แชร์

บทที่ 47

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยมาถึงที่บ้านของเขา

เฉินขุยมีภรรยาเอกหนึ่งคน อนุอีกสองคน และบ่าวรับใช้อีกสามสิบคน ทุกคนออกมารอต้อนรับ

ทุกคนแต่งกายซอมซ่อ เหล่าภรรยาและลูก ๆ ยังถือว่าแต่งกายเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าดูมอมแมมเพราะไม่มีน้ำให้ซักผ้า

เสื้อผ้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยรอยเย็บปะ แม้พวกเขาจะผ่ายผอม ทว่าแต่ละคนดูกระตือรือร้น

เฉินขุยนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมให้ภรรยา

ลูก ๆ ของเขาต่างดีใจกระโดดโลดเต้น อยากเห็นว่าท่านพ่อของพวกเขานำของอร่อยอะไรกลับมาบ้านอีก

คืนวันก่อน ท่านพ่อนำหมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยหุงสุกเลิศรสกลับมาอย่างละหนึ่งกล่อง

คืนเมื่อวาน เป็นขาแกะย่าง และเนื้อย่าง ยังมีเนื้อวัวผัดแห้งอีกหนึ่งจาน

ตอนนี้ ลูก ๆ ทุกคนต่างพากันตั้งหน้าตาตั้งตารอท่านพ่อกลับบ้าน

วันนี้เขานำกล่องกระดาษใหญ่ ๆ กลับมาด้วยสองกล่อง

เฉินขุยแกะกล่องไส้กรอกแฮม ก่อนจะแจกจ่ายให้ลูก ๆ ห้าคน คนละอัน

“จำไว้ เปลือกนอกกินไม่ได้นะ”

เขาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาอีกสามห่อ มอบให้กับภรรยาของเขา

ภรรยาของเขายิ้มและคารวะขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งต่อให้พ่อบ้าน

พ่อบ้านพาเด็ก ๆ ไปต้มบะหมี่ในครัว

เฉินขุ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 48

    จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตนฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออกในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างในเป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมากท่านเทพจะต้องชอบแน่!เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย“ลำบากแล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกันเขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตาฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไปสิ่งของหายไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 49

    สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 50

    จ้านเฉิงอิ้นส่ายหน้า “บรรพบุรุษของข้ารับใช้แคว้นต้าฉี่มานาน ไม่มีทางยอมจำนนต่อแคว้นฉีแน่นอน เจ้าเขียนจดหมายส่งกลับไปให้เยว่หงหนึ่งฉบับ”“สั่งให้เขานำกองกำลังมาจำนนต่อเรา ทหารหนึ่งคนเบิกข้าวสารได้หกจิน แป้งหมี่สามจิน น้ำมันหนึ่งถัง เกลือขาวหนึ่งห่อต่อหนึ่งเดือน...”“เขานำคนมามากเท่าใด ข้าก็จะรับไว้เท่านั้น”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “ดี ความคิดนี้ดีมาก เหยียดหยามเขาได้สาแก่ใจนัก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างกังวลอีกว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับเราเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่เรามีเสบียงด้วยตัวเองน่ะสิขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้น “อย่างไรก็ปิดข่าวไม่มิด เพื่อเสบียงอาหาร เจ้าว่าแคว้นฉู่กับแคว้นฉีจะส่งทหารมาขับไล่เผ่าหมานหรือไม่?”“แน่นอน ใต้หล้าประสบภัยแล้ง เสบียงอาหารมีค่ากว่าชีวิตคน”จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยต่อว่า “พวกเขาจะร่วมมือกันขับไล่เผ่าหมานเพื่อเสบียงอาหารและน้ำแน่นอน จากนั้นสองแคว้นก็จะรบกัน แคว้นใดชนะจะหันมาโจมตีเมืองเรา เพื่อชิงเสบียงอาหาร!”สายตาของเขาเย็นชาเมื่อใดที่ท่านเทพส่งอาวุธชุดที่สองมา ไม่ว่าแคว้นฉู่หรือแคว้นฉีชนะ เขาก็ไม่กลัวเขาสั่งเฉินขุย “อย่างไรก็ต้องกวนน้ำให้ขุ่น เจ้าส่งสารส์นไปที่แคว้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 51

    เสื้อเกราะกันกระสุนหลายสิบชุดที่ซื้อในออนไลน์คราวก่อนยังอยู่ระหว่างจัดส่งเธอเจอร้านค้าออนไลน์ที่ขายแผ่นเหล็กกระสุนระดับหกโดยเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังมีเหล็กสองแผ่นป้องกัน เพิ่มเสื้อเกราะกันกระสุนสองร้อยชุดยอดขายดี รีวิวก็ไม่เลวด้วยเย่มู่มู่ถามฝ่ายบริการลูกค้าว่าแผ่นเหล็กกันกระสุนและเสื้อเกราะกันกระสุนในสต๊อกสินค้าเหลืออยู่เท่าไหร่ฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าเดิมทียังเหลืออยู่หนึ่งแสนชุด แต่หลายวันก่อนทางฝั่งตะวันออกสั่งไปแปดหมื่นชุด ขายปลีกไปก็ไม่น้อย ตอนนี้จึงเหลืออยู่เพียงหนึ่งหมื่นกว่าชุดเท่านั้นเย่มู่มู่บอกว่าจะเหมาหมดเลย แล้วถามว่าลดราคาได้หรือไม่หลังจากปรึกษากับเถ้าแก่ร้าน เมื่อเธอซื้อหนึ่งหมื่นห้าพันชุด จะได้ในราคาเก้าร้อยบาทต่อชุดฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าจะจัดส่งพรุ่งนี้เย่มู่มู่ให้ทางร้านส่งสินค้าเดี๋ยวนี้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็มาในชั่วข้ามคืนเธอสามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งได้ เมื่อสินค้ามาถึงแล้วค่อยจ่ายเงินเต็มจำนวณฝ่ายบริการลูกค้าขอปรึกษากับเถ้าแก่เถ้าแก่ตกลงว่าจะส่งสินค้าเดี๋ยวนี้*จากนั้นเธอก็หาร้านค้าออนไลน์ที่ขายรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้ชายรองเท้าผ้าปักก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 52

    ไม่นานนัก แตงโมทั้งหมดก็ถูกส่งมาหมดแล้ว พอส่งเสร็จแล้ว เธอรู้สึกเบลอ ๆ เล็กน้อย ต้องพักสักครู่ถึงจะผ่อนคลายลงสภาพจิตใจแข็งแรงกว่าตอนขนย้ายวันแยก ไม่ได้เวียนหัวขนาดนั้นบนโต๊ะทำงานมีแตงโมมากกว่าสิบลูก หลายลูกเก็บไว้ให้ตัวเองกิน ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ให้ลุงหยาง*จ้านเฉิงอิ้นและกลุ่มแม่ทัพมองแตงโมที่กองอยู่อย่างตกตะลึงแตงโมนี้กองพะเนินเป็นภูเขา!เดิมทีเหล่าทหารจะกินได้เพียงหนึ่งชิ้นในมื้อเย็นเท่านั้นตอนนี้ได้กินมื้อละหนึ่งชิ้น และยังมีกินอีกหลายวันกว่าจะหมดเขาใช้นิ้วกดขมับเบา ๆ “ขุดห้องใต้ดินแล้วเอาไปเก็บไว้ ทุกคนเอากลับบ้านไปคนละสองลูก ถ้าไม่รีบกินให้หมด เกรงว่ามันเสียเอาได้!”พวกทหารไม่ปฏิเสธอีกแล้ว ทุกคนเลือกลูกใหญ่ ๆ สองลูกอย่างมีความสุข แล้วให้ทหารชั้นผู้ช่วยส่งกลับบ้านทุกคนกลับไปที่ห้องบัญชาการบนหอประตูเมือง วางแตงโมที่หั่นแล้วสองลูกไว้บนโต๊ะ ทหารแต่ละคนที่ยืนประจำการอยู่ก็จะได้กินกันคนละชิ้นจ้านเฉิงอิ้นมองไปยังตำแหน่งที่เผ่าหมานตั้งฐานที่มั่นอยู่ จนกระทั่งช่วงบ่ายก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ เกรงว่าวันนี้คงไม่มีการโจมตีแล้วขอรับ”หลี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 53

    เฉินขุยเบิกตากว้าง เจ้าหมอนี่ทำอย่างกับสั่งข้าวเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าที่ท่านเทพยอมช่วยพวกเขาเพราะเห็นแก่หน้าแม่ทัพกล่องเครื่องประดับเล็ก ๆ ก็กล้าเอามาเป็นของต่อรองเรียกร้องอีกอย่าง เขายังเป็นคนแรกที่เข้าไปเอาผ้าในสวนหลังบ้าน แล้วยังเอาลูกอมติดตัวมาด้วย!ฮูหยินก็ไม่ได้ห้ามปรามช่างหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!มั่วฝานและท่านแม่ทัพเกิดในปีเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่อายุยี่สิบปี มั่วฝานแก่กว่าท่านแม่ทัพสองเดือนเหตุใดถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้!หากไม่มีคนหนุนหลัง ด่านเจิ้นกวนสถานที่กินคนแห่งนี้ เขาคงตายไปแล้วพันครั้งจ้านเฉิงอิ้นรับกล่องเครื่องประดับไป ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบตกลงแค่พูดว่า “ต้องเพิ่มเงิน!”มั่วฝานตอบตกลง แล้วพูดกับหน่วยกล้าตายว่า “ไป ไปเอาเงินที่จวนมา”หน่วยกล้าตายเอากล่องรองเท้าและถุงเท้าไปด้วยกุนซืออยากจะถอยจ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “กุนซือจวง อยู่ก่อน”หนังสือที่จ้านเฉิงอิ้นแจกให้ทหาร พวกตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หรือพจนานุกรมอะไรพวกนั้น...มั่วฝานไม่ได้อ่านแม้แต่คำเดียว กลับมอบมันทั้งหมดให้กุนซือกุนซือจวงและกุนซือหลิวหลิงชาวฮั่นลูกน้องของหลัวเก๋อ ล้วนมาจากสำนักเดียวกัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 54

    มีนักพรตมาทั้งหมดสามคน ชายชราสองเด็กหนุ่มหนึ่งชายชราสองคนนั้น คนหนึ่งเปิดแผงลอยดูดวงบนถนนคนหนึ่งถูกเรียกว่าเทพหมอดูแต่ทางฝั่งเด็กหนุ่มคนนี้ แม้จะสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง แต่แววตากลับสดใส ดูไม่เหมือนนักพรตเลยจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้คนนำแตงโมสามลูกและข้าวหนึ่งถุงมาวางไว้บนโต๊ะ“ทั้งสามท่านทำนายว่าในช่วงเวลานี้ เวลาไหนคือเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเมือง”“หากคำนวณแม่นยำจะได้รับรางวัลเป็นข้าวหนึ่งถุง”“แน่นอน ไม่ได้ให้พวกท่านมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์ ทุกคนจะได้แตงโมคนละลูกกลับไปด้วย”นักพรตสามคนดีใจอย่างคาดไม่ถึง แตงโมคือของหายากในปีนี้ มันช่วยดับกระหาย ช่วยให้อิ่มท้อง เปลือกของมันยังกินได้ด้วยชายชราที่ตั้งแผงลอยนับนิ้วคนชราที่อยู่ข้างๆ ก็ใช้กระดองเต่าในการคำนวณเด็กหนุ่มเดินออกจากห้องบัญชาการ แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า มองไปรอบๆ แล้วพึมพำบางอย่างชายชราทั้งสองกล่าวว่าคืนนี้เป็นเวลาเหมาะที่สุดในการโจมตีเมืองทว่าเด็กหนุ่มกลับบอกว่ากองทัพหมานจะโจมตีเมืองตอนเที่ยงในอีกสามวันจ้านเฉิงอิ้นให้พวกเขาเอาแตงโมกลับไปหลังเที่ยงคืนคืนนี้ หากการคำนวณแม่นยำจะได้ข้าวยี่สิบชั่งเมื่อพวกเขากลับไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 55

    เธอจะช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้อย่างไร?เย่มู่มู่เข้าสู่ระบบชุมชนกองทัพออนไลน์ เว็บบอร์ดโรงเรียนนายร้อยแต่ละแห่งมีกระทู้ปักหมุดไว้ด้านบนมีคนคอมเมนต์เยอะมาก ส่วนใหญ่ไปในทางด้านลบคนสองหมื่นคนต่อสู้กับกองทัพสามแสนคน ต่อให้จูเก๋อเลี่ยง[1]กลับชาติมาก่อนก็ไม่มีทางทำอะไรได้ จำนวนคนมันห่างไกลกันเกินไปแม้ว่าคนสองหมื่นคนในเมืองจะเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อ แต่กองทัพสามแสนนายก็สามารถทำลายเครื่องบดเนื้อและพวกทหารไปพร้อมกันได้มีคนแนะนำว่าผู้โพสต์ว่าควรรีบยอมแพ้ ไม่มีหนทางรอดแล้วยังมีคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่เสนอความคิดอย่างจริงจังความแตกต่างในจำนวนคนนั้นมากเกินไป รักษาอย่างสุดชีวิตก็ไม่มีทางเอาชนะได้ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่มีน้ำไม่มีเสบียง หากจะเป็นฝ่ายรักษาสุดชีวิต ก็ทำได้เพียงถูกฆ่าตายทั้งเป็นควรจะมองหาโอกาสในการเริ่มโจมตีผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งแก่นสารสิบหกคำเอาไว้ เมื่อศัตรูล่าถอยข้าจะบุก เมื่อศัตรูประจำการข้าจะก่อกวน เมื่อศัตรูอ่อนล้าข้าจะโจมตี เมื่อศัตรูถอยข้าจะไล่บี้...การรบแบบกองโจรเหมาะสำหรับชนบทล้อมเมืองถูกขังตายอยู่ในเมืองเหมาะที่จะทำสงครามอุโมงค์ ขุดอุโมงค์เพื่อก่อกวนหลังจากติดตั้งอุปกรณ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 576

    กระบอกไม้ไผ่สิบกว่าอัน ใหญ่กว่าที่ทำเมื่อวานหนึ่งเท่าหยางชิงเหอเห็น ก็เป็นกังวลเล็กน้อย“ไม่แน่ว่าจะใส่หน้าไม้ราชวงศ์ได้!”หวังเซิ่งกล่าว “ข้าขอลองหน่อย!”เขาใช้สายสองเส้นตรึงกระบอกไม้ไผ่ก่อนยิงออกไป ดึงสายจุดไฟ...ครั้นยิงหน้าไม้ออกไป...มู่ฉีซิว เยี่ยนซวี่ แม่ทัพลั่ว หลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องทุกคนอยู่หน้าสุดของกองกำลังพวกเขาเพิ่งเดินมาถึงใต้หุบเขาแห่งหนึ่ง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังตูมเสียงหนึ่งจู่ ๆ บนยอดเขาก็มีเสียงระเบิดดังอึกทึกหลังจากนั้น ม้าก็อยากวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง ราวกับตกใจทว่าวินาทีถัดมา ก็มีหินก้อนมหึมากลิ้งตกลงมาจากบนยอดเขาเนื่องจากหลุมลึกที่เกิดจากการระเบิด ทำให้หินผุกร่อนกลิ้งตกลงมาอย่างต่อเนื่องม้าของทหารม้าด้านหน้า วิ่งเตลิดไปคนละทิศคนละทาง เหยียบทหารไปไม่น้อยส่วนทหารที่อยู่เบื้องหลัง ครั้นเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังคนที่อยู่ด้านหน้าถอยหลัง คนที่อยู่ด้านหลังเบียดไปด้านหน้า การเดินหน้าของทัพใหญ่พลันเข้าสู่การชะงักหลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องรีบรั้งบังเหียน พร้อมตะโกน “ทุกคนทำให้ม้าสงบ สงบสติ...”เมื่อเยี่ยนซวี่ได้ยินเสียงแสนคุ้นเคยนี้ สีหน้าก็ซีดเผือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 575

    จ้านเฉิงอิ้นและเหล่าผู้นำ ทั้งหมดต่างยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุด ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปพื้นที่ราบใต้ยอดเขาสองสามแห่ง เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดทัพใหญ่เจ็ดแสนนาย ยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร มองไม่เห็นที่สิ้นสุดพวกเขาล้วนสวมชุดเกราะ มือถืออาวุธ บุกโจมตีเข้ามาทางฐานที่มั่นของกองทัพตระกูลจ้านส่วนกองทัพตระกูลจ้านที่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน และพวกชาวบ้าน ทุกคนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอึกทึกพวกเขาเพิ่งนอนได้ยังไม่ถึงสองชั่วยาม เบิกตาสะลึมสะลือพลางลนลานสวมชุดเกราะ พกอาวุธติดตัว และถูกผลักไปบนสนามรบอันโหดร้ายทั้งอย่างนี้หยางชิงเหอคิดไม่ถึงว่า มู่ฉีซิวจะบุกโจมตีเข้ามาจริง ๆคนของเขาต้องยังไม่ถึงเมืองหลวงเป็นแน่ก้าวนี้ของเขา เป็นการเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนจ้านเฉิงอิ้นมองทัพศัตรูที่ทอดสายตามองไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด พลางถามหยางชิงเหอ “เจ้าบอกว่า เมื่อมู่ฉีซิวเห็นกระบอกเหล็กเหล่านี้จะถอยทัพ!”หยางชิงเหอพยักหน้า “ใช่!”“หากเป็นเมื่อวาน มีความเป็นไปได้เพียงหกส่วน เช่นนั้นวันนี้มีความเป็นไปได้เก้าส่วนที่จะถอยทัพ!”เนื่องจากทัพกองกำลังหลักของมู่ฉีซิวไม่ได้มา กำลังอยู่ระหว่างทางไปเมืองห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 574

    “ขอรับ ท่านแม่ทัพ ข้าคลุกคลีอยู่กับกองทัพธงเหลืองมากที่สุด ในค่ายทหารเลื่อนขั้นเร็วที่สุด พวกเขาเป็นล่อหรือเป็นม้า ในใจข้ารู้ดีที่สุด”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้านเฉิงอิ้นจึงกล่าวว่า “เฉินอู่ หวังเซิ่ง ฟังคำสั่ง พวกเจ้าสองคนนำทหารผ่านศึกห้าหมื่นนาย นั่งรถไปห้าร้อยคัน ด้านล่างบรรทุกสิ่งของและยุทธภัณฑ์ ด้านบนให้คนนั่ง สกัดกั้นกองทัพธงเหลืองให้ได้!”“หากวันนี้พวกเขาไม่โจมตีเมือง คืนนี้ก็คุ้มกันพวกเจ้าออกเดินทาง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินขุยกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย “แต่ว่าท่านแม่ทัพ เราเพิ่งจะมีรถเพียงสองร้อยคันเท่านั้น!”“ท่านเทพบอกไว้ว่าจะส่งมาคืนนี้...”ครั้นสิ้นเสียง ก็มีกระดาษขาวใบหนึ่งลอยลงมาจากปากแจกันเถียนฉินหยิบขึ้นมาส่งให้จ้านเฉิงอิ้นเห็นเพียงในนั้นเขียนไว้ว่า “จ้านเฉิงอิ้น ส่งรถบรรทุกที่เหลือสามร้อยคันไปแล้ว”“รถบรรทุกน้ำมันหามาได้แค่ยี่สิบคัน ประหยัดหน่อยนะ!”“อีกยี่สิบนาทีจะส่งมา!”จ้านเฉิงอิ้นพลันฉีกยิ้มดูสิ ท่านเทพไม่มีทางผิดคำพูดเป็นอันขาดหยางชิงเหอมองกระดาษแผ่นนั้นทีหนึ่ง ก่อนจะพึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่ง “คุณหนูเย่ผู้นี้ ช่างดีกับท่านแม่ทัพใหญ่ยิ่งนัก!”เมื่อมั่วฝานได

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 573

    มู่ฉีซิวฉีกยิ้มพลางทำท่าคารวะ “คำยินดีของเยี่ยนอ๋อง ข้ารับไว้ก่อนแล้ว!”“ฉะนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องแตกหักกับม่อเป่ยอ๋องเลย มา ข้าจะไปไกล่เกลี่ยให้ ท่านกับม่อเป่ยอ๋องยิ้มแย้มให้กันความขุ่นเคืองก็ลืมมันไปเถิด!”มู่ฉีซิวกล่าวจบ ก็โน้มน้าวเยี่ยนซวี่กลับไปแต่เยี่ยนซวี่ไม่กระดุกกระดิก กลับกันยังถามเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอีกด้วย“เจ้าจะยังโจมตีจ้านเฉิงอิ้นหรือไม่?”“โจมตี โจมตีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะอุตส่าห์ตรากตรำเชิญทุกท่านมาที่นี่ทำไม!”เยี่ยวซวี่ถึงถูกมู่ฉีซิวโน้มน้าวกลับไปพวกเขาเข้าไปในกระโจม อากาศยานไร้คนขับไม่สามารถถ่ายภาพต่อจากนี้ได้ มองอะไรไม่เห็นหลังภาพตัดไป ทหารทุกนายก็พากันเงียบพวกเขาไม่เคยเห็นลูกศิษย์ที่ไร้ยางอายและโหดเหี้ยมเช่นมู่ฉีซิวเช่นนี้มาก่อน!หยางชิงเหอที่เพิ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพเงียบไปอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า“ทุกคนเห็นชัดกันแล้วว่ามู่ฉีซิวเป็นคนเช่นไร!”“สำหรับเขาแล้ว การโจมตีกองทัพตระกูลจ้านมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จึงตั้งทัพร่วมกับเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยและแคว้นเยี่ยนรุมโจมตีกองทัพตระกูลจ้าน”“แต่เขาก็ยังมีวิธีเล่นอย่างที่สอง หากแพ้ขึ้นมา! เขาย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 572

    “ฉันรับของไว้แล้ว แล้วเจอกันค่ะ!”ทั้งสองคนไปส่งเวินลี่กลับที่หน้าประตู ทว่าไม่ได้ย่างเท้าออกจากคฤหาสน์เวินลี่ทองสองหนุ่มจากกระจกมองหลัง ไม่รู้ว่าคุณหนูเย่ไปหาบอดี้การ์ดมาจากไหนอายุยังน้อย แถมยังจงรักภักดีมากทีเดียว!*ต้าฉี่ ภูเขาเหมืองฟ้าสว่างแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองทำงานกันทั้งคืนตอนนี้ บนกำแพงเมืองมีปืนใหญ่วางเรียงรายอยู่เป็นหน้าตับแน่นอนว่า ล้วนเป็นปืนใหญ่ของปลอมที่ทำกันทั้งคืน!บรรดาชาวบ้านและทหารเองก็ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดเพียงแค่ขนย้ายขึ้นไป พวกเขาก็สูญเสียพละกำลังไปมหาศาลแล้วขนย้ายทั้งคืน ชาวบ้านล้วนเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดตอนนี้ไปนอนกันหมดแล้วโจ๊กที่พ่อครัวต้มตอนเช้า ไม่มีใครกินเลยสักคนผู้ชายไม่น้อยนอนแผ่กับพื้นโดยตรงกระทั่งพวกเฉินขุยเฉินอู่ ล้อมปืนใหญ่กระบอกหนึ่งพลางขบคิดเฉินขุยค้อมตัวลงพลางมองยางรถเปล่า!“ยางรถนี่อ่อนนุ่มนิ่ม เดิมทีประคองท่อเหล็กไม่ไหวอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะชั้นตรงกลาง ยางรถก็ยุ่ยไปนานแล้ว”เฉินอู่ลูบคาง “ข้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”ทั้งสองคนมองไปที่จวงเหลียงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมจวงเหลียงหมดคำพูด มือเขาสัม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 571

    แม่ทัพเฉินขุยยกนิ้วให้ “แม่นางหยางโดดเด่นในหมู่สตรี ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก!”เฉินอู่กล่าวขึ้นอย่างเบิกบาน “แม่นางหยางคือสตรีที่อึดถึกที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา หากเจ้าเป็นบุรุษ คงได้ลงสนามรบเข่นฆ่าศัตรูกับเราสองพี่น้องแน่!”ทว่าจวงเหลียงกลับกล่าวว่า “แม่นางหยางเป็นสตรีแล้วอย่างไร นางได้เป็นแม่ทัพ ทุกเรื่องที่นางทำ ทุกพิมพ์เขียวที่วาด ล้วนต้านทานกองทัพมหึมาได้ทั้งสิ้น!”จ้านเฉิงอิ้นคิดไม่ถึงว่าหยางชิงเหอจะกล่าวคำพูดฮึกเหิมและกล้าหาญออกมาได้เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “แม่นางหยาง แม้จะบอกว่าเจ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งปี แต่เจ้าได้รับตำแหน่งแม่ทัพ...”“ข้าจะออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพ เบื้องล่างบัญชาการหนึ่งหมื่นคน เป็นเช่นไร?”หยางชิงเหอรีบปฏิเสธ “ไม่ละ ข้ายังอยากกลับบ้าน ภายในหนึ่งปีข้าจะพยายามช่วยกองทัพตระกูลจ้านอย่างสุดความสามารถ แต่ข้าไม่ต้องการตำแหน่ง”จวงเหลียงกล่าวด้วยความเสียดาย “พวกข้าเข้ารับตำแหน่งยากลำบาก แม่นางหยางทิ้งโอกาสดี ๆ เช่นนี้น่าเสียดายยิ่งนัก บางทีเจ้าอาจไม่รู้ หากเป็นแม่ทัพจะมีเบี้ยหวัด มีศักดินา...”“ศึกใหญ่ได้รับชัยชนะ ก็จะได้ตบรางวัลเป็นพวกแก้วแหวนเงินทอง...”ครั้นหยา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 570

    บางทีคนอื่นอาจคิดว่า กระถางวิเศษเป็นเพียงแค่ตำนานแต่เมื่อสุดยอดสุดยอดโรงงานถูกสร้างขึ้น ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า แจกันวิเศษไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าลือจ้านเฉิงอิ้นมีมันอยู่จริง ๆไม่เพียงแต่สามารถเสกอาหาร น้ำ และอาวุธได้เท่านั้น แต่ยังมีโรงงานขนาดมหึมาอีกด้วยใส่แร่เหล็กเข้าไปก็ได้อาวุธเหล็กกล้าออกมา!ในหกแคว้น ใครครอบครองสุดยอดโรงงาน ผู้นั้นก็มีพลังที่จะยึดครองแผ่นดิน รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวใครบ้างในหกแคว้นที่ไม่ต้องการมันแคว้นฉู่และแคว้นฉีไม่ได้ส่งทหารมา เพราะกำลังรอดูสถานการณ์ และมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการหากแคว้นใดทนต่อสิ่งล่อใจไม่ไหว ส่งทหารออกมาเมื่อนั้น แคว้นที่ป้องกันหละหลวม แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีทันทีพวกเขาไม่ใช่ไม่โลภ แต่มีสิ่งที่ได้ผลตอบแทนแน่นอนกว่ารออยู่เมื่อพวกเขาส่งทหารมาโจมตีจ้านเฉิงอิ้นในระลอกที่สอง...หลังจากที่ระลอกแรกบุกโจมตีและสูญเสียกำลังพลไปแล้ว แม้จ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจเพียงใดพวกเขาก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นสองแคว้นนี้ฉลาดที่สุดมู่ฉีซิวยุยงแคว้นเยี่ยนและม่อเป่ยให้มาโจมตีจ้านเฉิงอิ้น ก็เพราะให้ผลประโยชน์อย่างงามชุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 569

    ความคิดที่หยางชิงเหอเสนอนั้น ฟังดูไร้สาระและน่าขันสิ้นดีขนท่อเหล็กขึ้นไปบนหลังคาแล้ววางไว้บนนั้น"บนยอดเขาก็ให้ยกท่อเหล็กขึ้นไปแล้วจัดวางให้เรียบร้อย!บนกำแพงเมืองก็เช่นกัน ถึงขนาดวางท่อเหล็กทุกสิบเมตรแล้วก็เกณฑ์คนมาจำนวนมาก เพื่อสร้างโครงสำหรับท่อเหล็กโครงนั้นก็แปลกประหลาด มีล้อไม้สองล้อ วางท่อเหล็กไว้ตรงกลางให้ปากท่อชี้ขึ้นฟ้า...นางบอกว่า หากมู่ฉีซิวเห็นเข้า เขาจะต้องถอยทัพ!เหล่าทหารที่ได้ยิน ต่างก็คิดว่าเหลวไหล!ล้อสองล้อ โครงหนึ่งอัน วางท่อเหล็ก... แล้วจะถอยทัพพวกเขารวบรวมกองกำลังจากสี่ทิศ จำนวนมากถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นนาย เพียงเพราะได้เห็นอาวุธรูปร่างประหลาดนี้!ก็จะถอยทัพ...ช่างไร้สาระสิ้นดี!แต่มั่วฝานกลับพูดว่า “ทำตามที่แม่นางหยางบอกไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น ยังไม่แน่...”“บางทีอาจเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้?”จากนั้น หยางชิงเหอก็ไม่รู้ไปได้ยินมาจากไหนว่า เย่มู่มู่จะหาประทัดมาให้จำนวนมาก“ดินปืนที่ส่งมา ให้ข้าใช้ก่อน จากนั้นถ้าเป็นไปได้ หายางเก่ามาเพิ่มด้วย...”“คืนนี้ ทหารและชาวบ้านทุกคนต้องฟังคำสั่งข้า เคลื่อนไหวตามคำสั่งข้าเท่านั้น!”จ้านเฉิงอิ้นหันไปถ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 568

    หากศัตรูทั้งเจ็ดแสนร่วมกันโจมตี กองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนาย ทหารใหม่ห้าหมื่นนาย รวมกับชาวบ้านอีกราวแปดหมื่นคน รวมเป็นหนึ่งแสนแปดหมื่นคน...อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ครั้งนี้แตกต่างจากที่ด่านเจิ้นกวน ที่นั่นยังสามารถซุ่มโจมตีได้...แต่ตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในหุบเขาหลายลูก แม้จะใช้ไฟโจมตี ก็เกรงว่าไฟจะลามไปถึงค่ายไม่สามารถซุ่มโจมตี ไม่สามารถหลบซ่อน ได้แต่เผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง...พูดตามตรง แม้มั่วฝานจะมีความมั่นใจในกองทัพตระกูลจ้านมากเพียงใด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร!ถ้ามีปืนก็คงจะดีเขาดูภาพยนตร์สงครามมาเยอะ ดูหนังยิงปืนก็มาก หากมีปืนกล อย่างเช่นเจ้า AK อะไรนั่น...ต้องชนะแน่นอนแม้ท่านเทพจะส่งท่อเหล็กมาให้ แต่ไม่มีดินปืน พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างลูกปืนใหญ่ได้เมื่อคิดเช่นนี้ มั่วฝานก็หยิบบัตรประจำตัวประชาชนออกมา“เฮ้อ ถ้าแพ้ ข้าก็ยังสามารถหนีไปโลกของท่านเทพผ่านแจกันได้...”“พวกเจ้าต่างออกไป พวกเจ้าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แม้จะหนีไปยังโลกของท่านเทพ ก็คงถูกจับในฐานะคนไร้บ้าน!”“อ้อ ใช่ โลกของท่านเทพมีกฎหมายคนไร้บ้าน ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถขึ้นรถ ไม่สามารถซ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status