Share

บทที่ 42

Author: มู่โร่ว
เขาไม่อาจกล้ำกลืนความแค้นที่จ้านเฉิงอิ้นผลาญล้างชีวิตคนหมื่นคนของเขาไปได้

เขาจ้องมองที่กุนซืออย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมืองมีทั้งน้ำและเสบียงอาหาร?”

“หากมิอาจยึดด่านเจิ้นกวนได้ กองพลของเราก็มีแต่จะหิวตาย”

“ในขณะที่กองพลของจ้านเฉิงอิ้น ได้พักผ่อนฟื้นฟู จนสมบูรณ์แข็งแรง!”

"ข้ามิสนว่ามังกรจะพลิกมิพลิกกาย ในสามวันนี้ ข้าจะต้องยึดด่านเจิ้นกวนมาให้จงได้!”

กุนซือหลิวหลิงใจเต้นแรง

ในเมืองด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารอยู่อย่างนั้นหรือ?

จะเป็นไปได้อย่างไร?

ด่านเจิ้นกวนถูกปิดล้อมมากว่าครึ่งปี จนกลายสภาพราวถังเหล็กก็ปาน แม้แต่วิหคสักตัวก็มิอาจบินพ้นผ่านเข้าไปได้

ปากคอเขาแห้งผาก เพียงคิดถึงว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ ดวงตาก็ฉายแววหมายมาดในชัยชนะ

เขาโค้งตัวลงประสานมือคารวะ ท่าทีเปลี่ยนราวคนละคน

"ท่านอ๋องน้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าในเมืองมีน้ำ เราจึงจำเป็นยิ่งที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ มิอาจหุนหันพลันแล่นโจมตีเมืองได้"

“เสบียงอาหารและน้ำของจ้านเฉิงอิ้นมาจากที่ใด? มีมากเท่าใด จัดเก็บไว้ที่แห่งใด?"

“การโจมตีเมืองก็จำต้องมีแผนการ หากบุกจากประตูเมือง กำแพงเมืองก็สูงขึ้นแล้ว คันรถกระทุ้งกำแพง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Good BK
สนุกมากอ่านแล้วลุ้นตามทุกตอน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 43

    เฉินอู่หัวเราะลั่น “ดียิ่ง ข้ายังคิดอยู่เลยว่าจะขอดินระเบิดจากท่านเทพอย่างไร ทว่านางกลับเป็นฝ่ายมอบให้พวกเราเสียเองเ!”“ท่านแม่ทัพ อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ หากเผ่าหมานกลับมาโจมตีเมืองอีก พวกเราก็จะมีอาวุธชั้นดีไว้ป้องกัน!”“ดินระเบิดระเบิดภูเขาใหญ่ทั้งลูกได้ หากใช้ระเบิดสังหารคนแล้วละก็ อานุภาพจะไม่ยิ่งคร่าชีพได้มากกว่าหรือ!”จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาสั่งการไปยังซ่งตั๋ว“หากระท่อมว่างหลังเล็ก ๆ จำไว้ รัศมีห้าลี้มิอาจให้มีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ใดอยู่ใกล้เคียง หาทหารรักษาการณ์ที่ไว้ใจได้มาคอยลาดตระเวนโดยรอบ และห้ามมิให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไปเช่นกัน”ซ่งตั๋วค้อมตัวประสานมือคารวะ “ข้าน้อยรับบัญชา”เย่มู่มู่ส่งข้อความมาอีกครั้ง นางไปสั่งอาหารมื้อดึกเอาไว้เรียบร้อยแล้วท่านเทพดีต่อเขายิ่งนัก!ชาติปางก่อนเขาคงได้กราบขอพรหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าอยู่ภพหนึ่ง จึงทำให้ชาตินี้ได้พบท่านเทพเปี่ยมเมตตาเช่นนี้ มาช่วยชีพคนทั้งเมืองเอาไว้ ในยามที่เขาสิ้นไร้ซึ่งหนทางอย่างถึงที่สุด!ชาตินี้แม้จนเขากระดูกแตกแหลกลาญก็ไม่อาจตอบแทนนางได้หมดสิ้น!*เย่มู่มู่จอดรถที่บนถนนสายปิ้งย่างแห่งหนึ่ง รอบข้า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 44

    รอบขอบตาเฉินอู่แดงก่ำขึ้นเช่นกัน “ใช่แล้ว ลูกสาวสองคนของข้าหวิดจะสิ้นชีพอยู่แล้ว หากไม่มีข้าวกล่องช่วยไว้ พวกนางคงไม่มีชีวิตมาถึงตอนนี้ ท่านแม่ทัพ ข้าเฉินอู่ขอคารวะท่าน และขออภัยสำหรับความหยาบทรามที่ข้าแสดงเมื่อยามเราได้พบกันคราแรก!”คนอื่น ๆ ดวงตาก็เริ่มชื้นน้ำไปตาม ๆ กัน พวกเขาติดสอยห้อยตามกองทัพตระกูลจ้าน ก้าวขึ้นมาอย่างช้า ๆเช่นซ่งตั๋ว เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน และเหอหงบ้างก็ถูกส่งตัวมาจากราชสำนัก ในตอนแรกพวกเขาถูกส่งมาเพื่อตรวจสอบกองทัพตระกูลจ้าน และคอยโอกาสแบ่งแย่งอำนาจทางการทหารจากจ้านเฉิงอิ้นอาทิเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง มั่วฝาน และเฉินจวิ้นหลินสองพี่น้องเฉินขุยและเฉินอู่ คราแรกที่มาถึงด่านเจิ้นกวน ก็ตรงเข้าไปหาจ้านเฉิงอิ้นเพื่อขอทหาร จ้านเฉิงอิ้นบอกปัดปฏิเสธ สองคนจึงยุยงมั่วฝาน ให้เป็นปฏิปักษ์ต่อจ้านเฉิงอิ้นมั่วฝานสืบสายสกุลบรรดาศักดิ์ขุนนาง เป็นหลานชายแท้ ๆ ของไทเฮาในเมืองหลวงเขามีชื่อในฐานะผู้รากมากดี ทุก ๆ วันหลับนอนเสียจนตะวันโด่งขึ้นสามลำไผ่ ไม่มีวันใดแวะเวียนไปค่ายทหาร วัน ๆ เทียวแต่ดื่มเหล้าเคล้าด้วยนารีครอบครัวกลัวเขาลำบากยากแค้น จึงส่งข้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 45

    เย่มู่มู่ไม่ได้ตอบกลับ เธอรีบออฟไลน์ จัดการเติมน้ำลงในแจกัน แล้วไปพักผ่อนเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาเธอพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับอยู่หลายสายเธอรีบลุกขึ้น อาบน้ำชำระร่างกายอย่างง่าย ๆ จากนั้นโอบยกแจกันดอกไม้ขึ้นรถตรงไปยังโกดังเจ้าของร้านค้าข้าวและหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอกำลังรอการชำระเงินอยู่ที่โกดังครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็มาถึงโกดังหลังตรวจเช็กสินค้ากับทางเจ้าของร้านค้าข้าวแล้ว ก็ทำการชำระเงินก้อนสุดท้าย ก่อนเจ้าของร้านค้าข้าวจะจากไปเขาเอ่ยถามเธอ “ยังต้องการเสบียงอีกไหมครับ?”เธอตอบ “ต้องการค่ะ คุณจัดหาข้าวสารมาเรื่อย ๆ ได้เลยนะคะ”“งั้นตกลงตามนี้เลยนะครับ!”สิ่งของช่วยบรรเทาภัยน้ำท่วมห้าคันรถบรรทุก เสบียงสามแสนล้านชั่ง ทั้งหมดเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านบาทเธอแบ่งจ่ายเงินก้อนสุดท้ายให้กับหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอไปหนึ่งในสามส่วนก่อนจะกลับไปก็เอ่ยถามขึ้น “สนใจจักรเย็บผ้าไหมคะ แบบใช้เท้าเหยียบน่ะ? ลูกค้าฉันจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า มีจักรเย็บผ้าแบบเท้าเหยียบรุ่นที่เลิกใช้ไปเมื่อสิบปีก่อนอยู่ล็อตหนึ่ง ราคาถูกมาก เครื่องละห้าร้อยบาทเอง ไหนจะมีเข็มสำหรับใช้กับเครื่องโดยเฉพาะอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 46

    พืชผลถูกแสงแดดแผดเผาจนเฉาตายอยู่ในไร่แคว้นอื่น ๆ อีกห้าแคว้นต่างก็กำลังคิดหาหนทางตุนเสบียงหากเรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีเสบียงแพร่งพรายออกไป ไม่เพียงเผ่าหมานที่คิดจะแย่งชิงเสบียง กองทัพจากแคว้นอื่นต้องมารวมตัวกันที่ด่านเจิ้นกวนอย่างแน่นอนตอนนี้ทั้งการเกณฑ์ทหาร จัดกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการฝึกฝนล้วนกำลังดำเนินการไปอย่างเร่งรัดเผ่าหมานยังปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ จับจ้องด่านเจิ้นกวนอย่างไม่ยอมละสายตาพร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ!พวกเขาต้องปกป้องเสบียงชุดนี้ไว้ให้ได้ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังจะออกจากคลังพร้อมกับแจกันนั้นก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกแฮม ข้าวสวยแบบอุ่นเอง และหม้อไฟแบบอุ่นเองร่วงตกลงมาอีกมากมายนับไม่ถ้วน…พื้นที่ในคลังมีไม่พอ กล่องเหล่านั้นจึงล้นออกมานอกประตูพลทหารหลายคนเบิกตากว้าง พากันจ้องมองหม้อไฟและข้าวสวยแบบอุ่นเองที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเฉินขุยเปิดกล่อง และหยิบขึ้นมาดูหนึ่งกล่องเล็กด้วยความสงสัยทุกคนเพ่งมองอักษรตัวย่อ ครั้นปะติดปะต่อกันก็พออ่านออกได้“ท่านแม่ทัพ ข้าวนี้ แค่ใช้น้ำก็อุ่นให้ร้อนได้แล้วขอรับ!”ซ่งตั๋วอ่านวิธีทำเขาตื่นเต้นอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 47

    จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยมาถึงที่บ้านของเขาเฉินขุยมีภรรยาเอกหนึ่งคน อนุอีกสองคน และบ่าวรับใช้อีกสามสิบคน ทุกคนออกมารอต้อนรับทุกคนแต่งกายซอมซ่อ เหล่าภรรยาและลูก ๆ ยังถือว่าแต่งกายเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าดูมอมแมมเพราะไม่มีน้ำให้ซักผ้าเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยรอยเย็บปะ แม้พวกเขาจะผ่ายผอม ทว่าแต่ละคนดูกระตือรือร้นเฉินขุยนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมให้ภรรยาลูก ๆ ของเขาต่างดีใจกระโดดโลดเต้น อยากเห็นว่าท่านพ่อของพวกเขานำของอร่อยอะไรกลับมาบ้านอีกคืนวันก่อน ท่านพ่อนำหมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยหุงสุกเลิศรสกลับมาอย่างละหนึ่งกล่องคืนเมื่อวาน เป็นขาแกะย่าง และเนื้อย่าง ยังมีเนื้อวัวผัดแห้งอีกหนึ่งจานตอนนี้ ลูก ๆ ทุกคนต่างพากันตั้งหน้าตาตั้งตารอท่านพ่อกลับบ้านวันนี้เขานำกล่องกระดาษใหญ่ ๆ กลับมาด้วยสองกล่องเฉินขุยแกะกล่องไส้กรอกแฮม ก่อนจะแจกจ่ายให้ลูก ๆ ห้าคน คนละอัน“จำไว้ เปลือกนอกกินไม่ได้นะ”เขาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาอีกสามห่อ มอบให้กับภรรยาของเขาภรรยาของเขายิ้มและคารวะขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งต่อให้พ่อบ้านพ่อบ้านพาเด็ก ๆ ไปต้มบะหมี่ในครัวเฉินขุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 48

    จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตนฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออกในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างในเป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมากท่านเทพจะต้องชอบแน่!เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย“ลำบากแล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกันเขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตาฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไปสิ่งของหายไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 49

    สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 50

    จ้านเฉิงอิ้นส่ายหน้า “บรรพบุรุษของข้ารับใช้แคว้นต้าฉี่มานาน ไม่มีทางยอมจำนนต่อแคว้นฉีแน่นอน เจ้าเขียนจดหมายส่งกลับไปให้เยว่หงหนึ่งฉบับ”“สั่งให้เขานำกองกำลังมาจำนนต่อเรา ทหารหนึ่งคนเบิกข้าวสารได้หกจิน แป้งหมี่สามจิน น้ำมันหนึ่งถัง เกลือขาวหนึ่งห่อต่อหนึ่งเดือน...”“เขานำคนมามากเท่าใด ข้าก็จะรับไว้เท่านั้น”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “ดี ความคิดนี้ดีมาก เหยียดหยามเขาได้สาแก่ใจนัก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างกังวลอีกว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับเราเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่เรามีเสบียงด้วยตัวเองน่ะสิขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้น “อย่างไรก็ปิดข่าวไม่มิด เพื่อเสบียงอาหาร เจ้าว่าแคว้นฉู่กับแคว้นฉีจะส่งทหารมาขับไล่เผ่าหมานหรือไม่?”“แน่นอน ใต้หล้าประสบภัยแล้ง เสบียงอาหารมีค่ากว่าชีวิตคน”จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยต่อว่า “พวกเขาจะร่วมมือกันขับไล่เผ่าหมานเพื่อเสบียงอาหารและน้ำแน่นอน จากนั้นสองแคว้นก็จะรบกัน แคว้นใดชนะจะหันมาโจมตีเมืองเรา เพื่อชิงเสบียงอาหาร!”สายตาของเขาเย็นชาเมื่อใดที่ท่านเทพส่งอาวุธชุดที่สองมา ไม่ว่าแคว้นฉู่หรือแคว้นฉีชนะ เขาก็ไม่กลัวเขาสั่งเฉินขุย “อย่างไรก็ต้องกวนน้ำให้ขุ่น เจ้าส่งสารส์นไปที่แคว้น

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 432

    “ดีขึ้นมากแล้ว อีกสามวันก็เริ่มออกเดินทางได้ ท่านเทพ มั่วฝานกับหลูซีสร้างความวุ่นวายให้กับท่านหรือไม่?”“ถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟัง ท่านส่งพวกเขากลับมา!”เย่มู่มู่กล่าว “ไม่เป็นไร!”ทั้งสองคนค่อนข้างเชื่อฟัง อย่างน้อยพวกเขาก็ตั้งใจทำงานในพื้นที่ก่อสร้างมั่วฝานมีอุดมคติอันสูงส่งเป็นของตัวเองอีกครั้งก่อนกลับไปที่ต้าฉี่ อย่างน้อยเขาจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าให้ได้และวันนี้หลูซีจับฆาตกรไว้ได้ฆาตกรตัวเป็น ๆ ได้รางวัลเป็นเงินหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทก่อนกลับไป เขาจะเอาเงินรางวัลแลกเป็นเสบียงอาหารและเอามาไว้ในมือที่สำคัญกว่านั้นเย่มู่มู่รู้สึกว่าหลูซีมีฝีมือการต่อสู้ที่ดี ประพฤติตัวดีมากและยังเชื่อฟังถ้าไม่ใช่เพราะหลูซี เธอเกือบตายถึงสองครั้งแล้วเธออยากให้หลูซีอยู่ต่อ ไม่ว่าจะเข้าเรียนหรือเป็นผู้พิทักษ์ของเธอเด็กคนนี้มีอุปนิสัยที่ดีปกติไม่ค่อยพูดจา แต่ชอบทำงานและมีสมาธิในการทำงานสูงมากหน้าตาก็ยังน่ารักมากอีกด้วย!เย่มู่มู่นำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้บอกเล่าแก่จ้านเฉิงอิ้นมีคนออกคำสั่งให้มาฆ่าเธอถ้าไม่ใช่เพราะหลูซีช่วยเธอไว้ บางทีเธออาจถูกแจกันอันหนึ่งฟาดตายแล้ว!เธอถ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 431

    การติดต่อครั้งที่สามคือเมื่อสามวันก่อน ฝ่ายตรงข้ามจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ห้าสิบล้านนักฆ่าติดต่อฝ่ายตรงข้ามและกล่าว ไม่สำเร็จ!ต่อจากนั้น มือถือก็ตกอยู่ในมือหลูซีเย่มู่มู่ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ตรวจสอบและค้นหาบัญชีที่ชำระเงินได้ไหม?”เธอต้องการรู้ให้ได้ว่าคนที่จะเอาชีวิตเธอคือใครและยังมีบิดามารดาของเธอ คนที่ทำร้ายพวกเขาคือใครกันแน่ถ้าเธอหาเจอ คนที่อยู่เบื้องหลังจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!เย่มู่มู่ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ตรวจสอบและค้นหาคนอยู่เบื้องหลังที่จ้างนักฆ่าได้ไหม?”“มีความยากเล็กน้อย เครือข่ายแวนถูกซ้อนอีกชั้นและเปลี่ยนที่อยู่ IP แล้วหลายครั้ง ไม่สามารถติดตามได้ ที่สำคัญ…”“ที่สำคัญอะไร?”“ผมรู้สึกว่าคำสั่งการของฝ่ายตรงข้าม เขาหาคนเฉพาะทางสั่งการอีกที ในเครือข่ายแวนมีคนคอยช่วยทำเรื่องที่ไม่อาจบอกใครได้บางอย่าง พวกเขาไม่ใช่ผู้อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นคนกลางที่ส่งต่อมาเป็นทอด ๆ !”“คนกลางที่ส่งออกไปเป็นทอด ๆ อาจมีสองสามชั้นและอาจมีหลายสิบชั้น!”“ผมต้องใช้เวลาตรวจสอบนานมาก?”เย่มู่มู่จนใจกัดฟันพูดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ห้าล้านบาท หาคนที่อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างนักฆ่ามาฆ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 430

    “ผู้หญิงที่หอโคมเขียวนั่นอย่างไร อ้างตนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ครั้นเจอรัฐทายาทน้อยก็บีบน้ำตาร้องไห้ บอกว่าถูกขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเศรษฐีรังแก อยากให้รัฐทายาทน้อยช่วยตัดสินใจแทนพวกนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“พอรัฐทายาทน้อยไปช่วยออกหน้าแทนพวกนาง และหาเรื่องคนเหล่านั้นจริง ๆ พวกนางกลับร้องไห้ฉุดเขาเอาไว้ บอกว่าเพียงอยู่เป็นเพื่อนแค่คืนเดียว ทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้ว่า พวกนางคือคนของรัฐทายาทน้อย ถึงจะไม่ถูกคนรังแก”“รัฐทายาทน้อยค้างคืนในห้องของพวกนางจริง ๆ วันต่อมานางก็ส่งเขากลับไปด้วยความปลื้มปีติ จากนั้นก็ห้อยป้ายรับแขก ราคาสูงกว่าราคาก่อนหน้านี้เป็นสองเท่า ลูกไม้ที่บอกกับคนนอกคือ ผู้หญิงที่ทำให้รัฐทายาทน้อยอยู่ค้างอ้างแรมจนลืมกลับจวน!”“ขุนนางชั้นสูงและเศรษฐีแห่กันไปชิงอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ข้าเคยเห็นมาก่อน คืนก่อนหน้านั้นยังร่ำไห้บ่นกับรัฐทายาทน้อยอยู่เลย คุกเข่าขอร้องให้เขาตัดสินใจรับเป็นหญิงสาวที่ค้างแรมด้วย ขณะเดียวกันวันต่อมาก็รับรองแขกผู้ชายสามคน เรื่องพรรค์นี้เยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหว!”“เขาถูกหลอกหลายครั้งมาก ๆ ตระกูลมั่วก็จะช่วยเขาจัดการ!”เย่มู่มู่เห็นมั่วฝานกับคังเจียสยง เรียกพี่เรียกน้อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 429

    ผู้รับเหมาเขี่ยเถ้าบุหรี่ ก่อนจะกล่าวว่า “คุณรู้ดีอยู่แก่ใจก็พอแล้ว หากมีบุคคลที่น่าสงสัย ก็บอกมาเลย ผมจะช่วยหาคนไปจับตามองให้คุณเอง”“ได้ค่ะ!”ผู้รับเหมาดับบุหรี่ แล้วชนเบียร์กับมั่วฝานแก้วหนึ่ง พร้อมถามเย่มู่มู่“หนุ่มหน้าขาวไปหามาจากไหน?”มั่วฝานจีบปากจีบคอแล้วโต้กลับ “ข้าไม่ใช่หนุ่มหน้าขาว!”จากนั้นก็มองที่เย่มู่มู่อย่างไม่เป็นธรรมชาติ เขาไม่กล้าดูแคลนท่านเทพ!“โอเค ๆ ๆ นายไม่ใช่หนุ่มหน้าขาว มื้อนี้ใครเลี้ยง ดูท่าทางนายยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ใช่ไหม นายมีเงินจ่ายไหม?”ครั้นกล่าวถึงเงิน มั่วฝานก็ของขึ้นทันทีจะว่าอะไรเขาก็ได้แต่จะว่าเขาไม่มีเงินไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ต้าฉี่ หรือว่าในยุคปัจจุบัน...เขารีบล้วงโทรศัพท์ดอกเบญจมาศรุ่นใหม่ออกมา พร้อมเปิดข้อความยอดเงินคงเหลือในธนาคาร“เห็นหรือยังว่าข้าซื่อจื่อมีเงิน!”ผู้รับเหมายื่นคอออกมาชำเลืองมองทีหนึ่ง นี่ ไม่ดูก็ไม่เป็นไรทว่าเมื่อดูก็เป็นอันต้องตกตะลึง!สี่...สี่ร้อยล้านเชียว!ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นทายาทเศรษฐีดูเหมือนว่าคนโง่แต่มีเงินเยอะ หลอกได้ง่ายสุด ๆ!แม้ผู้รับเหมาจะเป็นคนที่ทำมาหากินไม่ถูกต้อง แต่เขาจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 428

    ครั้นมั่วฝานได้ยินว่าหลูซีได้รับรางวัล ในใจก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งทว่าก็ไม่ได้เป็นเพราะอิจฉา ในบัตรของเขายังมีสี่ร้อยล้าน ไม่จำเป็นต้องอิจฉาเขาเพียงแต่...เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมการดำเนินชีวิตใหม่ ดูสิ หลูซีเพิ่งจะสิบหก ก็จับผู้ต้องการหนีคดีได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วส่วนเขาได้แต่พึ่งการขายของมีมูลค่าที่ตัวประทังชีวิตเห็นได้ชัดว่าตนไร้ประโยชน์ขนาดนั้น!เฮ้ออารมณ์เสียชะมัด!กลุ้มใจจริง ๆ!เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมา แล้วกระดกหมดในรวดเดียวในขณะนี้เอง ผู้รับเหมาก็พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคมาด้วยกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคร่างเล็ก ค่อนข้างผอม สีหน้าซีดเผือดราวกับไม่ได้เจอแสงแดดมานานเขาไม่ได้สวมแว่น สวมเสื้อลายสก็อตธรรมาดา ๆ พร้อมนั่งลงอย่างเหนียมอาย เมื่อเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ไม่ใช่หนุ่มหล่อทว่าเป็นสาวสวย ก็วางมือลงบนเข่าด้วยความรู้สึกอึดอัดส่วนผู้รับเหมาย้ายเก้าอี้มานั่งข้างเย่มู่มู่อย่างสนิทสนมทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานเขาหยิบเบียร์ขึ้นมาเองขวดหนึ่ง จากนั้นก็รินใส่จนเต็มแก้ว“คุณบอกว่านักฆ่าคนนั้นถูกจับแล้ว?”“ใช่ค่ะ เพิ่งโทรเข้ามา มีคดีฆาตกรรมติด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 427

    มั่วฝานและหลูซีต่างตาเบิกโพลง พวกเขาได้ยินอะไรกันตระกูลใหญ่โตตระกูลหนึ่งแย่งสมบัติกัน โดยใช้วิธีให้ยายเฒ่าผู้หนึ่งฆ่าตัวเอง บีบให้ท่านเทพยกเลิกการทวงหนี้ของพวกเขาพวกเขาเคยเห็นผู้ที่ไร้ยางอาย ทว่าไม่เคยเห็นผู้ที่ไร้จิตใจเช่นนี้มาก่อนพายายเฒ่าอายุเจ็ดสิบขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้นสามสิบ ไปกระโดดฆ่าตัวตาย?แม้เบื้องล่างจะมีเบาะรองรับการกระโดดปูเอาไว้ ทว่าคนแก่คนชราแค่ล้มก็กระดูกหักได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกระโดดลงมาจากตึกสูงเช่นนี้เลยวันนี้หลูซียังนับความสูงของชั้นอย่างตั้งใจอีกด้วยเขารู้ว่าสามสิบชั้นสูงเท่าไรกันแน่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ในโลกของท่านเทพบ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!เพื่อเงิน...บ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!ในต้าฉี่ของพวกเขา แม้เงินจะสำคัญมาก ๆ ทว่าเสบียงอาหารและน้ำสำคัญยิ่งกว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อน้ำและเสบียงอาหารได้...ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่ยกให้เงินเป็นอันดับแรก ทว่าเสบียงอาหารและน้ำต่างหากที่เป็นอันดับแรก!มั่วฝานเองก็รู้สึกว่าคนในครอบครัวของท่านเทพ เสียสติไปแล้วเพียงเพราะเงินตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้ท่านเทพเป็นเด็กกำพร้าข้างกายยังมีญาติพี่น้องชั้นหนึ่งอีกกลุ่มหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 426

    “เปล่านะครับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนหนึ่งของทางเรา ได้ติดตั้งโปรแกรมไว้ในโทรศัพท์ของพวกเขา เนื้อหาที่พวกเขาคุยกันคือ จะเอาเงินจากทางฝั่งคุณยังไง วิธีที่คิดขึ้นมาเรียกได้ว่าสกปรกสุด ๆ นอกเหนือจากนี้เหมือนจะไม่มีอย่างอื่นแล้วครับ”“พวกเขาไม่ได้จ้างวานฆ่าฉันจริง ๆ เหรอคะ?”ครั้นผู้รับเหมาได้ยินดังนั้น นี่ถึงขั้นจ้างวานฆ่าแล้วเหรอ?นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะเย่มู่มู่บอกเรื่องที่เมื่อครู่เธอเกือบถูกจัดฉากให้ตายด้วยอุบัติเหตุและเรื่องที่นักฆ่ามืออาชีพถูกจับให้กับผู้รับเหมาฟังผู้รับเหมารีบก่นด่าขึ้นมา “ผมให้คนฟังเนื้อหาที่พวกเขาคุยกันทุกวัน ต้องไม่กล้าฆ่าคนแน่ ๆ วางใจได้ครับ คุณคือคนให้ที่อยู่ที่กินของเรา ใครกล้าลอบทำร้ายคุณ ก็เท่ากับจงใจหาเรื่องเรา!”“ผมจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคส่งเนื้อหาที่ตระกูลเย่พูดคุยกันให้คุณนะครับ!”“โอเคค่ะ”เย่มู่มู่ถามขึ้นอีกว่า “ฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?”“เขาเก่งมากครับ ไม่ได้เรียนอะไรมา แต่เรียนด้วยตัวเองทั้งนั้น เป็นแฮกเกอร์ที่เชื่อถือได้!”“งั้นคุณพาเขามาหน่อยนะคะ ทางฉันมีโทรศัพท์ที่ต้องการให้เขาแฮกเครื่องหนึ่ง ถ้าแฮก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 425

    มั่วฝานเห็นสีหน้าเย่มู่มู่ไม่สู้ดี นางเลื่อนดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรไม่มีเลยหลูซีซ้อมคนไปยกหนึ่ง ได้ระบายความโกรธไปไม่น้อยอาหารอร่อย ๆ เต็มโตะ เขาก็กินอย่างมีความสุขน้ำเสียงที่กล่าวก็เปลี่ยนไปเยอะเช่นกัน!“คนผู้นั้นยังปากแข็ง ข้าอัดเขายกหนึ่ง เขายังหัวเราะร่า บอกว่าถ้าแน่จริงข้าก็อัดเขาให้ตายสิ...”“เขายังบอกอีกว่าข้าไม่กล้าฆ่า เพราะหากฆ่าเขา ต้องคิดถึงผลที่ตามมาด้วย!”“ฮึ เขาหลอกคนโบราณเยี่ยงข้า เมื่อวานที่สถานีตำรวจ พวกพี่สาวบอกเกร็ดความรู้แก่ข้าแล้ว ข้ายังอายุไม่ถึงสิบแปดปีเต็ม หากพลั้งมือฆ่าคนจริง ๆ ปัญหาไม่ใหญ่...”“ข้าบอกกับเขาว่า บนหลังเขาแบกชีวิตคนเอาไว้ ข้ารู้จักคนที่สถานีตำรวจไม่น้อย พี่ชายที่ใส่กุญแจมือให้ข้าเมื่อวาน เอาเบอร์โทรให้ข้าแล้ว ข้าจะโทรให้เขามาจับคน”“ข้าส่งตัวนักฆ่าให้พี่ชายผู้นั้นไปโดยตรง...”เย่มู่มู่ฟังแล้วต้องถอนหายใจ“กระถางนั่นเล่าเจ้าคิดว่าอย่างไร จะตกใส่หัวข้าหรือ?”“องศา นักฆ่าอย่างเราจะฝึกใช้อาวุธลับ มุมและองศาในการออกแรงเรามองออกในพริบตาเดียว เขามุ่งเป้ามาหาท่าน!”“กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขาฉุนยิ่งนัก หาคนเช่นนี้บนถนนไม่พบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 424

    “ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่ชอบไปเที่ยวที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังหน้าแดงอีกเล่า?”หลูซีมองหญิงสาวที่สวมกระโปรงสั้น เผยให้เห็นต้นขาขาวผ่องออกมา เขากล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านเทพ ที่ต้าฉี่ไม่มีผู้ใดใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ แม้จะเป็นขอทานก็ปิดมิดชิดทุกส่วน!”เย่มู่มู่ตอบกลับ “นั่นถือว่ายังมีจรรยาบรรณทางวิชาชีพทีเดียว”“แม้ท่านรัฐทายาทจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ไปค้างคืนที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่เคยค้างคืนกับหญิงสาวที่หอโคมเขียว...”“ฉะนั้น นี่เขายังซิงอยู่หรือ?”หลูซีไม่เข้าใจอะไรที่เรียกว่าซิง เขาเอียงศีรษะน้อย ๆ พลางครุ่นคิดแล่วเอ่ยขึ้นว่า “อืม เขาบอกว่าผู้หญิงที่หอโคมเขียวเองก็ไม่ง่าย หากเขาค้างคืนด้วย แล้วรู้ว่านี่คือคนของเขา ก็จะไม่มีขุนนางชั้นสูงและคนตระกูลชั้นสูงผู้อื่นมาซื้อ และอาจมารังแกพวกนางได้!”เย่มู่มู่อดไม่ได้ที่จะมองรัฐทายาทน้อยตรง ๆ “นับว่าเขาเป็นคนดีทีเดียว!”“แน่นอนอยู่แล้วขอรับ...เขาเองก็ปฏิบัติกับหน่วยกล้าตายไม่เลวเช่นกัน!”ทันใดนั้น หลูซีก็ยืนตัวตรงพร้อมกำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือแน่นสีหน้าเคร่งเครียด เขาแหงนหน้าขึ้นไป สายตาของนัยน์ตาดำขลับมองไปยังที่ที่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status