และแล้วกลุ่มคนทั้งหมดตอนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าผืนป่าไผ่
"ท่านพี่เจ้าคะ ท่านลองขุดหน่อไม้ขึ้นมาให้พวกเขาดูว่า ต้องขุดแบบไหน และเลือกหน่อไม้แบบใด" หานตงไม่รอช้า เดินไปที่กอไผ่ที่สมบูรณ์กอหนึ่ง จากนั้นก็สังเกตดู เขาเลือกขุดหน่อที่เพิ่งจะแทงขึ้นมาจากดินเพียงไม่กี่คืบ ไม่นานหน่อไม้อวบอ้วน ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน เมื่อทุกคนเข้าใจดีแล้ว ต่างก็แยกย้ายไปขุดโดยมีเว่ยเหนียนเหยาคอยกำกับให้ขุดไปแค่เพียงพอทำอาหารสัก 3-4วัน หลังจากขุดหน่อไม้ได้พอสมควรแล้ว นางก็เดินนำทุกคนเข้าไปที่พุ่มมันฝรั่งที่ขึ้นกันหนาแน่น งานนี้นางต้องลงมือขุดให้ทุกคนดูเอง เนื่องจากสามีของนางไม่เคยเห็นตอนที่นางขุดขึ้นมาในครั้งก่อน เมื่อนางทำเป็นตัวอย่างให้ดู เหล่านักเรียนทั้งหลายก็ทำตามกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การขุดมันฝรั่ง นางจึงเริ่มสำรวจบริเวณผืนป่าอีกครั้ง นางเดินหยิบนั้นดูนี่ไปเรื่อย สายตาก็พบกับสิ่งที่ตนตามหา นี่มันพริกกับต้นกุหลาบนี่ โอ๊ยสวรรค์ เป็นใจ หญิงสาวกางผ้าเช็ดหน้าของตนออก ก่อนจะเด็ดดอกกุหลาบใส่ไปจนเต็มและห่อไว้อย่างเรียบร้อย แล้วพริกพวกนี้จะเอากลับยังไงดี นางมองไปโดยรอบก่อนจะตัดสินใจ ถ้ายังไงนางขุดกลับไปสักสองต้นน่าจะดี ตอนนี้ตะกร้าของนางก็วางเปล่า เพราะไม่ได้ขุดมันและหน่อไม้เหมือนคนอื่น นางนำต้นพริกใส่ลงไปในตะกร้า ก่อนจะจัดดูไม่ให้ไปทับกับดอกไม้ที่นางเก็บไว้ จากนั้นจึงเดินกลับไปหากลุ่มของสามี นางเห็นว่าขุดมันฝรั่งได้พอสมควรแล้ว นางจึงบอกให้ทุกคนหยุดมือ พร้อมทั้งอธิบายว่า มันฝรั่งหากเก็บไม่ดี จะเสียได้ง่าย หากเห็นว่ามีหน่อแยกขึ้นจากลูก หรือมีจุดสีดำเกิดขึ้น ให้ทิ้งทันทีห้ามนำมากินเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายมาก "ข้าเดินผ่านป่าตรงนี้ตั้งหลายครั้ง แต่ไม่คิดเลยว่าต้นอันนี้จะมีผลที่กินได้ พี่สะใภ้ท่านฉลาดจริงๆ" เซียนย้ง กล่าวยกย่องเว่ยเหนียนเหยาออกมาจากใจ "พวกท่านเคยมาแถวนี้บ่อยๆหรือเจ้าคะ" เมื่อเห็นสามีและเซียนย้งพยักหน้ารับ นางจึงนำไม้เขียนภาพลงในดินพร้อมทั้งอธิบายให้ทั้งสองฟัง หลังจากนั้นเซียนย้งก็บอกว่า ต้นตะไคร้ที่นางต้องการอยู่ทางทิศตะวันตก ไม่ไกลจากที่นี่ เดินไปแค่ไม่กี่อึดใจ นางจึงรบกวนให้เซียนย้งไปขุดมาให้สักสิบกว่าต้น เซียนย้งรับคำ เนื่องจากป่าตรงนี้เป็นป่าชั้นนอกมีคนขึ้นมาหาของกินอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งพรานป่าก็ต้องอาศัยเป็นทางเข้าออก จึงไม่มีสัตว์ร้ายเข้ามาอยู่อาศัยเลย ส่วนมันฝรั่งและหน่อไม้ที่มีอยู่มากมาย เนื่องจากชาวบ้านไม่ทราบว่าเป็นของที่กินได้ จึงละเลยไปเสีย นางจึงกำชับทุกคน รวมทั้งเด็กๆว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด ใครจะคิดว่านางเห็นแก่ตัวก็ช่าง เพราะยามที่ตัวนางและครอบครัวหิวโหยก็ไม่เห็นมีใครจะมาหยิบยื่นอะไรให้ ครอบครัวของตนยังไม่ดี จะไปดูแลครอบครัวคนอื่นยังไง เซียนย้งหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับต้นตะไคร้กอใหญ่ หญิงสาวตัดส่วนที่ไม่ต้องการทิ้ง ก่อนจะนำของมาใส่ตะกร้า เมื่อเห็นว่าวันนี้ได้ของเพียงพอแล้ว จึงชักชวนทุกคนไปล้างเนื้อล้างตัวกันที่ริมลำธาร เด็กๆหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการขุดมันฝรั่งแล้ว เมื่อได้ล้างเนื้อล้างตัว กลับเหมือนได้น้ำทิพย์มาต่อชีวิต ทั้งสามกลับมาวิ่งไล่กันอย่างร่าเริงอีกครั้ง "พวกเจ้าหยุดเล่นกันก่อนเถิด หิวกันหรือยัง แม่เตรียมซาลาเปามาไว้ให้ มานั่งกินกันก่อน อย่าปล่อยให้ตัวเองหิว" เด็กๆเมื่อได้ยินดังนั้นก็วิ่งกรู่เข้ามาหาหญิงสาว ก่อนจะหาที่นั่งข้างๆอย่างเรียบร้อย นางหยิบซาลาเปาให้เด็กๆคนละลูก พร้อมทั้งกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำอยู่หนึ่งกระบอก "ท่านแม่ท่านดีที่สุดเลย" "ข้ารักท่านแม่ที่สุด" "ท่านป้าท่านงามยิ่งนัก" เสียงยกยอของเด็กๆดังขึ้นไม่ขาดสาย นี่แหละสิ่งที่นางต้องการ มันไม่ใช่แค่คำเยินยอ แต่มันคือสายใยความรักในครอบครัว ที่เธอขาดหายไปในชีวิตก่อน หญิงสาวน้ำตารื้น ก่อนจะตัดใจนำห่อซาลาเปาไปแจกจ่ายให้กับผู้ใหญ่อีกสามคนที่นั่งพักอยู่ไม่ไกล "ท่านพี่ เซียนย้ง ซินเซียง มากินซาลาเปากันก่อน" "พี่สะใภ้ซาลาเปาของท่านอร่อยยิ่ง ข้าไม่เคยกินซาลาเปาแบบนี้มาก่อนเลยขอรับ" "นั่นสิเจ้าคะ นอกจากเนื้อหมูแล้ว ข้าว่ามันมีอะไรใส่ลงไปอีกด้วยใช่ไหมเจ้าคะ " นางยิ้มให้กับความช่างสังเกตของซินเซียง "ถูกแล้ว ข้าสับมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็กๆและใส่ลงไปด้วย" "สิ่งนี้ทำอาหารได้หลากหลายแท้ พี่สะใภ้ท่านช่วยสอนข้าด้วยนะเจ้าคะ" "เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้วน้องพี่" ชายหนุ่มทั้งสองเห็นภรรยาเข้าขากันได้เป็นอย่างดีก็สบายใจ เมื่อก่อนนี้เซียนย้งไม่กล้าพาภรรยาหรือบุตรชายมาที่บ้านของหานตง เพราะเกรงว่าภรรยาของอีกฝ่ายจะไม่พอใจ แต่ตอนนี้เหตุการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เขารู้สึกขอบคุณสวรรค์แทนผู้เป็นพี่ชายซะเหลือเกิน หานตงเป็นคนดีมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เงินทองทั้งหมดล้วนให้ผู้เป็นมารดา ชีวิตทั้งชีวิตมีแต่คำว่ากตัญญู แม้จะถูกเอารัดเอาเปรียบจากพี่น้องก็ไม่เคยปริปากบ่น ส่วนหานตง ตอนนี้เขากำลังนึกขอบคุณสวรรค์ที่ส่งภรรยาคนนี้มาให้ เขาสัญญาว่าจะรักและดูแลนางให้ดีที่สุด ให้สมกับที่สวรรค์เมตตาเขา เมื่อพักผ่อนกินข้าวปลากันแล้ว เว่ยเซียนเหยาก็พาทุกคนไปล้างหัวมันฝรั่งที่ริมลำธาร เด็กพากันลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน จนนางถือโอกาสให้อาบน้ำกันไปเสียเลย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการล้างทำความสะอาดมันฝรั่งแล้ว ทั้งหมดจึงพากันกลับบ้าน หญิงสาวเดินนำทุกคนเข้ามาในบ้าน ก่อนที่นางจะบอกให้สามีและเซียนย้งพาเด็กทั้งหมดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและสั่งให้เด็กทั้งสามนอนพักไม่ต้องออกมา ส่วนพวกนางวางตะกร้ามันฝรั่งไว้บนโต๊ะ เว่ยเหนียนเหยาเดินเข้าไปหยิบเสื่อพร้อมผ้าเก่าออกมาจากในห้อง ตอนที่กำลังจะปูเสื่อ ชายหนุ่มทั้งสองก็เดินมาสมทบพร้อมกับบอกว่าเด็กๆหลับแล้ว หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ แต่มือยังคงทำงานต่อเนื่อง เมื่อปูเสื่อลงไปแล้ว นางก็พับผ้าปูทับไปอีกรอบ จากนั้นก็ให้คนทั้งสามยกตะกร้ามันฝรั่งมาวางไว้ใกล้ๆ ครั้งนี้พวกเขาทั้งหมดเก็บมันฝรั่งมาได้ค่อนข้างมาก เพราะมีส่วนของเด็กๆที่ไปช่วยขุดมาด้วย เว่ยเหนียนเหยาเห็นว่าขั้นตอนนี้หานตงเคยทำแล้ว จึงส่งตะกร้าต้นพริกและตะไคร้ ให้สามีช่วยนำไปปลูกที่ข้างบ้านให้แทน ส่วนตัวนางก็สอนคนทั้งสองจัดเก็บมันฝรั่งต่อไป รับสมัครแม่บ้านใจกล้า มาช่วยพ่อขุดหน่อไม้จ้า"ท่านพี่เจ้าคะ สงสัยตอนนี้พวกปลามันคงจะไม่ค่อยว่ายมาแถวนี้แล้วหรือไม่ เรารอมาตั้งนานพึ่งจะจับมาได้แค่สองตัวเอง""ถ้างั้นเราเดินขึ้นไปทางต้นลำธารอีกหน่อยดีไหมเจ้าคะพี่สะใภ้ แถวนั้นข้าเห็นปลาว่ายชุกชุมยิ่งนัก"หลังจากคิดไตร่ตรองชั่วครู่ ทั้งหมดจึงตกลงใจพากันเดินขึ้นไปที่ต้นลำธาร สายตาเว่ยเหนียนเหยาเบิกกว้าง แม่เจ้า นี่มันบึงบัวนี่ โชคดีแท้ๆ นางกำลังเบื่อมันฝรั่งกับหน่อไม้อยู่เลย วันนี้นางจะนำรากบัวสดมาทำกับข้าวด้วยดีกว่า อีกทั้งเกสรดอกบัวและดอกบัวพวกนี้ยังสามารถนำมาทำชาดื่มบำรุงร่างกายได้อีกต่างหาก"ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพาเซียนย้งไปช่วยกันจับปลาที่ทางโน้นก่อน ส่วนข้าจะสอนซินเซียงเก็บรากบัวมาไว้ทำอาหาร พวกเราแยกกันทำงานจะได้กลับบ้านเร็วขึ้น ดีไหมเจ้าคะ"ทั้งหมดต่างเห็นสอดคล้อง จึงแยกย้ายเดินไปคนละที่ เว่ยเเหนียนเหยาถอดรองเท้าออก และเดินลุยลงไปในบึง น้ำในบึงลึกไม่มาก นางไม่ต้องการเดินออกไปไกล เพราะแค่บัวที่ขึ้นใกล้ๆ ริมบึงก็มีอยู่มากโขหญิงสาวใช้ประสบการณ์ กวานมือลงไปใต้กอบัวก่อนจะดึงขึ้นมาทั้งกอ"พี่สะใภ้ รีบทิ้งไปเจ้าค่ะ นั่นๆ งู งูเจ้าค่ะ"เว่ยเหนียนเหยา ตกใจจนแทบจะโยนกอบัวทิ้งไปจริงๆ แต่
"อาตง อาตง เจ้าอยู่ไหม"เสียงเรียกชื่อดังกึกก้อง ตามด้วยการปรากฏตัวของชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ทั้งสามในบ้านที่กำลังอยู่ในกิจกรรมกินข้าวชะงักมือลงส่วนเด็กๆทั้งสามกับแสดงกิริยาหวาดกลัว ตัวหานชิงและหานเหนียนวิ่งเข้าไปกอดมารดาตัวสั่น ส่วนเซียนเหยาก็วิ่งเข้าไปหลบหลังมารดาของตน"หึ เจ้าใหญ่เจ้ารอง เจอลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ใหญ่เหตุใดถึงไม่ทักทาย ช่างใช้ไม่ได้จริงๆ"น้ำเสียงดุดันเหยียดหยามของฝ่ายหญิงที่มา กล่าวขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าเว่ยเหนียนเหยากอดปลอบลูกชายทั้งสองก่อนจะลุกขึ้น เฮ้อที่แท้ก็ญาติฝ่ายสามีนี้เอง"พี่สามี พี่สะใภ้ ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอันใด ตอนนี้ท่านพี่ไม่อยู่เจ้าค่ะ"สองสามีภรรยาวางท่าเดินเข้ามาในบ้านอย่างไร้มารยาท มองดูกับข้าวบนโต๊ะตาวาว ดูท่าสิ่งที่ชาวบ้านร่ำลือจะเป็นจริง น้องชายของตนน่าจะได้โชคจากการเข้าป่า จนเปลี่ยนเป็นเงินก้อนโตเป็นแน่มิน่าล่ะ น้องสะใภ้คนนี้ถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ หานเวิ่นมองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน"ท่านพ่อท่านแม่ เป็นห่วงเจ้ารองกับหลานๆเลยให้ข้าเข้ามาดู และให้บอกเจ้ารองด้วยว่า ให้พาหลานๆเข้าไปหาหน่อย เพราะนางคิดถึงหลานทั้งสองมาก"หานเว
"ท่านพี่ ท่านจะเข้าไปหาท่านแม่ที่บ้านหรือไม่เจ้าคะ"หานตงส่ายหน้า เขายังทำใจไปพบหน้ามารดาไม่ได้ บาดแผลในครั้งนั้นบาดลึก จนยากจะเยียวยาในระยะเวลาอันสั้น"แม้ท่านจะไม่เข้าไป ข้าว่าอย่างไรคนพวกนั้นก็คงไม่หยุดก่อกวนเราแน่เจ้าค่ะ""พี่ได้ยินมาว่า พี่ใหญ่กำลังหาเงิน เพราะอีกไม่นานทางผู้ใหญ่บ้านน่าจะเปิดให้จองชื่อบุตรชายที่ต้องการเข้าเรียนในสถานศึกษา""หึ บุตรชายเขาต้องเรียน แล้วบุตรเราไม่ต้องเรียนหรือยังไง""ช่างเถอะ ยังไงพี่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบครอบครัวเราอีกแล้ว"หานตงดึงผู้เป็นภรรยามากอดอย่างปลอบโยน"ท่านพี่ ท่านเคยเห็นบันทึกการแยกครอบครัวของท่านหรือไม่เจ้าคะ""ไม่นะ วันนั้นมีเพียงบิดามารดา และผู้ใหญ่บ้านไปหาท่านผู้นำตระกูล ส่วนพี่มารดาให้ย้ายสิ่งของเข้ามาจัดที่บ้านหลังนี้""งั้นวันพรุ่งนี้ ท่านนำหมูไปฝากท่านผู้นำตระกูลสักหนึ่งจิน พร้อมทั้งขอบันทึกแผ่นนั้นกลับมาด้วยนะเจ้าคะ""เจ้าคิดว่า บันทึกนั้นมีปัญหา"หญิงสาวส่ายหน้าไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกไปตรงๆ"ข้าก็แค่อยากเตรียมรับมือไว้เท่านั้นเจ้าค่ะ เรื่องนี้ข้าอยากให้ท่านทำแบบเงียบๆ อย่าให้มากความได้หรือไม่เจ้าคะ""นี่ก็ยังไม่เย็นมากนั
ตื่นเช้าขึ้นมา ทุกคนในบ้านยังคงดำเนินการทุกอย่างเหมือนเดิม หลังจากการกินข้าวเช้า หญิงสาวจึงปล่อยบุตรชายทั้งสองออกไปเล่นหน้าบ้าน ก่อนจะปรึกษาสามีเรื่องที่นางคิดมาตลอดคืน"ท่านพี่ ข้าอยากจะซื้อที่และสร้างบ้านใหม่ ท่านจะว่าอย่างไรเจ้าคะ"หานตงรู้ดีว่า ที่ภรรยาคิดเรื่องนี้ขึ้น เพราะบันทึกแผ่นนั้น การหาหนทางรอดให้ตนเองและครอบครัว ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น เป็นหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้"พี่เห็นด้วยกับเจ้า แล้วเจ้าอยากได้ที่ตรงไหนเล่า""ข้าอยากได้ที่ตรงบริเวณลำธารค่อนขึ้นไปทางบึงบัวเจ้าค่ะ""แต่บริเวณนั้น พื้นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกแทบจะไม่มีเลยนะ""ท่านพี่เจ้าขา ข้าหาได้ต้องการพื้นที่เพาะปลูกไม่เจ้าค่ะ แต่ข้าต้องการสิ่งที่อยู่ในน้ำ กับบึงบัวนั้นต่างหาก""เอาแบบนี้เถอะ พี่ว่าเงินที่เจ้าได้มาก็ไม่น้อย น่าจะซื้อที่บริเวณด้านข้างเพิ่มขึ้นมาอีกสักหน่อย ดินตรงนั้นสามารถเพราะปลูกได้ดี พี่จะเก็บไว้ปลูกพวกพืชผัก ที่เจ้าชอบเก็บมาจากบนเขาดีหรือไม่"หญิงสาวตาสว่างวาบ สามีของนางช่างรอบคอบดีแท้"งั้นวันนี้ท่านพี่เร่งดำเนินการเลยนะเจ้าคะ ข้าคิดว่าอีกไม่กี่วันหากท่านยังไม่เข้าไปบ้านของท่านแม่ พวกเขาต้องส่งคนม
เมื่อมีคนนอกวิ่งเข้านอกออกในในหมู่บ้านอย่างคึกคัก ชาวบ้านต่างก็ร่ำลือกันอย่างสนุกปากบางคนก็ว่าคนที่มาซื้อที่สร้างบ้านเป็นเศรษฐีใหญ่ ต้องการหลบความวุ่นวาย จึงมาสร้างบ้านไว้พักผ่อนในชนบทบ้างก็ว่าเป็นคนมีเงินที่ต้องการสร้างไว้สำหรับพาอนุมาหาความสำราญทุกคนในหมู่บ้านล้วนแต่อยากรู้อยากเห็น ชาวบ้านบางคนที่รู้จักเซียนย้ง ทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากถามออกมาตรงๆ ก็มีหากแต่เซียนย้งกับบอกว่า งานนี้มีคนจ้างวานให้เขาทำ เรื่องชื่อผู้จ้างวานไม่สามารถบอกใครได้ เนื่องจากติดอยู่ในสัญญาชาวบ้านทุกคนต่างคิดว่าเป็นจริงตามนั้น เพราะต่างก็เห็นว่า ตอนนี้บ้านของเซียนย้งมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าแต่ก่อนมาก ต่างคนต่างอิจฉาในความโชคดีของอีกฝ่ายเว่ยเหนียนเหยา กำลังนั่งตรวจดูพวกผ้าปักที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้นางทำผ้าปักได้ถึงยี่สิบชุดเลยทีเดียว ความดีความชอบนี้นางต้องยกให้กับซินเซียงและมารดาของนางเนื่องจากสองคนนั้นมีความจำดีเป็นเลิศ สามารถช่วยงานนางในเรื่องการตัดเย็บได้อย่างประณีต ส่วนนางเมื่อได้สะดึงมางานปักก็ลื่นไหล สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นอีกเท่าตัวเว่ยเหนียนเหยาพอใจกับผลงานตรงหน้า
เว่ยเหนียนเหยายืนพิจารณาเสื้อผ้าชุดนั้น ก่อนจะตรวจดูความประณีตของชิ้นงาน ก็รู้สึกว่าช่างของชุนเหมยมีฝีมือไม่น้อยนางเรียกให้คนช่วยขยับหุ่นโชว์ที่นางทำขึ้นออกมาไว้ตรงกลาง จากนั้นจึงหยิบกระโปรงจากมือช่างคนหนึ่งใส่ลงไปในตัวหุ่น หลังจากนั้นก็หยิบเสื้อจากช่างอีกคนใส่ตามลงไปหลังจากตรวจดูความเรียบร้อย นางกับพบว่ามีบางสิ่งขาดหายไป หญิงสาวเดินไปเปิดห่อผ้าอีกห่อที่เตรียมมา ในนั้นมีผ้าคาดเอวแบบต่างๆ อยู่หลายชิ้นนางเลือกผ้าคาดเอวที่เข้ากับชุดนั้นได้ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นจึงเดินเข้าไปตกแต่งชุดนั้นดูอีกครั้งชุนเหมยมองการกระทำของเว่ยเหนียนเหยาอย่างตกตะลึง นางไม่รู้ว่า สิ่งที่เว่ยเหนียนเหยานำมาคืออะไร แต่เมื่อนำเสื้อผ้าลงไปสวมใส่ กลับดูเหมือนว่าเสื้อผ้านั้นสวมอยู่บนตัวคนจริงๆ"น้องพี่สิ่งนี้เรียกว่าอะไร"ชุนเหมยเดินวนรอบๆ หุ่นโชว์อย่างชื่นชม หากมีสิ่งนี้มาตั้งหน้าร้าน ร้านของนางต้องเป็นจุดสนใจของผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปเป็นแน่"สิ่งนี้เรียกว่า หุ่นไม้ เจ้าค่ะ มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าวางไว้ให้ลูกค้าดู เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าเจ้าค่ะพี่ชุนเหมย ท่านดูสิเจ้าคะ เสื้อชุดนี้หากเราตัดเย็บเสร็จก็ต้องพับเก็บ
"ท่านแม่ขอรับ ท่านได้ยินข่าวลือข้างนอกหรือไม่ขอรับ เห็นชาวบ้านลือกันว่า เมื่อวันก่อนเจ้ารองมีรถม้าคันใหญ่มาส่งถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว""แม่ได้ยินมาแล้ว เจ้าลูกอกตัญญู มีเงินมีทองกลับไม่เคยนึกถึงข้า มันน่าโมโหยิ่งนัก"นางเว่ยหมัวหลาน กล่าวออกมาด้วยความโมโห ใครๆ ต่างก็บอกว่านางเป็นแม่ที่รักลูกไม่เท่ากัน เอาใจลูกคนโต รักใคร่ลูกคนเล็ก แต่ทอดทิ้งลูกคนรองฮึ แน่ละ ใครจะไปรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเองกันละ แท้จริงแล้วหานตงเป็นลูกของน้องสาวของนางต่างหาก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางต้องเดินทางกลับไปที่บ้านเดิม เนื่องจากน้องสาวตัวดีเกิดตั้งครรภ์กับคู่หมั้น ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกัน แต่ว่าที่เจ้าบ่าวกับโชคร้ายโดนโจรปล้น ระหว่างทาง หายสาบสูญไปไม่ทราบข่าวคราว มารดาและน้องสาวของนางรู้ข่าวถึงกับล้มป่วยอย่างหนักทั้งสองคน นางจึงต้องพาลูกและสามีกลับไปช่วยดูแลมารดาอยู่หลายเดือนน้องสาวของนางเจ็บป่วยเกินเยียวยา ทำให้เจ็บท้องก่อนกำหนด หลังจากนั้นก็คลอดเด็กชายออกมาผู้หนึ่ง ส่วนน้องของนางกลับจบชีวิตลงทันที แม่ของนางในตอนนั้นสงสารหลานชาย ไม่อยากให้หลานชายขึ้นชื่อว่า เป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ ซ้ำพ่อแม่ยังทำผิดจารีตเสียอี
"อาตง อาตง ลูกแม่เจ้าอยู่หรือไม่"เสียงของนางเว่ยหมัวหลาน ทำให้คนที่กำลังกินข้าวอยู่ในบ้านชะงักมือลง ยังไม่ทันจะขยับตัวลุกขึ้น อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาในบ้านอย่างไม่คำนึงถึงมารยาท"หลานย่า ย่าคิดถึงเจ้ามากเหลือเกิน เจ้าสบายดีใช่ไหม"หานตงรีบนำภรรยาลุกขึ้นคำนับนางเว่ยหมัวหลานอย่างอ่อนน้อม"ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้เชิญนั่งก่อนขอรับ"หานตงพูดอย่างอ่อนน้อม ก่อนจะให้ภรรยาเดินไปรินน้ำออกมาให้ผู้เป็นมารดา"ท่านแม่สามี พี่สามี พี่สะใภ้ น้ำเจ้าค่ะ"จริงๆ ตอนนี้บ้านนางมีชากุหลาบ ชาเกสรดอกบัว ที่ลองทดลองทำไว้ แต่กับคนพวกนี้ให้กินไปก็เสียของ นางจึงรินน้ำเปล่ามาให้เท่านั้นส่วนเด็กสองคนไม่สนิทกับผู้เป็นย่าอยู่แล้ว เพราะทุกครั้งที่บิดาพาไปบ้านของนาง พวกเขามักจะโดนหาเรื่องลงโทษ เนื่องจากพวกเขาไปทะเลาะกับลูกชายของท่านลุงใหญ่เด็กท่านสองรีบเดินไปหลบหลังมารดา หญิงสาวนำตัวลูกชายเข้ามากอด ก่อนจะบอกให้คาราวะหญิงชรา"ท่านย่า" "ท่านย่า"เด็กทั้งสองโค้งตัวลงอย่างอ่อนน้อมฝ่ายหญิงชรากวาดตาดูความเปลี่ยนแปลงของคนในบ้าน ไม่เจอกันแค่ไม่นาน หานตงกลับดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าที่ใส่ดูเหมือนจะเป็นของที่เพิ่งซื้อใหม่เ
"พี่สะใภ้ขอรับ สำหรับสบู่ของข้า ข้าคิดออกแล้วขอรับว่าจะทำยังไง"เซียนย้งเกิดความคิดขึ้นตอนที่เขาฟังพี่สะใภ้กับทุกคนวางแผนการค้าถ่านกัน"ไหนเจ้าลองว่ามาซิ อาย้ง""ตอนนี้สบู่ของข้ามีรูปร่างเหมือนสบู่ทั่วไปที่ขายอยู่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นข้าอยากมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่า นี่เป็นสบู่ของพวกเราด้วยขอรับ""สัญลักษณ์?""ขอรับพี่สะใภ้ ข้าอยากตั้งชื่อทางการค้าให้คนรู้ว่า สินค้าพวกนี้มาจากครอบครัวของพวกเรา""ดีๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า"อาเสิ้นตาโต เขาก็อยากให้ถ่านของเขามีชื่อร้านเหมือนกัน"แล้วเจ้าคิดชื่อไว้แล้วหรือยัง หรือจะให้พวกข้าช่วยคิดให้"หญิงสาวมองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่กระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ก็ช่วยส่งเสริม"ข้าอยากให้ร้านของข้า ชื่อ เหนียนเหยา ขอรับ"หญิงสาวตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเซียนย้งจะเสนอชื่อนางขึ้นมา"เจ้าพอจะบอกเหตุผลข้าได้หรือไม่อาย้ง"หานตงถามขึ้น เขาพอจะรู้ใจของน้องคนนี้ดี แต่ก็อยากจะรู้ว่า จะเหมือนที่เขาคิดไว้หรือไม่"เพราะพี่สะใภ้ เป็นเสมือนแสงสว่างที่สาดเข้ามาในชีวิตของครอบครัวข้า ขับไล่ความมืดมิด ช่วยให้ข้าเห
เว่ยเหนียนเหยายืนอยู่บนระเบียง คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางนับถือนางลี่สือหลินมาก แม้จะรักบุตรชายเพียงใดแต่ก็ไม่ยอมเห็นผิดเป็นถูก กัดฟันส่งบุตรชายเข้ารับโทษที่ก่อตอนแรกนางยังคิดว่า นางลี่สือหลินจะล้มป่วยเพราะตรอมใจอยู่หลายวัน หากเพียงแค่สองวัน นางลี่สือหลินกลับลุกขึ้นไปทำงาน นางกับซินเซียงพยายามห้ามปรามขอให้พักผ่อนอีกสักหน่อยรอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากคู่นั้น ก่อนจะกล่าวว่า" อาเหยา คนเป็นแม่จะอ่อนแอไม่ได้ ตอนนี้บุตรชายของข้ากำลังหกล้ม ข้าหวังว่า สักวันเขาจะคิดได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ เมื่อนั้นมือคู่นี้ของข้ายังต้องช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น"เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็น้ำตาคลอ ชาติที่แล้ว นางไม่มีพ่อแม่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของพ่อแม่มาก่อน หญิงสาวคิดไปถึงต้นโสมเจ้าปัญหาต้นนั้น ที่บัดนี้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องของนางเป็นที่เรียบร้อยต้นโสมเพียงหนึ่งต้น แต่กลับลากดึงเอาความโลภโมโทสันภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ออกมาตีแผ่ นางหวังเพียงแต่ว่า ลี่ห่าวฟง จะไม่ทำให้มารดาของเขาผิดหวัง"พี่สะใภ้ พี่หานตงให้ข้ามาบอกท่านว่า วันนี้เป็นวันที่นัดกับช่างเฟิ่งไว้ขอรับ""เจ้าช่วยไปเรียกอาเสิ้นมาพบข้าหน
"ภรรยาเจ้าเร็วหน่อยเถอะ เราต้องรีบไปให้ทันรถเที่ยวเช้านะ""ท่านพี่จะรีบไปไหน ป่านนี้คนพวกนั้นยังไม่มีใครรู้หรอกน่า"นางลี่สือหลินยืนกำมือแน่นที่หน้าประตู จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ห่าวฟงเห็นมารดา พร้อมน้องเขย น้องสาวยืนอยู่ก็ตกใจ พยายามตั้งสติ"ท่านแม่ ท่าน มาได้ยังไงขอรับ"นางลี่สือหลินมองดูบุตรชายที่ก้าวเท้าถอยหลังเข้าไปในบ้าน ในมือถือห่อผ้าห่อหนึ่ง"เจ้าใหญ่ พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหนกันแต่เช้า"นางลี่สือหลินไม่ตอบ แต่ย้อนถามบุตรชายแทน"พอ ดี แม่ภรรยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยจะพานางไปเยี่ยมดูอาการขอรับ"สะใภ้ตระกูลลี่เมื่อเห็นสามีส่งสายตามาให้ ก็รีบเอ่ยเสริมคำ"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่สามี ท่านแม่ข้าไม่สบาย ข้าจึงจะรีบไปเยี่ยม อีกอย่างข้าอยากจะนำข่าวดีไปบอกท่านด้วยตัวเอง""พวกเจ้าก็เลยทำตัวเป็นบุตรเขยบุตรสาวที่ดี เอาต้นโสมไปเยี่ยมซินะ"นางลี่สือหลิน ตวาดออกไปอย่างหมดความอดทน มองมือบุตรชายที่กุมห่อผ้าแน่นเข้าไปอีก"ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจขอรับ""ข้าก็พูดเรื่องที่เจ้าสองสามีภรรยาเข้าไปขโมยโสมที่บ้านของอาเหยาไงละ"ห่าวฟงหน้าซีด เขารู้ตั้งแต่เห็นหน้ามารดาที่หน้าประตูแล้ว ว่าม
"มา มาลูกสะใภ้เจ้านั่งก่อน"นางลี่สือหลิน รีบบอกให้บุตรชายประคองลูกสะใภ้นั่งลงบนเก้าอี้"น้องสาว น้องเขยตอนนี้คงสบายดีสินะ ท่าทางจะร่ำรวยกันใหญ่"ลี่ห่าวฟงบุตรชายของนางลี่สือหลิน กล่าวออกมาอย่างประชดประชัน เขามองไปมองรอบๆบ้านหลังนี้ด้วยความอิจฉา ครั้งก่อนเขาเคยขอให้มารดา ช่วยพูดกับน้องสาวและน้องเขยว่าให้ตนและภรรยาเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย แต่คนพวกนี้ล้วนแล้งน้ำใจต่อเขากับภรรยา ดีว่ามารดาแอบส่งเงินทองไปให้เขาใช้อยู่เรื่อยๆ ชีวิตเขากับภรรยาจึงไม่ได้ลำบากอะไร"พวกข้าก็แค่มีกินมีใช้นะขอรับ ท่านพี่ภรรยา"เซียนย้งจริงๆ ไม่ค่อยจะชอบพี่ภรรยาคนนี้มากนะ เพราะเขาเป็นคนหยิบโหย่งไม่ค่อยชอบทำงานเท่าไหร่ แถมยังชอบใช้กำลังกับภรรยาของเขาและท่านแม่ยายอยู่บ่อยครั้ง"เอาละ เอาละ มากินข้าวกันเถอะ วันนี้พวกเจ้าต้องกินเยอะๆนะ อ้าวข้าลืม พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าไปเอาน้ำแกงไก่ที่บ้านอาเหยาก่อน"นางลี่สือหลินออกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมน้ำแกงไก่ถ้วยใหญ่"อาเซียงเมื่อกี้ตอนแม่ไปตักน้ำแกงไก่ เห็นกล่องใส่โสมยังวางอยู่ในครัว เห็นอาย้งบอกว่า โสมหัวนั้นราคาหลายร้อยตำลึงทอง ทำไมเอามาวางไว้อย่างนั้นละ"ซินเซียงแอบมองไปยังพี่ชาย
ชุนเหมยเมื่อเห็นน้องสาวต่างสายเลือด กระวีกระวาดวิ่งออกไปหาสามีก็ส่ายหัวยิ้มๆ นางเดินออกจากห้องโถง มุ่งตรงกลับเข้าห้องนอนทันที"เวิ้นสุ่ย"เสียงราบเรียบของหญิงสาวคล้ายพูดคุยกับอากาศที่อยู่ภายในห้อง เงาดำสายหนึ่งเคลื่อนออกมาจากมุมห้องอย่างเงียบๆ"นายหญิง""เจ้าไปสืบเรื่องนั้นมาให้ข้า จำไว้ข้าต้องการเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด"ไร้เสียงตอบรับใดๆ มีเพียงเงาดำสายนั้น ที่เลือนหายไปคล้ายไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ชุนเหมย เดินออกจากห้องไปช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ท่านพี่ตอนที่อยู่ที่หอการค้ากลางทำไมท่านไม่ช่วยข้าออกความคิดเห็นบ้างเลยเจ้าค่ะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างแง่งอน ที่สามีไม่ช่วยนางออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับร้านค้าที่นางจะซื้อ"ก็พี่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ พี่ว่าร้านไหนเจ้าเห็นว่าดีพี่ก็ว่าดี พี่ล้วนเชื่อฟังเจ้าเหยาเอ๋อ"เซียงย้งกลั้นหัวเราะหน้าแดง เมื่อเห็นพี่ชายกลายสภาพเป็นแมวหนุ่มช่างออดอ้อนต่อหน้าพี่สะใภ้ ก่อนจะรีบปรับสีหน้า เมื่อเห็นสายตาพิฆาตที่พี่ชายส่งตรงมาให้"พี่สะใภ้ในเมื่อท่านยังไม่ถูกใจ ก็ค่อยๆ หาไปก็ได้ขอรับ ข้าและ พี่หานตงล้วนเชื่อฟังท่าน""อะ นั่น นั่น น่าจะใช่ร้านเหล็กที่พี่ช
เว่ยเหนียนเหยากำลังกล่าวขอตัวจากเหวินฉีและภรรยา แต่อาเสิ้นก็เดินเข้ามาในบ้านซะก่อน"พี่บุญธรรม ท่านพอจะมีเวลาสักครู่หรือไม่ขอรับ ถ่านเตาแรกตากแดดดีแล้ว ข้าอยากพาท่านไปดู""ได้สิ งั้นอาเซียงเจ้าไปโรงงานเถอะ เดี๋ยวพวกข้าจะไปกับอาเสิ้น"อาเสิ้นลากถ่านที่เขาเก็บใส่ตะกร้าแล้ว ออกมาให้ทุกคนดู หญิงสาวหยิบถ่านขึ้นมาตรวจดู เห็นว่าทุกก้อนแห้งสนิทแล้วจริงๆจึงให้อาเสิ้นลองก่อไฟขึ้นมาดู ถ่านนี้เป็นถ่านที่ทำจากเศษไม้ต่างๆที่เก็บมารวมกัน จึงทำให้มีควันไฟค่อนข้างมาก ซ้ำยังมีกลิ่นแรง แถมแรงไฟที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอนางบอกให้อาเสิ้นจดข้อเสียเหล่านี้ไว้ เพราะเตาต่อไปจะลองใช้ไม้ไผ่อย่างเดียว อาเสิ้นตื่นเต้นมากอยากจะรีบไปเก็บไม้ไผ่กลับมาทดลองแต่นางบอกว่า รอให้พวกนางกลับมาจากในเมืองก่อนจะดีกว่า จะได้มีคนขึ้นเขาไปเป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำในบ้านแล้ว เว่ยเหนียนเหยาจึงรีบเดินทางเข้าในเมือง วันนี้นางมีงานต้องทำมากมายเลยทีเดียวเมื่อมาถึงตัวเมือง นางให้สามีและเซียนย้ง นำปลาไหลที่ได้ไปขายก่อนหานตงจึงมุ่งหน้าไปที่ภัตตาคารที่เคยนำปลาไหลมาขายในครั้งก่อน เสี่ยวเอ้อจำพวกเขาได้ก็ร้องทักอย่างดีใจ"พวก
"อาเซียง เจ้าเดินรอข้าด้วยสิ""อาย้งเจ้าก็เดินให้เร็วหน่อยสิ พี่สะใภ้กำลังรอไก่จากข้าอยู่นะ""เดี๋ยวนี้ เจ้าหายใจเข้าหายใจออกเป็นพี่สะใภ้ ข้าชักจะน้อยใจแล้วสิ""หึ แน่นอนว่า พี่สะใภ้ของข้า ต้องสำคัญกว่าเจ้า""เจ้าพูดเช่นนี้ คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นไร""เจ้า! ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเดินเร็ว นี่มันหน้าบ้านท่านป้าเจ้านี่ รีบเดินเร็วๆ เข้าเถอะ เจ้าไม่กลัวหรือยังไง"ซินเซียงหันซ้ายแลขวา เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของท่านป้าของเซียนย้ง แต่นางเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนบุตรชายกับลูกสะใภ้ก็ทำงานที่เมืองหลวง จึงปล่อยบ้านทิ้งร้างไว้เคร้ง......ปึก ปึก ปึกซินเซียงหันไปเกาะแขนเซียนย้ง หน้าขาวซีด"อา...ย้ง เจ้า..ได้ยินเสียง อะไรไหม""คงจะเป็นเสียงหนูละมั้ง ข้าว่าเรารีบไปกันดีกว่าเนอะ"เซียนย้งที่หิ้วไก่อยู่ ใช้มืออีกข้างดึงให้ซินเซียงรีบเดินตาม"อาย้ง ....อาเซียง""อา...ย้ง ได้ยินเสียงคน คนเรียก พวกเราไหม"ตอนนี้ เซียนย้งเองก็เริ่มหน้าซีดไปเหมือนกัน จับมือซินเซียงเตรียมวิ่งออกไป"อาย้ง อาเซียง นี่ข้าเอง พี่ซีเม่ย ภรรยาท่านพี่เหวินฉีไง""พี่สะใภ้ เป็นท่าน แล้วท่านพี่เหวินฉีละขอรับ"เซียนย
" พี่สะใภ้ท่านมาแล้ว ข้าจะออกไปตามก็ไม่กล้าวางมือ""อาย้ง นำโถที่ข้าเตรียมไว้ทางโน่นมา นำผ้ามาปูบนปากโถ แล้วเอาผ้าชิ้นเล็กที่ข้าตัดไว้แล้ว รัดผ้าที่วางตรงปากโถให้แน่น ข้าจะกรองน้ำมันหอมอีกรอบ"เซียนย้งทำงานคล่องแคล่ว เดี๋ยวเดียวโถพร้อมผ้ากรองก็อยู่ตรงหน้านาง นางจัดการตามขั้นตอนสุดท้ายอย่างรวดเร็วในที่สุดน้ำมันทั้งหมดก็ถูกเทใส่โถ และดอกกุหลาบก็ถูกวางใส่ผ้ากรองทิ้งไว้"พี่สะใภ้ ต้องวางไว้นานเท่าใดขอรับ""วางไว้จนกว่า น้ำมันในดอกไม้จะออกมาหมด""ดอกไม้กับน้ำมันยังเหลืออยู่ ท่านจะให้ข้าทำต่อเลยไหมขอรับ""น่าจะทำต่อได้อีกหนึ่งถังเจ้าจัดการเลย ข้าจะคอยดู"เซียนย้งจัดการตามวิธีที่จำได้ มีผิดไปบ้างแต่เว่ยเหนียนเหยาก็คอยบอกอยู่ข้างๆ จนตุ๋นน้ำมันหอมเรียบร้อย"เอาละทีนี้มาตัดสบู่กัน เจ้าไปหยิบถาดที่ใส่สบู่มา"เซียนย้งหยิบถาดที่ใส่สบู่มาหนึ่งถาด วันนี้พี่สะใภ้ทำสบู่สามถาด เขาทำเองอีกหนึ่งถาด รวมแล้วเป็นสี่ถาด เดี๋ยวถาดนี้ให้พี่สะใภ้ตัดให้เขาดู ส่วนถาดอื่นๆเขาจะขอลองตัดเองเว่ยเหนียนเหยารับถาดไม้มา จากนั้นก็ใช้มีดเล็กบางเลาะไปข้างๆถาดไม้แล้วคว่ำถาดลงเคาะเบาๆ สบู่ก็หลุดออกมา นางจับก้อนสบู่ก้อนใหญ่ไ
หญิงสาวเล่าเรื่องที่เว่ยหานหมิงเข้าหานาง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ นางล้วนเล่าออกมาทั้งหมด นางไม่ใช่นางเอก ที่จะยอมปิดบังเรื่องต่างๆ เพื่อความสบายใจของพระเอก จนบางครั้งก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตสำหรับนางการพูดคุยกันทุกเรื่องจะช่วยให้ชีวิตคู่ของพวกนางมั่นคงขึ้นอีกก้าว"เจ้าบอกว่าน้องเล็กเรียกเจ้าว่า อาเหยา หรือ""เจ้าค่ะ""แถมยังทำท่าอาลัยอาวรณ์เจ้าอีก""เจ้าค่ะ""ถ้าอย่างนั้นต่อไป เจ้าก็ไม่ต้องตามพี่ไปที่บ้านนั้นอีก และต่อไปพี่จะไม่เรียกเจ้าว่า อาเหยา แล้ว"อ้าว นี่นางทำให้สามีทำไหน้ำส้มหกนองหรือไร หญิงสาวเอนกายซบอกแกร่งสามีอย่างออดอ้อน"ถ้าเช่นนั้น ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรดีเจ้าคะ""เหยาเอ๋อ พี่จะเรียกเจ้าว่า เหยาเอ๋อ ต่อไปเจ้าจะเป็นเหยาเอ๋อของพี่เพียงคนเดียว เจ้ายังจำสัญญาได้หรือไม่ ครั้งนี้เจ้าต้องมีลูกสาวอวบอ้วนให้พี่สักหลายๆ คนนะ เหยาเอ๋อ"ชายหนุ่มจับคางภรรยาขึ้นรับจุมพิตอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขารู้ว่า นางไม่ใช่อาเหยาในอดีตที่มีใจรักต่อเว่ยหานหมิงผู้เป็นน้องชายครั้งนี้เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะทำตามคำสั่งบิดา ไม่จำเป็นจะไม่ไปที่บ้านหลังนั้นอีกกลิ่นกายหอมกรุ่นในอ้อมแขน ดึงสติเขาออกจากความคิ