แชร์

18/1 สมรภูมิ

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 16:20:21

รัฐหลู่ไม่ใช่รัฐใหญ่เมื่อเทียบกับรัฐอื่นในแดนเหนือ

แต่สิ่งที่ทำให้รัฐหลู่โดดเด่นเป็นเพราะถูกปกครองโดยสกุลฉู่จนรุ่งเรือง หัวเมืองใหญ่ หรือเมืองเอกของรัฐเป็นของคนสกุลฉู่ ไม่ว่าจะเมืองโจวอี้ เมืองชง อีกทั้งคนสกุลฉู่ ยังได้รับศักดิ์ฐานะจากอดีตฮ่องเต้องค์ก่อน

แต่กว่าจะได้บรรดาศักดิ์ แต่เดิมคนสกุลฉู่เป็นสกุลแม่ทัพและสกุลนักปรุงยา ทว่าเมื่อประมาณเจ็ดสิบปีก่อน ทางเหนือเกิดการจลาจลครั้งใหญ่ ผู้นำทัพปราบกบฏในครั้งนั้นคือบรรพบุรุษสกุลฉู่ เขานำทัพบุกทะลวงจนสิ้นซาก สร้างความผาสุกให้กับแผ่นดินทางเหนือจากเหตุการณ์ความวุ่นวายได้อีกครั้ง หลังทางราชวงศ์ทราบเรื่องได้ปูนบำเหน็จให้กลายเป็นอ๋อง

นับเป็นการแรกของการเปลี่ยนเส้นทางสกุลจากแม่ทัพ สู่การเป็นชนชั้นปกครองในแดนเหนือ

ความรุ่งโรจน์ของสกุลฉู่ยังไม่จบลงแค่เพียงการก้าวขึ้นมาเป็นอ๋องในแดนเหนือ แต่ยังผงาดขึ้นมาเป็น ‘ต้าเป่ยอ๋อง’ ด้วยความดีความชอบซึ่งสั่งสมไม่จบสิ้น รวมทั้งคนสกุลฉู่แต่ละรุ่นยังมีความสำคัญในเหตุการณ์ใหญ่ๆ ความสามารถยิ่งเป็นประจักษ์ชัด

เมื่อนับกันในหมู่ท่านอ๋องด้วยกัน ต้าเป่ยอ๋อง นับเป็นศักดิ์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอ๋องแดนเหนือ ด้วยเหตุนี้อดีตฮ่องเต้จึงได้พระราชทานสมรสให้องค์หญิงเฝิงอัน องค์หญิงองค์สุดท้ายจากราชวงค์เฝิง ให้สมรสกับซื่อจื่อฉู่ฮั่น

มองเผินๆ นี่อาจจะเป็นความปรารถนาดีต่อองค์หญิง แต่คนในต่างรู้ดีว่านี่คือการกำจัดพระองค์ออกจากบัลลังก์ ไม่อยากให้องค์หญิงมายุ่งเกี่ยวกับบัลลังก์อีก

ทว่าผู้ใดเล่าจะรู้ว่า องค์หญิงเฝิงอัน สายเลือดราชวงค์องค์สุดท้ายจะให้กำเนิดทายาทที่น่ากริ่นเกรงอย่างฉู่ซีเย่ออกมา

เด็กคนนั้นในความทรงจำมีแววตาที่คมกล้ามาตั้งแต่แบเบาะ ยิ่งโตยิ่งฉายความเฉลียวฉลาด มองไปมองมา ในใจบังเกิดต้นหนามแหลม ทิ่มแทงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

....เพราะฉะนั้นฉู่ซีเย่จึงต้องตาย ไม่เช่นนั้นต้นหนามคงทิ่มแทงเขาจนตาย

“คนที่ส่งไป ไม่รู้ใช้การได้มากแค่ไหน”

เขาตอบด้วยรอยยิ้ม “ก็คงต้องรอดู”

ไม่ไหวแล้ว นางวิ่งต่อไปเช่นนี้ไม่ไหวแล้วจึงซ่อนตัว นางคลุกตัวอยู่ใต้กองฟาง ภาวนาให้พวกคนไล่ตามจากไปเสียที แต่ไม่เลยพวกเขาเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ แต่ฉับพลันนั้นเองจี๋เฉวียนพาคนเขามาตะลุมบอน ก่อนจะบอกให้นางรีบวิ่งหนีไป

เหยาอี้เหยาขอบคุณจี๋เฉวียน ปีนข้ามกำแพงหนีไป ระหว่างที่กำลังวิ่งออกมาจากตรอก รถลากก็ตามมาจอดตรงหน้า

“ขึ้นมา” กงจิ้งฉุดนางขึ้นรถลาก

“ทำไมยังอยู่ในเมืองอีก” นางนึกว่าทุกคนออกจากเมืองไปหมดแล้ว

“ไปไม่ได้ มีคนคอยดักฆ่า”

ไม่ใช่ฝีมือท่านอ๋องแน่ เขาให้นางเลือกว่าจะอยู่หรือจะไป นี่ต้องเป็นฝีมือคนอื่น “แม่ทัพซ่างล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง เอานี่ยา”

“ประเสริฐ!” ลู่หมิงรีบเอายาให้ซ่างเจวี๋ยกินทันที

กงจิ้งเอ่ย เขาเปลี่ยนมาขับรถลาก “ได้ยาแล้วรึ”

“แน่นอน” เหยาอี้เหยาขึ้นไปบนรถลาก ก่อนจะหยิบยาระงับพิษออกมาให้ซ่างเจวี๋ยกิน “เขากินแล้วประเดี๋ยวจะได้สติเอง”

สีหน้าลู่หมิงพลันโล่งขึ้น “อี้เหยา ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ”

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย” นางเลิกม่านขึ้นเพื่อพูดกับกงจิ้ง “เป็นข้าทำทุกคนลำบาก” เหยาอี้เหยาใจไม่ดี รู้สึกว่าสิ่งเลวร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้แล้ว

“นี่ไม่อาจโทษเจ้า”

เหยาอี้เหยาหน้าหงอย “ข้าอดคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่วุ่นวายตอนนี้เป็นเพราะข้าอยากแก้พิษ”

“คิดอะไรอย่างนั้น นี่ไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย ช้าเร็วยังไงก็ต้องเกิดขึ้น”

เหยาอี้เหยาถามลู่หมิง “หมายความว่าอย่างไร”

“เรื่องนี้พูดแล้วยาว สั้นๆ ก็คือ เพราะมีคนอยากฆ่าฉู่ซีเย่”

“จริงด้วย เมื่อครู่มีสตรีคนหนึ่งทำร้ายผู้อาวุโสฉู่ ข้าว่าเรื่องนี้มีนอกมีใน...” ยังไม่ได้พูดมากกว่านี้ รถลากก็ถูกโจมตี ลู่หมิงโฉบตัวออกไปแทงคนที่โผลงมาจากด้านบน ส่วนนางกอดแม่ทัพซ่างที่ยังไม่ได้สติไว้แน่น

“มีคนร้าย!” นาทีนั้นต่อให้กงจิ้งไม่อยากหันหัวรถกลับก็ทำอะไรไม่ได้ หากฝืนต่อไปคงต้องถูกคนฆ่าจนตาย

รถลากถูกนักฆ่าเจนสนามล้อมฆ่า เมียนเมี่ยนที่ตามอารักขาออกมาคุ้มกัน นางใช้แส้ฟาด ก่อนจะพูดสั่ง “ไม่ต้องหยุด! มุ่งหน้าไปที่ประตู!!”

“ข้าขับเอง” เหยาอี้เหยาออกไปสลับกับกงจิ้ง เพื่อให้เขาคุ้มกันซ่างเจวี๋ย ตอนนี้มีแค่นางที่พอจะขับได้ เนื่องจากลู่หมิงแขนขาหัก แน่นอนว่านางไม่เคยขับรถลากมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่เป็นก็ต้องเป็นแล้ว นางพันเชือกเข้ากับมือ ต้องควบคุมให้ลาลากเกวียนต่อไป

“รบกวนแล้ว”

นักฆ่าเกาะติดไม่ห่าง ตลอดสองข้างราวกับตังเมหนึบ เมียนเมี่ยนกับกงจิ้งคุ้มกันสุดกำลัง แต่คนร้ายผุดออกมาราวกับดอกเห็ด ช้าเร็วต้องถูกไล่ต้อนจนถึงแก่ชีวิต

คิดได้แบบนั้นเหยาอี้เหยาก็ต้องมองหาหนทางรอด ทว่าปลายทางเป็นทางตัน นางไม่รู้ว่าถูกบีบให้มาทางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้อีกไม่นานรถลาคงตกลงไปหากไม่เปลี่ยนเส้นทาง นางรั้งบังเหียนสุดแรง ลู่หมิงเข้ามาช่วยด้วยมือข้างเดียว

ล้อรถลากตุปัดตุเป๋ หิมะทำให้ลื่นกว่าที่คิด แต่เดชะบุญ ยังสามารถขุดตัวล้อออกมาได้สำเร็จ เหยาอี้เหยากระตุกบังเหียน มือชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด เหนือรถลากมีแต่คนร้าย นางจึงบังคับให้รถส่ายไปมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็ง

อุโมงค์อันนี้เป็นอุโมงค์ไม้ไผ่ แต่เพราะถูกหิมปกคลุมจึงแปรสภาพไป นางพุ่งเข้าไปโดยคิดเพียงว่าจะสลัดคนร้ายให้หมด

แต่นางไม่คิดจริงๆ ว่าอีกด้านของอุโมงค์จะเป็นหน้าผา นางรั้งบังเหียนสุดชีวิต แต่สายตาก็หันไปเห็นว่าด้านหลังมีนักฆ่าไล่ตามมามากมาย เหยาอี้เหยาเลยปล่อยบังเหียน

“สละรถ!”

กงจิ้งในเวลานั้นอยู่ใกล้ซ่างเจวี๋ยกับลู่หมิงมากกว่า ทั้งสองคนนี้ยังเป็นผู้ไม่ได้สติกับผู้บาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะช่วยสองคนนี้ก่อน ส่วนเหยาอี้เหยา นางอยู่ด้านหน้ารถ มองเห็นแล้วว่ารถกำลังดิ่งเหว นางจึงห่อตัวไว้ในเสื้อกันหนาว กลิ้งลงไปในตามหน้าผา

ก่อนจะตกลงไปในกับดักที่ด้านในมีเสือลายเมฆผู้หิวโซอยู่ตัวหนึ่ง กับร่างไร้วิญญาณของพรานป่า

เหยาอี้เหยามองหน้าเสือลายเมฆ พร้อมกับขยับไปด้านข้างทีละเล็กทีละน้อย กับดักสัตว์นี้ห้อยอยู่ที่หน้าผา หมิ่นเหม่ต่อชีวิตอย่างยิ่ง หากไม่รักษาสมดุล จะตกลงไปทั้งคู่

เสือลายเมฆส่งเสียงคำราม แยกเขี้ยวหมายจะโจนเข้ามากัดกิน เหยาอี้เหยาหลับตา ใช้ปิ่นเงินแทงทะลุคอมัน

ร่างของเสือลายเมฆร่วงหล่น ส่วนเหยาอี้เหยาเก็บหน้าไม้ไว้เป็นอาวุธแล้วกระเสือกกระสนปีนขึ้นไปด้านบน แต่พอถึงด้านบน ปลายดาบแหลมถูกชี้มาระหว่างคิ้ว เหยาอี้เหยามองตั้งแต่รองเท้าปักลายประณีตขึ้นไปจนเห็นป้ายหยกบนเอว

นางคือสตรีคนเมื่อครู่ที่ทำร้ายผู้อาวุโสฉู่

“ปี้เหวินจิง ดูเหมือนนางจะรู้จักเจ้านะ”

ใบหน้านางอยู่ใกล้เพียงลมหายใจกั้น เหยาอี้เหยาถามพร้อมมองเลือดที่อาบดาบ “ท่านทำอะไรผู้อาวุโสฉู่”

“แน่นอนว่าฆ่าเขาแล้ว”

ปี้เหวินจิงเงื้อมีดหมายจะแทง เหยาอี้เหยาจึงโดดลงหน้าผาด้วยตัวเอง คมมีดกรีดเอาเสื้อคลุมไปคืบหนึ่ง

ท้องฟ้าเหนือหัวแดงก่ำ

ต้นเพลิงเต้นระริกอยู่กลางกองซากศพบนเนิน เนื้อตัวที่ยังอุ่นบ่งบอกว่าพึ่งสิ้นลมหายใจเมื่อครู่ อากาศหนาวถูกซ้ำเติมด้วยพายุหิมะที่พัดถล่ม

เลือดสีแดงฉานอาบย้อมเสื้อผ้าจนคล้ำ ฉู่ซีเย่อยู่ท่ามกลางเงื้อมมือของมัจจุราช รอบข้างอื้ออึง สายลมวี้ดวิ้วอยู่ข้างใบหู เขาตวัดดาบในมือ ทุกครั้งที่ฟันผ่านร่างกายมนุษย์ สัมผัสที่กรีดแทงเลือดเนื้อจนถึงกระดูกมักจะเด่นชัดในสมอง เขาทรงตัวอยู่หลังม้า มือซ้ายกระตุกบังเหียนบังคับให้ม้าพุ่งทะยานเข้าไปในกองไฟ

กลิ่นความตายโพยพุ่ง การลงมือไร้ความปรานี ทุกอย่างช่างมืดมัว ต่างฟาดฟันเพื่อเอาชีวิตอีกฝ่าย ฉู่ซีเย่เคยรบกับพวกนอกด่านมาก่อน เขาจึงรู้ว่าชาวนอกด่านที่กำลังตวัดดาบหมายเอาชีวิตเขาตอนนี้ ไม่ใช่กบฏชาวนอกด่านอย่างเดียว

ต้าหย่ง...มีคนจากต้าหย่ง

ห่าธนูหัวเหล็กติดไฟปะปนเหนือท้องฟ้า มองไปแล้วก็งดงามอย่างน่าประหลาด

ม้าของฉู่ซีเย่ถูกยิง ม้าส่งเสียงกู่ร้อง เขากระโจนตัวลงมาจากหลังม้าก่อนที่มันจะเสียหลัก เขากลิ้งไปบนพื้นหิมะ ยังไม่ทันได้ทรงตัวหยัดยืน ชายฉกรรจ์ตัวเท่าขื่อบ้านหลายคนใช้ดาบโค้งจ้วงเข้ามาหมายจะบั่นคอ เลือดที่ติดปลายดาบไหลหยดเป็นทาง ฉู่ซีเย่ใช้มือสวมเกราะตั้งรับก่อนใช้ดาบแทงสวน เขาเกือบจะพลิกเอาชนะได้แล้ว หากไม่มีคนใช้เชือกตวัดรอบคอแล้วลากไป

ฉู่ซีเย่จมลงไปในหิมะ ดาบถูกปักลงในร่างของคนที่หมายจะฟันเขา แรงรัดที่คอทำให้หายใจลำบาก เขาเอี้ยวหน้าไปมองด้านหลัง หอกปลายแหลมกำลังตั้งอยู่รอเข้าถูกลากเข้าไปเสียบ

ในระยะไม่ถึงสิบจั้ง ฉู่ซีเย่ปักดาบสั้นลงไปในดิน เขารู้ว่าถ้าฝืนมากไป เชือกคงดึงศีรษะเขาหลุดแน่ ดังนั้นจึงหยุดและวนเป็นวงกลม ก่อนจะโผตัวขึ้น ใช้แรงส่งมาตัดเชือกให้ขาด

หลังตัดเชือกขาดแล้ว มีดสั้นอันเดียวกันถูกขว้างออกไปปลิดชีพคนที่ใช้เชือกลาก นัยน์ตาฉู่ซีเย่เข้มขึ้น ใบหน้าเหี้ยมเกรียม เขาดึงดาบออกมาจากร่างไร้วิญญาณ ก่อนจะมุ่งหน้าบุกทะลวงเข้าไป

กองไฟที่โหมกระหน่ำไม่อาจหยุดยั้งเขาแล้ว ฉู่ซีเย่กระโจนเข้าไปในกองเถาถ่าน เขาบ้าคลั่งจนกล้าไล่ตามหัวหน้าชาวนอกด่าน

ใบหน้าฉู่ซีเย่ที่เหยียดยิ้มช่างดูน่าประหวั่นพรั่นพรึง ราวกับแหวกนรกขึ้นมา นัยน์ตากระหายเลือดที่แดงก่ำคู่นั้น ไม่คิดจะไว้ชีวิตใครทั้งนั้น

“ตัวบัดซบ! ไหนบอกว่ามันรบไม่เก่ง!”

เมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ทุกคนที่เห็นว่าแม่ทัพในครานี้คือฉู่ซื่อจื่อ สีหน้าทุกคนเปี่ยมล้นไปด้วยความกระหยิ่มย่องใจ จนกระทั่งตอนนี้ สีหน้าทุกคนซีดขาวแข่งกับหิมะ

“ข้าไม่เคยพูดกระมัง”

เสียงหัวเราะที่ไล่ตามหลังมาทำให้คนหวาดผวา ตาเหลือกลานเมื่อฉู่ซีเย่หมายจะใช้มีดบั่นคอจนขาดในฉับเดียว

แต่หอกยาวดันพุ่งมาตัดผ่าน ผู้มาใหม่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ฉู่ซีเย่ ฝีมือเขาเหนือกว่าที่คิด ทั้งยังรับรุกอย่างรวดเร็ว กระบวนท่าปราดเปรียว เฉียบคม ครั้นสู้กันหลายกระบวนท่า ทั้งสองก็ได้แผลคนละแผล

ใต้ลิ้นปี่มีแผลเรียบยาวลึก ความคมของหอกกรีดผ่านเข้ามาระหว่างช่องว่างพอดี ฉู่ซีเย่ก้มมองแผลตนเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนสวมหน้ากากเหล็ก เขี้ยวยาวแหลมคมวาววับ

“เจ้าคือหนอนบ่อนไส้ที่ท่านปู่ตามหาซินะ...ปี้เหวินจิง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   18/2 สมรภูมิ

    “ซื่อจื่อ เลื่อมใสมานาน” เมื่อถูกจับได้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเก็บซ่อนตัวตนอีก ปี้เหวินจิงถอดหน้ากากออก ใบหน้านางงดงามและเยือกเย็นฉู่ซีเยมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่คิดจะพูดจาอะไรกันอีกนอกจากฆ่านางเสีย“เริ่มเลยหรือ” นางรวดเร็วยิ่ง เมื่อฉู่ซีเย่ตวัดดาบใส่ ก็ใช้สันหอกโต้กลับทันควัน “ซื่อจื่อ เปิดก่อนหาได้ได้เปรียบ บางทีอาจจบอย่างอนาถเสียด้วยซ้ำ”“คำนี้เหมาะกับเจ้าไม่น้อย”“ไยจึงดูแคลนสตรีกันนัก” ดาบเหลมคมพาดผ่านร่างนาง ปี้เหวินจิงเหินตัวขึ้นหลบหลีก ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ ในเสี้ยววินาทีคมหอกเกือบจ้วงใส่ร่างฉู่ซีเย่ เพียงแต่พลิกหลบไปได้ “ตอนที่เจ้ายังหัดคลาน ข้าหัดฆ่าคนแล้ว”ปี้เหวินจิงปราดเปรียวว่องไวยิ่ง ฝีมือนางเป็นทักษะที่ถูกขัดเกลามาอย่างดีตลอดหลายปี ไร้ช่องโหว่ให้ตีกลับโดยง่าย บุกทะลวงไม่ผ่าน การเคลื่อนที่ของร่างกายสอดรับการการรุก ไม่มีการขยับที่ไร้ความหมาย ลงมือทุกครั้ง ตั้งเป้าที่จุดตายกระนั้นฉู่ซีเย่ก็ไม่ใช่ท่อนไม้ผุพัง เขาอาจจะขาดประสบการณ์ไปบ้าง แต่สายเลือดแม่ทัพที่ไหลเวียนกำลังร้อนได้ที่“พึ่งรู้ว่าการหัดฆ่าคนแต่เด็กเอามาใช้อวดได้” น้ำเสียงฉู่ซีเย่ดูแคลนยิ่ง เขาหลบเลี่ยงหอกขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   18/3 สมรภูมิ

    ก่อนให้กำเนิดฉู่ซีเย่ กลุ่มผู้ฝักใฝ่เริ่มการเคลื่อนไหวหนักข้อขึ้น อีกทั้งช่วงนั้นราชวงศ์ต้าหย่งเองยังไม่มั่นคงเท่าที่ควร ทำให้เป็นจังหวะดีในการโค่นล่มบัลลังก์ ทางราชวงศ์ต้าหย่งระสับระส่ายอย่างยิ่ง เฝ้ารอคอยว่าเด็กในครรภ์ของนางจะเป็นชายหรือหญิง หากว่าเป็นชาย สถานการณ์ของกบฏย่อมรุนแรงขึ้นขณะนั้นเหล่าเสนาธิการเป่าหูฮ่องเต้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าเฝิงอันอาจจะหวนกลับคืนมาอีกครั้งเพื่อทวงสิทธิของนาง ถึงอย่างนั้น ‘หย่งฉี’ ก็นับว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาและปกครองด้วยหลักคุณธรรมจารีต เขาไม่แสดงท่าทีอะไรให้ใครได้ล่วงรู้ความคิด ทั้งยังแสดงท่าทีห่วงใยต่อญาติผู้พี่อย่างเฝิงอัน แต่ในจิตใจเบื้องลึกที่แสนซับซ้อนนั้น ยากจะกล่าวถึงเวลาขยับเข้าใกล้ทุกที และแล้ว เฝิงอันก็คลอดฉู่ซีเย่ออกมาข่าวสารใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงต้าหย่ง หย่งฉีสั่งให้ขันทีคนสนิทตระเตรียมข้าวของเพื่อรับขวัญ เป็นสิ่งของล้ำค่าควรเมืองอันหรูหรา คนไม่รู้ยังบอกเล่าถึงน้ำจิตน้ำใจอันดีงามของเขาว่าทรงเป็นฮ่องเต้ที่จิตใจงดงามมีเพียงผู้ได้รับของขวัญเท่านั้นที่รู้ว่าหย่งฉี เป็นผู้ที่มีจิตใจงดงามแบบไหนเฝิงอันรับรู้ความต้องการของหย่งฉีดี มีเพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   19/1 บาดแผลที่เกินเยียวยา

    หนึ่งวันก่อน…ฉู่ซีห่าวกลับมาไม่ทันงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของน้องชาย ทั้งยังได้รู้ว่าฉู่ซีเย่และเหยาอี้เหยาถูกจับไปขังคุกแล้วตามแผนการของท่านปู่ จึงได้แต่เดินไปวางของขวัญไว้ที่เรือนบูรพา เวลานั้นยังไม่ถึงเวลาไต่สวนคดี เขาจึงนั่งพักผ่อนอยู่ที่จวนของตนเองบ่าวรับใช้ซึ่งดูแลท่านหญิงเสินหลานตี๋เอ๋อร์เข้ามาเรียนว่านางอยากพบ ฉู่ซีห่าวจึงพันแผลลวกๆ แล้วออกไปพบ อย่างไรเสียนางก็มาเป็นแขกของบ้านนี้ ย่อมต้องต้อนรับให้ดีแต่เมื่อไปถึงคนที่นั่งอยู่ในศาลาไม่ได้มีแค่เสินหลาน“ท่านปู่”เสินหลานซึ่งนั่งพูดคุยกับท่านอ๋องอย่างสดใสลุกขึ้นคาราวะอย่างนอบน้อม “ท่านพี่”ฉู่ซีห่าวแตะข้อศอกให้นางลุกขึ้น“ลุกขึ้นเถอะ วันหน้าเวลาเห็นข้าก็ไม่ต้องลำบากเรื่องพิธีรีตองอีก”เสินหลานรับคำ พอจะมองสถานการณ์ออกว่าท่านอ๋องอยากสนทนาส่วนตัวกับเจ้าเมืองฉู่จึงหาเรื่องถอยฉาก “อ่อ เสินหลานมีของจะมอบให้ท่านปู่ด้วย ท่านคอยสักครู่นะเจ้าคะ จะรีบไปนำมาให้เดี๋ยวนี้”“ไม่รีบ ท่านปู่จะคอยเจ้าอยู่ที่นี้เอง”คล้อยหลังเสินหลานกับคนรับใช้ ฉู่เหวยหุบยิ้มแล้วหันมามองหลานชายคนโต “ชงชาให้ที”บนโต๊ะมีกาต้มน้ำตั้งอยู่บนเตา อุปกรณ์ชงชาอยู่ด้านข้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   19/2 บาดแผลที่เกินเยียวยา

    เมื่อออกจากเมืองโจวอี้ได้แล้ว ความหายนะต่างๆ ราวกับถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ไม่อาจเกี่ยวข้อง ไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้อีก เหยาอี้เหยาไม่ร้องไห้คร่ำครวญ แม้ภายในใจจะแตกสลายไปนับครั้งไม่ถ้วนนางหันกลับไปมองกำแพงสูงที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางหิมะโปรยซึ่งไกลห่างออกไปทุกที ครั้งแรกที่มาถึงทุกอย่างก็ขาวโพลนราวกับหิมะ เหมือนตอนนี้ไม่มีผิดเพียงแต่หลายสิ่งหลายอย่างในใจนางได้เปลี่ยนไปแล้วเหยาอี้เหยาก้มหน้ามองปิ่นเงินในมือ ทั้งๆ ที่ไม่คิดว่าจะร้องไห้อีกแล้ว แต่น้ำตากลับหยดออกมาอย่างง่ายดาย ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่แจ่มชัดราวกับพึ่งเกิดขึ้น ทั้งการตายของฉู่ซวิ่นและการตายของท่านอ๋องล้วนมีสาเหตุเพราะนางทั้งนั้นสมควรแล้วที่ซื่อจื่อจะไม่แม้แต่อยากจะมองหน้ากันรถเกวียนมุ่งหน้าจากไปกลางหิมะอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่องรอยแห่งความทรงจำในวันวานอดีต...ทุกอย่างของเมื่อวานได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ที่โหดหินไม่แพ้กันหลังกลับถึงเมืองต้าหย่ง สิ่งที่คณะทูตทุกคนต้องเผชิญคือสายตาดูแคลน ความสงสัย ความเคลือบแคลง ผู้คนซุบซิบนินทา และกระพือข่าวลือต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงออกไป ต่างเล่าลือกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   19/3 บาดแผลที่เกินเยียวยา

    “จริงด้วย ควรเรียกท่านว่า…ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยาลนลานถอยหลังไปสองก้าวอย่างประหม่า ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาตามพิธีการ ฉู่ซีเย่จะบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ทัน“ลุกขึ้น” เขาพูดอย่างไม่พอใจ การปฏิบัติอย่างห่างเหินของนางไม่สบอารมณ์เขา“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น แต่ยังก้มหน้ามองพื้นด้านล่างเพราะไม่กล้าสู้หน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนที่เขาช่วยดึงเชือกไว้ให้นางรอดจนท่านอ๋องฉู่เหวยตาย ยังคงตามหลอกหลอนแม้ตลอดสามปีมานี้จะพอข้ามผ่านมาได้แล้ว แต่ยังคงไม่หมดจด บางครั้งก็ยังหวนคิดถึงเสมอเหยาอี้เหยาไม่อยากโทษตนเอง แต่ความจริงคือนางมีส่วนทำให้ฉู่เหวยตายยังไม่รวมฉู่ซวิ่นที่สละชีวิตเพื่อให้นางรอด…ขนาดนางที่เป็นคนนอกยังรู้สึกผิดขนาดนี้ แล้วฉู่ซีเย่เล่าเขาจะรู้สึกผิดเพียงใดที่เลือกช่วยชีวิตนางแทนท่านปู่ของเขาความเงียบอันเฉื่อยชาดำเนินอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่ฉู่ซีเย่จะทำลายลง“ไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปดื่มชาด้านในหน่อยหรือ”ความคิดที่ล่องลอยของนางถูกดึงกลับมา “หากท่านไม่รังเกียจว่าบ้านซ่อมซ่อ”“นำไปสิ” เขาเดินตามหลังนาง สายตาลอบมองเอวคอดที่เล็กเท่าฝ่ามือ รวมทั้งไหล่ที่บอบบางจนอาจหักคามือถ้าเผลอออกแรงงมากเกินไป…

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status