จ้านเฉิงอิ้นรีบนำแท็บเล็ตส่งกลับไปทันที ทุกคนหาหรือกันว่า ถ้าสามารถแอบเข้าไปในคอกม้าของเผ่าหมานได้ ก็ให้จุดประทัดที่ติดอยู่กับก้นม้า เมื่อม้าในกองทัพตกใจ ก็จะพุ่งชนกันไปมาในค่ายทหาร ทำให้ค่ายใหญ่เผ่าหมานเกิดความวุ่นวาย ในเวลานี้ สวี่หมิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบข้าหูจ้านเฉิงอิ้นด้วยเสียงต่ำ จ้านเฉิงอิ้นถามเขาในทันทีว่า “เจ้าพูดจริงหรือ?” สวี่หมิงพยักหน้า “ขอรับ ท่านแม่ทัพ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้มีทางลับสองทาง แยกออกเป็นทางสู่ทิศใต้และทิศเหนือ” แววตาของจ้านเฉิงอิ้นฉายประกายขึ้นมาในพริบตา “เช่นนั้นก็ดีสิ เว่ยกวงคนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ” เฉินอู่ถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “หมายถึงอันธพาลข้างถนนที่เคยช่วยจากคุกใต้ดินเมื่อครั้งก่อนรึเปล่า?” “ใช่ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้ยังมีทางลับสองทาง เป็นเส้นทางที่พวกพ่อค้าที่ทำการค้าขายใช้เพื่อหลบเลี่ยงภาษี และเส้นทางลับทั้งสองเส้นนั้นยังแยกออกไปสู่เส้นทางไปทิศใต้และทิศเหนือ กองกำลังหลักของทัพใหญ่เผ่าหมาน ตั้งค่ายอยู่ห่างจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันออกสิบลี้ ทางทิศเหนือและทิศใต้มีการกระจายกำลังทหารไว้ แต่น้อยกว่ากองกำลังหลั
เสียงเคาะประตูที่สร้างความรำคาญใจ ทำให้เย่มู่มู่โทรหาผู้จัดการนิติบุคคล “ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้เขาเข้ามาได้?” ผู้จัดการนิติบุคคลเองก็ลำบากใจ “คุณหนูเย่ คุณยายท่านนั้นสร้างปัญหามากจริง ๆ ครั้งก่อนที่คุณขับรถทำให้เธอตกใจจนล้มลง เธอนอนอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกและไม่ยอมไปไหน”“เธอจอดรถขวางหน้าประตูทางเข้าบ้านของเจ้าของบ้านคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน จนทุกคนหมดหนทางแล้วจริง ๆ พอโทรเรียกรถพยาบาลมารับเธอ เธอก็ไม่ยอมขึ้นรถพยาบาล” “เธอร้องไห้โวยวายอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน บอกว่าพ่อของคุณอกตัญญู บอกว่าคุณขับรถชนย่าของตัวเองจนเสียชีวิตแล้วหนีไป”“เราตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าไม้เท้าของเธอชนรถของคุณก่อน คุณแค่ขู่เธอเท่านั้น แล้วรถก็ไม่ได้โดนตัวเธอเลย เธอล้มเองด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหาย”“เจ้าของบ้านที่โมโหโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจเลยพาตัวเธอไป”เดิมทีผู้จัดการนิติบุคคลคิดว่าเธอไปแล้ว เรื่องก็น่าจะสงบลงได้แล้วแต่ปรากฏว่าสองวันต่อมา เธอพานักข่าวมาหาเย่มู่มู่อีกถ้ามีเหตุผลก็แจ้งความ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไกล่เกลี่ย แต่ถ้าไร้ศีลธรรมก็พานักข่าวมา...ยายเฒ่าคนนี้ทำให้ผู้จัดการนิ
“มีหลักฐานการกู้ยืมหรือเปล่าครับ?” “มีค่ะ ตอนเซ็นเอกสารก็ถ่ายวิดีโอไว้ด้วย” “ดีเลยครับ คุณมอบอำนาจให้สำนักงานทนายความดำเนินการแทนคุณทั้งหมดในการทวงถามเงินที่ให้ยืมคืนมา หรือฟ้องร้องเลยครับ?”“ฟ้องร้องเลยค่ะ พวกคุณคงทวงเงินคืนได้ยาก”เย่มู่มู่ถ่ายรูปเอกสารการกู้ยืมและคัดลอกวิดีโอชุดหนึ่งส่งให้ทนาย แล้วมอบหมายให้สำนักงานทนายความจัดการทั้งหมดเมื่อทนายสวีเห็นยอดเงินกู้ยืมสามร้อยล้านบาท ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เขาจึงยืนยันว่าจะช่วยเธอทวงเงินคืนให้ได้หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็เตรียมกล่องใบใหญ่หนึ่งใบ และกล่องเครื่องประดับอีกสามกล่องเธอหาถุงกันฝุ่นและผ้าเช็ดมาทำความสะอาดของมีค่าทุกชิ้นหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว เธอก็ใช้ถุงกันฝุ่นปิดผนึกไว้ ใส่ลงไปในกล่องหนังเครื่องประดับพวกนี้ทั้งหมดรวมกันแล้วเต็มกล่องใหญ่สองใบ และเธอเก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินเหลือไว้เพียงจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สีสันสดใสใบหนึ่งเธอถ่ายรูปจานกระเบื้องเคลือบและส่งไปให้ผู้อาวุโสมู่ณ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง เธอคิดว่าผู้อาวุโสมู่คงจะพักผ่อนแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้อาวุโสมู่กลับวิดี
ผู้อาวุโสมู่ชื่นชอบจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์จริง ๆ จึงรีบโอนเงินมาให้ทันทีเธอยอมขายให้ ผู้อาวุโสมู่จะมารับที่บ้านในวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมงเช้าหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็เตรียมเครื่องปั๊มน้ำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นฉบับหนึ่ง “ฉันถามนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เขาบอกว่าประวัติศาสตร์บันทึกว่าเจ้าจะตายในสนามรบที่ด่านเจิ้นกวน”“ด่านเจิ้นกวนจะถูกตีแตกจากการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานสามฝ่าย”“เจ้าถูกทหารจากแคว้นฉีรุมฆ่าจนเสียชีวิต” “จ้านเฉิงอิ้น ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้ และต้องระวังการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานด้วยนะ”ด้วยความกังวลใจ เธอจึงใส่กระดาษลงในแจกันดอกไม้*ที่ชายแดน ในกระโจมของค่ายเผ่าหมาน หลัวเก๋อกำลังโมโหใส่เหล่านายทหาร“ม้าศึกสองพันตัววิ่งหายไป ทหารสามพันกว่านายถูกเหยียบตายไปหลายร้อยคน…”“พวกเจ้ายังไม่รู้หรือว่าเป็นฝีมือใคร? จับไม่ได้กระทั่งเงา”“พวกเจ้านี่มันไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์สิ้นดี…”หลัวเก๋อขว้างกาน้ำชาบนโต๊ะใส่นายทหารคนหนึ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนเกิดรอยช้ำเลือดบนหน้าผากของเขาทุกคนหมอบลง
ดวงตาของเขาเย็นชา แต่ยังคงก้มหน้าลงโดยไม่แสดงอารมณ์เมื่อทหารออกไปแล้ว หลัวเก๋อก็สั่งว่า “เตรียมอาวุธและแต่งกายให้พร้อม ไปสนับสนุนทั้งทางใต้และทางเหนือของเมือง…”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”กองทัพหลักมีจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นนายที่ประตูเมืองทางตะวันตก ทางใต้ และทางเหนือ มีกองทัพปักหลักประจำกการอยู่ที่ละห้าหมื่นนายทหารห้าหมื่นนายสู้กับทหารสองหมื่นนายของจ้านเฉิงอิ้น อย่างไรเสียก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้?หลัวเก๋อนำกำลังทหารจำนวนมากไปช่วยเสริมกำลัง* ณ ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมืองจ้านเฉิงอิ้นมองไปทางกองทัพเผ่าหมานสงครามกองโจรได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง และเปี้ยนจื่อผิงพาคนจำนวนสามพันนายออกไปสองทาง โดยสวมชุดเกราะและนำประทัดกับระเบิดมุ่งหน้ามายังฐานที่ตั้งของทัพเผ่าหมานเผ่าทั้งทางทิศใต้และทิศเหนือเวลาเที่ยงคืนพอดี เป็นช่วงเวลาที่คนหลับลึกที่สุดเขายืนอยู่บนหอประตูเมือง มองไปยังตำแหน่งของกระโจมในค่ายเผ่าหมานการระเบิดคอกม้าทางใต้และทางเหนือเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น เพื่อทำให้ศัตรูตกหลุมพรางที่ตนวางไว้เป้าหมายของจ้านเฉิงอิ้นตั้งแต่ต้น
หลัวเก๋อถูกระเบิดจริง!น่าเสียดายที่คร่าชีวิตเขาไม่ได้ม้าศึกของเขาตัวใหญ่นัก บังระเบิดส่วนใหญ่ไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกระเบิดจนพิการนับแต่นั้น หลัวเก๋อกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ เนื่องจากผู้นำทัพได้รับบาดเจ็บสาหัส ขวัญกำลังใจของทหารกองหนุนเผ่าหมานพลันดับสูญ ฝ่ายของพวกเขาถูกระเบิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงถอยทัพอย่างต่อเนื่องระเบิดทำให้ม้าตกใจยากควบคุม มันแบกทหารบนหลังหนีเตลิด วิ่งเข้าสู่ส่วนลึกของทุ่งหญ้า ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไปเดิมกองทัพเผ่าหมานก็หย่อนยานอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งสับสนอลหม่านสิ้นดีเฉินขุยและเปี้ยนจื่อผิงรีบนำทหารสามพันนายออกจากจุดซุ่มโจมตี“บุกสังหาร เหล่านักรบ จงสังหารเผ่าหมานให้ราบ พิทักษ์ต้าฉี่ของเรา!”“ตัดได้หนึ่งศีรษะ แลกรางวัลข้าวสารสิบชั่ง บะหมี่ห้าชั่ง...พี่น้องทั้งหลาย จงบดขยี้พวกมันกับข้า พวกมันล้วนเป็นแค่เศษสวะ!”กองทัพตระกูลจ้านฮึกเหิม เดือดพล่านสุดขีดทหารที่สวมชุดเกราะหนัก ถือดาบม่อเตาเป็นผู้นำรบออกหน้า วิ่งปรี่ไปยังค่ายศัตรูตามด้วยลูกศรของหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน เสริมด้วยธนูและศรปิดท้ายด้วยการโจมตีซ้ำจากนายทหารน
ต่อให้เป็นก่อนถูกล้อมเอาไว้ในเมือง พวกเขาก็ไม่เคยมีชีวิตที่ดีขนาดนี้บัดนี้ กองทัพตระกูลจ้านชนะศึกกลับมา พวกเขาราวกับได้เห็นชีวิตดี ๆ กำลังกวักมือเรียกเหล่าชาวบ้านมีน้ำตาอุ่นร้อนคลอหน่วยทหารที่ยังไม่ได้ออกจากเมืองไปสู้รบ รวมทั้งทหารใหม่ ล้วนอยากจะเข้าสู่สมรภูมิไปคร่าศัตรูฆ่าเผ่าหมานหนึ่งคน แลกข้าวสารสิบชั่ง และบะหมี่ห้าชั่ง อาหารจำนวนนี้สามารถเลี้ยงหนึ่งครอบครัวได้หนึ่งเดือน หากประหยัดโดยการต้มโจ๊ก จะอยู่ได้หนึ่งเดือนครึ่งพวกเขาไม่หวั่นไหวก็คงจะแปลกโดยเฉพาะทหารใหม่ ที่เข้าร่วมกองทัพเพื่อรับข้าวสารสี่ชั่งและบะหมี่หนึ่งชั่งต่อเดือนตอนนี้เห็นเสบียงทหารจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้า พวกเขาแทบอยากจะลงสนามรบเดี๋ยวนี้เลย“แม่ทัพเฉินขุย สังหารข้าศึกไปทั้งสิ้นสองร้อยสี่สิบราย ได้รับข้าวสารสองพันสี่ร้อยชั่ง บะหมี่หนึ่งพันสองร้อยชั่ง” ทหารชั้นผู้ช่วยของเฉินขุย ผู้ติดตาม องครักษ์...ล้วนอาศัยอยู่ในจวนของเฉินขุยเมื่อรวมส่วนของคนเหล่านี้ คิดเป็นรางวัลข้าวสารห้าพันชั่ง บะหมี่อีกกว่าสองพันชั่งพวกเขายินดีปรีดาอยู่ที่หน้าแถวสุด แบกกระสอบอาหารไว้บนหลัง แล้วเดินไปที่จวนแม่ทัพเฉินขุยอย่างชื่
เขาพูดต่อ “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นหลัวเก๋อถูกแรงระเบิดพลัดจากหลังม้า ป่านนี้เขาน่าจะตายไปแล้ว”เหล่านายทหารมองไปที่เฉินอู่เป็นตาเดียวดวงตาตกตะลึง ประหลาดใจและเหลือเชื่อ!หลัวเก๋อถูกระเบิดจริงหรือ?แม้แต่มั่วฝานคนเคร่งขรึมยังถามเขาว่า “เจ้าแน่ใจหรือ? เขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของม่อเป่ยอ๋อง ราชสำนักม่อเป่ยไว้วางใจเขามาก จึงมอบกองกำลังสามแสนนายให้เขาบุกโจมตีเมืองนี้” “ข้าแน่ใจ เพราะข้าจับตาดูเขาอยู่ตลอด ทั้งตั้งคันธนูและศร จุดน้ำมันตะเกียง ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ข้าก็ยิงธนูจุดระเบิดที่ใต้เกือกม้าของเขา”“เป็นไปตามคาด เขาถูกระเบิดคนแรก ตามด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเขา ทหารม้าเผ่าหมานจำนวนหนึ่งถูกระเบิด ทั้งคนและม้าล้มตายอลหม่าน!” เฉินอู่ยิ้มภูมิใจจนเห็นฟันซี่ใหญ่ “ข้ากล้ายืนยันว่าเขาตายแล้ว หรือต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส” “ระเบิดที่ท่านเทพมอบให้นั้นมีประโยชน์มาก วันนี้เราสังหารทหารเผ่าหมานได้สี่หมื่นนาย สามหมื่นในนั้นตายเพราะแรงระเบิด นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเรา”“ท่านแม่ทัพ ขอระเบิดจากท่านเทพเพิ่มได้หรือไม่? ระเบิดนี้เป็นกุญแจสำคัญให้กองทัพเราชนะโดยสูญเสียน้อยลง” จ้านเฉิงอิ้น
กระบอกไม้ไผ่สิบกว่าอัน ใหญ่กว่าที่ทำเมื่อวานหนึ่งเท่าหยางชิงเหอเห็น ก็เป็นกังวลเล็กน้อย“ไม่แน่ว่าจะใส่หน้าไม้ราชวงศ์ได้!”หวังเซิ่งกล่าว “ข้าขอลองหน่อย!”เขาใช้สายสองเส้นตรึงกระบอกไม้ไผ่ก่อนยิงออกไป ดึงสายจุดไฟ...ครั้นยิงหน้าไม้ออกไป...มู่ฉีซิว เยี่ยนซวี่ แม่ทัพลั่ว หลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องทุกคนอยู่หน้าสุดของกองกำลังพวกเขาเพิ่งเดินมาถึงใต้หุบเขาแห่งหนึ่ง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังตูมเสียงหนึ่งจู่ ๆ บนยอดเขาก็มีเสียงระเบิดดังอึกทึกหลังจากนั้น ม้าก็อยากวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง ราวกับตกใจทว่าวินาทีถัดมา ก็มีหินก้อนมหึมากลิ้งตกลงมาจากบนยอดเขาเนื่องจากหลุมลึกที่เกิดจากการระเบิด ทำให้หินผุกร่อนกลิ้งตกลงมาอย่างต่อเนื่องม้าของทหารม้าด้านหน้า วิ่งเตลิดไปคนละทิศคนละทาง เหยียบทหารไปไม่น้อยส่วนทหารที่อยู่เบื้องหลัง ครั้นเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังคนที่อยู่ด้านหน้าถอยหลัง คนที่อยู่ด้านหลังเบียดไปด้านหน้า การเดินหน้าของทัพใหญ่พลันเข้าสู่การชะงักหลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องรีบรั้งบังเหียน พร้อมตะโกน “ทุกคนทำให้ม้าสงบ สงบสติ...”เมื่อเยี่ยนซวี่ได้ยินเสียงแสนคุ้นเคยนี้ สีหน้าก็ซีดเผือด
จ้านเฉิงอิ้นและเหล่าผู้นำ ทั้งหมดต่างยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุด ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปพื้นที่ราบใต้ยอดเขาสองสามแห่ง เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดทัพใหญ่เจ็ดแสนนาย ยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร มองไม่เห็นที่สิ้นสุดพวกเขาล้วนสวมชุดเกราะ มือถืออาวุธ บุกโจมตีเข้ามาทางฐานที่มั่นของกองทัพตระกูลจ้านส่วนกองทัพตระกูลจ้านที่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน และพวกชาวบ้าน ทุกคนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอึกทึกพวกเขาเพิ่งนอนได้ยังไม่ถึงสองชั่วยาม เบิกตาสะลึมสะลือพลางลนลานสวมชุดเกราะ พกอาวุธติดตัว และถูกผลักไปบนสนามรบอันโหดร้ายทั้งอย่างนี้หยางชิงเหอคิดไม่ถึงว่า มู่ฉีซิวจะบุกโจมตีเข้ามาจริง ๆคนของเขาต้องยังไม่ถึงเมืองหลวงเป็นแน่ก้าวนี้ของเขา เป็นการเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนจ้านเฉิงอิ้นมองทัพศัตรูที่ทอดสายตามองไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด พลางถามหยางชิงเหอ “เจ้าบอกว่า เมื่อมู่ฉีซิวเห็นกระบอกเหล็กเหล่านี้จะถอยทัพ!”หยางชิงเหอพยักหน้า “ใช่!”“หากเป็นเมื่อวาน มีความเป็นไปได้เพียงหกส่วน เช่นนั้นวันนี้มีความเป็นไปได้เก้าส่วนที่จะถอยทัพ!”เนื่องจากทัพกองกำลังหลักของมู่ฉีซิวไม่ได้มา กำลังอยู่ระหว่างทางไปเมืองห
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ ข้าคลุกคลีอยู่กับกองทัพธงเหลืองมากที่สุด ในค่ายทหารเลื่อนขั้นเร็วที่สุด พวกเขาเป็นล่อหรือเป็นม้า ในใจข้ารู้ดีที่สุด”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้านเฉิงอิ้นจึงกล่าวว่า “เฉินอู่ หวังเซิ่ง ฟังคำสั่ง พวกเจ้าสองคนนำทหารผ่านศึกห้าหมื่นนาย นั่งรถไปห้าร้อยคัน ด้านล่างบรรทุกสิ่งของและยุทธภัณฑ์ ด้านบนให้คนนั่ง สกัดกั้นกองทัพธงเหลืองให้ได้!”“หากวันนี้พวกเขาไม่โจมตีเมือง คืนนี้ก็คุ้มกันพวกเจ้าออกเดินทาง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินขุยกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย “แต่ว่าท่านแม่ทัพ เราเพิ่งจะมีรถเพียงสองร้อยคันเท่านั้น!”“ท่านเทพบอกไว้ว่าจะส่งมาคืนนี้...”ครั้นสิ้นเสียง ก็มีกระดาษขาวใบหนึ่งลอยลงมาจากปากแจกันเถียนฉินหยิบขึ้นมาส่งให้จ้านเฉิงอิ้นเห็นเพียงในนั้นเขียนไว้ว่า “จ้านเฉิงอิ้น ส่งรถบรรทุกที่เหลือสามร้อยคันไปแล้ว”“รถบรรทุกน้ำมันหามาได้แค่ยี่สิบคัน ประหยัดหน่อยนะ!”“อีกยี่สิบนาทีจะส่งมา!”จ้านเฉิงอิ้นพลันฉีกยิ้มดูสิ ท่านเทพไม่มีทางผิดคำพูดเป็นอันขาดหยางชิงเหอมองกระดาษแผ่นนั้นทีหนึ่ง ก่อนจะพึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่ง “คุณหนูเย่ผู้นี้ ช่างดีกับท่านแม่ทัพใหญ่ยิ่งนัก!”เมื่อมั่วฝานได
มู่ฉีซิวฉีกยิ้มพลางทำท่าคารวะ “คำยินดีของเยี่ยนอ๋อง ข้ารับไว้ก่อนแล้ว!”“ฉะนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องแตกหักกับม่อเป่ยอ๋องเลย มา ข้าจะไปไกล่เกลี่ยให้ ท่านกับม่อเป่ยอ๋องยิ้มแย้มให้กันความขุ่นเคืองก็ลืมมันไปเถิด!”มู่ฉีซิวกล่าวจบ ก็โน้มน้าวเยี่ยนซวี่กลับไปแต่เยี่ยนซวี่ไม่กระดุกกระดิก กลับกันยังถามเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอีกด้วย“เจ้าจะยังโจมตีจ้านเฉิงอิ้นหรือไม่?”“โจมตี โจมตีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะอุตส่าห์ตรากตรำเชิญทุกท่านมาที่นี่ทำไม!”เยี่ยวซวี่ถึงถูกมู่ฉีซิวโน้มน้าวกลับไปพวกเขาเข้าไปในกระโจม อากาศยานไร้คนขับไม่สามารถถ่ายภาพต่อจากนี้ได้ มองอะไรไม่เห็นหลังภาพตัดไป ทหารทุกนายก็พากันเงียบพวกเขาไม่เคยเห็นลูกศิษย์ที่ไร้ยางอายและโหดเหี้ยมเช่นมู่ฉีซิวเช่นนี้มาก่อน!หยางชิงเหอที่เพิ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพเงียบไปอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า“ทุกคนเห็นชัดกันแล้วว่ามู่ฉีซิวเป็นคนเช่นไร!”“สำหรับเขาแล้ว การโจมตีกองทัพตระกูลจ้านมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จึงตั้งทัพร่วมกับเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยและแคว้นเยี่ยนรุมโจมตีกองทัพตระกูลจ้าน”“แต่เขาก็ยังมีวิธีเล่นอย่างที่สอง หากแพ้ขึ้นมา! เขาย
“ฉันรับของไว้แล้ว แล้วเจอกันค่ะ!”ทั้งสองคนไปส่งเวินลี่กลับที่หน้าประตู ทว่าไม่ได้ย่างเท้าออกจากคฤหาสน์เวินลี่ทองสองหนุ่มจากกระจกมองหลัง ไม่รู้ว่าคุณหนูเย่ไปหาบอดี้การ์ดมาจากไหนอายุยังน้อย แถมยังจงรักภักดีมากทีเดียว!*ต้าฉี่ ภูเขาเหมืองฟ้าสว่างแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองทำงานกันทั้งคืนตอนนี้ บนกำแพงเมืองมีปืนใหญ่วางเรียงรายอยู่เป็นหน้าตับแน่นอนว่า ล้วนเป็นปืนใหญ่ของปลอมที่ทำกันทั้งคืน!บรรดาชาวบ้านและทหารเองก็ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดเพียงแค่ขนย้ายขึ้นไป พวกเขาก็สูญเสียพละกำลังไปมหาศาลแล้วขนย้ายทั้งคืน ชาวบ้านล้วนเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดตอนนี้ไปนอนกันหมดแล้วโจ๊กที่พ่อครัวต้มตอนเช้า ไม่มีใครกินเลยสักคนผู้ชายไม่น้อยนอนแผ่กับพื้นโดยตรงกระทั่งพวกเฉินขุยเฉินอู่ ล้อมปืนใหญ่กระบอกหนึ่งพลางขบคิดเฉินขุยค้อมตัวลงพลางมองยางรถเปล่า!“ยางรถนี่อ่อนนุ่มนิ่ม เดิมทีประคองท่อเหล็กไม่ไหวอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะชั้นตรงกลาง ยางรถก็ยุ่ยไปนานแล้ว”เฉินอู่ลูบคาง “ข้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”ทั้งสองคนมองไปที่จวงเหลียงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมจวงเหลียงหมดคำพูด มือเขาสัม
แม่ทัพเฉินขุยยกนิ้วให้ “แม่นางหยางโดดเด่นในหมู่สตรี ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก!”เฉินอู่กล่าวขึ้นอย่างเบิกบาน “แม่นางหยางคือสตรีที่อึดถึกที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา หากเจ้าเป็นบุรุษ คงได้ลงสนามรบเข่นฆ่าศัตรูกับเราสองพี่น้องแน่!”ทว่าจวงเหลียงกลับกล่าวว่า “แม่นางหยางเป็นสตรีแล้วอย่างไร นางได้เป็นแม่ทัพ ทุกเรื่องที่นางทำ ทุกพิมพ์เขียวที่วาด ล้วนต้านทานกองทัพมหึมาได้ทั้งสิ้น!”จ้านเฉิงอิ้นคิดไม่ถึงว่าหยางชิงเหอจะกล่าวคำพูดฮึกเหิมและกล้าหาญออกมาได้เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “แม่นางหยาง แม้จะบอกว่าเจ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งปี แต่เจ้าได้รับตำแหน่งแม่ทัพ...”“ข้าจะออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพ เบื้องล่างบัญชาการหนึ่งหมื่นคน เป็นเช่นไร?”หยางชิงเหอรีบปฏิเสธ “ไม่ละ ข้ายังอยากกลับบ้าน ภายในหนึ่งปีข้าจะพยายามช่วยกองทัพตระกูลจ้านอย่างสุดความสามารถ แต่ข้าไม่ต้องการตำแหน่ง”จวงเหลียงกล่าวด้วยความเสียดาย “พวกข้าเข้ารับตำแหน่งยากลำบาก แม่นางหยางทิ้งโอกาสดี ๆ เช่นนี้น่าเสียดายยิ่งนัก บางทีเจ้าอาจไม่รู้ หากเป็นแม่ทัพจะมีเบี้ยหวัด มีศักดินา...”“ศึกใหญ่ได้รับชัยชนะ ก็จะได้ตบรางวัลเป็นพวกแก้วแหวนเงินทอง...”ครั้นหยา
บางทีคนอื่นอาจคิดว่า กระถางวิเศษเป็นเพียงแค่ตำนานแต่เมื่อสุดยอดสุดยอดโรงงานถูกสร้างขึ้น ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า แจกันวิเศษไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าลือจ้านเฉิงอิ้นมีมันอยู่จริง ๆไม่เพียงแต่สามารถเสกอาหาร น้ำ และอาวุธได้เท่านั้น แต่ยังมีโรงงานขนาดมหึมาอีกด้วยใส่แร่เหล็กเข้าไปก็ได้อาวุธเหล็กกล้าออกมา!ในหกแคว้น ใครครอบครองสุดยอดโรงงาน ผู้นั้นก็มีพลังที่จะยึดครองแผ่นดิน รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวใครบ้างในหกแคว้นที่ไม่ต้องการมันแคว้นฉู่และแคว้นฉีไม่ได้ส่งทหารมา เพราะกำลังรอดูสถานการณ์ และมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการหากแคว้นใดทนต่อสิ่งล่อใจไม่ไหว ส่งทหารออกมาเมื่อนั้น แคว้นที่ป้องกันหละหลวม แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีทันทีพวกเขาไม่ใช่ไม่โลภ แต่มีสิ่งที่ได้ผลตอบแทนแน่นอนกว่ารออยู่เมื่อพวกเขาส่งทหารมาโจมตีจ้านเฉิงอิ้นในระลอกที่สอง...หลังจากที่ระลอกแรกบุกโจมตีและสูญเสียกำลังพลไปแล้ว แม้จ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจเพียงใดพวกเขาก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นสองแคว้นนี้ฉลาดที่สุดมู่ฉีซิวยุยงแคว้นเยี่ยนและม่อเป่ยให้มาโจมตีจ้านเฉิงอิ้น ก็เพราะให้ผลประโยชน์อย่างงามชุด
ความคิดที่หยางชิงเหอเสนอนั้น ฟังดูไร้สาระและน่าขันสิ้นดีขนท่อเหล็กขึ้นไปบนหลังคาแล้ววางไว้บนนั้น"บนยอดเขาก็ให้ยกท่อเหล็กขึ้นไปแล้วจัดวางให้เรียบร้อย!บนกำแพงเมืองก็เช่นกัน ถึงขนาดวางท่อเหล็กทุกสิบเมตรแล้วก็เกณฑ์คนมาจำนวนมาก เพื่อสร้างโครงสำหรับท่อเหล็กโครงนั้นก็แปลกประหลาด มีล้อไม้สองล้อ วางท่อเหล็กไว้ตรงกลางให้ปากท่อชี้ขึ้นฟ้า...นางบอกว่า หากมู่ฉีซิวเห็นเข้า เขาจะต้องถอยทัพ!เหล่าทหารที่ได้ยิน ต่างก็คิดว่าเหลวไหล!ล้อสองล้อ โครงหนึ่งอัน วางท่อเหล็ก... แล้วจะถอยทัพพวกเขารวบรวมกองกำลังจากสี่ทิศ จำนวนมากถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นนาย เพียงเพราะได้เห็นอาวุธรูปร่างประหลาดนี้!ก็จะถอยทัพ...ช่างไร้สาระสิ้นดี!แต่มั่วฝานกลับพูดว่า “ทำตามที่แม่นางหยางบอกไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น ยังไม่แน่...”“บางทีอาจเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้?”จากนั้น หยางชิงเหอก็ไม่รู้ไปได้ยินมาจากไหนว่า เย่มู่มู่จะหาประทัดมาให้จำนวนมาก“ดินปืนที่ส่งมา ให้ข้าใช้ก่อน จากนั้นถ้าเป็นไปได้ หายางเก่ามาเพิ่มด้วย...”“คืนนี้ ทหารและชาวบ้านทุกคนต้องฟังคำสั่งข้า เคลื่อนไหวตามคำสั่งข้าเท่านั้น!”จ้านเฉิงอิ้นหันไปถ
หากศัตรูทั้งเจ็ดแสนร่วมกันโจมตี กองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนาย ทหารใหม่ห้าหมื่นนาย รวมกับชาวบ้านอีกราวแปดหมื่นคน รวมเป็นหนึ่งแสนแปดหมื่นคน...อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ครั้งนี้แตกต่างจากที่ด่านเจิ้นกวน ที่นั่นยังสามารถซุ่มโจมตีได้...แต่ตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในหุบเขาหลายลูก แม้จะใช้ไฟโจมตี ก็เกรงว่าไฟจะลามไปถึงค่ายไม่สามารถซุ่มโจมตี ไม่สามารถหลบซ่อน ได้แต่เผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง...พูดตามตรง แม้มั่วฝานจะมีความมั่นใจในกองทัพตระกูลจ้านมากเพียงใด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร!ถ้ามีปืนก็คงจะดีเขาดูภาพยนตร์สงครามมาเยอะ ดูหนังยิงปืนก็มาก หากมีปืนกล อย่างเช่นเจ้า AK อะไรนั่น...ต้องชนะแน่นอนแม้ท่านเทพจะส่งท่อเหล็กมาให้ แต่ไม่มีดินปืน พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างลูกปืนใหญ่ได้เมื่อคิดเช่นนี้ มั่วฝานก็หยิบบัตรประจำตัวประชาชนออกมา“เฮ้อ ถ้าแพ้ ข้าก็ยังสามารถหนีไปโลกของท่านเทพผ่านแจกันได้...”“พวกเจ้าต่างออกไป พวกเจ้าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แม้จะหนีไปยังโลกของท่านเทพ ก็คงถูกจับในฐานะคนไร้บ้าน!”“อ้อ ใช่ โลกของท่านเทพมีกฎหมายคนไร้บ้าน ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถขึ้นรถ ไม่สามารถซ