Share

5. บ้านไม้กลางป่า

last update Last Updated: 2025-03-05 17:07:43

บ้านไม้กลางป่าภาคเหนือ

เวลา 02.30 น. รถหยุดนิ่งที่ลานกว้างของบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่ง ล้อมรอบด้วยความมืดสนิท มีเพียงเสียงจิ้งหรีดและลมพัดใบไม้ที่ให้บรรยากาศชวนสะพรึง

หัสนัยน์เปิดประตูรถก่อนจะเดินอ้อมมาด้านข้างเพื่อเปิดประตูรถและปลุกณัฐชาให้ตื่นทันที เสียงของเขาทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

"ลงมา" เขาสั่งเสียงเรียบ แต่หนักแน่น

เธอลังเล...แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก  ขณะก้าวลงจากรถ ความหนาวเย็นของลมกลางคืนทำให้เธอตัวสั่น มือของเขาจับต้นแขนเธอไว้แน่นเหมือนจะย้ำว่าเธอหนีไม่พ้นเนื้อมือเขาแน่นอน

เขาลากเธอไปยังประตูบ้านพัก แสงไฟสลัวจากดวงไฟเก่าๆ ที่ติดอยู่หน้าบ้านเผยให้เห็นบ้านหลังใหญ่ที่เหมือนถูกทอดทิ้งมานาน แต่บ้านเหมือนพึ่งผ่านการทำความสะอาด พื้นไม้ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน พาเธอเข้าไปในห้องนอน

ในห้องที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจของณัฐชาที่สั่นไหว ร่างกายของเธอแทบไร้เรี่ยวแรงหลังจากที่เขาผลักเธออย่างแรง เธอเซถลาไปข้างหน้า

ร่างบอบบางแทบจะปลิวตามแรงเหวี่ยง หากไม่ใช่เพราะเตียงนุ่ม ๆ คอยรับไว้ เธอคงลงไปกองกับพื้นอย่างน่าสังเวช

ดวงตาคู่สวยของเธอเบิกกว้าง สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว สายตาของเขาที่จ้องมานั้นเหมือนเปลวไฟที่เผาผลาญ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกขังอยู่ในกรงขังของความแค้นที่ไม่มีทางหนีรอดได้ ร่างสูงใหญ่ของเขายืนอยู่เบื้องหน้า ความอึดอัดในอากาศทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก

ก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัว เขากระชากต้นแขนของเธอจนร่างบางถลามาแนบชิดกับอกของเขา เธอรู้สึกถึงแรงบีบที่ต้นแขนจนเหมือนกระดูกจะหัก น้ำตาคลอเบ้า แต่เธอไม่กล้าร้องออกมา

“โอ๊ย!...เจ็บ...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

 เธอออกคำสั่งด้วยความโกรธ เผื่อเขายังไยดีความรู้สึกเธอบ้าง

“ถ้า...ถ้า...คุณขืนใจฉัน รับรองว่าชาตินี้ ฉันไม่มีทางให้อภัยคุณแน่” 

จำคำฉันไว้เลย ณัฐชากลัวมากแต่จำใจที่ต้องพูดขู่เขา

“หึ...ก็บอกแล้วมันเรื่องของเธอ จะให้อภัยหรือไม่ยังไงวันนี้เธอต้องเป็นเมียผม”

"การแก้แค้น...เริ่มขึ้นแล้ว" 

เสียงกระซิบเยียบเย็นของเขาแผ่วข้างหู น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสะใจปนแค้น ยิ้มบางที่ปรากฏบนริฝีปากของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกแทงลึกเข้าไปในหัวใจ

"ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าความเจ็บปวดคืออะไร"

คำพูดของเขาแฝงไปด้วยความเย็นชาที่เยือกเย็นยิ่งกว่าสายลมในค่ำคืนฤดูหนาว ร่างของณัฐชาเริ่มสั่นไหว น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลอาบแก้ม เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ หัวใจเหมือนถูกบีบรัดจนแทบหยุดเต้น

เธอพยายามมองหาเศษเสี้ยวของความอ่อนโยนในดวงตาของเขา แต่สิ่งที่พบกลับเป็นเพียงความโกรธเกลียดที่แทบจะกลืนกินเธอทั้งเป็น

"พี่นัยน์..." เธอเอ่ยชื่อเขาด้วยเสียงแผ่วเบา สั่นเครือเหมือนจะขาดใจ "

พี่เคยเป็นคนที่ฉันไว้ใจที่สุด แต่ตอนนี้... พี่กลายเป็นคนที่ฉันกลัวที่สุด"

น้ำตาของเธอหยดลงบนพื้น แต่เขากลับไม่แม้แต่จะหันมามอง ความเย็นชาของเขาทำให้เธอรู้ว่า... สำหรับเขาแล้ว เธอเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมแห่งความแค้นที่เขาเริ่มต้นขึ้น

น้ำตาของเธออาจไม่มีความหมายสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว เขาคว้าเอวเธอเข้ามาแนบชิดติดกาย เอื้อมมือจับต้นคอเธอเงยหน้าขึ้นอย่างขัดขืนไม่ได้ ปากของเขาประกบปากลงบนปากของเธอ บดขยี้ที่ริมฝีปากของเธออย่างบ้าคลั่ง

ณัฐชารู้ดีว่าเธอสามารถปกป้องตัวเองได้เลย เธอได้แต่เบิกตากว้างน้ำตาไหลริน สองมือทุบตีหัสนัยน์ แต่ไม่มีผลต่อเขา 

เขาจูบเนิดนานก่อนปล่อยเธอเป็นอิสระ เธอแทบหายใจไม่ออก ด้วยความโกรธเธอตบหน้าเขาฉาดใหญ่ เขายิ้มเย้ยหยัน

“ถ้าคุณจะขืนใจฉัน ...ฆ่าฉันเลยดีกว่า”

“ฆ่าแน่...แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ยิ่งเธอเจ็บปวดมากเท่าไหร่ พ่อเธอยิ่งเจ็บมากเท่านั้น หึหึ

“มานี่” 

เขาเหวี่ยงเธอลงบนที่นอนอย่างแรง เธอร้องเพราะหลังกระแทกกับที่นอนแทบหัก เขาชะงักนึกห่วงใยเธอแต่ แต่ด้วยความแค้นที่รอมานาน เขาจึงต้องปิดบังความรู้สึกนั้นไว้

เขาจู่โจมลงจูบที่ริมฝีปากเธออย่ารุนแรงป่าเถื่อนอีกครั้ง เธอไม่อยากเชื่อว่าตนเองต้องเจอกับสิ่งที่ข่มขืนหดหู่ใจเช่นนี้ จากผู้ชายที่เธอเคยแอบชอบเป็นคนหยิบยื่นให้

ปากอ่อนนุ่มสั่นระริก ถูกบดขยี้อย่างไม่ถนุถนอม เขาดุนลิ้นเข้าไปในปากหญิงสาว...ลิ้นของเธอถูกเขาเกี่ยวกระหวัด ดูดดื่มจาบจ้วง มือของเขาคลำคลึงไปที่ทรวงอกที่อวบอิ่มของเธอ อย่างไม่เกรงใจ

“อย่า..ได้โปรดอย่าทำแบบนี้” 

เสียงค้านในลำคอ เขาไม่สนใจในคำพูดของเธอ เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อ ปลดตะขอชั้นในเธอ ทันใดนั้นเสื้อผ้าของหญิงสาวถูกกระชากออกจนหมดสิ้น

บัดนี้เหลือเรือนร่างที่เปลือยเปล่า แม้ในห้องจะสลัวๆ แต่ก็ยังคงเผยให้เห็นถึง หน้าอกโค้งมนอวบอิ่ม เอวบาง โค้งเว้ากำลังดี เนินเนื้อได้รูป ทุกส่วนของเธอที่อยู่ตรงหน้าเขา ช่างปลุกอารมณ์ให้เขายิ่งนัก

เขาไม่รอช้ากดทับร่างเธอทันที แขนทั้งสองข้างตรึงมือเธอไว้แน่นณัฐชาดิ้นสุดตัวแต่ก็ไม่เป็นผล

“เอาะ!” 

หญิงสาวหายใจถี่ ร้องครวญครางออกมาแผ่วเบา เพียงเพราะเขาจูบไปที่ยอดปทุมมาของเธออย่างดูดดื่ม คราวนี้เธอรู้สึกถึงการควบคุมตัวเองไม่ได้

“เป็นอะไร…ชอบไหม?” 

เขากระซิบเสียงแหบพร่า

หญิงสาวตัวสั่นเทาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ มือของเขาเริ่มลูบไล้สำรวจไปทั่วเรือนร่างของเธอ ไม่นานเธอรู้สึกมีแท่งอุ่นๆ บางอย่างสอดแทรกเข้าไปในร่างกายของเธออย่างไม่ได้ตั้งตัว

เธอสะดุ้งเฮือก...ร่างเล็กสั่นสะเทือน เขาครอบครองร่างกายของเธออย่างฮึกเหิม ...บ้าคลั่ง... เสียงเนื้อกระทบเนื้อถ่ายเทความแค้นผ่านทางอารมณ์

เขาเรียกร้องเอาฝ่ายเดียว ... ไม่สนใจความรู้สึกของเธอ แม้จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของหญิงสาว... เขาก็ยังไม่มีความเมตตาใด ๆ ความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายเสียหมดสิ้นแล้วทุกการกระทำของเขา

มีแค่ช่วงเวลาสุดท้ายที่เขาถึงฝั่งปรารถนา เขาพอจะอ่อนโยนกับเธอ เขาจูบกอดปลอบเธออยู่ในอ้อมแขนที่ดูอบอุ่น เพียงเพราะเขาลืมตัวไปชั่วขณะ

ภายใต้แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่าง ห้องเงียบสงบและเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากอ้อมแขนของเขา ปล่อยให้ความเงียบของค่ำคืนคลุมร่างพวกเขาอย่างอ่อนโยน หัวใจทั้งสองเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ท่ามกลางความมืดมิดที่ถูกเติมเต็มด้วยการหายใจที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ

เช้า...วันใหม่

“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”

น้ำเสียงห้วนๆ ตวาดใส่เธอ ไม่มีความปรานีในน้ำเสียงนั้น มีเพียงความเย็นชาและความโกรธเกรี้ยวที่ไม่อาจปิดบังได้ 

เธอเงยหน้ามองเขาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกระชากที่ฉุดให้ร่างกายลุกขึ้นจากเตียง

“โอ๊ย…ฉันเจ็บนะ” 

เธอพึมพำ น้ำเสียงแผ่วเบาที่ไม่อาจหยุดยั้งความรุนแรงนั้นได้

ทันทีที่ผ้าห่มหลุดออกจากร่าง ความเงียบงันก็เข้าปกคลุม เสียงลมหายใจของเขาหนักแน่นขึ้นเมื่อแสงไฟเผยให้เห็นผิวกายของเธอ ร่างกายที่เปลือยเปล่า ราวกับภาพวาดที่งดงามจนยากจะบรรยาย หัวใจของเขาเต้นรัว ร่างกายสั่นสะท้านในชั่วขณะ

แต่เพียงไม่นาน ความงามนั้นถูกกลบด้วยความเกลียดชัง และเจ็บแค้นที่ฝังลึกในจิตใจ เขาสูดลมหายใจลึก ข่มความอ่อนไหวไว้ภายใต้หน้ากากแห่งความเย็นชา และแรงแค้นที่ยังคงเดือดพล่านอยู่ในอก

เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ เธอคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอได้บ้าง แต่กลับเปล่าเลย เขากดร่างเธอลงกับที่นอน บรรเลงจูบอย่างดูดดื่ม ร่างกายเธออ่อนระทวยไปกับลิ้นสากๆ ที่ลากไปทั่วร่างกายทุกส่วน แบบไม่มีทีท่าจะหยุด มีแต่จะหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ

ณัฐชาเกร็งไปทั้งตัว แม้ว่าเธอจะผ่านครั้งแรกมาแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าความกลัวในใจของเธอจะหายไป เขาทำเหมือนเขาหิวโหยไม่เคยพบเจอมาก่อน เธอครางประท้วง แต่ไม่ช่วยอะไร ไฟสวาทที่ระอุในใจเขาเผาผลาญจนไม่สามารถทานทนได้อีกต่อไป

เขากำแน่นที่สะโพกของเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้ในขณะที่อารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ลุกโชน เขาพลันรับรู้ถึงความร้อนแรงที่แผ่กระจายจากทั้งสองร่างความใส่ร่างกายเธออย่างไม่ปรานี นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาย่ำยีเธอ เธอรู้สึกถึงความอับอาย เกลียดชังตัวเองที่ ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ ปล่อยให้เขาทำตามอารมณ์เช่นนี้

น้ำตาของเธอไหลลงไปตามแก้มราวกับฝนที่ไม่หยุดตก ความเจ็บปวดในหัวใจของเธอทวีคูณขึ้นจนไม่อาจควบคุมได้ เสียงสะอื้นที่ถูกเก็บซ่อนไว้หลุดออกมาในที่สุด มันเหมือนกับการระเบิดของไฟที่เก็บไว้จนไม่อาจทนได้อีกต่อไป

“สิ่งที่คุณทำกับฉันในวันนี้...ถือว่าฉันจะชดใช้หนี้ความแค้นทั้งหมดแทนพ่อของฉัน”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ปาดน้ำตาที่ไหลพรากจากใบหน้า เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกฟ้าฟาดอย่างแรงจนแทบจะหยุดเต้น ไม่สามารถหายใจได้เต็มที่เพราะความอัดอั้นที่มันท่วมท้นในตัวเธอ

“ต่อจากนี้ไป...ฉันกับคุณถือว่าเราไม่รู้จักกัน” 

คำพูดนั้นแหลมคมเหมือนมีดที่กรีดผ่านความเงียบ เธอตะโกนออกมาอย่างหมดแรง

“ฉันเกลียดคุณ...ได้ยินไหม...ฉันเกลียดคุณ!” 

เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางความมืด ความเกลียดชังที่ฝังลึกในใจกลายเป็นแผลที่ไม่อาจรักษาได้

เขามองเธอด้วยความเจ็บปวดในสายตา ลึกๆ แล้วเขาไม่เคยต้องการทำร้ายเธอ แต่ความเกลียดชังที่มีต่อพ่อของเธอมันข่มขืนใจเขา จนเขาต้องกระทำการที่เกินความปรารถนาในใจตัวเอง

“ขอโทษนะที่ทำแบบนี้...เธอไม่น่าเกิดเป็นลูกนายอาคมเลย” 

เขาพึมพำในใจ เขารู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากเธอ ท่ามกลางความเกลียดชังและความผิดหวังที่ฝังแน่นในจิตใจ

Related chapters

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   6. แค้นซ้อนรัก

    “เลิกร้องไห้สักที... รำคาญ” เขาพูดลมหายใจอุ่นร้อนรดต้นคอ ของเธอ เธอมองค้อนไปที่เขา และดึงผ้าห่มมาพันร่างกายเพื่อปิดบังเรือนร่าง แล้วลุกขึ้นทันที“โอ๊ย!” เธอเกือบล้มลงเพราะรู้สึกเจ็บหน่วงท้องน้อยอย่างรุนแรง ทำให้แทบจะทรงตัวไม่ได้ เขาตกใจมากที่เห็นเธอมีอาการแบบนี้“ณัฐชา... เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหน” เขาเผลอเรียกชื่อเธอด้วยความห่วงใย หญิงสาวทำหน้าบึ้งตึงใส่เขาเขารู้สึกเขิน เลยทำหน้านิ่งเข้มขรึม เบี่ยงเบนสายตาไปอื่น“เรื่องของฉัน...คุณไม่ต้องยุ่ง” เขารู้สึกได้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ เพราะการกระทำที่รุนแรงของเขา“ไปอาบน้ำไป...จะได้กินข้าวกินยา” เสียงห้วนของเขาดังขึ้นเหมือนคำสั่งณัฐชาได้แต่เบ้ปากน้อย ๆ ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เขายิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ขณะมองกิริยาน่ารักแต่ดื้อรั้นของหญิงสาว แต่ลึก ๆ ในใจยังคงมีความขัดแย้งระหว่างความแค้นและความรู้สึกอื่นที่ไม่อาจยอมรับได้“ยิ้มทำไมวะ เจ้านัยน์... นั่นมันลูกศัตรูนะเว้ย” เขาพึมพำกับตัวเองในครัว...ณัฐชามองสำรวจภายในตู้เย็น เธอแทบไม่เคยเข้าครัวทำอาหารมาก่อนเลยในชีวิต เธอหยิบขนมปัง แฮม และน้ำสลัด จากตู้เย็นออก

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   7. เธอหายไป...

    บ้านณัฐชา...“พลลูก... หลายวันมานี้ทำไมน้องไม่กลับบ้านเลย” รพีเอ่ยถาม น้ำเสียงเคร่งเครียดณัฐพลที่นั่งอยู่บนโซฟา วางโทรศัพท์ลง แล้วหันไปมองมารดา“น้องน่าจะอยู่คอนโดนั่นแหละครับแม่... ช่วงนี้ผมงานยุ่งมาก ๆ ไม่ค่อยได้ติดต่อน้องเลยครับ”คำตอบของลูกชายไม่ได้ช่วยให้หัวใจแม่เบาใจลงเลย สีหน้าของเธอยังคงแสดงถึงความไม่สบายใจอย่างมาก“แต่ปกติแล้วน้องจะโทรหาแม่ตลอดนะพล นี่ก็หลายวันแล้ว... ทำไมไม่โทรมาบ้าง เหลวไหลใหญ่แล้ว เจ้าลูกคนนี้”ณัฐพลถอนหายใจเบา ๆ “อย่าห่วงเลยครับแม่ ขานั้นถ้าไม่นอนอยู่ห้อง... ก็คงหนีไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ของเขาครับ”รพีกัดริมฝีปากแน่น มือที่จับผ้าพันคอที่ถักอยู่เริ่มบิดเบี้ยวไปมา “แต่มันแปลกนะลูก แม่มีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย... พลลองโทรไปหาน้องหน่อยได้ไหม?”ณัฐพลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์ของน้องสาวทันที เสียงสัญญาณดังอยู่พักใหญ่ แต่ไม่มีใครรับสาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“แปลกแฮะ น้องทำไมไม่รับสายเลย”“แม่ก็พยายามโทรหลายครั้งแล้วก็ไม่รับสายแม่...”แม่ยิ่งดูเป็นกังวล เธอลุกขึ้นยืน เดินไปเดินมาในห้องอย่างร้อนใจ“พลลูก แม่ว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ ... เราลองไปที่คอนโดน้องดูเถอะ

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   8. จดหมายฉบับสุดท้าย…

    บ่ายแก่ ๆ ที่แสงแดดยังทอดผ่านหน้าต่างเมื่อครู่ ฟ้ากลับเปลี่ยนสีฉับพลัน ราวกับสรรพสิ่งกำลังร่วมโศกเศร้ากับบางสิ่งบางอย่าง เสียงฝนพรำเบา ๆ กระทบหลังคาบ้านศรีสถภานั่งบนโซฟาน้ำตาไหลเงียบ ๆ ขณะจ้องมองจดหมายที่พราวฟ้าลูกสาวคนเล็กยื่นมาให้ ความหวาดหวั่นถาโถมเข้ามาในใจ เธอกำกระดาษในมือแน่นความกลัวในสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหาจดหมายทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบได้ยินเสียง มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะค่อย ๆ แกะซองจดหมายกลิ่นกระดาษที่เปียกชื้นเพราะน้ำตาของพราวฟ้าทำให้เธอรับรู้ว่า จดหมายฉบับนี้ต้องเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อเปิดอ่านคำแรก ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บมานานพลันระเบิดออกมาถึงภรรยาที่รัก,หากคุณพบจดหมายฉบับนี้ นั่นหมายความว่าผมไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว ก่อนอื่น ผมขอโทษจากใจจริงที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ ผมรู้ดีว่ามันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ทิ้งภาระและความทุกข์ไว้ให้คุณและลูก ๆ ต้องเผชิญตามลำพังหนี้สินจากการร่วมลงทุนเปิดบริษัทกับนิคมเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งผมยังสามารถจัดการชำระคืนกับธนาคารได้ แต่ความโลภของผมที่อยากปลดหนี้ให้หมดไว และไม่อยากให้คุณและลูกลำบาก ทำให้ผมเลือกทางผิดด้วยการเล่นการพนัน สุดท้า

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   9. พี่ขอนะ...

    ณัฐพลขับรถออกไปอย่างนุ่มนวล เส้นทางที่ทอดยาวออกจากบ้านดูเงียบสงบ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับแฝงไปด้วยความเคร่งเครียดพราวฟ้านั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง เงาสะท้อนของท้องฟ้ายามเย็นที่เริ่มมืดครึ้มสะท้อนกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล“นี่เราก็เดินทางมาสองชั่วโมงแล้ว...หิวไหม?” ณัฐพลถามทำลายความเงียบ“ค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงเรียบ“งั้นเราแวะทานร้านข้างทางนะ...ทานได้ไหม”“ค่ะ” เสียงตอบของพราวฟ้าแผ่วเบา แฝงความไม่สบายใจ เหมือนกำลังงอน ณัฐพลรู้สึกอึดอัดจึงถามขึ้น“พี่ทำอะไรให้ฟ้าไม่พอใจหรือเปล่า...ตั้งแต่ขึ้นรถมา ฟ้าดูไม่ค่อยโอเคกับพี่เลย”“ไม่มีค่ะ” พราวฟ้ายังคงตอบเสียงนิ่ง ใบหน้าตึงณัฐพลถอนหายใจ หันพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันที ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอื้อมไปปรับเบาะพราวฟ้าให้นอนลง“พรึบ!” เสียงเบาะดังขึ้นพร้อมร่างของพราวฟ้าที่เอนลง ใบหน้าของเขาโน้มมาใกล้จนลมหายใจของทั้งสองกระทบกัน“พี่พลจะทำอะไรคะ!” พราวฟ้าถามเสียงสั่น ใจเต้นระรัว“พี่ให้โอกาสฟ้าพูดอีกทีว่าฟ้าโกรธอะไร...ทำไมถึงเย็นชากับพี่แบบนี้” ณัฐพลพูดเสียงเข้ม สายตาจริงจัง พราวฟ้าหลบสายตา ก่อนตอบอย่างดื้อดึง“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธอะไรไงคะ”“พูด!

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   10. ช่วยเบาเบากับฉันหน่อย...

    ท่ามกลางป่าลึกในยามค่ำคืน เงาไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมราวกับจะกอดรัดทุกสรรพสิ่ง ความหนาวเย็นจากลมที่พัดผ่านมาอย่างเงียบสงบ เสียงของเหล่านกกลางคืนที่ส่งเสียงร้องประสานกับเสียงจิ้งหรีดและแมลงป่าดังรอบทิศทาง ในบ้านหลังนี้ มีเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวอาศัยอยู่กันเพียงสองคน“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม” หัสนัยถามณัฐชาด้วยน้ำเสียงห่วงใย“ฉันยังไม่ตายง่ายๆ หรอก ฉันจะอยู่จองเวรจองกรรมกับคุณไปอีกนาน” เธอจ้องเขาด้วยสายตาเคียดแค้น“โอเค...เถียงได้แบบนี้แสดงว่าหายแล้ว” เขายิ้มที่มุมปาก“งั้นคืนนี้ก็บำเรอผมต่อแล้วกัน…คุณป่วยตั้งสองวัน ผม…อยาก...” เขาหยุดพูดแล้วยิ้มอย่างมีความนัย เธอขมวดคิ้ว กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่ารอยยิ้มของเขามีความหมายริมฝีปากของเธอเม้มแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกที่จะเก็บอารมณ์ไว้ลึกสุดใจ ดวงตาจับจ้องเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่จะเมินหน้าหนีอย่างไม่แยแส“ฉันจะไปอาบน้ำ หลบ!” เธอมองค้อน ผลักเขาออกจากเตียงทันที“อาบน้ำเสร็จรีบมากินข้าวกินยาด้วย รีบหายเร็วๆ ผมใจจะขาดอยู่แล้ว” หัสนัยพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท“ไอ้บ้าเอ๊ย…ฉันเกลีย

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   11. ความจริงแสนเจ็บปวด

    เช้าวันนั้นณัฐชาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าที่ยังเกาะกุมร่างกาย เธอมองไปรอบห้อง ไม่เห็นวี่แววของหัสนัยน์ ใจคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องหนังสือหรือสวนหลังบ้าน เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่าย เมื่อเดินลงมาถึงห้องครัว สายตาของเธอสะดุดกับอาหารเช้าบนโต๊ะ มีโน้ตเล็กๆ วางอยู่ใกล้ๆ“ผมเตรียมอาหารไว้ให้...เดี๋ยวผมกลับมา ไม่ต้องกลัวนะ” ณัฐชาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเบ้ปากทันที“คิดจะทำความดีจะทำดีไถ่โทษเหรอ? ...ไม่มีทาง” เธอพึมพำ แต่ลึกๆ ก็แอบคิดว่าเขาอาจเริ่มใจอ่อนลงกับความแค้นที่เขามี เพราะช่วงนี้เขาดูไม่ได้โหดร้ายมาก เว้นแต่ในบางเรื่องที่เขาเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลย…หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพความทรงจำในวันแรกที่เธอมาที่นี่ผุดขึ้นในหัว น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า รักเขา แต่เขากลับมองเธอเหมือนเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ ณัฐชาไม่รู้ว่าควรจะรักหรือเกลียดเขาดี ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวใจจนเธอรู้สึกอึดอัด“ตราบใดที่คุณยังคงมีความแค้น เราทั้งสองก็คงเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้” เธอพึมพำเบาๆ แล้วมองออกไปยังสวนหลังบ

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   12. ผมยอมรับผิดทั้งหมด

    บ้านณัฐชา…บรรยากาศภายในบ้านของณัฐชานั้นอบอุ่นและน่าอยู่ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอย่างเรียบง่ายเข้ากับผนังสีครีม สายลมเย็นจากหน้าต่างที่เปิดรับวิวสวน พัดพากลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่รู้สึกผ่อนคลาย“สวัสดีจ้ะ รพี อาคม ไม่ได้เจอกันนานพวกเธอเลยนะ” ศรีสุภาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่แม้จะพยายามปกปิดความกังวลไว้ แต่ก็มองออกได้จากดวงตาที่ฉายแววร้อนใจ หัสนัยน์และพราวฟ้ารีบยกมือไหว้ทั้งสองตามมารยาท“สบายดีจ้ะ... เข้ามาๆ” รพีตอบกลับอย่างใจเย็น แต่แววตาของเขาไม่ได้หลุดพ้นจากความครุ่นคิดขณะผายมือเชิญแขกเข้ามานั่ง เมื่อทุกคนประจำที่นั่ง ศรีสุภาก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหนักแน่น“คือฉันจะมาขอโทษทั้งสองที่ลูกชายของฉันทำผิดต่อลูกสาวของพวกเธอ พวกเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง พวกเรารู้สึกผิดจริงๆ” คำพูดของเธอเรียบง่ายแต่กดดัน หัสนัยน์นั่งตัวตรง ขณะที่พราวฟ้ากุมมือแม่แน่นเพื่อให้กำลังใจบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียด อาคมที่นั่งพิงพนักโซฟาอยู่ก่อนหน้านี้โน้มตัวมาข้างหน้า ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังหัสนัยน์ราวกับค้นหาคำตอ

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   13. โอกาสสุดท้าย

    คอนโดณัฐชาเสียงเบรกดังเอี๊ยดทำลายความเงียบในลานจอดรถ หัสนัยน์รีบลงจากรถด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ รัวนิ้วกดหมายเลขชั้นของณัฐชาอย่างไม่รอช้า ในใจเขาสับสนวุ่นวาย คำพูดมากมายผุดขึ้นแต่ไม่มีคำไหนที่รู้สึกว่าเหมาะสมจะเอ่ยออกไปเมื่อพบเธอเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของณัฐชา เขายกมือกดกริ่ง เสียงเรียกดังสะท้อนอยู่ในโถงเงียบสงัด เขายืนรอครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หัสนัยน์ถอนหายใจ รู้สึกถึงน้ำหนักของความเงียบที่กดทับหัวใจ เขาพึมพำกับตัวเองว่าเธออาจโกรธเขาและไม่อยากพบหน้า แต่เขาไม่อาจรอได้นานไปกว่านี้ภายในห้อง เสียงกริ่งดังมาถึงในขณะที่ณัฐชากำลังอาบน้ำอยู่ เธอไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อแม่ ซึ่งมีคีย์การ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว เธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำอุ่นชะล้างความเหนื่อยล้าของวัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเขาหัสนัยน์มองประตูที่เงียบงัน ก่อนหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าออกมา เขามองมันชั่วครู่ด้วยความลังเล ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องยังคงอบอุ่นและมีกลิ่นหอมจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้

    Last Updated : 2025-03-07

Latest chapter

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   ตอนพิเศษ ค่ำคืนแห่งรัก

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   16. ค่ำคืนแห่งรัก (ตอนพิเศษ)

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   14. อาการแบบนี้

    เช้าตรู่วันใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนโยน หัสนัยน์ถือถุงขนมเดินเข้ามาในบ้านของณัฐชา เขาพยายามรวบรวมความกล้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวล“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า วันนี้แม่ทำขนมมาให้ ผมเลยเอามาฝากครับ”เขากล่าวเสียงนุ่มนวลพลางยื่นถุงขนมไปวางบนโต๊ะ รพีหันมายิ้มรับด้วยท่าทางใจดี“ของโปรดณัฐชาเลย ขอบคุณมากนะ ฝากขอบคุณแม่เราด้วยล่ะนัยน์”“ได้เลยครับ”หัสนัยน์ตอบด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาก็ยังมองหาณัฐชาอย่างลุ้นๆ“แล้วณัฐชาอยู่ไหนเหรอครับ?”อาคม ผู้เป็นพ่อของณัฐชา เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ พลางพยักหน้าไปทางสวนหลังบ้าน“น่าจะอยู่ที่สวนข้างบ้านนะ”“ขอบคุณครับคุณลุง”หัสนัยน์โค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนหยิบขนมที่ถูกจัดใส่จานแล้วเดินตรงไปยังสวนทันทีที่สวนข้างบ้านในสวนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ณัฐชากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เธอเพลินอยู่กับการอ่านหนังสือ แต่เมื่อเสียงฝีเท้าของหัสนัยน์ดังใกล้เข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วทันที“แม่พี่ทำขนมที่ณัฐชาชอบมาให้ ลองทานหน่อยนะ”เสียงของหัสนัยน์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาพยายามยื่นจานขนมไปตรงหน้าเธอ ณัฐชาลุกข

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   13. โอกาสสุดท้าย

    คอนโดณัฐชาเสียงเบรกดังเอี๊ยดทำลายความเงียบในลานจอดรถ หัสนัยน์รีบลงจากรถด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ รัวนิ้วกดหมายเลขชั้นของณัฐชาอย่างไม่รอช้า ในใจเขาสับสนวุ่นวาย คำพูดมากมายผุดขึ้นแต่ไม่มีคำไหนที่รู้สึกว่าเหมาะสมจะเอ่ยออกไปเมื่อพบเธอเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของณัฐชา เขายกมือกดกริ่ง เสียงเรียกดังสะท้อนอยู่ในโถงเงียบสงัด เขายืนรอครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หัสนัยน์ถอนหายใจ รู้สึกถึงน้ำหนักของความเงียบที่กดทับหัวใจ เขาพึมพำกับตัวเองว่าเธออาจโกรธเขาและไม่อยากพบหน้า แต่เขาไม่อาจรอได้นานไปกว่านี้ภายในห้อง เสียงกริ่งดังมาถึงในขณะที่ณัฐชากำลังอาบน้ำอยู่ เธอไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อแม่ ซึ่งมีคีย์การ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว เธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำอุ่นชะล้างความเหนื่อยล้าของวัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเขาหัสนัยน์มองประตูที่เงียบงัน ก่อนหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าออกมา เขามองมันชั่วครู่ด้วยความลังเล ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องยังคงอบอุ่นและมีกลิ่นหอมจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   12. ผมยอมรับผิดทั้งหมด

    บ้านณัฐชา…บรรยากาศภายในบ้านของณัฐชานั้นอบอุ่นและน่าอยู่ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอย่างเรียบง่ายเข้ากับผนังสีครีม สายลมเย็นจากหน้าต่างที่เปิดรับวิวสวน พัดพากลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่รู้สึกผ่อนคลาย“สวัสดีจ้ะ รพี อาคม ไม่ได้เจอกันนานพวกเธอเลยนะ” ศรีสุภาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่แม้จะพยายามปกปิดความกังวลไว้ แต่ก็มองออกได้จากดวงตาที่ฉายแววร้อนใจ หัสนัยน์และพราวฟ้ารีบยกมือไหว้ทั้งสองตามมารยาท“สบายดีจ้ะ... เข้ามาๆ” รพีตอบกลับอย่างใจเย็น แต่แววตาของเขาไม่ได้หลุดพ้นจากความครุ่นคิดขณะผายมือเชิญแขกเข้ามานั่ง เมื่อทุกคนประจำที่นั่ง ศรีสุภาก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหนักแน่น“คือฉันจะมาขอโทษทั้งสองที่ลูกชายของฉันทำผิดต่อลูกสาวของพวกเธอ พวกเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง พวกเรารู้สึกผิดจริงๆ” คำพูดของเธอเรียบง่ายแต่กดดัน หัสนัยน์นั่งตัวตรง ขณะที่พราวฟ้ากุมมือแม่แน่นเพื่อให้กำลังใจบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียด อาคมที่นั่งพิงพนักโซฟาอยู่ก่อนหน้านี้โน้มตัวมาข้างหน้า ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังหัสนัยน์ราวกับค้นหาคำตอ

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   11. ความจริงแสนเจ็บปวด

    เช้าวันนั้นณัฐชาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าที่ยังเกาะกุมร่างกาย เธอมองไปรอบห้อง ไม่เห็นวี่แววของหัสนัยน์ ใจคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องหนังสือหรือสวนหลังบ้าน เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่าย เมื่อเดินลงมาถึงห้องครัว สายตาของเธอสะดุดกับอาหารเช้าบนโต๊ะ มีโน้ตเล็กๆ วางอยู่ใกล้ๆ“ผมเตรียมอาหารไว้ให้...เดี๋ยวผมกลับมา ไม่ต้องกลัวนะ” ณัฐชาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเบ้ปากทันที“คิดจะทำความดีจะทำดีไถ่โทษเหรอ? ...ไม่มีทาง” เธอพึมพำ แต่ลึกๆ ก็แอบคิดว่าเขาอาจเริ่มใจอ่อนลงกับความแค้นที่เขามี เพราะช่วงนี้เขาดูไม่ได้โหดร้ายมาก เว้นแต่ในบางเรื่องที่เขาเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลย…หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพความทรงจำในวันแรกที่เธอมาที่นี่ผุดขึ้นในหัว น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า รักเขา แต่เขากลับมองเธอเหมือนเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ ณัฐชาไม่รู้ว่าควรจะรักหรือเกลียดเขาดี ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวใจจนเธอรู้สึกอึดอัด“ตราบใดที่คุณยังคงมีความแค้น เราทั้งสองก็คงเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้” เธอพึมพำเบาๆ แล้วมองออกไปยังสวนหลังบ

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   10. ช่วยเบาเบากับฉันหน่อย...

    ท่ามกลางป่าลึกในยามค่ำคืน เงาไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมราวกับจะกอดรัดทุกสรรพสิ่ง ความหนาวเย็นจากลมที่พัดผ่านมาอย่างเงียบสงบ เสียงของเหล่านกกลางคืนที่ส่งเสียงร้องประสานกับเสียงจิ้งหรีดและแมลงป่าดังรอบทิศทาง ในบ้านหลังนี้ มีเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวอาศัยอยู่กันเพียงสองคน“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม” หัสนัยถามณัฐชาด้วยน้ำเสียงห่วงใย“ฉันยังไม่ตายง่ายๆ หรอก ฉันจะอยู่จองเวรจองกรรมกับคุณไปอีกนาน” เธอจ้องเขาด้วยสายตาเคียดแค้น“โอเค...เถียงได้แบบนี้แสดงว่าหายแล้ว” เขายิ้มที่มุมปาก“งั้นคืนนี้ก็บำเรอผมต่อแล้วกัน…คุณป่วยตั้งสองวัน ผม…อยาก...” เขาหยุดพูดแล้วยิ้มอย่างมีความนัย เธอขมวดคิ้ว กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่ารอยยิ้มของเขามีความหมายริมฝีปากของเธอเม้มแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกที่จะเก็บอารมณ์ไว้ลึกสุดใจ ดวงตาจับจ้องเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่จะเมินหน้าหนีอย่างไม่แยแส“ฉันจะไปอาบน้ำ หลบ!” เธอมองค้อน ผลักเขาออกจากเตียงทันที“อาบน้ำเสร็จรีบมากินข้าวกินยาด้วย รีบหายเร็วๆ ผมใจจะขาดอยู่แล้ว” หัสนัยพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท“ไอ้บ้าเอ๊ย…ฉันเกลีย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status