แชร์

บทที่ 5

ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่เขากล้าขึ้นไปจริง ๆ เหรอ ก่อนจะพากันหัวเราะ

“ฮ่า ๆ ฉันล่ะตลกเป็นบ้า คนบ้านนอกอย่างแกยังกล้าพูดจาอวดเบ่งขนาดนี้”

“...”

เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกเขา เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้วเร่งเร้า: “ยังไม่รีบอีก?”

หลิวเจี๋ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “แกไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันเหรอ?”

“ไม่จำเป็นหรอก”

เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินแบบนั้นก็โกรธจัด เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ดี ถ้าอีกพักแกเจ็บตัวก็อย่ามาโทษฉันภายหลังแล้วกัน” เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ทำให้มือและเท้าของเขาพิการ

“พูดมากจริงจังเลยครับ” เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว

ไม่ต้องพูดว่าหลิวเจี๋ยโกรธมากขนาดนั้น แต่ทุกคนต่างก็หมดคำจะพูด

แค่ดูท่าถือดาบของเขา ก็มองออกเลยว่าเป็นคนนอกวงการ ดันกล้ามาอวดแบบนี้ นี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?

หลินหว่านหรูกังวลเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่ และอยากให้เขาออกจากชีวิตเธอไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขา

ซูถิงปลอบเธอทันที: “หว่านหรู ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรหรอกหน่า นายน้อยหลิวมีทักษะมากและก็รู้จักขอบเขตด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอก”

หลินหว่านหรูก็คิดคิดแล้วก็เห็นด้วย

ในเวลานี้เอง หลิวเจี๋ยได้ยกเท้าขึ้นแล้วรีบวิ่งไปข้างหน้า พร้อมกับแทงดาบในมืออย่างรวดเร็ว

“หล่อมาก ดาบของนายน้อยหลิวทั้งได้ท่วงท่าและผลิวไหว เงียบเฉียบ ขนาดพวกนักกีฬามืออาชีพยังต้องหลีกทางเลยล่ะ”

“แล้วดูท่าไอ้หมอนั่นสิ ดูไม่เอาจริงเอาจังเลยสักนิด ท่าจะไม่มีความสามารถในการป้องกัเลยด้วยซ้ำ”

“พอจบกระบวนท่านี้ เขาจะต้องราบคาบแน่”

“ฮ่า ๆ เป็นแบบนี้แล้วยังทำเป็นอวดดีอีก มาดูกันดีกว่าว่าเขาจะตาย…”

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหลิวเจี๋ยและดาบในมือของเขาก็ตกลงไปที่พื้น

นี่มัน?

ทำไมเป็นแบบนี้?

ทุกคนตกตะลึงอยู่ชั่วครู่

ทุกคนมองหน้ากันไปมาด้วยความเหลือเชื่อต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา

หลินหว่านหรูตกใจจนยกมือขึ้นมาปิดปากของเธอ วินาทีก่อนเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำจนเอาเธอตกใจกลัว

เย่เทียนหยู่ขว้างดาบยาวในมือออกไป แล้วเดินลงไปอย่างสงบ

“เป็นไปไม่ได้ นี่แก แกต้องใช้กลอุบายสกปรกแน่ ๆ”

“ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่”

“ไร้ยางอายที่สุด”

“ถ้ามีความสามารถก็แข่งกันใหม่สิ” ทุกคนต่างก็ไม่มีใครยอมรับผล

ทันทีที่หลิวเจี๋ยได้ยินคำว่าแข่งกันใหม่ก็ทำเอาเขาตกใจจนผวา

คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขาพบว่าการเคลื่อนไหวของเย่เทียนหยู่นั้นทั้งรวดเร็วและแม่นยำ บางทีเขาอาจไม่เก่งในการฟันดาบ แต่เขาก็ต้องเก่งกังฟูมากแน่ ถ้าแข่งแล้วแพ้อีก

ถึงตอนนั้นมันจะไม่น่าอายไปกว่านี้เหรอ?

เขารีบพูดขึ้นทันที “ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แพ้ก็คือแพ้ ทำไมต้องมีเหตุผลอะไรมากมาย”

แต่แววตาที่ชั่วร้ายกลับฉายแววในดวงตาของเขา ไอ้คนบ้านนอกเวรนี่ กล้ามาทำให้เขาอับอาย

แต่ต่อให้ชนะแล้วจะเป็นยังไง ถึงยังไงพลังดาบก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรในยุคสมัยนี้

อำนาจต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เขาจะทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าช่องว่างคืออะไร

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็แสดงความชื่นชมทันที

“นายน้อยหลิวใจกว้างมาก ทั้งที่ถูกโกงแท้ ๆ แต่ก็เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ ความใจกว้างและความอดทนนี้ น่าชื่นชมจริง ๆ นะคะ”

“ใช่น่ะสิ เรื่องความมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่น่ะเราด้อยกว่านายน้อยหลิวจริง ๆ ไม่รู้ว่าในอนาคตใครจะโชคดีได้แต่งงานกับเขากันน่ะเนี่ย” ซู่ถิงพูดสนับสนุน

หลินหว่านหรูพยักหน้า ท่าทางของเธอก็ดูชื่นชมหลิวเจี๋ยมากเช่นกัน

สำหรับชัยชนะของเย่เทียนหยู่แม้ว่าจะไม่ใช่กลอุบายสกปรก แต่ก็ต้องใช้วิธีการคดโกงและไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน

หลังจากได้รับความชื่นชมจากทุกคน และสาวในใจของเขาเองก็พยักหน้า หลิวเจี๋ยก็ภูมิใจมากและมองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยแววตาเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม

ต่อให้แกชนะแล้วจะทำไมล่ะ ยังไงก็เป็นตัวตลกอยู่ดี

เย่เทียนหยู่สีหน้านิ่งเรียบไม่สนใจคนโง่เบื้องหน้าคนนี้เลย

“หว่านหรู่ ที่จริงแล้วผมขอให้คุณมาที่นี่วันนี้ ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ” หลิวเจี๋ยพูดด้วยรอยยิ้ม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status