แชร์

บทที่ 28

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!

ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล

ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้ว

เมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่

นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆ

เขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน

ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”

“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”

“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”

จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่

เถียนฉินรับไว้

หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์

เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมือง

ด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 29

    เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 30

    เห็นว่าผ่านไปนานแล้วนางยังคงไม่ตอบกลับ จ้านเฉิงอิ้นจึงส่งกระดาษมาอีกหลายแผ่น “ท่านเทพ?”“ทำให้ท่านเทพเป็นกังวลแล้ว ล้วนเป็นความผิดข้าเอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านเทพผิดหวัง จะนำพาปวงประชาฝ่าวงล้อมออกไปให้จงได้”“ท่านเทพหลับแล้วหรือ? เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”เย่มู่มู่เห็นกระดาษขาว จึงรีบตอบกลับ“ข้าไปช่วยซื้อเครื่องใช้ยุทธภัณฑ์มา ได้ชุดเกราะมาพันชุด ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังห้าพันเล่ม หน้าไม้ราชวงศ์ฉินร้อยคัน…”จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังคือสิ่งใด? หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเล่า? กองทัพของข้ายังมีธนูและศรอยู่”เย่มู่มู่เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ แคว้นต้าฉี่คงยังไม่มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังเองก็เป็นเกิดขึ้นหลังจากยุคของพวกเขาราวหนึ่งพันห้าร้อยปีเห็นจะได้ “ส่งแท็บเล็ตมาให้ข้า ข้าจะโหลดวิดีโอการใช้งานอาวุธให้เจ้าเรียนรู้”แท็บเล็ตถูกส่งกลับมาเย่มู่มู่เปิดดูแกลเลอรีเห็นภาพถ่ายภาพหนึ่งมีชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงห้าคนอยู่ในชุดเกราะ ทว่าเสื้อผ้าด้านในกลับมอซอยิ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง ดวงตาทอประกาย ต่างเมียงมองมายังกล้องด้วยความฉงนสนเท่ห์เย่มู่มู่ยังสังเกตเห็น ว่าฉากหลังของพวกเข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 31

    เย่มู่มู่ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอสาธิตวิธีใช้งานดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรวมถึงยังดาวน์โหลดยุทธวิธีสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนในช่วงหลายพันปีมานี้ของจีนมาทั้งหมดอีกด้วยดาวน์โหลดตำราพิชัยสงครามหลายเล่ม เนื้อหาครอบคลุมกว้างขวาง แม้แต่หนังสือเกี่ยวกับการรบของพลเอกอาวุโสซู่อวี้ในยุคใกล้[1]ก็ดาวน์โหลดมาด้วยเช่นกันดาวน์โหลดเสร็จก็หยิบพาวเวอร์แบงค์หนึ่งเครื่องโยนลงไปด้วยกันฝ่ายจ้านเฉิงอิ้นได้รับแล้วก็เห็นว่ามีวิดีโอเกี่ยวกับดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน รวมถึงตำราเกี่ยวกับการรบอีกหลายเล่มเขาดีใจยิ่งนัก“ท่านเทพ ขอบพระคุณอย่างสูง ตำราพิชัยสงครามและบันทึกการสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนมีความสำคัญสำหรับอิ้นยิ่งนัก!”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก รีบพักผ่อนเถอะ ข้าเตรียมจะปล่อยน้ำแล้ว”เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นสุดท้ายลงไปเสร็จก็เปิดเครื่องสูบน้ำดีเซลเริ่มส่งน้ำไปให้*วันรุ่งขึ้น เธออาบน้ำและกินมื้อเช้าเสร็จก็โทรไปนัดผู้อาวุโสมู่ล่วงหน้าผู้อาวุโสมู่ได้รับสายจากเธอก็ดีใจมากบอกว่ารอเธออยู่ที่ร้านทั้งวัน!เย่มู่มู่เลือกเหรียญทองแดงสามแบบจากบรรดาสิ่งของที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาให้เธอคราวก่อน โ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 32

    บันทึกทางประวัติศาสตร์มีความสำคัญใหญ่หลวงทุพภิกขภัยเมื่อสองพันปีก่อนได้เกิดขึ้นจริง เมืองร้างพันลี้ แคว้นเล็กหลายแคว้นถึงกาลล่มสลายในนั้นยังรวมแคว้นฉี่ด้วยเช่นกันผู้อาวุโสมู่มีสีหน้าพลุ่งพล่านใจ “คุณผู้หญิง คุณต้องการขายม้วนไม้ไผ่กับเหรียญสามเหรียญนี้ใช่ไหม ผมซื้อทั้งหมด! หนึ่งพันล้านเป็นยังไง?”ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อยากบอกว่าเปิดราคาสูงเกินไปแล้วแต่วัตถุโบราณจากแคว้นต้าฉี่มีแค่เจ้านี้เท่านั้น หายากเสียยิ่งกว่ายากหนึ่งพันล้านสูงมากก็จริง แต่ก็คู่ควรเธอพยักหน้า “ตกลง คุณต้องชำระโดยเร็วที่สุดนะคะ”ผู้อาวุโสมู่ยิ้มบอกให้คนไปจัดการโอนเงินเย่มู่มู่ตรวจสอบยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีแล้วก็บอกลากับผู้อาวุโสมู่ผู้อาวุโสมู่ยังอยากรั้งเธอไว้ เพราะรู้สึกว่าในมือเธอน่าจะยังมีของดีกว่านี้แต่สหายเก่าแก่ที่มาวันนี้มีเยอะเกินไป ล้วนแต่เป็นระดับหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ จึงไม่ได้รั้งไว้ แต่ขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเย่มู่มู่แทน*เย่มู่มู่ออกมาจากร้านขายวัตถุโบราณก็เดินทางไปนอกเมืองต่อฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่แตงโมวางตลาดพอดีชาวไร่แตงโมนำแตงโมมาตั้งแผงขายริมถนน ด้านหลังก็คือไร่แตงโมพ่อค้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 33

    จ้านเฉิงอิ้นตวัดดาบไปมาก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศขวับ ๆ...เขาอุทานชมเชย “เป็นดาบที่ดีจริง ๆ!”ซ่งตั๋วถือดาบม่อเตาราชวงศ์ถังอย่างติดใจจนวางไม่ลง “ข้าน้อยทำอาวุธมานานหลายปีก็ยังไม่เคยเห็นดาบยาวที่คมกริบถึงเพียงนี้มาก่อนเลย”เมื่อวานนำเหล็กกล้าชั้นดีไปหลอม เหล็กกล้าแข็งแกร่ง จุดหลอมเหลวสูง ไม่จำเป็นต้องตีก็สามารถทำเป็นอาวุธได้โดยตรงเขานึกว่าเหล็กกล้าเหล่านั้นดีมากแล้วเสียอีกแต่เมื่อเทียบกับดาบม่อเตาที่ได้รับมาวันนี้กลับห่างชั้นกันไกลนี่ก็คืออาวุธที่ท่านเทพประทานให้เช่นนั้นหรือ เยี่ยมยอดกว่าของแคว้นต้าอวี่ไม่รู้ตั้งกี่เท่า!ทันใดนั้น ชุดเกราะกว่าพันชุดก็หล่นลงมาในคลังสรรพาวุธชุดเกราะผลิตอย่างพิถีพิถัน มีชั้นนอกชั้นในสองชั้น เกราะชั้นนอกเป็นแผ่นเหล็กทรงใบหลิวร้อยต่อกัน เกราะชั้นในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลีซ่งตั๋วใช้ฝักดาบโจมตีชุดเกราะอย่างแรงชุดเกราะไม่บุบยุบ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้นเขาตกตะลึงสุดแสน “ท่านแม่ทัพ ชุดเกราะนี้ดีกว่าชุดเกราะของพวกเราเสียอีกขอรับ!!”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือแตะเกราะชั้นนอกที่เย็นเฉียบเบา ๆ แล้วชักกระบี่พกของตนออกมาฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~กระบี่ข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 34

    เมื่อเหล่าทหารเห็นดาบม่อเตาและชุดเกราะ ดวงตาก็พลันวาววับเฉินอู่ชักดาบม่อเตาออกจากฝักแล้วฟันไปกลางอากาศเสียงแหวกอากาศดังขวับเขาร้องเสียงดัง “ดาบที่ดี!”เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับชุดเกราะด้วยความหลงใหลไม่วางมือทหารใต้บังคับบัญชาพวกเขาล้วนแต่เป็นพลบุกทะลวงที่อยู่ทัพหน้า กองทัพขาดแคลนวัสดุ ชุดเกราะทองแดงพังแล้วไม่มีวัสดุมาซ่อมบำรุง ได้แต่ถอดเอาจากทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว นำมาประกอบกันใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ชุดเกราะทุกชุดล้วนแต่ชำรุดยามนี้ได้เห็นชุดเกราะเหล็กกล้าใหม่เอี่ยมก็รู้สึกหลงใหลยินดียิ่งนักแผ่นเหล็กกล้าบนชุดเกราะแน่นหนาแข็งแกร่ง หมุดย้ำต่อเนื่อง ข้างในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลี สัมผัสนุ่มนิ่มไม่เสียดสีผิวหนัง ระดับการป้องกันสูงยิ่งเมื่อทหารได้สวมก็ช่วยลดการบาดเจ็บล้มตายได้เกินครึ่งจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งทันทีว่าชุดเกราะและดาบม่อเตาจะจัดสรรให้ทหารทัพหน้าเสียก่อนเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับกลุ่มฝึกซ้อมทหารทัพหน้า ชุดเกราะบวกกับดาบม่อเตา คนสามคนจับกลุ่มหันหลังให้กัน สามารถต้านทานกองทัพทหารม้าที่เหี้ยมหาญที่สุดของเผ่าหมานได้ นอกจากนี้ยังคัดเลือกพลธนูที่มีเรี่ยวแรงแขนมากม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 35

    ตอนเย็น จ้านเฉิงอิ้นออกจากค่ายทหารกลับมายังจวนแม่ทัพตลอดทางไม่ปรากฏชาวบ้านร่างผ่ายผอมนอนรอความตายอยู่ข้างทางให้เห็นอีกแล้วบางครั้งก็จะเห็นแม่ม่ายตัวคนเดียวบางคนเดินไม่ไหว แต่ก็จะมีเพื่อนบ้านมาช่วยประคองพาไปต่อแถวรับโจ๊กอาหลี่จิตใจเอื้อเฟื้อ เขาจัดการให้คนแจกจ่ายโจ๊ก มีโจ๊กสองหม้อที่นำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่หิวโหยจนรอไม่ไหวโดยเฉพาะพอพวกเขามาถึงก็จะได้รับประทานทันทีแจกจ่ายโจ๊กสองวัน คนทั้งเมืองล้วนได้กินกันหมดแล้ววันนี้ ชาวบ้านไม่เพียงแต่ได้รับโจ๊กหนึ่งถ้วย แต่ยังได้รับแตงโมคนละชิ้นอีกด้วยแตงโมที่เย่มู่มู่ส่งมามีจำนวนมากเกินไป ยามนี้ขุดหลุมเก็บไว้ในห้องใต้ดินแล้วเก็บไว้ในห้องใต้ดินไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บไว้ได้นานเท่าไรจึงนำออกมาแจกจ่ายให้ทุกคนกินชาวบ้านเห็นแล้วก็คิดว่าท่านแม่ทัพแจกจ่ายโจ๊กแล้วยังแถมแตงโมให้อีกด้วย!คนที่ฉลาดหน่อยล้วนดูออกแล้วว่าด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนเสบียงอีกต่อไปแล้ว ท่านแม่ทัพจึงสามารถแจกจ่ายแตงโมให้ชาวบ้านในเมืองเช่นนี้ประกาศรับสมัครคนเข้ากองทัพเพิ่งเอาไปติดเมื่อวานนี้ก็มีคนมาสมัครถึงสองพันคนภายในวันเดียวคนเหล่านี้มาเพราะอยากลองดูว่าจะได้รับจัดสรรข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 36

    “ฉันยังต้องการเข็มและด้ายหลายชนิดสำหรับเย็บผ้า ต้องการในปริมาณมาก!”“ได้ค่ะ งานถนัดของฉันเลยค่ะคุณเย่ เรื่องนี้ไว้ใจฉันได้เลย”หัวหน้าฝ่ายขายกล่าวต่อว่า “โรงงานของเรายังมีคลังเก็บผ้าที่มีตำหนิเล็กน้อย ขายลดราคาที่เมตรละสองบาทห้าสิบสตางค์ คุณโอเคไหมคะ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ตกลง!”หัวหน้าฝ่ายขายดีใจมากและเรียกฝ่ายการเงินมาคำนวณเพราะจำนวนสินค้านั้นมากมายมหาศาล เกรงว่าคลังสินค้าทั้งสี่แห่งในเขตชานเมืองของเย่มู่มู่อาจไม่พอเก็บเย่มู่มู่จึงกล่าวว่า “ทยอยส่งมาในสามวันนะคะ คลังสินค้าของฉันเก็บไม่หมด!”“ตกลง ไม่มีปัญหาค่ะ”หลังจากฝ่ายการเงินคำนวณแล้ว พบว่ารวมทั้งผ้าและเข็มด้าย... คิดเป็นเงินทั้งหมดสามร้อยล้านบาทเย่มู่มู่ชำระเงินงวดแรก ส่วนที่เหลือจะชำระหลังของถูกส่งมาครบทั้งหมดหัวหน้าฝ่ายขายส่งเธอขึ้นรถด้วยรอยยิ้ม พร้อมยื่นนามบัตรให้ “คุณเย่คะ ถ้าต้องการวัสดุผ้าอีกเมื่อไหร่ โทรหาฉันได้เลยนะคะ”“เราไม่ได้มีแค่ผ้าสำหรับทำเสื้อผ้าเท่านั้น เรายังมีโรงงานย่อยที่ผลิตผ้าสำหรับทำเต็นท์ ผ้าเดนิม...”เย่มู่มู่คิดขึ้นมาได้ทันที “ผ้าลายพรางสำหรับทะเลทรายทำได้ไหมคะ?”“ทำได้ค่ะ หากคุณต้องการ เ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 387

    เมื่อครู่พวกเขาต่างตั้งใจฟังอย่างจดจ่อซุนหลินได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารกว่าพันชั่ง!นี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านไม่ได้ขาดแคลนเสบียงสำหรับชาวแคว้นต้าฉี่ที่เผชิญกับภัยแล้งมาเกือบปี ข้าวปลาอาหารและแหล่งน้ำมีเสน่ห์ดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้พวกเขาหิวและกระหายเกินกว่าจะอดทนไหว แม้ในเมืองหยงโจวจะมีโจ๊กแจก แต่ในแต่ละวันกลับได้เพียงถ้วยเล็ก ๆ ของโจ๊กข้าวโพด ซึ่งไม่พอให้ประทังความหิวได้เลยผู้คนมากมายต่างพยายามทุกวิถีทางที่จะลอกเปลือกไม้ หรือขุดหาผักป่า...ในเมืองหยงโจว เมื่อจำนวนผู้คนเพิ่มมากขึ้น ผู้คนถึงกับทะเลาะวิวาทแย่งชิงรากหญ้าและเปลือกไม้ จนถึงขั้นมีการฆ่ากันตายก็ไม่น้อยขณะนั้น ชาวบ้านสี่ร้อยคนต่างจ้องมองด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง หลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้ปากถ้ำโดยไม่รู้ตัวเฉินจวิ้นหลินและเหล่าทหารผ่านศึกอีกสิบกว่าคน ได้นำเสบียงอาหารที่เหลือจากคนสองร้อยกว่าชีวิตที่เสียชีวิตไปแล้วออกมาแจกจ่ายนอกจากสิ่งที่ถูกระเบิดจนเสียหายและไม่สามารถกินได้ พวกเขายังนำแป้งห่อจำนวนมาก โจ๊กธัญพืชแปดชนิดสองร้อยกระป๋อง และขนมปังแข็งกว่าสองร้อยกล่องออกมาแจกจ่ายเฉินจวิ้นหลินพูด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 386

    “ครอบครัวและชาวบ้านในหมู่บ้านจะอยู่รอดไปได้อีกสักระยะ!”ซุนหลินยังคงจินตนาการถึงความสุขในการที่ตนนำเสบียงกลับไปให้ครอบครัวแต่เมื่อชาวบ้านสี่ร้อยคนได้ยินเรื่องเสบียงกว่าหนึ่งพันชั่งดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองไปที่ซุนหลินอย่างแน่วแน่เสบียงอาหาร หนึ่งพันกว่าชั่งเชียวนะหากนำไปต้มเป็นโจ๊ก จะเลี้ยงคนได้มากแค่ไหนกันเมื่อซุนเฮ่อได้ยินคำพูดของซุนหลิน ริมฝีปากก็ขยับ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว“ท่านลุงสาม เหตุใดถึงไม่พูดอะไรเลยเล่า ครอบครัวสบายดีหรือไม่?”ซุนหลินยังคงจมอยู่ในจินตนาการของตัวเอง พอเห็นซุนเฮ่อไม่พูดอะไร จึงเงยหน้ามองเขาแต่สิ่งที่เห็นคือ ดวงตาของซุนเฮ่อเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง เขาดูเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่หยาดน้ำตาในดวงตานั้นกลับแห้งเหือดไปหมดแล้วเขาเบิกตาแดงก่ำ ก่อนจะก้มศีรษะหนักอึ้งลงต่ำก้มหน้าอยู่นานก่อนจะพูดว่า “พวกเจ้า... ครอบครัวของพวกเจ้า... ตายหมดแล้ว!”“คนทั้งหมู่บ้าน... มีเพียงสามชีวิตที่รอด หนึ่งคือข้า และอีกสองคน...”ซุนหลินกระชากคอเสื้อของซุนเฮ่ออย่างแรง ยกตัวเขาที่ผอมแห้งลอยขึ้นจากพื้นดวงตาของซุนหลินแดงฉานเต็มไปด้วยความ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 385

    จ้านเฉิงอิ้นและคนอื่น ๆ อีกหลายคนเดินออกมาส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึก ซึ่งมีคนหนึ่งจำซุนเฮ่อได้เขาตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ลุง ลุงสาม... ทำไมถึงเป็นท่าน?”“ท่านมาที่ช่องเขาเป้าเสียได้อย่างไร?”คนที่จำซุนเฮ่อได้ ชื่อซุนหลิน อายุยี่สิบกว่าปี เข้าร่วมกองทัพมาห้าปีแล้ว!เขาเป็นนายกองพันภายใต้การบังคับบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน แต่พบว่าตนเองไม่ได้สังหารศัตรูมากเท่าคนอื่น จึงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีอย่างมากหลังจากนั้น ก็อาสาเป็นทหารทัพหน้าบุกทะลวงแม้จะต้องเสี่ยงอันตรายแม้ว่าทหารทัพหน้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ก็พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเขาเป็นคนกล้าหาญ พยายามเป็นทหารทัพหน้าและสังหารศัตรูมากมายสะสมเสบียงอาหารได้มากกว่าหนึ่งพันชั่ง แป้งสาลีแปดร้อยชั่งได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองพันครั้งนี้ที่เข้าไปในหุบเขา ซุนหลินก็ลุงสามาเองเขาอยากได้พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีกสองสามชุด เพื่อมอบให้กับคนในหมู่บ้านแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับซุนเฮ่อที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่นี่ซุนเฮ่อเป็นลุงสามของเขา เป็นคนในตระกูลเดียวกัน!เขาวิ่งออกมาด้วยความดีใจ วิ่งไปหาซุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 384

    “ใครก็ได้ ไปเฝ้าบริเวณใกล้ถ้ำที่จ้านเฉิงอิ้นซ่อนตัวอยู่ หากเกิดระเบิดแล้วยังไม่ตาย ให้คอยสกัดไม่ให้คนด้านในหลบหนีออกมาได้...”มู่ซาถาม “จะให้ส่งไปกี่คน?”“ยี่สิบคน ล้อมเอาไว้อย่าให้เหลือไปแม้แต่คนเดียว”“ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนี้ก็ได้กระมัง?”แม่ทัพแคว้นฉู่เจียงเหว่ยพูดว่า “เจ้าไม่รู้อะไร เกราะป้องกันของจ้านเฉิงอิ้นอยู่ในระดับสูงมาก สามารถต้านทานการโจมตีจากคนสิบคนได้เพียงลำพัง และอาวุธก็แหลมคม สามารถฟันดาบเสี้ยวของพวกเผ่าหมานได้ง่ายดายราวกับหั่นผักหั่นปลา”“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เมื่อระบุตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว ทุกคนจงล้อมที่นี่ไว้ให้แน่นหนา ห้ามปล่อยให้คนข้างในหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว”แม่ทัพทั้งสี่แคว้นต่างก็ให้ความสำคัญพวกเขารู้ดีว่า หากฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้ ประชาชนต้าฉี่ก็จะกลายเป็นเสบียงของแคว้นต่าง ๆ ของพวกเขาไม่มีเสบียงแล้วจะทำไม?ชาวต้าฉี่มีจำนวนมาก เพียงพอให้พวกเขากินได้อีกนานผ่านพ้นช่วงความอดอยากไปได้อย่างไม่มีปัญหาเลยยิ่งไปกว่านั้น ราชวงศ์ต้าฉี่ก็ร่ำรวยได้ยินมาว่า ทรัพย์สมบัติในวังหลวงนั้นกองสูงเป็นภูเขาเสนาบดีซูยังรวบรวมสมบัติล้ำค่าหายากให้กับฮ่องเต้น้อย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status