วันนี้ผู้อาวุโสมู่พาลูกศิษย์มาด้วยสองคน ยังดูวัยรุ่นกันอยู่ผู้อาวุโสมู่เห็นเย่มู่มู่ผมฟู อยู่ในชุดนอน ดูยังไม่ตื่นเต็มตา “ผมมาเช้าไปหน่อย เมื่อคืนคุณนอนดึกเหรอครับ?”เย่มู่มู่หาวหวอด “ฉันนอนดึกไปหน่อย ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ” ยากที่จะเห็นผู้อาวุโสมู่แต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ กวาดตามองสวนของบ้านเย่มู่มู่ มันเต็มไปด้วยวัชพืช กุหลาบไม่ได้ลิดกิ่ง อดบ่นเหมือนคนแก่ไม่ได้ “ทำไมไม่ดูแลสวนเลย ดูสิต้นหญ้าสูงกว่าดอกไม้หมดแล้ว”“ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลยค่ะ”เธอเชิญผู้อาวุโสมู่เข้ามาในห้องรับแขก จากนั้นก็เดินขึ้นชั้นบนเพื่อหยิบจานกระเบื้องลงมาชั้นล่าง ผู้อาวุโสมู่และลูกศิษย์ทั้งสองกำลังนั่งยอง ๆ อยู่หน้าแจกัน เพื่อศึกษาผู้อาวุโสมู่ถือแว่นขยายอยู่ด้วยเย่มู่มู่แอบพึมพำ “ซวยแล้ว ลืมซ่อนแจกันจนได้”เธอยกจานกระเบื้องลงมาที่ชั้นหนึ่ง ผู้อาวุโสมู่ถามว่า “คุณจะขายแจกันใบนี้ไหมครับ?”เย่มู่มู่ตอบ “ไม่ขายค่ะ มันเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ฉันจะไม่ขายมันเด็ดขาด”ผู้อาวุโสมู่มองเธอด้วยรอยยิ้มเหมือนไม่ยิ้มไม่ขายมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษอะไรกัน แต่ของโบราณหลายชิ้นที่เธอขายยังวางอยู่ที่บ้านเขา ช
เย่มู่มู่ดีใจมากสังหารทหารเผ่าหมานห้าหมื่นนายภายในวันเดียว เช่นนั้นสามแสนนาย ยังเกินเอื้อมอยู่หรือ?“ท่านเทพ ครั้งนี้สามารถชนะได้ เพราะวัตถุระเบิดที่ท่านมอบให้ ทว่าศึกครั้งที่สองนี้ใช้วัตถุระเบิดเกือบหมด ท่านช่วยส่งมาเพิ่มอีกหน่อยเถิด ข้าจะไม่ใช้ให้สูญเปล่า” “มั่วฝานขอมอบเครื่องประดับหนึ่งกล่อง แลกกับวัตถุระเบิดของท่าน” กล่องไม้แกะสลักและเคลือบเงาสีแดงขนาดใหญ่ใบหนึ่งปรากฏตรงหน้าเย่มู่มู่กล่องขนาดใหญ่กว่าสามกล่องเล็กที่อยู่ในลังใหญ่ที่ได้รับเมื่อวานนี้เธอรีบเปิดมันด้วยความตื่นเต้น ภายในกล่องมีเครื่องประดับหลากหลายชนิด ทั้งทองและหยก...มีชุดเครื่องกระเบื้องเคลือบลายหงส์ครบชุดด้วยจานมีสามใบ ว่างไปหนึ่งช่อง นั่นคือจานใบที่ผู้อาวุโสมู่ซื้อไปแล้ว ชามเล็กสี่ใบ ตะเกียบทองสลักลายสี่คู่ ช้อนทองสองคัน และชามทะเลทองสองใบปิ่นระย้าประดับหงส์คาบหยกหนึ่งอัน กำไลทองประดับอัญมณีหนึ่งคู่ สร้อยคอทองคำประดับทับทิมและอัญมณีสีส้มแดงหนึ่งเส้น...มีอีกมากมาย ล้วนวางเป็นระเบียบเรียบร้อยสมบัติแต่ละชิ้นในกล่องนี้ล้วนถูกสลักด้วยคำว่าของขวัญพระราชทานในราชวงศ์เครื่องประดับบางชิ้นที่สลักลายหงส์
“เกรงใจยิ่งนัก...”“มั่วฝานถามว่า รองเท้าหนึ่งร้อยคู่จะมาถึงเมื่อไร เขายังต้องการแท็บเล็ตและลูกอมจำนวนหนึ่งขอรับ!”รัฐทายาทน้อยเพิ่งมอบเครื่องประดับและภาชนะทองคำหนึ่งกล่องให้เธอเมื่อเช้านี้เองเป็นบุรุษที่ฟุ่มเฟือยเสียจริงคำขอเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา เธอย่อมตบปากรับคำเย่มู่มู่ตอบว่า “ได้สิ รองเท้า แท็บเล็ต ลูกอม จัดส่งภายในครึ่งชั่วโมง”เธอขับรถไปที่ถนนสายอิเล็กทรอนิกส์จอดรถริมถนน ลงจากรถแล้วตรงไปที่ร้านค้าออฟฟิเชียลสัญลักษณ์ผลไม้ ซื้อแท็บเล็ตสองเครื่องไปร้านออฟฟิเชียลสัญลักษณ์ดอกไม้ ซื้อแท็บเล็ตสิบเครื่อง โทรศัพท์มือถือสิบเครื่อง...ซื้อพาวเวอร์แบงค์สองหมื่นมิลลิแอมป์จำนวนยี่สิบเครื่องเนื่องจากยอดซื้อขั้นสูง ร้านค้าออฟฟิเชียลจึงแถมพัดลมพกพาห้าตัวพัดลมถือติดตัวได้ วางบนโต๊ะได้ ลมแรง และสามารถอยู่ได้นานเจ็ดชั่วโมงเมื่อชาร์จเต็มแล้วด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งหนัก อากาศร้อนอบอ้าว พัดลมจะช่วยระบายความร้อนได้เธอโบกมือสบาย ๆ ซื้อพัดลมเพิ่มอีกสิบห้าตัวซื้อไฟฉายแบบชาร์จไฟได้ยี่สิบอันซื้อเครื่องโกนหนวดแบบชาร์จไฟได้ยี่สิบเครื่องพนักงานเห็นว่าเธอใช้เงินมือเติบ ทำยอดซื้อระดับสูง
หลัวเก๋อผู้นำทัพเผ่าหมาน ไม่ปรากฏตัวในสงครามครั้งถัดไป ตามที่เฉินอู่พูดว่า เขาถูกระเบิดตายไปแล้วหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจนอนไม่ได้สติ ประการใดก็ดีต่อกองทัพตระกูลจ้านทั้งนั้นว้าว...แท็บเล็ตหลายเครื่อง พาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จ โซลาร์ชาร์จเจอร์ แผงไฟโซลาร์เซลล์ พัดลมพกพา เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า โคมไฟสั่งการด้วยเสียง พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่นับสิบ...ทั้งหมดร่วงหล่นลงบนโต๊ะสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือแท็บเล็ตหลายเครื่องที่ถูกห่อแยกไว้จ้านเฉิงอิ้นเปิดหน้าจอ และเปิดบันทึกความจำ บันทึกความจำเขียนว่า “ข้าซื้อแท็บเล็ตสิบสองเครื่อง โทรศัพท์มือถือสิบเครื่อง โทรศัพท์มือถือก็เหมือนกับแท็บเล็ต แต่พกพาสะดวกกว่า”“แท็บเล็ตได้ดาวน์โหลดความรู้ทางทหารสมัยใหม่เอาไว้ สามารถเปิดการส่งข้อมูลผ่านบลูทูท เพื่อถ่ายโอนไปยังแท็บเล็ตเครื่องอื่น ๆ ”“วิธีเปิดใช้บลูทูทถ่ายโอนข้อมูล มีวิดีโอสอนอยู่”“มีแท็บเล็ตสัญลักษณ์ผลไม้เครื่องหนึ่ง มอบให้มั่วฝาน ได้ดาวน์โหลดหมากรุกหลายแบบ หมากล้อม หมากรุกห้าเม็ด... เพื่อเล่นฆ่าเวลาในยามว่างได้”“แผงไฟโซลาร์เซลล์ให้ติดตั้งไว้บนหอประตูเมืองและถนน แผงไฟโซลาร์เซลล์ค
สายลมเย็นลอยมากระทบร่างกายของทุกคนทุกคนนั่งยอง ๆ อยู่หน้าพัดลมตั้งพื้นอย่างสงสัย อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงจนทำตัวไม่ถูก “สิ่งนี้ล้ำสมัยเหนือธรรมชาติมาก!”“แค่ใช้แสงอาทิตย์ขับเคลื่อนก็ได้แล้ว สรุปว่าหลักการของมันคืออะไรกันแน่?”“นั่นสิ อาชากินอาหารถึงวิ่งได้ แต่เจ้าสิ่งที่เรียกพัดลมนี้ แค่โดนแสงแดดใบพัดก็หมุนได้เองแล้ว ไม่เคยได้ยินเรื่องแปลกเช่นนี้มาก่อนเลย!” “สิ่งของจากโลกของท่านเทพ น่าประหลาดใจเช่นนี้เอง”“เย็นสบายมาก ฮ่า ๆ ข้าไม่ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะร้อนอีกแล้ว” มั่วฝานกล่าวกับจ้านเฉิงอิ้น “เครื่องนี้ของท่าน ข้าจะเอาเครื่องของตัวเองกลับ” จากพัดลมตั้งพื้นหลายตัว เขาเลือกตัวที่ดูสมบูรณ์ที่สุด ยัดมันใส่มือของกุนซือจวงเหลียง“เลือกสิ เราทุกคนนำกลับไปติดตั้งที่จวน”เฉินขุยเห็นเขาทำท่าทางเห็นแก่ตัว จึงแกะพัดลมตั้งพื้นของตัวเอง สั่งให้ผู้ช่วยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาหอประตูเมืองภายในห้อง พัดลมตั้งพื้นสองตัวที่ด้านหน้าและด้านหลัง กระจายลมทั่วทิศทางทุกคนได้รับการดูแลทั่วถึง เย็นสบายกันหมดสิ่งที่ท่านเทพส่งมาให้ครั้งนี้ ช่างใส่ใจมาก ล้วนจำเป็นต่อพวกเขาทั้งสิ้นไม
คนกลุ่มหนึ่งมาถึงลานหลังจวนเหล่าหญิงปักผ้าสิบกว่าคนต่อหนึ่งกลุ่ม กำลังตัดเย็บเสื้อผ้าในลานกว้างไม่มีเก้าอี้ ทั้งหมดจึงนั่งกับพื้น ก้มหน้าก้มตาเร่งตัดเย็บเสื้อผ้าฮูหยินเฉินพาพวกเขาไปที่ห้องโกดังปลอดคน“ท่านแม่ทัพ ห้องเก็บผ้า ได้ทำความสะอาดเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”ห้องขนาดใหญ่มาก เมื่อก่อนพ่อค้าผู้มั่งคั่งเคยใช้เก็บสินค้า“ห้องนี้ก็เพียงพอแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นยื่นมือไปทางเถียนฉินที่อยู่ด้านหลัง รับแท็บเล็ตแล้วมอบให้ฮูหยินเฉินฮูหยินเฉินไม่รู้ว่าเหตุใด ท่านแม่ทัพจึงยื่นกระดานเล็กแผ่นหนึ่งให้นาง เฉินขุยรีบขยิบตาส่งสัญญาณให้ฮูหยินทันที นี่เป็นของดีที่ท่านเทพประทานให้ ได้รับโดยไม่ต้องร้องขอ!ฮูหยินเฉินรีบรับมันมา “ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ข้าจะสอนเจ้าเปิดหน้าจอและปลดล็อก”เมื่อหน้าจอของกระดานดำแผ่นเล็กสว่างขึ้น นางก็เป็นอันต้องสะดุ้งตกใจ ภายในโกดังอันมืดมิด ความสว่างของแท็บเล็ตเครื่องเล็ก สว่างกว่าเชิงเทียนขนาดเล็กเสียอีก“เจ้าสิ่งนี้ น่าอัศจรรย์จริง ๆ ”จ้านเฉิงอิ้นสอนนางตั้งรหัสผ่าน และบันทึกลายนิ้วมือจากนั้นสอนให้นางเปิดวิดีโอเมื่อฮูหยินเฉินดูวิดีโอด
เมื่อส่งของเสร็จแล้ว เธอก็ไปซื้อขนมที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกครั้งมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ ล่าเถียว ปลาเผ็ดปรุงรส ตีนไก่ดองพริก ถั่ว ขนมปังกรอบ ลูกอมรสนมกระต่ายขาว...อมยิ้ม ช็อกโกแลต วุ้นแช่เย็น ขนมบุกหม่าล่า...เธอซื้อเต็มรถเข็นสามคันรวดพนักงานของซูเปอร์มาร์เก็ตช่วยยกของใส่ท้ายกระบะให้เธอ ยังมีรองเท้าหนึ่งร้อยคู่ที่มั่วฝานอยากได้เธอเดินเข้าร้านค้าออฟฟิเชียลร้านหนึ่ง ซื้อรองเท้าผู้ชายหกสิบคู่ โดยเลือกรองเท้าที่มีลวดลายสีสันมากที่สุด ราคาแพงที่สุดซื้อรองเท้าผู้หญิงสี่สิบคู่ โดยเลือกรองเท้าผ้าใบสวมใส่สบาย สีขาว...ซื้อถุงเท้าคละสีสองร้อยคู่เนื่องจากเย่มู่มู่ซื้อสินค้าจำนวนมาก พนักงานจึงยิ้มไม่หุบผู้จัดการร้านแถมถุงเท้าผู้หญิงหนึ่งร้อยคู่ ชุดกีฬาหนึ่งเซต กระเป๋าสะพายไหล่หนึ่งใบ กระเป๋าสะพายหลังหนึ่งใบ และรองเท้าแตะฤดูร้อนสองคู่...รถกระบะได้บรรทุกเต็มอัตราอีกครั้งเธอขับรถไปยังสถานที่ปลอดคน ทำการถ่ายโอนของในรถ เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมด เจ้าของโรงงานรองเท้าผ้าโทรหาเธอ แจ้งว่าสินค้ามาถึงเมืองของเธอแล้วสายเรียกเข้าจากโรงงานเหล็กแผ่นกันกระสุนเพิ่งดัง รถบรรทุกของพวกเขาก็ขับ
เฉินขุยพูดไม่ทันจบบท ขนมและลูกกวาดก็ร่วงลงมารอบแจกันอีกมากมาย...ปริมาณและความหลากหลายมีมากกว่าที่ให้เด็ก ๆ เมื่อวานหางตาของเฉินขุยยังมีคราบน้ำตา ริมฝีปากกล่าวขอบคุณต่อท่านเทพมือเปิดเป็ดรมควันห่อหนึ่งและหักขาเป็ดลิ้มรสชาติโดยไม่ให้เสียเวลาจู่ ๆ รูม่านตาของเขาก็ขยายกว้าง โห อร่อยมากจริง ๆ!เขาหักขาเป็ดอีกข้างหนึ่งให้ฮูหยินทีแรกฮูหยินไม่ยอมกิน แต่เฉินขุยยัดใส่ที่มือนางนางใช้แขนเสื้อปิดปากแล้วชิมคำหนึ่งรสชาติเข้มข้น หมักด้วยเครื่องเทศหลายชนิดอร่อยมาก!เป็นรสอร่อยที่พ่อครัวหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่ก็ไม่สามารถทำได้!อาหารมาก่อน เฉินขุยยัดเป็ดรมควันสองห่อให้ฮูหยินโดยไม่สนใจว่าจ้านเฉิงอิ้นยังอยู่ ตีนไก่ไร้กระดูกหนึ่งห่อ ไข่นกกระทาหนึ่งห่อเมื่อเห็นว่าเขากระทำการเหิมเกริม ฮูหยินรีบกล่าวห้ามแต่จ้านเฉิงอิ้นกลับพูด “ยังมีอีกมาก ให้เด็ก ๆ กินเถอะ!”เฉินขุยตะคอกฮึ่ม “ท่านเทพมอบทั้งหมดนี้ให้มั่วฝาน เมื่อวานมั่วฝานเอาลูกอมไปแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้พวกเราเอากลับสองสามห่อ ถือว่าเท่าเทียมกัน”หลังจากพูดจบ เฉินขุยหยิบเนื้อแดดเดียว หมูแผ่น ถั่วธัญพืชอีกสองสามห่อ...ให้ฮูหยินอ้อมอกของฮูหยิ
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้
อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ
ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ
นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ