Share

บทที่ 3

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
“เทียนหยู่ ตั้งแต่ปู่ได้รับสายจากแพทย์เซียนเฒ่า ปู่ก็รอหลานมาตลอดเลย ในที่สุดวันนี้หลานก็มาสักที แล้วนั่นจะยังยืนอยู่หน้าประตูทำไมเล่า?”

หลังจากที่ท่านปู่ได้รับแจ้งการมาถึงและรออยู่สักพักแล้วพบว่าเขาไม่เข้าไป ท่านปู่จึงมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง

เย่เทียนหยู่หันมองก่อนจะเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านปู่หลิน!”

“พวกหลานรู้จักกันรึ?” ท่านปู่มองดูหลานสาวที่อยู่ด้านข้างแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย

สีหน้าของหลินหว่านหรูกร่อยไปเล็กน้อยในพริบตา

“เจอกันตอนกลางวันน่ะครับ” เย่เทียนหยู่รีบช่วยอธิบาย

“อย่างนั้นก็บังเอิญจริง ๆ บางที นี่อาจเป็นพรหมลิขิตของสวรรค์ก็ได้ พอดีวันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน รอเราทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกหลานก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ท่านปู่หลินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แพทย์เซียนเฒ่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นลูกศิษย์ของเขาก็น่าจะเก่งมากเช่นกัน

เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตระหนักได้ว่าสาวสวยคนนี้คือคู่หมั้นของเขา หลินหว่านหรู เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูรูปร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง โดยเฉพาะ ‘ส่วนสำคัญ’

หลินหว่านหรูเองก็สังเกตเห็นสายตาลามกของเย่เทียนหยู่ ทำให้เธออดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ และเธอก็ยิ่งละอายและขุ่นเคือง

อิตาคนสารเลวนี่ เมื่อคืนทำตัวฉวยโอกาสก็น่ารังเกียจมากพออยู่แล้ว ดันมาเป็นคู่หมั้นที่ทำให้ตัวเธอเองบุบสลายอีก

ความแค้นทั้งเก่าและใหม่มารวมกันพอดี

ท่านปู่มีความสุขมาก แต่ชายหญิงวัยกลางคนข้างกายกลับมีสีหน้าเย็นชา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่พอใจอย่างมาก

พวกเขาเป็นพ่อแม่ของหลินหว่านหรู ลูกสาวของพวกเขาไม่เพียงแต่หน้าตางดงามน่าทึ่ง แต่เธอยังเป็นประธานบริษัทอีกด้วย แล้วเธอตกไปอยู่ในมือของคนบ้านนอกแบบนี้ได้ยังไง?

ผู้เป็นแม่อย่าง หลิวอวิ๋นซิ่ว อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาตรง ๆ ว่า “พ่อคะ พ่อคงไม่ได้ตั้งใจจะให้หว่านหรูแต่งงานกับเด็กคนนี้จริง ๆ หรอกนะคะ?”

“ดูการแต่งตัวของเขาสิ เชยไร้รสนิยม เหมือนพวกบ้านนอกคอกนาไม่มีผิด”

“ถ้าลูกสาวของฉันแต่งงานกับเขา ฉันจะยังมีหน้ากล้าออกไปเจอใครอีกคะ?”

“ก็นั่นน่ะสิ นี่มีแต่จะทำให้คนอื่นเอาตระกูลหลินของเราไปพูดเป็นเรื่องตลกเท่านั้น” ผู้เป็นพ่ออย่าง หลินหง เองก็พูดด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

“พูดเรื่องเหลวไหลอะไร เทียนหยู่ไม่ใช่พวกบ้านนอก แค่เพียงที่ผ่านมาเขาอาศัยอยู่บนเขาจึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องทางโลก และเพราะแบบนี้พวกเธอถึงต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ”

“สรุปก็คือ เรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ ตกลงตามนี้”

ท่านปู่ยืนหยัดเป็นอย่างมาก และเอ่ยประโยคตัดสินเด็ดขาด

สองสามีภรรยาไม่กล้าปริปาก

ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านปู่จะยกการบริหารบริษัทให้หลินหว่านหรูเป็นคนจัดการแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของเขา

หลินหว่านหรูเองก็เข้าใจจุดนี้ดี ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว

สิ่งเดียวที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คู่หมั้นของเธอเป็นจอมวายร้ายฉวยโอกาสเมื่อคืน ตอนนี้ไม่ใช่แค่วายร้ายแต่ยังเป็นวายร้ายบ้านนอกจากบนเขาอีกต่างหาก!

แต่นั่นก็ไม่เป็นไร เธอจะให้เจ้าวายร้ายคนนี้รู้ว่าอะไรคือความแตกต่าง และปล่อยให้เขาล่าถอยไปเอง

ส่วนเรื่องจะมาแตะต้องตัวเธอน่ะเหรอ?

เป็นไปไม่ได้!

ตกบ่ายกว่า ๆ หลินหว่านหรูขับรถพาเย่เทียนหยู่ไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนตามคำขอของคุณปู่

ไม่นานทั้งคู่ก็กลับออกมา เมื่อมองดูรูปของหลินหว่านหรูในทะเบียนสมรสที่สีหน้าเย็นชา เย่เทียนหยู่ก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูรูปที่คุณถ่ายสิ คุณมีความสุขหน่อยไม่ได้เหรอ?”

“มีความสุข?”

“แต่งงานกับคนไม่รู้ตาสีตาสาแบบนาย คนไร้ความสามารถที่มีแต่คุยโวโอ้อวด นายคิดว่าฉันจะดีใจได้เหรอ?”

“คุณคิดผิดแล้ว ที่จริงผมเก่งมากเลยล่ะ”

“อย่างนายเนี่ยนะ?”

“จริงครับ โดยเฉพาะทักษะทางการแพทย์ คนอื่นเรียกผมว่าแพทย์เซียนน่ะ!”

“ถุย!”

“อย่างนายเนี่ยนะแพทย์เซียน!”

“ถ้าอย่างนายเป็นแพทย์เซียน งั้นฉันคงเป็นเจ้าแม่กวนอิมไปแล้วหรอกย่ะ!”

หลินหว่านหรูตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ฉันแนะนำให้นายเลิกเปลืองน้ำลายไปเถอะ ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะ และฉันจะไม่ถูกหลอกด้วยคำพูดน่าฟังของนายด้วย”

“ก็ได้ครับ” เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

“นายเข้าใจก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นเป็นอุบัติเหตุ เราสองคนน่ะมันคนละโลกกัน ฉันกับนายน่ะมันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็ไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย!”

“ก็ไม่แน่หรอกครับ บางทีหลังจากได้อยู่ด้วยกันแล้ว คุณอาจจะพบว่าฉันดีแค่ไหน แล้วก็ตกหลุมรักผมโดยไม่รู้ตัวก็ได้”

Related chapters

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 4

    “ฝันไปเถอะย่ะ ต่อให้ฉันต้องไปชอบหมาตัวไหนก็คงไม่ชอบนายหรอก!”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโมโห ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อ รวย มีความสามารถมากกว่านายยังมีอีกตั้งเท่าไร ฉันยังไม่ถูกใจเลย แล้วจะให้ถูกใจนายเนี่ยนะ?“หว่านหรู!”ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงหน้าตาสละสวยที่สวมชุดสุดร้อนแรงคนหนึ่งเดินเข้ามา กางเกงขาสั้นยาวถึงสะโพกกับเสื้อยืดรัดสะดือเผยให้เห็นเรียวขาและเอวเรียวบางของเธออย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเนินขาวเนียนนั้นก็สะดุดตามากเธอเหลือบมองเย่เทียนหยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ตั้งใจเขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ๆ แต่รูปร่างหน้าตาดีใช้ได้ แต่อย่างว่า คนบ้านนอกจากภูเขาแบบเขาไม่ว่าเขาจะใส่ชุดอะไร ก็คงเหมือนกับคางคกใส่สูทอยู่ดีเพ้อฝัน“มาสักที”หลินหว่านหรูกล่าวทักทาย ก่อนจะพูดกับเย่เทียนหยู่ “นี่คือเพื่อนสนิทของฉัน ซูถิง”เย่เทียนหยู่ยื่นมือออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีครับ!”แต่ซูถิงไม่ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ เธอจับมือของหลินว่านหรูแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ นายน้อยหลิวและคนอื่น ๆ กำลังรอเราอยู่”หลินหว่านหรูพยักหน้า จากนั้นก็หันมาเรียกเขา “คุณก็มาด้วยกันสิ!”ซูถิงปรากฏตัวแค่เพียงเพื่อจัดการกับเขา ทำให้เขาลำ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 5

    ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่เขากล้าขึ้นไปจริง ๆ เหรอ ก่อนจะพากันหัวเราะ“ฮ่า ๆ ฉันล่ะตลกเป็นบ้า คนบ้านนอกอย่างแกยังกล้าพูดจาอวดเบ่งขนาดนี้”“...”เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกเขา เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้วเร่งเร้า: “ยังไม่รีบอีก?”หลิวเจี๋ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “แกไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันเหรอ?”“ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้นก็โกรธจัด เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ดี ถ้าอีกพักแกเจ็บตัวก็อย่ามาโทษฉันภายหลังแล้วกัน” เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ทำให้มือและเท้าของเขาพิการ“พูดมากจริงจังเลยครับ” เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วไม่ต้องพูดว่าหลิวเจี๋ยโกรธมากขนาดนั้น แต่ทุกคนต่างก็หมดคำจะพูดแค่ดูท่าถือดาบของเขา ก็มองออกเลยว่าเป็นคนนอกวงการ ดันกล้ามาอวดแบบนี้ นี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?หลินหว่านหรูกังวลเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ และอยากให้เขาออกจากชีวิตเธอไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขาซูถิงปลอบเธอทันที: “หว่านหรู ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรหรอกหน่า นายน้อยหลิวมีทักษะมากและก็รู้จักขอบเขตด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอก”หลินห

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 6

    “?”ความสนใจของทุกคนถูกดึงดูดเหมือนกันหมด“พวกคุณคงไม่รู้สินะ ว่าคืนนี้ประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิงจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำด้วยตนเองเพื่อเป็นเกียรติแก่แขกคนสำคัญ”“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ เป็นคนใหญ่คนโตแบบไหนกันนะที่ทำให้ประธานหยางถึงกับมาต้อนรับด้วยตัวเองน่ะ?”“แน่นอนว่าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าเลยล่ะ ตอนนี้มีเพียงเหล่าตระกูลผู้ร่ำรวยที่เข้าร่วมหอการค้าเท่านั้นที่ได้รับการแจ้งเตือน”หลิวเจี๋ยยิ้มและพูดว่า “หว่านหรู ตระกูลหลินยื่นขอเข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงมานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? คืนนี้จะเป็นโอกาส”“ยังไงเหรอคะ?” หลินหว่านหรูรู้สึกหัวใจสั่นไหวทันทีแม้ว่าพวกเขาจะยื่นขอแล้ว และก็ได้เข้าเป็นหนึ่งในรายชื่อใหญ่ แต่สุดท้ายก็มีเพียงสามตระกูลเท่านั้น และความหวังของพวกเขาก็ริบหรี่เสียเหลือเกิน“ง่ายมาก อาหารค่ำคืนนี้ผมสามารถพาคนไปด้วยได้หนึ่งคน คุณเข้าไปกับผมนะ ผมจะช่วยให้คุณได้รู้จักเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้า ถึงตอนนั้นยังต้องกลัวว่าจะไม่ได้เข้าร่วมหอการค้าอีกเหรอ?”“ก็จริงนะ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ต้องเตรียมตัวให้ดี” หลินว่านหรูกล่าวทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เทียนหยู่ก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 7

    ทุกคนตกใจมากหลินหว่านหรูก็ตกตะลึงเช่นกัน หรือคนที่ดูโลโซบ้าน ๆ แบบเขาจะเป็นผู้มีอำนาจมหาศาลจริง ๆ?แต่ในตอนนั้นเอง หลิวเจี๋ยได้รับข่าวและต้องประหลาดใจอีกครั้ง “คุณหนูตระกูลหยางล้มป่วยกะทันหันและอาการสาหัสมาก”“อะไรนะ นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ”“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าประธานหยางรักหลานสาวคนนี้มากและคอยปกป้องเธออยู่เสมอ นอกจากญาติและเพื่อนแล้วไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง”“ก็นั่นน่ะสิ ฉันได้ยินมาว่าเธอสวยมากเทียบได้กับนางฟ้านางสวรรค์เลยล่ะ”“ผมเข้าใจแล้ว” หลิวเจี๋ยตระหนักทันที: “ประธานหยางคงยกเลิกงานเลี้ยงอาหารค่ำต้องเป็นเพราะลูกสาวของเขาป่วยแน่”“ใช่ ๆ ประธานหยางรักลูกสาวคนนี้มาก ต้องเป็นแบบนั้นแน่!”“ฉันว่าแล้วเชียว ว่าอย่างหมอนี่จะไปกำหนดเรื่องของประธานหยางได้ยังไง”“ก็นั่นสินะ แค่เรื่องบังเอิญแท้ ๆ เกือบโดนมันทำตัวเก๊กสำเร็จแล้วเชียว”“ไร้ยางอายชะมัดเลย”ในตอนนั้นเอง เย่เทียนหยู่ได้รับโทรศัพท์ ซึ่งเป็นข้อความขอความช่วยเหลือจากหยางต้าฝูเขาขอที่อยู่และเตรียมไปที่นั่นทันทีเดิมทีหลินหว่านหรูรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเป็นผู้มีอำนาจได้แน่ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลิวเจี๋

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 8

    “ใช่ครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้า ก่อนจะหยิบกล่องออกมาแล้วนั่งลงและเตรียมทำการฝังเข็ม“เดี๋ยวก่อน แกกำลังจะทำอะไร!” หยางปินดุเขา“รักษาไงครับ!”“ใครให้แกรักษา ฉันจะบอกแกไว้นะ ว่าฉันได้เชิญแพทย์เซียนหลี่ต้าเซียนแห่งเมืองจิงเฉิงมาแล้ว เขาใกล้ถึงแล้วด้วย แกรีบไสหัวออกไปซะ”หยางปินทั้งดุทั้งพึมพำ นี่พ่อเลอะเลือนรึไง อย่างไอ้เด็กหนุ่มนี่เนี่ยนะแพทย์เซียน มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นมิจฉาชีพหวังอวิ๋นยังคงนิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าเธอยอมรับแนวทางของลูกชายของเธอเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วในตอนนั้นเอง ก็มีร่างของคนสองคนปรากฏตัวที่ประตู หนึ่งในนั้นคือชายชรามีหนวดเคราสีขาวมาพร้อมกับกล่องยาเมื่อหยางปินเห็น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุขทันทีและพูดว่า “แพทย์เซียนหลี่ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว รีบมาตรวจดูน้องสาวของผมเถอะครับ”“ได้!” แพทย์เซียนหลี่พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ“มัวยืนบื้ออะไรอยู่ ทำไมยังไม่ออกไปจากที่นี่ล่ะ ถ้าแกมาขัดขวางการรักษาน้องสาวล่ะก็ สิบชีวิตของแกก็ไม่พอให้ชดใช้หรอก” หยางปินสาปแช่งเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วหลบไปด้านข้างถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตมนุษย์ เขาก็คงจะจากไปแล้วแพทย์เซียน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 9

    “แม่งเอ้ย มึงไม่รู้แล้วใครจะรู้วะ มึงเป็นแพทย์เซียนนะ”หยางปินคำรามด้วยความโกรธ ยังนึกว่าตนจะได้ทำประโยชน์ครั้งใหญ่แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเฉียนเฉียน พ่อของเธอจะต้องถลกหนังเขาแน่ในตอนนั้นเอง อาการสั่นของหยางเฉียนเฉียนยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ โดยแทบไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ราวกัยเธอได้ตายไปแล้วใบหน้าของหยางปินเริ่มย่ำแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขานึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ขึ้นมา มันแม่นยำมาก และตอนนี้เขาอาจทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในขณะนี้ เขาคิดถึงคำพูดของเย่เทียนหยูที่บอกว่าเขาจะต้องเสียใจและตอนนี้เขาเสียใจจริง ๆในตอนนั้นเอง ในที่สุดหยางต้าฝูก็กลับมา ทันทีที่เขาเข้ามาและเห็นเย่เทียนหยู่เขาก็ถามอย่างกังวล: “ท่าราชามั…คุณชายเย่ เฉียนเฉียนเป็นยังไงบ้างครับ?”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวมองดูหยางปินแล้วพูดว่า “ถามเขาสิ!”หยางต้าฝูมองไปที่ผู้คนที่ตื่นตระหนก แล้วเห็นแพทย์เซียนหลี่ยืนถือเข็มอยู่ข้างเขา เขาคาดเดาความเป็นไปได้คร่าว ๆ และพูดด้วยความโกรธว่า “หยางปิน เกิดอะไรขึ้น!”หยางปินถูกพ่อของเขาดุด้วยความโกรธและหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติใบหน้าของแพทย์เซียนหลี่ซีดลงและเขาพูดอย่างขมขื่น: “ประธาน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 10

    มันเหมือนกับการแก้ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น อันที่จริงพิษเย็นในร่างกายของ หยางเฉียนเฉียนนั้นไม่ธรรมดาและเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากทุกคนตกตะลึง แม้แต่หยางต้าฝูก็ตกใจและพูดอย่างตื่นเต้น: “ขอบคุณคุณชายเย่!”เพราะถึงยังไง เขาก็รู้สถานการณ์ของลูกสาวเธอเป็นอย่างดี แพทย์หลายคนทำอะไรไม่ได้เลย แต่กลับถูกราชามังกรก็รักษาได้อย่างง่ายดาย“ทักษะการรักษาท่านแพทย์เซียนเย่นั้นช่างน่าทึ่งจริง ๆ”“เมื่อกี้ข้าตาบอดมีตาหามีแววไม่ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”ในตอนแรก แพทย์เซียนหลี่ตกใจมาก แต่หลังจากนั้นก็ขอโทษด้วยความตื่นใจ“ไม่เป็นไร” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างสุภาพเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายยังพอมีทักษะอยู่บ้าง“ถ้าอย่างนั้นคุณชาย ท่านรับข้าเป็นศิษย์ของท่านได้หรือไม่? เพื่อจะได้ฝึกฝนทักษะทางการแพทย์ร่วมกับท่าน”แพทย์เซียนหลี่ก้มลงทันทีเพื่อวิงวอนด้วยความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้นไปอีกท่าทางราวกับ รีบร้อนก้มหัวขอเป็นศิษย์ของเขานั้นเมื่อยางปินเห็นหก็ต้องตกใจ แพทย์เซียนหลี่เป็นถึงผู้นำด้านการแพทย์แผนจีนซึ่งมีชื่อเสียงและสถานะสูงส่ง แต่กลับมีท่าทางเช่นนี้ต่อชายหนุ่มแต่แล้ว เย่เทียนหยู่ส่ายหัวและปฏิเสธ: “ผมไม่มีเวลา

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 11

    หลังจากดื่มไวน์และทานอาหารไปจนอิ่มหนำสำราญแล้ว หยางต้าฝูไม่เพียงแต่มอบของขวัญให้เขาเท่านั้น แต่ยังส่งเย่เทียนหยู่ไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณครึ่งทางขึ้นภูเขาเป็นการส่วนตัวด้วยแพทย์เซียนหลี่เฝ้าดูร่างที่จากไปของเย่เทียนหยู่อย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรร์เป็นพิเศษหากเขาทำได้ เขาคงแทบรอไม่ไหวที่จะติดตามเย่เทียนหยู่กลับบ้านไปด้วย“ที่นี่สวยมาก เมื่อไหร่จะมีวิลล่าแบบนี้บ้างคะ?”ในขณะเดียวกัน ซูถิงซึ่งกำลังเดินอยู่ในวิลล่าสกายพาเลซหมายเต็มไปด้วยความอิจฉา“นี่จะไปนับประสาะไร วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งตรงทางขึ้นไปบนภูเขานั่นน่าทึ่งจริงๆ แต่อให้มีเงินแต่ก็ไม่สามารถซื้อได้หรอก” หลิวเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น“ตระกูลก็ไม่ได้เหรอคะ?”“ไม่ได้หรอก” หลิวเจี๋ยส่ายหัว ครั้งนี้เขาไม่ได้คุยโม้“ให้ตายสิ ตระกูลหลิวของคุณน่ะสุดยอดมากยังไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นต้องเป็นผู้ทรงอำนาจแบบไหนกันนะ อยากรู้จักจริง ๆ ”“หยุดฝันซะเถอะ คนแบบนั้นน่ะ ทั้งชีวิตนี้คุณอาจไม่มีทางได้เจอเลยด้วยซ้ำไป”“นั่นสินะ!” ซูถิงพยักหน้าและทันใดนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจ: “เฮ้ นั่นรถของประธานหยางไม่ใช่เห

Latest chapter

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1219

    แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1218

    ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1217

    “ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1216

    แต่พอลองคิดดูอีกที อีกเดี๋ยวหัวหน้าใหญ่ไป๋ก็จะมาถึงแล้ว เขาจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมาในทันที พร้อมกับพูดเสียงดังออกไปว่า “ไอ้หนู กะ แกคิดจะทำอะไร?”เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบออกไปว่า “ไม่ใช่ว่าพวกคุณให้ผมหยุดหรอกเหรอ?”“ใช่ พะ พวกเราสั่งให้แกหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ให้แกเดินเข้ามาสักหน่อย”“......”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมกับพูดอย่างเรียบเฉยออกไปว่า “ผมไม่ว่างมาเสียเวลาอยู่ที่นี่หรอกนะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปที่รถทันทีเมื่อทั้งสองที่เห็นแบบนั้น พวกเขาก็รู้ว่าจะปล่อยให้จากไปแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะลองเสี่ยงดู ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้า โดยโจมตีเข้าขนาบจากทั้งซ้ายขวาพร้อมกันยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำในใจพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา คิดว่าตัวเองอาจจะมาถูกทางโดยบังเอิญก็ได้ และอาจจะสามารถสร้างผลงานชิ้นใหญ่ให้กับตัวเองได้ด้วยแต่ไม่นาน พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และมันก็ผิดมหันต์เลยล่ะ เห็นเพียงแค่หมัดของพวกเขาเข้าใกล้อีกฝ่ายเท่านั้น แต่หมัดยังไม่ทันจะโดน ก็รู้สึกถึงพล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1215

    ครั้งนี้ ไป๋เถารู้สึกเจ็บใจมากจริง ๆ ทุกคำทุกประโยคที่เขาคิด คือต้องการคิดหาวิธีที่จะลากตระกูลไป๋ลงน้ำและเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋จะต้องตายอย่างแน่นอน นั่นเพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวที่น่าตกใจมาก ๆ มา เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรที่แท้ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ไป๋เถาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้น ก็ได้นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นมา ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพบว่าตนเองอาจจะคาดการเรื่องทั้งหมดนี้ผิดไปก็ได้ที่อีกฝ่ายรับการป้องกันได้ไม่ใช่เพราะการโจมตีของตนแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะตนยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือเลยต่างหากที่สำคัญเลยก็คือ หลังจากที่ตนมาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพื่อนจากสถานีตำรวจก็โทรมาหาตำแหน่งของเพื่อนคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาของสารวัตรเฉินกับหวงลี่ นั่นจึงทำให้เขาได้รู้ความลับที่น่าตกใจอย่างหนึ่งเข้าพูดกันว่าความเป็นมาของเย่เทียนหยู่นั้นน่ากลัวมาก เขาเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรเมื่อได้ยินคำว่าราชามังกรแห่งพรรคมังกร ทันใดนั้นไป๋เถาก็เกิดรู้สึกงงงวยขึ้นมาไม่ว่าไป๋เถาจะคิดยังไง เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนจะเผลอไปล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1214

    “โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมจริง ๆ แต่วิธีการเคลื่อนไหวของเขานั้นแปลกประหลาดมาก เป็นการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างพิเศษจริง ๆ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะกระบวนท่าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั่น”ไป๋เถาอธิบายต่อ “พวกเราต่างก็ดูถูกเขาเกินไป คิดว่าจะสามารถจัดการได้ง่าย ๆ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับลงมืออย่างกะทันหัน จนทำให้พวกเราติดกับ”“อย่างนี้นี่เอง ฉันก็ว่าอยู่ ทั้ง ๆ ที่นายเป็นคนท้าดวลเขาแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ นายถึงเป็นฝ่ายที่โดนเสียเอง”“ไหนจะพยัคฆ์ทมิฬนั่นอีก เขาเองก็มีสภาพเดียวกัน ยังไม่ทันได้แสดงฝีมือของตัวเองเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายก็กลับถูกอีกฝ่ายโจมตีจากด้านหลังเสียอย่างนั้น”คุณนายไป๋เองก็เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุหารณ์ทั้งสอง จึงได้พูดอธิบายสิ่งที่รู้อยู่อยู่ข้าง ๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งไอ้เด็กนั่นอ่อนแอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้นเมื่อหัวหน้าใหญ่ไป๋ได้ยิน เขาก็เข้าใจได้ในทันทีเขาเองก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าแค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่า ๆ จะแข็งแกร่งและน่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไงถึงเขาจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ก็ไม่มีทางอยู่ในระดับปรมาจารย์แน่นอนแถมตอนนี้ตนก็อยู่ในระดับพลังผลัดเปล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1213

    เมื่อได้ยินคำถามนี้ สีหน้าของไป๋เถาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที ก่อนจะจ้องมองไปยังคุณนายไป๋ด้วยความโกรธ หลังจากที่เขาโทรเรียกรถพยาบาล 120 จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล เขายิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเคืองขึ้นเรื่อย ๆคุณนายไป๋รู้สึกตกใจเมื่อถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาที่ดุร้าย เธอรู้สึกอึดอัด ก่อนจะพูดด้วยความกลัวออกไปว่า “เธอ เธอจ้องมองฉันทำไม?”หัวหน้าใหญ่ไป๋เองก็มีสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน แม้เขาจะรู้ว่าคำพูดของภรรยามีคำพูดโกหกอยู่บ้าง แต่ทั้งที่ตนถูกคนอื่นทำร้ายมาจนหมดสภาพมาแท้ ๆ ยังไงก็ไม่ควรมาพาลใส่คนอื่นแบบนี้ เขาจึงพูดด้วยเสียงต่ำออกไปว่า “ไป๋เถา นายหมายความว่ายังไง?”“พี่ใหญ่ พี่ไม่รู้อะไร ทั้งหมดก็เป็นเพราะพี่สะใภ้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ ผมก็คงไม่ต้องไปประมือกับไอ้เด็กนั่นหรอก ยิ่งไม่มีทางลงเอยแบบนี้แน่” ไป๋เถาอธิบายด้วยความโกรธแต่หัวหน้าใหญ่ไป๋ที่ได้ยินก็กลับโกรธขึ้นอย่างมาก ก่อนจะด่าออกไปว่า “ไร้สาระ!”“เรื่องที่นายประมือกับเจ้าเด็กนั่นฉันรู้หมดแล้ว ร่างกายก็เป็นของนาย ถ้าหากไม่อยากประมือกับเขา แค่ไม่ลงมือก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้ได้หรอก”เมื่อไป๋เถาได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกมึนงงขึ้นมาทันที เขารู้ว่าพี

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1212

    ดูจากข้อมูลที่ทำความเข้าใจแล้วในปัจจุบัน การทำลายตระกูลไป๋นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างตระกูลไป๋กับแก๊งของพยัคฆ์ทมิฬ รวมถึงเรื่องที่ตระกูลไป๋เคยมีประวัติที่ไม่สะอาดมาก่อนดังนั้น เขาจึงไม่รีบร้อนที่จะจัดการกับตระกูลไป๋ แม้ว่าอีกเดี๋ยวเขายังจะต้องไปเข้าร่วมการประชุมศักดิ์สิทธิ์อยู่ก็ตามกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คุณนายไป๋คนนี้จะชอบรนหาที่ตายมากขนาดนั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็ทำให้พวกเขาสมปรารถนาก็แล้วกัน!ที่แท้ ในตอนที่เห็นเย่เทียนหยู่เดินจากไป คุณนายไป๋ก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เธอจึงหันไปพูดด้วยความโกรธว่า “ไป๋เถา แกเป็นอะไรไป แค่เด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ เลี้ยงขยะแบบแกเอาไว้จะมีประโยชน์อะไร!”ขยะงั้นเหรอ?ฉันเนี่ยนะขยะ!หากเป็นตอนปกติ ไป๋เถาอาจจะพออดทนได้ แต่ในตอนนี้ ความโกรธที่เต็มเปี่ยมกลับพุ่งทะลักออกมาหากไม่ใช่เพราะเธอ ด้วยการระมัดระวังตัวของฉัน คิดว่าฉันจะเจอกับชะตากรรมแบบนี้รึไง“ทำไม นี่แกยังกล้ามาจ้องหน้าฉันอีกงั้นเหรอ แกจำใส่หัวเอาไว้นะ เพราะแกนั่นแหละ แกรู้ไหมว่าแกทำให้ตระกูลไป๋ต้องสูญเสียไปมากแค่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1211

    เย่เทียนหยู่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องนี้ในมุมมองของเขา ถือเป็นเรื่องที่แน่นอนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาจึงถามออกไปว่า “สายจากตำรวจใช่ไหม?”“อือ โทรกลับมาแล้วล่ะ!”“บ่ายวันนี้แม่ของฉันถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ทันทีที่เธอเข้าไป เธอก็สารภาพทุกอย่างออกมาอย่างละเอียดทันที”ก่อนหน้านี้ได้ยินแม่สาบานอย่างมั่นใจแล้วแท้ ๆ บวกกับที่ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดเหตุผลที่อีกฝ่ายจะทำแบบนั้นไม่ออก เดิมทีคิดว่าคงจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับแม่แล้วจริง ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม่จะหลอกเธอมาโดยตลอดแม่ตระกูลหลินเองก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน ตอนที่ถูกพาตัวไป แขนขาเธอก็รู้สึกอ่อนแรงขึ้นมายิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังพูดอีกว่า หากยอมสารภาพความจริงทั้งหมดออกมา และได้รับการให้อภัยจากผู้เสียหาย พร้อมกับลงนามในเอกสารยินยอม เธอก็จะสามารถออกไปได้ทันทีเพราะไม่เช่นนั้น เธอก็จะต้องติดคุกอย่างแน่นอน ส่วนจะติดกี่ปีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของตน และความร้ายแรงของความผิดที่ทำลงไปในตอนนี้ แม่ตระกูลหลินคิดว่าหลินหว่านหรูจะต้องให้อภัยตนอย่างแน่นอน เพราะเธอไม่มีทางที่จะส่งแม่แท้ ๆ เข้าคุกได้แน่ ดังนั้นจึงไม่ลังเลใจที่จะเปิดเผยทุกอย่างออกไป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status