Share

9. พี่ขอนะ...

last update Last Updated: 2025-03-06 20:35:48

ณัฐพลขับรถออกไปอย่างนุ่มนวล เส้นทางที่ทอดยาวออกจากบ้านดูเงียบสงบ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับแฝงไปด้วยความเคร่งเครียด

พราวฟ้านั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง เงาสะท้อนของท้องฟ้ายามเย็นที่เริ่มมืดครึ้มสะท้อนกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

“นี่เราก็เดินทางมาสองชั่วโมงแล้ว...หิวไหม?” 

ณัฐพลถามทำลายความเงียบ

“ค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงเรียบ

“งั้นเราแวะทานร้านข้างทางนะ...ทานได้ไหม”

“ค่ะ” 

เสียงตอบของพราวฟ้าแผ่วเบา แฝงความไม่สบายใจ เหมือนกำลังงอน ณัฐพลรู้สึกอึดอัดจึงถามขึ้น

“พี่ทำอะไรให้ฟ้าไม่พอใจหรือเปล่า...ตั้งแต่ขึ้นรถมา ฟ้าดูไม่ค่อยโอเคกับพี่เลย”

“ไม่มีค่ะ”

 พราวฟ้ายังคงตอบเสียงนิ่ง ใบหน้าตึง

ณัฐพลถอนหายใจ หันพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันที ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอื้อมไปปรับเบาะพราวฟ้าให้นอนลง

“พรึบ!”  เสียงเบาะดังขึ้นพร้อมร่างของพราวฟ้าที่เอนลง ใบหน้าของเขาโน้มมาใกล้จนลมหายใจของทั้งสองกระทบกัน

“พี่พลจะทำอะไรคะ!” 

พราวฟ้าถามเสียงสั่น ใจเต้นระรัว

“พี่ให้โอกาสฟ้าพูดอีกทีว่าฟ้าโกรธอะไร...ทำไมถึงเย็นชากับพี่แบบนี้” ณัฐพลพูดเสียงเข้ม สายตาจริงจัง พราวฟ้าหลบสายตา ก่อนตอบอย่างดื้อดึง

“ก็บอกว่าไม่ได้โกรธอะไรไงคะ”

“พูด!” เสียงของณัฐพลเข้มขึ้นจนพราวฟ้ารู้สึกว่าปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป

“ทำไมตลอดสามปีที่ผ่านมา พี่ถึงหายไปเลย...ไม่คิดจะติดต่อฟ้าบ้างหรือไงคะ”

เสียงของเธอสั่นไหว น้ำเสียงที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนโยนจนเขารู้สึกผิด

“ตั้งแต่เกิดเรื่อง พี่พยายามจะติดต่อฟ้า...แต่ครอบครัวของเราขัดแย้งกัน พี่เลยคิดว่าฟ้าคงเกลียดพี่ไปแล้ว” 

เขาตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

“ฟ้าไม่เคยเกลียดพี่เลยค่ะ เรื่องของผู้ใหญ่...มันไม่ใช่เรื่องที่เราควรเก็บมาคิด” เธอพูดพลางหันหน้าหนี

ณัฐพลถอนหายใจ ก่อนจะถามกลับ

 “แล้วทำไมฟ้าไม่ติดต่อพี่บ้างล่ะ”

“โทรศัพท์ฟ้าพังค่ะ ตั้งแต่วันนั้น ฟ้าก็ติดต่อใครไม่ได้เลย...” เธอตอบด้วยสีหน้าเศร้า

เขานิ่งไปครู่ ก่อนถามด้วยความอยากรู้

“แล้วตอนนี้ฟ้ามีแฟนหรือยัง?”

พราวฟ้าเงียบไปครู่ใหญ่ ยิ้มหวานก่อนตอบ

“แน่นอนค่ะ...คนสวยแบบนี้ มีแฟนแล้วค่ะ”

คำตอบของเธอทำณัฐพลชะงัก ดวงตาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“พี่ยินดีด้วยนะ ฟ้าเจอคนที่ใช่แล้ว” เขาผละออกห่าง ท่าทางเหมือนหมดหวัง

“พี่พลคะ...ฟ้าล้อเล่น ฟ้ายังไม่มีแฟนค่ะ” เธอรีบตอบแก้ แต่เขายิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนพูดสวนกลับทันที

“แต่พี่มีแฟนแล้ว เดือนหน้าเราจะแต่งงานกัน”

พราวฟ้าชะงัก น้ำตาคลอเบ้า เธอฝืนยิ้ม

“ยินดีด้วยนะคะ พี่จะได้มีคู่ชีวิตสักที”

ณัฐพลรู้ทันทีว่าตนเริ่มทำให้ฟ้าเสียใจไป เขารีบโน้มตัวเข้าไปใกล้ ใช้มือจับใบหน้าของเธอให้หันมาสบตา

“ฟังพี่ก่อนนะ...พี่แค่ล้อเล่น เจ้าสาวของพี่ชื่อพราวฟ้าคนเดียวเท่านั้น”

พราวฟ้าทุบอกเขาแรง ๆ

 “นี่แน่ะ! พี่หลอกฟ้าสมควรแล้ว!”

“ก็ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ จะรู้ได้ไงว่าฟ้ายังรักพี่อยู่หรือเปล่า?”

เธอหน้าแดง ก่อนตอบเบา ๆ “พี่นั่นแหละ...ขี้โกง”

ณัฐพลยิ้มอบอุ่น ก่อนเอ่ยเสียงจริงจัง

“ต่อจากนี้ไป...เราคบกันกันได้ไหม…เป็นแฟนพี่นะ” 

เขาขอเธอเป็นแฟนอย่างสุภาพบุรุษ อธิบาย

“ขอเป็นแฟนในรถเนี่ยนะ...พี่ช่างไม่ลงทุนเสียเลยนะ” เธอพูดเย้ยหยันเขา

“แล้วเป็นแฟนพี่ได้ไหมล่ะ?” เขาพยักหน้าถามเธออีกที

“ก็ไม่ได้ยากตรงไหนนิ...ทำไมจะเป็นไม่ได้ล่ะ” เธอตอบแบบกวนๆ ดูช่างเป็นคนหัวดื้อเสียจริง

“ขอบคุณนะครับที่ยังรอพี่จนถึงทุกวันนี้” เธอพยักหน้าแล้วยิ้มหมานให้เขา

ณัฐพลไม่รอช้าเลื่อนมือขวาของเขาจับมือสองข้างขอเธอรวบเข้าหากันไว้บนศรีษะขงเธอ มือซ้ายของเขาไม่ปล่อยให้ว่าง เขาเลื่อนลงมาที่จัวไว้ที่เอวเล็กๆ ของเธอทันที

“พี่พล..จะทำอะไร อย่านะคะ” พราวฟ้ารู้สึกเริ่มหวั่น ๆ สถานการณ์

ไม่มีคำพูดใดใดจากเขา เขาโน้มตัวลงมาบรรจงจูบเธอเบาๆ แต่เป็นการจูบที่ที่เนิ่นนาน เธอไม่ได้ขัดขืนเขาแต่อย่างใด เธอเพียงแค่หลับตาปี๋เคลิ้มไปกับการจูบพิษของเขา เธอเผลอครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

หัวใจของเธอเต้นเร็วแรงเพราะความตื่นเต้น นี้เป็นการจูบครั้งแรกของเธอ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้ เธอรวมสติ ก่อนที่ทุกอย่างจะไปไกลกว่านี้

“พี่พล...พี่พล” เธอเรียงชื่อเขาเบาๆ ณัฐพลเริ่มมีสติจึงค่อยๆ ปล่อยเธอเป็นอิสระ

“พี่ขอโทษนะ...พี่ห้ามใจตัวเองไม่ไหว ความคิดถึงมันโหยหามานาน” เขาพูดขอโทษอย่างสุภาพบุรุษ ที่ทำผิดแล้วรับผิด

“ฟ้าก็ผิดด้วยแหละที่ไม่ปฏิเสธจูบพี่ให้ไวกว่านี้” เธอพูดอย่างเขินอาย เขายิ้มด้วยสายตาที่อบอุ่น

การเดินทางขึ้นภาคเหนือค่อนข้างลำบาก ถนนคนเคี้ยวภูเขาเรียงราย ขับรถกลางคืนแบบนี้ยิ่งไม่ชำนาญทางยิ่งอันตรายยิ่งนัก ทั้งสองจึงตัดสินใจ หาที่พักผ่อน รอให้สว่าค่อยออกเดินทางต่อ

“จองห้องพักสองห้องครับ” นัฐพลแจ้งพนักงานต้อนรับทันที

“ขอโทษค่ะ...จองห้องเดียวพอค่ะ มาด้วยกัน” ณัฐพลชะงักมองหน้าพราวฟ้า ขณะที่เธอแจ้งต่อพนักงานต้อนรับ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร

“นี่ค่ะ กุญแจ” พนักงานตอบพร้อมยื่นกุญแจให้ทั้งณัฐพล

ทั้งสองเดินขึ้นไปห้องพักอย่างไม่รีบเร่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปพราวฟ้าส่งเสียง จนเขาเผลอยิ้มทันที

“โอโห...นี่มันห้องสวีทชัดๆ” เขามองหน้าเธอ เหมือนสงสัยว่าเธอคิดอะไรอยู่

“ฟ้าไม่ต้องห่วงนะพี่จะไปนอนโซฟาเอง สัญญาจะไม่ทำอะไรเกินเลย ... ถ้าฟ้าไม่อนุญาต” เขายกมือ 3 นิ้วเหมือนสัญญา

พราวฟ้าหัวเราะที่เห็นการกระทำของเขา สักครู่เสียงกริงประตูดังทันที 

“อาหารมาส่งแล้วค่ะ” พนักงานกล่าว

“ขอบคุณครับ” ณัฐพลรับอาหารแล้วเรียกพราวฟ้ามาทานทันที

มื้อนี้ดึกแล้วเขาสั่งข้าวต้มกุ้ง นมอุ่นๆ และขนมทานเล่นเล็กๆ น้อยๆ เพราะเขารู้ดีว่า พราวฟ้าทานจุกจิกตลอดเวลา ขนมนี่ห่างตัวไม่ได้เสียเลย

“อาหารที่นี่อร่อยนะคะ”

“อร่อยก็กินเยอะๆ ...พี่รู้ว่าเราหิว”

พราวฟ้าทานอาหาร และส่งยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข

ค่ำคืนนี้ ช่างงดงามราวกับภาพวาด แสงจันทร์เต็มดวงที่สาดส่องผ่านม่านบางๆ ทาบทอเป็นเงาสลัวๆ บนผนังห้อง ต้นไม้ด้านนอกเอนลู่ไปมาตามแรงลมหนาวที่พัดผ่าน ทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบคล้ายกับเสียงกระซิบจากธรรมชาติ

อากาศภายนอกหนาวเย็นยะเยือกจนสัมผัสได้ถึงความชื้นบางเบาที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ แต่ทว่าภายใต้ความหนาวเย็นนั้น กลับมีกลิ่นอายแห่งความโรแมนติก

ณัฐพลนอนทอดตัวยาวอยู่บนโซฟา เขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของบางอย่างเดินเข้าใกล้ๆ โซฟาที่เขานอนอยู่ เมื่อเข้ามาใกล้เขาเกินไปเขาลุกขึ้นล็อกตัวไว้ทันที

“พี่พล ปล่อย ๆ ฟ้าเจ็บ” เขาหัวเราะและตอบกลับทันที

“พี่นึกว่าคนร้าย เดินย่องมาดึก ๆ ดื่น ๆ ” เขาพูดแหย่เธอ

“คนเป็นห่วง กลัวจะหนาวตาย ยังจะมาทำร้ายกันอีก จะชวนไปนอนบนเตียง” เธอพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย งอนเขาแบบน่ารักน่าเอ็นดู

“กลัวพี่หนาวรึ...คิดถึงพี่...เอาดีๆ” เธอค้อนใส่เขา

“จะไปนอนไหม?”

“ไม่ไปครับ?” เขาฝืนใจตอบทันที เพราะถ้านอนเตียงเดียวกับเธอเขาต้องอดใจไม่ไหว ทำอะไรเธอเป็นแน่

“รังเกียจฟ้า เหรอ” พราวฟ้าถามเหตุผลทันที เพราะเป็นห่วงกลัวเขาไม่สบาย

“ป่าวเลย พี่แค่กลัวตัวเองจะอดใจไม่ไหว ข่มเหงฟ้าต่างหาก” เขาพูดแล้วยิ้มสายตามีเล่ห์นัย

“บ้าแค่ชวนไปนอน ไม่ได้จะให้ทำอะไรสักหน่อย”

พราวฟ้าคว้าหมอนกับผ้าห่มเขาเข้าห้องทันที

“ตามมา...ไม่ตามมาก็นอนตรงนั้นให้หนาวตายไปเลย” 

เธอออกคำสั่งทันที เขายิ้มแล้วรีบเดินตามเธอเข้าไปในห้องทันที

“นี่ขนาดยังไม่เป็นเมียนะ...ยังสั่งขนาดนี้ ถ้าเป็นเมียเมื่อไหร่ เตรียมเลยณัฐพล”  เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่มีรอยยิ้มที่มีความสุข

ทั้งสองทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างกัน ในบรรยากาศอันหนาวเหน็บ เขาขยับตัวเข้าใกล้เธอ

“ถ้าพี่จะกอดฟ้าได้ไหม...อากาศมันหนาว พี่ขาดความอบอุ่น” ณัฐพลตัดสินในนานกว่าจะพูดมันออกมา

“ใครห้ามพี่ไว้รึเปล่า” เธอตอบสวนทันที

ณัฐพลกอดเธอแนบแน่น ร่างกายของเขาส่งผ่านความอบอุ่นที่ช่วยคลายความหนาวเย็นในค่ำคืนที่อากาศเยือกเย็น กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เธออยู่ในอ้อมแขนเขา รู้สึกถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอและอุ่นร้อนของเขาที่สัมผัสใบหู มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งอ่อนโยนและกระตุ้นหัวใจอย่างประหลาด ทว่าในความใกล้ชิดนั้น ก็เหมือนน้ำมันกับไฟที่พร้อมจะจุดประกายได้ทุกเมื่อ

ณัฐพลค่อยๆ เลื่อนมือของเขาลงสอดเข้าใต้เสื้อนอนของเธอ การกระทำที่ช้าๆ และเบาบางนั้นทำให้เธอสะดุ้งทันที ร่างกายของเธอเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ และเธอเอียงตัวถอยออกเล็กน้อยก่อนจะมองเขาด้วยสายตาที่สับสนและหวั่นไหว

“พี่พล...ไหนแค่กอดไง” เสียงของเธอแผ่วเบาและสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

“แต่นี่มัน...” ยังไม่ทันสิ้นเสียงพราวฟ้าพูด ณัฐพลจับร่างเธอพลิกหงาย ขึ้นทับร่างเธอทันที เขาค่อยๆ จูบเธออย่าถนุถนอม ดอมดมชมกาย กดริมฝีปากลงบนซอกคอ มือไม้ลูบไล้สำรวจไปทั่วเรือนร่าง เธอเผลอครางออกมาอย่างมีความสุข

เขาเอื้อมมีไปปลดชุดชั้นในของเธอแต่ต้องชะงัก เมื่อเธอจับมือเขาไว้ทันที

“พี่ขอได้ไหม” ดวงตาของเขาที่มองมามีทั้งความปรารถนาและการอ้อนวอน เธอรับรู้ถึงน้ำเสียงที่แหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ

เธอยกมือขึ้นสัมผัสแก้มเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฟ้าเป็นเมนส์ค่ะ”

"ฟ้า..." เขาเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่ปนเปกับความรู้สึกหลากหลาย ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความคาดหวังพลันเปลี่ยนเป็นสีหน้าผิดหวัง แต่ก็มีรอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก

พราวฟ้ามองเขาด้วยสายตาล้อเลียนเล็กน้อย

"อะไรคะ? ทำหน้าตาแบบนั้น หมดอารมณ์เลยเหรอ?"

ณัฐพลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยิ้มบางๆ

"ก็แค่...ไม่คิดว่าจะได้คำตอบนี้" “งั้นนอนกันเถอะ แค่กอดอย่างเดียวก็มีความสุขแล้ว”

“แต่เมื่อกี้ไม่ใช้แบบนี้นี่ค่ะ” เธอแซวเขาทันที

“ไว้เสร็จเรื่องณัฐชากับหัสนัยน์ พี่จะไปขอเรากับคุณป้ารพีนะ พี่อยากแต่งงานแล้ว ไม่อยากอยู่ห่างฟ้าแม้แต่นาทีเดียว” พราวฟ้ายิ้มรับ

พราวฟ้านอนหนุนแขนของณัฐพลอย่างอบอุ่น รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจของเขาที่ดังอยู่ใกล้ๆ ร่างกายของเธอสัมผัสกับความอ่อนนุ่มของแขนเขาและความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากทุกส่วนของร่างกาย

ณัฐพลค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นมาเกลี่ยผมของเธอออกจากใบหน้า ท่ามกลางความเงียบสงบ เขาหยุดมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความสงบและความสุข

"นอนหลับเถอะนะ" เขากระซิบเบาๆ

พราวฟ้าพยักหน้าช้าๆ มือข้างหนึ่งจับมือของเขาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบลง

ทั้งสองอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงบและความอบอุ่นที่ปกคลุม พราวฟ้าหลับตาลงอย่างช้าๆ รู้สึกถึงความปลอดภัยและความรักที่เติมเต็มหัวใจเธอ

ในที่สุดความเงียบและความอบอุ่นก็ทำให้ทั้งคู่หลับไปพร้อมกัน ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาอย่างอ่อนโยน

Related chapters

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   10. ช่วยเบาเบากับฉันหน่อย...

    ท่ามกลางป่าลึกในยามค่ำคืน เงาไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมราวกับจะกอดรัดทุกสรรพสิ่ง ความหนาวเย็นจากลมที่พัดผ่านมาอย่างเงียบสงบ เสียงของเหล่านกกลางคืนที่ส่งเสียงร้องประสานกับเสียงจิ้งหรีดและแมลงป่าดังรอบทิศทาง ในบ้านหลังนี้ มีเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวอาศัยอยู่กันเพียงสองคน“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม” หัสนัยถามณัฐชาด้วยน้ำเสียงห่วงใย“ฉันยังไม่ตายง่ายๆ หรอก ฉันจะอยู่จองเวรจองกรรมกับคุณไปอีกนาน” เธอจ้องเขาด้วยสายตาเคียดแค้น“โอเค...เถียงได้แบบนี้แสดงว่าหายแล้ว” เขายิ้มที่มุมปาก“งั้นคืนนี้ก็บำเรอผมต่อแล้วกัน…คุณป่วยตั้งสองวัน ผม…อยาก...” เขาหยุดพูดแล้วยิ้มอย่างมีความนัย เธอขมวดคิ้ว กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่ารอยยิ้มของเขามีความหมายริมฝีปากของเธอเม้มแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกที่จะเก็บอารมณ์ไว้ลึกสุดใจ ดวงตาจับจ้องเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่จะเมินหน้าหนีอย่างไม่แยแส“ฉันจะไปอาบน้ำ หลบ!” เธอมองค้อน ผลักเขาออกจากเตียงทันที“อาบน้ำเสร็จรีบมากินข้าวกินยาด้วย รีบหายเร็วๆ ผมใจจะขาดอยู่แล้ว” หัสนัยพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท“ไอ้บ้าเอ๊ย…ฉันเกลีย

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   11. ความจริงแสนเจ็บปวด

    เช้าวันนั้นณัฐชาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าที่ยังเกาะกุมร่างกาย เธอมองไปรอบห้อง ไม่เห็นวี่แววของหัสนัยน์ ใจคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องหนังสือหรือสวนหลังบ้าน เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่าย เมื่อเดินลงมาถึงห้องครัว สายตาของเธอสะดุดกับอาหารเช้าบนโต๊ะ มีโน้ตเล็กๆ วางอยู่ใกล้ๆ“ผมเตรียมอาหารไว้ให้...เดี๋ยวผมกลับมา ไม่ต้องกลัวนะ” ณัฐชาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเบ้ปากทันที“คิดจะทำความดีจะทำดีไถ่โทษเหรอ? ...ไม่มีทาง” เธอพึมพำ แต่ลึกๆ ก็แอบคิดว่าเขาอาจเริ่มใจอ่อนลงกับความแค้นที่เขามี เพราะช่วงนี้เขาดูไม่ได้โหดร้ายมาก เว้นแต่ในบางเรื่องที่เขาเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลย…หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพความทรงจำในวันแรกที่เธอมาที่นี่ผุดขึ้นในหัว น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า รักเขา แต่เขากลับมองเธอเหมือนเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ ณัฐชาไม่รู้ว่าควรจะรักหรือเกลียดเขาดี ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวใจจนเธอรู้สึกอึดอัด“ตราบใดที่คุณยังคงมีความแค้น เราทั้งสองก็คงเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้” เธอพึมพำเบาๆ แล้วมองออกไปยังสวนหลังบ

    Last Updated : 2025-03-06
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   12. ผมยอมรับผิดทั้งหมด

    บ้านณัฐชา…บรรยากาศภายในบ้านของณัฐชานั้นอบอุ่นและน่าอยู่ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอย่างเรียบง่ายเข้ากับผนังสีครีม สายลมเย็นจากหน้าต่างที่เปิดรับวิวสวน พัดพากลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่รู้สึกผ่อนคลาย“สวัสดีจ้ะ รพี อาคม ไม่ได้เจอกันนานพวกเธอเลยนะ” ศรีสุภาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่แม้จะพยายามปกปิดความกังวลไว้ แต่ก็มองออกได้จากดวงตาที่ฉายแววร้อนใจ หัสนัยน์และพราวฟ้ารีบยกมือไหว้ทั้งสองตามมารยาท“สบายดีจ้ะ... เข้ามาๆ” รพีตอบกลับอย่างใจเย็น แต่แววตาของเขาไม่ได้หลุดพ้นจากความครุ่นคิดขณะผายมือเชิญแขกเข้ามานั่ง เมื่อทุกคนประจำที่นั่ง ศรีสุภาก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหนักแน่น“คือฉันจะมาขอโทษทั้งสองที่ลูกชายของฉันทำผิดต่อลูกสาวของพวกเธอ พวกเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง พวกเรารู้สึกผิดจริงๆ” คำพูดของเธอเรียบง่ายแต่กดดัน หัสนัยน์นั่งตัวตรง ขณะที่พราวฟ้ากุมมือแม่แน่นเพื่อให้กำลังใจบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียด อาคมที่นั่งพิงพนักโซฟาอยู่ก่อนหน้านี้โน้มตัวมาข้างหน้า ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังหัสนัยน์ราวกับค้นหาคำตอ

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   13. โอกาสสุดท้าย

    คอนโดณัฐชาเสียงเบรกดังเอี๊ยดทำลายความเงียบในลานจอดรถ หัสนัยน์รีบลงจากรถด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ รัวนิ้วกดหมายเลขชั้นของณัฐชาอย่างไม่รอช้า ในใจเขาสับสนวุ่นวาย คำพูดมากมายผุดขึ้นแต่ไม่มีคำไหนที่รู้สึกว่าเหมาะสมจะเอ่ยออกไปเมื่อพบเธอเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของณัฐชา เขายกมือกดกริ่ง เสียงเรียกดังสะท้อนอยู่ในโถงเงียบสงัด เขายืนรอครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หัสนัยน์ถอนหายใจ รู้สึกถึงน้ำหนักของความเงียบที่กดทับหัวใจ เขาพึมพำกับตัวเองว่าเธออาจโกรธเขาและไม่อยากพบหน้า แต่เขาไม่อาจรอได้นานไปกว่านี้ภายในห้อง เสียงกริ่งดังมาถึงในขณะที่ณัฐชากำลังอาบน้ำอยู่ เธอไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อแม่ ซึ่งมีคีย์การ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว เธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำอุ่นชะล้างความเหนื่อยล้าของวัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเขาหัสนัยน์มองประตูที่เงียบงัน ก่อนหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าออกมา เขามองมันชั่วครู่ด้วยความลังเล ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องยังคงอบอุ่นและมีกลิ่นหอมจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   14. อาการแบบนี้

    เช้าตรู่วันใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนโยน หัสนัยน์ถือถุงขนมเดินเข้ามาในบ้านของณัฐชา เขาพยายามรวบรวมความกล้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวล“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า วันนี้แม่ทำขนมมาให้ ผมเลยเอามาฝากครับ”เขากล่าวเสียงนุ่มนวลพลางยื่นถุงขนมไปวางบนโต๊ะ รพีหันมายิ้มรับด้วยท่าทางใจดี“ของโปรดณัฐชาเลย ขอบคุณมากนะ ฝากขอบคุณแม่เราด้วยล่ะนัยน์”“ได้เลยครับ”หัสนัยน์ตอบด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาก็ยังมองหาณัฐชาอย่างลุ้นๆ“แล้วณัฐชาอยู่ไหนเหรอครับ?”อาคม ผู้เป็นพ่อของณัฐชา เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ พลางพยักหน้าไปทางสวนหลังบ้าน“น่าจะอยู่ที่สวนข้างบ้านนะ”“ขอบคุณครับคุณลุง”หัสนัยน์โค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนหยิบขนมที่ถูกจัดใส่จานแล้วเดินตรงไปยังสวนทันทีที่สวนข้างบ้านในสวนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ณัฐชากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เธอเพลินอยู่กับการอ่านหนังสือ แต่เมื่อเสียงฝีเท้าของหัสนัยน์ดังใกล้เข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วทันที“แม่พี่ทำขนมที่ณัฐชาชอบมาให้ ลองทานหน่อยนะ”เสียงของหัสนัยน์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาพยายามยื่นจานขนมไปตรงหน้าเธอ ณัฐชาลุกข

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   16. ค่ำคืนแห่งรัก (ตอนพิเศษ)

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

    Last Updated : 2025-03-07
  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

    Last Updated : 2025-03-07

Latest chapter

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   ตอนพิเศษ ค่ำคืนแห่งรัก

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   16. ค่ำคืนแห่งรัก (ตอนพิเศษ)

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   14. อาการแบบนี้

    เช้าตรู่วันใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนโยน หัสนัยน์ถือถุงขนมเดินเข้ามาในบ้านของณัฐชา เขาพยายามรวบรวมความกล้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวล“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า วันนี้แม่ทำขนมมาให้ ผมเลยเอามาฝากครับ”เขากล่าวเสียงนุ่มนวลพลางยื่นถุงขนมไปวางบนโต๊ะ รพีหันมายิ้มรับด้วยท่าทางใจดี“ของโปรดณัฐชาเลย ขอบคุณมากนะ ฝากขอบคุณแม่เราด้วยล่ะนัยน์”“ได้เลยครับ”หัสนัยน์ตอบด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาก็ยังมองหาณัฐชาอย่างลุ้นๆ“แล้วณัฐชาอยู่ไหนเหรอครับ?”อาคม ผู้เป็นพ่อของณัฐชา เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ พลางพยักหน้าไปทางสวนหลังบ้าน“น่าจะอยู่ที่สวนข้างบ้านนะ”“ขอบคุณครับคุณลุง”หัสนัยน์โค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนหยิบขนมที่ถูกจัดใส่จานแล้วเดินตรงไปยังสวนทันทีที่สวนข้างบ้านในสวนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ณัฐชากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เธอเพลินอยู่กับการอ่านหนังสือ แต่เมื่อเสียงฝีเท้าของหัสนัยน์ดังใกล้เข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วทันที“แม่พี่ทำขนมที่ณัฐชาชอบมาให้ ลองทานหน่อยนะ”เสียงของหัสนัยน์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาพยายามยื่นจานขนมไปตรงหน้าเธอ ณัฐชาลุกข

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   13. โอกาสสุดท้าย

    คอนโดณัฐชาเสียงเบรกดังเอี๊ยดทำลายความเงียบในลานจอดรถ หัสนัยน์รีบลงจากรถด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ รัวนิ้วกดหมายเลขชั้นของณัฐชาอย่างไม่รอช้า ในใจเขาสับสนวุ่นวาย คำพูดมากมายผุดขึ้นแต่ไม่มีคำไหนที่รู้สึกว่าเหมาะสมจะเอ่ยออกไปเมื่อพบเธอเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของณัฐชา เขายกมือกดกริ่ง เสียงเรียกดังสะท้อนอยู่ในโถงเงียบสงัด เขายืนรอครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หัสนัยน์ถอนหายใจ รู้สึกถึงน้ำหนักของความเงียบที่กดทับหัวใจ เขาพึมพำกับตัวเองว่าเธออาจโกรธเขาและไม่อยากพบหน้า แต่เขาไม่อาจรอได้นานไปกว่านี้ภายในห้อง เสียงกริ่งดังมาถึงในขณะที่ณัฐชากำลังอาบน้ำอยู่ เธอไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อแม่ ซึ่งมีคีย์การ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว เธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำอุ่นชะล้างความเหนื่อยล้าของวัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเขาหัสนัยน์มองประตูที่เงียบงัน ก่อนหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าออกมา เขามองมันชั่วครู่ด้วยความลังเล ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องยังคงอบอุ่นและมีกลิ่นหอมจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   12. ผมยอมรับผิดทั้งหมด

    บ้านณัฐชา…บรรยากาศภายในบ้านของณัฐชานั้นอบอุ่นและน่าอยู่ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอย่างเรียบง่ายเข้ากับผนังสีครีม สายลมเย็นจากหน้าต่างที่เปิดรับวิวสวน พัดพากลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่รู้สึกผ่อนคลาย“สวัสดีจ้ะ รพี อาคม ไม่ได้เจอกันนานพวกเธอเลยนะ” ศรีสุภาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่แม้จะพยายามปกปิดความกังวลไว้ แต่ก็มองออกได้จากดวงตาที่ฉายแววร้อนใจ หัสนัยน์และพราวฟ้ารีบยกมือไหว้ทั้งสองตามมารยาท“สบายดีจ้ะ... เข้ามาๆ” รพีตอบกลับอย่างใจเย็น แต่แววตาของเขาไม่ได้หลุดพ้นจากความครุ่นคิดขณะผายมือเชิญแขกเข้ามานั่ง เมื่อทุกคนประจำที่นั่ง ศรีสุภาก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหนักแน่น“คือฉันจะมาขอโทษทั้งสองที่ลูกชายของฉันทำผิดต่อลูกสาวของพวกเธอ พวกเราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง พวกเรารู้สึกผิดจริงๆ” คำพูดของเธอเรียบง่ายแต่กดดัน หัสนัยน์นั่งตัวตรง ขณะที่พราวฟ้ากุมมือแม่แน่นเพื่อให้กำลังใจบรรยากาศในห้องพลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียด อาคมที่นั่งพิงพนักโซฟาอยู่ก่อนหน้านี้โน้มตัวมาข้างหน้า ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังหัสนัยน์ราวกับค้นหาคำตอ

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   11. ความจริงแสนเจ็บปวด

    เช้าวันนั้นณัฐชาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าที่ยังเกาะกุมร่างกาย เธอมองไปรอบห้อง ไม่เห็นวี่แววของหัสนัยน์ ใจคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องหนังสือหรือสวนหลังบ้าน เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างเรียบง่าย เมื่อเดินลงมาถึงห้องครัว สายตาของเธอสะดุดกับอาหารเช้าบนโต๊ะ มีโน้ตเล็กๆ วางอยู่ใกล้ๆ“ผมเตรียมอาหารไว้ให้...เดี๋ยวผมกลับมา ไม่ต้องกลัวนะ” ณัฐชาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเบ้ปากทันที“คิดจะทำความดีจะทำดีไถ่โทษเหรอ? ...ไม่มีทาง” เธอพึมพำ แต่ลึกๆ ก็แอบคิดว่าเขาอาจเริ่มใจอ่อนลงกับความแค้นที่เขามี เพราะช่วงนี้เขาดูไม่ได้โหดร้ายมาก เว้นแต่ในบางเรื่องที่เขาเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลย…หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพความทรงจำในวันแรกที่เธอมาที่นี่ผุดขึ้นในหัว น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า รักเขา แต่เขากลับมองเธอเหมือนเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ ณัฐชาไม่รู้ว่าควรจะรักหรือเกลียดเขาดี ความสับสนถาโถมเข้ามาในหัวใจจนเธอรู้สึกอึดอัด“ตราบใดที่คุณยังคงมีความแค้น เราทั้งสองก็คงเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้” เธอพึมพำเบาๆ แล้วมองออกไปยังสวนหลังบ

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   10. ช่วยเบาเบากับฉันหน่อย...

    ท่ามกลางป่าลึกในยามค่ำคืน เงาไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมราวกับจะกอดรัดทุกสรรพสิ่ง ความหนาวเย็นจากลมที่พัดผ่านมาอย่างเงียบสงบ เสียงของเหล่านกกลางคืนที่ส่งเสียงร้องประสานกับเสียงจิ้งหรีดและแมลงป่าดังรอบทิศทาง ในบ้านหลังนี้ มีเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวอาศัยอยู่กันเพียงสองคน“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม” หัสนัยถามณัฐชาด้วยน้ำเสียงห่วงใย“ฉันยังไม่ตายง่ายๆ หรอก ฉันจะอยู่จองเวรจองกรรมกับคุณไปอีกนาน” เธอจ้องเขาด้วยสายตาเคียดแค้น“โอเค...เถียงได้แบบนี้แสดงว่าหายแล้ว” เขายิ้มที่มุมปาก“งั้นคืนนี้ก็บำเรอผมต่อแล้วกัน…คุณป่วยตั้งสองวัน ผม…อยาก...” เขาหยุดพูดแล้วยิ้มอย่างมีความนัย เธอขมวดคิ้ว กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่ารอยยิ้มของเขามีความหมายริมฝีปากของเธอเม้มแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกที่จะเก็บอารมณ์ไว้ลึกสุดใจ ดวงตาจับจ้องเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่จะเมินหน้าหนีอย่างไม่แยแส“ฉันจะไปอาบน้ำ หลบ!” เธอมองค้อน ผลักเขาออกจากเตียงทันที“อาบน้ำเสร็จรีบมากินข้าวกินยาด้วย รีบหายเร็วๆ ผมใจจะขาดอยู่แล้ว” หัสนัยพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท“ไอ้บ้าเอ๊ย…ฉันเกลีย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status