แชร์

บทที่ 17

ผู้เขียน: มู่โร่ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-01 18:27:38
ที่เกิดเหตุมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งรุนแรง ซากศพนอนเกลื่อนกลาด

เมื่อจ้านเฉิงอิ้นเห็นภาพเช่นนี้ ดวงตาสองข้างของเขาก็แดงก่ำ เขาตะโกนว่า “ทุกคนจงหยุด!”

เหล่าผู้ลี้ภัยเห็นแม่ทัพพาทหารนับร้อยนายมาล้อมรอบพวกเขาไว้จากทุกทิศทุกทาง

การปล้นเสบียงทหารล้มเหลวแล้ว

พวกเขาหมดหวังอย่างสิ้นเชิง

เคร้ง อาวุธในมือของคนจำนวนไม่น้อยตกลงพื้น

พวกเขารู้ว่าการปล้นเสบียงจะมีผลอะไรตามมา พวกเขาไม่เสียใจที่ปล้นเสบียง!

แม้ว่าจะต้องตายก็ยอมรับ

สิ่งที่พวกเขาเสียใจคือ ก่อนตายพวกเขาไม่สามารถทำให้คนแก่และเด็กในบ้านที่กำลังจะอดตายได้กินข้าวสักคำ...

นี่มันสิ้นหวังกว่าการฆ่าพวกเขาซะอีก

ชายร่างใหญ่ในวัยสามสิบต้น ๆ ปล่อยมีดทำครัวในมือหล่นลงพื้น แล้วคุกเข่าลง

เขาพูดอย่างเศร้าโศกว่า: “ท่านแม่ทัพ เรารู้ว่าการปล้นเสบียงทหารจะมีผลอะไรตามมา แม้ข้าตายก็ไม่เป็นไร แต่ขอร้องท่านให้ลูกข้าได้กินสักหน่อย ลูกข้ากำลังจะอดตายแล้ว”

ส่วนภรรยาของเขาก็กอดลูกที่หายใจรวยริน มาขวางหน้าเกวียนไว้พร้อมร้องไห้โฮ “ท่านพี่ ถ้าท่านตาย ข้าและลูกก็จะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!”

ภรรยาของเขาพูดไปพลางอุ้มลูกขึ้นมา กำลังจะวิ่งไปชนกำแพง

แต่ถู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 18

    และยุยงให้พวกเขาปล้นธัญพืช ภายใต้สถานการณ์ที่ผู้คนกำลังจะอดตาย พวกเขากล้าทำทุกอย่าง แต่จ้าวโหย่วไฉ่ไม่ควรปล่อยให้คนชรา คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็กไปขวางรถ ปล่อยให้ผู้หญิงกอดลูกมองดูสามีถูกฆ่าตาย เขาไม่ได้ปรึกษากับตนเองเลยตลอดกระบวนการ มันเป็นการรวมกลุ่มกันอย่างลับ ๆ โดยไม่ใส่ใจชีวิตของคนชรา คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก! บัดนี้จวนแม่ทัพเต็มใจเปิดคลังแจกจ่ายอาหารแล้ว แต่เขากลับตื่นเต้นมาก ทำไม เขายังคิดจัดคนให้บุกเข้าไปในจวนแม่ทัพเพื่อปล้นเสบียงอีก? ในวินาทีถัดมา เขาก็โพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ “พี่เหวย พวกเราจัดคนบุกจวนแม่ทัพ ลงมือทำงานใหญ่กันเถอะ!” ทันใดนั้น เหวยกวงก็บีบคอเขา พร้อมกัดฟันพูดด้วยความโกรธว่า “เจ้าเป็นคนเรียกคนที่ออกมาในวันนี้ทั้งหมดหรือ” จ้าวโหย่วไฉ่หัวเราะแห้ง ๆ สองสามครั้ง พยายามจะแกะมือของเหวยกวงออก เหวยกวงตัวสูง แม้ว่าตอนนี้จะผอมลงไม่น้อย แต่จ้าวโหย่วไฉ่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “พี่เหวย หรือพี่ไม่อยากให้ทุกคนกินอิ่มหรือ?” เหวยกวงพูดอย่างโหดเหี้ยม: “จวนแม่ทัพเปิดคลังแจกจ่ายอาหารแล้ว ชาวเมืองทั้งเมืองจะได้กินข้าว” “มันมีประโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 19

    หญิงชราที่เขาเคยให้ข้าวปั้นก้อนเล็ก ๆ คราวก่อนอุ้มหลานสาวมาตรงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น ดวงตาของนางไม่มีความสิ้นหวังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับมีชีวิตชีวาขึ้น นางและหลานสาวคุกเข่าลงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น “ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเราสองคนย่าหลาน!” พูดพลางหญิงชราก็มอบแท่งหมึกครึ่งก้อนซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวนางให้ไป “ท่านแม่ทัพ ข้าไม่มีอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ได้ นี่เป็นแท่นหมึกครึ่งก้อนที่ลูกชายของข้าทิ้งไว้เมื่อครั้งไปร่ำเรียน ตอนนี้ลูกชายกับลูกสะใภ้จากไปแล้ว เหลือไว้แต่หลานสาว ขอให้ท่านแม่ทัพรับไว้ด้วยเถิด!” เมื่อมีหญิงชราเป็นผู้ให้คนแรก ชาวบ้านที่เหลือก็มอบสิ่งของที่มีค่าที่สุดในสายตาของพวกเขาให้กับแม่ทัพด้วยเช่นกัน บางคนให้ม้วนไม้ไผ่ บางคนให้เหรียญทองแดง บางคนให้หยกที่สืบทอดกันมาในตระกูล พ่อค้าผู้มั่งคั่งที่เคยทำธุรกิจในด่านเจิ้นกวน ได้มอบเมล็ดแตงทองคำและถั่วทองคำ... แต่ส่วนใหญ่จะให้รากของผักป่า รากผักในเมืองทั้งหมดถูกขุดออกมาจนหมดเกลี้ยง ไม่รู้ว่าชาวบ้านเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้นานแค่ไหนแล้ว หญ้าเหี่ยวแห้ง รากผักเต็มไปด้วยทราย... จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับรากผักเอาไว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 20

    เขาเปิด ‘คู่มือฝึกทหารอาสา’ ‘ตำราการใช้คนที่มีความสามารถ’ และ ‘ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ’ จุดตะเกียงอ่านหนังสือยามค่ำคืน*เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เครื่องสูบน้ำหยุดทำงานแล้ว เมื่อคืนเธอซื้อเครื่องสูบน้ำที่ใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มอีกสามเครื่อง ท่อน้ำมีความหนาเป็นสองเท่าของท่อเดิม และให้ท่อสามท่อนสูบน้ำพร้อมกัน น้ำไหลเชี่ยวราวกับน้ำท่วม เมื่อน้ำมันดีเซลหมดแล้ว เครื่องสูบน้ำก็หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เธอเห็นห่อเล็ก ๆ ข้างแจกัน เมื่อเธอเปิดห่อออกมา ก็เห็นม้วนไม้ไผ่ หยก เมล็ดแตงทองคำ ถั่วทองคำ แท่นฝนหมึก แท่นหมึก ชามกระเบื้อง แก้วกระเบื้อง... แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของเด็กผู้หญิงก็ยังมี และมีจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นเขียนไว้ “ข้าได้เปิดโรงทานโจ๊กแล้ว ชาวเมืองทั้งเมืองกำลังต่อแถวรับโจ๊ก...” เขาบอกว่าของขวัญทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งของและเครื่องบรรณาการที่ชาวบ้านนำมามอบให้เพื่อขอบคุณเทพเจ้า หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเก่า มีมูลค่ามหาศาล เธอจะรังเกียจได้ยังไง! เขายังกล่าวอีกว่า เมื่อเปิดเผยแล้ว จะไม่สามารถปิดบังเรื่องที่มีน้ำและเสบียงอาหารอยู่ในเมืองได้อีกต่อไป เผ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 21

    เย่มู่มู่เห็นข้อความจากจ้านเฉิงอิ้นแล้วถึงกับขำก๊าก!แท็บเล็ตเครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวที่ลบฟังก์ชันส่วนใหญ่ออกไปแล้ว กลับทำให้คนโบราณตกตะลึงเสียจนร้องอุทานว่าปาฏิหาริย์เย่มู่มู่ตอบกลับไป “ไอแพดหรือเรียกอีกอย่างว่าแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตคนยุคปัจจุบัน”“มันมีฟังก์ชันถ่ายรูป เจ้าค่อย ๆ ลองใช้ดูแล้วกัน ถ่ายบรรยากาศเมืองเจิ้นกวนมาให้ข้า ข้าจะได้รู้ว่าพวกเจ้ายังขาดเหลือสิ่งใด”เย่มู่มู่คิดดูแล้ว หากพวกเขาใช้วิธีสร้างกำแพงปูนซีเมนต์แบบยุคปัจจุบันจะต้องออกมาดีแน่ แต่หากเผ่าหมานรวมตัวกันบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็วการใช้ข้าวเหนียว ผงปูนขาวและหินคลุก จะช่วยให้คนโบราณลงมือทำได้ทันทีใช้ปูนซีเมนต์นั้นยังต้องเรียนรู้อีก เธอจึงจัดหาข้าวเหนียวกับหินปูนสักล็อตแล้วรีบส่งไปก่อนซ่อมกำแพงเมืองก่อน...“ขอบคุณท่านเทพยิ่ง พอจะส่งไม้ฟืนมาให้เราอีกสักชุดได้หรือไม่ ต้นไม้ทั้งเมืองถูกตัดโค่นจนหมดสิ้น ตอนนี้ไม้ที่ใช้หุงข้าวก่อไฟล้วนเป็นแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเรือนที่เสียหาย”เย่มู่มู่เข้าใจถ่องแท้ในทันทีจินตนาการได้เลยว่าเมืองเจิ้นกวนคงไม่มีอะไรเหลือแล้วนอกจากราบคา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 22

    ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือคืนส่งท้ายปีเก่า เย่ซินผลักเธอตกจากบันไดต่อหน้าต่อตาทุก ๆ คนในตระกูล เธอสลบเหมือดไปในทันที ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลถึงสามวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาวันนั้นแม่ตบหน้าพ่ออย่างแรง ทั้งยังโวยวายจะหย่าให้ได้!หากไม่ยอมหย่าให้ก็จะเผาพวกเขาให้วอดเสียทั้งตระกูล!หลังจากเธอถูกทำร้ายในครานั้น แม่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป ถึงกับโทรเรียกญาติพี่น้องฝั่งแม่ยกโขยงกันมาเต็มคันรถพากันอาละวาดทำลายข้าวของบ้านลุงใหญ่ไปยกใหญ่ ลุงใหญ่และเหล่าอาทั้งหลาย ต่างก็ถูกตบตีไปตาม ๆ กันหลังจากนั้นย่าของเธอก็สงบลงมากทีเดียวอีกทั้งทางบ้านลุงใหญ่ก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกพ่อเลิกบังคับให้แม่และเย่มู่มู่ต้องกลับไปบ้านนอกในทุก ๆ ปีแล้วแน่นอนว่า พ่อยังคงกตัญญูได้อย่างโง่งมเช่นเคย ที่ยังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินให้พวกลุงใหญ่อาเล็กอย่างลับ ๆ โดยที่แม่ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งไป!ทว่ามีข้อแม้ว่าเงินให้ยืมไปเท่าไหร่ล้วนต้องเขียนสัญญากู้ยืมในทุก ๆ ครั้ง ต้องมีพยานบุคคล รวมถึงต้องบันทึกภาพวิดีโอตลอดกระบวนการหากเรื่องถึงโรงถึงศาล จะได้เรียกร้องให้พวกเขาคืนมาให้จนได้สิบปียี่สิบปีมานี้ที่มีพ่อคอยช่วยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 23

    จ้านเฉิงอิ้นกลับถูกข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียวทั้งหมดห้าสิบกว่าถุงดึงดูดเข้าให้ข้าวเหนียวพวกนี้หากต้มจนเหลวเป็นน้ำ ก็เป็นอันใช้สร้างกำแพงเมืองได้!เขาเอ่ยถามเฉินอู่ “ห้องโกดังยังเหลือปูนขาวอยู่หรือไม่?”“มีขอรับ อยู่ในโกดังใต้กำแพงเมือง!”“ขนข้าวเหนียวและแป้งข้าวเหนียวไปที่นั่น และรวมพลคนงานมาซ่อมแซมกำแพงเมือง!”“ขอรับท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่เรียกพลทหารมาช่วยกันขนย้ายข้าวเหนียวและอาหารม้าออกไปวันนี้ที่เขาเดินทางมาจากค่ายทหาร เห็นว่าชาวบ้านในเมืองล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทั้งยังเปิดปากกล่าวทักทายด้วยความดีอกดีใจแม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะซูบตอบ บางคนถึงขั้นหิวจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ต่างช่วยประคับประคองกันไปต่อแถวรอรับโจ๊กพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหมดอาลัยอีกต่อไป ทว่าล้วนมีชีวิตชีวา นัยน์ตาเปี่ยมประกายความหวังสระน้ำหลังจวนแม่ทัพเดิมหวิดจะแห้งขอดเต็มที บัดนี้กลับมีน้ำใสเอ่อล้นเมื่อมีน้ำก็ย่อมมีความหวัง! ทุกคนได้อิ่มท้อง มีน้ำดื่ม แม้ว่าจะถูกกักล้อมอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่สิ้นหวังหมดอาลัยอีก เพราะต่างมีความหวังที่จะรอดพ้น!เหล่าพลทหารแต่ละนายสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปไม่น้อยเหตุเพราะวันนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 24

    “ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันทีว้าว...เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดังเฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิมตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปแชะ~และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดูพวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ“วาดได้สม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 25

    กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 262

    “ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 261

    จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 260

    *หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 259

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 258

    *จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 257

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 256

    อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 255

    ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 254

    นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ

DMCA.com Protection Status