Share

ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ
ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ
ผู้แต่ง: มู่โร่ว

บทที่ 1

หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ

ยกตัวอย่างเช่น

บางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็ม

บางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่ง

มีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมา

เธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!

วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคล

มือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~

อ้าก~

เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!

เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!

เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ

นานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้

เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้าง

จุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก

แจกันดอกไม้สูงหนึ่งเมตร เป็นมรดกของตระกูลที่ตกทอดมาจากปู่ทวด หลังตกทอดมาถึงรุ่นปู่ก็ตกทอดมาถึงรุ่นพ่อของเธอ

เย่มู่มู่ย้ายแจกันมาตั้งกลางห้องรับแขก

แจกันไม่ได้มีลวดลายโบตั๋นหรูหรา หรือลวดลายนกยูงรำแพนหาง

แต่มีลักษณะแสนจะธรรมดา ข้างนอกมีสีหม่นทึบ ไม่ได้เคลือบ มีอายุเก่าแก่มากแล้ว ตรงปากแจกันมีรอยบิ่นเล็ก ๆ

ลักษณะของแจกันใบนี้ไม่เข้ากับคฤหาสน์ห้าชั้นที่ตกแต่งอย่างหรูหราหลังนี้เลยสักนิด

ปีนั้นคุณพ่อคิดจะนำไปประดับศาลเจ้าสำหรับบูชาสักการะ แต่ถูกคุณแม่ทัดทานไว้โดยอ้างว่าสไตล์ไม่เข้ากัน

คุณพ่อจึงนำมาตั้งไว้ตรงมุมห้องรับแขกชั้นล่าง เช็ดถูทุกวัน บอกว่านี่เป็นหลักฐานว่าคุณปู่ให้ความสำคัญและไว้เนื้อเชื่อใจคุณพ่อ

ข้างในแจกันยังสะอาดเอี่ยมไร้ฝุ่นจับ

หรือแจกันที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของครอบครัวเธอใบนี้จะมีอิทธิฤทธิ์ขึ้นมา?

ส่งขยะมาให้ถึงในบ้านโดยเฉพาะ?

เธอเตือนแจกันใบนั้นว่าถ้าส่งขยะเข้ามาในบ้านอีกจะนำไปปิดตายไว้ในห้องใต้ดินซะ!

แจกันเหมือนจงใจท้าทายเธอกระนั้น วินาทีถัดมา แถบผ้าป่านเปื้อนเลือดก็ปรากฏขึ้นบนปากแจกัน

ใช่แล้ว เป็นแถบผ้าป่านเหลืองคร่ำอีกด้วย!

เป็นผ้าป่านที่ทำขึ้นมาหยาบ ๆ แบบที่ฝีเข็มห่าง ๆ ซึ่งไม่พบเห็นในประเทศมาหลายปีดีดักแล้ว

เธอมุ่นคิ้ว หยิบผ้าพันแผลชิ้นนั้นโยนไปไว้กับเสื้อชั้นใน

ถ้าไม่เห็นแก่ที่เป็นแจกันของรักของหวงของคุณพ่อ โกดังเก็บของใต้ดินถึงจะเป็นสถานพำนักสุดท้ายของมัน

เย่มู่มู่เดินกลับไปกลับมาในห้องรับแขก ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่

ใครจะไปรู้ว่าคราวหน้าเจ้าแจกันใบนี้จะไม่ขนแขนหรือขาเปื้อนเลือดมาทิ้งในบ้านของเธอ

เธอคงตกใจจนวิญญาณหลุดจากร่างเลยทีเดียว

แจกันตกทอดจากบรรพบุรุษของรักของคุณพ่อ ไม่เคยนำมาใช้ใส่ดอกไม้

ประโยชน์ของแจกันคือนำมาใส่ดอกไม้ไม่ใช่เหรอ?

เธอไปตักน้ำจากในครัวมากะละมังหนึ่งแล้วเทลงไปในแจกัน

แจกันใบใหญ่เกินไป เทน้ำลงไปหนึ่งกะละมังแล้วก็กินพื้นที่แค่หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น

เธอตักน้ำมากะละมังแล้วกะลังมังเล่า ตักมาสิบกะละมังเต็ม ๆ

แจกันเหมือนจะรั่วอย่างไรอย่างนั้น เติมน้ำอย่างไรก็ไม่เต็ม

เย่มู่มู่กวาดสายตาดูตามขอบตรงก้นแจกัน ไม่มีรูรั่ว พรมในห้องรับแขกก็แห้งสนิท

เธอไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติจึงตักน้ำมาอีกสิบกะละมัง จนมือที่ใช้ตักน้ำเริ่มจะเมื่อยแล้ว

แจกันก็ยังมีน้ำแค่ครึ่งเดียวอยู่ดี

เธอโมโหแล้วนะ!

ไปนำสายยางสำหรับรดน้ำดอกไม้มาจากในห้องเก็บอุปกรณ์ ต่อกับก๊อกน้ำในครัว แล้วเปิดน้ำใส่แจกัน

ซ่า~

สายน้ำพุ่งกระฉูดลงไปในแจกัน

เธออยากจะรู้นักว่า เจ้าแจกันที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษใบนี้สามารถบรรจุน้ำทั้งแม่น้ำหรือท้องทะเลได้เลยหรือไร

ทำไมมันถึงจุน้ำได้เยอะนัก!

*

ภายในห้องคับแคบเขรอะฝุ่น แม่ทัพหนุ่มนั่งอยู่บนตำแหน่งประธาน เขามีรูปโฉมประณีตราวแกะสลักด้วยมีดดาบ ปอยผมกระจายปรกหน้าผาก เครื่องหน้าหล่อเหลาคมสัน ใบหน้าสง่างามนั้นแฝงความซีดเซียวอมโรค!

หมอประจำกองทัพกำลังพันแผลให้เขา

กองทัพขาดแคลนยามานานแล้ว ทั้งไม่มีสุรา ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ บาดแผลของแม่ทัพเริ่มอักเสบเปื่อยเน่าแล้ว

หมอประจำกองทัพถอนหายใจ ใช้ผ้าป่านกลางเก่ากลางใหม่พันแผลบนแขนให้เขา

ทหารสวมชุดเกราะสามนายกึ่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ร่างกายพวกเขาเปรอะเปื้อนฝุ่นดิน ริมฝีปากแตกเป็นขุย ไม่ได้ดื่มน้ำมานานหลายวัน ทหารนายหนึ่งโซเซทำท่าจะล้มลง

เดิมนั้นเฉินขุยเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ตอนนี้กลับผอมจนใบหน้าซูบตอบ เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก

คอเขาแห้งผากราวกับไฟ กล่าวอย่างปวดใจว่า “ท่านแม่ทัพ ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไป ด่านเจิ้นกวนคงรักษาไว้ได้อีกไม่นานแน่”

“ถ้าทหารสองหมื่นนายฝ่าวงล้อมไปทางด้านหลัง พวกเราอาจฝ่าวงล้อมออกไปได้”

ดวงตาสองข้างของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว เพราะเพิ่งเผชิญกับการโจมตีเมืองครั้งใหญ่

เดิมมีทหารสองหมื่นห้าพันนาย สูญเสียไปห้าพัน

ตอนนี้เหลือทหารไม่ถึงสองหมื่นนายด้วยซ้ำ

เดิมนั้นตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านเจิ้นกวนมานานปี ท่านพ่อมีกองทัพสองแสนนายอยู่ในมือ

หลังฮ่องเต้น้อยขึ้นครองราชย์ กังฉินครองอำนาจ อัครมหาเสนาบดีซูยุแยงให้ฮ่องเต้น้อยริบอำนาจทหารคืนจากตระกูลจ้าน

นับตั้งแต่สถาปนาแคว้นฉี่เป็นต้นมา ตระกูลจ้านจงรักภักดีต่อเจ้าเหนือหัวมาหลายชั่วอายุคน

ท่านพ่อไม่ต้องการส่งมอบอำนาจทหาร

มิฉะนั้น จะไม่มีใครสามารถคานอำนาจอัครมหาเสนาบดีซูได้อีกต่อไป

เขาจะควบคุมโอรสสวรรค์บงการใต้หล้า!

ท่านพ่อปฏิเสธไม่ส่งมอบตราพยัคฆ์ อัครมหาเสนาบดีซูจึงโกรธเกรี้ยวจนตัดเสบียงสนับสนุนกองทัพตระกูลจ้าน ในขณะที่เผ่าหมานรุกรานมั่วเป่ย สงครามใหญ่ระหว่างสองฝ่ายเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ

ไร้เสบียงสนับสนุนมาแปดเดือน ช่วงแรกที่เกิดสงคราม พี่ใหญ่ขายสมบัติครอบครัวที่เมืองหลวง กว้านซื้อเสบียงลำเลียงมาให้ มิฉะนั้นคงต้านทานไว้ไม่ถึงตอนนี้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ไพร่พลสองแสนก็ยังเหลือเพียงสองหมื่นคน

สวรรค์อยุติธรรม เห็นสรรพชีวิตเป็นดั่งสุนัขฟาง ด่านเจิ้นกวนตกอยู่ในวงล้อม ไร้ฝนตกมาสิบเดือน

แผ่นดินแห้งแล้งแตกระแหง อุณหภูมิพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ราษฎรไม่สามารถเพาะปลูกได้...

ทัพใหญ่ของเผ่าหมานตัดเส้นทางสัญจรสำคัญ รัศมีร้อยลี้ของด่านเจิ้นกวนถูกโอบล้อมไว้ชั้นแล้วชั้นเล่ากลายเป็นเมืองที่ถูกปิดตาย

ในเมืองประสบภัยข้าวยากหมากแพงมาครึ่งปีกว่า เมืองใหญ่ที่เคยมีประชากรสองแสนคน ราษฎรได้รับบาดเจ็บล้มตายไปเกินครึ่ง เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งแสนคน

ราษฎรขุดต้นหญ้าเปลือกไม้จนเกลี้ยงแล้ว ในเมืองมีคนล้มตายทุกวัน

ในหมู่ชาวบ้านเริ่มมีการแลกเปลี่ยนลูกกันเพื่อนำไปบริโภคเป็นอาหาร

เฉินอู่เห็นแม่ทัพคิดจะเฝ้าเมืองจนตัวตาย เขารู้สึกเศร้าสลดใจ “ท่านแม่ทัพ ไปเถอะขอรับ ทัพใหญ่สามแสนของพวกหมานคิดจะขังพวกเราไว้จนตาย ต่อให้ต้องสู้ตายถวายชีวิตข้าก็จะพาท่านฝ่าออกไปให้ได้ ท่านเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลจ้าน ฮ่องเต้สุนัขไม่คู่ควรให้ท่านมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่”

คนทั้งหลายคุกเข่าเอ่ยพร้อมเพรียง “ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพ ฝ่าวงล้อมออกไปจากเมืองเถอะขอรับ!”

จ้านเฉิงอิ้นกำหมัดเป็นกำปั้น บนหลังมือมีเส้นเลือดปูดโปน

เขาอยากให้กองทัพตระกูลจ้านที่เหลืออยู่นี้มีชีวิตรอดต่อไป อยากมีชีวิตรอดกว่าใครทั้งนั้น!

แต่ถ้าสูญเสียการป้องกันของด่านเจิ้นกวน เผ่าหมานจากมั่วเป่ยก็จะบุกเข้ามาเสมือนล่วงล้ำแดนร้าง กรีฑาทัพลงใต้ตีชิงเมืองหลายสิบเมืองติดต่อกัน

ตามด้วยกวาดล้างเมืองหลวง กำจัดเชื้อพระวงศ์!

สุดท้ายราษฎรสามสิบล้านของแคว้นต้าฉี่ก็จะถูกประหัตประหารจนหมดสิ้น

เขาทอดทิ้งราษฎรไม่เหลียวแล สละเมืองหนีเอาตัวรอด กลายเป็นคนบาปในหน้าประวัติศาสตร์

เขาเอ่ยอย่างโศกเศร้า “มีรายงานว่ายามนี้เกิดภัยแล้ง ไม่เพียงแต่ที่ด่านเจิ้นกวน แผ่นดินหัวเซี่ย[1]เกินครึ่งก็ประสบภัยแล้งอยู่เช่นกัน”

“ระยะพันลี้ร้างผู้คน ศพเกลื่อนกล่นปฐพี ราษฎรสี่สิบล้านของต้าฉี่เหลืออยู่เพียงสามสิบล้านเท่านั้น”

ราชวงศ์เก็บภาษีหนักกว่าเดิมเพื่อเสพสุข เงินที่รีดนาทาเร้นมาส่วนใหญ่ล้วนเข้ากระเป๋าอัครมหาเสนาบดีซู

ข้างนอกนั่นไม่แน่ว่าจะดีกว่าในเมืองนักหรอก!

ถ้าพวกเขาสละเมือง ราษฎรแปดหมื่นก็จะต้องตาย กลายเป็นเสบียงในการเดินทัพลงใต้ของเผ่าหมาน

“ข้าไม่อาจทิ้งเมืองหนีเอาชีวิตรอด!”

ทหารหลายนายเห็นดังนั้นก็มีสีหน้าสิ้นหวัง

เฝ้าเมืองก็ตาย สละเมืองก็ตายเหมือนกัน!

สวรรค์ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านพินาศหรือนี่!

ควรทำอย่างไรกันแน่?

จ้านเฉิงอิ้นถามพวกเขา “ยังเหลือม้าศึกอีกเท่าใด?”

“ท่านแม่ทัพ ไม่อาจฆ่าม้าศึกบรรเทาหิวได้อีกแล้ว ม้าศึกหนึ่งหมื่นตัว ตอนนี้เหลืออยู่แค่สองร้อยตัวเท่านั้นนะขอรับ!”

“ฆ่า ฆ่าให้หมด! ทหารสองหมื่นนายไม่อาจหิวตาย!”

ทหารทั้งหลายโศกเศร้าหมดกำลังใจ บุรุษอกสามศอกล้วนคุกเข่า เพราะขาดน้ำจนไม่มีแม้แต่น้ำตา

หลังจากสังหารม้าศึกไปเล่า?

ม้าศึกสองร้อยตัวจะสามารถยื้อไปได้นานสักเท่าใด?

“ท่านแม่ทัพ ไม่อาจฆ่าม้าศึก เรื่องขาดแคลนเสบียง” เฉินอู่กัดฟันกรอด ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “ข้า ข้าน้อยจะหาวิธีแก้เอง!”

ยามนี้ทุกหนแห่งไร้เสบียงอาหาร ยังจะมีวิธีการอันใดอีกเล่า?

จ้านเฉิงอิ้นโบกมือ “ข้าตัดสินใจแล้ว แม่ทัพเฉินไปจัดการเถอะ!”

ทหารทั้งหลายมีสีหน้าโศกสลด คุกเข่าก้มหน้าอยู่กับที่ ไม่มีใครเคลื่อนไหว

ถ้าสังหารม้าศึกสองร้อยตัวนี้ทั้งหมด พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสฝ่าวงล้อมออกไปได้อีก ได้แต่เฝ้ารอความตายเท่านั้น!

ขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดนั่นเอง

ทันใดนั้น เสียงน้ำสาดกระทบผนังก็ดังขึ้นมา!

คนทั้งหลายเงยหน้ามองไป ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง!

น้ำ!

นั่นคือน้ำ!

----------------------------------------------

[1] คำเรียกแผ่นดินจีนในสมัยโบราณ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status