Share

บทที่ 21

Author: มู่โร่ว
เย่มู่มู่เห็นข้อความจากจ้านเฉิงอิ้นแล้วถึงกับขำก๊าก!

แท็บเล็ตเครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวที่ลบฟังก์ชันส่วนใหญ่ออกไปแล้ว กลับทำให้คนโบราณตกตะลึงเสียจนร้องอุทานว่าปาฏิหาริย์

เย่มู่มู่ตอบกลับไป “ไอแพดหรือเรียกอีกอย่างว่าแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตคนยุคปัจจุบัน”

“มันมีฟังก์ชันถ่ายรูป เจ้าค่อย ๆ ลองใช้ดูแล้วกัน ถ่ายบรรยากาศเมืองเจิ้นกวนมาให้ข้า ข้าจะได้รู้ว่าพวกเจ้ายังขาดเหลือสิ่งใด”

เย่มู่มู่คิดดูแล้ว หากพวกเขาใช้วิธีสร้างกำแพงปูนซีเมนต์แบบยุคปัจจุบันจะต้องออกมาดีแน่

แต่หากเผ่าหมานรวมตัวกันบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็ว

การใช้ข้าวเหนียว ผงปูนขาวและหินคลุก จะช่วยให้คนโบราณลงมือทำได้ทันที

ใช้ปูนซีเมนต์นั้นยังต้องเรียนรู้อีก เธอจึงจัดหาข้าวเหนียวกับหินปูนสักล็อตแล้วรีบส่งไปก่อน

ซ่อมกำแพงเมืองก่อน...

“ขอบคุณท่านเทพยิ่ง พอจะส่งไม้ฟืนมาให้เราอีกสักชุดได้หรือไม่ ต้นไม้ทั้งเมืองถูกตัดโค่นจนหมดสิ้น ตอนนี้ไม้ที่ใช้หุงข้าวก่อไฟล้วนเป็นแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเรือนที่เสียหาย”

เย่มู่มู่เข้าใจถ่องแท้ในทันที

จินตนาการได้เลยว่าเมืองเจิ้นกวนคงไม่มีอะไรเหลือแล้วนอกจากราบคา
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 22

    ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือคืนส่งท้ายปีเก่า เย่ซินผลักเธอตกจากบันไดต่อหน้าต่อตาทุก ๆ คนในตระกูล เธอสลบเหมือดไปในทันที ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลถึงสามวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาวันนั้นแม่ตบหน้าพ่ออย่างแรง ทั้งยังโวยวายจะหย่าให้ได้!หากไม่ยอมหย่าให้ก็จะเผาพวกเขาให้วอดเสียทั้งตระกูล!หลังจากเธอถูกทำร้ายในครานั้น แม่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป ถึงกับโทรเรียกญาติพี่น้องฝั่งแม่ยกโขยงกันมาเต็มคันรถพากันอาละวาดทำลายข้าวของบ้านลุงใหญ่ไปยกใหญ่ ลุงใหญ่และเหล่าอาทั้งหลาย ต่างก็ถูกตบตีไปตาม ๆ กันหลังจากนั้นย่าของเธอก็สงบลงมากทีเดียวอีกทั้งทางบ้านลุงใหญ่ก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกพ่อเลิกบังคับให้แม่และเย่มู่มู่ต้องกลับไปบ้านนอกในทุก ๆ ปีแล้วแน่นอนว่า พ่อยังคงกตัญญูได้อย่างโง่งมเช่นเคย ที่ยังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินให้พวกลุงใหญ่อาเล็กอย่างลับ ๆ โดยที่แม่ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งไป!ทว่ามีข้อแม้ว่าเงินให้ยืมไปเท่าไหร่ล้วนต้องเขียนสัญญากู้ยืมในทุก ๆ ครั้ง ต้องมีพยานบุคคล รวมถึงต้องบันทึกภาพวิดีโอตลอดกระบวนการหากเรื่องถึงโรงถึงศาล จะได้เรียกร้องให้พวกเขาคืนมาให้จนได้สิบปียี่สิบปีมานี้ที่มีพ่อคอยช่วยเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 23

    จ้านเฉิงอิ้นกลับถูกข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียวทั้งหมดห้าสิบกว่าถุงดึงดูดเข้าให้ข้าวเหนียวพวกนี้หากต้มจนเหลวเป็นน้ำ ก็เป็นอันใช้สร้างกำแพงเมืองได้!เขาเอ่ยถามเฉินอู่ “ห้องโกดังยังเหลือปูนขาวอยู่หรือไม่?”“มีขอรับ อยู่ในโกดังใต้กำแพงเมือง!”“ขนข้าวเหนียวและแป้งข้าวเหนียวไปที่นั่น และรวมพลคนงานมาซ่อมแซมกำแพงเมือง!”“ขอรับท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่เรียกพลทหารมาช่วยกันขนย้ายข้าวเหนียวและอาหารม้าออกไปวันนี้ที่เขาเดินทางมาจากค่ายทหาร เห็นว่าชาวบ้านในเมืองล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทั้งยังเปิดปากกล่าวทักทายด้วยความดีอกดีใจแม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะซูบตอบ บางคนถึงขั้นหิวจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ต่างช่วยประคับประคองกันไปต่อแถวรอรับโจ๊กพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหมดอาลัยอีกต่อไป ทว่าล้วนมีชีวิตชีวา นัยน์ตาเปี่ยมประกายความหวังสระน้ำหลังจวนแม่ทัพเดิมหวิดจะแห้งขอดเต็มที บัดนี้กลับมีน้ำใสเอ่อล้นเมื่อมีน้ำก็ย่อมมีความหวัง! ทุกคนได้อิ่มท้อง มีน้ำดื่ม แม้ว่าจะถูกกักล้อมอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่สิ้นหวังหมดอาลัยอีก เพราะต่างมีความหวังที่จะรอดพ้น!เหล่าพลทหารแต่ละนายสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปไม่น้อยเหตุเพราะวันนี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 24

    “ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันทีว้าว...เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดังเฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิมตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปแชะ~และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดูพวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ“วาดได้สม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 25

    กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 26

    ซ่งตั๋วปิติยินดี “ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่ง!”ด้วยรางวัลตอบแทนมากเช่นนี้ จะต้องมีชาวบ้านมาลงชื่อกันมากมายเป็นแน่และการผลิตอาวุธก็ย่อมเร็วขึ้นเช่นกันซ่งตั๋วเรียกพลทหารมาขนย้ายถ่านหินทั้งหมดออกไปพลทหารนายอื่น ๆ ต่างตาร้อนมองตามซ่งตั๋วขนย้ายเหล็กกล้าชั้นเยี่ยมทั้งหมดไป*ปูนซีเมนต์และอิฐที่เย่มู่มู่สั่งซื้อมาทั้งหมดต่างส่งถึงโกดังแล้วเมื่อวานเธอได้สั่งจองข้าวสารจากพ่อค้าร้านค้าข้าวเอาไว้ล่วงหน้า ข้าวสารส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันแปดร้อยกระสอบต่างก็ส่งมาถึงโกดังแล้วเช่นกันทว่าการเก็บปูนซีเมนต์และข้าวสารไว้ในที่เดียวกัน อย่างไรก็คงไม่ดีนักเย่มู่มู่จึงขอให้ลุงหยางผู้ดูแลโกดัง เปิดประตูใหญ่โกดังแห่งที่สองให้โกดังแรกใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ส่วนโกดังแห่งที่สองใช้จัดเก็บเสบียงอาหารและผักผลไม้ลุงหยางเองก็คับข้องใจ เย่มู่มู่จะซื้อปูนซีเมนต์และอิฐมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรนัก เพียงเปิดประตูโกดังแห่งที่สอง ให้พ่อค้าร้านค้าข้าวขับรถเข้าไปด้านในได้เมื่อเย่มู่มู่มาถึงโกดัง ลุงหยางดูเวลาแล้ว เห็นว่าพักกินข้าวเที่ยงพอดีเขาบอกกล่าวเธอสักหน่อยแล้ว จึงได้ไปพักกินข้าว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 27

    จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 28

    ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้วเมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆเขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่เถียนฉินรับไว้หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมืองด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 29

    เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง

Pinakabagong kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 682

    เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 681

    จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 680

    หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 679

    จางเฉินซีร้องออกมาพลางกล่าวว่า “คุณปู่ คุณปู่โดนเธอล้างสมองยังไงกันครับ ถึงกับให้หลานแท้ ๆ ไปเป็นผู้ช่วยให้เธอ!”ผู้อาวุโสจางโกรธเสียจนเอาไม่เท้าไปเคาะที่ศีรษะของหลานชายคนเล็ก“แกเงียบปากไปเลย แกจะรับปากหรือไม่รับปาก?”“งั้นผมต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอ!”แน่นอนว่า เขาไม่ได้ไม่ชอบเย่มู่มู่ ผู้เธอเป็นผู้หญิงที่สวย รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบมาโดยกำเนิด ไม่เหมือนกับความงามประดิษฐ์ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้บุคลิกดี สะอาดใสบริสุทธิ์ทำงานเคียงข้างหญิงสาวที่สวยแบบนี้ คงอารมณ์ดีมีความสุขทุกวันแต่ว่า แค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อที่เป็นอยู่ในตอนนี้ผู้อาวุโสจางโขกศีรษะจางเฉินซีอีกครั้ง“แกดูตัวเองซิ วัน ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ในบัตรของแกมียอดเงินอยู่เท่าไร?”“แกเป็นคนแต่ทำตัวเหมือนหมาไม่มีผิด เอาแต่รูดบัตรเครดิตของพ่อแม่แก มูลค่าของทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของแกก็ติดลบ”“ลองดูมู่มู่ซิ วันนี้เธอโอนเงินหนึ่งหมื่นล้านไปที่บัญชีกองทุนส่วนบุคคล!”“แกเอาแต่พูดว่าอยากจะเข้าบริษัท อยากจะรับช่วงต่อจากพ่อกับแม่ของแก วัน ๆ เอาแต่คุยโม้โอ้อวด แค่เพื่อนเลว ๆ ของแกพวกนั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 678

    ไม่เช่นนั้นต่อไปพอทั้งสองคนแบ่งปันของดี ๆ กันแล้ว เขาก็คงจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น! “เย่เย่ ตอนนี้คุณก็มีผู้จัดการกับมีเลขาแล้ว ขาดก็แต่ผู้ช่วย วางใจเถอะ ผมช่วยคุณเลือกผู้ช่วยเอาไว้แล้วละ!”“ผมให้คน ๆ นั้นเข้ามาแล้ว จะถึงในอีกครึ่งชั่วโมง ต่อจากนี้ไปหากมีเรื่องอะไร คุณให้ผู้ช่วยเป็นคนไปทำก็พอแล้ว!”เย่มู่มู่ “...”“การศึกษา ความสามารถในการทำงาน และประสบการณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่พวกเขาแนะนำมา หากคุณไม่พอใจ จะส่งคืนและเปลี่ยนคนก็ได้!”เย่มู่มู่ครุ่นคิด คนของผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสมู่ต่างก็รับเอาไว้ทั้งหมดจึงไม่อาจปฏิบัติต่อผู้อาวุโสจางแตกต่างออกไปได้เธอพยักหน้า “ค่ะ งั้นก็มารายงานตัวได้เลย!”ผู้อาวุโสจางเผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง พลางเหลือบมองไปยังชายชราทั้งสองคนไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประมาณสิบกว่านาที ก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้านพักตากอากาศของผู้อาวุโสสวี่เกิดความเคลื่อนไหวขนานใหญ่เมื่อเย่มู่มู่กับผู้อาวุโสทั้งสามคนออกมาดูก็มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลงจอดตรงลานจอดอย่างมั่นคง มีชายหนุ่มรูปงามสวมชุดนักบินคนหนึ่งลงมากจากภายในห้องโดยสารเขาถอดหมวกกันน็อก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 677

    ยังมีสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกไม่กี่อย่าง พวกเขาแบ่งสิ่งของร่วมกันของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งของของแคว้าต้าฉี่ แต่เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแคว้นไม่กี่แคว้นที่อยู่โดยรอบมีความล้ำค่าและเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางการศึกษาวิจัยอย่างยิ่งเมื่อวานส่งขวัญขวัญให้ฟรี วันนี้ยังส่งของโบราณหนึ่งกล่องมาถึงหน้าประตูอีกสาวน้อยคนนี้รู้จักทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงใจ จนเป็นที่ชื่นชอบของชายชราทั้งหลายแน่นอนว่า ยอดรวมหลังจากการชำระเงินครั้งสุดท้าย เธอทำเงินได้มากกว่าสองหมื่นกว่าล้านบาทสิ่งของในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ยกตัวอย่างเช่นดาบประจำพระองค์ของฮ่องเต้าแคว้นฉี่ บนโลกนี้มีเพียงดาบประจำพระองค์เล่มนี้เท่านั้นที่มีอายุสองพันหกร้อยกว่าปี บวกกับงานฝีมือตกแต่งที่ประดับประดาด้วยอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์แบบหากนำไปประมูล จะต้องมีมูลค่ามากกว่าห้าพันล้านบาทอย่างแน่นอนดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงรู้สึกว่าตนเองทำเงินได้มากแล้วเย่มู่มู่นำเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทที่อยู่ในสองหมื่นสามพันล้านบาทให้กับผู้อาวุโสจาง ณ ตรงนั้น เพื่อลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล และให้ผู้อาวุโสจางเป็นผู้ทำการซื้อขายให้กับเธอแน่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 676

    ฝักดาบประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เมื่อดึงฝักดาบออก แสงสีเงินอันเย็นยะเยือกสะท้อนอยู่บนตัวดาบที่ตกแต่งด้วยไหมสีเงิน…ผู้อาวุโสจางอดรนทนไม่ไหว เมื่อหยิบเล่มนี้ดาบขึ้นมาก็มองเห็นด้านบนเขียนเพียงว่า ‘ดาบจงกั๋วกง ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ทรงพระราชทาน’ “ดาบเล่มนี้ฮ่องเต้แคว้นฉู่เป็นผู้ทรงพระราชทาน ฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงพระราชทาน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เรื่องของคุณผมจะจัดการให้เอง เตรียมเงินเอาไว้ห้าพันล้าน อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนผมจะทำให้คุณได้กำไรเป็นเท่าตัว!”เย่มู่มู่ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ “ขอบคุณมากค่ะผู้อาวุโสจาง!”ผู้อาวุโสสวี่มองดูดาบด้วยใจที่คันคะเยอ เขาก็อยากได้เหมือนกันนี่นาของที่ดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยจะมีของล้ำค่าอยู่ก้นหีบ ทั้งยังเอาเสื้อคลุมสองตัวมาปิดเอาไว้อีกหลอกลวงกันนี่นาผู้อาวุโสจางหัวเราะพลางกล่าวว่า “เบื้องหลังของเหล่าสวี่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แม้ว่าผมจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็เป็นเพียงนักธุรกิจที่ไร้อำนาจเท่านั้น ไม่เหมือนกันกับเขา”“ก่อนที่จะเกษียณ ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพก็เป็นแบบนี้ ลูก ๆ ของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมืองแล้วก็การทหาร ทั้งยังเชื่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 675

    ผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสจางรู้ดีว่าทำไมเย่มู่มู่ถึงได้ต้องการขายของเก่าดูเหมือนว่าเธอจะขาดเงินอย่างหนัก ต้องการเงินเป็นจำนวนมากว่ากันตามเหตุผลแล้ว ของโบราณที่เธอขายในช่วงสามเดือนมานี้ มีมูลค่าห้าหมื่นล้านบาทเข้าไปแล้วสาวน้อยเพียงคนเดียว ถึงจะใช้เงินเก่งแค่ไหน แต่จะใช้เงินหลายหมื่นล้านหมดภายในสามเดือนเชียวเหรอ?แต่ว่าเธอดันใช้จ่ายไปแล้ว!และก็ใช้ไปจนหมดแล้วด้วย!นี่ก็เอาของโบราณมาขายอีกหนึ่งกล่องแล้วเธอทำอะไรกันแน่?ถึงได้ใช้เงินเก่งขนาดนี้!ต่อให้ลงทุนในบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร บริษัทก็มีกำไร และกำไรก็ไม่ได้ต่ำด้วย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง พวกต่างก็ลงทุนไปแล้ว เงินพวกนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารเธอยังลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรของหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ อีกด้วย ไม่กี่ล้านบาทนั่นก็เพียงพอแล้วต่อให้ลงทุนกับหน่วยขนส่ง หน่วยขนส่งใหม่ทั้งหมดบวกกับเงินเดือนและค่าน้ำมัน ห้าสิบกว่าล้านก็นับว่าสูงแล้วเธอทำอะไรกันแน่ชายชราทั้งสามคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมาก!ตอนนี้ เธอเอาของโบราณมาหนึ่งกล่อง บวกกับของขวัญที่ส่งมาเมื่อวานก็ถือว่าได้แสดงความความจริงใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 674

    และหลูซีจะถูกพวกเขาตราหน้าว่ามีภูมิหลังของครอบครัวในระดับที่ต่ำที่สุดแน่นอนว่าหลูซีไม่ถึงขั้นที่จะเกิดเรื่อง ด้วยฝีมือของเขา เย่มู่มู่เป็นห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเกิดเรื่องเสียมากกว่าดังนั้น จึงพยายามที่จะมารับไปส่งเขาเท่าที่จะทำได้และบอกกับนักเรียนคนอื่น ๆ ว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาแค่ไม่ยินยอมเท่านั้น!สาวน้อยน่ารักคนนั้นร่ำลาเย่มู่มู่ “พี่สาวลาก่อนค่ะ?”เย่มู่มู่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ลาก่อน!”หลังจากที่หลูซีเข้าประตูโรงเรียนไปแล้ว เย่มู่มู่ถึงได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสสวี่เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสวี่...ว้าว คฤหาสน์ใหญ่มากจริง ๆ !ที่ดินในเมืองทุกตารางนิ้วล้วนมีราคาสูง คฤหาสน์ที่ใหญ่โตหรูหรา และครอบคลุมพื้นที่เกือบสิบไร่เช่นนี้ ไม่อาจวัดมูลค่าได้ภูเขาที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ พื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ ล้วนแต่เป็นของผู้อาวุโสสวี่ทันทีที่รถของเย่มู่มู่ขับเข้าประตู ผู้อาวุโสสวี่กับผู้ช่วยพ่อบ้านก็ออกมาตอนรับพร้อมกันเย่มู่มู่รีบลงมาจากรถสวี่หมิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอ กำลังถือกล่องไม้กล่องหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างลวดลายแกะสลักสไตล์โบราณบนกล่องไม้ ทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสสวี่เป็น

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status