“ฉันยังต้องการเข็มและด้ายหลายชนิดสำหรับเย็บผ้า ต้องการในปริมาณมาก!”“ได้ค่ะ งานถนัดของฉันเลยค่ะคุณเย่ เรื่องนี้ไว้ใจฉันได้เลย”หัวหน้าฝ่ายขายกล่าวต่อว่า “โรงงานของเรายังมีคลังเก็บผ้าที่มีตำหนิเล็กน้อย ขายลดราคาที่เมตรละสองบาทห้าสิบสตางค์ คุณโอเคไหมคะ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ตกลง!”หัวหน้าฝ่ายขายดีใจมากและเรียกฝ่ายการเงินมาคำนวณเพราะจำนวนสินค้านั้นมากมายมหาศาล เกรงว่าคลังสินค้าทั้งสี่แห่งในเขตชานเมืองของเย่มู่มู่อาจไม่พอเก็บเย่มู่มู่จึงกล่าวว่า “ทยอยส่งมาในสามวันนะคะ คลังสินค้าของฉันเก็บไม่หมด!”“ตกลง ไม่มีปัญหาค่ะ”หลังจากฝ่ายการเงินคำนวณแล้ว พบว่ารวมทั้งผ้าและเข็มด้าย... คิดเป็นเงินทั้งหมดสามร้อยล้านบาทเย่มู่มู่ชำระเงินงวดแรก ส่วนที่เหลือจะชำระหลังของถูกส่งมาครบทั้งหมดหัวหน้าฝ่ายขายส่งเธอขึ้นรถด้วยรอยยิ้ม พร้อมยื่นนามบัตรให้ “คุณเย่คะ ถ้าต้องการวัสดุผ้าอีกเมื่อไหร่ โทรหาฉันได้เลยนะคะ”“เราไม่ได้มีแค่ผ้าสำหรับทำเสื้อผ้าเท่านั้น เรายังมีโรงงานย่อยที่ผลิตผ้าสำหรับทำเต็นท์ ผ้าเดนิม...”เย่มู่มู่คิดขึ้นมาได้ทันที “ผ้าลายพรางสำหรับทะเลทรายทำได้ไหมคะ?”“ทำได้ค่ะ หากคุณต้องการ เ
มีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาว่าจวนแม่ทัพมีเสบียงอาหารจำนวนมาก วันนี้ผู้ที่มาต่อแถวรับข้าวต้มยังได้รับแตงโมหวานฉ่ำคนละชิ้นจ้าวโหย่วไฉยิ่งมั่นใจว่าจวนแม่ทัพต้องมีเสบียงอาหารมหาศาล!ก่อนที่กองทัพชนเผ่าหมานจะบุกลงใต้ เว่ยกวงเคยเป็นหัวโจกนักเลงที่มีชื่อเสียงในด่านเจิ้นกวน เขามีพี่น้องที่เคยเสี่ยงชีวิตร่วมกันในหน่วยลาดตระเวนบนถนนในด่านเจิ้นกวน เว่ยกวงถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลทั้งในด้านมืดและด้านสว่างปกติเวลาไปกินอาหารตามร้านค้าก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินร้านค้าที่มีกิจการดี ๆ ยินดีจ่ายค่าคุ้มครองให้โดยสมัครใจ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกอันธพาลเข้ามาก่อกวนในร้านเมื่อเว่ยกวงรับเงินไปแล้ว เขาย่อมทำงานแน่นอน หากมีใครมากินอาหารแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน เขาจะให้คนของเขาลากตัวออกไปแล้วซ้อมสั่งสอนแม้ว่าเขาจะเป็นนักเลง แต่ก็ยังถือว่ามีคุณธรรมเหตุผลที่จ้าวโหย่วไฉเลือกเว่ยกวงก็เพราะเว่ยกวงเคยถูกทหารประจำด่านเจิ้นกวนออกหมายจับมาก่อนเขารู้เส้นทางลับที่เชื่อมต่อระหว่างด่านเจิ้นกวนและโลกภายนอก ทำให้ไม่เคยถูกจับได้จ้าวโหย่วไฉต้องการส่งข่าวออกไปข้างนอก โดยวางแผนให้เผ่าหมานเข้ามาในด่านเจิ้นกวนผ่านเส้นทางลับ โจมตี
พวกเขาได้รับข่าวเลยรีบวางงานในมือ รุดมายังจวนแม่ทัพโดยทันที!เรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารนั้นไม่อาจปกปิดได้อีกต่อไปพรุ่งนี้หรืออาจจะในกลางดึก กองทัพชนเผ่าหมานอาจบุกชายแดนมาถึงหน้ากำแพงเมืองตอนนี้ถ้ำธรรมชาติที่เป็นทางลับก็เป็นภัยคุกคามอีกจ้านเฉิงอิ้นจึงสั่งให้ทหารหนึ่งร้อยนายเฝ้าทางเข้าถ้ำแต่กองทัพชนเผ่าหมานสามแสนนาย ทหารเพียงหนึ่งร้อยนายย่อมไม่อาจต้านทานได้ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพียงแค่ต้องปกป้องประตูเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าต้องสู้รบทั้งสองด้าน ทหารตระกูลจ้านซึ่งมีกำลังพลน้อยอยู่แล้ว จะต้านทานการโจมตีของชนเผ่าหมานที่มาจากทั้งสองทิศทางได้อย่างไรทุกคนต่างมีสีหน้าตึงเครียดขณะนั้นเอง ทหารเข้ามารายงานข่าวที่หน้าประตูว่า “ท่านแม่ทัพ กองทัพชนเผ่าหมานบุกเข้ามาแล้วขอรับ”“เดิมทีพวกเขาตั้งค่ายห่างจากประตูเมืองสามสิบลี้ ตอนนี้กำลังเคลื่อนทัพเข้าใกล้ประตูเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ”เฉินขุยได้ยินเช่นนั้นก็ยกดาบใหญ่ขึ้นมาพลางตวาดลั่นอย่างโกรธแค้น “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยขอนำทหารออกไปรับศึก!”จ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งว่า “ทหารทุกนายฟังคำสั่ง เตรียมพร้อมรับศึก!”“ขอรับ!”“เฉินอู่ นำทห
ตอนยังมีชีวิตอยู่พ่อของเย่มู่มู่พอจะมีเส้นสายอยู่บ้าง ซึ่งรวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทระเบิดเธอใช้โทรศัพท์เครื่องเก่าของพ่อ และหาหมายเลขของผู้บริหารคนนั้นตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า เธอโทรหาผู้บริหาร ปลายสายรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย“มู่มู่...ทำไมถึงมีเวลามาโทรหาอาได้ล่ะ?”“อาเซียวคะ หนูอยากจะซื้อระเบิดจำนวนมาก คุณอาขายให้หนูได้ไหมคะ?”เซียวหัวได้ยินว่าเย่มู่มู่ต้องการซื้อวัตถุระเบิด จึงรู้สึกสงสัย “หนูจะรื้อถอนตึกอะไรล่ะ?”“พวกเราไม่ได้แค่ขายระเบิดเท่านั้น ต้องไปสำรวจและประเมินก่อน ถึงจะกำหนดปริมาณวัตถุระเบิดที่จะใช้ได้”“ระเบิดเป็นของอันตราย ทุกครั้งที่ขายต้องมีบันทึกไว้...”เย่มู่มู่ทนไม่ไหวจึงเอ่ยขัดอีกฝ่าย“คุณอาคะ หนูแค่ต้องการวัตถุระเบิด ต้องใช้เยอะด้วย เป็นชนิดที่เอาไประเบิดภูเขาได้น่ะค่ะ”“ไม่ได้ ยัยเด็กคนนี้จะหาเรื่องทำอะไรล่ะเนี่ย?”“คุณอาคะ หนูซื้อในราคาสามเท่าของตลาด!”เซียวหัวยังคงปฏิเสธ “ไม่ได้ อาไม่ยอมรับปากเรื่องแบบนี้หรอกนะ!”“ห้าเท่าค่ะ!”เสียงของเซียวหัวเริ่มไม่มั่นใจ “มู่มู่ อาไม่สามารถให้หนูซื้อไปทำเรื่องไม่ดีได้หรอกนะ”เย่มู่มู่พูดด้วยความร้อนใจ “
แม้ว่าจะเดินออกจากโกดังมาแล้ว เขาก็ยังไม่วางใจ ขับรถไปจอดในที่มืดและเฝ้ามองเย่มู่มู่ขนระเบิดออกไปเมื่อมีเงินมากขึ้น เขาก็ยิ่งห่วงชีวิตของตัวเอง และต้องปัดความรับผิดชอบให้หมดสิ้น*บนกำแพงเมือง จ้านเฉิงอิ้นยังคงตื่นตะลึงกับวิดีโอที่แสดงถึงพลังอันมหาศาลของระเบิดระเบิดสามารถทำลายตึกสูงเสียดฟ้าได้ตึกที่สูงใหญ่เหล่านั้น ตู้ม ๆ ๆ ระเบิดเป็นวงรอบ ๆ และภายในชั่วพริบตา ตึกก็ถูกทำลายเป็นผุยผงเขาและเหล่าแม่ทัพต่างพากันมุงดูหน้าจอแท็บเล็ต ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วย ตื่นตะลึงกับภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏเดิมทีพวกเขาคิดว่าสิ่งของอย่างเหล็กกล้า ดาบม่อเตา ชุดเกราะ และหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...เป็นขีดสุดของอาวุธในโลกเทพเซียนแล้วจนกระทั่งได้เห็นในวิดีโอ อาคารสูงเสียดฟ้าพังทลายลงมา แหลกสลายเป็นผุยผงโลกเทพเซียนมีอาวุธเทพเช่นนี้ อย่าว่าแต่ทำให้ภูเขาราบเลย อาจจะกำราบชนเผ่าหมานจนสิ้นชื่อได้ด้วยซ้ำทันใดนั้น ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมา“ท่านแม่ทัพ นี่คืออาวุธเทพ สิ่งนี้สามารถสังหารศัตรูได้นับหมื่นเลยนะขอรับ!”“ถ้าเรามีสิ่งนี้ จะกลัวอะไรกับกองทัพชนเผ่าหมานสามแสนนาย แค่ยิงระเบิดลูกใหญ่ก็ส่งวิญญาณพวกมันออก
กองทัพกว่าหมื่นนายของเผ่าหมานถืออาวุธบุกเข้าไปในปากถ้ำ ในคราแรกพวกเขาถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินสังหารจนไม่กล้าบุกเข้าไปทว่าหลัวเก๋อสั่งการให้โจมตีเมืองอย่างเต็มกำลังเมื่ออารมณ์คุกรุ่นได้ที่เผ่าหมานก็ต่างบุกเข้าไปในถ้ำอย่างดุดัน สาบานตนว่าจะฟาดฟันสังหารหนูแมลงสกปรกที่หลบซ่อนอยู่ในถ้ำให้จงได้เมื่อพวกเขาเห็นแสงไฟสว่างอยู่ในถ้ำ ก็เริ่มชะลอฝีเท้าลงอย่างระแวดระวังเมื่อเข้าไปใกล้กลับพบว่าบนพื้นมีเพียงกองฟืนกองโต กำลังลุกโชนเผาไหม้ ทว่ารอบข้างกระทั่งเงาผีสักตนยังไม่มีปรากฏให้เห็นพลันรู้ตัวขึ้นมาว่าติดกับเข้าให้แล้ว!นายทหารผู้ซึ่งเป็นผู้นำถึงกับโกรธจัด เท้าเตะเข้ากับกองฟืนที่กำลังโหมไหม้ ถ่านแดงคุร้อนตกลงบนสายชนวนดินระเบิดเข้าพอดิบพอดีตูม...ทุกคนถูกแรงระเบิดกระดอนไปคนละทิศละทาง*จ้านเฉิงอิ้นและพวก ถอยห่างออกไปสิบลี้เฉินอู่ยังคงพยายามโน้มน้าวจ้านเฉิงอิ้น ให้เขาอนุญาตให้ตนเป็นผู้เข้าไปจุดชนวนระเบิดเอง!ทันใดนั้น เสียงระเบิดก็ดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นควันนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าจ้านเฉิงอิ้นร้องตะโกนดังออกมาหนึ่งเสียง “หมอบลง!” ทุกคนหมอบลงกับพื้นภูเขาสั่นผืนดินสะเทือน เสียงระเบ
เขาไม่อาจกล้ำกลืนความแค้นที่จ้านเฉิงอิ้นผลาญล้างชีวิตคนหมื่นคนของเขาไปได้เขาจ้องมองที่กุนซืออย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมืองมีทั้งน้ำและเสบียงอาหาร?”“หากมิอาจยึดด่านเจิ้นกวนได้ กองพลของเราก็มีแต่จะหิวตาย”“ในขณะที่กองพลของจ้านเฉิงอิ้น ได้พักผ่อนฟื้นฟู จนสมบูรณ์แข็งแรง!”"ข้ามิสนว่ามังกรจะพลิกมิพลิกกาย ในสามวันนี้ ข้าจะต้องยึดด่านเจิ้นกวนมาให้จงได้!”กุนซือหลิวหลิงใจเต้นแรงในเมืองด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารอยู่อย่างนั้นหรือ?จะเป็นไปได้อย่างไร?ด่านเจิ้นกวนถูกปิดล้อมมากว่าครึ่งปี จนกลายสภาพราวถังเหล็กก็ปาน แม้แต่วิหคสักตัวก็มิอาจบินพ้นผ่านเข้าไปได้ปากคอเขาแห้งผาก เพียงคิดถึงว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ ดวงตาก็ฉายแววหมายมาดในชัยชนะเขาโค้งตัวลงประสานมือคารวะ ท่าทีเปลี่ยนราวคนละคน"ท่านอ๋องน้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าในเมืองมีน้ำ เราจึงจำเป็นยิ่งที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ มิอาจหุนหันพลันแล่นโจมตีเมืองได้"“เสบียงอาหารและน้ำของจ้านเฉิงอิ้นมาจากที่ใด? มีมากเท่าใด จัดเก็บไว้ที่แห่งใด?"“การโจมตีเมืองก็จำต้องมีแผนการ หากบุกจากประตูเมือง กำแพงเมืองก็สูงขึ้นแล้ว คันรถกระทุ้งกำแพง
เฉินอู่หัวเราะลั่น “ดียิ่ง ข้ายังคิดอยู่เลยว่าจะขอดินระเบิดจากท่านเทพอย่างไร ทว่านางกลับเป็นฝ่ายมอบให้พวกเราเสียเองเ!”“ท่านแม่ทัพ อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ หากเผ่าหมานกลับมาโจมตีเมืองอีก พวกเราก็จะมีอาวุธชั้นดีไว้ป้องกัน!”“ดินระเบิดระเบิดภูเขาใหญ่ทั้งลูกได้ หากใช้ระเบิดสังหารคนแล้วละก็ อานุภาพจะไม่ยิ่งคร่าชีพได้มากกว่าหรือ!”จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาสั่งการไปยังซ่งตั๋ว“หากระท่อมว่างหลังเล็ก ๆ จำไว้ รัศมีห้าลี้มิอาจให้มีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ใดอยู่ใกล้เคียง หาทหารรักษาการณ์ที่ไว้ใจได้มาคอยลาดตระเวนโดยรอบ และห้ามมิให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไปเช่นกัน”ซ่งตั๋วค้อมตัวประสานมือคารวะ “ข้าน้อยรับบัญชา”เย่มู่มู่ส่งข้อความมาอีกครั้ง นางไปสั่งอาหารมื้อดึกเอาไว้เรียบร้อยแล้วท่านเทพดีต่อเขายิ่งนัก!ชาติปางก่อนเขาคงได้กราบขอพรหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าอยู่ภพหนึ่ง จึงทำให้ชาตินี้ได้พบท่านเทพเปี่ยมเมตตาเช่นนี้ มาช่วยชีพคนทั้งเมืองเอาไว้ ในยามที่เขาสิ้นไร้ซึ่งหนทางอย่างถึงที่สุด!ชาตินี้แม้จนเขากระดูกแตกแหลกลาญก็ไม่อาจตอบแทนนางได้หมดสิ้น!*เย่มู่มู่จอดรถที่บนถนนสายปิ้งย่างแห่งหนึ่ง รอบข้า
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง
“ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ
กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ
ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเฉิงอิ้นตึงเครียด ไม่กล่าวอันใดแม้แต่คำเดียวเขามองดูมู่ฉีซิวหัวเราะเสียงดังอย่างอวดดีด้วยแววตาเย็นชา พลางยกมือขึ้นอย่างไม่แยแส...เวลานี้ นักรบมากมายของกองทัพตระกูลจ้าน ได้หยิบปืนออกมาจากด้านหลัง บรรจุกระสุนปืน และเล็งไปที่มู่ฉีซิว...เมื่อมู่ฉีซิวได้เห็นฉากนี้ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น“ฮ่าฮ่าฮ่า จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคิดว่าข้าเบาปัญญากระนั้นหรือ?”“การศึกที่ภูเขาเหมือง ถูกใช้เล่ห์เหลี่ยม จนทำให้ข้าตัดสินใจผิดพลาด ทำให้คนเจ็ดแสนกว่าคนต้องพ่ายแพ้ ถูกคนในใต้หล้าหัวเราะเยาะ!”“ตอนนี้เจ้ายังคิดที่จะมาใช้ไม้นี้อีก คิดว่าข้าปัญญาอ่อนจริง ๆ หรือไร!”จ้านเฉิงอิ้นไม่พูดจาไร้สาระ เมื่อโบกมือ...ปัง~ปืนล่าสัตว์ก็เกิดเสียงดังสนั่น!ลูกกระสุนปืนยิงไปยังมู่ฉีซิวเมื่อมู่ฉีซิวเห็นมือปืนเหนี่ยวไก เสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ตกลงมาจากหลังม้าเขาไม่ได้ถูกยิงทว่ายิงโดนหัวของม้าสีขาวม้าล้มลงในทันที ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสดไหลรินออกมาจากศีรษะ...มันดิ้นรนยืนขึ้นมาสองสามครั้ง แต่เลือดกลับไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่คาดคิดเพียงไม่นานมันก็หยุดด
ผิดปกติยิ่งนัก!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับสวี่หมิง “บินอากาศยานไร้คนขับสำรวจสถานการณ์ของกองทัพธงเหลือง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ตอนที่สวี่หมิงนำท่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กออกมาลอยขึ้นสูง แล้วเตรียมที่จะบินไปยังธารน้ำจากภูเขานั้น...ทันใดนั้นเอง ธนูดอกหนึ่งก็ยิงโดนท่ากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจนทำให้เกิดกลุ่มควันและตกลงมาจากท้องฟ้าเฉินอู่ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนระวัง!”จ้านเฉิงอิ้นหน้าเปลี่ยนสี สายตามองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงออกมาแย่แล้ว พวกเขาถูกโอบล้อมแล้ว!พื้นที่เนินเขาที่อยู่เบื้องหน้า มีกองทัพธงเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนขึ้นมาจากพื้น พวกเขาและกองทัพตระกูลจ้านอยู่ใกล้กันมาก ระยะห่างเพียงแค่สามสี่ร้อยเมตรเท่านั้นทุกคนล้วนสวมชุดลายพราง ใบหน้าเต็มไปด้วยดินเหลือง ในมือกำลังถือดาบม่อเตาเลียนแบบ...คนจำนวนสองแสนคน กำลังปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านจำนวนสามหมื่นคนเอาไว้ในวงกลมโอบล้อมกองทัพตระกูลจ้านเอาไว้หลายต่อหลายชั้นมู่ฉีซิวกำลังขี่ม้าสีขาว สวมชุดเกราะสีดำ ยืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพธงเหลืองจำนวนสองแสนคนเขาผ่ายผอมลงไปมาก จนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมก่อนหน้านี้ยังนับว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลา บัดนี
มั่วฝานเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมา และมองเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ปะ...ปืนสองพันกระบอก!กระสุนปืนห้าร้อยกล่องกระสุนห้าร้อยกล่อง มีลูกกระสุนอยู่ทั้งหมดสองหมื่นห้าพันนัดของเหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิวได้แล้ว!มั่วฝานรู้ดีว่าปืนล่าสัตว์เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากขอเพียงกองทัพธงเหลืองสามารถถอยทัพกลับไปได้ เผ่าหมานที่เหลือสองแสนคน หากกองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง จะต้องสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแผนสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือเขาต้องรีบนำแจกันไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุดมั่วฝานตะโกนเสียงดัง “หวังเซิ่ง!”ไม่มีผู้ใดขานรับ หน่วยกล้าตายที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแต่อยู่ในสนามรบทั้งสิ้นมีเพียงแค่ทหารเด็กจำนวนหนึ่ง และประชาชนในเมืองตงโจวเท่านั้น เหล่าราษฎรถือชามโจ๊กมองมาที่เขามั่วฝานเท้าสะเอว พลางมองไปยังแจกันที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายเขาก็หิ้วแจกันขึ้นมา เดินไปที่ข้างรถกระบะ และพยายามขนถังใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยความยากลำบากเขานำแจกันวางไว้ที่ด้านข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถและไล่ตามจ้านเฉิงอิ้นไป...จ้านเฉิงอิ้นออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ความเร็วของเขามากกว
“คุณก็บอกไปว่าส่งไปเมืองนอกไม่ได้เหรอ?”เถ้าแก่ “...”ครั้นเย่มู่มู่เห็นเถ้าแก่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “หกพัน หกพันกระบอกได้แล้วใช่ไหมคะ? ฉันจะจ่ายตามราคาครั้งที่แล้ว ราคาขายของคุณเป็นสองเท่า ฉันต้องการเร่งด่วน คุณว่ามาเถอะค่ะ ออเดอร์นี้จะดีลไหมคะ?”เถ้าแก่ไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกหกพันกระบอก ราคาขายของทุกกระบอกหลายหมื่นทีเดียว!นี่ทำเงินได้มากกว่าส่งออกนอกประเทศหลายเท่าตัวเลยทว่า ขายออกไปหกพันกระบอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา เขาต้องติดคุกแน่“ไม่ได้ ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกเมียผมต้องพึ่งผมทั้งนั้น หากติดคุกติดตารางขึ้นมาจะทำยังไง?”เย่มู่มู่คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้เถ้าแก่!เปิดแอปธนาคารในมือถือของเธอ จากนั้นก็อัดวิดีโอ แล้วส่งวิดีโอให้เถ้าแก่บัตรดำใบหนึ่งของเธอ ตอนนี้มียอดเงินคงเหลือพันกว่าล้านเป็นเงินที่เวินลี่โอนเข้ามาเมื่อหลายวันก่อนเธอกล่าว “ห้าพันกระบอก ในคลังของคุณต้องมีแน่ ฉันรู้ว่าคุณขายส่ง สินค้าของร้านเล็ก ๆ มากมาย ล้วนมาเอาจากคุณทั้งนั้น!”“ลูกกระสุนฉันเหมาหมด นี่เป็นยอดเงินคงเหลือของฉัน ขอแค่คุณขายให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินทันที!”“ตราบใดที่ดองสินค้าเอ
“หากเจ้ามีชีวิตรอดกลับมา ข้ารับปากเจ้า จะพบหน้าเจ้า!”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้ม น้ำเสียงไม่เคร่งขรึมหรือเศร้าโศกอีกเขาดีใจ น้ำเสียงใสและร่าเริง “ท่านเทพ ท่านตกลงแล้ว?”“ใช่ ข้าตกลงแล้ว!”“ข้าจะมีชีวิตรอดให้ได้ ต้องมีชีวิตรอด!”“ดี ข้าจะรอเจ้า พวกเจ้าจะไปรบแล้ว มีอะไรที่ข้าช่วยได้บ้าง?”“ไม่ต้องแล้วขอรับท่านเทพ ที่ท่านช่วยได้ก็ช่วยแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงพวกข้าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น!”“ท่านรอข่าวดีจากข้าได้เลย ไม่ว่าจะต้องข้ามภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบหรือมหาสมุทร ห่างกันหมื่นปี ข้าก็จะไปเจอท่านให้ได้!”เย่มู่มู่เช็ดน้ำตาที่ขอบตา พร้อมฉีกยิ้มอย่างความโศกเศร้ากลายเป็นความสุข “ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”“กองทัพมารวมตัวกันแล้ว ข้าเตรียมตัวจะออกเดินทางแล้ว ท่านเทพไว้เจอกันนะขอรับ!”มือของเย่มู่มู่ลูบแจกัน “เจอกัน จ้านเฉิงอิ้น!”หลังจากนั้น ในใจของเธอมีเสียงเต้นตึกตักเล็ก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง“ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”จนกระทั่ง ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก เย่มู่มู่ก็รู้ทันทีว่าจ้านเฉิงอิ้นไปแล้ว!ไม่รู้ว่าผู้ใดถือแจกันเอาไว้เขาจะต้องปลอดภัย!ในจังหวะนี้เอง มีเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ในแจกัน จากนั้นก็มีก
เย่มู่มู่เดินกลับไป แล้วถามฮ่าวอี้ว่า “พวกคุณเข้ามาได้ยังไง?”“ให้บุหรี่ดันฮิลกับรปภ.ตัวหนึ่ง ก็ปล่อยเข้าไปแลว แถมเราไม่ใช่คนไม่ดีอะไร มารับคุณที่หน้าประตูมหาลัยทุกวัน จนสนิทกับรปภ.แล้ว!”รปภ.ได้ยินพวกเขาบอกว่า เป็นบอดี้การ์ดได้เงินเดือนเดือนละสามแสนกำลังคิดจะโยกย้ายงาน ไปเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่ถามอีกว่า “แน่ใจเหรอว่าหลูหมิงจะออกมาได้?”“ได้แน่นอน อีกฝ่ายพกมีด แถมยังรับเงิน สภาพการณ์นี้ก็จะต่างออกไปแล้ว ขอแค่เป็นทนายที่ไม่ตาบอดจนเกินไป ก็แก้ต่างให้พ้นโทษได้!”เย่มู่มู่โทรหาเวินลี่เวินลี่คล้ายกับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย บอกว่าหาทนายเอาไว้เรียบร้อยแล้วตอนนี้อยู่ระหว่างไปสถานีตำรวจ ยื่นประกันตัวออกมาวันนี้เย่มู่มู่ถอนหายใจทีหนึ่งเมื่อเธอกลับถึงคฤหาสน์ ก็พุ่งเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เปิดตู้เซฟเธอย้ายแจกันออกมา กระดาษขาวแผ่นหนึ่งร่วงตกลงมาตรงก้นแจกันเธอหยิบกระดาษขึ้นมาด้านบนเขียนตัวอักษรแสนคุ้นเคยที่ชัดเจนและทรงพลัง เป็นจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาแม้จะบอกว่าเป็นจดหมาย ทว่าเหมือนจดหมายลาตายมากกว่าเขาบอกว่า ของทั้งหมดที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ ใส่เอาไ