Share

บทที่ 12

Author: มู่โร่ว
เขาหยิบผ้าพันแผลที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ยังมีสำลีฆ่าเชื้อ เข็มฉีดยา น้ำยาฆ่าเชื้อเตี่ยนฝู[1]…

และมีอุปกรณ์ผ่าตัดนานาชนิด ทั้งมีดผ่าตัด คีมผ่าตัด…

เขาตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นประโยค “ท่านแม่ทัพ นะ นี่มันยาฆ่าเชื้อ ใช่…?”

จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้าให้เขา

ซ่งอวิ๋นฮุยกำคีมผ่าตัดในมืออย่างตื้นตันจนไม่อาจบรรยาย!

ท่านเทพยดามอบให้แก่พวกเขา

ท่านเทพยดาไม่เพียงส่งยามาให้ ยังส่งวิทยาการด้านการแพทย์ที่ล้ำยุคมาให้ด้วย

คีมผ่าตัด กรรไกรผ่าตัด…เครื่องมือเหล่านี้ประณีตกว่าของในสำนักหมอหลวงหลายเท่า!

จ้านเฉิงอิ้นมอบหนังสือ ‘คู่มือหมอเท้าเปล่า’ ให้ซ่งอวิ๋นฮุยหนึ่งเล่ม

เขาเปิดอ่านอย่างไม่รีรอ เห็นในตำรามีเทียบยาที่เอาไว้ใช้รับมือกับโรคระบาด ก็พลันดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง

“ท่านแม่ทัพ มีเทียบยาที่เอาไว้ใช้รักษาโรคระบาดต่าง ๆ อยู่ด้วย! มีตำราเล่มนี้อยู่ หมอในแคว้นต้าฉี่ก็ไม่ต้องปวดหัวกับโรคระบาดอีกแล้ว!”

จ้านเฉิงอิ้นยิ้มตอบ “หมอทหารซ่ง ท่านนำกลับไปศึกษาเสีย ยังมียาเหล่านี้อีก มีวิธีใช้เขียนติดอยู่บนถุง”

ด้วยกลัวว่าเขาจะไม่รู้อักษร จึงได้มอบตารางโครงสร้างส่วนประกอบอักษรแบบใหม่ให้เขาด้วย

ส่วนหมอทหารที่เหลือ ก็ได้ร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Mayuree Dinn
สนุกมาก แปลกใหม่ดี
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 13

    เฉินขุยเห็นจ้านเฉิงอิ้นสีหน้าไม่ค่อยดีนัก จึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “ท่านแม่ทัพ ทางเมืองหลวงส่งข่าวอันใดมาหรือขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้นยื่นจดหมายให้เขาเขาคลี่จดหมายออก ขณะที่นายทหารที่เหลือเองก็รุมล้อมเข้ามาดูด้วยเห็นเพียงข้อความหนึ่งเขียนไว้ว่า ‘ปกป้องสุดชีวิต’!เฉินขุยสบถออกมาด้วยความเดือดดาล “เดิมทีพวกข้ามีทหารหนึ่งหมื่นนาย ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ร้อย ไม่ส่งอาหารส่งน้ำมา ไม่ส่งกำลังเสริมมาไม่พอ มิหนำซ้ำยังสั่งให้ปกป้องเมืองไว้สุดชีวิตอีกงั้นเรอะ!”“นี่เท่ากับสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตายไม่ใช่หรือ?”อู๋ซานหลางขมวดคิ้วมุ่น “ท่านแม่ทัพ ไม่มีกำลังเสริมแล้วจริงหรือขอรับ?”ถึงแม้พวกเขามีเสบียงแล้ว แต่ทหารสองหมื่นนายจะทัดทานทหารสามแสนนายจากเผ่าหมานได้อย่างไร!หากเรื่องที่พวกเขามีเสบียงอาหารและน้ำแพร่งพรายออกไป เผ่าหมานจะต้องบุกรุกเข้ามายึดเมือง แย่งเสบียงอาหารทั้งหมดไปเป็นแน่บรรยากาศอึดอัดและตึงเครียดจนถึงขีดสุด!เฉินขุยเอ่ยต่อว่า “กองทัพหนึ่งแสนนายของแม่ทัพสวีหวยก็อยู่ห่างจากด่านเจิ้นกวานเพียงไม่กี่ร้อยลี้ เหตุใดฮ่องเต้น้อยจึงไม่มีราชโองการให้เขามาช่วยเหลือ หรือจะมองดูด่านเจิ้นกวนถูก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 14

    พวกเขาเลียนแบบนายกองจ้าวจง พากันยกหัวไชเท้าแดงขึ้นมาลองกัดอย่างระมัดระวังหนึ่งคำจากนั้นก็เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ มีรสชาติหวานจริง ๆ!พวกเขากลืนกินหัวไชเท้าแดงหมดภายในไม่กี่คำ ถึงขั้นไม่ทันได้เคี้ยวให้ละเอียดด้วยซ้ำหลินต้าจวินเห็นพวกเขากินหมดแล้ว จึงกำชับพวกเขาว่า “เบาเสียงหน่อย ย้ายเสบียงไปที่ค่ายทหารก่อน!”พวกเขานำข้าวสารหนึ่งถุงใส่ตะกร้าก่อน จากนั้นก็ทับด้วยน้ำมันหนึ่งถัง แป้งสาลีหนึ่งถุง ตามด้วยเกลือทำอาหารอีกจำนวนหนึ่ง ปิดท้ายด้วยการวางผักกาดขาว และกะหล่ำปลีครั้นเห็นช่องว่างในตะกร้าก็เสียบมะเขือยาว มะเขือเทศและหัวไชเท้าแดงแซมเข้าไป…ตะกร้าไผ่กว้างมาก ทว่าพวกเขาก็ยังคงใส่ของมากเกินจนทำให้ปากตะกร้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยแต่พวกเขาไม่มีเวลาสนใจแล้ว ค่ายทหารอยู่ห่างจากค่ายทหารถึงสองลี้ ประตูด้านหลังมีเกวียนจอดอยู่ด้านนอกเกวียนหนึ่งเล่มสามารถใส่ตะกร้าได้สี่ตะกร้าพวกเขาใส่ของเต็มเกวียนสี่เล่ม อาศัยกำลังคนในการลากทั้งสิ้นในค่ายทหารมีม้า ทว่าม้าล้วนหิวจนผอมเหลือแต่กระดูก บางตัวก็ลุกไม่ไหว จึงทำได้เพียงอาศัยแรงคนเท่านั้นเพื่อปกป้องทรัพยกรชุดนี้ เฉินขุยกับหลินต้าจวินควบคุมการข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 15

    หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม จ้านเฉิงอิ้นได้รับถังทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีตราสแตนเลสเกรดอาหารสามศูนย์สี่ประทับอยู่ถึงหนึ่งร้อยใบความใหญ่ของถังนั่นเทียบได้กับอ่างอาบน้ำทีเดียวหนำซ้ำยังใช้แต่เหล็กเนื้อดี ไม่ ทำมาจากเหล็กกล้าชั้นดีต่างหากผิวเหล็กเรียบลื่นจนเห็นเงาสะท้อนของคน ไม่มีรอยบุบแม้แต่น้อยวิทยาการในการผลิตล้ำยุค ทั่วทั้งแคว้นต้าฉี่ หรือแม้แต่ทั่วทั้งแผ่นดินหัวเซี่ย ล้วนหาฝีมือแบบนี้ไม่ได้ยังมีถาดทรงสี่เหลี่ยมอีกสามร้อยใบ ล้วนมีวัสดุเหมือนกันเหล่านายกองเห็นก็อดอุทานด้วยความแปลกใจไม่ได้เฉินขุยยกถังใหญ่ใบหนึ่งในนั้นขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ หนักมาก หากนำเหล็กกล้าชั้นดีเยี่ยงนี้มาตีเป็นอาวุธ จะต้องตัดเหล็กได้ดุจดินเหนียว และมีกำลังต่อสู้เพิ่มขึ้นหลายเท่าเป็นแน่!”“ท่านเทพยดาถึงขั้นใช้ถังเหล็กกล้าเช่นนี้มาทำอาหาร ช่างเสียของจริง ๆ!”เหล่าทหารต่างก็รู้สึกเสียดายอย่างมากหากนำมาผลิตเป็นอาวุธจะดีสักแค่ไหนกันตอนนี้หัวหอกส่วนใหญ่ของเหล่าทหารล้วนทำมาจากทองสำริด ทองสำริดแข็งและคมสู้เหล็กกล้าไม่ได้อยู่แล้วซ่งตั๋วดูแลคลังอาวุธ ขอเพียงท่านแม่ทัพมีคำสั่ง เขาก็สามารถหาคนมานำอุปกรณ์เหล่านี้หลอมแล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 16

    แต่เมื่อเห็นอาหารปรุงสำเร็จเหล่านี้ เขาก็รู้สึกว่าชีวิตของเขาก็แค่นี้เอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานไหน ไม่ต้องพูดถึงพ่อครัวของจวนแม่ทัพ ต่อให้เป็นพ่อครัวทั้งใต้หล้านี้ก็ไม่แน่ว่าจะจำส่วนผสมได้ทั้งหมด จ้านเฉิงอิ้นเอ่ย: “เก็บไว้ให้แม่ทัพหลินและแม่ทัพเฉินขุยหนึ่งชุด ส่วนที่เหลือก็ให้ทุกคนได้กินด้วยกัน” เมื่ออาหลี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หยิบอาหารสองจานออกมา และเก็บข้าวไว้สองชาม! ขณะทุกคนกำลังถือชามและตะเกียบอยู่ในมือ เตรียมจะเริ่มกินนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากนอกประตู “ท่านแม่ทัพ เสบียงถูกผู้ลี้ภัยปล้นไปแล้ว” ทันใดนั้น จ้านเฉิงอิ้นก็วางตะเกียบในมือลงและลุกขึ้นยืน นายทหารทั้งแปดวางชามและตะเกียบลง แล้วรีบเดินไปที่ประตูพร้อมกับแม่ทัพ นายทหารน้อยที่มาดูเหมือนจะอายุประมาณสิบกว่าปี ใบหน้ายังเหมือนเด็กอยู่ แขนของเขาได้รับบาดเจ็บ และมีเลือดไหลออกมา เขาพูดด้วยเสียงสั่นเทา: “ผู้ลี้ภัยกว่าร้อยคนสกัดกั้นเสบียงไว้ที่ท้ายตรอก แม่ทัพหลินยากที่จะก้าวเดินต่อไป แม่ทัพเฉินขุยสกัดกั้นอยู่ด้านหลัง มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย” เมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้ยินเช่นนี้ เขาก็สวมชุดเกราะและหยิบอาวุธ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 17

    ที่เกิดเหตุมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งรุนแรง ซากศพนอนเกลื่อนกลาด เมื่อจ้านเฉิงอิ้นเห็นภาพเช่นนี้ ดวงตาสองข้างของเขาก็แดงก่ำ เขาตะโกนว่า “ทุกคนจงหยุด!” เหล่าผู้ลี้ภัยเห็นแม่ทัพพาทหารนับร้อยนายมาล้อมรอบพวกเขาไว้จากทุกทิศทุกทาง การปล้นเสบียงทหารล้มเหลวแล้ว พวกเขาหมดหวังอย่างสิ้นเชิง เคร้ง อาวุธในมือของคนจำนวนไม่น้อยตกลงพื้น พวกเขารู้ว่าการปล้นเสบียงจะมีผลอะไรตามมา พวกเขาไม่เสียใจที่ปล้นเสบียง! แม้ว่าจะต้องตายก็ยอมรับ สิ่งที่พวกเขาเสียใจคือ ก่อนตายพวกเขาไม่สามารถทำให้คนแก่และเด็กในบ้านที่กำลังจะอดตายได้กินข้าวสักคำ... นี่มันสิ้นหวังกว่าการฆ่าพวกเขาซะอีก ชายร่างใหญ่ในวัยสามสิบต้น ๆ ปล่อยมีดทำครัวในมือหล่นลงพื้น แล้วคุกเข่าลง เขาพูดอย่างเศร้าโศกว่า: “ท่านแม่ทัพ เรารู้ว่าการปล้นเสบียงทหารจะมีผลอะไรตามมา แม้ข้าตายก็ไม่เป็นไร แต่ขอร้องท่านให้ลูกข้าได้กินสักหน่อย ลูกข้ากำลังจะอดตายแล้ว” ส่วนภรรยาของเขาก็กอดลูกที่หายใจรวยริน มาขวางหน้าเกวียนไว้พร้อมร้องไห้โฮ “ท่านพี่ ถ้าท่านตาย ข้าและลูกก็จะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!” ภรรยาของเขาพูดไปพลางอุ้มลูกขึ้นมา กำลังจะวิ่งไปชนกำแพง แต่ถู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 18

    และยุยงให้พวกเขาปล้นธัญพืช ภายใต้สถานการณ์ที่ผู้คนกำลังจะอดตาย พวกเขากล้าทำทุกอย่าง แต่จ้าวโหย่วไฉ่ไม่ควรปล่อยให้คนชรา คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็กไปขวางรถ ปล่อยให้ผู้หญิงกอดลูกมองดูสามีถูกฆ่าตาย เขาไม่ได้ปรึกษากับตนเองเลยตลอดกระบวนการ มันเป็นการรวมกลุ่มกันอย่างลับ ๆ โดยไม่ใส่ใจชีวิตของคนชรา คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก! บัดนี้จวนแม่ทัพเต็มใจเปิดคลังแจกจ่ายอาหารแล้ว แต่เขากลับตื่นเต้นมาก ทำไม เขายังคิดจัดคนให้บุกเข้าไปในจวนแม่ทัพเพื่อปล้นเสบียงอีก? ในวินาทีถัดมา เขาก็โพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ “พี่เหวย พวกเราจัดคนบุกจวนแม่ทัพ ลงมือทำงานใหญ่กันเถอะ!” ทันใดนั้น เหวยกวงก็บีบคอเขา พร้อมกัดฟันพูดด้วยความโกรธว่า “เจ้าเป็นคนเรียกคนที่ออกมาในวันนี้ทั้งหมดหรือ” จ้าวโหย่วไฉ่หัวเราะแห้ง ๆ สองสามครั้ง พยายามจะแกะมือของเหวยกวงออก เหวยกวงตัวสูง แม้ว่าตอนนี้จะผอมลงไม่น้อย แต่จ้าวโหย่วไฉ่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “พี่เหวย หรือพี่ไม่อยากให้ทุกคนกินอิ่มหรือ?” เหวยกวงพูดอย่างโหดเหี้ยม: “จวนแม่ทัพเปิดคลังแจกจ่ายอาหารแล้ว ชาวเมืองทั้งเมืองจะได้กินข้าว” “มันมีประโ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 19

    หญิงชราที่เขาเคยให้ข้าวปั้นก้อนเล็ก ๆ คราวก่อนอุ้มหลานสาวมาตรงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น ดวงตาของนางไม่มีความสิ้นหวังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับมีชีวิตชีวาขึ้น นางและหลานสาวคุกเข่าลงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น “ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเราสองคนย่าหลาน!” พูดพลางหญิงชราก็มอบแท่งหมึกครึ่งก้อนซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวนางให้ไป “ท่านแม่ทัพ ข้าไม่มีอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ได้ นี่เป็นแท่นหมึกครึ่งก้อนที่ลูกชายของข้าทิ้งไว้เมื่อครั้งไปร่ำเรียน ตอนนี้ลูกชายกับลูกสะใภ้จากไปแล้ว เหลือไว้แต่หลานสาว ขอให้ท่านแม่ทัพรับไว้ด้วยเถิด!” เมื่อมีหญิงชราเป็นผู้ให้คนแรก ชาวบ้านที่เหลือก็มอบสิ่งของที่มีค่าที่สุดในสายตาของพวกเขาให้กับแม่ทัพด้วยเช่นกัน บางคนให้ม้วนไม้ไผ่ บางคนให้เหรียญทองแดง บางคนให้หยกที่สืบทอดกันมาในตระกูล พ่อค้าผู้มั่งคั่งที่เคยทำธุรกิจในด่านเจิ้นกวน ได้มอบเมล็ดแตงทองคำและถั่วทองคำ... แต่ส่วนใหญ่จะให้รากของผักป่า รากผักในเมืองทั้งหมดถูกขุดออกมาจนหมดเกลี้ยง ไม่รู้ว่าชาวบ้านเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้นานแค่ไหนแล้ว หญ้าเหี่ยวแห้ง รากผักเต็มไปด้วยทราย... จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับรากผักเอาไว้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 20

    เขาเปิด ‘คู่มือฝึกทหารอาสา’ ‘ตำราการใช้คนที่มีความสามารถ’ และ ‘ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ’ จุดตะเกียงอ่านหนังสือยามค่ำคืน*เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เครื่องสูบน้ำหยุดทำงานแล้ว เมื่อคืนเธอซื้อเครื่องสูบน้ำที่ใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มอีกสามเครื่อง ท่อน้ำมีความหนาเป็นสองเท่าของท่อเดิม และให้ท่อสามท่อนสูบน้ำพร้อมกัน น้ำไหลเชี่ยวราวกับน้ำท่วม เมื่อน้ำมันดีเซลหมดแล้ว เครื่องสูบน้ำก็หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เธอเห็นห่อเล็ก ๆ ข้างแจกัน เมื่อเธอเปิดห่อออกมา ก็เห็นม้วนไม้ไผ่ หยก เมล็ดแตงทองคำ ถั่วทองคำ แท่นฝนหมึก แท่นหมึก ชามกระเบื้อง แก้วกระเบื้อง... แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของเด็กผู้หญิงก็ยังมี และมีจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นเขียนไว้ “ข้าได้เปิดโรงทานโจ๊กแล้ว ชาวเมืองทั้งเมืองกำลังต่อแถวรับโจ๊ก...” เขาบอกว่าของขวัญทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งของและเครื่องบรรณาการที่ชาวบ้านนำมามอบให้เพื่อขอบคุณเทพเจ้า หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเก่า มีมูลค่ามหาศาล เธอจะรังเกียจได้ยังไง! เขายังกล่าวอีกว่า เมื่อเปิดเผยแล้ว จะไม่สามารถปิดบังเรื่องที่มีน้ำและเสบียงอาหารอยู่ในเมืองได้อีกต่อไป เผ่

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 387

    เมื่อครู่พวกเขาต่างตั้งใจฟังอย่างจดจ่อซุนหลินได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารกว่าพันชั่ง!นี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านไม่ได้ขาดแคลนเสบียงสำหรับชาวแคว้นต้าฉี่ที่เผชิญกับภัยแล้งมาเกือบปี ข้าวปลาอาหารและแหล่งน้ำมีเสน่ห์ดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้พวกเขาหิวและกระหายเกินกว่าจะอดทนไหว แม้ในเมืองหยงโจวจะมีโจ๊กแจก แต่ในแต่ละวันกลับได้เพียงถ้วยเล็ก ๆ ของโจ๊กข้าวโพด ซึ่งไม่พอให้ประทังความหิวได้เลยผู้คนมากมายต่างพยายามทุกวิถีทางที่จะลอกเปลือกไม้ หรือขุดหาผักป่า...ในเมืองหยงโจว เมื่อจำนวนผู้คนเพิ่มมากขึ้น ผู้คนถึงกับทะเลาะวิวาทแย่งชิงรากหญ้าและเปลือกไม้ จนถึงขั้นมีการฆ่ากันตายก็ไม่น้อยขณะนั้น ชาวบ้านสี่ร้อยคนต่างจ้องมองด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง หลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้ปากถ้ำโดยไม่รู้ตัวเฉินจวิ้นหลินและเหล่าทหารผ่านศึกอีกสิบกว่าคน ได้นำเสบียงอาหารที่เหลือจากคนสองร้อยกว่าชีวิตที่เสียชีวิตไปแล้วออกมาแจกจ่ายนอกจากสิ่งที่ถูกระเบิดจนเสียหายและไม่สามารถกินได้ พวกเขายังนำแป้งห่อจำนวนมาก โจ๊กธัญพืชแปดชนิดสองร้อยกระป๋อง และขนมปังแข็งกว่าสองร้อยกล่องออกมาแจกจ่ายเฉินจวิ้นหลินพูด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 386

    “ครอบครัวและชาวบ้านในหมู่บ้านจะอยู่รอดไปได้อีกสักระยะ!”ซุนหลินยังคงจินตนาการถึงความสุขในการที่ตนนำเสบียงกลับไปให้ครอบครัวแต่เมื่อชาวบ้านสี่ร้อยคนได้ยินเรื่องเสบียงกว่าหนึ่งพันชั่งดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองไปที่ซุนหลินอย่างแน่วแน่เสบียงอาหาร หนึ่งพันกว่าชั่งเชียวนะหากนำไปต้มเป็นโจ๊ก จะเลี้ยงคนได้มากแค่ไหนกันเมื่อซุนเฮ่อได้ยินคำพูดของซุนหลิน ริมฝีปากก็ขยับ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว“ท่านลุงสาม เหตุใดถึงไม่พูดอะไรเลยเล่า ครอบครัวสบายดีหรือไม่?”ซุนหลินยังคงจมอยู่ในจินตนาการของตัวเอง พอเห็นซุนเฮ่อไม่พูดอะไร จึงเงยหน้ามองเขาแต่สิ่งที่เห็นคือ ดวงตาของซุนเฮ่อเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง เขาดูเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่หยาดน้ำตาในดวงตานั้นกลับแห้งเหือดไปหมดแล้วเขาเบิกตาแดงก่ำ ก่อนจะก้มศีรษะหนักอึ้งลงต่ำก้มหน้าอยู่นานก่อนจะพูดว่า “พวกเจ้า... ครอบครัวของพวกเจ้า... ตายหมดแล้ว!”“คนทั้งหมู่บ้าน... มีเพียงสามชีวิตที่รอด หนึ่งคือข้า และอีกสองคน...”ซุนหลินกระชากคอเสื้อของซุนเฮ่ออย่างแรง ยกตัวเขาที่ผอมแห้งลอยขึ้นจากพื้นดวงตาของซุนหลินแดงฉานเต็มไปด้วยความ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 385

    จ้านเฉิงอิ้นและคนอื่น ๆ อีกหลายคนเดินออกมาส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึก ซึ่งมีคนหนึ่งจำซุนเฮ่อได้เขาตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ลุง ลุงสาม... ทำไมถึงเป็นท่าน?”“ท่านมาที่ช่องเขาเป้าเสียได้อย่างไร?”คนที่จำซุนเฮ่อได้ ชื่อซุนหลิน อายุยี่สิบกว่าปี เข้าร่วมกองทัพมาห้าปีแล้ว!เขาเป็นนายกองพันภายใต้การบังคับบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน แต่พบว่าตนเองไม่ได้สังหารศัตรูมากเท่าคนอื่น จึงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีอย่างมากหลังจากนั้น ก็อาสาเป็นทหารทัพหน้าบุกทะลวงแม้จะต้องเสี่ยงอันตรายแม้ว่าทหารทัพหน้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ก็พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเขาเป็นคนกล้าหาญ พยายามเป็นทหารทัพหน้าและสังหารศัตรูมากมายสะสมเสบียงอาหารได้มากกว่าหนึ่งพันชั่ง แป้งสาลีแปดร้อยชั่งได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองพันครั้งนี้ที่เข้าไปในหุบเขา ซุนหลินก็ลุงสามาเองเขาอยากได้พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีกสองสามชุด เพื่อมอบให้กับคนในหมู่บ้านแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับซุนเฮ่อที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่นี่ซุนเฮ่อเป็นลุงสามของเขา เป็นคนในตระกูลเดียวกัน!เขาวิ่งออกมาด้วยความดีใจ วิ่งไปหาซุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 384

    “ใครก็ได้ ไปเฝ้าบริเวณใกล้ถ้ำที่จ้านเฉิงอิ้นซ่อนตัวอยู่ หากเกิดระเบิดแล้วยังไม่ตาย ให้คอยสกัดไม่ให้คนด้านในหลบหนีออกมาได้...”มู่ซาถาม “จะให้ส่งไปกี่คน?”“ยี่สิบคน ล้อมเอาไว้อย่าให้เหลือไปแม้แต่คนเดียว”“ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนี้ก็ได้กระมัง?”แม่ทัพแคว้นฉู่เจียงเหว่ยพูดว่า “เจ้าไม่รู้อะไร เกราะป้องกันของจ้านเฉิงอิ้นอยู่ในระดับสูงมาก สามารถต้านทานการโจมตีจากคนสิบคนได้เพียงลำพัง และอาวุธก็แหลมคม สามารถฟันดาบเสี้ยวของพวกเผ่าหมานได้ง่ายดายราวกับหั่นผักหั่นปลา”“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เมื่อระบุตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว ทุกคนจงล้อมที่นี่ไว้ให้แน่นหนา ห้ามปล่อยให้คนข้างในหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว”แม่ทัพทั้งสี่แคว้นต่างก็ให้ความสำคัญพวกเขารู้ดีว่า หากฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้ ประชาชนต้าฉี่ก็จะกลายเป็นเสบียงของแคว้นต่าง ๆ ของพวกเขาไม่มีเสบียงแล้วจะทำไม?ชาวต้าฉี่มีจำนวนมาก เพียงพอให้พวกเขากินได้อีกนานผ่านพ้นช่วงความอดอยากไปได้อย่างไม่มีปัญหาเลยยิ่งไปกว่านั้น ราชวงศ์ต้าฉี่ก็ร่ำรวยได้ยินมาว่า ทรัพย์สมบัติในวังหลวงนั้นกองสูงเป็นภูเขาเสนาบดีซูยังรวบรวมสมบัติล้ำค่าหายากให้กับฮ่องเต้น้อย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 383

    ในที่สุดซุนเฮ่อและคนสี่ร้อยคนก็ถูกเยี่ยนเย่ปล่อยตัวไปทำไมหรือ?พวกเขาก็กลัวตายเหมือนกันในถ้ำมีคนมากกว่าสามหมื่นคน ซุนเฮ่อและพรรคพวกมีเพียงสี่ร้อยกว่าคนหากมีคนใดคนหนึ่งจุดชนวนดินระเบิด ทุกคนจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ดินระเบิดสี่ร้อยห่อ ใครก็หนีไม่รอดจะทำให้ภูเขาถล่ม ทุกคนจะถูกฝังอยู่ใต้ภูเขาไม่คุ้มค่าพวกเขามาเพื่อสกัดกั้นจ้านเฉิงอิ้น ไม่ใช่มาตายตามดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยให้ซุนเฮ่อและคนอื่น ๆ แบกพลั่วเดินออกจากถ้ำเมื่อเดินออกมา มีคนรายงานเยี่ยนเย่“ท่านอ๋อง พบตำแหน่งของคนสองพันคนของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว”“เจ้าหนูพวกนั้นตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” เยี่ยนเย่ดีใจมาก“ที่ทางเข้าด้านหน้าห่างไปห้าลี้ เดิมทีเรามีคนซุ่มอยู่ตรงนั้น แต่ถูกจ้านเฉิงอิ้นเก็บกวาดจนหมด ตอนระเบิดที่หน้าประตู คนของเขาก็ซ่อนตัวเข้าไปหมดแล้ว!”เดิมทีซุนเฮ่อที่เดินออกจากปากถ้ำได้ยินดังนั้น ก็ก้าวเท้าออกไปแล้วก็หดกลับมาเขาหันกลับไปมองทหารที่ส่งข่าว“จริงหรือ?”“ขอรับ พวกเราเพิ่งรีบมาจากที่นั่น!”“เขาซ่อนตัวอยู่ในปากถ้ำนั้นหรือ?”“ปากถ้ำที่ใหญ่ที่สุดห่างจากทางเข้าห้าลี้ ทางเข้ามีศิลาจารึกสิบแผ่น เมื่อก่อนเคยเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 382

    ทันใดนั้น เสื้อตัวในของซุนหย่าปาก็ถูกถอดออก เผยให้เห็นคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปื้อนอยู่ เสื้อชั้นในสีขาวถูกย้อมจนกลายเป็นสีเข้มจวงเหลียงใช้เสื้อตัวในสัมผัสกับกระดาษ แล้วใส่ลงในแจกันกระดาษพลันหายไปส่งผ่านไปได้จริง ๆการค้นพบนี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายมีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาได้จริงด้วย แม้ว่าท่านแม่ทัพจะไม่อยู่แล้ว แต่การใช้สิ่งของที่เปื้อนเลือดของเขาก็สามารถส่งกระดาษไปได้ ส่วนสิ่งของอื่น ๆ พวกเขายังไม่ได้ลอง ไม่รู้ว่าได้หรือไม่จวงเหลียงใช้ปากกาลูกลื่นเขียน“ท่านเทพ ข้าคือจวงเหลียง กุนซือของรัฐทายาท ท่านแม่ทัพได้เข้าไปในช่องเขาเป็นเวลาครึ่งก้านธูปแล้ว ภายในช่องเขามีเสียงดินระเบิด พวกเราไม่สามารถติดต่อเขาได้”“กองทัพธงเหลืองร่วมมือกับแคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไร กองทัพธงเหลืองสามารถผลิตดินระเบิดได้ ตอนนี้ช่องเขามีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง”*เย่มู่มู่เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตนเองส่งไป ถูกส่งกลับมาด้านหลังว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยจากนั้น ไม่กี่นาทีต่อมา กระดาษอีกแผ่นก็ร่วงลงมาบนนั้นเขียนว่า จ้านเฉิงอิ้นเข้าไปในช่องเขาแล้วและ...ฝ่ายตร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 381

    เย่มู่มู่เขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นหลายฉบับ แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับแม้แต่ฉบับเดียวเธอเดาว่า จ้านเฉิงอิ้นเข้าไปในช่องเขาแล้วหรือไม่?หากในช่องเขามีการซุ่มโจมตี จ้านเฉิงอิ้นกำลังเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเองนี่มันอันตรายเกินไปเย่มู่มู่ยังหวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะสามารถก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ทีละขั้น สามารถรวมหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่น และสร้างเรือออกทะเลอีกครั้ง...ให้ทุกที่ที่แสงอาทิตย์ส่องถึง กลายเป็นแผ่นดินหัวเซี่ยนี่คือเรื่องสำคัญต่อคนรุ่นหลัง จะเป็นไปได้ไหมที่จะรวมสมาชิกวิดีโอคอลทั้งหมดไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้หัวชาร์จแบบเดียวกัน ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษอีกต่อไปจ้านเฉิงอิ้นห้ามเกิดเรื่องเด็ดขาด!แต่เขาไม่มีจดหมายตอบกลับมาเลย!ส่งกระดาษเปล่าไปสิบกว่าแผ่น เขาก็ยังไม่มีข่าวเย่มู่มู่เดินเท้าเปล่าไปมาในห้องนั่งเล่น อาหารเช้าเย็นลงแล้ว แต่เธอก็กินไม่ลงเธอมองอาหารเช้าที่เย็นชืดอีกครั้งหยิบซาลาเปา ซุปกระดูกหมู ก๋วยเตี๋ยวหลอด เกี๊ยว... ทั้งหมดใส่ลงในแจกันไม่มีความรู้สึกฝืดเคืองเหมือนครั้งก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่การส่งไปราบรื่นมากหมายความว่า สถานการณ์ของจ้านเฉิงอิ้นอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 380

    “พวกเจ้าฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”จากนั้นเขากล่าวกับสมุน “เก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวกลับ!”กองทัพธงเหลืองหลายร้อยคนเตรียมเก็บพลั่วกับเครื่องมืออื่น ๆ และออกเดินทางทันใดนั้น คนอื่น ๆ พากันหยิบอาวุธและขวางทางเดินพวกเขาซุนเฮ่อยิ้มหยัน “ทำไม? พวกเจ้าคิดขวางพวกเรา?”ต่อจากนั้น ซุนเฮ่อเปิดเสื้อผ้าออก บนหน้าท้องมีระเบิดติดไว้หนึ่งห่อ“พวกเจ้าเห็นหมดแล้วว่าระเบิดมีอนุภาพยิ่งใหญ่เพียงใด ชนเผ่าหมาน แคว้นฉู่และแคว้นฉีห้าแสนห้าหมื่นคนทำไมถึงสู้กำลังพลห้าหมื่นของจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ ก็เพราะว่าเขามีระเบิดในมือไงหล่ะ!”“วันนี้ถ้าพวกเจ้ากล้าขัดขวางข้า พวกเจ้าจงมองให้ชัดเจน…”ช่างสี่ร้อยคนพากันเปิดเสื้อผ้าออก บนตัวมีระเบิดติดไว้ทุกคนพวกเขาแต่ละคนจ้องคนถืออาวุธและปิดกั้นทางเดินด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม“คิดจะขัดขวาง ได้ อย่างมากก็แค่ตายไปพร้อมกัน พวกเจ้ามีคนอยู่ในถ้ำเท่าไหร่ ไม่มีสองหมื่นคนก็น่าจะมีสามหมื่นคน พวกเรามีแค่ไม่กี่ร้อยคน”“ถึงจะตายกันหมดและถูกฝังไว้ที่นี่ พวกเราก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ฮ่องเต้พูดกับพวกเราก่อนมาที่นี่ ถ้าเกิดสิ่งใดขึ้น ท่านจะวางแ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status