Share

บทที่ 9

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
“แม่งเอ้ย มึงไม่รู้แล้วใครจะรู้วะ มึงเป็นแพทย์เซียนนะ”

หยางปินคำรามด้วยความโกรธ ยังนึกว่าตนจะได้ทำประโยชน์ครั้งใหญ่แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้

หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเฉียนเฉียน พ่อของเธอจะต้องถลกหนังเขาแน่

ในตอนนั้นเอง อาการสั่นของหยางเฉียนเฉียนยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ โดยแทบไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ราวกัยเธอได้ตายไปแล้ว

ใบหน้าของหยางปินเริ่มย่ำแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขานึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ขึ้นมา มันแม่นยำมาก และตอนนี้เขาอาจทำผิดพลาดครั้งใหญ่

ในขณะนี้ เขาคิดถึงคำพูดของเย่เทียนหยูที่บอกว่าเขาจะต้องเสียใจ

และตอนนี้เขาเสียใจจริง ๆ

ในตอนนั้นเอง ในที่สุดหยางต้าฝูก็กลับมา ทันทีที่เขาเข้ามาและเห็นเย่เทียนหยู่เขาก็ถามอย่างกังวล: “ท่าราชามั…คุณชายเย่ เฉียนเฉียนเป็นยังไงบ้างครับ?”

เย่เทียนหยู่ส่ายหัวมองดูหยางปินแล้วพูดว่า “ถามเขาสิ!”

หยางต้าฝูมองไปที่ผู้คนที่ตื่นตระหนก แล้วเห็นแพทย์เซียนหลี่ยืนถือเข็มอยู่ข้างเขา เขาคาดเดาความเป็นไปได้คร่าว ๆ และพูดด้วยความโกรธว่า “หยางปิน เกิดอะไรขึ้น!”

หยางปินถูกพ่อของเขาดุด้วยความโกรธและหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ

ใบหน้าของแพทย์เซียนหลี่ซีดลงและเขาพูดอย่างขมขื่น: “ประธานหยาง ข้าขอโทษจริง ๆ ข้าขอโทษที่ทำอะไรไม่ได้ ลูกสาวของท่านจากไปแล้ว”

“อะไรนะ!”

ใบหน้าของหยางต้าฝูซีดลงและร่างกายของเขาสั่นเทา

อ้ากกก!

หวังอวิ๋นกลั้นเสียงร้องไห้ไม่อยู่อีกต่อไป ตอนนี้เธอเสียใจแล้ว ถ้าเย่เทียนหยู่ลงมือบางทีลูกสาวอาจจะไม่ตาย

ขาของหยางปินอ่อนลงและเขาก็คุกเข่าลง

“แก แก ไอ้ลูกชั่วเอ้ย!”

หยางต้าฝูโกรธมากจนเตะหยางปินออกไปและมองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

“ไม่ต้องกังวลครับ เธอยังมีชีวิตอยู่” เย่เทียนหยู่กล่าว

“อ๊ะ!”

หยางต้าฝูตกใจและรีบก้มลงแล้วพูดว่า: “ได้โปรด ท่านราชามังกรโปรดช่วยเฉียนเฉียนด้วย!”

ด้วยความวิตกกังวลเขาจึงลืมเปลี่ยนชื่อเรียกของเขา

แต่ว่าไม่มีใครท่านสังเกต

ทุกคนตกใจเล็กน้อย ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เทียนหยู่จะกล้าพูดจาหยิ่งผยองแม้ในยามนี้แล้ว โดยเฉพาะแพทย์เซียนหลี่

ในความเห็นของเขา หยางเฉียนเฉียนไม่มีลมหายใจแล้ว และตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้แต่เทพเซียนก็ช่วยเธอไม่ได้หรอก

การที่เขาพูดคำเหล่านั้นออกมาในเวลานี้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง

เย่เทียนหยู่เดินไปแล้วพูดว่า: “หยางต้าฝู ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าคุณ ผมคงไม่ออกแรง”

“ครับ ขอบคุณท่านจริง ๆ” หยางต้าฝูก้มต่ำลงไปอีก

จากนั้นเย่เทียนหยู่ก็นั่งลง เขาโบกมือขวาและเข็มเงินเก้าเล่มก็บินออกมาจากกล่อง จากนั้นแต่ละเข็มก็สอดเข้าไปในจุดฝังเข็มสำคัญของหยางเฉียนเฉียน

เพียงโบกมือครั้งเดียวทุกคนต่างก็ตกตะลึง

แพทย์เซียนหลี่ตกใจเล็กน้อยในตอนแรก จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะอุทาน: “หรือว่านี่จะเป็นเก้าเข็มนภาธรณี”

มีข่าวลือว่าเก้าเข็มนภาธรณีสามารถผลิกจักรวาล ทั้งให้ชีวิตหรือมอดดับ เป็นสิ่งที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง

แต่เทคนิคอันอัศจรรย์เช่นนี้มีเฉพาะในตำนานเท่านั้น และไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน

เขาเองก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จากหนังสือโบราณมาเพียงเล็กน้อย และจุดฝังเข็มหลายจุดเป็นจุดสำคัญที่เขาไม่กล้าสัมผัส ซึ่งสอดคล้องกับการฝังเข็มเก้าเข็มนภาธรณีโดยสิ้นเชิง

เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชายชราคนนี้พอจะมีความรู้อยู่บ้าง ไม่ถือว่าไร้ประโยชน์เสียทีเดียว

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเย่เทียนหยู่และผิวพรรณที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของหยางเฉียนเฉียน ดวงตาของแพทย์เซียนหลี่ก็ส่องประกาย นี่คือเข็มเก้าเข็มนภาธรณีในตำนาน

ผ่านไป 4 ชั่วโมงเต็ม เย่เทียนหยู่โบกมือขวาและเข็มเงินทั้งหมดก็บินออกไป

เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วลุกขึ้นยืน

หยางต้าฝูมองไปที่ลูกสาวของเขาที่ยังคงหมดสติและถามด้วยความกังวล: “คุณชายเย่ เฉียนเฉียนเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ?”

“ได้แล้วล่ะ”

“เรียบร้อยแล้วเหรอครับ?” หยางต้าฝูตกใจ

“แน่นอนครับ เธอจะตื่นในอีกหนึ่งชั่วโมง จากนั้นทุกอย่างจะเป็นเหมือนคนปกติ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

Related chapters

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 10

    มันเหมือนกับการแก้ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น อันที่จริงพิษเย็นในร่างกายของ หยางเฉียนเฉียนนั้นไม่ธรรมดาและเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากทุกคนตกตะลึง แม้แต่หยางต้าฝูก็ตกใจและพูดอย่างตื่นเต้น: “ขอบคุณคุณชายเย่!”เพราะถึงยังไง เขาก็รู้สถานการณ์ของลูกสาวเธอเป็นอย่างดี แพทย์หลายคนทำอะไรไม่ได้เลย แต่กลับถูกราชามังกรก็รักษาได้อย่างง่ายดาย“ทักษะการรักษาท่านแพทย์เซียนเย่นั้นช่างน่าทึ่งจริง ๆ”“เมื่อกี้ข้าตาบอดมีตาหามีแววไม่ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”ในตอนแรก แพทย์เซียนหลี่ตกใจมาก แต่หลังจากนั้นก็ขอโทษด้วยความตื่นใจ“ไม่เป็นไร” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างสุภาพเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายยังพอมีทักษะอยู่บ้าง“ถ้าอย่างนั้นคุณชาย ท่านรับข้าเป็นศิษย์ของท่านได้หรือไม่? เพื่อจะได้ฝึกฝนทักษะทางการแพทย์ร่วมกับท่าน”แพทย์เซียนหลี่ก้มลงทันทีเพื่อวิงวอนด้วยความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้นไปอีกท่าทางราวกับ รีบร้อนก้มหัวขอเป็นศิษย์ของเขานั้นเมื่อยางปินเห็นหก็ต้องตกใจ แพทย์เซียนหลี่เป็นถึงผู้นำด้านการแพทย์แผนจีนซึ่งมีชื่อเสียงและสถานะสูงส่ง แต่กลับมีท่าทางเช่นนี้ต่อชายหนุ่มแต่แล้ว เย่เทียนหยู่ส่ายหัวและปฏิเสธ: “ผมไม่มีเวลา

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 11

    หลังจากดื่มไวน์และทานอาหารไปจนอิ่มหนำสำราญแล้ว หยางต้าฝูไม่เพียงแต่มอบของขวัญให้เขาเท่านั้น แต่ยังส่งเย่เทียนหยู่ไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณครึ่งทางขึ้นภูเขาเป็นการส่วนตัวด้วยแพทย์เซียนหลี่เฝ้าดูร่างที่จากไปของเย่เทียนหยู่อย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรร์เป็นพิเศษหากเขาทำได้ เขาคงแทบรอไม่ไหวที่จะติดตามเย่เทียนหยู่กลับบ้านไปด้วย“ที่นี่สวยมาก เมื่อไหร่จะมีวิลล่าแบบนี้บ้างคะ?”ในขณะเดียวกัน ซูถิงซึ่งกำลังเดินอยู่ในวิลล่าสกายพาเลซหมายเต็มไปด้วยความอิจฉา“นี่จะไปนับประสาะไร วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งตรงทางขึ้นไปบนภูเขานั่นน่าทึ่งจริงๆ แต่อให้มีเงินแต่ก็ไม่สามารถซื้อได้หรอก” หลิวเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น“ตระกูลก็ไม่ได้เหรอคะ?”“ไม่ได้หรอก” หลิวเจี๋ยส่ายหัว ครั้งนี้เขาไม่ได้คุยโม้“ให้ตายสิ ตระกูลหลิวของคุณน่ะสุดยอดมากยังไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นต้องเป็นผู้ทรงอำนาจแบบไหนกันนะ อยากรู้จักจริง ๆ ”“หยุดฝันซะเถอะ คนแบบนั้นน่ะ ทั้งชีวิตนี้คุณอาจไม่มีทางได้เจอเลยด้วยซ้ำไป”“นั่นสินะ!” ซูถิงพยักหน้าและทันใดนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจ: “เฮ้ นั่นรถของประธานหยางไม่ใช่เห

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 12

    “ทำไมคุณถึงหน้าแดง? หรือเพราะคุณปู่อยากให้เรานอนห้องเดียวกันคืนนี้?”เย่เทียนหยู่นึกถึงสิ่งที่ชายชราพูดทางโทรศัพท์แล้วเดาดู“ก็ ก็ประมาณนั้นล่ะ” หลินหว่านหรูรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็ส่ายหัวทันทีและพูดว่า “ไม่ได้หรอก หรือว่าตัวคุณมีราคาแค่ห้าแสนกันล่ะ?”“นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่ยะ!”หลินหว่านหรูรู้สึกละอายใจและรำคาญ เธอจึงพูดอย่างรุนแรง: “ต่อให้นายตกลงไปแล้ว ฉันก็จะไม่ปล่อยให้นายได้รับสิ่งที่นายต้องการหรอก ในทางกลับกัน ถ้านายปฏิเสธ ฉันสามารถให้เงินนายได้”“ตกลง” เย่เทียนหยู่เห็นด้วย“คุณเห็นด้วยเหรอ?”“อือ แต่ว่าห้าแสนไม่พอหรอกครับ ผมต้องการห้าล้าน”หลินหว่านหรูแอบสาปแช่งเขา แต่เธอก็ตอบตกลง: “เอาล่ะ” ขณะที่เธอพูด เธอก็หยิบเช็คที่มีข้อความห้าล้านเขียนไว้ออกมาแล้วมอบให้เย่เทียนหยู่ทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน มีเพียงสองสามีภรรยาตระกูลหลินอยู่ในห้องนั่งเล่นเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่เข้ามาใกล้ หลิวอวิ๋นซิ่วก็พูดโดยตรงโดยไม่รอให้เขาพูด: “เย่เทียนหยู่ ฉันขอเตือนให้แกล้มเลิกความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของแกไปซะ”“ตระกูลหลินไม่ใช่ตระกูลที่คนบ้านนอกแบบแกจะล้อเล่นด้วยได้หร

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 13

    แต่ว่าก่อนหลินหว่านหรูจะคิดว่าจะปฏิเสธยังไง เย่เทียนหยู่ก็พูด: “คุณปู่ ผมยอมรับข้อเสนอครับ แต่ผมยังไม่อยากไปทำงานในบริษัทตอนนี้”เมื่อหลิวอวิ๋นซิ่วได้ยินแบบนี้ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ไม่อยากไปทำงานเหรอ อะไร แกอยากนอนอยู่ที่บ้านและกินและดื่มฟรีเหรอ?”“ไม่ครับ ผมแค่ไม่ร้อนเงิน” เย่เทียนหยู่พูดเบา ๆบอกว่าไม่ร้อนเงิน ถ้าไม่ร้อนเงินจะมาอยู่ในบ้านเราเหรอ?แล้วแก คนบ้านนอกที่เพิ่งลงมาจากภูเขา แกได้เงินมาจากไหน?แต่หลินหงหยุดห้ามหลิวอวิ๋นซิ่ว เรื่องคิดจะทำให้เขาอับอายน่ะทำได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้เขาทำงานในบริษัทได้ ไม่อย่างนั้นไม่เท่ากับว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเขาเหรอ?หลิวอวิ๋นซิ่วก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกันและรีบหุบปากหลินหว่านหรูนึกถึงเงินห้าล้านบาทนั่น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยตาคนไร้ความสามารถคนนี้ต้องคิดว่าด้วยเงินห้าล้านบาทนั่นเขาคงจะใช้ชีวิตได้อย่างไร้ความกังวลได้มากเท่าที่ต้องการแล้วสินะท่านปู่คิดว่าเย่เทียนหยู่เพิ่งลงมาจากภูเขา ดังนั้นเขาจึงขอให้เขาเที่ยวเล่นต่อไปอีกหน่อย เขาหันกลับไปและถามว่า “หว่านหรู ความคืบหน้าในการเข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงเป็นยังไงบ้าง”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 14

    “เอาล่ะ ผมมีอย่างอื่นต้องทำและผมไม่มีเวลาคุยกับคุณ”เย่เทียนหยู่ผลักหลินหงออกไปและปิดประตูหลินหงตกตะลึงทันทีที่แท้เขาคือตัวตลกหลังจากกลับมาถึงบ้านเขาก็เล่าให้ภรรยาฟังทั้งคู่โกรธมากจนแทบจะหักเตียงเป็นชิ้น ๆตอนเที่ยงเย่เทียนหยู่เพิ่งเดินไปที่ห้องนั่งเล่นและสองสามีภรรยาตระกูลหลินกับอีกหนึ่งหนุ่มคุยกัน“พ่อ แม่ รอดูเถอะ เขามันก็แค่คนบ้านนอก ดูสิว่าอีกสักพักผมจะจัดการกับเขายังไง ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องกลัวตายแน่”“เอาล่ะ จื่อตงก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของคุณ”“ไม่ต้องกังวล ลูกพวกคุณเป็นใครกันครับ? เป็นเผด็จการอันดับหนึ่งในเมืองเทียนไห่ การจัดการกับเขาจะใช้เวลาไม่กี่นาที”“เขาจะเชื่อฟังแน่ ขอตบเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่อย่างนั้นผมจะให้เขาเดินไปมาโดยไม่มีอาหารกินระหว่างทางซะ”“เขามาแล้ว” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวเมื่อหลินจื่อตงได้ยินแบบนี้ เขาก็หันกลับมาและเห็นเย่เทียนหยู่ เขายืนขึ้นและก้าวไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจพูดว่า “เจ้าหนู แกเป็นคนที่คอยรบกวนน้องสาวของฉันหรือเปล่า”เย่เทียนหยู่มีการได้ยินที่ไม่ธรรมดาและได้ยินการสนทนาของพวกเขาเมื่อนานมาแล้ว และพูดด้วยรอยยิ้ม: “ถูกต้อง เด็กดี ลองเรียกผมว

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 15

    สีหน้าของท่านปู่เปลี่ยนไปทันที เขายังคงนิสัยหลานชายเป็นอย่างดี เขาหันไปมองเขา หวังว่าจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดแต่เมื่อเห็นร่างกายของ หลินจื่อตงสั่นเทา ก็ยากที่จะพูด “ผม ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเพื่อนคุณชายเป้า...”“แกไอ้หลานเลว!”ท่านปู่โกรธมากจนตบเขาอย่างแรงหลินหงและภรรยาของเขาก็หน้าซีดเช่นกัน พวกเขาไม่คุ้นเคยกับคุณชายเป้าแต่พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของคุณชายเป้าพวกเขาจะไม่กลัวได้ยังไงไม่ว่ายังไง หลานชายก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้ท่านปู่ก้าวไปข้างหน้าแสร้งทำเป็นสงบแล้วพูดว่า: “คุณชายเป้า คราวนี้เป็นความผิดของหลานชายของข้าเอง แต่เราไม่อาจโทษคนไม่รู้เรื่องได้ ข้าขอให้คุณมีเกียรติและปล่อยเขาไปสักครั้ง ““ไม่ต้องกังวล เราจะชดเชยให้แน่นอน”“เอาล่ะ เพื่อเห็นแก่ผู้เฒ่า ห้าร้อยล้าน แล้วเราจะปล่อยไป”อะไรนะ ห้าร้อยล้าน!ครอบครัวของหลินหงเริ่มวิตกกังวลทันที ทรัพย์สินของตระกูลหลินทั้งหมดมีเพียงประมาณหนึ่งพันล้านเท่านั้น ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ หากถอนเงินสดออกไปห้าร้อยล้าน เงินทุนหมุนเวียนก็จะมีปัญหาอย่างแน่นอน“อะไรนะ ไม่อยากเหรอ?”“ถ้าเจ้าไม่ต้องการ ข

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 16

    จางเป้าที่โกรธมากในตอนแรกและยังวางหมาดหยิ่งมาก จากนั้นเขาก็หันกลับมาและเห็นเย่เทียนหยู่และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีนี่ นี่คือคนที่ประธานบอกเราโดยเฉพาะว่าอย่าไปยุ่งด้วยใช่ไหมเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครเพราะหากเขาล่วงเกินประธาน สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือโดนทุบตี แต่หากล่วงเกินเขา ทั้งประธานและราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้“คุณปู่หลิน ประตูนี้มีอะไรผิดปกติ?”ในตอนนั้นเอง มีคนสองคนปรากฏตัวที่ประตู ผู้นำเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เมื่อดูจากชุดของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนร่ำรวยท่านปู่มองดูและตระหนักว่านี่คือ หลิวเจี๋ย จากตระกูลหลิวไม่ใช่หรือหลิวเจี๋ยเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหลิว และตระกูลหลิว มีอำนาจมากในเมืองเทียนไห่ เขาอาจมีวิธีแก้ไขปัญหานี้เขารีบทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม: “หลิวเจี๋ย คุณอยู่ที่นี่ด้วย โปรดเข้ามาเร็ว”ในตอนนั้นเอง ในที่สุด จางเป้าก็กลับมามีสติ เมื่อนึกถึงคำสั่งของประธานาธิบดีที่จะไม่เปิดเผยตัวตนของอีกฝ่าย เขาจึงโค้งคำนับไปทางเย่เทียนหยู่ด้วยความเคารพและพูดต่อ“คุณหลิน เนื่องจากมีบุคคลสำคัญในตระกูลหลิน เราจึงจะปล่อยเรื่องนี้ไว้และตัดมันทิ้งไป เราไปกันก่อนนะ”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 17

    “เหลวไหลเหรอ ฉันว่านายนั่นล่ะเหลวไหล!”หลินหว่านหรูไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าอวดดี ทำไมถึงทำไม่ได้”“ยิ่งกว่านั้น นายน้อยหลิวยังสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด และเขาได้ช่วยเหลือตระกูลหลินของฉันมามาก คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปที่จะใส่ร้ายผู้อื่นด้วยวิธีแบบตาต่อตาเช่นนี้เหรอ?”“ถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ลืมมันซะเถอะ เพราะนายไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่านายกำลังใส่ร้ายผู้มีพระคุณของเราต่อตระกูลหลิว หากเจ้ายังทำเช่นนี้ต่อไป จงออกไปจากตระกูลหลินซะ”หลินหงก็ถือโอกาสพูด“ช่างมันเถอะ จริง ๆ แล้วผมเข้าใจพี่เย่นิดหน่อย ยังไงซะ เขาก็แค่คนบ้านนอกบนภูเขาและไม่เข้าใจอะไรเลย เขาคงจะรู้สึกอิจฉาผมในใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลิวเจี๋ยหัวเราะ“เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ควรจะถ่อมตัว นี่หมายความว่ายังไง คิดจะฆ่าพวกเราจริง ๆ สินะ” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าวเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดมากแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์ แต่เขากลับถูกโจมตีมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงหยุดพูด“เอาล่ะ เทียนหยู่เพิ่งทำผิดพลาด”เห็นได้ชัดว่าท่านปู่หลินไม่เชื่อค

Latest chapter

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1171

    หนานกงเล่อพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามร่างของบอดี้การ์ดวัยกลางคนออกไปแต่ก่อนที่จะจากไป เย่เทียนหยู่เหลือบมองไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ไอ้เด็กนี่ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกสิ้นหวังเท่านั้น แต่กลับดูเหมือนว่าจะมีความหวังในการมีชีวิตอยู่ยังไงอย่างงั้น ทั้งยังรู้สึกถึงความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัดคงไม่ใช่ว่าจะมีวิธีฟื้นฟูกลับมาได้หรอกนะ แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้ ตนเป็นคนลงมือ ยังไงตนก็รู้ดีที่สุดเว้นเสียแต่ว่า เขาจะไปฝึกวิชาจากตำราขุยฮวาอะไรนั่น!เดี๋ยวนะ ตำราขุยฮวาไม่ได้อยู่ในคลังสมบัติของอาณาจักรมังกรหรอกเหรอ งั้นหนานกงเล่อก็มีโอกาสที่จะได้มันมา นี่ก็เท่ากับว่าเขากำลังสร้างศัตรูให้ตัวเองไม่ใช่รึไงเขาไม่กลัวหากว่าหนานกงเล่อต้องการจะแก้แค้นตน แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายคนรอบข้างมากกว่าดูท่าแล้ว จะปล่อยหนานกงเล่อคนนี้ไปไม่ได้ ความเกลียดชังของคนที่เคยถูกทำร้ายไม่ควรมองข้าม เกิดว่าอีกฝ่ายพุ่งเป้าทำร้ายคนรอบข้างเข้า ก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้ให้สัญญากับตระกูลหนานกงไปแล้ว เขาจึงไม่สามารถลงมืออย่างเปิดเผยได้

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1170

    แต่หากทำการสืบค้นต่อไป ข้อมูลนั้นจะต้องถูกค้นพบเข้าสักวันเนื่องจากเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเย่เทียนหยู่ บวกกับที่ได้ทราบข่าวว่าหนานชายเจ้าชู้ของตนก็อยู่ที่เมืองตะวันออกด้วยเช่นกัน เธอจึงกลัวว่าเขาจะเผลอไปสนใจหลินหว่านหรูเข้า จนทำให้เย่เทียนหยู่ไม่พอใจถึงยังไง หลินหว่านหรูก็มีความงามที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงอยู่แล้วถ้าหากหลานชายคนนี้เห็นเข้า คงจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาแน่นอน ถ้าเกิดเผลอไปยั่วยุเย่เทียนหยู่เข้า ตอนนี้คงจะกลายเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวปัจจุบันตระกูลหนานกงก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อพัฒนาให้เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรมีศัตรูที่น่ากลัวอย่างพรรคมังกรเพิ่มขึ้นมาเด็ดขาดแต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตนจะช้าไปหนึ่งก้าว ยังไม่ทันที่จะเตือน หลานชายของเธอก็ไปพัวพันเข้าจนได้ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร แต่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงเมื่อเห็นว่าป้าของตนเงียบไปนาน สีหน้าของหนานกงเล่อก็ยิ่งหมดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เย่เทียนหยู่ทำตัวหยิ่งยโสและอวดดีมากขนาดนี้ หรือพวกเขาจะไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ?ทั้งตระกูลหนานกงจะจัดการกับเ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1169

    การสนทนาเช่นนี้ ทำให้หนานกงเล่อรู้สึกตกใจอย่างสิ้นเชิงเสียงของป้าดังมาก แล้วก็โกรธมากด้วย แม้จะอยู่ห่างกัน แต่ก็ยังได้ยินเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น เขายังตั้งใจเปิดโหมดลำโพงอีกด้วย เพราะเขาต้องการให้พวกเฉินเฟยเฟยได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของตระกูลหนานกง ทำให้พวกเธอรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังแต่คิดไม่ถึงเลยว่า การสนทนาจะเป็นแบบนี้ไปได้แม้จะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ก็มักจะรู้สึกว่านั่นเป็นเพราะตนคิดมากไปเท่านั้น เลยเข้าใจผิด ยังไงซะ ใครบ้างที่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอำนาจตระกูลหนานกงยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่ป้าโกรธมากขนาดนั้น แล้วทำไมป้ายังต้องการพูดกับอีกฝ่ายให้ได้ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะสั่งสอนอีกฝ่าย กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเนื้อหาที่พูดคุยกันจะเป็นแบบนี้แต่ฟังดูสิ เขาพูดว่าอะไร เขาแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าตระกูลหนานกงจะขุ่นเคืองรึเปล่า แถมยังจะใช้ฝ่ามือเดียวจัดการอีกต่างหากเขาไม่เห็นตระกูลหนานกงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยหากคำพูดเช่นนี้ถูกพูดต่อหน้าเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่คือป้าของเขา เธอถือเป็นตัวแทนคนสำคัญของตระกูลหนานกงเชียวนะ เขากล้าพูดแบบนั้นไปได้ยังไง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1168

    “มันเป็นใครกันแน่?”หนานกงย่าเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างสมบูรณ์ ตงลงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนี้“เป็นเขา เขาเป็นคนทำ” หนานกงเล่อที่อยู่ภายใต้ความสิ้นหวังและความโกรธ เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกกลัวเย่เทียนหยู่เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดเป็นกล้องถ่ายรูป และบันทึกภาพเย่เทียนหยู่เอาไว้เหอฉุนรู้สึกตกใจ ก่อนจะรีบพูดเตือนขึ้นว่า “คุณเย่คะ รีบหลบไปสิคะ!”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องหลบด้วย”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูน่าเกลียดมาก ไม่เพียงแต่ไม่หลบเท่านั้น แต่ถึงขั้นเดินหน้าไปอีกสองสามก้าว เพื่อให้ตัวเองถูกถ่ายรูปได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วยเหอฉุนพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง นี่คุณเย่รู้จริง ๆ รึเปล่า ว่าตระกูลหนานกงนั้นน่ากลัวมากแค่ไหนในตอนนั้นเอง หนานกงเล่อก็รู้สึกงงงวยอีกครั้ง และตกตะลึงไปชั่วขณะเขากำลังจะถูกกำจัดแท้ ๆ ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้หยิ่งผยอง และแปลกประหลาดได้มากขนาดนี้สิ่งที่ทำให้หนานกงเล่อตกใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเขาพลิกโทรศัพท์กลับมา ก็สังเกตเห็นว่าป้า ซึ่งเป็นคนที่รักเขามากที่สุด ก็กำลังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกันสีหน้าของหนานกงย่าดูไม่ดีมากนั

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1167

    เสียงร้องที่เจ็บปวดของหนานกงเล่อดังขึ้นอย่างน่าสงสาร!อ้าก!เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองนี้ แสดงให้เห็นว่าหนานกงเล่อได้ก้าวเข้าสู่วงการขันทีอย่างเป็นทางการแล้ว เขานั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียว และเลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทำไมกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!หรือนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่เมื่อก่อนตนเคยทำร้ายผู้หญิงมามากมายอย่างนั้นน่ะเหรอ?สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานและสิ้นหวังมากที่สุดคือ เขาไม่เพียงแต่ถูกตอนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดตอนแบบถอนรากถอนโคน จนไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้อีกแล้วหากว่ามันไม่ได้หนักเหมือนตอนนี้ หากว่าเขาสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ทันเวลา บางทีอาจจะพอมีทางรักษาได้ แต่อีกฝ่ายกลับทำลายความหวังของเขาไปอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้ หนานกงเล่อเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเจ็บปวด เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสีหน้าแสดงโกรธแค้นและเกลียดชัง ราวกับว่าต้องการให้เขาถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลยสีหน้าของเหอฉุนดูซีดเซียว เดิมเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่อาจแค่ต้องการขู่หนานกงเล่อเท่านั้นแต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ เขากล้าที่จะทำมันจริง ๆเราจบเห่แน่!พวกเราคงต้องจบเห่แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1166

    ตระกูลหนานกงนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ ความสามารถของคุณนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับตระกูลหนานกงก็ได้นี่คะ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจออกไปว่า “งั้นตามที่เธอพูด การที่มันทำเรื่องเลวทรามขนาดนี้ รังแกเฟยเฟยขนาดนี้ ก็คิดจะปล่อยมันไปง่าย ๆ เลยอย่างนั้นน่ะเหรอ?”“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เราสามารถให้คุณชายหนานกงทำการชดเชยบางอย่างได้นี่คะ” เหอฉุนกล่าวอย่างไร้หนทางแต่ยิ่งเหอฉุนทำแบบนี้มากเท่าไหร่ หนานกงเล่อก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังดูไม่ฟังคำพูดของเหอฉุนอยู่เลย ตอนนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจะต้องถูกความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของตระกูลหนานกงทำให้ตกใจแล้วแน่ ๆ ดังนั้นหนานกงเล่อจึงพูดด้วยท่าทีใด้ใจขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องชดใช้แล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้คุณชายเย่ก็เพิ่งจะตบหน้าฉันไป ก็ถือว่าเป็นการชดใช้เลยก็แล้วกัน”เหอฉุนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันที ไม่เห็นรึไงว่าอารมณ์ของคุณเย่คนนี้แทบจะระเบิดออกมาเต็มกลืนแล้ว ฉันพยายามแทบตายกว่าจะทำให

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1165

    เมื่อมองไปยังสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเย่เทียนหยู่ หนานกงเล่อก็รู้สึกว่าตนอาจจะตัดสินใจผิดไป ไอ้เด็กนี่อาจจะไม่ต้องการเจรจากับเขาจริง ๆเขาต้องการที่จะทำลายไอ้นั่นของตนจริง ๆแม้ไอ้นั่นของเขาที่อยู่หว่างขาจะสั้นและไม่มีประโยชน์ และมักจะต้องพึ่งยาอยู่เสมอแต่อย่างน้อยก็ยังใช้การได้อยู่ จะให้มันหายไปไม่ได้ครั้งนี้หนานกงเล่อตกใจมากจริง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว จนต้องเดินถอยหลัง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คะ คุณชายเย่ อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว คุณอยากให้ผมชดใช้ยังไง บอกผมมาได้เลยครับ ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมให้ได้ ไม่ว่าอะไรผมก็จะให้คุณทุกอย่าง!”“แกให้ไม่ได้หรอก”เย่เทียนหยู่พูดพลางส่ายหัว“ให้ได้สิครับ ขอแค่คุณเอ่ยออกมา ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น” หนานกงเล่อรู้สึกลนลานมากจริง ๆ“ถ้าฉันบอกว่าต้องการทั้งตระกูลหนานกงล่ะ แกให้ได้ไหม?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพอจะรู้เรื่องที่ตระกูลหนานกงกดดันตระกูลเย่มาอยู่บ้างบวกกับเรื่องที่คนของตระกูลหนานกงเพิ่งจะมาหาเรื่องหลินหว่านหรูไป ตอนนี้ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกสำหรับตระกูลหนานกงแล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้รู้สึกดีด้ว

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1164

    บนใบหน้าไม่ได้มีแค่รอยนิ้วมือที่ชัดเจนปรากฏเท่านั้น แต่ยังบวมขึ้นมาอีกด้วยซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงมือครั้งนี้นั้นหนักหนาสาหัสเพียงใดหนานกงเล่อพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่ใบหน้าอย่างมาก เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยความโกรธ ไม่ใช่ว่าแกควรจะกลัวตระกูลหนานกง และคิดหาวิธีแกไขปัญหารึไงวะแต่แกกลับลงมือรุนแรงขนาดนี้ แล้วแกจะให้ฉันเจรจากับแกได้ยังไง?สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เขายังไม่ทันจะยืนขึ้น เย่เทียนหยูก็เดินเข้ามาอีกครั้ง หนานกงเล่อรู้สึกตกใจ ไอ้เด็กนี่มันไม่เล่นตามกฎเลยจริง ๆสีหน้าของเหอฉุนเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในเมื่อต้องการที่จะเจรจา อาจจะต้องมีการข่มขู่กันบ้าง แต่อย่างน้อยก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง เธอคิดว่าเย่เทียนหยู่จะฉลาด และคิดวิธีออกแล้วเสียอีกแต่กลับยังคงเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ขนาดนั้นเธออยากที่จะเตือน แต่ก็รู้สึกอายเกินกว่าที่จะพูด เพราะตั้งแต่ที่เธอได้เจอกับเขา เธอยังไม่เคยพูดคุยกับเขาเลยสักประโยค ความสัมพันธ์ก็ยังไม่มี จะให้เธอพูดยังไงแต่หากไม่รีบสอนเด็กหนุ่มคนนี้ล่ะก็ เขาอาจจะเผลอทำเรื่องผิดพลาดก็ได้เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา หนานก

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1163

    เย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวยเล็กน้อย ว่าตอนนี้ในหัวเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ช่างเถอะ ยังไงก็ควรแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก่อน เย่เทียนหยู่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นสองสาวที่ถูกมัดอยู่ข้าง ๆ ซึ่งก็คือเหอฉุนและจางผิงเห็นว่าพวกเธอถูกมัดโดยเอามือไขว้หลังเอาไว้อยู่ และปากก็ถูกปิดด้วยเทปกาว พวกเธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้เลยตนเข้ามาก็นานพอสมควร แต่ก็กลับลืมช่วยพวกเธอแก้มัดเสียอย่างนั้น อันที่จริงมันก็ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ทันใดนั้น เย่เทียนหยู่ก็สะบัดมือขวา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาทำยังไง เชือกที่ผูกมือของทั้งสองสาวก็ขาดออกได้ในทันทีสองสาวดูตกใจเล็กน้อย พวกเธอสัมผัสได้ว่าเชือกมันขาดไปแล้ว ทั้งแม้จะรู้สึกประหลาดใจกับวิธีการอันมหัศจรรย์ของเย่เทียนหยู่ก็ตาม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบบ่นในใจพี่ชาย ในที่สุดคุณก็จำได้เสียที ว่ายังมีพวกเราอยู่ด้วย!พวกเราถูกเชือกมัดเอาไว้อยู่ตลอด แค่จะพูดก็ยังทำไม่ได้ แถมยังต้องมานั่งดูพวกคุณแสดงความรักต่อกันอีกเย่เทียนหยู่เองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่นิดหน่อยจริง ๆ ก่อนที่จะถามออกไปว่า “พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเย่ พวกเราโอเค ขอบคุณมากนะคะ”จางผิงพูดด้วย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status