Share

บทที่ 6

เมื่อเห็นกองทองคำที่เหลืองอร่ามกองนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้หลงใหลในเงินตรา แต่ก็ยากที่จะปล่อยออกจากมือ

ใครจะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับอัญมณีได้ล่ะ?

เธอวิ่งไปสัมผัสกับก้อนทองคำอย่างมีความสุข แล้วลองสวมสร้อยข้อมือทองคำ

มีสร้อยคอหลายเส้นห้อยอยู่รอบคอของเธอ เส้นผมของเธอก็ประดับประดาเต็มไปด้วยปิ่นปักผมทองและปิ่นระย้า

รวยแล้ว!

ตามราคาทองคำในปัจจุบัน ทองคำกองนี้มีมูลค่าหลายสิบล้าน

ยิ่งเป็นของโบราณ เมื่อเอาไปขาย ก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้

อ๊า หนิงกวนโหวช่างเป็นคนดีจริง ๆ!

ตอนนี้เธอชอบการช่วยเหลือคนเสียแล้วสิ!

ชอบทำบุญสุด ๆ!

ชอบเลี้ยงคนโบราณหนึ่งแสนคน!

ไม่หวังอะไรอย่างอื่น การได้มองดูทองคำเหลืองอร่ามระยิบระยับแสนน่ารัก ก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่งแล้ว!

*

เย่มู่มู่ยกลังไม้ใบใหญ่สามใบลงมาจากชั้นบน แล้วนำทองคำออกมาจัดระเบียบ

แค่ทองก้อน เหรียญทอง ทองหยวนเป่า ก็ใส่เต็มสองลังใหญ่แล้ว

จากนั้นก็นำลังใบใหญ่อีกใบมาใส่เครื่องประดับมุกและทอง แยกใส่ถุงซิปล็อค แล้ววางไว้เป็นระเบียบ

แต่ใส่ไม่หมด

มันไม่สามารถใส่ให้หมดได้อยู่แล้ว!

ของที่เหลือล้วนเป็นของที่ทำด้วยทองคำ รวมถึงชุดจอกสุรากาสุรา กาสุราและจอกสุราสองใบ ถ้วยทองคำแปดใบ ตะเกียบทองคำแปดคู่ ช้อนทองคำแปดคัน

ถุงหอมทองคำสองใบ ถุงมือทองคำสามคู่ เข็มขัดทองคำหลายเส้น เข็มขัดอัญมณี กาน้ำชาทองคำ......

เธอยกกล่องไม้ขนาดใหญ่อีกกล่องลงมาจากชั้นบน บรรจุในถุงซิปล็อก และบรรจุสิ่งของที่เป็นทองคำไว้ข้างในอย่างเรียบร้อย

แล้วนำชุดจอกสุราแยกออกมาต่างหาก

ชุดจอกสุราเป็นงานฝีมือที่ประณีต ใช้ทองคำทำลายฉลุด้วยมือ ส่วนตัวเหยือกก็ฝังด้วยอัญมณี

ด้านล่างจอกสุรามีสามขา มีคาบห่วงรูปสัตว์ และดวงตาขาสัตว์ประดับด้วยพลอยแดง

พรุ่งนี้เธอจะไปร้านขายของเก่าเพื่อสอบถามราคาและดูว่าจะขายได้ราคาเท่าไร

ที่ด่านเจิ้นกวนยังมีสงคราม ทั้งเมืองถูกปิดล้อม

ให้เพียงน้ำและอาหาร ก็เหมือนชะลอเวลาตายเท่านั้น

อยากหาทางช่วยให้พวกเขาชนะสงคราม และช่วยเขาฝ่าวงล้อม...

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มหาศาลมาก

เธอพยายามย้ายกล่องใหญ่ทั้งสี่กล่องไปที่ห้องนิรภัยชั้นใต้ดิน และล็อคประตูรักษาความปลอดภัยระดับธนาคาร

จากนั้นก็ถือกาสุราอย่างมีความสุข เช็ดมันไม่หยุด

ในที่สุดก็ฟ้าสางแล้ว!

*

จ้านเฉิงอิ้นและทหารทางนี้ ไม่ได้นอนกันทั้งคืน

มีทหารหลายสิบนายรู้เรื่องนี้ แม่ทัพหาคนไปทำความสะอาดสระน้ำตอนดึก ๆ

อยู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ

เทพยดาได้ยินคำอธิษฐาน และยินดีที่จะช่วยเหลือพวกเขา!

พวกทหารมีความสุขมากกว่าแม่ทัพเสียอีก ทั้งร้องไห้และหัวเราะ หัวเราะและร้องไห้

ดีใจมากจนไม่ได้หลับทั้งคืน

ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขาทั้งหมดต่างก็วิ่งไปที่จวนของแม่ทัพ แล้วถามแม่ทัพว่าใช่เรื่องจริงหรือไม่?

เทพยดาตอบรับคำขอแล้วจริง ๆ หรือ?

แม่ทัพยิ้มแต่ไม่พูดอะไร จากนั้นก็ยื่นจดหมายที่เย่มู่มู่เขียนให้พวกเขาดู

แน่นอนว่ามันเป็นจดหมายตอบกลับฉบับที่สอง

พวกทหารเห็นกระดาษที่ขาวราวกับหิมะ มันขาวมากจริง ๆ เหมือนกับหิมะ

บนกระดาษขาวมีตัวอักษรที่เป็นระเบียบ

เทพยดาให้แม่ทัพหาสระน้ำขนาดใหญ่ พรุ่งนี้จะเริ่มปล่อยน้ำให้…

ทุกคนร้องไห้ด้วยความดีใจ

ทหารหลายคนกอดกันร้องไห้อย่างขมขื่น

มีน้ำแล้ว!

พวกเขามีน้ำใช้แล้ว!

ไม่ต้องรอเทพยดาสั่งให้ฝนตกลงมา

ก็มีเทพยดาประทานน้ำให้พวกเขาเอง!

ในที่สุดพวกเขาก็จะมีชีวิตรอดแล้ว!

แม้แต่ลุงหลี่ที่ยืนอยู่หลังประตูก็แอบเช็ดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ

แม้ว่าด่านเจิ้นกวนจะยากลำบาก แต่พวกเขามีน้ำใช้แล้ว!

หากมีน้ำก็สามารถทำการผลิตได้ สามารถเพาะปลูกธัญพืชได้ คนทั้งเมืองก็จะมีชีวิตรอดไปได้

พวกเขามีความหวังแล้ว

*

ในที่สุดก็รุ่งสาง

ทุกคนต่างก็รอน้ำไหลออกมาจากแจกัน

ทว่า สิ่งแรกที่ออกมากลับเป็นหมั่นโถวเนื้อขาว เนื้อแน่น ๆ อุ่น ๆ เป็นหมั่นโถวแป้งสาลีละเอียดที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งใดเจือปน

จู่ ๆ ก็ร่วงลงมาจากปากแจกัน ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับฝนแปะ ๆ ๆ

เฉินขุยอดไม่ได้ที่จะเปิดถุงออกมา

ในหนึ่งถุงนั้นมีหมั่นโถวเนื้อขาวลูกใหญ่บรรจุอยู่สิบลูก

เขาหยิบออกมาหนึ่งลูก แล้วกัดไปหนึ่งคำอย่างแรง

“หอม นุ่ม หวานละมุนมาก!”

จากนั้น เขาก็แจกจ่ายหมั่นโถวสีขาวลูกใหญ่ให้กับแม่ทัพและทหารคนอื่น ๆ

ทุกคนได้ไปคนละลูก!

เมื่อเคี้ยวหมั่นโถวสีขาวก็ได้ลิ้มรสความหอมหวานนุ่มละมุนลิ้น ที่คละคลุ้งอยู่ในปากก็คือความหวาน ไม่มีหินกรวดเจือปนอยู่ ไม่มีรำข้าวสาลีหรือกากน้ำตาล ไม่แห้ง ไม่ฝืดคอ

เฉินขุยทอดถอนใจแล้วกล่าวว่า “เทพเซียนกินหมั่นโถวที่รสชาติล้ำเลิศเช่นนี้หรือ พวกเราคนธรรมดาเทียบไม่ติดเลยสักนิด!”

“มันช่างอร่อยมากจริง ๆ!” อู๋ซานหลางกล่าว

คนอื่นก็พากันพูดคล้อยตาม

พวกเขานับถุงหมั่นโถวได้ทั้งหมดหนึ่งร้อยถุง เมื่อกินไปหนึ่งถุงก็ยังเหลืออยู่เก้าสิบเก้าถุง ถูกจัดวางเอาไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

พอจัดการกับหมั่นโถวเสร็จแล้ว ก็คิดว่าน่าจะปล่อยน้ำลงมาแล้ว เถียนฉินและสวี่หมิงจึงยกถังน้ำขึ้นมาเตรียมใส่น้ำ

แต่สุดท้าย ฟรึ่บ...

จู่ ๆ ซาลาเปาถุงหนึ่งร้อยถุงก็ตกลงมาใส่ถังทั้งหมด

ล้วนเป็นซาลาเปาเนื้อลูกใหญ่ กลิ่นหอมโชยออกมาพร้อมกับไอร้อน ๆ

ซาลาเปาก็มีถุงละสิบลูกเช่นกัน

พวกทหารกลืนน้ำลายเสียงดัง ต่อให้อยากกินมากแค่ไหนก็ไม่กล้าเปิด

สัดส่วนเสบียงในวันนี้ก็แบ่งเสร็จแล้ว

จากนั้นก็มีหมั่วโถวเกลียว ขนมปังอบไส้เนื้อผัก ขนมปังไส้เนื้อ...ทั้งหมดนี้ตกลงมาไม่หยุด

เมื่อทุกคนเห็นของพวกนี้ ก็อดใจไม่ไหวแล้ว

โดยเฉพาะขนมปังไส้เนื้อ ทหารส่วนใหญ่มาจากทางเหนือ ของกินเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเกิดก็คือขนมปังไส้เนื้อ

ขนมปังไส้เนื้อที่ขายในบ้านเกิด เป็นขนมปังแบน ๆ ใส่ไส้เนื้อเพียงนิดเดียว ที่เหลือก็เป็นผักตากแห้งทั้งหมด

ส่วนขนมปังไส้เนื้อที่เทพยดามอบให้นั้นเต็มไปด้วยเนื้อที่ผสมกับน้ำมัน มันมากจนล้นออกมา

พวกเขาทั้งสิบคนอยากกินมาก แทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว

จ้านเฉิงอิ้นเปิดถุงแล้วแบ่งประเภทต่าง ๆ ออกมาเป็นส่วน ๆ!

ให้พวกเขาเอากลับไปที่บ้าน

พวกทหารต่างคุกเข่าปฏิเสธ

“ท่านแม่ทัพ เช่นนี้มันผิดกฎขอรับ ควรจะให้อาหารกับกองทัพก่อน”

“ท่านแม่ทัพ เมื่อวานนี้พวกเรานำกล่องอาหารกลับบ้านไป ภรรยาและลูกก็ได้กินอาหารแล้ว วันนี้พวกเขาก็พอมีกินอยู่ ไม่ต้องเอากลับไปบ้านแล้วก็ได้ขอรับ”

อู๋ซานหลางยังกล่าวอีกว่า “ท่านแม่ทัพ เมื่อวานนี้เสี่ยวเอ๋อร์เกือบอดตาย โชคดีที่อาหารมาทันเวลาช่วยชีวิตเขาไว้ได้ วันนี้เอากลับไปที่กองทัพก่อนเถอะ”

“ตอนนี้ขวัญกำลังใจของทหารตกต่ำมาก และพวกเขาก็หิวโหยจนไม่มีแรง ถ้าเรานำอาหารนี้กลับไป มันต้องเพิ่มกำลังใจให้เหล่าทหารอย่างแน่นอนขอรับ!”

เมื่อเห็นเหล่าทหารปฏิเสธอย่างหนักแน่น จ้านเฉิงอิ้นก็นำหมั่นโถวและขนมปังไส้เนื้อออกมา พร้อมกับยัดเข้าไปในอกของพวกเขา

“เอาไปส่งให้ที่บ้านเถอะ ที่เหลือก็เอากลับไปในค่าย”

ทหารหลายคนดีใจและรีบเอาเข้าไปซ่อนไว้ในอก

นี่เป็นหมั่นโถวสีขาวลูกใหญ่และขนมปังไส้เนื้อที่เต็มไปด้วยเนื้อเชียวนะ

ครอบครัวจะต้องดีใจมากแน่นอน

หลังจากทหารจากไป จ้านเฉิงอวิ้นก็หยิบหมั่นโถวและขนมปังไส้เนื้อแบ่งให้เถียนฉิน สวี่หมิงและลุงหลี่

พวกเขาทั้งสามไม่มีครอบครัว ดังนั้นพวกเขาจึงหยิบไปเพียงขนมปังไส้เนื้อและหมั่นโถวกลับไป

แม้ว่าจะเป็นขนมปังไส้เนื้อ ก็กินเพียงครึ่งเล็ก ๆ ที่เหลือก็ยัดเข้าไปในถุงเล็ก ๆ แล้วเก็บไว้ในอก

*

เย่มู่มู่ได้รับโทรศัพท์หลายสายตั้งแต่เช้าตรู่ เธอซื้อของไปจำนวนมาก

โรงงานของร้านในอินเทอร์เน็ตใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการผลิตและใช้เวลาสิบวันในการจัดส่ง

ไม่มีทางอื่น เธอทำได้เพียงรอเท่านั้น

เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชในท้องถิ่น ทันทีที่ตื่นขึ้นมาก็พบกับรายการสั่งซื้อจำนวนมาก จึงไปตรวจสินค้าในสต๊อก พบว่าสินค้าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ

จึงทำได้เพียงส่งข้าวสารสองร้อยถุงและแป้งสาลีห้าสิบถุงมาก่อน แต่น้ำมันและเกลือในคลังยังมีอยู่ ที่เหลือถูกจัดส่งมาจากที่อื่น!

เธอบอกให้รีบจัดส่งโดยด่วน!

หลังดิลิเวอรีมาส่ง เธอก็ใช้รถเข็นเล็ก ๆ เข็นจากประตูคฤหาสน์มาที่ห้องรับแขก ทำแบบนี้อยู่สิบรอบเต็ม ๆ

เมื่อเธอส่งซาลาเปาหมั่นโถวเสร็จแล้ว ก็ไปดูบ่อน้ำที่สวนหลังบ้าน

คฤหาสน์ของเธอตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำสองสาย พ่อของเธอบอกว่าน้ำจะนำพาความร่ำรวย ดังนั้นบริเวณนี้จึงเป็นสุดยอดทำเลทอง เขาจึงตั้งใจซื้อบ้านที่นี่

สวนหลังบ้านมีพื้นที่อยู่สองหมู่ มีบ่อน้ำอยู่บ่อหนึ่ง บ่อน้ำที่พ่อบอกว่าเป็นน้ำบาดาลซึ่งสร้างด้วยปูน

ตอนนี้เป็นฤดูฝน น้ำในแม่น้ำขุ่นและระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ

น้ำในบ่อก็ยังไหลอย่างต่อเนื่อง

น้ำใสมาก เธอลองชิมแล้ว รสชาติเหมือนน้ำแร่จากภูเขา

เธอต่อท่อลงในบ่อน้ำ แล้วเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เชื่อมกับแจกัน

ก่อนที่เธอจะเริ่มติดเครื่องสูบน้ำ เธอเอาถุงข้าวที่เหลืออยู่ในบ้านสามถุงและแป้งหนึ่งถุง เข็นมาข้าง ๆ แจกันดอกไม้

เธอตบแจกันดอกไม้แล้วข่มขู่ว่า “ส่งข้าวนี้ไป ไม่งั้นฉันจะขังแกไว้ในห้องใต้ดินซะ!”

ฟรึ่บ ถุงข้าวใบใหญ่ก็หายไป

โอ้โฮ!

แจกันดอกไม้สามารถถ่ายทอดความคิดได้!

เธอเขียนจดหมายหนึ่งฉบับใส่ลงไปในแจกัน

“บ่ายนี้จะส่งข้าวสองร้อยถุงและแป้งห้าสิบถุงให้!”

“ระวัง จะปล่อยน้ำแล้ว”

เธอเปิดเครื่องสูบน้ำ

น้ำไหลแรงมาก ไหลเข้าไปในแจกันจ๋อม ๆ ไม่มีล้นออกมาเลย

[1]หมู่ เป็นหน่วยวัดพื้นที่ในภาษาจีน โดย 1 หมู่ = 0.416667 ไร่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status