แชร์

ตอนที่ 28 ทายาทแห่งดาบ

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 17:32:13

คลินิกตรงหน้าตั้งอยู่ห่างจากเขตใจกลางเมืองเล็กน้อย ตัวอาคารหินสีซีด ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยจำนวนนึง

ยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น ร่างสูงใหญ่ยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาตรงข้ามกับสถานที่ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท เป็นสถานที่ทำงานของเจ้าของสถานที่แห่งนั้น แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา

“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่

เมื่อแน่ใจแล้ว เขาดึงจดหมายจากกระเป๋าออกมา มันเป็นเศษกระดาษที่เขาเก็บได้แถวนี้ จดหมายนั้นเขียนด้วยลายมือเร่งรีบ เนื้อความสั้นๆระบุเพียงเวลาและสถานที่ ไม่ได้บอกถึงความต้องการอย่างอื่นไว้ชัดเจน

เขาวางจดหมายลงบนขอบหน้าต่างอย่างเบามือ ก่อนจะหยิบรีริครูปทรงกระดุมวางทับไว้ จากนั้นเขาเติมพลังเวทมนตร์ลงไปเล็กน้อย ทำให้มันมีน้ำหนักมากกว่าปก เพื่อป้องกันไม่ให้จดหมายถูกลมพัดปลิว แล้วเขาค่อยๆหย่อนตัวลงจากหน้าต่าง ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นดินอย่างไร้เสียง นุ่มนวลราวแมวป่า ก่อนจะหันหลังกลับไป มุ่งตรงไปที่คฤหาสน์

ขณะที่เดินอยู่บนท้องถนน ความคิดบางอย่างพลันผุดขึ้นในใจ เขาหวนคิดถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับโจชัว เกี่ยวกับการให้อิสระในการตัดสินใจว่าจะเก็บหรือทำลายงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการตายของภรรยาของเขา แม้เขาจะพูดเองว่าให้เจ้าตัวตัดสินใจ แต่ก็แอบคัดลอกข้อมูลสำคัญเอวไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะเขาไม่อาจปล่อยให้อารมณ์ของชายคนนั้นมาทำลายงานวิจัยที่มีศักยภาพต่อยอดไปสู่การพัฒนาด้านอื่นได้ ถึงอย่างนั้น ในท้ายที่สุดชายคนนั้นก็ไม่ได้ทำลายมันอยู่ดี 

"ก็นะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วนี้น่า……." เขาคิดกับตัวเอง ความรู้สึกผิดที่เคยโกหกผุดขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เขาสะบัดหัวเบาๆ 'มันจบไปแล้ว ไม่มีประโยชน์จะคิดถึง'"

ในตอนแรก เขาไม่ได้คาดหวังหรือไว้ใจโจชัวเลย สำหรับเขาแล้ว โจชัวเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่เคยเดินทางร่วมกันในช่วงเวลาสั้นๆ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่คลุมเครือเกินกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นคนรู้จัก หลังจากที่โจชัวตามเขามายังเมืองนี้ และ เข้าร่วมกับองกรณ์เมื่อสามปีก่อน พวกเขาก็แทบไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

“จะมารู้สึกผิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว...ช่วยไม่ได้ จะเสี่ยงให้มันถูกทำลายไม่ได้นี้น่า” เขาพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงปนหงุดหงิดราวกับยังขุ่นเคืองเรื่องในอดีต

ถึงแม้จะอยู่ในร่างนี้ก็ตาม แต่เหมือนผลกระทบจากวิญญาณของอาร์วินที่หลอมรวมกับตัวเอง จะทำให้เขาเริ่มคิดเล็กคิดน้อยมากขึ้น ความทรงจำพาเขาย้อนกลับไปถึงวันที่เขา และ เธอบุกทำลายองค์กรลับตามคำสั่งของเบื้องบน ภายหลังจากภารกิจสิ้นสุด เธอเลือกเผาเอกสารงานวิจัยทั้งหมดทิ้ง เพราะกลัวว่ามันจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด แม้เขาจะเห็นศักยภาพของมัน แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลายเป็นเถ้าถ่าน

“เสียดายชะมัด…” เขาพึมพำเสียงเบา บ่นถึงโอกาสที่สูญเสียไป ก่อนจะดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน พลางเร่งฝีเท้ากลับไปยังคฤหาสน์ที่รออยู่ปลายทาง

เขาก้าวผ่านเงามืดระหว่างซอกตึก ถนนสายเล็กที่ทอดไปยังคฤหาสน์วัลธอเรนเงียบงันราวกับไร้สิ่งมีชีวิต ลมหนาวยังคงพัดโชยอย่างต่อเนื่อง แต่ร่างของเขาไม่ไหวติงต่ออากาศที่เย็นจัด ดวงตาสีแดงลอบมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง

ในจังหวะที่เขากำลังจะเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินอีกสายหนึ่ง เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่วิ่งมาแต่ไกลดึงความสนใจของเขา หัวใจของเขาเต้นช้าลงในทันที เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

“คุณเรย์นาร์ค!” เสียงใสดังขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

เขาชะงัก ดวงตาของเขาหันไปยังต้นเสียงทันที เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดออกกำลังกายวิ่งตรงเข้ามาหาเขา ใบหน้าของเด็กหนุ่มมีรอยยิ้มสดใส ผมสีทองที่สว่างไสวและเห็นชัดแม้จะเป็นตอนกลางคืน ดวงตาสีฟ้าประกายราวกับท้องฟ้าในตอนกลางวันสะท้อนแสงจันทร์บนท้องถนน

“อาเธอร์...” เขาพึมพำเบาๆ

อาเธอร์เป็นนักเรียนใหม่ในสถาบันของหอคอยเวทย์ ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาได้เข้าเรียน หลังจากที่เขาได้รับการสนับสนุนจากจากเขาในรูปลักษณ์เดิม และ เธอในช่วงที่เขายังอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ความพยายามของทั้งสองช่วยให้เด็กหนุ่มคนนี้มีโอกาสสร้างอนาคตใหม่

อาเธอร์นั้นเป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์สะดุดตา ใบหน้าของเขามีความคล้ายคลึงกับอาร์วินอย่างน่าประหลาด เว้นเพียงแต่ความสดใสในดวงตาสีฟ้าที่เปล่งประกายราวกับท้องฟ้าตอนกลางวัน ขณะที่อาร์วินให้ความรู้สึกลึกลับเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน ร่างกายของอาเธอร์ยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากรูปร่างที่สง่างามแต่ไม่เน้นพละกำลังของอาร์วิน แม้ทั้งสองจะดูคล้ายกันในบางมุม แต่บุคลิกและพลังงานที่แผ่ออกมากลับแตกต่างออกไป

“ตัวตนของอาเธอร์... มันเหมือนเป็นเจตนารมณ์สุดท้ายของเธอ มันเป็นหลักฐานไม่กี่อย่างที่บ่งบอกว่าเธอเคยมีตัวตนอยู่หลังจากที่เธอหายไป แม้ว่าจะไม่อยากมองมันแบบนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย...”เขาคิดในใจ

อาเธอร์หยุดหอบอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่คล้ายคลึงกับอาร์วินจนแทบทำให้เขาต้องเบือนสายตาเพราะนึกถึงวันที่อาร์วินตาย ทว่าความสดใสในแววตานั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าโลกของอาเธอร์ยังคงเต็มไปด้วยความหวัง

“ผมไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่” อาเธอร์พูดพลางยิ้มกว้าง “นี่คุณออกมาวิ่งตอนเช้าเหมือนกันเหรอครับ?”

“ประมาณนั้น”เขาตอบสั้นๆพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นกลาง

“ตั้งแต่ที่คุณช่วยผมไว้คราวนั้น ผมทำตามที่คุณบอกทุกอย่างเลยนะ วิ่งทุกเช้าทุกวัน ” อาเธอร์พูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ

“ถึงตอนนั้นคุณจะบอกว่าไม่ต้องจริงจัง แต่ผมก็คิดว่ามันช่วยผมได้เยอะมากเลย”

“เหร” เขายิ้มบางๆแต่ในใจกลับปั่นป่วนเล็กน้อย เด็กคนนี้ช่างเหมือนกับอาร์วินในบางมุม แต่ก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในอีกหลายอย่าง จนทำให้เขารู้สึกขนลุกเล็กน้อย

อาเธอร์เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงสบายๆ "เมื่อวานนี้ผมไปเจออันธพาลขู่ไถเงินคุณยายคนหนึ่งครับ ผมเข้าไปช่วย คุณยายปลอดภัยดีแล้ว ผมจับเขาส่งตำรวจไปเรียบร้อย"

เขาฟังจบ พลางยิ้มบางๆ "ก็ดีนี่ แต่ครั้งหน้าอย่าเสี่ยงมากเกินไป เข้าใจไหม? ไม่ใช่ทุกครั้งที่นายจะเจอกับพวกไร้ฝีมือหรอกน่ะ"

อาเธอร์หัวเราะเบาๆ "ครับ ผมจะระวัง... แต่ถ้าเป็นคุณ คุณก็คงทำเหมือนนี้น่า"

คำถามนั้นทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"นั้นเพราะว่าฉันมีประสบการณ์ต่างหาก ถึงสามารถเข้าไปช่วยได้ แต่ก็ยังต้องระวังตัวอยู่ดี"

อาเธอร์พยักหน้าเบาๆ สีหน้าเริ่มครุ่นคิด "นั่นสินะครับ... ผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย"อาเธอพูด ก่อนจะสังเกตุเห็นถึงท่าทางของเขา

“ว่าแต่คุณดูแปลกๆไปนะครับวันนี้ มีอะไรหรือเปล่า?” อาเธอร์ถามพลางเอียงศีรษะ

“เปล่า” เขาตอบ “นายเองก็ไม่น่าจะออกมาวิ่งตอนตีสี่แบบนี้หนิ”

“ผมก็แค่...อยากใช้เวลาคิดอะไรเงียบๆ บ้างน่ะครับ” อาเธอร์หัวเราะเบาๆ

“แล้วคุณล่ะ? หรือว่าคุณก็กำลังคิดอะไรอยู่เหมือนกัน?”

คำถามนั้นทำให้เขาหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขามองอาเธอร์ตรงๆ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

“ก็น่ะ ช่วงนี้มีอะไรให้คิดเยอะ” เขาตอบเสียงเรียบ

“ถ้าอย่างนั้น...” อาเธอร์เริ่มพูด แต่ก็ชะงักเหมือนยังลังเล

“ถ้าคุณต้องการคนช่วยให้คำปรึกษา ผมยินดีช่วยนะครับ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ผมอาจจะไม่เข้าใจเลยก็ตาม”

คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เขายิ้มจางๆ ความรู้สึกอุ่นวาบบางอย่างผุดขึ้นในใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังอะไรกับเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ความจริงใจในน้ำเสียงของอาเธอร์ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

“ขอบใจ” เขาตอบสั้นๆก่อนจะมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า 

“แต่ตอนนี้ นายควรกลับไปพักผ่อน ก่อนที่จะไม่มีแรงไปเรียนในตอนเช้าน่ะ”

อาเธอร์หัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดตอบ“เข้าใจแล้วครับ ผมจะทำตามที่คุณบอก” เขาพูดพลางยิ้ม

“งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ ไว้เจอกันใหม่!”

เด็กหนุ่มโบกมือลาก่อนจะวิ่งจากไปในทิศทางตรงข้าม เขายืนมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่ลับสายตาไปชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวเดินต่อ

“เด็กคนนั้น...” เขาพึมพำเบาๆรอยยิ้มจางๆยังไม่เลือนหายจากใบหน้าของเขา

“คล้ายกันจนน่าขนลุกเลย ความรู้สึกอะไรกันเนี่ย”

เขาเตรียมที่จะเดินต่อ แต่ในตอนนั้น ก็รู้สึกเจ็บจี้ดราวกับมีบางสิ่งหลุดออกจากร่างกาย ความเจ็บนั้นไม่ใช่ทางกายภาพ แต่เป็นความรู้สึกเสียดแทงในส่วนลึกของจิตวิญญาณ ดวงตาสีแดงหันขวับไปมองเด็กหนุ่มที่ยังคงวิ่งอยู่ไกลออกไป ดูเหมือนอาเธอร์ไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติใดๆ

“แปลก...” เขาพึมพำกับตัวเองพลางจับมือที่หน้าอกเบาๆ ความเจ็บค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว

เขายืนนิ่งอยู่อีกสักครู่ ก่อนจะปล่อยความสงสัยไว้เบื้องหลัง และเดินมุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ต่อ ความเงียบและความมืดยังคงเป็นเพื่อนร่วมทางเพียงลำพังของเขา


หลังจากวิ่งเสร็จ อาเธอร์กลับมาถึงห้องพักในหอพักของสถาบันเวทมนตร์ เขาถอดเสื้อออกและโยนลงตะกร้า เสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อส่งกลิ่นอ่อนๆของความเหนื่อยล้า เด็กหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นล้างตัวจนสะอาด ก่อนจะพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวไว้แบบลวกๆ

เมื่อออกจากห้องน้ำ เขาเดินมาหยุดหน้ากระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ดวงตาสีฟ้าจับจ้องภาพสะท้อนของตนเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองกล้ามเนื้อที่เริ่มพัฒนาจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่แล้วสายตาของเขาก็หยุดนิ่งที่บางสิ่งบนร่างกาย

“อะไรเนี่ย? รอยสักมาจากไหน?” อาเธอร์พูดออกมาอย่างตกใจ มือแตะลงไปยังบริเวณเอวด้านขวา ใกล้กับส่วนท้องหน้า สัมผัสได้ถึงพื้นผิวเรียบลื่นของผิวหนัง แต่กลับมีสัญลักษณ์ปรากฏชัดเจน

มันเป็นสัญลักษณ์รูปดาบสามเล่มไขว้กัน เล่มหนึ่งพุ่งลงดิน สองเล่มพุ่งเฉียงขึ้นฟ้า ในภาพนั้น ดาบทุกเล่มเปล่งแสงสีทองริบหรี่ ก่อนที่แสงจะมืดดับ และกลายเป็นรอยสักสีดำสนิทที่ฝังแน่น

“แถมตรานี้มัน...” เขาเพ่งมองรายละเอียดของสัญลักษณ์ อาเธอร์นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นตรานี้ในข่าวเมื่อวานก่อนที่เขาอ่านจากหนังสือพิมพ์ มันคือ ตราประจำตระกูลแคร์นัส ตระกูลของ อาร์วิน ชายผู้ที่เป็นลูกเขยของตระกูลวัลธอเรน ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายวันก่อน แต่เพิ่งปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อวานนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 29 ความสงบในรุ่งสาง

    ก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายที่เขาช่วยเหลือไว้สวมชุดแปลกๆราวกับมาจากอีกทวีป ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาว ภาษาที่ใช้ ก็ดูเหมือนจะถูกๆผิดๆแต่กลับเต็มไปด้วยสำบัดสำนวนมากมายราวกับจงใจชายคนนั้นอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เขาจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีของคนอื่นมาด้วยเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยไปให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นศาสตร์ลับในดินแดนของตน หนังสือเล่มนี้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการปกปิด และ ซ่อนเร้น โดยใช้พลังที่ผสานระหว่างธรรมชาติและเจตจำนงในตอนแรก เขารับหนังสือเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 30 เขินอาย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆกลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับอยากกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันจนเธอไม่อยากจะลุกออกจากเตียงเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งพิงหลับอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าสงบนิ่งภายใต้เงามืด เส้นผมสีทองของเขาสว่างไสวเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เผยให้เห็นอีกด้านนึงที่เธอคุ้นเคย—ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างก่อนหน้านี้ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นเล็กน้อย “อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อออกมาเบาๆเหมือนจะยืนยันการมีตัวตนอยู่ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อพึ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองนอนอยู่บนเตียงของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย ขณะที่พยายามเรียกความทรงจำที่เลือนรางกลับคืนมาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นในความทรงจำ จำได้ว่าเธอ และ เพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องของรางวัลในการทดสอบที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 31 คำลวง

    ความกังวลในใจของเธอคลี่คลายลง แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น ราวกับไม่สามารถสลัดคำถามนั้นออกจากหัวไปได้ ก่อนจะหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าอีกครั้ง“ฉันรู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะที่จะถามอะไรแบบนี้ ในตอนที่นายเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา…”เธอหยุดเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา แต่ชายหนุ่มยังคงนิ่ง เหมือนไม่มีความสับสนใดๆ“มันมีหลายเรื่องที่ฉันอยากจะถามนาย แต่…” เธอลดสายตาลงมองแก้วชาที่อุ่นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “เรื่องที่สำคัญกว่านั้น—ฉันอยากรู้... นายได้รับอะไรจากการทดสอบนั้น?”ชายหนุ่มมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบอย่างอึดอัด"ขอโทษด้วย มันเป็นความลับเฉพาะฝ่ายนักเวทย์ ไม่สามารถบอกได้""ฉันรู้เกี่ยวกับการทดสอบนั้นแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าของรางวัลอาจจะเป็นชิ้นส่วนร่างกายของจอมปราชญ์ไรอัส นายไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก"เขาชะงักเล็กน้อย หยุดคิดไปชั่วขณะก่อนจะพูดออกมา"รู้มาจากไอริสสิน่ะ? เธอคนนั้นไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของฝ่ายอัศวิน กับ จอมเวทย์รึไง?""แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ารู้แล้ว?""ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นอะไร" เขาพูดเสียงต่ำ แล้วเขาก็ถอนหายใจ"ฟังแล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะ แล้วก็ห้ามบอกด้วยว่าเธอรู้มาจากไอริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 32 ติดตาม

    หลังจากที่หญิงสาวหลับไป ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไฟไหม้สองจุดในคืนเดียว—หนึ่งคือห้องของเขาเอง สถานที่ที่เคยอบอวลไปด้วยเงาของความทรงจำ ทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นชีวิตของเขาและเธอ หนังสือที่เคยวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ บัดนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน เฟอร์นิเจอร์ที่เขาเลือกเองถูกเผาผลาญจนไม่เหลือเค้าเดิม ทุกสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวันคืนที่เคยมีร่วมกัน มอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวเพลิง ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก…มือขวาของเขากำแน่นจนข้อกระดูกปูดขึ้นมา เขาบีบมือจนเจ็บ แต่พยายามข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ แม้จะพยายามทำเช่นนั้น แววตากลับยังคงสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ภายใน เขาหายใจเข้าลึก พยายามประคองสติขณะที่ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวอีกแห่งคือโรงพยาบาลกลางเมือง... สถานที่ๆซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย หากต้องการลบตัวตนของเขาจริงๆ แค่เผาห้องพักก็เพียงพอ แต่ทำไมต้องเผาโรงพยาบาล?เรื่องมันใหญ่เกินไป… หรือทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตอนที่เกิดเรื่องกับเขาพอดี? แต่ถ้านี้เป็นแผนของใครบางคน แล้วพวกมันจะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนี้?ชายหนุ่มนั่งครุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 33 คนประหลาด

    ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในแนวป่าจนถึงเขตเมือง กลิ่นอายของผู้คนเริ่มแตะจมูกของเธอที่แอบตามมาเงียบๆ เสียงพูดคุยและความเคลื่อนไหวของตลาดกลางคืนแว่วเข้ามา เธอหยุดอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบระหว่างร้านค้าเล็กๆ“ทำไมต้องแอบมาเข้าเมืองมาในเวลานี้ด้วย น่าสงสัยจริงๆ…” หญิงสาวคิดในใจ ก่อนปรับผ้าคลุมไหล่ให้กระชับและเริ่มตามเขาเข้าไปในตรอกที่ดูคับแคบและอับทึบ มีกลิ่นอับของความชื้นผสมกับกลิ่นไม้เก่าจากกำแพงร้านค้าหญิงสาวที่กวาดสายตาเหลือบมองไปรอบข้าง ก่อนที่จะเห็นเงาของเขาเลี้ยวหายเข้าไปในซอยเล็กๆ เธอเห็นดังนั้น จึบรีบเร่งก้าวตามโดยไม่ลดความระมัดระวัง แต่เมื่อพ้นมุมซอยเข้าไป ร่างสูงของชายหนุ่มก็พุ่งพรวดเข้ามามาจากมุมที่เขาเข้าไป ชายหนุ่มเคลื่อนตัวรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว เธอถูกผลักชนเข้าติดกับกำแพงผนังด้านหลัง“อึก—!” เสียงร้องสั้นกระชับของเธอดังขึ้นในความเงียบ คทาในมือถูกปัดกระเด็นไปด้วยแรงที่เหนือชั้น ตัวเธอแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็ง ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอหยุดชะงักทันที ปลายมีดเย็นเฉียบจ่ออยู่ห่างจากดวงตาของเธอเพียงเส้นขน ความหวาดกลัวที่ท่วมท้นทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-16
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 34 มรดกของจอมเวทย์สติเฟื่อง

    "นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย?" หญิงสาวถามขึ้น ขณะที่พวกเขาเลี้ยวเข้าตรอกซอยแคบๆแห่งหนึ่ง กลิ่นอายของความวุ่นวายในย่านนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น"ฉันไม่ได้พาเธอ เธอตามฉันมาเอง" ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าตอบเสียงห้วนๆ แต่ยังไม่หยุดเดิน เขาไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นคนที่พูดจานุ่มนวล สุภาพ และมีมารยาทเสมอเมื่ออยู่ใกล้เธอ แต่ทุกสิ่งที่เธอรู้จักเกี่ยวกับตัวเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อคมมีดหันมาจ่อที่ตาของเธอ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คืออาร์วินคนเดิมที่เธอเคยรู้จักแววตาของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เลนส์แว่นสีน้ำตาลอมแดง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เหมือนกับเด็กน้อยที่พึ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรก มันเป็นสายตาที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความแปลกใจอย่างชัดเจนเธอมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ในขณะที่เขาก้าวเดินอย่างชำนาญ แต่ทุกย่างก้าวกลับเต็มไปด้วยความระแวง เขามองไปรอบตัวเหมือนกับคนที่กำลังหลบหนี หรือไม่ก็เหมือนคนที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป เธอเริ่มสงสัยว่าเขากำลังกลัวอะไรอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาสูญเสียวงแหวนเวทมนตร์ไป ทำให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษหญิงสาวหยุดชะงักเมื่ออาร์วินหย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 1 ภาพหลอนที่ไม่จางหาย

    เด็กชายเดินโซเซผ่านช่องแคบในกำแพงหินออกมา หลังจากการต่อสู้ในความมืด เขาพบกับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ทาบลงบนใบหน้า ความอุ่นและความสว่างของแสงทำให้เขาต้องหยีตา แต่ไม่นาน เขาก็เริ่มมองเห็นภาพรอบตัวอย่างชัดเจนตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งชาย และ หญิงหลากหลายวัย ท่าทางของพวกเขาเคร่งเครียด สายตาจับจ้องไปยังกลุ่มนักผจญภัย และ เจ้าหน้าที่ ที่ยืนปรึกษากันด้วยสีหน้าวิตกกังวล ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขา ซึ่งดูเล็ก และ ไร้เสียงท่ามกลางความโกลาหลนี้ขณะที่เด็กชายพยายามก้าวไปข้างหน้า ร่างกายที่อ่อนล้าก็ค่อยๆสูญเสียพละกำลัง ความเหนื่อยล้ากดทับเขาราวกับไม่อาจพยุงตัวได้อีกต่อไป ในที่สุด ขาของเขาอ่อนแรงจนต้องทรุดลงกับพื้นเสียงเบาๆของเขาที่กระแทกพื้นเรียกความสนใจจากฝูงชน บรรยากาศเคร่งเครียดหยุดลงชั่วขณะ ผู้คนเริ่มหันมามองที่เขาทันใดนั้น เด็กหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มประชาชนร้องออกมาด้วยความตกใจ"นั่นเขาใช่ไหม!?" เธอพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นสะท้าน ก่อนจะรีบแหวกฝูงชนเข้ามาหาเด็กชายเด็กหญิงในชุดเสื้อผ้าที่ดูหรูหรา วิ่งเข้ามาใกล้เขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเป็นห่วง ดวงตาสีเขี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 2 ด้านมืดของรุ่งอรุณ

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเครื่องแบบสีดำสนิทออกมา มันเป็นชุดที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต—เสื้อเชิ้ตพอดีตัวเน้นความคล่องตัว และเสื้อโค้ทยาวที่ชายเสื้อจรดสะโพก ด้านในบุซับกันหนาวและมีกระเป๋าลับซ่อนอยู่หลายจุด เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้ในงานเฉพาะทางของเขาเมื่อสวมชุดเรียบร้อย ชายหนุ่มเดินไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำขึ้นมาเพื่อดับกระหาย แต่ทันทีที่สัมผัสเขาก็ชะงัก อุณหภูมิของมันอุ่นเกินไป ตู้เย็นไม่ทำงานเหมือนเคยเขาเลิกคิ้ว สายตาคมจ้องไปยังแหล่งพลังงานด้านหลังตู้เย็น ก่อนจะเปิดช่องเล็กๆ ออกมา ข้างในมีแก่นพลังเวทย์ขนาดเล็กที่เคยเปล่งแสงสีเหลืองอ่อน แต่ตอนนี้กลับซีดจางจนแทบไร้สี บ่งบอกว่าพลังงานในนั้นหมดสิ้น“หมดอีกแล้วสินะ...” เขาพึมพำเบาๆ ถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่เตียง ยื่นมือไปใต้ฐานเตียงแล้วหยิบแก่นสำรองที่ซ่อนไว้ออกมามือหนึ่งถือแก่นที่ซ่อนเอาไว้ ส่วนอีกมือจับแก่นที่หมดพลังงาน เขาจัดท่าทางให้มั่นคง ระบายลมหายใจยาวช้าๆ ขณะที่เริ่มถ่ายเทพลังเวทย์จากแก่นหนึ่งไปสู่อีกแก่นหนึ่งกระแสพลังงานไหลเวียนจากฝ่ามือของเขาเหมือนน้ำในลำธารสงบ แก่นที่เคยซีดจางค่อยๆ เปลี่ยนสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 34 มรดกของจอมเวทย์สติเฟื่อง

    "นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย?" หญิงสาวถามขึ้น ขณะที่พวกเขาเลี้ยวเข้าตรอกซอยแคบๆแห่งหนึ่ง กลิ่นอายของความวุ่นวายในย่านนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น"ฉันไม่ได้พาเธอ เธอตามฉันมาเอง" ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าตอบเสียงห้วนๆ แต่ยังไม่หยุดเดิน เขาไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นคนที่พูดจานุ่มนวล สุภาพ และมีมารยาทเสมอเมื่ออยู่ใกล้เธอ แต่ทุกสิ่งที่เธอรู้จักเกี่ยวกับตัวเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อคมมีดหันมาจ่อที่ตาของเธอ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คืออาร์วินคนเดิมที่เธอเคยรู้จักแววตาของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เลนส์แว่นสีน้ำตาลอมแดง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เหมือนกับเด็กน้อยที่พึ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรก มันเป็นสายตาที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความแปลกใจอย่างชัดเจนเธอมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ในขณะที่เขาก้าวเดินอย่างชำนาญ แต่ทุกย่างก้าวกลับเต็มไปด้วยความระแวง เขามองไปรอบตัวเหมือนกับคนที่กำลังหลบหนี หรือไม่ก็เหมือนคนที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป เธอเริ่มสงสัยว่าเขากำลังกลัวอะไรอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาสูญเสียวงแหวนเวทมนตร์ไป ทำให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เลยต้องระวังตัวเป็นพิเศษหญิงสาวหยุดชะงักเมื่ออาร์วินหย

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 33 คนประหลาด

    ชายหนุ่มเดินลึกเข้าไปในแนวป่าจนถึงเขตเมือง กลิ่นอายของผู้คนเริ่มแตะจมูกของเธอที่แอบตามมาเงียบๆ เสียงพูดคุยและความเคลื่อนไหวของตลาดกลางคืนแว่วเข้ามา เธอหยุดอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบระหว่างร้านค้าเล็กๆ“ทำไมต้องแอบมาเข้าเมืองมาในเวลานี้ด้วย น่าสงสัยจริงๆ…” หญิงสาวคิดในใจ ก่อนปรับผ้าคลุมไหล่ให้กระชับและเริ่มตามเขาเข้าไปในตรอกที่ดูคับแคบและอับทึบ มีกลิ่นอับของความชื้นผสมกับกลิ่นไม้เก่าจากกำแพงร้านค้าหญิงสาวที่กวาดสายตาเหลือบมองไปรอบข้าง ก่อนที่จะเห็นเงาของเขาเลี้ยวหายเข้าไปในซอยเล็กๆ เธอเห็นดังนั้น จึบรีบเร่งก้าวตามโดยไม่ลดความระมัดระวัง แต่เมื่อพ้นมุมซอยเข้าไป ร่างสูงของชายหนุ่มก็พุ่งพรวดเข้ามามาจากมุมที่เขาเข้าไป ชายหนุ่มเคลื่อนตัวรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว เธอถูกผลักชนเข้าติดกับกำแพงผนังด้านหลัง“อึก—!” เสียงร้องสั้นกระชับของเธอดังขึ้นในความเงียบ คทาในมือถูกปัดกระเด็นไปด้วยแรงที่เหนือชั้น ตัวเธอแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็ง ลมหายใจที่เคยสม่ำเสมอหยุดชะงักทันที ปลายมีดเย็นเฉียบจ่ออยู่ห่างจากดวงตาของเธอเพียงเส้นขน ความหวาดกลัวที่ท่วมท้นทำ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 32 ติดตาม

    หลังจากที่หญิงสาวหลับไป ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไฟไหม้สองจุดในคืนเดียว—หนึ่งคือห้องของเขาเอง สถานที่ที่เคยอบอวลไปด้วยเงาของความทรงจำ ทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นชีวิตของเขาและเธอ หนังสือที่เคยวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ บัดนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน เฟอร์นิเจอร์ที่เขาเลือกเองถูกเผาผลาญจนไม่เหลือเค้าเดิม ทุกสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวันคืนที่เคยมีร่วมกัน มอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวเพลิง ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก…มือขวาของเขากำแน่นจนข้อกระดูกปูดขึ้นมา เขาบีบมือจนเจ็บ แต่พยายามข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ แม้จะพยายามทำเช่นนั้น แววตากลับยังคงสะท้อนความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ภายใน เขาหายใจเข้าลึก พยายามประคองสติขณะที่ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวอีกแห่งคือโรงพยาบาลกลางเมือง... สถานที่ๆซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย หากต้องการลบตัวตนของเขาจริงๆ แค่เผาห้องพักก็เพียงพอ แต่ทำไมต้องเผาโรงพยาบาล?เรื่องมันใหญ่เกินไป… หรือทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตอนที่เกิดเรื่องกับเขาพอดี? แต่ถ้านี้เป็นแผนของใครบางคน แล้วพวกมันจะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนี้?ชายหนุ่มนั่งครุ่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 31 คำลวง

    ความกังวลในใจของเธอคลี่คลายลง แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น ราวกับไม่สามารถสลัดคำถามนั้นออกจากหัวไปได้ ก่อนจะหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าอีกครั้ง“ฉันรู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะที่จะถามอะไรแบบนี้ ในตอนที่นายเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา…”เธอหยุดเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา แต่ชายหนุ่มยังคงนิ่ง เหมือนไม่มีความสับสนใดๆ“มันมีหลายเรื่องที่ฉันอยากจะถามนาย แต่…” เธอลดสายตาลงมองแก้วชาที่อุ่นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “เรื่องที่สำคัญกว่านั้น—ฉันอยากรู้... นายได้รับอะไรจากการทดสอบนั้น?”ชายหนุ่มมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบอย่างอึดอัด"ขอโทษด้วย มันเป็นความลับเฉพาะฝ่ายนักเวทย์ ไม่สามารถบอกได้""ฉันรู้เกี่ยวกับการทดสอบนั้นแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าของรางวัลอาจจะเป็นชิ้นส่วนร่างกายของจอมปราชญ์ไรอัส นายไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก"เขาชะงักเล็กน้อย หยุดคิดไปชั่วขณะก่อนจะพูดออกมา"รู้มาจากไอริสสิน่ะ? เธอคนนั้นไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนของฝ่ายอัศวิน กับ จอมเวทย์รึไง?""แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ารู้แล้ว?""ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นอะไร" เขาพูดเสียงต่ำ แล้วเขาก็ถอนหายใจ"ฟังแล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะ แล้วก็ห้ามบอกด้วยว่าเธอรู้มาจากไอริ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 30 เขินอาย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆกลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับอยากกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันจนเธอไม่อยากจะลุกออกจากเตียงเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งพิงหลับอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าสงบนิ่งภายใต้เงามืด เส้นผมสีทองของเขาสว่างไสวเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เผยให้เห็นอีกด้านนึงที่เธอคุ้นเคย—ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างก่อนหน้านี้ ทำให้เธอโล่งใจขึ้นเล็กน้อย “อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อออกมาเบาๆเหมือนจะยืนยันการมีตัวตนอยู่ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อพึ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองนอนอยู่บนเตียงของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย ขณะที่พยายามเรียกความทรงจำที่เลือนรางกลับคืนมาภาพเหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นในความทรงจำ จำได้ว่าเธอ และ เพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องของรางวัลในการทดสอบที่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 29 ความสงบในรุ่งสาง

    ก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายที่เขาช่วยเหลือไว้สวมชุดแปลกๆราวกับมาจากอีกทวีป ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาว ภาษาที่ใช้ ก็ดูเหมือนจะถูกๆผิดๆแต่กลับเต็มไปด้วยสำบัดสำนวนมากมายราวกับจงใจชายคนนั้นอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เขาจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีของคนอื่นมาด้วยเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยไปให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นศาสตร์ลับในดินแดนของตน หนังสือเล่มนี้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการปกปิด และ ซ่อนเร้น โดยใช้พลังที่ผสานระหว่างธรรมชาติและเจตจำนงในตอนแรก เขารับหนังสือเ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 28 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกตรงหน้าตั้งอยู่ห่างจากเขตใจกลางเมืองเล็กน้อย ตัวอาคารหินสีซีด ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยจำนวนนึงยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น ร่างสูงใหญ่ยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาตรงข้ามกับสถานที่ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท เป็นสถานที่ทำงานของเจ้าของสถานที่แห่งนั้น แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เมื่อแน่ใจแล้ว เขาดึงจดหมายจากกระเป๋าออกมา มันเป็นเศษกระดาษที่เขาเก็บได้แถวนี้ จดหมายนั้นเขียนด้วยลายมือเร่งรีบ เนื้อความสั้นๆระบุเพียงเวลาและสถานที่ ไม่ได้บอกถึงความต้

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 27 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    หญิงสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมสีม่วงอมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในสถานที่แห่งนี้ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ทำให้เธอรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของมือสังหาร จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มานานแล้ว แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับเรื่องราวนั้น หนักเกินกว่าจะเล่าออกมาดวงตาสีชมพูอ่อนสะท้อนแสงจากโคมไฟ หญิงสาวนั่งนิ่งราวกับกำลังขบคิดอะไรบาง แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ อยากให้ชายหนุ่มเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่เธอก็รู้ดี เขาก็ยังเป็นตัวเขา—คนที่เลือกจะแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง ไม่ยอมพึ่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 26 ความรู้สึกที่ถูกมองข้าม

    ชายร่างสูงใหญ่เดินผ่านทางเดินยาวที่ปกคลุมด้วยความเงียบสงัดของพื้นที่ บรรยากาศภายในบริเวณนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายทรงพลังที่ทั้งหนักอึ้งและน่าเกรงขาม เขาหยุดชั่วครู่หน้าประตูบานใหญ่ของห้องผู้นำองกรณ์ บานประตูไม้สลักลวดลายละเอียดอ่อนแสดงถึงอำนาจและบทบาทสำคัญของเจ้าของห้องในขณะที่เขาก้าวผ่านหน้าประตู ความรู้สึกหนึ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่าง คล้ายมีสายตาจับจ้องจากอีกมิติ พลังจากดันเจี้ยนแห่งนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงการเฝ้ามองของเจ้าของที่นี้อย่างชัดเจน แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆก็ตาม"ดูเหมือนเธอมีเรื่องที่จะพูดด้วย แต่ก็ลังเลที่จะถามสิน่ะ" เขาคิดในใจ สายตาสีแดงฉานของเขาหันไปมองบานประตูอย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะส่ายหัวเบาๆผู้นำของสถานที่แห่งนี้ เป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอเป็นลูกสาวของอดีตผู้นำองกรณ์อาชกรรมขนาดใหญ่ในเมือง แต่ถูกเขาทำลายลงไปเมื่อหลายปีก่อน ในตอนนั้นเธอยังเยาว์วัย แถมยังเป็นลูกของโสเภณีที่องกรณ์จับตัวมาอีก ทำให้เธอมักจะถูกรังแก และ กลั่นแกล้งดูหมิ่นเสมอเธอที่ผ่านความยากลำบากในชีวิตแต่ล่ะวัน ก็ได้มาพบกับเขาในร่างของจอมเชือด ในตอนแรกเธอร้องขอที่จะติดตามเขา แต่ตัวเขาในตอนนั้นปฏิเสธ ไม่อยาก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status