรือ" หานจี้กงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย ตั้งแต่แต่งลูกสะใภ้เข้าจวน อาหารการกินก็รสชาติดีขึ้นเป็นอย่างมาก หรืออาจจะเป็นเพราะฮูหยินใหญ่ เอาใจใส่ลูกสะใ
ตอนที่ 7บุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอายเสิ่นชิงเยียนเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในเมื่อเห็นเต็มสองตาเช่นนี้แล้ว นางจะรั้งรอจนครบสามปีได้หรือ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์คำพูดนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ'เยียนเอ๋อร์ แม่ทำถูกจริงหรือไม่ หากเจ้าต้องหมองเศร้าเช่นนี้ ขอเวลาให้แม่อีกเพียงนิดเถิด หากเจ้าลูกชั่วยังตามืดบอดแม่ก็จะปล่อยเจ้าไป' เถาฮวามองเห็นลูกสะใภ้ตนเองเดินกลับเรือนด้วยความเศร้าหมอง นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปที่ศาลาริมน้ำ ฮูหยินใหญ่เห็นมือหนาของบุตรชายยังคงกุมมือบางของไป่อ้ายเหม่ย ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันควัน นางเชิดหน้าและเดินตรงเข้าไปยังทั้งสองคนที่ยืนพลอดรักกันอยู่ทันที"ข้าก็คิดว่าสตรีใดที่หน้าด้านวิ่งโร่มาหาบุรุษที่มีภรรยาแล้วถึงจวนของข้า ที่แท้ก็คุณหนูไป่อ้ายเหม่ย บุตรสาวของท่านกงซุนนี่เอง เป็นอย่างไรบ้างเล่า อยากได้บุตรชายของข้ามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ อ้อ!! ข้าได้ยินว่าเจ้าสองคนนัดพบกันที่งานโคมไฟหรือ ดีจริงเชียวบุรุษโง่เขลากับสตรีไร้ยางอาย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก"เพียงแค่เห็นฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาไป่อ้ายเหม่ยกับหานสวี่ก็รีบแยกออกจากกัน มือที่
ตอนที่ 8 ข้าหาใช่คนโง่ที่จะถูกเจ้าหลอกหานสวี่ตื่นมาในรุ่งเช้าชายหนุ่มนั่งมองไปยังพื้นห้องที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ แต่บัดนี้กลับว่างเปล่า ค่ำคืนที่ผ่านระหว่างเขากับนางไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เสิ่นชิงเยียนมิได้ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างที่เขากล่าวหา หานสวี่นอนเฝ้ารอจนกระทั่งหลับไป นางก็ยังคงนอนอยู่บนที่นอนของนางดั่งเดิม เขาเองจึงหลับสบายไปจนถึงเช้า"ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำให้ท่านล้างหน้าล้างตาแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นชิงเยียนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าหานสวี่นั่งทำท่ามึนงงอยู่ก่อนแล้ว นางไม่ใคร่สนใจว่าเขาจะคิดอันใด เพราะหากถามออกไปก็ไม่พ้นจะโดนตำหนิเหมือนเช่นทุกครา"อืม" หานสวี่ปรายตาไปมองนาง เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือ นางอยากแต่งเข้ามาในจวนเขา ก็สมควรที่นางจะต้องปรนนิบัติเขาเช่นนี้มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามีย่อมถูกต้องอยู่แล้ว..."เจ้าว่าอย่างไรนะ คุณชายใหญ่และฮูหยินน้อยไม่ร่วมหลับนอนเช่นสามีภรรยาทั่วไปเช่นนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ไหนเจ้าบอกข้าว่าคุณชายใหญ่ไม่ได้ออกมาจากห้องทั้งคืน"ฮูหยินเถาฮวาขมวดคิ้วมุ่นนางหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้
ตอนที่ 9 เทศกาลโคมไฟ"คุณชายใหญ่ขอรับ นายท่านเชิญไปพบที่ห้องหนังสือขอรับ"ซีห่าวพ่อบ้านชรารีบวิ่งเข้าไปรายงานเขาหานสวี่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าพ่อบ้านชรา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น เขาแสดงออกถึงความลังเลออกมาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว"ท่านพ่อเรียกหาข้ามีเหตุใดหรือขอรับ" หานจี้กงเงยหน้าขึ้นมองบุตรชาย ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปยังเก้าอี้ตรงข้าม หานสวี่จึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งทันที"พ่อมีเรื่องจะหารือกับเจ้าเพียงไม่นาน" หานสวี่ไม่มีทางเลือก เขาจำต้องยอมอยู่พูดคุยกับบิดาเสียก่อนแม้จะรีบร้อนอยากไปพบไป่อ้ายเหม่ยเพียงใดก็ตาม หานจี้กงจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาที่ล้ำลึก เขารู้ทันเสียหรอก หานสวี่คงจะรีบไปงานโคมไฟตามที่ได้นัดหมายกับไป่อ้ายเหม่ยเอาไว้เป็นแน่ หานจี้กงไม่อยากจะขัดขวางบุตรชายเท่าใดนัก แต่ทว่าเขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจของภรรยาตนได้เช่นกัน เถาฮวาไม่ชอบไป่อ้ายเหม่ย และเขาก็เห็นด้วยกับภรรยา การที่หานสวี่มีภรรยาแล้ว และยังจะไปนัดกับสตรีนางอื่นคงจะไม่ดีนักหานจี้กงจึงมาบังคับบุตรชายคงจะง่ายเสียกว่า"ท่านพ่อว่ามาเถอะขอรับ" หานสวี่จำต้องนั่งฟังผู้เป็นบิ
ตอนที่ 10แม่สามีจัดให้"เยียนเอ๋อร์แต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ หากเจ้ายังชักช้าอยู่เช่นนี้เราคงจะตามชายโฉดหญิงชั่วไม่ทันเป็นแน่ เจ้าช่วยเร่งมือหน่อยเถิด"เสิ่นชิงเยียนหันไปมองที่ประตู นางได้ยินเสียงกังวานใสของฮูหยินใหญ่ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไรเล่าก็ลูกสะใภ้คนโปรดแต่งตัวอยู่ในห้องหอเป็นนานสองนาน บุตรชายนางก็ออกจากจวนไปตั้งนานแล้ว หากไม่รีบตามไปคงไม่ทันเวลาเป็นแน่"เสร็จแล้วเจ้าค่ะท่านแม่" ครั้นเสิ่นชิงเยียนเปิดประตูออกมา ก็เจอเข้ากับฮูหยินใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง"เยียนเอ๋อร์ขออภัยที่ให้ท่านแม่รอนานนะเจ้าคะ"ใบหน้าสวยหวานก้มลงอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้แม่สามีต้องมายืนรอตนที่หน้าห้องเป็นเวลานานเช่นนี้"ไปกันเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย"เถาฮวาหาได้ถือสาเอาความอันใดกับลูกสะใภ้ นางหันไปคว้าแขนเสิ่นชิงเยียนและดึงนางให้เดินออกไปยังรถม้าที่จอดอยู่หน้าจวนอย่างเร่งรีบเสิ่นชิงเยียนไม่ได้คัดค้านอันใดอีก นางรู้ดีว่าสามีนางมีนัดกับหญิงคนรัก นางเองก็เคยประจักษ์กับตาแล้วว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด ครั้นจะเข้าไปแยกทั้งคู่หาใช่เรื่องสมควรไม่ เพราะถึงอย่างไรอีกเพียงสามปีนางก็ต้องย
ตอนที่ 11 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง"พี่เทียนอี้!!!" เสิ่นชิงเยียนได้ยินเสียงกึ่งตัดพ้อตนเองก็นึกสงสัยคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางค่อย ๆ หันหน้าไปมองแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวาน ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานใสเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปเสียงดังอย่างลืมนึกถึงมารยาทของสตรีที่พึงกระทำ "ใช่แล้วเป็นพี่เทียนอี้ของเจ้าเอง แต่เยียนเอ๋อร์ยังจำพี่ได้อยู่อีกหรือ" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมา มีความอ่อนโยนอยู่หลายส่วน เสิ่นชิงเยียนยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ นานเพียงใดแล้วที่นางกับจ้าวเทียนอี้มิได้พบเจอกันเลย ภาพวันวานไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้า สะกดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมาให้หยุดมอง ไม่เว้นแม้แต่บุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามี หานสวี่มิเคยเห็นรอยยิ้มเบิกบานของนางเช่นนี้มาก่อน"พี่เทียนอี้อย่าได้น้อยใจเลย เยียนเอ๋อร์ทราบดีว่าพี่เทียนอี้มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย งานมงคลของเยียนเอ๋อร์เป็นเรื่องเล็ก ไหนเลยจะกล้ารบกวนพี่เทียนอี้เล่าเจ้าคะ เอ่อ...พี่เทียนอี้เจ้าคะ นี่ฮูหยินเถาฮวา ฮูหยินใหญ่สกุลหานแม่สามีเยียนเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนหันไปมองเห็นเถาฮวาที่ยืนทำหน้างุนงง ก็รี
ตอนพิเศษ 2 หานจุ้นเสิ่นชิงเยียนเดินหน้าบึ้งตึงไม่ยอมรอหานสวี่ ชายหนุ่มรีบเดินตามหลังนางไปติด ๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ผิดกับร่างอรชรที่เดินอย่างไม่สนใจเขา"ฮูหยินเจ้าอยากกินบะหมี่เกี๊ยวใช่หรือไม่ ไปกันเถอะพี่ให้บ่าวไปจองโต๊ะรอไว้แล้ว" หานสวี่ยื่นมือไปจับข้อมือบางของเสิ่นชิงเยียนเอาไว้ ทว่านางก็บิดข้อมือออกอย่างไม่ยินยอม นางบิดออกเพียงน้อย หากไม่สังเกตก็คงจะไม่มีผู้ใดได้เห็น หานสวี่หาได้ยอมให้ฮูหยินของเขาทำเช่นนั้น มือหนาสอดกุมมือบางเอาไว้ พลางส่งยิ้มใบหน้าหล่อเหลาไปให้อย่างเอาใจ เสิ่นชิงเยียนเขินอายทว่ายังแสร้งทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น"ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับ!!" นางพูดออกมาเสียงเบา "ปล่อยได้อย่างไร หากพี่ปล่อยเจ้าก็เดินหนีพี่ไปอีก ภรรยาไม่พอใจสามีเรื่องใดหรือ บอกสามีได้หรือไม่" หานสวี่เอ่ยเสียงเย้า ยิ่งทำให้ฮูหยินน้อยทั้งมีโทสะปนเขินอายไปกันใหญ่"ท่านพี่!!...เหตุใดท่านจึงเป็นคนหน้าไม่อายเช่นนี้ ข้าไม่อยากจะพูดกับท่านพี่แล้ว" เสิ่นชิงเยียนหันหน้าหนี เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้มองหน้ากันพลางก้มหน้ายิ้ม"เรื่องใดกัน พี่หน้าไม่อายตรงไหนหรือเยียนเอ๋อร์บอกแก่พี่สิ ไหนเจ้าเคยให้
ตอนพิเศษ 1 เทศกาลโคมไฟ"เยียนเอ๋อร์คืนนี้แม่จะพาเจ้าไปลอยโคมที่งานโคมไฟกันดีหรือไม่"เสิ่นชิงเยียนหันไปยิ้มให้แม่สามีก่อนจะพยักหน้าตกลง"เจ้าค่ะท่านแม่ เยียนเอ๋อร์อยากไปกินบะหมี่ร้านริมแม่น้ำเจ้าเดิมนั่นอีกเจ้าค่ะ"นางจำได้ดีร้านบะหมี่หยกร้านนั้นจะขายแค่ปีละครั้ง ในงานเทศกาลโคมไฟเท่านั้น ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดร้านอร่อยเช่นนั้นถึงได้เปิดขายแค่ปีละครั้ง ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย"เฮ้อ...นึกถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้วข้าก็โมโหยิ่งนัก ดีนะที่แม่นางไป่ผู้นั้นไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับเจ้าอีก หากไม่เช่นนั้นแล้วข้านี่แหละที่จะจัดการนางเองคอยดูเถอะ" เถาฮวาทุบกำปั้นลงมาที่ฝ่ามือตนเองอย่างแค้นเคืองหลังจากที่หานสวี่กับเสิ่นชิงเยียนคืนดีกันแล้ว ไป่อ้ายเหม่ยก็ยังคงมาหาหานสวี่เพราะหมายอยากจะกลับมาคืนดีกับเขา ทว่าเถาฮวาจัดการอย่างเด็ดขาดหลังจากนั้น ไป่อ้ายเหม่ยก็ไม่เคยมาหาอีกเลยเสิ่นชิงเยียนนึกย้อนกลับไปวันที่ไป่อ้ายเหม่ยตั้งใจมาหาเรื่องนางที่จวน นางกำลังนั่งทำถุงหอมให้กับสามีอยู่ที่ศาลาริมสระบัว บ่าวรับใช้ในจวนปล่อยให้ไป่อ้ายเหม่ยเข้ามา และนางพยายามจะพูดจายุแยงให้เสิ่นชิงเยียนและหานสวี่ผิดใจกันท
ตอนที่ 35 เข้าหอ (จบ)หานสวี่ใช้นิ้วหนาแบะกลีบบุปผางามสองกลีบให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดเกสรสีสวยด้านในที่รอให้เขาเชยชมหานสวี่ไม่รอช้าเขาแลบลิ้นเลียร่องหลืบสวาทของนางอย่างช้าๆ แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่เร้ามากยิ่งขึ้น ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินเม็ดรักสีชมพูของนางพร้อมกับดูดดึงขบเม้มมันอย่างหื่นกระหาย เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนแทบทนไม่ไหว นางส่งเสียงหวานครวญครางด้วยความเสียวซ่านจนเกินจะทานทน"อ๊ะ...ทะ...ท่านพี่เจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนตัวกระตุกเกร็งขึ้นมา มือบางกำผ้าปูเตียงแน่น"หวานเหลือเกินเยียนเอ๋อร์" เสียงร้องครวญครางของฮูหยินตัวน้อยสร้างความปั่นป่วนให้ชายหนุ่มไม่น้อย หานสวี่กระดกลิ้นร้อนให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนต้องยกเอวลอยหวือขึ้นมากลางอากาศไม่นานนักน้ำหวานจากดงดอกไม้ไหลเยิ้มออกมาอย่างไม่ขาดสาย หานสวี่แลบลิ้นดูดเลียน้ำหวานของนางจนสะอาดหมดจดโดยไม่นึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาใช้นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในรูสวยของนางทีละนิ้วเพื่อเบิกทางไม่ให้ร่างบางได้รับความเจ็บปวดจนเกินไป"ท่านพี่...อื้อ...เยียนเอ๋อร์ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเสียงร้องของฮูหยินตัวน้อย พ
ตอนที่ 34 กลับจวนสกุลหานเสี่ยวเจียงกับเสี่ยวอวี้นั่งมองเจ้านายตนเองยิ้มพลางทำถุงหอมไปพลางอย่างมีความสุข ใบหน้าหวานเบิกบานไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีแต่ความหมองเศร้าทว่าตอนนี้กลับไม่หลงเหลือความเศร้านั้นอีกเลย สาวใช้ทั้งสองชอบใบหน้าของเจ้านายตนเองเช่นนี้มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก พวกนางไม่รู้ว่าฮูหยินน้อยไปคืนดีกับคุณชายใหญ่ตอนไหน ทว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่ฟื้นขึ้นมาในรุ่งเช้า นางก็เห็นว่าฮูหยินน้อยใจอ่อนลงแล้ว หรืออาจจะเพราะว่าฮูหยินน้อยไปเฝ้าไข้คุณชายใหญ่ทั้งคืน ทั้งคู่อาจจะได้ปรับความเข้าใจกันในตอนนั้นก็ย่อมได้"เอ๋!!...ถุงหอมที่เจ้าทำมีสิ่งใดดีหรือ เจ้าถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับถุงหอมเช่นนั้น" เสิ่นจื่อเหนียงเดินเข้ามานั่งตรงหน้าบุตรสาวได้สักพักแล้ว ทว่าบุตรสาวนางก็ไม่เห็นเสียที คนเป็นมารดาจึงได้พูดแกมหยอกล้อออกมาเสิ่นชิงเยียนเงยหน้าขึ้นมองหน้ามารดาตนเองพลางยิ้มเขิน"ท่านแม่อย่าล้อเยียนเอ๋อร์เล่นสิเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนขยับเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน"แกล้งที่ใดกัน แม่ก็แค่เห็นว่าเจ้ามีความสุขกับการทำถุงหอมเสียจริง คงจะทำให้คนสำคัญกระมัง"เสิ่นจื่อเหนียงยกมือลูบศีรษะมนของบุตรสาวอย่างเอ็นดู"ใช่แล
ตอนที่ 33มอบใบหย่าให้ข้าเถอะฮูหยินเถาฮวาและหานจี้กงรีบเดินทางมายังจวนสกุลเสิ่นเมื่อรู้ข่าวการล้มป่วยของบุตรชาย เสิ่นชิงเยียนก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เมื่อครั้งตอนที่นางไปอาศัยอยู่ในจวนสกุลหาน แม่สามีผู้นี้ดูแลนางเป็นอย่างดี หากนางเจ็บป่วยแม่สามีก็จะเป็นผู้ต้มยามาให้นางได้ดื่มด้วยตนเองทุกครั้งเมื่อนึกถึงตรงนี้น้ำตานางก็ไหลออกมา ทว่าหานสวี่มาจวนนางแค่เพียงหนึ่งเดือนนางกลับทำให้เขาล้มป่วยหนักถึงเพียงนี้ นางจะกล้าสู้หน้าแม่สามีได้อย่างไร"เยียนเอ๋อร์เจ้าอย่าร้องไปเลย ท่านพี่ของเจ้าหาได้เป็นอันใดไม่" เถาฮวาดึงมือลูกสะใภ้มากุมไว้ พลางลูบหัวอย่างปลอบใจ ท่ามกลางสายตาของทั้งสองตระกูลที่มองไปยังแม่สามีและลูกสะใภ้ที่รักใคร่กลมเกลียวกัน พลันในใจของเสิ่นจื่อเหนียงก็รู้สึกยินดียิ่งนัก นับว่าหายากที่แม่สามีจะเอ็นดูลูกสะใภ้เช่นนี้ ถือว่าเยียนเอ๋อร์ของนางวาสนาดีไม่น้อยเลยทีเดียว"ลูกก็อย่าได้ร้องไห้อีกเลยเยียนเอ๋อร์ เดี๋ยวแม่สามีเจ้าจะไม่สบายใจ" เสิ่นจื่อเหนียงดุบุตรสาวตนเองออกมาอย่างไม่จริงจังนัก "ข้าเสียใจเจ้าค่ะท่านแม่ เพราะข้าท่านพี่จึงได้ล้มป่วยเช่นนี้" เสิ่นชิงเยียนร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจทนต
ตอนที่ 32 สลบหานสวี่หันกลับไปมอง เมื่อเห็นหญิงคนรักเขาก็ยิ้มอ่อนโยนออกมา ความพยายามเขาสำเร็จแล้วใช่หรือไม่ เขาก้าวขาเดินเข้าไปหาเสิ่นชิงเยียนอย่างดีใจ มือหนายื่นออกไปหมายจะสัมผัสกับมือบางของนาง ทว่าไม่ง่ายอย่างนั้นเสิ่นชิงเยียนส่ายหน้าและเดินถอยหลังออกไปไม่ยินยอมให้หานสวี่สัมผัสมือของนางได้"เยียนเอ๋อร์..." เสียงแหบพร่าของหานสวี่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา "อย่าถอยจากข้า..."เสียงเว้าวอนของหานสวี่ สร้างความปวดใจให้กับนางไม่ใช่น้อย ทว่าหัวใจนางไม่อาจจะทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป"ข้าถาม...เหตุใดท่านต้องมาทนทรมานตนเองทำไมกัน ที่นี่ไม่มีอะไรที่ท่านต้องการอีกต่อไปแล้ว กลับไปได้แล้ว!!" เสิ่นชิงเยียนตวาดออกมาเสียงสั่นเครือ นางมองหน้าหานสวี่ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา"เยียนเอ๋อร์ เจ้าจะอภัยให้ข้าไม่ได้หรือ ขอเพียงครั้งเดียวข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจอีก ที่ผ่านมาข้ารู้แล้วว่าข้าทำผิดต่อเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ได้โปรดอภัยให้เถอะนะ อภัยให้กับความโง่เง่าของข้าเพียงครั้ง" หานสวี่อ้อนวอนเสียงเบา เขามองใบหน้าหวานที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาราวไข่มุกอย่างปวดใจ เขาทำให้นางร้องไห้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาย
ตอนที่ 31 ท่านจะมาทนทรมานตนเองทำไมเสิ่นชิงเยียนนั่งเย็บผ้าอยู่ในห้องนอนตนเอง นางไม่ยอมออกไปเจอหานสวี่ที่มาเฝ้านางเกือบเดือนแล้ว ตั้งแต่วันที่นางไปตลาดและเจอกับไป่อ้ายเหม่ยผู้นั้นวันนั้นนางเห็นแล้วว่าหานสวี่ไม่ตามนางกลับมา นางจึงเข้าใจว่าหานสวี่หาได้เลือกนางเช่นปากว่า ถึงแม้หลังจากวันนั้นหานสวี่ก็มาหานางที่จวนทุกวันก็ตาม ทว่าเป็นนางเองที่ไม่ยอมออกไปพบหน้าเขา นางโกรธที่เขาเลือกคนรักเก่าของเขาอีกหน และนางก็เสียใจที่เขามาให้ความหวังนางอีกหากวันนั้นเขาไม่สนใจไป่อ้ายเหม่ย และเลือกที่จะตามนางกลับมา นางก็คงจะตัดสินใจกลับไปอยู่จวนสกุลหานตั้งนานแล้ว แต่นี่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น หรือเขาต้องการจะเลือกทั้งนางและคนรักเก่าเช่นนั้นหรือเสิ่นชิงเยียนยังนึกชื่นชมตนเองที่ใจแข็งไม่ยอมออกไปพบหน้าบุรุษผู้นั้น"ฮูหยินเจ้าคะ คุณชายใหญ่มาอีกแล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอวี้เดินเข้ามาในห้องนอนของเสิ่นชิงเยียน นางยกกาน้ำชาขึ้นและเทลงไปในจอก แล้วจึงยื่นถ้วยชาส่งให้เจ้านายของตนเองที่กำลังนั่งถืออาภรณ์ชุดหนึ่ง ซึ่งดูอย่างไรก็รู้ว่าเป็นอาภรณ์ของบุรุษ ฮูหยินของนางคงจะทำให้คุณชายใหญ่อย่างแน่นอน ทว่าสายตาของเสิ่นชิงเยียนกลับเห
ตอนที่ 30 ตามง้อ (ต่อ)"เยียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมใจอ่อนยอมกลับจวนกับพี่เล่า เจ้าอยู่จวนบิดามารดามาหลายวันแล้วนะ ท่านแม่ก็บ่นหาเจ้าทุกวัน" ได้ผล หานสวี่มองใบหน้าหวานที่ชะงักไป เมื่อเขาเอ่ยถึงมารดาของเขา ความจริงหานสวี่หาได้อยากเอาชื่อมารดามากล่าวอ้าง ทว่าหากไม่พูดเช่นนั้น เสิ่นชิงเยียนก็หาได้สนใจเขาเลยแม้เพียงนิดหานสวี่เดินตามหลังเสิ่นชิงเยียนไปทุกฝีก้าวไม่ว่านางจะเดินไปทางไหน เขาก็เดินตามนางไปทางนั้นเสิ่นชิงเยียนหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจ ทั้ง ๆ ที่ในใจกลับหวั่นไหว หากจะบอกว่านางชอบที่เขามาคอยตามนางเช่นนี้ก็ไม่ผิด เหมือนกับว่าเวลานี้เขาเห็นนางสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก"หากท่านแม่คิดถึง เดี๋ยววันหลังข้าจะไปเยี่ยมท่านแม่เองเจ้าค่ะ" นางตอบออกไปเสียงเบาและรีบเดินเข้าไปดูข้าวสารที่โกดังหลังร้าน เสิ่นชิงเยียนเดินหนีด้วยความเขินอาย นางไม่อาจทนต่อสายตาหวานฉ่ำของหานสวี่ได้อีกแล้ว ใบหน้างามพลันแดงเหมือนผลอิงเถา พลอยให้คนมองสดชื่นใจ เหตุใดเมื่อก่อนเขาไม่ยอมจะมองหน้านางให้มากกว่านี้ ถ้าเช่นนั้นคงจะรู้นานแล้วว่า นางน่ารักถึงเพียงใด หานสวี่ได้แต่โมโหที่ตนเองช่างโง่เขลา"ระวัง" หานสวี่ร้องขึ้นเสีย
ตอนที่ 29ตามง้อหานสวี่กลับมาที่จวนตนเองหลังจากที่ได้แจ้งความในใจกับเสิ่นซุนฟาแล้ว เขาก็เบาใจขึ้น ถึงแม้ว่าเสิ่นซุนฟาจะไม่ได้ยินดียินร้ายอันใด แต่เขาเชื่อว่าบิดาที่รักบุตรสาวเยี่ยงลมหายใจอย่างเสิ่นซุนฟานั้น จะต้องตามใจเสิ่นชิงเยียนอย่างแน่นอน และเขารอได้ถึงแม้วันนี้ฮูหยินของเขาจะไม่ยอมกลับจวนมาพร้อมกับเขา ทว่าเขาจะไม่ท้อเขาจะไปตามนางทุกวันจนกว่านางจะใจอ่อน แค่วันนี้เขาได้อยู่ร่วมกินอาหารเย็นที่จวนสกุลเสิ่นก็ดีมากพอแล้ว"สวี่เอ๋อร์เจ้าไปยกเลิกหนังสือหย่ามาหรือ เพราะเหตุใดเล่าแม่คิดว่าเจ้าอยากแต่งไป่อ้ายเหม่ยเข้าจวนมาเสียอีก" ทันทีที่หานสวี่กลับมาถึงก็เจอเข้ากับมารดาตนเองที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว"ไม่ใช่ว่าท่านแม่เป็นคนพูดเองหรอกหรือขอรับ ลูกสะใภ้ของท่านแม่จะต้องเป็นเยียนเอ๋อร์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น" หานสวี่เดินไปนั่งตรงข้ามมารดา และหยิบจอกชาที่มารดาดันมาตรงหน้า ร่างหนายกกระดกดื่มเข้าไปจนหมดจอก"เอ๋!!...แม่ว่าหูแม่คงฝาดไปแล้วกระมัง ถึงได้ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้" เถาฮวาหรี่ตามองบุตรชายตนเองพร้อมกับจ้องหน้าอย่างไม่แน่ใจพลางจับพิรุธนั้น"ไม่ผิดขอรับ ลูกรู้แล้วว่าผู้ใดคือคนที่ลูกอยากจะให้อยู่เคี