จ้านเฉิงอิ้นรีบนำแท็บเล็ตส่งกลับไปทันที ทุกคนหาหรือกันว่า ถ้าสามารถแอบเข้าไปในคอกม้าของเผ่าหมานได้ ก็ให้จุดประทัดที่ติดอยู่กับก้นม้า เมื่อม้าในกองทัพตกใจ ก็จะพุ่งชนกันไปมาในค่ายทหาร ทำให้ค่ายใหญ่เผ่าหมานเกิดความวุ่นวาย ในเวลานี้ สวี่หมิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบข้าหูจ้านเฉิงอิ้นด้วยเสียงต่ำ จ้านเฉิงอิ้นถามเขาในทันทีว่า “เจ้าพูดจริงหรือ?” สวี่หมิงพยักหน้า “ขอรับ ท่านแม่ทัพ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้มีทางลับสองทาง แยกออกเป็นทางสู่ทิศใต้และทิศเหนือ” แววตาของจ้านเฉิงอิ้นฉายประกายขึ้นมาในพริบตา “เช่นนั้นก็ดีสิ เว่ยกวงคนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ” เฉินอู่ถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “หมายถึงอันธพาลข้างถนนที่เคยช่วยจากคุกใต้ดินเมื่อครั้งก่อนรึเปล่า?” “ใช่ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้ยังมีทางลับสองทาง เป็นเส้นทางที่พวกพ่อค้าที่ทำการค้าขายใช้เพื่อหลบเลี่ยงภาษี และเส้นทางลับทั้งสองเส้นนั้นยังแยกออกไปสู่เส้นทางไปทิศใต้และทิศเหนือ กองกำลังหลักของทัพใหญ่เผ่าหมาน ตั้งค่ายอยู่ห่างจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันออกสิบลี้ ทางทิศเหนือและทิศใต้มีการกระจายกำลังทหารไว้ แต่น้อยกว่ากองกำลังหลั
เสียงเคาะประตูที่สร้างความรำคาญใจ ทำให้เย่มู่มู่โทรหาผู้จัดการนิติบุคคล “ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้เขาเข้ามาได้?” ผู้จัดการนิติบุคคลเองก็ลำบากใจ “คุณหนูเย่ คุณยายท่านนั้นสร้างปัญหามากจริง ๆ ครั้งก่อนที่คุณขับรถทำให้เธอตกใจจนล้มลง เธอนอนอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกและไม่ยอมไปไหน”“เธอจอดรถขวางหน้าประตูทางเข้าบ้านของเจ้าของบ้านคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน จนทุกคนหมดหนทางแล้วจริง ๆ พอโทรเรียกรถพยาบาลมารับเธอ เธอก็ไม่ยอมขึ้นรถพยาบาล” “เธอร้องไห้โวยวายอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน บอกว่าพ่อของคุณอกตัญญู บอกว่าคุณขับรถชนย่าของตัวเองจนเสียชีวิตแล้วหนีไป”“เราตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าไม้เท้าของเธอชนรถของคุณก่อน คุณแค่ขู่เธอเท่านั้น แล้วรถก็ไม่ได้โดนตัวเธอเลย เธอล้มเองด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหาย”“เจ้าของบ้านที่โมโหโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจเลยพาตัวเธอไป”เดิมทีผู้จัดการนิติบุคคลคิดว่าเธอไปแล้ว เรื่องก็น่าจะสงบลงได้แล้วแต่ปรากฏว่าสองวันต่อมา เธอพานักข่าวมาหาเย่มู่มู่อีกถ้ามีเหตุผลก็แจ้งความ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไกล่เกลี่ย แต่ถ้าไร้ศีลธรรมก็พานักข่าวมา...ยายเฒ่าคนนี้ทำให้ผู้จัดการนิ
“มีหลักฐานการกู้ยืมหรือเปล่าครับ?” “มีค่ะ ตอนเซ็นเอกสารก็ถ่ายวิดีโอไว้ด้วย” “ดีเลยครับ คุณมอบอำนาจให้สำนักงานทนายความดำเนินการแทนคุณทั้งหมดในการทวงถามเงินที่ให้ยืมคืนมา หรือฟ้องร้องเลยครับ?”“ฟ้องร้องเลยค่ะ พวกคุณคงทวงเงินคืนได้ยาก”เย่มู่มู่ถ่ายรูปเอกสารการกู้ยืมและคัดลอกวิดีโอชุดหนึ่งส่งให้ทนาย แล้วมอบหมายให้สำนักงานทนายความจัดการทั้งหมดเมื่อทนายสวีเห็นยอดเงินกู้ยืมสามร้อยล้านบาท ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เขาจึงยืนยันว่าจะช่วยเธอทวงเงินคืนให้ได้หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็เตรียมกล่องใบใหญ่หนึ่งใบ และกล่องเครื่องประดับอีกสามกล่องเธอหาถุงกันฝุ่นและผ้าเช็ดมาทำความสะอาดของมีค่าทุกชิ้นหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว เธอก็ใช้ถุงกันฝุ่นปิดผนึกไว้ ใส่ลงไปในกล่องหนังเครื่องประดับพวกนี้ทั้งหมดรวมกันแล้วเต็มกล่องใหญ่สองใบ และเธอเก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินเหลือไว้เพียงจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สีสันสดใสใบหนึ่งเธอถ่ายรูปจานกระเบื้องเคลือบและส่งไปให้ผู้อาวุโสมู่ณ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง เธอคิดว่าผู้อาวุโสมู่คงจะพักผ่อนแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้อาวุโสมู่กลับวิดี
ผู้อาวุโสมู่ชื่นชอบจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์จริง ๆ จึงรีบโอนเงินมาให้ทันทีเธอยอมขายให้ ผู้อาวุโสมู่จะมารับที่บ้านในวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมงเช้าหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็เตรียมเครื่องปั๊มน้ำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นฉบับหนึ่ง “ฉันถามนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เขาบอกว่าประวัติศาสตร์บันทึกว่าเจ้าจะตายในสนามรบที่ด่านเจิ้นกวน”“ด่านเจิ้นกวนจะถูกตีแตกจากการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานสามฝ่าย”“เจ้าถูกทหารจากแคว้นฉีรุมฆ่าจนเสียชีวิต” “จ้านเฉิงอิ้น ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้ และต้องระวังการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานด้วยนะ”ด้วยความกังวลใจ เธอจึงใส่กระดาษลงในแจกันดอกไม้*ที่ชายแดน ในกระโจมของค่ายเผ่าหมาน หลัวเก๋อกำลังโมโหใส่เหล่านายทหาร“ม้าศึกสองพันตัววิ่งหายไป ทหารสามพันกว่านายถูกเหยียบตายไปหลายร้อยคน…”“พวกเจ้ายังไม่รู้หรือว่าเป็นฝีมือใคร? จับไม่ได้กระทั่งเงา”“พวกเจ้านี่มันไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์สิ้นดี…”หลัวเก๋อขว้างกาน้ำชาบนโต๊ะใส่นายทหารคนหนึ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนเกิดรอยช้ำเลือดบนหน้าผากของเขาทุกคนหมอบลง
ดวงตาของเขาเย็นชา แต่ยังคงก้มหน้าลงโดยไม่แสดงอารมณ์เมื่อทหารออกไปแล้ว หลัวเก๋อก็สั่งว่า “เตรียมอาวุธและแต่งกายให้พร้อม ไปสนับสนุนทั้งทางใต้และทางเหนือของเมือง…”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”กองทัพหลักมีจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นนายที่ประตูเมืองทางตะวันตก ทางใต้ และทางเหนือ มีกองทัพปักหลักประจำกการอยู่ที่ละห้าหมื่นนายทหารห้าหมื่นนายสู้กับทหารสองหมื่นนายของจ้านเฉิงอิ้น อย่างไรเสียก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้?หลัวเก๋อนำกำลังทหารจำนวนมากไปช่วยเสริมกำลัง* ณ ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมืองจ้านเฉิงอิ้นมองไปทางกองทัพเผ่าหมานสงครามกองโจรได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง และเปี้ยนจื่อผิงพาคนจำนวนสามพันนายออกไปสองทาง โดยสวมชุดเกราะและนำประทัดกับระเบิดมุ่งหน้ามายังฐานที่ตั้งของทัพเผ่าหมานเผ่าทั้งทางทิศใต้และทิศเหนือเวลาเที่ยงคืนพอดี เป็นช่วงเวลาที่คนหลับลึกที่สุดเขายืนอยู่บนหอประตูเมือง มองไปยังตำแหน่งของกระโจมในค่ายเผ่าหมานการระเบิดคอกม้าทางใต้และทางเหนือเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น เพื่อทำให้ศัตรูตกหลุมพรางที่ตนวางไว้เป้าหมายของจ้านเฉิงอิ้นตั้งแต่ต้น
หลัวเก๋อถูกระเบิดจริง!น่าเสียดายที่คร่าชีวิตเขาไม่ได้ม้าศึกของเขาตัวใหญ่นัก บังระเบิดส่วนใหญ่ไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกระเบิดจนพิการนับแต่นั้น หลัวเก๋อกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ เนื่องจากผู้นำทัพได้รับบาดเจ็บสาหัส ขวัญกำลังใจของทหารกองหนุนเผ่าหมานพลันดับสูญ ฝ่ายของพวกเขาถูกระเบิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงถอยทัพอย่างต่อเนื่องระเบิดทำให้ม้าตกใจยากควบคุม มันแบกทหารบนหลังหนีเตลิด วิ่งเข้าสู่ส่วนลึกของทุ่งหญ้า ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไปเดิมกองทัพเผ่าหมานก็หย่อนยานอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งสับสนอลหม่านสิ้นดีเฉินขุยและเปี้ยนจื่อผิงรีบนำทหารสามพันนายออกจากจุดซุ่มโจมตี“บุกสังหาร เหล่านักรบ จงสังหารเผ่าหมานให้ราบ พิทักษ์ต้าฉี่ของเรา!”“ตัดได้หนึ่งศีรษะ แลกรางวัลข้าวสารสิบชั่ง บะหมี่ห้าชั่ง...พี่น้องทั้งหลาย จงบดขยี้พวกมันกับข้า พวกมันล้วนเป็นแค่เศษสวะ!”กองทัพตระกูลจ้านฮึกเหิม เดือดพล่านสุดขีดทหารที่สวมชุดเกราะหนัก ถือดาบม่อเตาเป็นผู้นำรบออกหน้า วิ่งปรี่ไปยังค่ายศัตรูตามด้วยลูกศรของหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน เสริมด้วยธนูและศรปิดท้ายด้วยการโจมตีซ้ำจากนายทหารน
ต่อให้เป็นก่อนถูกล้อมเอาไว้ในเมือง พวกเขาก็ไม่เคยมีชีวิตที่ดีขนาดนี้บัดนี้ กองทัพตระกูลจ้านชนะศึกกลับมา พวกเขาราวกับได้เห็นชีวิตดี ๆ กำลังกวักมือเรียกเหล่าชาวบ้านมีน้ำตาอุ่นร้อนคลอหน่วยทหารที่ยังไม่ได้ออกจากเมืองไปสู้รบ รวมทั้งทหารใหม่ ล้วนอยากจะเข้าสู่สมรภูมิไปคร่าศัตรูฆ่าเผ่าหมานหนึ่งคน แลกข้าวสารสิบชั่ง และบะหมี่ห้าชั่ง อาหารจำนวนนี้สามารถเลี้ยงหนึ่งครอบครัวได้หนึ่งเดือน หากประหยัดโดยการต้มโจ๊ก จะอยู่ได้หนึ่งเดือนครึ่งพวกเขาไม่หวั่นไหวก็คงจะแปลกโดยเฉพาะทหารใหม่ ที่เข้าร่วมกองทัพเพื่อรับข้าวสารสี่ชั่งและบะหมี่หนึ่งชั่งต่อเดือนตอนนี้เห็นเสบียงทหารจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้า พวกเขาแทบอยากจะลงสนามรบเดี๋ยวนี้เลย“แม่ทัพเฉินขุย สังหารข้าศึกไปทั้งสิ้นสองร้อยสี่สิบราย ได้รับข้าวสารสองพันสี่ร้อยชั่ง บะหมี่หนึ่งพันสองร้อยชั่ง” ทหารชั้นผู้ช่วยของเฉินขุย ผู้ติดตาม องครักษ์...ล้วนอาศัยอยู่ในจวนของเฉินขุยเมื่อรวมส่วนของคนเหล่านี้ คิดเป็นรางวัลข้าวสารห้าพันชั่ง บะหมี่อีกกว่าสองพันชั่งพวกเขายินดีปรีดาอยู่ที่หน้าแถวสุด แบกกระสอบอาหารไว้บนหลัง แล้วเดินไปที่จวนแม่ทัพเฉินขุยอย่างชื่
เขาพูดต่อ “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นหลัวเก๋อถูกแรงระเบิดพลัดจากหลังม้า ป่านนี้เขาน่าจะตายไปแล้ว”เหล่านายทหารมองไปที่เฉินอู่เป็นตาเดียวดวงตาตกตะลึง ประหลาดใจและเหลือเชื่อ!หลัวเก๋อถูกระเบิดจริงหรือ?แม้แต่มั่วฝานคนเคร่งขรึมยังถามเขาว่า “เจ้าแน่ใจหรือ? เขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของม่อเป่ยอ๋อง ราชสำนักม่อเป่ยไว้วางใจเขามาก จึงมอบกองกำลังสามแสนนายให้เขาบุกโจมตีเมืองนี้” “ข้าแน่ใจ เพราะข้าจับตาดูเขาอยู่ตลอด ทั้งตั้งคันธนูและศร จุดน้ำมันตะเกียง ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ข้าก็ยิงธนูจุดระเบิดที่ใต้เกือกม้าของเขา”“เป็นไปตามคาด เขาถูกระเบิดคนแรก ตามด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเขา ทหารม้าเผ่าหมานจำนวนหนึ่งถูกระเบิด ทั้งคนและม้าล้มตายอลหม่าน!” เฉินอู่ยิ้มภูมิใจจนเห็นฟันซี่ใหญ่ “ข้ากล้ายืนยันว่าเขาตายแล้ว หรือต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส” “ระเบิดที่ท่านเทพมอบให้นั้นมีประโยชน์มาก วันนี้เราสังหารทหารเผ่าหมานได้สี่หมื่นนาย สามหมื่นในนั้นตายเพราะแรงระเบิด นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเรา”“ท่านแม่ทัพ ขอระเบิดจากท่านเทพเพิ่มได้หรือไม่? ระเบิดนี้เป็นกุญแจสำคัญให้กองทัพเราชนะโดยสูญเสียน้อยลง” จ้านเฉิงอิ้น
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด