ดวงตาเล็ก ๆ เปิดออก ภาพเบลอมัวจนจำอะไร เธอรู้สึกปวดเนื้อปวดตัว ปวดหัวไปหมด ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเธอกำลังรีบกลับบ้านหลังจากทำกิจกรรมที่โรงเรียนเสร็จวันสุดท้าย แต่ว่าฝนตกหนักแล้วรถเสียหลักลงข้างทาง แล้วที่นี่ที่ไหน แล้วเพื่อนเธอละ
“จิ๊บ จิ๊บ” เสียงแหบพร่าของมาหยาที่เรียกชื่อของเพื่อนรักออกมาเป็นอย่างแรก เพราะเธอมีเพื่อนเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนสนิท “อ้าวตื่นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง” เสียงทุ้มต่ำที่พูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “เออ นายหัวอัสลานใช่ไหมจ๊ะ” เสียงแหบพร่าตอบกลับมาพร้อมกับหัวใจดวงเล็ก ๆ ที่เฝ้าคิดถึงนายหัวผู้มีพระคุณมาตลอดเวลา 5 ปี เขาไม่เคยมาหาเธอเลย แต่มักจะซื้อของต่าง ๆ ส่งมาให้เธอทุกเทศกาลเลย “ใช่ ฉันเอง เธอทำไมรู้ละฮึ” เขารู้สึกแปลกใจกับร่างเล็กตรงหน้าที่จำเขาได้ทันที ทั้งที่ไม่เคยเจอกันเลย “จำได้ซิจ๊ะ ก็นายหัวเป็นผู้มีพระคุณของมาหยานี่จ๊ะ” “ฮึม” “แล้วเพื่อนมาหยาละจ๊ะนายหัว” “เพื่อนเธอไม่เป็นอะไร มีแต่เธอที่ตกใจจนสลบไป” “นม มาหยายังไม่ได้บอกนมเลยจ้ะ โดนนมดุแน่เลย” ใบหน้าซีดเริ่มทำหน้าประวิงกังวล “นมไม่ต้องห่วงหรอก ฉันบอกแล้ว ว่าเธอประสบอุบัติเหตุนิดหน่อย เดี๋ยวฉันจัดการให้” “ขอบคุณจ้ะนายหัว” สองมือประนมไหว้มาที่ผู้มีพระคุณของเธอ และเธอดีใจอย่างสุดซึ้งที่ได้เจอเขา “เธอหิวหรือยัง เดี๋ยวฉันสั่งอะไรให้กิน” “หิวจ้ะ” เธอยิ้มกว้างส่งตาหยีกลับมาหานายหัวหนุ่มวัย 40 กะรัตที่ตอนนี้มองหน้าคนป่วยจนหลงไปแล้ว “เดี๋ยวฉันสั่งให้นะมาหยา” เขารีบลุกออกไปเพราะมัวแต่จ้องใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กอุปการะที่น่ารักขนาดนี้ เขารู้สึกได้เลยว่า มาหยามีอะไรพิเศษกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอ ไม่นานอาหารที่สั่งก็มาเป็นข้าวต้มหมูร้อน ๆ พร้อมกับน้ำส้มคั้นเย็น ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟที่เตียงคนป่วย มาหยาลุกตัวนั่งลงเตรียมจะก้าวเท้าลงไปเอาอาหารที่วางอยู่เพื่อไปทาน แต่เสียงใหญ่ก็สั่งห้ามเธอลงมาเสียก่อน “จะทำอะไร มาหยา!!” “เออ.. คือ มาหยาจะไปหยิบถ้วยข้าวไงจ๊ะนายหัวอัสลาน” “ไม่ต้อง นั่งอยู่บนเตียงนั่นแหละ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” อัสลานพูดจบก็ลุกเอาอาหารที่ส่งเดินตรงไปพร้อมกางโต๊ะทานอาหารที่เตียงออก วางข้าวต้มหมูลงแล้วตักเตรียมป้อนคนตรงหน้าทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนหน้านี้ “นายหัว ทำอะไรจ๊ะ” มาหยาถามแบบงง “ก็ป้อนข้าวเธอไง มาหยา” เขาพูดพร่างเป่าข้าวต้มหมู “ไม่เป็นไรจ้ะ มาหยาทานเองได้นายหัว” “ไม่นั่งเฉย อย่าให้ฉันโกรธนะมาหยา” น้ำเสียงเป็นเชิงข่มขู่มากกว่าการดูแล มาหยาก็ต้องทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่กำลังป้อนข้าวมาหยาอยู่จนใกล้หมดลูกน้องคู่ใจอย่างเดชก็กำลังขึ้นมาพร้อมกับผลไม้เยี่ยมคนไข้ ตุบ ...เสียงผลไม้ร่วงหลุดมือของเดชที่เห็นภาพประหลาดใจอย่างมากเมื่อนายหัวอัสลานกำลังป้อนข้าวมาหยาเด็กอุปการะอยู่เขาไม่เคยเห็นโหมดอ่อนโยนแบบนี้ถึงกับช็อกไปชั่วขณะ “นะ นายหัว นาย” “อ้าว ไอ้เดชมึงมือไม่มือเอ็นหรือไง ผลไม้ช้ำหมดแล้วไอ้ห่า” เสียงตะโกนด่ามาจากเตียงคนไข้ เดชรีบเก็บตะกร้าผลไม้ขึ้นทันทีเขาเองก็ตกใจมากจริง ๆ มาหยาที่เห็นเดชก็จำได้ ยกมือไหว้เดช พร้อมส่งยิ้มไปให้เดชด้วยความเคยชิน เพราะเดชเอาสิ่งของมาส่งที่บ้านสวนบ่อยบางวันมาหยาก็จะทำกับข้าวให้เดชฝากท้องก่อนกับบ้านเป็นประจำ “พี่เดชสวัสดีค่ะ” “สวัสดีค่ะ พี่เกือบจำเราไม่ได้สภาพหน้าตาตอนเมื่อคืนมีแต่โคลนแถมหัวแตกอีก” น้ำเสียงที่พูดกันดูคุ้นเคยจนทำให้อัสลานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินไปเลย เคล้ง ...เสียงวางช้อนข้าวต้มดังมาก จนคนสองคนที่คุยกันต้องเงียบเสียงลงทันที อัสลานลุกขึ้นไปเก็บถ้วยข้าวต้มด้วยความหงุดหงิดลูกน้องอย่างได้เดชที่ไม่รู้ไปสนิทชิดเชื้อกับเด็กในอุปการะของเขาตอนไหน เดชที่เอาผลมาวางก็บอกงานต่าง ๆ กับนายพร้อมกับถามนายหัวอัสลานว่าจะกลับบ้านเลยไหม “กูไม่กลับ กูจะอยู่เฝ้ามาหยา” เสียงดังฟังชัดที่ตอบกลับพร้อมความหงุดหงิดใจ “นายหัวจะเฝ้ามาหยาทำไมจ๊ะ มาหยาหายแล้วจ้ะ เดี๋ยวเย็นคุณหมอก็ให้กลับบ้านแล้วจ้ะ เดี๋ยวให้พี่ชินมารับมาหยากลับบ้านก็ได้จ้ะ” น้ำเสียงใสที่เกรงใจผู้มีพระคุณที่เมื่อคืนก็เฝ้าเธอทั้งคืนแถมวันนี้เธอยังต้องทำให้เขาเสียงานเพราะอยากจะเฝ้าเธออีก อัสลานที่หันไปตามเสียงเล็กหงุดหงิดเข้าไปอีก กับไอ้เดชลูกน้องคู่ใจยังไม่เคลียร์ว่าไปสนิทกันตอนไหน ตอนนี้มีไอ้ชินโผล่ขึ้นมาอีก มันเป็นใครอีก เขาแทบจะวิ่งเอาหัวทุบกำแพง เพราะเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กในอุปการะของตัวเองเลย “ใครละชินนะ ฮึ” เสียงทุ้มต่ำพยายามอดกลั้นอารมณ์ด้วยความใจเย็นเพราะกลัวมาหยาจะตกใจกลัวเขา “พี่ชินก็ลูกป้าที่อยู่สวนถัดไปจากเราจ้ะนายหัว พี่เขาจะมาหามาหยาประจำช่วยติวหนังสือเรียนให้จ้ะ พี่เขาเรียนปี 4 มหาวิทยาลัยในตัวเมืองภูเก็ตนะจ้ะ” มาหยารีบอธิบายให้นายหัวผู้มีพระคุณของเธอฟังอย่างละเอียด พร้อมส่งยิ้มหวานไปให้เขาทันที รอยยิ้มหวานของมาหยาทำให้หัวใจของอัสลานที่หงุดหงิดเมื่อกี้หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง เขากำลังจะบ้าแล้วใช่ไหม “ไม่ต้องให้คนนอกมายุ่งเรื่องครอบครัวเราหรอกนะ มาหยา เดี๋ยวฉันพาเธอกลับบ้านเอง” “ก็ได้จ้ะ” มาหยาไม่กล้าขัดใจนายหัวของเธอเด็ดขาด นายหัวของเธอถึงจะเข้าเลข 4 แล้ว แต่ทำไมยังดูหนุ่มแน่นยังกับอายุ 30 ปลาย ๆ หล่อมากเลย เธอแอบลอบมองใบหน้าคมใกล้ ๆ “ไอ้เดชงานมีอะไรยกไปให้กูที่บ้านสวนทั้งหมด” “อะไรนะนายหัว” “กูจะย้ายไปอยู่บ้านสวนวันนี้เลย” เดชที่ได้ยินคำสั่งที่นายหัวสั่งออกมาก็ตกใจหนักไปอีก เขากำลังคิดจะทำอะไรของเขา เดชอ่านใจนายหัวตาน้ำข้าวคนนี้ไม่ออกเลยตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็มีอาการที่เปลี่ยนไปมาก จนเดชปรับตัวไม่ทันสงสัยนายหัวเป็นวัยทอง “ครับนายผมจัดการให้ทันทีครับ นายจะไปอยู่กี่วันดีครับผมจะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้นายถูก” “กูไม่มีกำหนดกลับ เอามาหมดของใช้กูนะ” เดชทำหน้างงหนักไปอีก ตายละหว่าสงสัยงานนี้มาหยาน้องสาวสุดที่รักของเขาจะโดนศึกหนักจากนายหัวผู้อุปการะเลี้ยงดูซะแล้วมั้งเนี่ยเดชที่ได้รับคำสั่งงานก็จัดการโทรสั่งลูกน้องจัดการทุกอย่างที่บ้านสวน เขาที่ยังอยู่โรงพยาบาลกับนายหัว ก็เห็นน้องสาวตัวแสบอย่างมาหยากินข้าวเสร็จแล้ว น่าจะอยากกินผลไม้พอหันจะกลับเข้าไปปลอกให้เธอ ปรากฏว่านายหัวอัสลานทำเองเรียบร้อย พร้อมกับนั่งมองมาหยากินจนแก้มป่องทั้งสองข้าง เดชเริ่มรู้สึกมีกลิ่นตุ ตุ ซะแล้วนายหัวผู้ที่รักความโสดยิ่งชีพ จะสละโสดเพราะเด็ก 19 หรือเปล่าเนี่ย เขาเห็นก็อดขำไม่ได้“ส้มอีกไหมดาหวัน เดี๋ยวฉันปลอกแกะให้อีก” เขาถามเด็กในอุปการะด้วยความเป็นห่วงเป็นใย นั่งเฝ้าไม่ห่างเลย“พอแล้วจ้ะ นายหัว นายหัวยังไม่ทานอะไรเลย ให้มาหยาปลอกส้มให้นายหัวเอาไหมจ้ะ” เสียงน่ารักเล็ก ที่พูดอยากจะปลอกส้มให้ผู้มีพระคุณที่มาดูแลเธอด้วยตัวเองเธออยากจะตอบแทนเขาทุกอย่างที่ทำได้โดยไม่มีข้อแม้เลยสำหรับเธอมีเพียง นายหัวอัสลาน นม และเดชที่เป็นครอบครัวสุดท้ายในชีวิตเหลืออยู่“เอาซิ ฉันกำลังหิวพอดี”อัสลานยื่นส้มให้กับมาหยาที่เพิ่งถอดสายน้ำเกลือออก จริง ๆ เขาไม่หิวหรอก ปกติก็แทบจะกินข้าวมื้อเดียวอยู่แล้ว แต่เขาอยากให้มาหยาเอาใจเขาบ้างเลยยอมหิวขึ้นมาซะดื้อ ๆมาหยารับส้มจากนายหัวมา ใช้สองมือเรียวปลอกส้มอ
ร่างเล็กที่สูงเพียง 157 ซม. เดินตามหลังแผ่นหลังกว้างออกจากโรงพยาบาล นายหัวอัสลานเดินบังร่างเล็กมิด แถมไม่พอ เขาเอาเสื้อสูตรตัวโคร่งใหญ่ของเขา คลุมตัวเธอปิดออกมาจากห้องผู้ป่วยพิเศษ เธอถามเขาอย่างสงสัยแต่ไม่ได้คำตอบ ได้แต่คำสั่งกลับมาแทนว่าให้ใส่ก็ใส่เถอะ มาหยาจะบ้าตายเพราะเสื้อเขาหนักมาก แล้วเสื้อของนายหัวอัสลานใหญ่มากยังกับชุดคลุมที่มันยาวแทบจะถึงตาตุ่มอยู่แล้วก็เท่าที่ดูด้วยตาเปล่านายหัวอัสลานสูงกว่าพี่เดชที่สูง 180 ซม.อีกแล้วเธอก็เดินดุ๊กดิ๊กเพื่อให้ทันก้าวยาว ๆ ของนายหัวผู้ที่กำลังเริ่มเข้ามาปั่นป่วนชีวิตอันสงบสุขของเธอ นายหัวในจินตนาการคือพูดน้อย ไม่จุกจิก ไม่ทำเธอเป็นประสาทได้ขนาดนี้ อยู่กับนายหัวแค่วันเดียว 5 นาที 4 อารมณ์เธอจัดการไม่ถูกว่าต้องทำตัวยังไง ได้แต่เดินตามนายหัวอัสลานต้อย ๆ เหมือนเธอเป็นลูกสมุนเจ้าพ่อเลย เดชที่ขับรถมารอหน้าโรงพยาบาล เพื่อรอรับคนทั้งสองที่กำลังเดินลงมาจากตึกผู้ป่วยพิเศษ เขาถึงกับขำแตก น้ำตาไหลที่เห็นว่ามีคนเกิดอาการหวงของขึ้นมาดื้อ ๆ แบบที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากผู้มีพระคุณ เดชพออ่านใจนายหัวอัสลานของเขาออกแล้วว่าคิดจะทำอ
“มาหยา มาหยา” เสียงตะโกนลั่น รถกระบะคันงามสีดำมาจอดพร้อมกับพวงมะพร้าวกะทิเต็มหลังรถ ที่จอดหน้าบ้านสวนของเขา “จ้าพี่ชิน รอแปปนะ เดี๋ยวลงไป”เสียงตะโกนตอบรีบวิ่งลงมาจากห้องชั้นสองเพื่อตรงไปหน้าบ้านอัสลานที่แอบมองร่างเล็ก กาแฟแทบพุ่งออกจากปากเมื่อเสื้อที่เธอใส่โคตรเซ็กซี่ เสื้อกล้ามสายเดี่ยวสีน้ำตาล โชว์สองเต้าใหญ่เบียดกันแทบระเบิดออก กางเกงขาสั้น วิ่งออกไปหาเด็กผู้ชายที่กำลังยืนยิ้มรอเธออย่างร่าเริง“ใครอนุญาตให้เธอโชว์ร่างกายขนาดนี้ มาหยา”สองคนยืนคุยกันยิ้มกระซิบกระซาบอย่างออกรถออกชาติ ส่วนลูกน้องสองคนก็โยนมะพร้าวกะทิที่ปอกแล้วออกมาจากท้ายรถ มาหยาเธอลืมไปว่า ผู้มีพระคุณของเธอมาอยู่ด้วยแล้ว หลายอย่างเลยยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เธอเคยชินกับการแต่งตัวสบาย ๆ มากกว่าโดยไม่ได้คิดอะไร“เท่าไรจ้ะพี่ชิน”“รอบนี้พี่ลดราคาพิเศษให้เลย หมดคัน 2000 พอ”“เสาร์นี้พี่จะเข้าไปช่วยรอบเย็นนะมาหยา พี่ติดติวสอบนะ”“ไม่เป็นไรจ้ะ มาหยาทำคนเดียวสบายมาก”มาหยาควักเงินที่เสียบไว้ในเต้าใหญ่ของเธอ เอาออกเพื่อมาจ่ายให้กับชิน พรูด..!! แค่ก แค่ก เสียงใหญ่สำลักาแฟอัสลานตาเลือก สำลักกาแฟเต็มโต๊ะ ของแท้รอบนี้
“มาหยา ฉันหิวข้าว”ร่างใหญ่ของนายหัวอัสลานที่หมดแรงแค่นั่งปั้นแป้ง ทำเอากระดูกสันหลังเคล็ด ตอนเขานั่งเซ็นเอกสารกับต่อสู้ไม่เคยปวดหลังเลย “นายหัวรอซักครู่นะจ๊ะ ใกล้เสร็จแล้ว”มาหยาที่ปกติก็ไม่ได้กินข้าวเย็นกลายเป็นต้องมาเหนื่อยเพิ่มขึ้นเพราะมีผู้มีพระคุณมาเป็นภาระเธอซะแล้ว อัสลานนั่งรอมาหยาที่โต๊ะกินข้าว เธอที่เอากับข้าวออกมาทีละอย่างเป็นอาหารไทย บ้าน ๆ มาก แต่อาหารแต่ละอย่างออกมาหน้ากินทั้งนั้น แต่ไม่รู้จะอร่อยเหมือนหน้าตาหรือเปล่า “วันนี้เรากินแค่นี้ นายหัวกินได้ใช่ไหมจ๊ะ” “กินได้ซิ น่ากินทุกอย่างเลย”รายการเมนูก็ฉู่ฉี่ปลาทู ไข่เจียวหมูสับ และต้มยำไก่บ้านน้ำใส มาหยาลุกขึ้นตักข้าวสวยในโถใส่จากให้กับนายหัวที่นั่งตัวโตดูใหญ่เทอะทะสำหรับเธอเหลือเกิน “มาหยา พรุ่งนี้เธอไปร้านยังไงละ”เขาก็ลืมถามเพราะเธอไม่ได้มีรถเขาไม่เคยซื้อให้เธอเลย “พรุ่งนี้รถของนายหัวใหญ่ จะมารับจ้ะ” “ใครนายหัวใหญ่ !!” “นายหัวใหญ่คือเจ้าของบาร์ข้าง ๆ ร้านของมาหยาจ้ะ แกใจดีให้รถที่ร้านมารับมาหยาเป็นประจำ บางทีก็รับขนมของมาหยาเอาเข้าไปขายในบาร์ด้วย” อัสลานแทบอิ่มข้าว แค่ไอ้ชิน ไอ้เดช ก็ยังไม่ทันได้เคลียร์ให้พ้นทา
ร่างบางที่ลงมาก็ตกใจที่เห็นร่างใหญ่ของนายหัวแต่งตัวหล่อมากแต่เหมือน ซีอีโอระดับใหญ่ที่มาตรวจเช็คงานมากกว่าเธอเตรียมข้าวของเสร็จก็รอรถมารับของ “นายหัวจ๊ะ มาไหร่รถเราจะมาจ้ะ”ร่างบางก็สงสัยเพราะนี่ก็เกือบจะหกโมงครึ่งแล้ว “อีก 10 นาทีก็มาแล้วมาหยาใจเย็น ๆ”พูดไม่ทันขาดคำ รถสไลด์ก็ใส่รถหรูใหม่ป้ายแดงยกสูงสี่ประตูก็มาจอดที่หน้าบ้านสวน เจ้าของรถสไลด์ก็ถอยจอดให้ที่หน้าบ้านทันที “นายหัว นี่มันอะไรกันจ๊ะ แล้วใครจะขับกัน”มาหยาที่ตกใจจนหน้าเสีย เพราะอยู่ ๆ ก็มีรถสี่ประตูมาจอดที่หน้าบ้านแบบนี้ “ก็ฉันไงขับให้เธอเอง ไปซิให้ช่วยกันขนของขึ้นรถเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ”อัสลานรีบพูดก่อนที่จะให้ร่างบางถามเรื่องรถอีก เขาก็อยากจะซื้อรถให้ร่างบางได้ใช้งาน จะได้ไม่ต้องพึ่งพานายหัวใหญ่นั่นอีก ตัดไฟตั้งแต่ต้นก็ดี มาหยาที่บอกทางให้อัสลานว่าร้านอยู่ตรงไหนเป็นซอยที่มีนักท่องเที่ยวชุกชุมเพราะมีบาร์เปิดเต็มทั้งซอยตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย ส่วนร้านขนมของมาหยา ก็อยู่ต้นซอยใครเข้ามาก็เจอเธอก่อนอย่างที่พูดจริง ๆ มาหยาตาแหลมคมมาก อัสลานมาจอดที่หน้าเล็ก ๆ สีชมพูร้านโดดเด่นเพราะเป็นเหมือนบ้านขนมขนาดเล็ก ๆ ด้านหน้าเป็นตู้เค
อัสลานรีบเซ็นเอกสารให้เสร็จเพื่อจะรีบไปช่วยมาหยาที่จัดร้านใกล้จะเสร็จลูกค้าเริ่มเข้ามานี่ก็เกือบจะบ่ายสามแล้ว ของ มาหยาขายได้เรื่อย ๆ แบบ แทบทำไม่ทันก็ว่าได้เลย“ฮัลโหล มาหยา ไอมาเอาขนม”ฝรั่งรูปหล่อหัวทองตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ทักทายมาหยาอย่างเป็นกันเอง“อ้าวออสติน มาแล้วหรอ วันนี้จะเอาเพิ่มจากที่สั่งไหม”“เอาเพิ่ม ซิ เอาอีก 10 กล่อง รวมเป็น 30 กล่อง ไอเตรียมไปให้เพื่อนไอ ที่กำลังลงมาภูเก็ตคืนนี้ มีแต่คนชมว่าขนมยูอร่อยมากข้าวเหนียวมะม่วงยิ่งอร่อย” เสียงไทยที่สำเนียงไม่ชัดมาหยากำลังจะเดินไปหยิบขนมใส่ถุงเพิ่มแต่ไม่ต้องได้ขยับเดชได้เอาใส่จัดเตรียมตั้งแต่ได้ยินว่าสั่งเพิ่มแล้ว“ไม่ต้องมาหยาพี่ทำให้แล้ว เรียบร้อยจ้ะ”“ไวมากพี่เดช แย่งงานมาหยาทำหมดแล้วเนี่ย”“นี่จ้ะ ออสติน เรียบร้อย 30 กล่อง ทั้งหมด 1500 บาท”“เอานี่ 2000 ไม่ต้องทอนนะ ไอให้ยูเป็นทิป”“ทิป 500 เลยหรอออสติน ฮ่า ฮ่า”“มากกว่านี้ไอก็ให้ได้ ถ้ายูยอมไปเดทกับไอซักครั้ง”เสียงทีเล่นทีจริงสำเนียงไทยแปล่ง ๆ ที่อัสลานได้ยินทุกคำพูด ปัง ...!!! เสียงแฟ้มฟาดที่เค้าเตอร์อย่างแรง จนต้องหันไปตามเสียงกันเลยทีเดียว อัสลานที่ตั้งใจทำเพื่อให้ไอ้หั
อัสลานที่ช่วยมาหยาเรียงขนม ขายขนมทอนเงิน กลายเป็นมาหยาต้องยืนดู ผู้ชายตัวโตที่ขยันมาก สาว ๆ ที่ทำงานในบาร์ที่พากันมาซื้อขนมเธอจนเกือบหมดตู้ เพราะว่าความหล่อเหลาของ นายหัวอัสลาน “ข้าวเหนียวมะม่วง 5 กล่อง บัวลอยอีก 5” “ได้ครับ รับอย่างอื่นเพิ่มไหมครับ” “รับคนขายเพิ่มได้ไหมค้า อ๊ายยย”เสียงสาว ๆ ที่พากัน กรี๊ดกร๊าดนายหัวอัสลานรูปหล่อ ข่าวแพร่สะพัดเร็วยิ่งกว่าจรวดอีก นี่ก็เกือบ 19.00 น.แล้ว มาหยาที่รอลูกน้องนายหัวใหญ่มารับขนม มาหยานั่งมองประตูเพราะเธอกำลังรอคนของนายหัวใหญ่มารับขนม วันนี้มารับช้ากว่าปกติ ปกติก็ แค่ปะรมาณหกโมงกว่า ๆ ก็มาแล้ว นี่จะทุ่มแล้วยังไม่มาเลย มาหยาก็เก็บกวาดร้านไปพลางเพื่อให้รอเก็บของขึ้นรถ “มาหยา ที่เหลือร้อยกว่ากล่องนี่ของใครค่ะ”อัสลานหันไปถามมาหยาที่แพ็คเก็บไว้อย่างดี “เอ้อ ของนายหัวใหญ่จ้ะ เดี๋ยวคงส่งลูกน้องมารับขนมแต่วันนี้มาช้าจัง”เสียงใสอธิบายอย่างมีความสุขขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้นเสียงรถหรูก็มาจอดที่ลานจอดรถและมีร่างหนาใหญ่เดินลงมา ในเงาความมืดยังมองไม่ชัดจนเขาคนนั้นเปิดประตูเขามา
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขามักให้ลูกน้องไปเหมาขนมของมาหยาวันละ 100-200 กล่อง เพื่อสนับสนุนให้มาหยามีรายได้และเขาได้เห็นหน้ามาหยาทุกวัน บางวันก็ให้มาหยามาส่งด้วยตัวเองหลังปิดร้าน เพราะบาร์เปิด 19.00น. ส่วนมาหยาปิด 19.00 น.นอกจากวันอาทิตย์ที่ลูกค้าเยอะ มาหยาจะปิดเที่ยงคืน และนอกจากจะเอ็นดูขนาดหนัก ถึงขั้นให้รถที่ร้านไปรับไปส่งมาหยาเวลาที่จะมาขายของ โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว มาหยาพยายามปฏิเสธหลายครั้ง แต่นายหัวใหญ่อย่างเขาไม่ฟังอยู่แล้วจนคืนก่อน มาหยาได้ส่งข้อความมาหาเขา ว่าไม่ต้องส่งรถที่บาร์มารับเธอไปร้านขนมอีก เพราะว่าผู้อุปการะเธอจะมาเยี่ยมเธอแล้วจะมาส่งเธอเอง เขาแปลกใจตรงผู้อุปการะหรือ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะพบเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าอุปการะเธอซักที ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้นายหัวใหญ่ต้องรีบมาดูและรับขนมด้วยตัวเองซะเลยวันนี้ พอเขาจอดรอดหน้าร้าน ก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วทันทีเพราะมีบอดี้การ์ดชายชุดดำยืนอยู่ 5 คนเต็มหน้าร้านเลย ไม่รู้ว่าร้านขนมหรือที่ซ่องโจร ไม่เหมาะกับร้านขนมสีชมพูของมาหยาที่น่ารักเลย“นายหัวใหญ่ ทำไมวันนี้มาเองเลยละจ้ะ”“ฉันว่างนะเด็ก ๆ ที่ร้านยุ่งกั
พวงแก้มแดงละมุนภายใต้แสงเทียน พร้อมกับบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจในบ้านพักตากอากาศหลังโตคนสองคนที่กำลังตกหลุมรักกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงดาว ดวงจันทร์ สายลมหนาวที่พร้อมเป็นพยานรักให้กับเขาและเธอ “ฮืม...นายหัว อย่าจ้ะไม่ได้นี่มันข้างนอก”เสียงหวานเอ่ยห้ามด้วยความตกใจเพราะคนตัวโตโน้มตัวลงมาจูบเธออย่างแผ่วเบาด้วยความอ่อนโยน “ทำไมล่ะ ที่นี่บ้านของฉันไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอกฉันให้คนของฉันเฝ้าอยู่ด้านนอกสั่งห้ามทุกคนเข้ามาจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากฉัน”อัสลานที่เตรียมการในหัวมาเป็นอย่างดีระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินส่วนตัว สองมือแกร่งโอบกอดร่างเล็กไว้แนบกายไม่ห่างพรมจูบไปทั่วไปหน้า ปากหน้าประกบจูบเล้าโลมริมฝีปากเล็กอย่างเร้าร้อน สองมือบีบขย่ำก้นกลมกลึงเสียงครางอื้ออึงในลำคอ มาหยาที่ตอบสนองสัมผัสอย่างว่องไวทำให้อัสลานเริ่มเกมส์ราคะ แสนร้อนฉ่า เหงื่อพุดเต็มดวงหน้าสวยต่อให้ปกปิดความรู้สึกอย่างไรก็รู้จะไร้ผล ความรู้สึกที่เปี่ยมล้นด้วยแรงปรารถนาถึงขีดสุด“จูบของเธอช่างหวานจริง ๆ มาหยาของฉัน”อัสลานกระซิบเผ่าเบาพร้อมจ้องดวงตาสวยที่หยาดเยิ้มยิ่งกว่าน้ำผี้งเดือนห้าอัสลานไม่พูดเปล่า ใช้มือหน
อัสลานเตรียมพามาหยาออกจากรีสอร์ทเพราะเขาไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับนายหัวใหญ่ที่บุกมาถึงถิ่นขนาดนี้ ตอนนี้เขามีเรื่องให้ต้องระวังรอบตัวไปหมด รวมถึงต้องระวังเรื่องมาหยาด้วยดูท่าไอ้แม็กซิมมันคงรู้ระแคะระคายอะไรแน่นอนถึงได้กล้าเยื่อนเขาถึงประเทศไทย “มาหยาต่อไปนี้เธอคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะฉันคงต้องคอยให้คนเฝ้าเธอถ้าเวลาที่ฉันไม่อยู่”อัสลานพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด ขณะที่เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปขึ้นรถ “ได้จ้ะ นายหัวอัสลานไม่ต้องเป็นห่วงมาหยานะจ๊ะ”เธอฟังจากน้ำเสียงของอัสลานดูเป็นกังวล “ฮืม งั้นเราไปกันเถอะ”อัสลานจูงมือมาหยาออกไปจากรีสอร์ททันทีนายหัวใหญ่ที่เพิ่งจะเอาข้าวของเข้าไปเก็บที่ห้องก็อารมณ์ดีที่ได้เห็นหน้ามาหยา เขาวางแผนว่าก่อนมาหยากลับบ้านจะพาตัวมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันให้ได้ แต่เขานั้นยังไม่ทันได้รู้ตัวว่า นายหัวอัสลานได้พามาหยาออกจากรีสอร์ทไปพักใหญ่แล้ว “เรามาสนามบินกันทำไมจ๊ะนายหัวอัสลาน”มาหยาที่ดูตื่น นิดหน่อยเพราะเกิดมาไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลย “เราจะไปเที่ยวกันไง แต่ที่ไหนไว้ค่อยบอก”อัสลานเหมาลำเครื่องบินพร้อมกับผู้ติดตามอีก 5 คน
จากเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลขาออยก็หน้าเสียไม่น้อยก็หยุดการวุ่นวายวอแว กับนายหัวอัสลานไปพักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปเลย ยังคงป้วนเปี้ยนแวะมาถากถางมาหยาเวลาที่เดินมาชงกาแฟให้กับนายหัวอัสลาน พนักงานที่นี่รู้ดีว่ามาหยาไม่ใช่แค่เด็กในอุปการะ แต่คาดการณ์ว่าคงเป็นนายหญิงในอนาคตแน่นอนทำให้ทุกคนไม่อยากจะยุ่งกับมาหยามากนัก ยกเว้นเลขาออยที่ไม่เคยเกรงกลัว พร้อมจะซ้ำทุกแมทที่มาหยาล้ม “วันไหนที่นายหัวเขาเบื่อแก แล้วฉันจะรอซ้ำ”มาหยาที่กำลังยืนชงกาแฟถึงกลอกตาขึ้นข้างบน ไม่รู้เลขาออยไปเอาพลังในการจิกกัดมาจากไหนหนักหนา มาถากถางทุกวันกับเธอเนี่ยจนเธอเหนื่อยไม่อยากจะต่อปากต่อคำ “หยิ่งให้มันถึงที่สุดนะนางเด็กเส้น ก็แค่เด็กกำพร้าที่นายหัวอัสลานเขาเมตตา ทำตัวเป็นหงส์ชูคอไปเถอะ คอหักมาวันไหนฉันจะเอาน้ำร้อนลดให้”พร้อมกับปากเบ้ ใบหน้าเย้ยหยัน มาหยาที่ได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกว่านับวันคุณเลขาออยนี่เป็นมลพิษทางเสียง ทางสายตา และอากาศมาก จนเธอสงสารพนักงานที่ต้องคอยรับมือด้วยอีกเธอชงกาแฟเสร็จก็รีบเดินหนีกลับไปห้องของอัสลานทันที “กาแฟดำ ใส่มะนาวมาแล้วค้า”เสียงหวานมาก่อนตัวมาหยาที่น่ารักของ
มาหยาที่สามารถปรับตัวได้กับงานรีสอร์ทเป็นอย่างดีในฐานะผู้ช่วยงานของอัสลาน พร้อมกับบริหารจัดการงานที่ร้านขนมไปพร้อมกันอีกไม่นานเธอก็ต้องได้กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยในแบบที่ตั้งใจไว้แต่ถ้าตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเธออาจจะต้องเปลี่ยนแผนเรียนออนไลน์เอาเก็บวิชาต่าง ๆ เพราะงานเริ่มล้นมือ เธอที่เห็นแก่รายได้และมีลูกน้องหลายชีวิตต้องดูแล เธอมีความสุขมากที่ได้เจอผู้มีพระคุณอย่างอัสลานที่ให้เธอได้เพรียบพร้อมไปทุกสิ่งไม่ต่างจากลูกที่มีพ่อมีแม่ อัสลานเป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ แม้อัสลานจะไม่เคยบอกว่ารักเธอแบบไหน เธอไม่เคยหวังสูงเลย “มาหยา เหม่อคิดอะไรอยู่ ฮึ ?” อัสลานที่เห็นร่างเล็กนั่งเหม่อที่โต๊ะทำงานอยู่ “เปล่าหรอกจ้ะ นายหัวอัสลานนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราไปหาอะไรทานกันไหมจ้ะ”มาหยาเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “ไป ซิ ฉันกำลังอยากดื่มกาแฟพอดีเลย”ยังไม่ทันที่อัสลานจะก้าวขาออกจากห้อง เลขาออยก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาแบบไร้มารยาททันที พร้อมกับจ้องหน้าสำออยมาหาอัสลานทันที “นายหัวอัสลานค่ะ พอดีออยรถเสียเลยไม่ได้เอารถมาจะขอติดรถไปกับนายหัวออกไปทานข้าวด้วยได้ไหมค่ะ”เธ
นายหัวใหญ่ที่จัดการเรื่องราวภายในบาร์จนเสร็จเรียบร้อยเขาก็ยังชะเง้อชะแง้รอคอยลูกน้องอย่างไอ้ยศที่ให้เอารถไปส่งมาอย่าที่บ้านสวนมันก็ยังไม่กลับมาสักทีผ่านไปเกือบชั่วโมงเขาก็ได้เห็นข้อความส่งมาในมือถือแสนแพงของเขา เป็นข้อความจากไอ้ยศลูกน้องคู่ใจที่ได้ส่งข้อความพร้อมภาพมาให้เขา รูปนายหัวอัสลานที่ขับมอเตอร์ไซค์ที่เขาซื้อให้มาหยาพาเธอไปกินข้าวที่ชายทะเลอย่างสบายใจ"ไอ้ชิบหายนี่กูจะทำคะแนนหรือกูจะให้มันทำคะแนนแทนกูวะเนี่ย มึงนี่มันแสบจริงๆนะไอ้ผู้อุปการะ"นายหัวใหญ่ที่สบถทันทีหลังจากที่เห็นรูปภาพพร้อมข้อความที่ไอ้ยศส่งมาให้เขาเดชที่เดินทางไปเคลียร์คลังสินค้าที่อิตาลีแทนผู้เป็นนายหัวอย่างอัสลาน มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเหมือนจะมีข่าวรั่วไหลเรื่องคู่ค้า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่จ้องจะยึดอำนาจการค้าสีดำของผู้เป็นเจ้านาย และได้ข่าวว่ามันกำลังเดินทางมาที่ประเทศไทย เขาจึงต้องรีบกลับมาเพื่อรายงานเจ้านายและหาลู่ทางในการกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก เขาเตรียมขึ้นเครื่องวันนี้เดินทางกลับไทยทันทีมาหยาและอัสลานหลังจากที่ได้ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยเขาก็รีบพามาหยาขับมอเตอร์ไซค์กลางแดดเปรี้ยงตรงไปที่ร้านขนมทันที ใจเขา
เช้าวันหยุดของทั้งสองคน มาหยาที่เมื่อคืนกลับจากร้านมาดึกเธอก็ตื่นสายเลยเกือบ 9 โมงเช้า ส่วนอัสลานที่จริงเป็นคนติดการนอนตื่นเช้าแต่อยากจะนอนกอดมาหยาต่ออีกหน่อยก็แกล้งหลับ มาหยาที่ตื่นแล้วค่อย ๆ แกะมือหนาที่กอดตัวเองออก แต่เหมือนโดนแกล้งเพราะแกะยังไงก็แกะไม่ออก “นายหัวอัสลาน !! ไม่ต้องแกล้งมาหยาเลยจ้ะ มาหยารู้ว่าตื่นก่อนมาหยา อย่าทำเป็นแกล้งหลับนะจ๊ะ”มือเรียวเล็กฟาดลงไปที่ต้นแขนแกร่งดัง เพียะ “โอ๊ย เจ็บ มายหา เดี๋ยวนี้กล้าตีฉันเลยหรอ โดนยังงี้ต้องโดน!!!”อัสลานจัดการฟัดเธอบนเตียงไปมาพร้อมกับจั๊กจี้มาหยา สองคนที่นอนหัวฟูฟ่องเป็นสิงโตทั้งคู่ที่เห็นหน้ากันตอนเช้าก็ถึงกับหัวเราะร่วน “กล้าตีฉันใช่ไหม นี่แนะ จั๊กจี้ เอาให้หัวเราะตายไปเลย รอบนี้เธอตายแน่มาหยา”อัสลานที่อายุ 40 แต่กลับทำแบบเด็กเวลาอยู่กับมาหยาเขารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเป็นอย่างมาก “ฮ่า ฮ่า นายหัว ไม่เอา ยอมแล้ว มาหยาขโทษ อย่า อย่า ฮ่า ฮ่า นายหัว”มาหยาที่หัวเราะดังลั่น “ฉันจะยอมยกโทษให้ หอมแก้มก่อน เดี๋ยวปล่อยให้ไปอาบน้ำแล้วเราไปหาอะไรกินกัน”มาหยาทำตามอย่างว่าง่าย เพร
“พวกมึงเอาของไปไว้หลังรถให้หมด อย่าให้กูเห็นนะ”คำสั่งที่ออกจากปากของอัสลานทันทีที่เขาเหยียบถึงร้านขนมของมาหยา บอร์ดี้การ์ดวิ่งมารับกระเป๋าแสนแพงของมาหยาแทบไม่ทัน“เตรียมรถเลยกูจะกลับบ้านสวนตอนนี้”เสียงที่เปล่งออกมามองจากดาวอังคารยังมองออกว่าอารมณ์ไม่ได้ “นายหัวจ๊ะเป็นอะไร ทำหน้าบูดแบบนี้เดี๋ยวไม่หล่อนะจ๊ะ”มาหยาที่ทำท่าทางออดอ้อนนายหัวอัสลานจอมขี้วีน ห้านาทีสี่อารมณ์เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวอารมณ์เสีย เธอปรับตัวแทบไม่ทัน “ขึ้นรถเลยมาหยา ถ้าอยู่นานกว่านี้เดี๋ยวร้านข้าง ๆ มันจะพังซะเปล่า ๆ แล้วไอ้ของขวัญเนี่ยทิ้งได้ไหม เดี๋ยวซื้อให้ใหม่” “ทิ้งไม่ได้จ้ะ !! นายหัวอนุญาตแล้วนะจ๊ะ ห้ามคืนคำแบบนี้นะจ๊ะแล้วนายหัวใหญ่ก็ซื้อมาตั้งแพง มาหยาไม่อยากจะทำร้ายความรู้สึกใครนะจ๊ะ”มาหยาที่อยู่บนรถหรูก็อธิบายเหตุผลให้กับ นายหัวอัสลานฟัง “งั้นก็ตามใจ..!! มึงขับได้เร็วแค่นี้หรือไง หรือจะให้กูลงไปขับเองห๊ะ !!”บอร์ดี้การ์ดที่ได้ยินเสียงตวาดกร้าวของนายหัวอัสลานถึงกลับหน้าถอดสีเลย “ครับนาย ผมจะขับให้เร็วขึ้นครับ” มาหยาที่สงสารพี่บอดี้การ์ดก็ต้องรีบทำ
หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไปมาหย่าก็เริ่มปรับตัวและใจเย็นลงเธอที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดของอัสลานไม่ห่างแม้แต่ในขณะที่ยศจอบปลายกระบอกปืนมาที่อัสลานเขากับนิ่งสงบและกอดเธอเอาไว้แน่นเธอไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย"มาหยาเมื่อกี้เธอตกใจหรือเปล่า"น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"ตกใจมากเลยจ้ะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเป็นห่วงนายหัวอัสลานมากนะจ๊ะ"แค่คำที่มาหยาพูดว่าเป็นห่วงเขาก็ทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเป็นเท่าตัว เขาใช้มือหนารูปไปที่หัวทุยของมาหยาด้วยความเอ็นดู"ขอบคุณที่เธอเป็นห่วงฉันนะ ฉันจะดูแลปกป้องเธอเองถ้ายังมีฉันอยู่ใครหน้าไหนก็ทำอะไรเธอไม่ได้ทั้งนั้น"อัสลานพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"เรากินข้าวกันดีกว่านะจ๊ะจะได้กลับไปพักผ่อนนายหัววันนี้ก็ยุ่งมาทั้งวันแล้ว""เอาสิเธอกินข้าวเยอะๆจะได้มีแรงทำงาน"อัสลานพยายามทำตัวให้เป็นปกติทั้งที่ใจของเขาตอนนี้ทั้งโกรธและโมโหลูกน้องของไอ้นายหัวใหญ่ที่กล้าเอาปลายกระบอกปืนมาจ่อหน้าเขา แต่เขาเป็นห่วงร่างบางตรงหน้ากลัวเธอจะตกใจไปมากกว่านี้จึงต้องข่มอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่และปรับอารมณ์ให้เป็นปกติไวน์ที่เจ้ายศลูกน้อง
“ก็มาหยาของผม ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา”เขาพูดแบบไม่สบอารมณ์นัก นี่ถ้าเขาไม่ดึงเธอหลบก็คงยืนทื่อให้ไอ้นายหัวใหญ่ขี้หลี่นี่กอดเธอแน่ ๆ ยิ่งคิดยิ่งโมโห มาหยาที่เขินอายกับคำชมของนายหัวใหญ่ ซึ่งปกติไม่เคยชมเธอแบบนี้เลย ไหงวันนี้ดันมาชมเธอซะหวานเลี่ยนเลย มาหยาที่โดนคนตัวโตลากให้ไปหลบอยู่ข้างหลัง บังเธอซะมิดเลย “ขอเชิญคุณผู้อุปการะกับมาหยาไปชั้นสองโซน VIP ดีกว่าครับตรงนี้คงไม่ค่อยสะดวก เดี๋ยวมื้อนี้ผมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเองดีกว่า” “ไม่ละครับผมมีปัญญาจ่ายได้ แค่นี้ผมคงไม่ล้มละลาย” มาหยาที่ฟังสองนายหัวผู้ยิ่งใหญ่แย่งกันจ่ายค่าอาหารเธอถึงกับต้องกุมขมับเลยทันที ปกติสองคนนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความดุเป็นอันต้น ๆ เลย แค่ใครพูดไม่เข้าหูก็แทบจะนอนจมกองดินเลยส่วนอัสลานเธอยังไม่เคยเห็นเขาในโหมดโหดสุดขีดและคิดว่าคงไม่อยากเห็นด้วย “มาหยาว่าเราขึ้นไปชั้นสองกันก่อนดีกว่านะค่ะ จะได้ทานข้าวแล้วคุยธุระของเรากัน”มาหยารีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อห้ามทับใหญ่ “ไอ้ยศเอาไวท์ที่ดีที่สุดมาเปิดให้มาหยา พร้อมกับเด็กซักคนสองคนไว้ดูแลนายหัวอัสลาน” “ครับนาย”คนทั้งสามเดินผ่านผู้คนที่จ้องมองกันตาเป็นมันเพราะนายหัวทั้งสองที่หล่อเข้ม ไม