Share

บทที่ 21

Author: มู่โร่ว
เย่มู่มู่เห็นข้อความจากจ้านเฉิงอิ้นแล้วถึงกับขำก๊าก!

แท็บเล็ตเครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวที่ลบฟังก์ชันส่วนใหญ่ออกไปแล้ว กลับทำให้คนโบราณตกตะลึงเสียจนร้องอุทานว่าปาฏิหาริย์

เย่มู่มู่ตอบกลับไป “ไอแพดหรือเรียกอีกอย่างว่าแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตคนยุคปัจจุบัน”

“มันมีฟังก์ชันถ่ายรูป เจ้าค่อย ๆ ลองใช้ดูแล้วกัน ถ่ายบรรยากาศเมืองเจิ้นกวนมาให้ข้า ข้าจะได้รู้ว่าพวกเจ้ายังขาดเหลือสิ่งใด”

เย่มู่มู่คิดดูแล้ว หากพวกเขาใช้วิธีสร้างกำแพงปูนซีเมนต์แบบยุคปัจจุบันจะต้องออกมาดีแน่

แต่หากเผ่าหมานรวมตัวกันบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็ว

การใช้ข้าวเหนียว ผงปูนขาวและหินคลุก จะช่วยให้คนโบราณลงมือทำได้ทันที

ใช้ปูนซีเมนต์นั้นยังต้องเรียนรู้อีก เธอจึงจัดหาข้าวเหนียวกับหินปูนสักล็อตแล้วรีบส่งไปก่อน

ซ่อมกำแพงเมืองก่อน...

“ขอบคุณท่านเทพยิ่ง พอจะส่งไม้ฟืนมาให้เราอีกสักชุดได้หรือไม่ ต้นไม้ทั้งเมืองถูกตัดโค่นจนหมดสิ้น ตอนนี้ไม้ที่ใช้หุงข้าวก่อไฟล้วนเป็นแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเรือนที่เสียหาย”

เย่มู่มู่เข้าใจถ่องแท้ในทันที

จินตนาการได้เลยว่าเมืองเจิ้นกวนคงไม่มีอะไรเหลือแล้วนอกจากราบคา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 22

    ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือคืนส่งท้ายปีเก่า เย่ซินผลักเธอตกจากบันไดต่อหน้าต่อตาทุก ๆ คนในตระกูล เธอสลบเหมือดไปในทันที ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลถึงสามวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาวันนั้นแม่ตบหน้าพ่ออย่างแรง ทั้งยังโวยวายจะหย่าให้ได้!หากไม่ยอมหย่าให้ก็จะเผาพวกเขาให้วอดเสียทั้งตระกูล!หลังจากเธอถูกทำร้ายในครานั้น แม่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป ถึงกับโทรเรียกญาติพี่น้องฝั่งแม่ยกโขยงกันมาเต็มคันรถพากันอาละวาดทำลายข้าวของบ้านลุงใหญ่ไปยกใหญ่ ลุงใหญ่และเหล่าอาทั้งหลาย ต่างก็ถูกตบตีไปตาม ๆ กันหลังจากนั้นย่าของเธอก็สงบลงมากทีเดียวอีกทั้งทางบ้านลุงใหญ่ก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกพ่อเลิกบังคับให้แม่และเย่มู่มู่ต้องกลับไปบ้านนอกในทุก ๆ ปีแล้วแน่นอนว่า พ่อยังคงกตัญญูได้อย่างโง่งมเช่นเคย ที่ยังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินให้พวกลุงใหญ่อาเล็กอย่างลับ ๆ โดยที่แม่ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งไป!ทว่ามีข้อแม้ว่าเงินให้ยืมไปเท่าไหร่ล้วนต้องเขียนสัญญากู้ยืมในทุก ๆ ครั้ง ต้องมีพยานบุคคล รวมถึงต้องบันทึกภาพวิดีโอตลอดกระบวนการหากเรื่องถึงโรงถึงศาล จะได้เรียกร้องให้พวกเขาคืนมาให้จนได้สิบปียี่สิบปีมานี้ที่มีพ่อคอยช่วยเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 23

    จ้านเฉิงอิ้นกลับถูกข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียวทั้งหมดห้าสิบกว่าถุงดึงดูดเข้าให้ข้าวเหนียวพวกนี้หากต้มจนเหลวเป็นน้ำ ก็เป็นอันใช้สร้างกำแพงเมืองได้!เขาเอ่ยถามเฉินอู่ “ห้องโกดังยังเหลือปูนขาวอยู่หรือไม่?”“มีขอรับ อยู่ในโกดังใต้กำแพงเมือง!”“ขนข้าวเหนียวและแป้งข้าวเหนียวไปที่นั่น และรวมพลคนงานมาซ่อมแซมกำแพงเมือง!”“ขอรับท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่เรียกพลทหารมาช่วยกันขนย้ายข้าวเหนียวและอาหารม้าออกไปวันนี้ที่เขาเดินทางมาจากค่ายทหาร เห็นว่าชาวบ้านในเมืองล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทั้งยังเปิดปากกล่าวทักทายด้วยความดีอกดีใจแม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะซูบตอบ บางคนถึงขั้นหิวจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ต่างช่วยประคับประคองกันไปต่อแถวรอรับโจ๊กพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหมดอาลัยอีกต่อไป ทว่าล้วนมีชีวิตชีวา นัยน์ตาเปี่ยมประกายความหวังสระน้ำหลังจวนแม่ทัพเดิมหวิดจะแห้งขอดเต็มที บัดนี้กลับมีน้ำใสเอ่อล้นเมื่อมีน้ำก็ย่อมมีความหวัง! ทุกคนได้อิ่มท้อง มีน้ำดื่ม แม้ว่าจะถูกกักล้อมอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่สิ้นหวังหมดอาลัยอีก เพราะต่างมีความหวังที่จะรอดพ้น!เหล่าพลทหารแต่ละนายสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปไม่น้อยเหตุเพราะวันนี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 24

    “ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันทีว้าว...เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดังเฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิมตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปแชะ~และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดูพวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ“วาดได้สม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 25

    กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 26

    ซ่งตั๋วปิติยินดี “ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่ง!”ด้วยรางวัลตอบแทนมากเช่นนี้ จะต้องมีชาวบ้านมาลงชื่อกันมากมายเป็นแน่และการผลิตอาวุธก็ย่อมเร็วขึ้นเช่นกันซ่งตั๋วเรียกพลทหารมาขนย้ายถ่านหินทั้งหมดออกไปพลทหารนายอื่น ๆ ต่างตาร้อนมองตามซ่งตั๋วขนย้ายเหล็กกล้าชั้นเยี่ยมทั้งหมดไป*ปูนซีเมนต์และอิฐที่เย่มู่มู่สั่งซื้อมาทั้งหมดต่างส่งถึงโกดังแล้วเมื่อวานเธอได้สั่งจองข้าวสารจากพ่อค้าร้านค้าข้าวเอาไว้ล่วงหน้า ข้าวสารส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันแปดร้อยกระสอบต่างก็ส่งมาถึงโกดังแล้วเช่นกันทว่าการเก็บปูนซีเมนต์และข้าวสารไว้ในที่เดียวกัน อย่างไรก็คงไม่ดีนักเย่มู่มู่จึงขอให้ลุงหยางผู้ดูแลโกดัง เปิดประตูใหญ่โกดังแห่งที่สองให้โกดังแรกใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ส่วนโกดังแห่งที่สองใช้จัดเก็บเสบียงอาหารและผักผลไม้ลุงหยางเองก็คับข้องใจ เย่มู่มู่จะซื้อปูนซีเมนต์และอิฐมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรนัก เพียงเปิดประตูโกดังแห่งที่สอง ให้พ่อค้าร้านค้าข้าวขับรถเข้าไปด้านในได้เมื่อเย่มู่มู่มาถึงโกดัง ลุงหยางดูเวลาแล้ว เห็นว่าพักกินข้าวเที่ยงพอดีเขาบอกกล่าวเธอสักหน่อยแล้ว จึงได้ไปพักกินข้าว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 27

    จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 28

    ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้วเมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆเขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่เถียนฉินรับไว้หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมืองด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 29

    เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 572

    “ฉันรับของไว้แล้ว แล้วเจอกันค่ะ!”ทั้งสองคนไปส่งเวินลี่กลับที่หน้าประตู ทว่าไม่ได้ย่างเท้าออกจากคฤหาสน์เวินลี่ทองสองหนุ่มจากกระจกมองหลัง ไม่รู้ว่าคุณหนูเย่ไปหาบอดี้การ์ดมาจากไหนอายุยังน้อย แถมยังจงรักภักดีมากทีเดียว!*ต้าฉี่ ภูเขาเหมืองฟ้าสว่างแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองทำงานกันทั้งคืนตอนนี้ บนกำแพงเมืองมีปืนใหญ่วางเรียงรายอยู่เป็นหน้าตับแน่นอนว่า ล้วนเป็นปืนใหญ่ของปลอมที่ทำกันทั้งคืน!บรรดาชาวบ้านและทหารเองก็ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดเพียงแค่ขนย้ายขึ้นไป พวกเขาก็สูญเสียพละกำลังไปมหาศาลแล้วขนย้ายทั้งคืน ชาวบ้านล้วนเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดตอนนี้ไปนอนกันหมดแล้วโจ๊กที่พ่อครัวต้มตอนเช้า ไม่มีใครกินเลยสักคนผู้ชายไม่น้อยนอนแผ่กับพื้นโดยตรงกระทั่งพวกเฉินขุยเฉินอู่ ล้อมปืนใหญ่กระบอกหนึ่งพลางขบคิดเฉินขุยค้อมตัวลงพลางมองยางรถเปล่า!“ยางรถนี่อ่อนนุ่มนิ่ม เดิมทีประคองท่อเหล็กไม่ไหวอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะชั้นตรงกลาง ยางรถก็ยุ่ยไปนานแล้ว”เฉินอู่ลูบคาง “ข้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”ทั้งสองคนมองไปที่จวงเหลียงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมจวงเหลียงหมดคำพูด มือเขาสัม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 571

    แม่ทัพเฉินขุยยกนิ้วให้ “แม่นางหยางโดดเด่นในหมู่สตรี ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก!”เฉินอู่กล่าวขึ้นอย่างเบิกบาน “แม่นางหยางคือสตรีที่อึดถึกที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา หากเจ้าเป็นบุรุษ คงได้ลงสนามรบเข่นฆ่าศัตรูกับเราสองพี่น้องแน่!”ทว่าจวงเหลียงกลับกล่าวว่า “แม่นางหยางเป็นสตรีแล้วอย่างไร นางได้เป็นแม่ทัพ ทุกเรื่องที่นางทำ ทุกพิมพ์เขียวที่วาด ล้วนต้านทานกองทัพมหึมาได้ทั้งสิ้น!”จ้านเฉิงอิ้นคิดไม่ถึงว่าหยางชิงเหอจะกล่าวคำพูดฮึกเหิมและกล้าหาญออกมาได้เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “แม่นางหยาง แม้จะบอกว่าเจ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งปี แต่เจ้าได้รับตำแหน่งแม่ทัพ...”“ข้าจะออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพ เบื้องล่างบัญชาการหนึ่งหมื่นคน เป็นเช่นไร?”หยางชิงเหอรีบปฏิเสธ “ไม่ละ ข้ายังอยากกลับบ้าน ภายในหนึ่งปีข้าจะพยายามช่วยกองทัพตระกูลจ้านอย่างสุดความสามารถ แต่ข้าไม่ต้องการตำแหน่ง”จวงเหลียงกล่าวด้วยความเสียดาย “พวกข้าเข้ารับตำแหน่งยากลำบาก แม่นางหยางทิ้งโอกาสดี ๆ เช่นนี้น่าเสียดายยิ่งนัก บางทีเจ้าอาจไม่รู้ หากเป็นแม่ทัพจะมีเบี้ยหวัด มีศักดินา...”“ศึกใหญ่ได้รับชัยชนะ ก็จะได้ตบรางวัลเป็นพวกแก้วแหวนเงินทอง...”ครั้นหยา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 570

    บางทีคนอื่นอาจคิดว่า กระถางวิเศษเป็นเพียงแค่ตำนานแต่เมื่อสุดยอดสุดยอดโรงงานถูกสร้างขึ้น ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า แจกันวิเศษไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าลือจ้านเฉิงอิ้นมีมันอยู่จริง ๆไม่เพียงแต่สามารถเสกอาหาร น้ำ และอาวุธได้เท่านั้น แต่ยังมีโรงงานขนาดมหึมาอีกด้วยใส่แร่เหล็กเข้าไปก็ได้อาวุธเหล็กกล้าออกมา!ในหกแคว้น ใครครอบครองสุดยอดโรงงาน ผู้นั้นก็มีพลังที่จะยึดครองแผ่นดิน รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวใครบ้างในหกแคว้นที่ไม่ต้องการมันแคว้นฉู่และแคว้นฉีไม่ได้ส่งทหารมา เพราะกำลังรอดูสถานการณ์ และมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการหากแคว้นใดทนต่อสิ่งล่อใจไม่ไหว ส่งทหารออกมาเมื่อนั้น แคว้นที่ป้องกันหละหลวม แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีทันทีพวกเขาไม่ใช่ไม่โลภ แต่มีสิ่งที่ได้ผลตอบแทนแน่นอนกว่ารออยู่เมื่อพวกเขาส่งทหารมาโจมตีจ้านเฉิงอิ้นในระลอกที่สอง...หลังจากที่ระลอกแรกบุกโจมตีและสูญเสียกำลังพลไปแล้ว แม้จ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจเพียงใดพวกเขาก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นสองแคว้นนี้ฉลาดที่สุดมู่ฉีซิวยุยงแคว้นเยี่ยนและม่อเป่ยให้มาโจมตีจ้านเฉิงอิ้น ก็เพราะให้ผลประโยชน์อย่างงามชุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 569

    ความคิดที่หยางชิงเหอเสนอนั้น ฟังดูไร้สาระและน่าขันสิ้นดีขนท่อเหล็กขึ้นไปบนหลังคาแล้ววางไว้บนนั้น"บนยอดเขาก็ให้ยกท่อเหล็กขึ้นไปแล้วจัดวางให้เรียบร้อย!บนกำแพงเมืองก็เช่นกัน ถึงขนาดวางท่อเหล็กทุกสิบเมตรแล้วก็เกณฑ์คนมาจำนวนมาก เพื่อสร้างโครงสำหรับท่อเหล็กโครงนั้นก็แปลกประหลาด มีล้อไม้สองล้อ วางท่อเหล็กไว้ตรงกลางให้ปากท่อชี้ขึ้นฟ้า...นางบอกว่า หากมู่ฉีซิวเห็นเข้า เขาจะต้องถอยทัพ!เหล่าทหารที่ได้ยิน ต่างก็คิดว่าเหลวไหล!ล้อสองล้อ โครงหนึ่งอัน วางท่อเหล็ก... แล้วจะถอยทัพพวกเขารวบรวมกองกำลังจากสี่ทิศ จำนวนมากถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นนาย เพียงเพราะได้เห็นอาวุธรูปร่างประหลาดนี้!ก็จะถอยทัพ...ช่างไร้สาระสิ้นดี!แต่มั่วฝานกลับพูดว่า “ทำตามที่แม่นางหยางบอกไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น ยังไม่แน่...”“บางทีอาจเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้?”จากนั้น หยางชิงเหอก็ไม่รู้ไปได้ยินมาจากไหนว่า เย่มู่มู่จะหาประทัดมาให้จำนวนมาก“ดินปืนที่ส่งมา ให้ข้าใช้ก่อน จากนั้นถ้าเป็นไปได้ หายางเก่ามาเพิ่มด้วย...”“คืนนี้ ทหารและชาวบ้านทุกคนต้องฟังคำสั่งข้า เคลื่อนไหวตามคำสั่งข้าเท่านั้น!”จ้านเฉิงอิ้นหันไปถ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 568

    หากศัตรูทั้งเจ็ดแสนร่วมกันโจมตี กองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนาย ทหารใหม่ห้าหมื่นนาย รวมกับชาวบ้านอีกราวแปดหมื่นคน รวมเป็นหนึ่งแสนแปดหมื่นคน...อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ครั้งนี้แตกต่างจากที่ด่านเจิ้นกวน ที่นั่นยังสามารถซุ่มโจมตีได้...แต่ตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในหุบเขาหลายลูก แม้จะใช้ไฟโจมตี ก็เกรงว่าไฟจะลามไปถึงค่ายไม่สามารถซุ่มโจมตี ไม่สามารถหลบซ่อน ได้แต่เผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง...พูดตามตรง แม้มั่วฝานจะมีความมั่นใจในกองทัพตระกูลจ้านมากเพียงใด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร!ถ้ามีปืนก็คงจะดีเขาดูภาพยนตร์สงครามมาเยอะ ดูหนังยิงปืนก็มาก หากมีปืนกล อย่างเช่นเจ้า AK อะไรนั่น...ต้องชนะแน่นอนแม้ท่านเทพจะส่งท่อเหล็กมาให้ แต่ไม่มีดินปืน พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างลูกปืนใหญ่ได้เมื่อคิดเช่นนี้ มั่วฝานก็หยิบบัตรประจำตัวประชาชนออกมา“เฮ้อ ถ้าแพ้ ข้าก็ยังสามารถหนีไปโลกของท่านเทพผ่านแจกันได้...”“พวกเจ้าต่างออกไป พวกเจ้าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แม้จะหนีไปยังโลกของท่านเทพ ก็คงถูกจับในฐานะคนไร้บ้าน!”“อ้อ ใช่ โลกของท่านเทพมีกฎหมายคนไร้บ้าน ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถขึ้นรถ ไม่สามารถซ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 567

    ท่อเหล็กไหลหยางมาถึงแล้วหรือ?มาได้ทันเวลาจริง ๆ!แต่ว่า จ้านเฉิงอิ้นจะสามารถสร้างปืนใหญ่ขึ้นมาได้จริงหรือ?แล้วลูกปืนใหญ่จะทำอย่างไร?เย่มู่มู่พาสองพี่น้องตระกูลลู่ขับรถตรงไปยังตีนเขาคนงานขนถ่ายสินค้าที่ตีนขนย้ายท่อเหล็กจำนวนมากเสร็จแล้ว ท่อเหล็กกว่าหมื่นท่อนได้ถมเต็มโกดังที่สร้างขึ้นใหม่เย่มู่มู่ปรับพื้นที่ตีนเขาให้เรียบ แล้วขยายโกดังเดิมให้ใหญ่ขึ้นหลายเท่าและทำสัญญาเช่าที่ดินกับหมู่บ้านอีกสิบหมู่ เพื่อใช้สร้างโกดังทั้งหมดท่อเหล็กกว่าหมื่นท่อนกินพื้นที่โกดังขนาดใหญ่สองโกดังพี่ซุนเห็นเย่มู่มู่ขับรถมา จึงเข้ามาทักทายและรายงาน“ท่อเหล็กหนึ่งหมื่นท่อนไม่ได้นับจำนวน แต่ชั่งน้ำหนักแล้วได้จำนวนใกล้เคียงครับ!”เย่มู่มู่เซ็นรับ ตรวจสอบแล้วจึงโอนเงินส่วนที่เหลือให้โรงงานคนของโรงงานต่างดีใจ ขับรถออกไปเย่มู่มู่ให้พี่ซุนพาพวกเขาไปกินข้าวที่บ้านพักตากอากาศ คนขับรถเดินทางมาไกล ให้พักผ่อนหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางกลับเธอออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดพี่ซุนยิ้มรับ พาคนขับรถและพนักงานโรงงานไปยังบ้านพักตากอากาศเมื่อทุกคนไปแล้ว ลู่หมิงก็ตัดไฟลู่ซีปิดประตูม้วนเย่มู่มู่ส่งข้อความไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 566

    เหล่าทหารผ่านศึกต่างงุนงงกับการตวาดก้องที่ดังขึ้นฉับพลันชัยชนะอยู่แค่เอื้อม เหตุใดจึงต้องถอยทัพเล่า?มั่วฝานเอ่ยเสียงดัง “นี่เป็นบัญชาของท่านแม่ทัพ ยังพอมีเวลาให้พวกเรารีบถอยทัพ”เมื่อเป็นบัญชาของท่านแม่ทัพใหญ่ พวกเขาจำต้องปฏิบัติตามทหารทั้งหมดรีบรุดรวมพลไปยังทิศทางที่กำหนด ข้ามผ่านภูเขาลูกหนึ่ง และมาถึงค่ายทัพตระกูลจ้านเมื่อทหารสองหมื่นนายทั้งหมดเดินทางกลับอย่างมีชัย ประชาชนจำนวนมากต่างพากันมาต้อนรับและปรบมืออย่างอบอุ่นนี่คือกองทัพวีรบุรุษ พวกเขาคว้าชัยชนะครั้งใหญ่ตั้งแต่ศึกแรกและที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือรัฐทายาทน้อยได้นำทัพซุ่มโจมตีด้วยตนเองเขาไม่กล้าก้มศีรษะคารวะ ทำได้เพียงโบกมือทักทายและขอบคุณทุกผคนด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในการออกศึกครั้งแรก ใบหน้าของเขาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างเขาคิดว่ามันก็ไม่เลว แม้จะสังหารศัตรูได้ไม่มาก แต่ก็ถือว่ากล้าหาญชาญชัยเขาไม่ใช่คุณชายเสเพลอีกต่อไป สามารถบัญชาทัพออกศึกได้อย่างสง่างาม เช่นเดียวกับจ้านเฉิงอิ้นเขาปรารถนาที่จะจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนรุ่นหลังเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อเป็นบุคคลที่แม้เวล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 565

    การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด...ไม่มีฝ่ายใดยอมถอยทัพแม้ว่าทหารแคว้นเยี่ยนจะฮึกเหิม ชุดเกราะป้องกันแน่นหนา และทหารใต้บังคับบัญชาล้วนเป็นทหารผ่านศึกผู้ช่ำชองแต่ทหารแคว้นเยี่ยนก็ไม่อาจรับมือได้ในไม่ช้า ทหารแคว้นเยี่ยนหลายพันนายก็ล้มลงสิบนาทีต่อมา ทหารแคว้นเยี่ยนหนึ่งหมื่นนายเสียชีวิตยี่สิบนาทีต่อมา หนึ่งหมื่นสี่พันนายเสียชีวิตครึ่งชั่วโมงต่อมา ทหารแคว้นเยี่ยนสองหมื่นนายเสียชีวิตสี่สิบนาทีต่อมา สองหมื่นสามพันนายบาดเจ็บล้มตาย...ในทางกลับกัน กองทัพตระกูลจ้านเสียชีวิตน้อยมาก แม้แต่ผู้ที่บาดเจ็บสาหัสก็ยังถอนตัวจากการรบ...แทบไม่มีศพทหารตระกูลจ้านนอนอยู่บนพื้นสี่สิบนาที สองหมื่นสามพันนาย!นั่นคือหนึ่งในห้าของทหารแสนนาย เยี่ยนซวี่โกรธจนตาแดงก่ำ~ทหารของเขาตายไปหนึ่งในห้าแล้ว! จะสู้ต่อไปหรือไม่?เขาอาจจะสูญเสียทหารสองแสนนายทั้งหมดที่นี่ไม่สู้ แล้วคำพูดที่พูดออกไปจะทำอย่างไร? จะหนีทัพหรือ?เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแม่ทัพอาวุโสที่อยู่ข้างกายเขากำลังต่อสู้ด้วยดาบใหญ่อย่างเต็มที่ เมื่อเห็นท่านอ๋องยืนเหม่อลอยอยู่ก็ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ“ถอยทัพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 564

    เพราะพวกเขามีเสื้อเกราะกันกระสุนและชุดเกราะป้องกัน แถมยังมีโล่อีกชั้นหนึ่งธนูธรรมดาไม่อาจเจาะทะลุชุดป้องกันของกองทัพตระกูลจ้านได้เลย!เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยนซวี่ก็ถึงกับตะลึงงัน“ทำไม? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”“ทำไมธนูถึงยิงไม่เข้าชุดเกราะของกองทัพตระกูลจ้าน!”ดูเหมือนว่าจะมีคนเคยบอกเขาว่า ชุดเกราะของกองทัพตระกูลจ้านนั้นไม่มีใครในหกแคว้นของหัวเซี่ยเทียบได้เขาเคยได้ยินเรื่องนี้แต่ไม่ได้ใส่ใจเขารู้เพียงแค่ว่า ดาบม่อเตาของกองทัพตระกูลจ้านทำจากเหล็กกล้าชั้นดีตอนนี้ กองทัพแคว้นเยี่ยนสามารถสร้างดาบม่อเตาที่เหมือนกันได้แล้ว แต่ระดับการป้องกันยังเทียบไม่ได้...การโจมตีของพวกเขาไม่อาจเจาะเกราะได้เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ใจร้อน ไม่น่าบุกโจมตีโดยไม่ปรึกษาหารือกับเหล่าแม่ทัพอาวุโสก่อน!ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?เขาไม่มีทางถอยแล้ว!เขาชักดาบยาวออกมา แล้วฟาดไปข้างหน้า “ทหารทั้งหลาย! บุก!”สิ้นเสียงคำสั่งลูกศรจากหน้าไม้ราชวงศ์ฉินก็พุ่งแหวกอากาศเข้ามาลูกศรที่ติดไฟลุกโชน พุ่งทะลุร่างของหัวหน้าพลธนูของเขาหัวหน้าพลธนูล้มลงสิ้นใจในทันทีทว่า เปลวไฟลุกโหมขึ้นอย่างรวดเร็ว หยดน้ำที่ตกลงมาจาก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status