Share

บทที่ 11

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
หลังจากดื่มไวน์และทานอาหารไปจนอิ่มหนำสำราญแล้ว หยางต้าฝูไม่เพียงแต่มอบของขวัญให้เขาเท่านั้น แต่ยังส่งเย่เทียนหยู่ไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณครึ่งทางขึ้นภูเขาเป็นการส่วนตัวด้วย

แพทย์เซียนหลี่เฝ้าดูร่างที่จากไปของเย่เทียนหยู่อย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรร์เป็นพิเศษ

หากเขาทำได้ เขาคงแทบรอไม่ไหวที่จะติดตามเย่เทียนหยู่กลับบ้านไปด้วย

“ที่นี่สวยมาก เมื่อไหร่จะมีวิลล่าแบบนี้บ้างคะ?”

ในขณะเดียวกัน ซูถิงซึ่งกำลังเดินอยู่ในวิลล่าสกายพาเลซหมายเต็มไปด้วยความอิจฉา

“นี่จะไปนับประสาะไร วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งตรงทางขึ้นไปบนภูเขานั่นน่าทึ่งจริงๆ แต่อให้มีเงินแต่ก็ไม่สามารถซื้อได้หรอก” หลิวเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น

“ตระกูลก็ไม่ได้เหรอคะ?”

“ไม่ได้หรอก” หลิวเจี๋ยส่ายหัว ครั้งนี้เขาไม่ได้คุยโม้

“ให้ตายสิ ตระกูลหลิวของคุณน่ะสุดยอดมากยังไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นต้องเป็นผู้ทรงอำนาจแบบไหนกันนะ อยากรู้จักจริง ๆ ”

“หยุดฝันซะเถอะ คนแบบนั้นน่ะ ทั้งชีวิตนี้คุณอาจไม่มีทางได้เจอเลยด้วยซ้ำไป”

“นั่นสินะ!” ซูถิงพยักหน้าและทันใดนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจ: “เฮ้ นั่นรถของประธานหยางไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ ประธานหยางอาศัยอยู่ที่นี่”

“แต่ ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นเย่เทียนหยู่นั่งอยู่ในรถนะ”

“ไอ้บ้านนอกนั่นน่ะเหรอ?”

หลิวเจี๋ยส่ายหัวทันทีและพูดว่า “อย่าไร้สาระ ถ้าคนบ้านนอกอย่างเขาเข้าไปในรถของประธานหยางได้ ฉันจะเอาหัวเป็นลูกบอลให้คุณเตะเล่นเลย”

“นั่นสินะ ฉันคงมองผิดไปเองแหละ” ซูถิงก็รู้สึกว่าเธอต้องตาพร่าแน่ ๆ

วิลล่าสกายพาเลซเป็นชื่อของโซนวิลล่าและมีวิลล่าหลายหลังอยู่ในโซนนั้น ราคาแต่ละยูนิตไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้านบาททำให้เป็นทำเลของผู้มั่งคั่ง

ตระกูลหยางก็เป็นหนึ่งในนั่น

แต่วิลล่าสามหลังที่อยู่ด้านบนนั้นเป็นวิลล่าที่มีทำเลดีที่สุด และแต่ละหลังก็มีราคาแพงมาก

สามเดือนที่แล้ว วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งถูกประมูลในราคาสูงถึงแปดพันล้านบ้าน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่หยางต้าฝูมอบให้เย่เทียนหยู่

เมื่อพวกเขามาถึงจุดหมายปลายทาง เพียงแค่ยืนอยู่บนนั้น เย่เทียนหยู่รู้สึกผ่อนคลายและสบายขึ้น

เขามองไปและเห็นทะเลสาบเทียมที่ใสแจ๋วอยู่ทางซ้ายมือ ด้านขวามือเป็นสวนที่เรียกได้ว่ารายล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำที่มีอากาศบริสุทธิ์

เมื่อเปิดประตูเข้าไป เย่เทียนหยู่ก็ถอนหายใจกับความหรูหราแปลก ๆ ภายใต้ความเรียบง่าย

ฉันต้องบอกว่า หยางต้าฝูช่างใส่ใจจริง ๆ

หลังจากนอนหลับสบายไปหนึ่งงีบ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นสายจากท่านปู่

“เทียนหยู่ ยัยเด็กหว่านหรูไม่รู้เรื่องเลยสักนิด กล้าไม่ยอมให้หลายกลับบ้าน แต่ปู่ดุเธอให้แล้วล่ะ”

“ไม่ต้องห่วง นับจากนี้ไปก็ให้หลานไปนอนในห้องของเธอได้เลยนะ”

“ตอนนี้หลานอยู่ที่ไหน ปู่จะจัดรถไปรับ”

“ไม่ต้องห่วง ผมจะนั่งแท็กซี่กลับเองครับ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเร่งรีบ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เทียนหยู่ก็กลับมาที่ซันไชน์รอยัลวิลล่า

ทันทีที่เขามาถึงประตูเขาก็เห็นหลินหว่านหรู เพราะท่านปู่ขอให้เธอออกมาต้อนรับเย่เทียนหยู่

หลินหว่านหรูไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอได้รับการสอนบทเรียนหรือเปล่า แต่ท่าทางของเธอดูไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอถามว่า: “เมื่อคืนคุณพักที่โรงแรมไหน?”

“ไม่ครับ ผมอยู่ที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่ง” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“...”

หลินหว่านหรูพูดไม่ออก นี่นายยังพูดโม้ได้มากกว่านี้อีกไหมเนี่ย?

วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งมีวิลล่าทั้งหมดสามหลังตั้งอยู่บนไหล่เขา เจ้าของไม่ใช่คนร่ำรวยธรรมดาราคาประมูลล่าสุดของวิลล่าหนึ่งหลังอยู่ที่แปดพันล้านบ้านซึ่งมากกว่าทรัพย์สินรวมของตระกูลหลินทั้งหมด

แล้วทำไมเด็กบ้านนอกผู้ไร้อำนาจแบบเขาถึงอาศัยอยู่ที่นั่นได้?

ช่างมันเถอะ ขี้เกียจเกินไปที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับคนคนไร้ค่าเช่นนี้ หลินว่านหรูพูดตรงๆ: “อีกพักคุณปู่จะให้ข้อเสนอพิเศษนายหนึ่งอย่าง ขอแค่นายปฏิเสธ ฉันจะให้นายห้าแสนบาท”

“ข้อเสนออะไร?”

เย่เทียนหยู่อยากรู้อยากเห็น

“นายไม่ต้องสนใจข้อเสนอหรอก” ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดง

ที่จริงคุณปู่อยากให้พวกเขานอนห้องเดียวกันคืนนี้ ซึ่งมันอุกอาจมาก เรื่องนี้ทำให้เธอนึกถึงความสัมพันธ์อันเร่าร้อนของทั้งสองคนเมื่อก่อน และใบหน้าของเธอก็แดงยิ่งขึ้นไปอีก

Related chapters

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 12

    “ทำไมคุณถึงหน้าแดง? หรือเพราะคุณปู่อยากให้เรานอนห้องเดียวกันคืนนี้?”เย่เทียนหยู่นึกถึงสิ่งที่ชายชราพูดทางโทรศัพท์แล้วเดาดู“ก็ ก็ประมาณนั้นล่ะ” หลินหว่านหรูรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็ส่ายหัวทันทีและพูดว่า “ไม่ได้หรอก หรือว่าตัวคุณมีราคาแค่ห้าแสนกันล่ะ?”“นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่ยะ!”หลินหว่านหรูรู้สึกละอายใจและรำคาญ เธอจึงพูดอย่างรุนแรง: “ต่อให้นายตกลงไปแล้ว ฉันก็จะไม่ปล่อยให้นายได้รับสิ่งที่นายต้องการหรอก ในทางกลับกัน ถ้านายปฏิเสธ ฉันสามารถให้เงินนายได้”“ตกลง” เย่เทียนหยู่เห็นด้วย“คุณเห็นด้วยเหรอ?”“อือ แต่ว่าห้าแสนไม่พอหรอกครับ ผมต้องการห้าล้าน”หลินหว่านหรูแอบสาปแช่งเขา แต่เธอก็ตอบตกลง: “เอาล่ะ” ขณะที่เธอพูด เธอก็หยิบเช็คที่มีข้อความห้าล้านเขียนไว้ออกมาแล้วมอบให้เย่เทียนหยู่ทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน มีเพียงสองสามีภรรยาตระกูลหลินอยู่ในห้องนั่งเล่นเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่เข้ามาใกล้ หลิวอวิ๋นซิ่วก็พูดโดยตรงโดยไม่รอให้เขาพูด: “เย่เทียนหยู่ ฉันขอเตือนให้แกล้มเลิกความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของแกไปซะ”“ตระกูลหลินไม่ใช่ตระกูลที่คนบ้านนอกแบบแกจะล้อเล่นด้วยได้หร

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 13

    แต่ว่าก่อนหลินหว่านหรูจะคิดว่าจะปฏิเสธยังไง เย่เทียนหยู่ก็พูด: “คุณปู่ ผมยอมรับข้อเสนอครับ แต่ผมยังไม่อยากไปทำงานในบริษัทตอนนี้”เมื่อหลิวอวิ๋นซิ่วได้ยินแบบนี้ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ไม่อยากไปทำงานเหรอ อะไร แกอยากนอนอยู่ที่บ้านและกินและดื่มฟรีเหรอ?”“ไม่ครับ ผมแค่ไม่ร้อนเงิน” เย่เทียนหยู่พูดเบา ๆบอกว่าไม่ร้อนเงิน ถ้าไม่ร้อนเงินจะมาอยู่ในบ้านเราเหรอ?แล้วแก คนบ้านนอกที่เพิ่งลงมาจากภูเขา แกได้เงินมาจากไหน?แต่หลินหงหยุดห้ามหลิวอวิ๋นซิ่ว เรื่องคิดจะทำให้เขาอับอายน่ะทำได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้เขาทำงานในบริษัทได้ ไม่อย่างนั้นไม่เท่ากับว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเขาเหรอ?หลิวอวิ๋นซิ่วก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกันและรีบหุบปากหลินหว่านหรูนึกถึงเงินห้าล้านบาทนั่น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยตาคนไร้ความสามารถคนนี้ต้องคิดว่าด้วยเงินห้าล้านบาทนั่นเขาคงจะใช้ชีวิตได้อย่างไร้ความกังวลได้มากเท่าที่ต้องการแล้วสินะท่านปู่คิดว่าเย่เทียนหยู่เพิ่งลงมาจากภูเขา ดังนั้นเขาจึงขอให้เขาเที่ยวเล่นต่อไปอีกหน่อย เขาหันกลับไปและถามว่า “หว่านหรู ความคืบหน้าในการเข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงเป็นยังไงบ้าง”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 14

    “เอาล่ะ ผมมีอย่างอื่นต้องทำและผมไม่มีเวลาคุยกับคุณ”เย่เทียนหยู่ผลักหลินหงออกไปและปิดประตูหลินหงตกตะลึงทันทีที่แท้เขาคือตัวตลกหลังจากกลับมาถึงบ้านเขาก็เล่าให้ภรรยาฟังทั้งคู่โกรธมากจนแทบจะหักเตียงเป็นชิ้น ๆตอนเที่ยงเย่เทียนหยู่เพิ่งเดินไปที่ห้องนั่งเล่นและสองสามีภรรยาตระกูลหลินกับอีกหนึ่งหนุ่มคุยกัน“พ่อ แม่ รอดูเถอะ เขามันก็แค่คนบ้านนอก ดูสิว่าอีกสักพักผมจะจัดการกับเขายังไง ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องกลัวตายแน่”“เอาล่ะ จื่อตงก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของคุณ”“ไม่ต้องกังวล ลูกพวกคุณเป็นใครกันครับ? เป็นเผด็จการอันดับหนึ่งในเมืองเทียนไห่ การจัดการกับเขาจะใช้เวลาไม่กี่นาที”“เขาจะเชื่อฟังแน่ ขอตบเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่อย่างนั้นผมจะให้เขาเดินไปมาโดยไม่มีอาหารกินระหว่างทางซะ”“เขามาแล้ว” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวเมื่อหลินจื่อตงได้ยินแบบนี้ เขาก็หันกลับมาและเห็นเย่เทียนหยู่ เขายืนขึ้นและก้าวไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจพูดว่า “เจ้าหนู แกเป็นคนที่คอยรบกวนน้องสาวของฉันหรือเปล่า”เย่เทียนหยู่มีการได้ยินที่ไม่ธรรมดาและได้ยินการสนทนาของพวกเขาเมื่อนานมาแล้ว และพูดด้วยรอยยิ้ม: “ถูกต้อง เด็กดี ลองเรียกผมว

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 15

    สีหน้าของท่านปู่เปลี่ยนไปทันที เขายังคงนิสัยหลานชายเป็นอย่างดี เขาหันไปมองเขา หวังว่าจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดแต่เมื่อเห็นร่างกายของ หลินจื่อตงสั่นเทา ก็ยากที่จะพูด “ผม ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเพื่อนคุณชายเป้า...”“แกไอ้หลานเลว!”ท่านปู่โกรธมากจนตบเขาอย่างแรงหลินหงและภรรยาของเขาก็หน้าซีดเช่นกัน พวกเขาไม่คุ้นเคยกับคุณชายเป้าแต่พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของคุณชายเป้าพวกเขาจะไม่กลัวได้ยังไงไม่ว่ายังไง หลานชายก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้ท่านปู่ก้าวไปข้างหน้าแสร้งทำเป็นสงบแล้วพูดว่า: “คุณชายเป้า คราวนี้เป็นความผิดของหลานชายของข้าเอง แต่เราไม่อาจโทษคนไม่รู้เรื่องได้ ข้าขอให้คุณมีเกียรติและปล่อยเขาไปสักครั้ง ““ไม่ต้องกังวล เราจะชดเชยให้แน่นอน”“เอาล่ะ เพื่อเห็นแก่ผู้เฒ่า ห้าร้อยล้าน แล้วเราจะปล่อยไป”อะไรนะ ห้าร้อยล้าน!ครอบครัวของหลินหงเริ่มวิตกกังวลทันที ทรัพย์สินของตระกูลหลินทั้งหมดมีเพียงประมาณหนึ่งพันล้านเท่านั้น ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ หากถอนเงินสดออกไปห้าร้อยล้าน เงินทุนหมุนเวียนก็จะมีปัญหาอย่างแน่นอน“อะไรนะ ไม่อยากเหรอ?”“ถ้าเจ้าไม่ต้องการ ข

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 16

    จางเป้าที่โกรธมากในตอนแรกและยังวางหมาดหยิ่งมาก จากนั้นเขาก็หันกลับมาและเห็นเย่เทียนหยู่และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีนี่ นี่คือคนที่ประธานบอกเราโดยเฉพาะว่าอย่าไปยุ่งด้วยใช่ไหมเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครเพราะหากเขาล่วงเกินประธาน สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือโดนทุบตี แต่หากล่วงเกินเขา ทั้งประธานและราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้“คุณปู่หลิน ประตูนี้มีอะไรผิดปกติ?”ในตอนนั้นเอง มีคนสองคนปรากฏตัวที่ประตู ผู้นำเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เมื่อดูจากชุดของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนร่ำรวยท่านปู่มองดูและตระหนักว่านี่คือ หลิวเจี๋ย จากตระกูลหลิวไม่ใช่หรือหลิวเจี๋ยเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหลิว และตระกูลหลิว มีอำนาจมากในเมืองเทียนไห่ เขาอาจมีวิธีแก้ไขปัญหานี้เขารีบทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม: “หลิวเจี๋ย คุณอยู่ที่นี่ด้วย โปรดเข้ามาเร็ว”ในตอนนั้นเอง ในที่สุด จางเป้าก็กลับมามีสติ เมื่อนึกถึงคำสั่งของประธานาธิบดีที่จะไม่เปิดเผยตัวตนของอีกฝ่าย เขาจึงโค้งคำนับไปทางเย่เทียนหยู่ด้วยความเคารพและพูดต่อ“คุณหลิน เนื่องจากมีบุคคลสำคัญในตระกูลหลิน เราจึงจะปล่อยเรื่องนี้ไว้และตัดมันทิ้งไป เราไปกันก่อนนะ”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 17

    “เหลวไหลเหรอ ฉันว่านายนั่นล่ะเหลวไหล!”หลินหว่านหรูไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าอวดดี ทำไมถึงทำไม่ได้”“ยิ่งกว่านั้น นายน้อยหลิวยังสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด และเขาได้ช่วยเหลือตระกูลหลินของฉันมามาก คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปที่จะใส่ร้ายผู้อื่นด้วยวิธีแบบตาต่อตาเช่นนี้เหรอ?”“ถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ลืมมันซะเถอะ เพราะนายไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่านายกำลังใส่ร้ายผู้มีพระคุณของเราต่อตระกูลหลิว หากเจ้ายังทำเช่นนี้ต่อไป จงออกไปจากตระกูลหลินซะ”หลินหงก็ถือโอกาสพูด“ช่างมันเถอะ จริง ๆ แล้วผมเข้าใจพี่เย่นิดหน่อย ยังไงซะ เขาก็แค่คนบ้านนอกบนภูเขาและไม่เข้าใจอะไรเลย เขาคงจะรู้สึกอิจฉาผมในใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลิวเจี๋ยหัวเราะ“เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ควรจะถ่อมตัว นี่หมายความว่ายังไง คิดจะฆ่าพวกเราจริง ๆ สินะ” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดมากแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์ แต่เขากลับถูกโจมตีมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงหยุดพูด“เอาล่ะ เทียนหยู่เพิ่งทำผิดพลาด”เห็นได้ชัดว่าท่านปู่หลินไม่เชื่อค

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 18

    เมื่อหลิวอวิ๋นซิ่วได้ยินแบบนี้ เขาก็ชื่นชม: “นายน้อยหลิว ควรแล้วที่เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวที่ร่ำรวย ความมีน้ำใจและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของเขาไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงกับคนธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงคนป่าเถื่อนและโง่เขลาจากภูเขา”“ก็นั่นน่ะสิ บางคนครเรียนไว้บ้างนะ อย่าวันๆ เอาแต่กินข้าวสุกอยู่ในบ้านไม่ทำอะไร แล้วยังเที่ยวใส่ร้ายคนอื่นไปวัน ๆ”เนื่องจากหลิวเจี๋ยช่วยตระกูลหลินมาก ท่านปู่จึงรู้สึกว่าหลิวเจี๋ยเป็นคนดี และพูดว่า: “คุณชายหลิว เป็นแบบอย่างสำหรับทุกคนจริง ๆ ตอนนี้คุณชายหลิวพูดแล้วถ้าอย่างนั้น หว่านหรู หลานจะพาเทียนหยู่ไปงานเลี้ยงเมื่อถึงเวลา”แม้ว่า หลินหว่านหรูจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ยังพยักหน้าเช้าวันรุ่งขึ้นเย่เทียนหยู่ได้รับรูปถ่ายจาก หยางต้าฝูบนโทรศัพท์มือถือของเขา เขาตกตะลึง นี่มันผู้หญิงที่เขาขอให้หยางต้าฝูตามหา“คุณชายเย่ คุณเคยเห็นรูปนั้นไหม?” หยางต้าฝูโทรมาทันที“เห็นแล้วครับ นี่คือคนที่ผมกำลังมองหา คุณพบเธอแล้วหรือยัง?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจและมีความสุข เขาไม่คาดคิดว่าหยางต้าฝูจะพบบุคคลนั้นอย่างรวดเร็วโดยอาศัยข้อมูลเพียงเล็กน้อยจากตัวเขาเอง“ถ้าเป็นเธอ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 19

    เวลา 11.30 น. ในตอนเช้า หลินหว่านหรูได้ขับรถเย่เทียนหยู่ไปที่ร้านอาหารเถาหยวนและเห็นซูถิงที่กำลังรออยู่เมื่อซูถิงเห็นเย่เทียนหยู่เธอก็ถามคำถามของเธอทันที: “เย่เทียนหยู่ฉันได้ยินหว่านหรูพูดว่านายพักที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งในเทียนไห่เมื่อคืนนี้”เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าและพูดว่า “ครับ”“แล้วคุณรู้จักประธานหยางไหม” ซูถิงถามหลินหว่านหรูตกตะลึง เย่เทียนหยู่รู้จักประธานหยางได้ยังไง ซูถิงเชื่อจริง ๆ ว่าเย่เทียนหยู่จะอาศัยอยู่ที่นั่น เธอสติไม่ดีไปหรือเปล่า?แต่เย่เทียนหยู่ตอบว่า: “ผมรู้จักเขา”“รู้จักกันจริง ๆ เหรอ?” ซูถิงตกตะลึง“อือ เขาเป็นลูกน้องของผมครับ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าเมื่อได้ยินดังนั้นทั้งสองก็พูดไม่ออกพวกเธอเคยเห็นคนคุยโวมากก็มาก แต่ไม่เคยเจอใครเป็นหนักขนาดนี้มาก่อนเลยหลินหว่านหรูอยากจะทุบเขาสักทีจริง ๆซูถิงยังพูดว่า: “สงสัยฉันจะสมองเพี้ยน ดันไปคิดว่าตาหมอนี่จะพักอยู่ที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งที่เทียนไห่จริง ๆ เนี่ย”ตอนนี้เธอมั่นใจมากว่าเดิม ว่าคืนวานซืนนั้นเธอคงตาพร่ามัวไปจริง ๆเย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ทำไมไม่มี

Latest chapter

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1241

    ปฏิกิริยาของทุกคนตอบสนองขึ้นพร้อมกัน และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเย่เทียนหยู่เจ้าตำหนักหยู่คนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้านายของประมุกหยาง ทำไมถึงรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลกันเลยล่ะ ดูปลอมเกินไปรึเปล่าเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินมาแล้ว เกรงว่าคงไม่ได้ด้วยไปกว่าตนเลย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงแข็งแกร่งกว่าเจ้าตำหนักหยู่แน่นอนแต่ที่คาดไม่ถึงเลยก็คือ เขาจะเป็นลูกน้องของเจ้าตำหนักหยู่ได้ ทั้งยังเคารพเจ้าตำหนักหยู่มากอีกด้วย นี่กำลังเข้าใจอะไรผิดไปอยู่รึเปล่านะ?ยิ่งไปกว่านั้น ประมุกมู่หรงเองก็เป็นคนพูดเอง ว่าพวกเธอและประมุกราชาปีศาจได้ทำการร่วมมือกับตำหนักซิวหลัวเรียบร้อยแล้ว หรือพวกเขาต้องการที่จะช่วยให้เจ้าตำหนักหยู่ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำจริง ๆ?อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หลินเจวี๋ยเองก็สับสนเช่นกัน เขาเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งมาแล้ว เขาไม่สามารถคาดเดาหยางผั่วจวินคนนี้ได้เลยจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งกว่าตนแน่นอนหลังจากที่เจวี๋ยเทียนถูกด่า สีหน้าก็ดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1240

    “ใช่!”ครั้งนี้ มู่หรงอินพยักหน้าโดยที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เรื่องเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เดี๋ยวนะ หรือว่ามู่หรงอินไม่คิดที่จะให้เย่เทียนหยู่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้เธอเลือกคนใหม่แล้วงั้นเหรอและคนที่เธอเลือกก็คือเจ้าตำหนักหยู่!แต่คำถามก็คือ เจ้าตำหนักหยู่เป็นแค่ปรมาจารย์ขั้นสุดท้าย เขาจะทำอะไรได้ ใช้เขาเป็นโล่กำบังให้ตัวเองอย่างนั้นเหรอ?“ประมุกเยว่ คุณล่ะ คุณเองก็สนับสนุนเจ้าตำหนักหยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?” เจวี๋ยเทียนค่อย ๆ ไล่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปเรื่อย ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ราวกับว่าถ้าเธอยอมรับ อนาคตเธอก็จะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นสีหน้าของเยว่เหลียนหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้สึกลังเล ก่อนจะเหลือบมองไปที่มู่หรงอินมู่หรงอินไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้นนี่เป็นการส่งสัญญาณว่า เยว่เหลียนหานควรเลือกสนับสนุนเจ้าตำหนักซิวหลัวเจวี๋ยเทียนเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน จิตสังหารฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ประมุกเยว่ ทางที่ดีคุณก็ลองพิจารณาดูให้ดีก่อนเถอะ โดยเฉพาะ ตัวของคุณตอน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1239

    หลังจากที่พูดจจบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่สายตาของทุกคนจะจ้องมองไปทางเขาเจ้าตำหนักคนนี้พูดพล่ามอะไรอยู่ เขามาเพื่อเป็นผู้นำสำนักงั้นเหรอ?นี่มันไร้สาระสิ้นดี!หลินเจวี๋ยรู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก เมื่อเขาได้ยินคำพูดที่เจ้าตำหนักพูดกับเจวี๋ยเทียน เขาก็คิดแล้วว่า ทุกอย่างคงจบสิ้นแล้วจริง ๆ จบเห่แล้วแน่ ๆ เจ้าตำหนักอย่าได้พูดเหลวไหลอีกเลยนะกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คำพูดต่อมาของเจ้าตำหนักจะบ้าบิ่นมากขึ้นกว่าเดิม เขากล้าพูดว่าตนจะขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสำนักจริง ๆ นี่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยรวมถึงสำนักเจวี๋ยงฉิงเองก็ด้วยราชาสวรรค์ทั้งสองที่มากับหลินเจวี๋ยเองก็สับสนด้วยเช่นกัน นี่ใช่เจ้าตำหนักของพวกเขาจริง ๆ น่ะเหรอ นี่เขากำลังรนหาที่ตายชัด ๆเมื่อเห็นสายตาอันน่าสะพรึงกลัวของทุกคนที่มองมา ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลแผ่ซ่านออกมาพวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น!วันนี้ เกรงว่าคงได้ตายจริง ๆ แน่!เยว่เหลียนหานและคนอื่น ๆ จากสำนักดอกไม้เองก็รู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกัน บุตรแห่งสวรรค์ผู้ที่มู่หรงอินภาคภูมิใจยังไม่ทันได้ปรากฏตัว ก็กลับมีเจ้าตำหนักที่ไม่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1238

    “เพราะเหตุนี้ ผมจึงได้เชิญทุกท่านมาที่นี่ในวันนี้ เพื่อจัดการประชุมศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้น!”คำพูดง่าย ๆ เหล่านี้ นับว่าเป็นการอธิบายเรื่องทั้งหมดได้อย่างคร่าว ๆ เจวี๋ยเทียนยิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “นอกจากนี้ ทุกท่านสบายใจได้ ที่ผมเชิญทุกท่านมา ไม่ใช่เพื่อให้ทุกท่านมาก้มหัวเคารพผมโดยตรง”“แต่เราจะเลือกผู้ที่มีความสามารถสูงสุดในหมู่พวกเรา เพื่อขึ้นเป็นผู้ชี้นำทุกคนให้ก้าวไปข้างหน้าต่างหาก นั่นหมายความว่า ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมและโอกาสที่เท่าเทียมกัน”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ เยว่เหลียนหานกลับแอบส่ายหัวเบา ๆ การแข่งขันที่ยุติธรรมอะไรกัน ทุกคนต่างก็มีโอกาสเท่ากันงั้นเหรอ พวกเขามีโอกาสที่ไหนกันถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือเจวี๋ยเทียนเชื่อมั่นในพลังของตัวเองอย่างมาก ว่าจะไม่มีใครที่สามารถหยุดเขาจากการขึ้นเป็นผู้นำของสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้สิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรม ก็แค่การที่ปล่อยให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อให้ถูกโจมตีเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้นทุก ๆ คนต่างก็มีความคิดที่คล้าย ๆ กัน แต่อีกฝ่ายก็มีความแข็งแกร่งมากจริง ๆ พวกเขาแทบไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำการประชุมในวันนี้ หากพวกเขาไม่มาก็ต้องตายสถานเดียว แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1237

    “ฮ่า ๆ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะ พอดีเมื่อกี้มีธุระนิดหน่อย เลยทำให้มาช้า”ทั้งสองคนแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อย ทั้งดูดีและมีเกียรติมากโดยเฉพาะเจวี๋ยเทียน เขาสวมชุดสีม่วง ท่าเดินก็ดูองอาจ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยรัศมีแห่งความยิ่งใหญ่และความสง่างามเครื่องแต่งกายของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดที่มู่หรงชิงเคยสวมใส่ในตอนนั้น ซึ่งทำให้สีหน้าของมู่หรงอินดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เมื่อเห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของหยางผั่วจวินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังพวกเขาในทันที และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อร่องรอยที่เจวี๋ยเทียนเคยทิ้งเอาไว้ในตอนที่เขาไปเยือนสำนักราชาผี ซึ่งนั่นก็ทำให้หยางผั่วจวินตกตะลึงอย่างมากหยางผั่วจวินเองก็สัมผัสได้ ไม่ว่ายังไงตนในตอนนั้นก็ไม่มีทางสู้อีกฝ่ายได้แต่ก่อนที่จะมาที่นี่ หลังจากที่เย่เทียนหยู่ใช้ของวิเศษของพรรคมารช่วยให้เขาพัฒนาตนเอง เขาก็สามารถทะลุจนเลื่อนขั้นสู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แล้ว แถมยังทะลุไปถึงคอขวด จนเกือบจะถึงจุดที่สามารถเลื่อนขั้นได้แล้วด้วยซ้ำตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขา นับว่าอยู่ในจุดที่ไม่ธรรมดาแล้วดังนั้น เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นคู่ต่อสู้ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1236

    เขาไม่อาจเรียกเธอว่านายน้อยได้ แต่ให้เรียกว่าคุณหนูก็ถือยังทำได้อยู่อีกสองคนยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กลับยืนนิ่ว และกว่าวทักทายออกมาว่า “คารวะคุณหนู!”มู่หรงอินขมวดคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเมินเฉยว่า “เหอะ ในสายตาของพวกท่านยังเห็นข้าเป็นคุณหนูอยู่ด้วยงั้นเหรอ?”เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็มืดมนลงเล็กน้อย โดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เขาพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “มู่หรงอิน การที่พวกเรายอมเรียกเธอว่าคุณหนู ก็เพื่อเป็นการไว้หน้าผู้นำคนเก่า อย่าได้เหลิงไปหน่อยเลย!”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอินก็กลับไม่ได้โกรธอะไร กลับกัน สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับดูเย็นชาขึ้นมา จิตสังหารที่เย็นยะเยือกก็เกือบจะเผลอทะลักออกมา หากยังต้องทนฟังคำพูดของตู๋เปียนฝูต่อไป มู่หรงอินเกรงว่าเย่เทียนหยู่อาจจะเผลอทำอะไรที่หุนหันพันแล่นออกไปได้ เธอจึงรีบส่งสัญญาณด้วยสายตาเพื่อหยุดเขาในทันที เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมาเมื่อเห็นสายตาแจ้งเตือนให้ยั้งมือของแม่ เย่เทียนหยู่ก็รีบระงับพลังเอาไว้ทันที ทันใดนั้นจิตสังหารก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพลังที่เขาใช้ปกปิดนั้นค่อ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1235

    “ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก หากตอนนั้นพวกเราทั้งสี่คนร่วมมือกัน พวกเราคงครอบครองโลกใบนี้ไปแล้ว ใครกันจะกล้าขวาง!”ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ใบหน้าดูเศร้าหมอง ริมฝีปากเรียวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้น“ตู๋เปียนฝู?”ในใจทูตใหญ่รู้สึกตกตะลึง“ยังมีข้าอีกคน บรรพจารย์หวงเฉวียน!”หลังจากที่ทั้งสี่ก้าวออกมาพูด สีหน้าของทูตใหญ่ก็ดูไม่ค่อนสู้ดีมากนัก สมญานามของพวกเขาในปีนั้นคือสี่ทูตใหญ่แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังมากการดำรงอยู่ของอำนาจพวกเขาเป็นรองก็แค่ผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้นำสำนักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำคิดไม่ถึงเลยว่าอีกสามคนที่เหลือจะอยู่ที่นี่กันหมด และดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว เหมือนว่าพลังจะมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนต่างก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดกันทั้งนั้นในกรณีนี้ แทบจะเท่ากับว่าผู้นำของนิกายจืดจางคือผู้นำที่แท้จริงของนิกายศักดิ์สิทธิ์แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะเท่ากับว่าตำแหน่งผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์จะต้องตกเป็นของผู้นำสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นเมื่อสองพี่น้อง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1234

    นี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวและทรงพลังระดับไหนกันแน่ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือ เธอรู้สึกขาดความมั่นใจอย่างมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมช่วงนี้พวกเธอจึงเอาแต่กักตัวบำเพ็ญตนแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยก็คือ เหตุใดมู่หรงอินถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น โดยเฉพาะลูกชายของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็แข็งแกร่งมากจริง ๆแต่เมื่อเทียบกับสองพี่น้องเจวี๋ยเทียนแล้ว เกรงว่าความแต่งต่างอาจจะยังห่างชั้นกันอยู่แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงทำได้แค่เดินหน้าทำตามแผนต่อไป หากยังไม่ได้ผล ก็คงต้องสู้ตายเท่านั้นเวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่าณ ภูเขารกร้าง!สถานที่แห่งนี้อยู่หากจากเมืองตงเฉิงออกไปกว่าสามร้อยกิโลเมตร ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขารกร้าง เป็นที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่สำนักศักดิ์ กลับตั้งหลักอยู่จุดที่ลึกที่สุดของภูเขาเช่นนี้ซึ่งมีทางเข้าและทางออกเพียงสองทางเท่านั้นแน่นอน หากพูดถึงทางเข้าออกลับที่มีอยู่ ไม่ได้มีเพียงแค่สองทางอย่างแน่นอน ซึ่งมันเป็นทางที่คนธรรมดาไม่สามารถหาเจอได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะบริเวณทางเข้ามีม่านพลังปิดเอาไว้อยู่ หากเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1233

    เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status