แชร์

19/3 บาดแผลที่เกินเยียวยา

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 16:23:08

“จริงด้วย ควรเรียกท่านว่า…ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยาลนลานถอยหลังไปสองก้าวอย่างประหม่า ก่อนจะคุกเข่าลงคาราวะเขาตามพิธีการ ฉู่ซีเย่จะบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ทัน

“ลุกขึ้น” เขาพูดอย่างไม่พอใจ การปฏิบัติอย่างห่างเหินของนางไม่สบอารมณ์เขา

“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น แต่ยังก้มหน้ามองพื้นด้านล่างเพราะไม่กล้าสู้หน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนที่เขาช่วยดึงเชือกไว้ให้นางรอดจนท่านอ๋องฉู่เหวยตาย ยังคงตามหลอกหลอน

แม้ตลอดสามปีมานี้จะพอข้ามผ่านมาได้แล้ว แต่ยังคงไม่หมดจด บางครั้งก็ยังหวนคิดถึงเสมอ

เหยาอี้เหยาไม่อยากโทษตนเอง แต่ความจริงคือนางมีส่วนทำให้ฉู่เหวยตาย

ยังไม่รวมฉู่ซวิ่นที่สละชีวิตเพื่อให้นางรอด…

ขนาดนางที่เป็นคนนอกยังรู้สึกผิดขนาดนี้ แล้วฉู่ซีเย่เล่า

เขาจะรู้สึกผิดเพียงใดที่เลือกช่วยชีวิตนางแทนท่านปู่ของเขา

ความเงียบอันเฉื่อยชาดำเนินอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่ฉู่ซีเย่จะทำลายลง

“ไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปดื่มชาด้านในหน่อยหรือ”

ความคิดที่ล่องลอยของนางถูกดึงกลับมา “หากท่านไม่รังเกียจว่าบ้านซ่อมซ่อ”

“นำไปสิ” เขาเดินตามหลังนาง สายตาลอบมองเอวคอดที่เล็กเท่าฝ่ามือ รวมทั้งไหล่ที่บอบบางจนอาจหักคามือถ้าเผลอออกแรงงมากเกินไป

…สามปีมานี้นางโตเป็นสาวสะพรั่ง ใบหน้าหวานมีองค์ประกอบกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่สิ่งที่กวนใจเขาที่สุดคงเป็นเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นของนาง ทั้งยังกลิ่นน้ำอบจรุงใจที่ลอยวนใต้จมูก

นางช่างงดงามและอ่อนหวานจนอยากจับมาเลี้ยงดูไว้กลางฝ่ามือ…

ฉู่ซีเย่สูดลมหายใจเก็บซ่อนนัยน์ตากลับมา เขาไม่อยากให้นางรู้ตัวว่าเขากำลังพิศมองนางด้วยความหลงใหลปรารถนาเพียงใด

“ทางนี้เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาพูดโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนมองนางด้วยความรู้สึกชนิดใด “อาจจะคับแคบไปสักหน่อย”

“นับว่าไม่เลว” เขากวาดตามองรอบหนึ่ง

“ข้าขอตัวไปชงชา” พอนางและฉู่ซีเย่เดินเข้ามาในครัว จินเฟยสั่งให้ลูกน้องมาเก็บกวาดร่างไร้วิญญาณของโจรถ่อย เหยาอี้เหยาใคร่สงสัยว่าคนตายตั้งหลายคน ฉู่ซีเย่จะจัดการเช่นไร “พวกนั่น จะจัดการอย่างไรหรือ”

นางเอ่ยถาม มือจุดไฟตั้งน้ำเดือด ด้านนอกหน้าต่างคนกำลังขนย้ายร่างไร้วิญญาณ

“คงสับแล้วโยนให้สุนัขจรจัดกิน” ฉู่ซีเย่ตอบไม่แยแส เขานั่งพิงเก้าอี้ไม้ในครัว พาลทำให้ทุกอย่างดูเล็กลงไปอย่างแปลกตา

“แบบนั้นคงจะไม่ดีเท่าไหร่ จะดีกว่าไหม หากท่านให้องครักษ์จินนำพวกเขาไปฝังให้เรียบร้อย”

“ข้าไม่สะใจ”

น้ำเสียงเขามีความเยือกเย็นหลายส่วน สายตายังมองแขนเสื้อนางที่ฉีกขาดเพราะแรงดึงรั้งอย่างจดจ้อง

หากเขาไม่มาหานาง จะเกิดอะไรขึ้น แค่คิดก็แทบทนไม่ไหว

“ซื่อ…ขออภัย ท่านอ๋อง ยังไงคนก็ตายแล้ว อย่าผูกจิตพยาบาทต่อกันเลย” ลิ้นเหมือนจะยังไม่คุ้นชินกับการเรียกเขาว่าท่านอ๋อง มีแต่คำว่าซื่อจื่อออกมาตลอด

“เจ้าเหน็บว่าข้าเจ้าคิดเจ้าแค้น”

“เปล่านะ แค่พวกเขาไม่คู่ควรให้ท่านใส่ใจหรอก”

เสียงเขาอ่อนลง เมื่อครู่เขาเผลอทำเสียงแข็งไปหน่อย “ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น”

ฉู่ซีเย่ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก

เหยาอี้เหยาวางถ้วยชาในมือ หันหลังไปจัดการเตา เงี่ยหูฟังว่าเขาพูดอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรเลย เหมือนฉู่ซีเย่แค่ออกไปสั่งการด้วยสายตาทีหนึ่ง จินเฟยก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

ครั้นเขาเดินเข้ามาอีกรอบ นางก็ยื่นถ้วยชาให้เขา

“ชาได้พอดี”

“รบกวนแล้ว”

“ไม่เลย ท่านช่วยข้าไว้แท้ๆ แค่ชงชาไม่ถือเป็นการรบกวน” มือของฉู่ซีเย่มีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ เวลาเขาถือถ้วยชายกจิบ ท่วงท่าสบายๆ แต่ดึงดูดสายตา

“มองเพลินหรือไม่” เขาเลิกคิ้ว วางถ้วยชาในมือ

“ข้าน้อยเพียง…”

ฉู่ซีเย่เปลี่ยนเรื่อง

“สามปีมานี้สบายดีหรือไม่” เขาเดินเข้ามาหา นางอยู่ติดเตาอยู่แล้ว ไม่มีที่ให้ถอยหนีไปไหนอีก

“สบายดี สบายดียิ่ง” เสียงนางสั่นโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่เดินเข้ามาหาแล้ว แต่ระยะห่างที่ใกล้กันมาก ทำให้มองเห็นนัยน์ตาเขาอย่างชัดเจน

เหยาอี้เหยาคล้ายถูกนัยน์ตาคมสะกด ขนาดจิกมือเพื่อเรียกสติแต่ก็ยังดึงสายตากลับมาไม่ได้

“ไม่ถามกลับหรือว่าที่ผ่านมาข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวที่ทำให้นางรู้สึกถึงการคุกคาม ฉู่ซีเย่ใช้นิ้วมือเกลี่ยไล่ดวงหน้าหวานอย่างแผ่วเบา จ้องมองนางราวกับจะสะกดให้นางหยุดนิ่งแค่ที่เขา “ที่ผ่านมาข้าเจ็บป่วยหรือเปล่า สบายดีหรือเปล่า”

“แล้วท่าน…ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่ดี”

“ลำบากมากหรือ” นางช้อนสายตาขึ้นมองเขา ไม่ได้มีเจตนายั่วเย้าหรือคิดจะใช้เสน่ห์ใดๆ แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้ฉู่ซีเย่ว้าวุ่นใจ ราวกับถูกจี้จุดด้วยไยไหมอ่อนนุ่มจนหัวใจคันยุบยับ เขาวางมือโอบตัวนางไว้หลวมๆ

“ไม่แย่ แต่ไม่มีความสุข” ใบหน้าเขาโน้มลงมา ครั้นเห็นนางไม่ถอยหนี จึงประทับริมฝีปากบนปากอวบอิ่มโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า

“ข้าต้องการจุมพิตเจ้ามากกว่านี้”

เหยาอี้เหยาไม่รังเกียจสัมผัสจากเขา “จูบได้…”

ริมฝีปากที่แนบสนิทลงมาอุ่นชื้นและเจือความห่วงหา เหยาอี้เหยาหัวใจเต้นแรงยิ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อยากถอยหนี

ฉู่ซีเย่ประคองกรอบหน้าเล็กให้เชยขึ้นมาจุมพิตอย่างถนัดถนี่ บดเคล้าพวงปากนางด้วยความกระหาย เขาพยายามกดความต้องการไว้ แต่รสชาติหวานล้ำที่ได้จากนาง ฉุดกระชากอารมณ์ให้แตกซ่าน

“อืม…” สัมผัสร้อนช่วงชิงโอกาสหายใจ มือใหญ่ตวัดรัดเอวบางเข้าแนบชิด ลมหายใจร้อนๆ รินรดอย่างอดกลั้น

“อี้เหยา…” เขาพร่างพรมลมหายใจ มองกลีบปากที่ถูกล่วงเกินจนชุ่มฉ่ำด้วยนัยน์ตาร้อนจัด เขาใช่หัวแม่โป้งกดปากนางให้เผยอ้าเล็กน้อย ก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปพัวพันกับลิ้นเล็ก

เขาจุมพิตนางซ้ำๆ ประกบปากดูดดื่มอย่างที่ใจต้องการ ตอนผละห่างก็สบตานางให้มองแค่เขา

“เจ้าช่าง…หอมจนข้าใกล้บ้า”

ปลายจมูกเขาสูดดมกลิ่นกายนางอย่างลุ่มหลง โอบกอดนางเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น

ฉู่ซีเย่ประกบปากจูบซับ ก่อนจะไล่จุมพิตนางทั้งดวงหน้า

ทว่าด้านนอกตอนนี้มีเสียงคนดังขึ้น ฟังจากบทสนทนาแล้วดูเหมือนว่ากงจิ้งกำลังกลับมา

“…พอก่อน” แขนอันทรงพลังกอดกระชับเอวคอดกิ่ว เหยาอี้เหยาจับมือเขาเพื่อห้ามปรามเพื่อหยุดเขา

“อืม” ฉู่ซีเย่จำต้องหยุด เขามองนางที่หน้าตาแดงก่ำด้วยความเอ็นดู ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติ “ข้าจะออกไปก่อน เดี๋ยวเจ้าค่อยออกมา”

“ได้” เหยาอี้เหยาขานรับ นางลูบหน้าลูบตา พัดมือเข้าหาใบหน้า รู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายกำลังร้อนเป็นพิเศษ ทั้งยังไม่รู้จะทำหน้ายังไงถ้าออกไปหากงจิ้ง

แต่ประโยคสนทนาที่ดังเข้ามาถึงด้านในทำให้เหยาอี้เหยาลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง

"เกิดอะไรขึ้นกับแม่ทัพซ่าง" ทันทีที่นางเปิดประตูออกมา นางก็พบกับกงจิ้งที่แบกซ่างเจวี๋ยไว้บนไหล่

"นางขาดยาจนใกล้ตายแล้ว" กงจิ้งพูดโดยไม่แสดงท่าทีแปลกใจที่เห็นฉู่ซีเย่ กลับกันดีใจมากกว่าที่มีเขาอยู่ที่นี่ ในตอนนี้

เขารีบวางซ่างเจวี๋ยบนแคร่ เหยาอี้เหยารีบหาผ้าห่มมาคลุมร่างที่เย็นเฉียบของซ่างเจวี๋ย

"ยาเล่า ยาหายไปไหน"

"ลุงกู่"

ลุงกู่ล้วงยาออกมาที่เก็บซ่อนไว้ออกมาให้กงจิ้ง ก่อนที่เขาจะส่งให้ฉู่ซีเย่ตรวจสอบก่อน

"ข้าไม่กล้าให้ซ่างเจวี๋ยกินส่งเดช กลัวว่าจะไม่ใช่ยาจริง"

ฉู่ซีเย่รับยามาพินิจ สูดดม และกัดไปเล็กน้อยก่อนจะคายออกมา

"ยาปลอม"

"เป็นไปได้อย่างไรกัน"

"ไม่รู้ แต่พวกเจ้าถอยออกมา ให้ข้าตรวจนางก่อน" ฉู่ซีเย่ขยับไปยืนข้างแคร่ไม้ไผ่ เขาจับชีพจรซ่างเจวี๋ย สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี

"ท่านอ๋อง ได้โปรดช่วยแม่ทัพซ่างด้วย" เหยาอี้เหยาขอร้อง อาการกำเริบของพิษแมลงคุณไสยมีแค่เขาที่ช่วยได้

"ข้าจะทำเต็มที่" ฉู่ซีเย่ขอให้จินเฟยหยิบกล่องมาใบหน้า ในนั้นมีเข็มเงินต่างขนาดหลายเล่ม เขาคล้ำหาไปตามจุดชีพจรก่อนจะปักเข็มลงไป ชั่วครู่เดียว ซ่างเจวี๋ยก็กลายเป็นมนุษย์เม่น

"เป็นอย่างไรบ้าง"

ฉู่ซีเย่ตอบ "เกรงว่าข้าคงช่วยได้แค่ยื้อเวลา ต้องรีบไปเอายาระงับพิษมาให้ซ่างเจวี๋ยกิน ไม่งั้นแมลงจะคลุ้มคลั่ง"

เหยาอี้เหยาหันไปสบตากับกงจิ้ง "ท่านรู้ที่เก็บยาหรือไม่"

"อยู่ที่ตำบลบลอู่เสวียน" กงจิ้งพูดต่อด้วยเสียงเรียบเย็น "แต่ข้าคิดว่าคงไม่มีให้ไปเอาแล้ว สำนักคุ้มภัยคงขโมยยาจริงไปแล้วสลับเป็นยาปลอม"

ฉู่ซีเย่เข้าใจแล้ว เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ใครเป็นเจ้าของสำนักคุ้มภัย"

เพื่อความปลอดภัยของยาระงับพิษ ซ่างเจวี๋ยจึงซื้อบริการของสำนักคุ้มภัยในตำบลอู่เสวียนให้คอยปกป้องและรักษายาระงับพิษให้ดีที่สุด

ตลอดสามปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้น ซ่างเจวี๋ยจึงวางใจ ออกเดินทางคราวละนานๆ เพื่อหาเงินจ่ายค่าบริการและเบิกยาติดตัวไว้จำนวนหนึ่งเสมอ

โดยไม่ได้บอกหรือแพร่งพรายให้ใครรู้ เพราะพิษแมลงคุณไสยเป็นเรื่องต้องห้าม แต่แล้วทางสำนักคุ้มภัยไร้จรรยาบรรณดันเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าซ่างเจวี๋ยเก็บสมบัติพัสถานใดไว้กันแน่ เหตุใดต้องมาเก็บไว้ในตู้นิรภัยราคาสูงลิบลิ่วเช่นนี้

ความสงสัยทำให้พวกเขาเปิดเข้าไป ก่อนจะพบว่าสิ่งที่เก็บไว้เป็นแค่ยาลูกกลอนจำนวนหนึ่ง แต่เจ้าสำนักมั่นใจนักหนาว่ายาลูกกลอนในกล่องต้องเป็นสิ่งของล้ำค่าแน่ จึงเชิญท่านหมอมาตรวจสอบว่าคือยาชนิดใด

ให้บังเอิญเหลือเกินว่าคนที่เจ้าสำนักเชิญมาคือลูกศิษย์ของไป๋เซียนหลาง

เฉาเยว่รู้ว่ายาลูกกลอนทั้งหมดคือยาระงับพิษที่มีคุณภาพสูงยิ่ง จึงแนะนำให้เอาไปขายต่อในตลาดมืด เพราะยาลูกกลอนระงับพิษแมลงคุณไสยมีคุณสมบัติในการแก้พิษอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแมลง

รู้ดังนั้นเจ้าสำนักที่โลภมากก็วางแผนให้หมอเถื่อนทำยาปลอมซึ่งมีลักษณะ รสชาติ สี ขนาดขึ้นมาชุดหนึ่ง นำไปสลับสับเปลี่ยนกับยาจริง

ซ่างเจวี๋ยที่ไม่รู้ว่ายาถูกสับเปลี่ยนก็ไปเบิกมากินตามปกติแล้วเดินทางจากตำบลอู่เสวียนมาที่อำเภอซานถง

แต่เพราะยาระงับพิษที่กินเข้าไปไม่ใช่ของจริง ครั้นพิษแมลงคุณไสยกำเริบขึ้นมาในระหว่างเดินทางขึ้นเขา ซ่างเจวี๋ยจึงเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนหมดสติ

ในช่วงที่ชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ดีที่กงจิ้งกับลุงกู่ไปพบ จึงรีบพากลับมาที่บ้าน

ถึงจะเป็นคราวเคราะห์ แต่นับว่าซ่างเจวี๋ยเป็นบุตรของโชคดีอย่างคาดไม่ถึง

เคราะห์ดีข้อแรกของซ่างเจวี๋ยคือฉู่ซีเย่อยู่ที่นี่พอดี เขาจึงยังไม่สิ้นลม

เคราะห์ดีข้อที่สองคือ ตำบลอู่เสวียนเป็นเมืองขึ้นของสกุลฉู่

"ข้าไปเองไม่ได้ ต้องดูอาการไม่ให้ซ่างเจวี๋ยทรุด" พิษแมลงคุณไสยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ยิ่งหลังกำเริบแล้ว ยากจะคาดเดาอาการ

"ข้าไปเอง" เหยาอี้เหยาอาสา "ข้ากับแม่ทัพกงจะไปเอายาคืนมาเอง"

ฉู่ซีเย่คล้ายไม่เห็นด้วย

"ท่านอ๋อง ข้ารู้สึกผิดต่อแม่ทัพซ่างไม่ไหวแล้ว ท่านให้ข้าไปเถอะนะ" นางคุกเข่า สองมือเกาะท่อนแขนแข็งแกร่งอย่างอ้อนวอน

เขาพ่ายแพ้ลูกอ้อนนาง...

"ก็ได้ แต่ต้องรับปากว่าจะดูแลตัวเองให้ดี"

"ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี"

ฉู่ซีเย่มอบจดหมายให้เหยาอี้เหยา พร้อมประทับด้วยตราของต้าเป่ยอ๋อง

"เอาไปมอบให้เจ้าสำนัก ขู่ว่าถ้าเขาไม่รีบรวบรวมเอายาทั้งหมดคืนมา ข้าจะไปพบเขาด้วยตนเอง"

เหยาอี้เหยาข่มขู่ตามที่ฉู่ซีเย่บอก เท่านั้นเอง เจ้าสำนักก็รีบโขกศีรษะขออภัยใหญ่โตจนพื้นถนนเกือบสึกหรอ พร้อมนำยาระงับพิษจริงออกมามอบให้ทุกเม็ดอย่างร้อนรน

"คุณหนู นี่คือยาทั้งหมดของซ่างเจวี๋ย ไม่มีหมกเม็ดไว้แม้แต่เม็ดเดียว!" เจ้าสำนักยื่นกล่องยาให้ด้วยมือสั่นเทา เหงื่อไหลท่วมแผ่นหลังจนชื้น

"ขอบคุณเจ้าค่ะ" นางกล่าวเสียงเย็นชา ก่อนจะเก็บยาทั้งหมดแล้วกลับขึ้นรถม้าทันทีเพราะต้องแข่งกับเวลา

เหยาอี้เหยามองหาว่าจินเฟยหายไปไหน"ท่านเห็นองครักษ์จินหรือไม่"

กงจิ้งส่ายหัว "จะรอเขาไหม"

"ไม่ดีกว่า แม่ทัพซ่างรออยู่" จินเฟยคงหาทางกลับเองได้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวล

เมื่อแขกกลับไปแล้ว เจ้าสำนักคุ้มภัยเปิดจดหมายออกอ่านอีกรอบ ในนั้นเขียนไว้เพียงประโยคเดียวสั้นๆ แต่ชวนสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

'เลือกเอาว่าจะตายที่บ้าน หรือกลายเป็นศพไร้ญาติ'

เจ้าสำนักคุ้มภัยไม่ยอม เขารวบรวมทรัพย์สินแล้วหลบหนีเอาตัวรอดไปในคืนนั้น พร้อมผู้คุ้มกันนับสิบ แต่ระหว่างทาง ขบวนก็ถูกโจมตี เขาถูกฆ่าตาย

จินเฟยเก็บดาบเข้าฝัก ทิ้งให้ร่างเจ้าสำนักคุ้มภัยกลายเป็นศพไร้ญาติในป่าร้าง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status