แชร์

เข้าหออีกครา 3

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-11 12:46:07

เพราะว่าวันนี้ทั้งวันยังมิได้ออกแรงทำอะไรเลย ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ง่วงนอน และที่สำคัญครั้งก่อนคนที่เข้าหอกับสามี มิใช่นางที่เป็นซานซาน แต่เป็นชิงหลินก่อนตายต่างหาก

“คิดอะไรอยู่?”

เสียงแหบพร่านั้นคล้ายกับดังมาจากสวรรค์ ฟังแล้วให้รู้สึกทุ้มนุ่มน่าฟังอย่างประหลาด

ซานซานจึงตอบกลับอย่างเผลอไผล

“ข้ากำลังคิดว่าอยากเข้าหอกับท่านอีกครั้งจะได้ไหม?”

สิ้นคำถาม พลันได้ยินคล้ายเสียงหัวเราะในลำคอ

“ที่แท้เจ้าก็คิดเช่นนี้”

ซานซานพยักหน้าถี่ๆ ดั่งนกกระสา ฉับพลันก็รู้สึกว่าเอวถูกรัดแน่น เห็นดวงตาของสามีชัดเจนนัก

แม้ว่าใบหน้าเขาจักอัปลักษณ์ ทว่าดวงตากลับเรียวคมทรงพลัง แฝงไปด้วยเสน่ห์มนต์มารอันร้อนแรงที่แสนจะเย้ายวน ยามมองสบสายตายิ่งชวนประหวั่นพรั่นพรึงและหลงใหลได้ในเวลาเดียวกัน

โดยที่ไม่รู้ตัว กลีบปากนางพลันถูกแตะแต้มแผ่วเบา  คล้ายภมรหยอกเย้ากลีบบุปผาอ่อนนุ่ม ซานซานเผลอไผลกระทั่งถูกเรียวปากเขาขบเม้มเนิ่นนานก็ยังไม่รู้ตัว

สายลมราตรีพัดผ่าน ฝากความเย็นเยียบเอาไว้รอบทิศ  ทว่ากายสาวกลับรู้สึกร้อนผะผ่าวยากระงับ

ริมฝีปากที่ขยับแนบชิดยิ่งนานยิ่งดุดันและร้อนกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจรินรดยิ่งร้อนระอุไม่ต่าง

จากหยอกเย้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเผด็จการ ปลายลิ้นร้อนยิ่งเกี่ยวพันลึกซึ้ง อ้อมแขนยิ่งนานยิ่งโอบเกี่ยวกระหวัดรัดรึง

ซานซานรู้สึกสมองมึนงง หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม

ชั่วอึดใจต่อมาเรือนกายก็หมุนเคว้งคล้ายกับลอยตัวได้

ขณะกำลังสับสนประหนึ่งคนละเมอกึ่งหลับกึ่งตื่น แผ่นหลังที่เปลือยเปล่าเมื่อใดมิอาจทราบ ก็รู้สึกเย็นวาบ นางถูกจัดท่าให้นอนราบบนเตียง เหนือร่างคือคนตัวใหญ่ที่เปล่าเปลือยเช่นกันกำลังทาบทับลงมาตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจรู้

“อ๊ะ! เหย่หนิว”

หญิงสาวอุทานเสียงหนึ่ง คืนสติได้ยามที่เรียวขาถูกแยก  รับรู้ถึงสิ่งหนึ่งที่ร้อนระอุประดุจไฟตรงกลางลำตัว กำลังบดเบียดความแข็งแกร่งใหญ่โตเข้าหาความอ่อนนุ่มของนาง เขาดุนดันแทรกตัวตนเข้ามาอย่างเชื่องช้า แล้วฝังกายอยู่เช่นนั้น

สองมือเล็กรีบยกขึ้นปิดบังหน้าอกตนตามสัญชาตญาณ ร่างบางสั่นสะท้านน้อยๆ โดยธรรมชาติ

ซานซานในชาติก่อนเอาแต่ฝึกวิชาเข่นฆ่าล่าสังหาร เรื่องกามารมณ์จึงห่างไกล นับได้ว่าเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ ยังไม่เคยถูกชายใดรุกล้ำทั้งสิ้น

เมื่อวิญญาณเข้าร่างของชิงหลินมา ยังผ่านพ้นช่วงสำคัญไปแล้ว หลงเหลือเพียงความเจ็บหน่วงเท่านั้น

รสสัมผัสระหว่างร่วมรัก ไหนเลยจะประจักษ์ชัด

หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ ตัวเกร็งแข็งทื่อ กลายร่างเป็นเพียงแม่นางน้อยไม่ประสา ไม่เป็นตัวของตัวเองไปเสียแล้ว

“จงลืมคืนแรกของเราไปเสีย คืนนี้ข้าย่อมถนอมเจ้า”

จ้าวเหว่ยเอ่ยเสียงเบา พลางโอบกระชับเอวบางแนบแน่น ก้มหน้าลงจุมพิตกลีบปากอุ่นนุ่ม ใช้เรียวปากร้อนผ่าวคลายความตื่นเต้นให้คนใต้ร่างอย่างใจเย็น ไล้เลียปลายลิ้นร้อนพรมจูบไปเรื่อยที่ลำคอขาว สัมผัสแผ่วเบาราวขนนกลงมาที่เนินเนื้อหยุ่นนุ่ม ใช้ความอบอุ่นจากอ้อมแขนตึงแน่นช่วยโอบล้อมผสานการปลอบประโลมให้นางอย่างอ่อนโยน

สัมผัสละมุนละไมที่บังเกิดจากชายเหนือร่าง ทำซานซานค่อยๆ ผ่อนคลายได้ไม่ยาก จากนั้นก็แปรเปลี่ยนความตื่นเต้นเป็นตื้นตันใจ รับรู้ได้ถึงกระแสอารมณ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งทำนางร้อนรุ่มยากจะทานทน วาบหวิวเสียวซ่าน เลือดลมพลุ่งพล่านสูบฉีดทั่วร่าง

ความรู้สึกแปลกประหลาดยากระงับทำรอยยิ้มงามปรากฏบนใบหน้า เผยความอ่อนหวานออกมามากล้น ดวงตาที่เดิมทีซุกซนพลันทอประกายหวามไหว นางบอกอย่างจริงใจคล้ายคนละเมอ

“คืนแรกเป็นเช่นไร ข้าจำไม่ได้เลย”

จ้าวเหว่ยหัวเราะในลำคอ “ย่อมดี...”

หญิงสาวยิ้มกริ่มพริ้มตาเอื้อมวงแขนโอบลำคอแกร่ง

แววตาชายหนุ่มทอประกายอ่อนโยนก่อนจะร้อนแรงขึ้นตามลำดับเมื่อขยับกายขับเคลื่อนตามอารมณ์ที่ก่อเกิด โน้มตัวลงมอบความรัญจวนให้แก่นาง

ราตรียืดยาว วสันต์แสนสั้น ไม่นาน...หยาดน้ำค้างก็พร่างพรม แสงอรุณเริ่มมาเยือน

ซานซานยังคงซุกตัวอยู่ในแผงอกอุ่น กำซาบซ่านทรวง ไม่เสื่อมคลาย เมื่อคืนถูกประทับตราเสียหลายหน จดจำได้ขึ้นใจ  ความรู้สึกหวามไหวยามร่วมหอกับสามีอย่างลึกล้ำนำพาความลึกซึ้งในห้วงคำนึงตรึงอารมณ์เพียงใด บัดนี้นางรู้แล้ว

ในเมื่อสามีอุตส่าห์สละหยดเหงื่อหยาดน้ำเพื่อสอนสั่งอย่างเหน็ดเหนื่อย นางย่อมตอบแทน

หญิงสาวผงกหัวขึ้นจากหน้าอกชายหนุ่มคล้ายลูกนกเตรียมออกหากินแล้วเอื้อมมือควานหาเสื้อผ้า ทำท่าจะลุกขึ้น

จ้าวเหว่ยที่ยังหลับตาอยู่พลันดึงแขนนาง ถามเสียงต่ำ

“จะวุ่นวายอะไรอีกไม่ทราบ”

“หือ...”

“นอน!”

ช่างเฉียบขาดเผด็จการ ซานซานจึงล้มตัวลงซบอกต่อ

จ้าวเหว่ยกระชับวงแขนแน่นขึ้น ตรึงนางไว้นิ่ง การกระทำเช่นนี้ หากไม่เรียกว่าหวงแหนก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร

หญิงสาวถึงกับอมยิ้มชอบใจ ครู่หนึ่งจึงเอ่ยเสียงหวาน

“เหย่หนิว”

“หืม...”

“ท่านชอบให้สตรีประจบเอาใจหรือไม่?”

จ้าวเหว่ยลืมตาเลิกคิ้วมอง ไม่ตอบอะไร

ซานซานถามอีก “ท่านชอบสตรีอ่อนหวานหรือไม่? ชอบให้สตรีมารยาเข้าใส่เพื่อความสุขของท่านหรือเปล่า?”

ครานี้จ้าวเหว่ยขมวดคิ้ว “เจ้าถามทำไม?”

หญิงสาวคลี่ยิ้มซุกซน “ข้าก็แค่อยากประจบเอาใจท่าน ทำตัวอ่อนหวานเป็นสตรีจอมมารยาเพื่อท่านบ้างประไร?”

ภายใต้หนวดเครา มุมปากบุรุษยกยิ้มบางเบา ถึงแม้จะมองไม่เห็น ทว่ากลับส่งถึงดวงตา พาใบหน้าเย็นชาที่ไร้อารมณ์ตลอดเวลาจนแข็งกระด้างปานหินผาทอประกายอ่อนโยนขึ้นมาก เขาลูบผมเรียบลื่นของนางอย่างถนอม เอ่ยเสียงแหบต่ำ

“หากเจ้าทำได้ข้าย่อมชอบแต่ยามนี้ยังไม่จำเป็น”

ซานซานกะพริบตาปริบๆ มองอย่างไม่เข้าใจ ได้ยินเสียงเขาเอ่ยเรียบเรื่อยว่า “อันที่จริง หลายวันมานี้ เจ้าทำแล้วทั้งหมด”

“หืม” หญิงสาวขมวดคิ้ว “ข้าทำมารยาใส่ท่านเมื่อใด?”

ชายหนุ่มหรี่ตาเรียวยาวมองนิ่ง พลางม้วนผมนางเล่น 

“เจ้าคงไม่รู้ตัวหรอกกระมัง”

“ท่านล้อเล่นแล้ว ข้ายังไม่ทันทำอะไรเลยนะ”

“เจ้าทำ”

“ข้ายัง...”

“แน่นอนว่ามารยาของเจ้าไม่เหมือนสตรีใดในใต้หล้า  ช่างเถอะ! หากเจ้ายังมีเรี่ยวแรงอยู่มาก เช่นนั้นเรามาทำต่อ...”  จบคำร่างใหญ่พลันพลิกกายคร่อมร่างเล็ก

“หื้อ!” 

ซานซานได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของสามี จากนั้นไม่นานก็ได้ยินแค่เสียงครางของตนเอง...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อารัมภบท

    ดินแดนใต้หล้าแบ่งแยกหลากแคว้นหลายชนเผ่า ปกครองด้วยผู้นำของแต่ละพื้นที่ตามแบบวิถีของตนเองแผ่นดินใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่ามักปกครองโดยบุคคลอันถูกเรียกขานว่าฮ่องเต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นโอรสสวรรค์ ส่วนแผ่นดินผืนเล็กผืนน้อยมักจะปกครองกันเองด้วยหัวหน้าเผ่าหรืออ๋องศักดินา แต่ยังคงขึ้นตรงกับฮ่องเต้ของแผ่นดินใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่าทว่านอกเหนือจากอำนาจราชศักดิ์และระบบการปกครองต่างๆ เหล่านั้น ยังมีชาวยุทธ์ยอดฝีมือแฝงตัวไปทั่วหล้า ก่อตั้งสำนักต่างๆ ทำงานให้ชนชั้นสูงอยู่เงียบๆ รับเงินเป็นกอบเป็นกำเพื่อดำรงชีพ หนึ่งในนั้นคือ สำนักเซียนหย่งสือ เป็นสำนักที่มีนักฆ่าเดนตายมากมาย ทำงานลึกลับฝังตัวซ่อนเร้นให้องค์กรใต้ดินมาช้านานเจ้าสำนักแห่งนี้คือประมุขหญิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งใต้หล้านามว่าซานซานหญิงสาวผู้นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนางมารร้าย บาดแผลตามร่างกายล้วนบ่งบอกได้ดีว่าผ่านการนองเลือดมามากมายปานใด กระทั่งใบหน้ายังไม่เหลือส่วนใดให้เรียกว่าอิสตรีดวงตาของนางมืดดำมีเส้นเลือดแดงก่ำราวปีศาจมีแผลเป็นบวมเป่งดุจตะขาบพาดผ่านตั้งแต่หน้าผากลากยาวลงมาถึงปลายคาง ริมฝีปากแหว่งเว้า จมูกบิดเบี้ยวเสียรูปทรงซานซานมีฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หานชิงหลินผู้อ่อนแอ 1

    แคว้นต้าถังนับได้ว่ามีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นอันดับต้นๆ ของทุกดินแดนในใต้หล้ามีเมืองเล็กเมืองน้อยกระจายไปทั่ว ทั้งอาณาเขตห่างไกลระหว่างชายแดนกับเมืองหลวง ทั้งที่มีภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนภูเขารายล้อมรอบด้านแห่งหนึ่ง ด้านในมีหมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญ ซึ่งถูกเรียกขานว่า ผิงเหยียนผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้มีฐานะหลากหลาย ตั้งแต่คหบดีจนถึงยาจกเร่ร่อนบุรุษกับกิเลสตัณหาเป็นของคู่กัน อยู่ที่ว่าจักสามารถเติมเต็มให้ตนเองได้หรือไม่แม้เป็นเพียงพ่อค้ามิใช่ขุนนางใหญ่โตอันใด แต่หากพอมีเงินมากสักหน่อย ประเมินตนเองแล้วคิดว่าดูแลได้ไม่ขัดสน ก็มักจะรับสตรีหลังเรือนเพิ่มความสำราญยามค่ำคืน ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนในหมู่บ้านผิงเหยียนที่ห่างไกลความเจริญแห่งนี้ทางทิศใต้ของหมู่บ้านมีบ้านเรือนหลายหลังตั้งเรียงราย ละแวกนั้นมีบ้านของสกุลหนึ่งอาศัยอยู่ ผู้นำครอบครัวเป็นพ่อค้า มีภรรยาสองคน มีลูกสามคนชิงหลิน เป็นบุตรสาวคนโตของบ้าน มีใบหน้าอ่อนหวาน นิสัยอ่อนโยน แม้มิอาจเทียบเคียงกับคุณหนูสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่ระดับหมู่บ้านชาวผิงเหยียนแห่งนี้ก็นับเป็นหญิงสะคราญโฉมผู้หนึ่ง ทว่าน่าเสียดาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หานชิงหลินผู้อ่อนแอ 2

    หญิงสาวรีบจัดเสื้อผ้าของตนด้วยมืออันสั่นเทา ท่าทางตื่นกลัว ลอบมองหน้าของชายคนรัก ในใจคิดเพียงว่า นางชอบใบหน้าหล่อเหลาของคู่หมั้นเป็นอย่างมาก ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งชอบ เพียงแต่นางยังไม่พร้อม ความมั่นใจใดๆ ก็ไม่มี หน้าอกหรือก็ยังไม่ใหญ่เท่าใด กลิ่นกายก็ไม่แน่ว่าจะหมดความหอมไปนานแล้ว มันน่าอายเกินไปจริงๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกขลาดเขลาไม่น้อยเดิมทีชิงหลินมักจะนัดพบกับจางฉวนในศาลากลางสวนที่ไร้ซึ่งกำแพงปิดกั้นสายตาทั้งยังเปิดเผยรอบทิศ มิอาจทำการล่วงล้ำเกินเลยอันใดต่อกันแม้แต่น้อยทว่าวันนี้ยามเดินทอดน่องกลับคุยกันเพลิดเพลินมากนัก รู้ตัวอีกทีก็เข้ามานั่งในห้องรับรองของเรือนตัวเองถัดจากห้องนี้ไม่ไกลก็คือห้องนอน หากนางไม่อาจยับยั้งเกรงว่าคงทำผิดประเพณีอย่างมหันต์แล้วหญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งอย่างตระหนก ตบอกตนเองเบาๆ ให้หัวใจเต้นช้าลง สีหน้าเอียงอายมากล้น พวงแก้มทั้งสองแดงก่ำ ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ช้อนสายตาขึ้นมองคู่หมั้นอย่างเชื่องช้า เก็บกดความรู้สึกเสียดายเอาไว้ให้ลึกสุดใจทว่ากลับเห็นเขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วคล้ายโกรธกรุ่น พริบตานั้นจางฉวนก็หันมาก้มหน้ามองด้วยสายตาที่ดูไม่ออกว่ากำลังคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หานชิงหลินผู้อ่อนแอ 3

    พวกเขาเข้าเรือนไปสองต่อสอง มือที่จับกันยังไม่ยอมปล่อยเลยแม้ช่วงเวลาเดียวเนื่องจากชิงหลินทิ้งระยะห่างอยู่หลายก้าว กว่าจะตามมาทันจนถึงตัวเรือนจึงใช้เวลาพอควรหญิงสาวพยายามมองเข้าไปด้านในผ่านช่องเล็กๆ ของประตู ทำท่าจะยกมือขึ้นเคาะเพื่อร้องเรียกคนด้านใน แต่ยังไม่ทันที่มือจะแตะต้องบานประตู หูของนางพลันได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาก่อน“อื้อ...ท่านพี่ฉวน อ๊ะ...”เสียงแว่วหวานนั้นเป็นของชิงลี่ ฟังดูแล้วให้รู้สึกวาบหวิวหวามไหวในอกยิ่งนัก ทำเอามือเล็กๆ ของชิงหลินต้องนิ่งค้างอยู่กลางอากาศ ไม่อาจเคาะหรือร้องเรียกผู้ใด“อา...ลี่เอ๋อร์”อีกเสียงที่ดังผสานคือจางฉวน ทั้งแหบต่ำทั้งสั่นพร่า“อื้ม...พี่ฉวน ข้าเจ็บเจ้าค่ะ” เสียงของชิงลี่เริ่มสะอื้นไห้จางฉวนยิ่งส่งเสียงทุ้มนุ่มสั่นกระเส่า “ข้าจะทำเบาๆ”“อื้ม...”“เจ้าช่างงดงามนัก ไร้ที่ติยิ่ง”“แต่ข้ายังไม่เติบโตเต็มที่เลยนะ อ๊ะ!”“ข้าจะทำให้เจ้าโตเองกับมือ”เสียงเสียดสีแว่วดังเป็นระลอก ผสานเสียงครางก่อนที่ฝ่ายสตรีจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“อืม...ของลี่เอ๋อร์โตกว่าของพี่หญิงหลินหรือไม่”“ตอนนี้ยัง ...แต่ต่อไปไม่แน่”สิ้นคำนี้ เสียงเอี๊ยดอ๊าดพลันหยุดช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่2 หานชิงหลินผู้โง่เขลา 1

    ม่านราตรีผ่านพ้นร่างของชิงหลินลอยมากับกระแสน้ำที่พัดพา รู้สึกได้ว่าลอยมาไกลแสนไกล สุดท้ายถูกค้นพบโดยชาวบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังดำน้ำจับปลาอยู่ในลำธารเพื่อทำอาหารประทังชีวิต ทันทีที่รู้สึกตัว ชิงหลินกำลังนอนนิ่งอยู่ริมลำธาร เมื่อปรับสายตาพร่ามัวจนเข้าที่ก็ได้เห็นชายผู้หนึ่งนั่งเอนหลังพิงต้นไม้ ท่าทีเกียจคร้าน ท่าทางน่ากลัว จึงผวาตกใจ แข็งทื่อไปทั้งร่าง เขามีรูปร่างใหญ่โตประหนึ่งวัวตัวผู้ แลดูน่ากลัว ใบหน้าดำคล้ำมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดวาดผ่านเต็มไปหมด หนวดเคราเขียวครึ้มน่าครั่นคร้ามเป็นอย่างมาก สายตาที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง คล้ายอำมหิตคิดฆ่าคนเช่นผักปลาถึงแม้ชิงหลินจะพอจำได้เลือนรางยามสติล่องลอย ว่าเขาคือผู้ช่วยนางจากม่านน้ำ ทว่าด้วยรูปลักษณ์อันน่าเกลียดของเขาต่อให้อยากขอบคุณแต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากสักคำซ้ำยังคิดได้แต่แง่ร้าย...เขาไม่น่าเข้าใกล้สักนิด ไม่น่าเสวนาด้วยเลยชิงหลินนอนนิ่งไม่กล้าขยับแม้แต่ปลายนิ้ว ท่าทีเต็มไปด้วยความตระหนก หวาดกลัวเป็นที่สุด ร่างบอบบางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง หากแต่กลับสั่นเทามากนักเพราะตื่นกลัวอย่างยิ่งเน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่2 หานชิงหลินผู้โง่เขลา 2

    หญิงสาวกำลังสับสน คิดการณ์ไม่ทันผู้ใดทั้งนั้น นางมักเป็นสตรีเช่นนี้ อึกอักอ้ำอึ้งไม่มีความมั่นใจ ทำผู้คนรอบข้างนึกรำคาญไม่น้อยชั่วขณะนั้นเสียงของจางฉวนก็ตวาดก้อง ไม่ปล่อยโอกาสให้ชิงหลินได้เอ่ยอันใด“อะไรกัน!? หลินเอ๋อร์!”ชิงหลินพลันผวาเฮือกเนื้อตัวสั่นเทาราวกับลูกนกต้องฝนนางมิใช่สตรีฉะฉานเหมือนใครเขา จึงทำได้แค่เม้มปากแน่น ก้มหน้ามิกล้าเงยจางฉวนโกรธเกรี้ยวบันดาลโทสะออกมา“เจ้าทำตัวเหลวไหลถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน เสียท่าให้กับชายอัปลักษณ์ที่พิการหลังค่อมเช่นนั้น นับว่าตัวข้าที่เป็นชายปกติได้รับความอัปยศอดสูอย่างที่สุด ข้าจะถอนหมั้นเดี๋ยวนี้”เมื่อได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย หานอี้ซวนและเจียหรูพลันแตกตื่นเบิกตาโพลงเรื่องนี้นับเป็นเรื่องใหญ่ หมายถึงชื่อเสียงของตระกูลย่อมเสื่อมเสีย แค่ธิดาเสียบริสุทธิ์ให้ชายหยาบช้าก็ย่ำแย่มากแล้ว คู่หมั้นยังถอนสัญญาผูกสกุลยิ่งย่ำแย่ยิ่งกว่าใบหน้าของหานอี้ซวนดำคล้ำ ถลึงตามองชิงหลินอย่างคาดโทษ เจี๋ยหรู๋ยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ กลัวแต่ว่าสามีจะพาลโกรธนางไปด้วยจึงไม่กล้าเอ่ยคำใดทั้งนั้น นางส่งสายตามองชิงหลินอย่างผิดหวังที่มีบุตรสาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หานชิงหลินสิ้นชีพ 1

    คืนวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว งานแต่งที่ถูกจัดอย่างเร่งรีบก็ใกล้ถึงเวลาเต็มทีจางฉวนโกรธชิงหลินย่อมสมควรแล้ว เพราะนางอยู่กับกงหนิวผู้นั้นทั้งคืนจริงๆ แต่จางฉวนก็ยังยอมแต่งงานเพื่อปกป้องชื่อเสียงของนางชิงหลินจึงคิดว่าเรื่องของเขากับน้องสาว นางพร้อมให้อภัยอีกฝ่ายเช่นกัน ทั้งยังคิดเอาไว้ว่าจะยินยอมให้เขาแต่งชิงลี่เป็นอนุอีกด้วย เพื่อความสุขของสามี นางต้องทนทุกข์ก็ไม่เป็นไรแค่เขาพึงพอใจไม่รังเกียจนาง...ชิงหลินคิดอย่างใจกว้าง เป็นสตรีจิตใจงดงาม มองทุกสิ่งในแง่ดี ไม่มีความคิดเป็นอื่นกับบิดามารดาและน้องสาวตลอดจนชายคนรักพิธีแต่งงานเกิดขึ้นไม่กี่วันถัดมา ชิงหลินในชุดเจ้าสาวคลุมหน้าด้วยผ้ามงคลปกปิดใบหน้าสีชาดอมยิ้มอย่างมีความสุขขบวนงานแต่งไม่ใหญ่มากนัก ผู้คนที่มาร่วมคือชาวบ้านที่พร้อมใจกันมาเป็นพยานชิงหลินมองเห็นรอบทิศไม่ชัดเจน เพราะมีผ้าคลุมหน้าบดบังสายตาตลอดเวลา อีกทั้งหลังจากจิบชาหอมไปหลายถ้วยเพื่อลดอาการตื่นเต้นก็รู้สึกมึนงงไม่น้อยพิธีการดำเนินไป เสียงเซ็งแซ่แสดงความยินดีดังระงมอยู่รอบกายไม่ขาดสาย ชิงหลินรู้สึกสองหูอื้ออึง สมองขาวโพลน รับรู้สิ่งใดไม่ชัดเจนสักเท่าใดกระทั่งถูกมารดาและน้องส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หานชิงหลินสิ้นชีพ 2

    ยามสายวันต่อมาบนเตียงนอนสีแดงที่คลุมทับด้วยผ้าสีขาว มีร่างอรชรเปล่าเปลือยนอนอย่างเดียวดาย ไร้ร่างสามีเคียงข้าง ทั่วเรือนกายนางเต็มไปด้วยริ้วสีแดงเป็นจ้ำและรอยฟันขบกัดชิงหลินตื่นขึ้นมานานแล้วแต่ก็ยังร่ำไห้ไม่หยุด เรือนร่างสั่นสะท้านอย่างสิ้นหวัง สีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในกายถูกน้ำวนในทะเลสาบน้ำแข็งดูดกลืนภาพของชายที่ครอบครองนางอย่างทารุณยังคงติดตา ความเดียดฉันท์ชิงชังยังคงติดตรึงฝังแน่นในจิตใจแทนที่จะได้เข้าหอกับบุรุษหล่อเหลาซึ่งเขาคือคนที่ชอบ แต่กลับต้องเข้าหอกับบุรุษน่าเกลียดปานนั้นนางรังเกียจกงหนิวยิ่งนักขยะแขยงสิ้นดีท้ายที่สุดสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกของตนเองย่ำแย่ยิ่งกว่าคือความจริงที่ครอบครัวและชายคนรักกระทำก่อนหน้านี้ทั้งบิดามารดารวมถึงน้องสาวล้วนบอกกล่าวแก่นางว่าให้รอเป็นเจ้าสาวของพี่จางฉวน เขามิได้คิดจะถอนหมั้นแต่อย่างใด ให้นางรออยู่ในเรือนอย่าออกไปไหนเดิมทีนางลองถามถึงความสัมพันธ์อันซ่อนร้อนของคู่หมั้นกับน้องสาวแล้ว ทว่าชิงลี่กลับตอบกลับว่า‘พี่สาวคงตาฝาดไปเองแล้วเจ้าค่ะ’แน่นอนว่านางไม่อาจเชื่อ ทว่าชิงลี่กลับร้องห่มร้องไห้จนเรื่องราวบานปลาย เรียกร้องสายตาตำหนิจากทุกคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02

บทล่าสุด

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เข้าหออีกครา 3

    เพราะว่าวันนี้ทั้งวันยังมิได้ออกแรงทำอะไรเลย ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ไม่ง่วงนอน และที่สำคัญครั้งก่อนคนที่เข้าหอกับสามี มิใช่นางที่เป็นซานซาน แต่เป็นชิงหลินก่อนตายต่างหาก“คิดอะไรอยู่?”เสียงแหบพร่านั้นคล้ายกับดังมาจากสวรรค์ ฟังแล้วให้รู้สึกทุ้มนุ่มน่าฟังอย่างประหลาดซานซานจึงตอบกลับอย่างเผลอไผล“ข้ากำลังคิดว่าอยากเข้าหอกับท่านอีกครั้งจะได้ไหม?”สิ้นคำถาม พลันได้ยินคล้ายเสียงหัวเราะในลำคอ“ที่แท้เจ้าก็คิดเช่นนี้”ซานซานพยักหน้าถี่ๆ ดั่งนกกระสา ฉับพลันก็รู้สึกว่าเอวถูกรัดแน่น เห็นดวงตาของสามีชัดเจนนักแม้ว่าใบหน้าเขาจักอัปลักษณ์ ทว่าดวงตากลับเรียวคมทรงพลัง แฝงไปด้วยเสน่ห์มนต์มารอันร้อนแรงที่แสนจะเย้ายวน ยามมองสบสายตายิ่งชวนประหวั่นพรั่นพรึงและหลงใหลได้ในเวลาเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว กลีบปากนางพลันถูกแตะแต้มแผ่วเบา คล้ายภมรหยอกเย้ากลีบบุปผาอ่อนนุ่ม ซานซานเผลอไผลกระทั่งถูกเรียวปากเขาขบเม้มเนิ่นนานก็ยังไม่รู้ตัวสายลมราตรีพัดผ่าน ฝากความเย็นเยียบเอาไว้รอบทิศ ทว่ากายสาวกลับรู้สึกร้อนผะผ่าวยากระงับริมฝีปากที่ขยับแนบชิดยิ่งนานยิ่งดุดันและร้อนกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจรินรดยิ่งร้อนระอุไม่ต่างจากห

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เข้าหออีกครา 2

    หลังจากกินข้าวจนอิ่มหนำ ซานซานที่นอนมาทั้งวันก็ตื่นตัวเต็มที่ ยิ่งดึกยิ่งสว่างกระจ่างตา ทำตัวราวกับค้างคาวออกหากินกลางคืนซานซานพาจ้าวเหว่ยมานั่งนับดาวอยู่ริมธาร บรรยากาศนับว่าดีไม่น้อย เหมาะสำหรับคู่สามีภรรยาให้พากันดื่มด่ำค่ำคืนแสนหวาน ร่วมชื่นชมจันทรางดงามภายใต้ท้องฟ้ายามราตรีกาล มีเพียงแสงดาวพร่างพราว ดวงจันทร์กระจ่างกลางนภากว้าง สีเงินยวงสาดแสงลงมากระทบเรือนร่างบุรุษและสตรีที่นั่งเคียงข้างกัน เกิดเป็นเงาสองสายทอดยาวไปตามพื้นหญ้าพวกเขาต่างก็มีความลับซ่อนเร้น หากแต่การแสดงออกซึ่งหน้ากลับไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริง ทั้งกิริยาวาจาล้วนเปิดเผยและจริงใจ นับเป็นสัมพันธ์ที่ดีที่สุดอีกรูปแบบหนึ่งซานซานนั่งมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย บนนั้นมีจันทร์เสี้ยวคล้ายดาบโค้ง หนึ่งในศาสตราวุธที่ทรงพลานุภาพของนางในชาติที่แล้ว“เหย่หนิวรู้จักดาบแสงจันทร์หรือไม่?” หญิงสาวพึมพำ“ดาบแสงจันทร์หรือ?”“อืม...ยังมีดาบวงเดือน แส้หนังโลหิต กระบี่สุริยา กำไลเข็มพิษ วงแหวนพิฆาต ง้าวเหล็กจันทร์เสี้ยว กระบี่สายรัดเอว”อันที่จริงยังมีอีกมาก ชาติก่อนซานซานสามารถเปลี่ยนสิ่งของรอบกายให้กลายเป็นอาวุธร้ายได้ไม่ยากเย

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   เข้าหออีกครา 1

    เช้าวันต่อมาซานซานแต่งกายด้วยชุดสีชมพูอ่อนหวาน เตรียมตัวออกนอกบ้านเพื่อไปตลาด เป้าหมายคือติดต่อช่างไม้ ให้ประกอบเครื่องเรือนตามต้องการ เงินที่ได้มาเมื่อวานยังเหลือไว้ซื้อเครื่องเงินบางอย่าง ที่มิใช่เครื่องประดับ แต่กลับนำมาทำเป็นอาวุธลับที่ทรงพลังยามครุ่นคิด ดวงตาหญิงสาวทอประกายชั่วร้ายแวบหนึ่งชั่วจังหวะนั้น พลันถูกนิ้วดีดหน้าผาก “อ่ะ!”“คิดจะทำอะไรอีก?” จ้าวเหว่ยถามเสียงเรียบ ลดมือตนที่เคาะหน้าผากมนของซานซานเมื่อครู่ลงมาบีบแก้มอีกหนึ่งที“อ๊ะ!” เจ้าของแก้มอุทานเล็กน้อย เอ่ยตอบอู้อี้ “ข้าจะไปสั่งทำเตียงอรหันต์ กับฉากไม้กั้นลม แล้วก็เดินซื้อของหลายอย่าง”ชายหนุ่มเลิกคิ้วหรี่ตามอง “เจ้าควรเว้นระยะสักหลายวัน ให้เรื่องหมอหญิงปริศนาซาลงก่อน แล้วค่อยไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย น่าจะปลอดภัยมากกว่า”เขาปล่อยนิ้วจากแก้มนวลแล้วสั่งเสียงเย็น“ระหว่างนี้ควรละลายยาแก้พิษทั้งหมดใส่ต้นน้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดเกิดโดนพิษขึ้นมาอีก เข้าใจหรือไม่?”ซานซานได้ฟังถึงกับเบิกตาส่งยิ้มแห้ง “อ้อ...ข้าลืมไป”จ้าวเหว่ยทำเสียงดุ “นึกได้แล้วก็ไปจัดการเสียเดี๋ยวนี้”“รู้แล้ว...”ชายหนุ่มยังสั่ง “เสร็จแล้วก็มากิน

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สตรีตรงหน้ากับที่เขาร่ำลือ 3

    ยามสายของวันต่อมา เริ่มมีชาวบ้านเจ็บป่วยเฉียบพลัน อีกหนึ่งวันต่อมาพบว่าหลายคนเริ่มมีอาการเดียวกันจนน่าตกใจ สามวันให้หลังชาวบ้านเหล่านั้นก็พากันไปหาหมอประจำหมู่บ้านอย่างคับคั่งหนาตา ท่านหมอสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดโรคระบาดชนิดเฉียบพลัน ทว่าไม่อาจระบุได้ว่าเป็นโรคใด เพราะไม่เคยพบเห็นมาก่อน ล่วงเข้าวันที่สี่ ไม่ว่าท่านหมอจะจัดยาเทียบใดให้คนป่วย ก็ล้วนไร้ผล พวกเขาไม่ดีขึ้นเลย เป็นเช่นนั้นกระทั่งล่วงเข้าวันที่เจ็ด พลันปรากฏว่ามีสตรีผู้หนึ่งปรากฏกาย นางสวมชุดสีขาวราวเทพเซียน สวมหมวกไผ่สานที่มีผ้าโปร่งคลุมทั้งศีรษะ ใบหน้าคาดผ้าขาวปกปิดเอาไว้มิดชิด เผยเพียงดวงตาดำสนิทที่แสนจะเย็นชา มองไม่ออกว่างดงามปานใด ท่วงท่ายามก้าวเดินพลิ้วไหวราวกับเทพธิดาจำแลง นางเดินทางมาจากทิศใดมิอาจทราบ ทว่ากลับเสนอตัวว่าสามารถรักษาโรคประหลาดนี้ได้ แรกเริ่มชาวบ้านผิงเหยียนไม่มีใครเชื่อ แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ จึงมีผู้หนึ่งทนไม่ไหว เอ่ยปากว่าหากไม่หายก็ขอตายดีกว่า ถ้ารักษาได้ เขาพร้อมมอบเงินให้อย่างงาม คนผู้นั้นเสนอตัวออกมารับเม็ดยาจากสตรีปริศนา กลืนกินเข้าไปเพียงเม็ดเดียว แค่ครึ่งก้านธูปก็หา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สตรีตรงหน้ากับที่เขาร่ำลือ 2

    ยิ่งดึกลมราตรียิ่งพัดพลิ้ว ให้รู้สึกถึงความเย็นฉ่ำเนื่องจากวุ่นวายทั้งวัน ตกเย็นยังกินเนื้อเสียจนแน่นท้อง พอพลบค่ำมาหนังตาจึงหนักอึ้ง ซานซานยามนี้จึงหลับใหลประดุจตายไปแล้วบนเตียงเย็นเยียบที่มีผ้าห่มเพียงหนึ่งผืน กำลังมีสตรีนอนพริ้มตาคล้ายสิ้นสติ โดยมีบุรุษนอนขมวดคิ้วจ้องมอง“เจ้าตัวยุ่ง!”จ้าวเหว่ยบ่นออกมาคำหนึ่ง ก่อนเอื้อมมือดึงผ้าห่มขึ้นมาปรกเนินอกของซานซาน ปล่อยนางได้หนุนท่อนแขน ซุกซบอกอุ่นของเขาไปเช่นนั้นบนเตียงไม่เล็กไม่ใหญ่จึงมีภรรยากำลังนอนกอดก่ายสามีแล้วหลับฝันดีที่สุดในใต้หล้า หญิงสาวไม่รู้หรอกว่า แววตาที่มองนาง กำลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มชายผู้หนึ่งซึ่งสูงส่งตั้งแต่เกิด เป็นโอรสแห่งองค์จักรพรรดิ ไม่เพียงมีทรัพย์สมบัติ แต่ยังมีรูปโฉมที่ล้ำเลิศงดงามเป็นเอก แต่ไหนแต่ไรมา มีสตรีนับไม่ถ้วนอยากชิดใกล้ อยากสนิทสนม อยากแม้กระทั่งถูกครอบครองทว่าเมื่อต้องปลอมตัวซ่อนกาย แปลงโฉมเป็นชายอัปลักษณ์ อย่าว่าแต่ตีสนิทเพื่อแนบชิดเลย แม้แต่หางตาพวกนางยังไม่เหลียวมอง สำหรับคู่ชีวิตที่สามารถยืนหยัดประคับประคองกันไปตลอดรอดฝั่งกระทั่งแก่เฒ่า พวกเขาล้วนต้องยอมรับกันและกันได้หมดทุกสิ่ง ไม่ว่าด้านดีห

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   สตรีตรงหน้ากับที่เขาร่ำลือ 1

    ซานซานกลับเข้าบ้านมาพร้อมม้วนกระดาษหมึกพู่กันครบครันก็ลงมือวาดภาพร่ายอักษรทันทีภายในห้องหับอันคับแคบของเรือนไม้ไผ่ที่ทรุดโทรม มีสตรีร่างอรชรอ้อนแอ้นปล่อยผมดำขลับแผ่สยายเคลียไหล่ กำลังนั่งเขียนอักษรด้วยท่าทางขึงขัง เรียวนิ้วจับพู่กันอย่างมั่นคง ท่วงท่าทรงพลัง ทว่ายามสะบัดพู่กันกลับพลิ้วสบายคล้ายริ้วคลื่นของสายน้ำที่รินไหล ดวงตาที่หลุบลงเห็นเพียงแพขนตางามงอนบนดวงหน้าอ่อนหวาน แต่กระนั้นกลับเผยให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวเฉียบคมเด่นชัด กลีบปากสีแดงเรื่อที่เม้มแน่นบ่งบอกได้ว่านางจริงจังปานใดมุมห้องห่างออกมาเล็กน้อยมีบุรุษร่างใหญ่ยืนมองนางอย่างเย็นชา สายตาคล้ายจับผิดตลอดเวลา ใบหน้าไร้อารมณ์จ้าวเหว่ยกอดอกมองซานซานอย่างเยือกเย็น สังเกตเห็นอีกฝ่ายตั้งใจเขียนอักษรประหนึ่งจะไปสอบจอหงวน จึงอดใจมิได้ สุดท้ายก็ถามเสียงต่ำ“เจ้าเป็นใครกันแน่?”“หืม...”ชายหนุ่มแผ่กลิ่นอายกดดัน แววตาทอประกายคมกริบ เอ่ยถามอีกครา“เห็นได้ชัดว่าเจ้ามิใช่ชิงหลิน” เขาหรี่ตา “ใครส่งเจ้ามา?”“หา”“ที่แท้มีเจตนาอะไร?”“...”ซานซานได้ยินก็ชะงักนิ่ง กะพริบตาปริบๆ อึ้งงันครู่ใหญ่จ้าวเหว่ยจับสังเกตนางทุกกิริยาเนิ่นนานทีเดียวกว่

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อดีตคู่หมั้น 2

    ชั่วจังหวะที่จางฉวนกำลังตกอยู่ในภวังค์อันเนิ่นนาน เสียงของชิงลี่ก็ดังแทรก“ข้าเข้าใจแล้ว พี่หลินกำลังปรับปรุงตัวเองอยู่ใช่หรือไม่ เพราะได้แต่งงานกับสามียาจกอัปลักษณ์ พี่จึงต้องพัฒนาตนเองเพื่อสามี ผู้อื่นจะได้ไม่ดูถูกไปมากกว่านี้ ช่างดียิ่ง พี่หลิน ข้ารู้สึกภูมิใจในตัวพี่มากเลย พี่คงรักกงหนิวมากสินะ”กล่าวจบยังยกยิ้มน่ารัก ตอกย้ำเด่นชัดว่าชิงหลินตกต่ำ มีสามีต่ำตม ต้องเร่งพัฒนาตนเองให้ผุดขึ้นจากดินโคลนซานซานตอบรับเสียงเย็น “เรื่องของข้ากับสามีไม่ต้องให้ใครมาบอก ข้าย่อมรักและถนอมเขายิ่งกว่าผู้ใดอยู่แล้ว”เรียวคิ้วคมจึงขมวดวูบ จางฉวนพลันรู้สึกไม่ชอบใจแต่ชิงลี่ได้ฟังยิ่งแช่มชื่น นางหันไปส่งยิ้มให้จางฉวนอย่างไร้เดียงสา เพื่อเป็นการดึงสติชายข้างกายกลับมา ก่อนหันไปมองชิงหลินอีกครั้ง ส่งเสียงสดใสอย่างต่อเนื่องอีกว่า“พี่หลินทำเช่นนี้นับว่าดีแล้วเจ้าค่ะ เดิมทีข้าเองก็เป็นห่วงพี่อยู่มาก ก่อนหน้านี้พี่ทำผิดกับพี่ฉวนเอาไว้ ต่อไปพี่ต้องทำดีกับกงหนิวให้มาก จะได้เป็นการชดเชย”กล่าวจบก็ส่งยิ้มสว่างไสว ดวงหน้าเรียวเล็กมีแต่ความจริงใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย แต่ความหมายล้วนชัดเจน ว่าชิงหลินทำผิดก

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อดีตคู่หมั้น 1

    ภายในตลาดกลางหมู่บ้านผิงเหยียนซานซานนำสัตว์ป่ามาขายกับเถ้าแก่ขายเนื้อรายหนึ่ง ได้เงินมาเล็กน้อยแค่พอซื้อกระดาษไม่กี่แผ่น กับหมึกและพู่กันเท่านั้น สร้างความไม่พอใจให้นางอย่างยิ่งหญิงสาวจึงเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดตลอดทาง ในใจยังคิดว่าควรหาวิธีชั่วๆ ทำเงินดีกว่า น่าจะได้มากกว่านี้ระหว่างทางกลับบ้านไม้ไผ่ริมธารซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนอื่นๆ สองข้างถนนยามนี้คือชายป่า มีดอกไม้ประดับประดากับต้นไม้ต้นหญ้าทั้งสองฝั่ง เบื้องหลังของซานซานพลันมีเสียงเรียกขาน“พี่ใหญ่”เสียงนั้นฟังดูสดใสร่าเริง นางคือชิงลี่ซานซานในร่างชิงหลินเพียงหันมองอย่างเฉยชานางเห็นน้องสาวผู้น่ารักของชิงหลินกำลังเดินเคียงข้างมากับบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง เขาเป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่น ผิวพรรณดั่งหยก สวมชุดสีขาวสะอาดราวกับบัณฑิตผู้ทรงภูมิ องคาพยพทั้งห้ารวมกันอย่างลงตัว ดวงตาดอกท้อสะกดใจสตรีเขาคืออดีตคู่หมั้นของชิงหลิน และปัจจุบันก็คือคู่หมั้นของน้องสาวจางฉวน...ทั้งสองแสดงออกชัดเจนเปิดเผยโดยไม่ปิดบังอีกต่อไปแล้วว่าสถานะของทั้งคู่คืออะไรในเมื่อพี่สาวเป็นฝ่ายออกเรือนไปก่อนกับชายอื่นเช่นนั้น อดีตคู่หมั้นกับน้องสาวจะ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   หาอะไรทำ 3

    ยามถูกเรียกขาน จ้าวเหว่ยมิได้เข้าเรือนในทันทีเขาพาร่างเปียกชื้นเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทางฝั่งหนึ่งซึ่งห่างจากห้องนอนเล็กน้อย ท่าทางของเขาเฉยชา ไม่สนใจภรรยาผู้เรียกหา ไม่นานก็พาร่างสูงใหญ่ในชุดที่แห้งสนิทแต่เก่าคร่ำเช่นเดิมเข้ามาในห้อง เห็นอีกฝ่ายมิได้มองเขาเลยแม้แต่น้อยเรียวคิ้วบุรุษพลันขมวดวูบ ใบหน้าบึ้งตึงโดยไม่รู้ตัวทางด้านซานซาน นางมิได้สนใจจ้าวเหว่ย แต่กำลังใช้ถ่านไม้สีดำนั่งเขียนอะไรบางอย่างลงบนแผ่นไม้หน้ากว้าง ขยุกขยิกไม่หยุด ท่าทางลำบากไม่เบาชายหนุ่มยิ่งขมวดคิ้วมุ่น หรี่ตาจ้องมองโดยที่ไม่รู้ตัว จ้าวเหว่ยกำลังคิดว่า เขาควรหากระดาษกับพู่กันมาติดบ้านหลังนี้สักหน่อยหมู่บ้านผิงเหยียนแห่งนี้หากเป็นชาวบ้านชั้นต่ำ ย่อมไม่รู้หนังสือ และเพื่อความแนบเนียน จ้าวเหว่ยจึงมิได้สรรหามาไว้ แม้แต่ม้วนไม้ไผ่ก็ยังไม่มีจึงนับว่าไม่แปลกหากจะหากระดาษหมึกพู่กันในบ้านหลังนี้ไม่ได้แต่ถ้าจะมีก็ถือว่าไม่แปลกอยู่ดีเพราะยามนี้กงหนิวผู้ทึ่มทื่อได้แต่งภรรยาที่รู้หนังสือแล้ว เพียงแต่ราคาของมันค่อนข้างแพงไปสักหน่อย สำหรับชายพิการที่ไม่มีงานทำ วันๆ เอาแต่หากินกับอาหารป่าเช่นนี้ จะเอาเงินที่ใดไปซื้อหาร่า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status